ปฏิญญาค่าแค้น 265 เจรจา (1)

Now you are reading ปฏิญญาค่าแค้น Chapter 265 เจรจา (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลิน​หลัน​ตื่นนอน​แต่เช้า​ตรู่​ใน​วันรุ่งขึ้น​ ​แต่​มี​คน​ตื่น​เช้า​ยิ่งกว่า​นาง​ ​นั่น​ก็​คือ​ผู้ดูแล​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​ ​ซึ่ง​มาถ​่าย​ทอด​คำพูด​ของ​นายท่าน​ใหญ่​เยี​่ย​ที่ว่า​…​หาก​ต้องการ​กำลัง​สนับสนุน​ ​เขา​จะ​รีบ​มาทัน​ที

เยี​่ย​เต​๋อฮ​๋วย​เป็น​คน​หนึ่ง​ที่​ชาญฉลาด​เช่นกัน​ ​เขา​คาดการณ์​ไว้​แต่แรก​แล้ว​ว่า​เมื่อ​พ้น​เจ็ด​วัน​แรก​ ​นายท่าน​ใหญ่​ตระกูล​หลี​่​ก็​คง​อด​รน​ทนไม่ไหว​อีกต่อไป​ ​ลูกไม้​ที่นา​งอ​วี​๋​ใช้​เมื่อ​ช่วง​ก่อนหน้า​ ​ด้วย​การ​คิด​จะ​ทำลาย​ชื่อเสียง​ของ​หลิน​หลัน​เหล่านั้น​ทำให้​เขา​เดือดดาล​แทบ​แย่​ ​เยี​่ย​เต​๋อฮ​๋วย​ให้ท้าย​บุตรหลาน​ของ​ตนเอง​เป็น​ที่สุด​ ​หาก​มี​คน​รังแก​หลาน​สะใภ้​เขา​ ​หาก​เขา​ยอม​ปล่อยไป​โดยง่าย​ก็​ไม่ใช่​คน​แซ่​เยี​่​ยอี​กต​่อ​ไป​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​นาง​หวัง​เกลี้ยกล่อม​ไว้​ ​เขา​คง​อาละวาด​ไป​นาน​แล้ว​ ​เขา​เกรง​ว่า​หลิน​หลัน​จะ​เกรงใจ​ไม่​จึง​ไม่​อยาก​รบกวน​ผู้​เป็น​ลุง​อย่าง​เขา​ ​ดังนั้น​จึง​ตั้งใจ​ส่ง​คน​มาบ​อก​กล่าว​เป็นการ​เฉพาะ

หลิน​หลัน​ให้​ผู้ดูแล​บ้าน​กลับ​ไป​บอกกล่าว​ท่าน​ลุง​ว่า​ ​เรื่อง​นี้​นาง​ยัง​พอ​จัดการ​ด้วย​ตนเอง​ได้​ ​ขอบพระคุณ​ความปรารถนาดี​ของ​ท่าน​ลุง​อย่างยิ่ง​ ​หลัง​ผ่านพ้น​สถานการณ์​ใน​ระยะนี้​ ​ตลอดจน​ได้​สังเกต​อาสาม​ ​ตัว​หลิน​หลัน​คิด​ว่า​ ​ยัง​พอ​มี​ความมั่นใจ​เกือบ​เต็มเปี่ยม​ ​ทว่า​หาก​ตระกูล​เยี​่ย​แทรกแซง​เข้ามา​ ​จะ​กลายเป็น​ข้ออ้าง​ให้​ลุง​ใหญ่​หยิบ​เอา​มา​พูดเสีย​ๆ​ ​หาย​ๆ​ ​ได้

ปรากฏ​ว่า​เป็นไป​อย่างที่​คาดการณ์​ไว้​ ​ยัง​ไม่ทัน​รับประทาน​มื้อ​เช้า​เสร็จสิ้น​ ​หลี​่​จิ้ง​อี้​ก็​ส่ง​คน​มาบ​อก​กล่าว​ ​โดย​เอ่ย​ว่า​ให้​ทุกคน​ไป​ยัง​โถง​รับแขก​ส่วนหน้า​ ​เพราะ​มีเรื่อง​ต้องการ​พูดคุย​ด้วย

“​พี่​หลัน​เอ๋อร​์​ ​ซาน​เอ๋อร​์​ต้องการ​ไป​ด้วย​ขอรับ​”​ ​ซาน​เอ๋อร​์​ขยี้​ดวงตา​ที่​กำลัง​งัวเงีย​ ​และ​ค่อยๆ​ ​เขยิบ​เท้า​ไป​ยืน​ข้าง​กาย​พี่สาว

หลิน​หลัน​เห็น​เขา​ยัง​สะลึมสะลือ​อยู่​เลย​ ​ก็​กล่าวว่า​ต้องการ​ไปร​่ว​มวง​ด้วย​เสีย​แล้ว​ ​นาง​จึง​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​นุ่มนวล​ ​“​ซาน​เอ๋อร​์​เด็กดี​ ​พวก​ผู้ใหญ่​จะ​พูดคุย​เรื่อง​ทางการ​กัน​น่ะ​!​ ​เด็ก​ๆ​ ​ไป​ด้วย​มิได้​หรอก​”

ดวง​หน้า​น้อย​ๆ​ ​ของ​ซาน​เอ๋อร​์​เงย​ขึ้น​ ​สีหน้า​แสดงให้เห็น​ถึง​ความกังวล​ ​“​ซาน​เอ๋อร​์​เกรง​ว่า​คนชั่ว​นั่น​จะ​รังแก​พี่สาว​อีก​ขอรับ​”

หลิน​หลัน​เผย​รอยยิ้ม​อ่อนหวาน​ ​และ​บีบ​จมูก​เล็ก​ๆ​ ​ของ​ซาน​เอ๋อร​์​อย่างเบามือ​ ​ตอนนี้​นาง​ถึง​รับรู้​ได้เสีย​ที​ว่า​เหตุใด​หมิง​อวิน​ถึง​ชอบ​บีบ​จมูก​ของ​นาง​และ​ลูบ​ใบหน้า​ของ​นาง​อยู่​เรื่อย​ ​เพราะ​ยาม​ที่นาง​เอง​เผชิญหน้า​กับ​ซาน​เอ๋อร​์​ ​ก็​มักจะ​เกิด​แรง​ปลุกปั่น​ให้​ทำ​เช่นนี้​อยู่​บ่อยๆ​ ​เช่นกัน

“​ซาน​เอ๋อร​์​วางใจ​ได้​ ​ใคร​หน้า​ไหน​ก็​รังแก​พี่​ไม่ได้​ทั้งนั้น​ ​พี่​มี​ความสามารถ​มากมาย​ ​เจ้า​ดู​นี่​…​”

หลิน​หลัน​ดึง​ปิ่น​ที่​เสียบ​อยู่​บน​ผม​ ​เพียง​สะบัด​ข้อมือ​เดียว​ ​ปิ่นปักผม​ก็​พุ่ง​ออก​ไป​ประดุจ​คันศร​ ​ผู้คน​ต่าง​รู้สึก​เพียง​ชั่วพริบตา​เดียว​เท่านั้น​ ​ก็ได้​ยิน​เสียงดัง​ ​‘​ปึก​’​ ​จากนั้น​ผู้คน​ต่าง​เร่งรีบ​ไป​ตามหา​ปิ่นปักผม​ด้าม​นั้น

หลิน​หลัน​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​อยู่​ด้านหลัง​ชั้นวางของ​น่ะ​!​”

จิ​่น​ซิ่ว​เดิน​อ้อม​ชั้น​วาง​สิ่งของ​ไป​ ​จากนั้น​เสียงร้อง​ตระหนกตกใจ​ก็​ดัง​ขึ้น​มา​ ​“​ปิ่น​ปัก​อยู่​บน​ตู้เสื้อผ้า​เจ้าค่ะ​”

ตอนแรก​ที่อยู่​ใน​อาคาร​หนังสือ​ ​นาย​หญิง​สะใภ้​รอง​สะบัด​มือ​เพียง​ครั้ง​เดียว​ก็​ตรึง​งูพิษ​ไว้​บน​เสา​ ​และ​ตรึง​งู​ตัว​ยาว​ซึ่ง​พบเห็น​ได้​ยาก​ไว้​ได้​อีกด้วย​ ​ทักษะ​นี้​ ​หยิน​หลิ่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​เคย​เห็น​มาก​่อน​ ​ทว่า​ครั้งนี้​ดูเหมือน​นาย​หญิง​สะใภ้​รอง​สะบัด​มือ​อย่าง​ไม่ได้​ใส่ใจ​เลย​สักนิด​ ​ทว่า​ปิ่น​นั่น​กลับ​รอด​ทะลุ​ชั้น​วาง​สิ่งของ​ซึ่ง​เป็น​เพียง​ช่องแคบ​ๆ​ ​ระหว่าง​งาน​แกะสลัก​ที่​งดงาม​ ​แล้ว​พุ่ง​ไป​ปัก​บน​ตู้​ซึ่ง​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​กว่า​สี่​เมตร​อย่างแม่นยำ​ ​ทักษะ​นี้​ ​ทำให้​ทุกคน​จ้องมอง​และ​อ้าปากค้าง​ด้วย​ความ​ตกตะลึง

ซาน​เอ๋อร​์​ตะลึงงัน​อยู่​ชั่วขณะหนึ่ง​ ​ความรู้สึก​สะลึมสะลือ​หาย​ไป​เป็นปลิดทิ้ง​ ​จากนั้น​กล่าว​ด้วย​ความนับถือ​ผสม​ความประหลาดใจ​ ​“​พี่​หลัน​เอ๋อร​์​ ​ท่าน​ช่าง​ยอดเยี่ยม​เกินไป​แล้ว​ ​ครั้งก่อน​ซาน​เอ๋อร​์​ดู​พี่​จ้าว​ยิง​ธนู​ ​เขา​เรียก​ตนเอง​ว่านั​กยิง​แม่น​เสมือน​จับ​วาง​ ​ปรากฏ​ว่า​สิบ​ดอก​ธนู​ ​มี​เพียง​เก้า​ดอก​ที่​เข้าใจ​กลาง​สีแดง​ ​ท่าน​พี่​ ​ท่าน​เก่งกาจ​เสีย​ยิ่งกว่า​พี่​จ้าว​อีก​ขอรับ​”

หลิน​หลัน​ยิ้ม​เจื่อน​ ​เมื่อ​ครู่​นาง​ก็​แค่นึก​สนุก​ขึ้น​มาชั​่ว​ครู่​ ​เลย​แสดง​ให้​ซาน​เอ๋อร​์​ดูก​็​เท่านั้น​ ​เพื่อ​จะ​ได้​ทำให้​เจ้า​เด็กน้อย​ยี่​ไม่ต้อง​วิ่ง​ตาม​นาง​ไป​เหมือน​ครั้งก่อน​ ​หลิน​หลัน​จึง​ส่งเสียง​กระแอม​สองครั​้ง​และ​กล่าว​ ​“​ซาน​เอ๋อร​์​ ​พี่​จ้าว​ของ​เจ้า​ยิง​เข้าใจ​กลาง​สีแดง​ได้​ถึง​เก้า​ดอก​ก็​ถือว่า​ยอดเยี่ยม​มาก​แล้ว​”

“​ซาน​เอ๋อร​์​ยัง​คิด​ว่า​ท่าน​พี่​เก่งกาจ​กว่า​อยู่ดี​ ​ไม่ได้​การละ​ ​ซาน​เอ๋อร​์​ต้อง​เรียนรู้​ทักษะ​นี้​บ้าง​แล้ว​ ​ท่าน​พี่​ ​ซาน​เอ๋อร​์​ต้องการ​ให้ท่าน​เป็น​อาจารย์​ของ​ซาน​เอ๋อร​์​”​ ​ซาน​เอ๋อร​์​กระตือรือร้น​เสีย​ยิ่ง​อะไร​ดี​ ​แม้​มารดา​เขา​มัก​คุยโว​ว่า​ท่าน​พ่อ​เขา​เก่งกาจ​อย่างไร​ ​แต่​เขา​ไม่เคย​เห็น​มาก​่อน​ ​เมื่อ​พี่​หลัน​เอ๋อร​์​เผย​ทักษะ​นี้​ออกมา​ ​จึง​สร้าง​ความ​ตะลึง​ให้​เขา​สุดขีด

“​ได้​สิ​ ​หาก​ซาน​เอ๋อร​์​เชื่อฟัง​ ​พี่​ก็​จะ​สอน​เจ้า​”​ ​หลิน​หลัน​ให้​คำมั่นสัญญา​ ​ซาน​เอ๋อร​์​เจ้า​เด็กน้อย​จ้ำม่ำ​ควร​ออกกำลังกาย​เสียหน่อย​ ​จะ​ได้​ลดน้ำหนัก​ลง​บ้าง

ซาน​เอ๋อร​์​พยักหน้า​อย่างจริงจัง​ทันทีที่​ได้ยิน​ว่า​พี่สาว​จะ​ช่วย​สอน​เขา​ ​มี​หรือ​จะ​ยัง​ไม่​ยินยอม​ตกลง​ ​“​ซาน​เอ๋อร​์​รับประกัน​ว่า​จะ​เชื่อฟัง​คำพูด​ของ​ท่าน​พี่​ ​ท่าน​พี่​ให้​ซาน​เอ๋อร​์​ทำ​อย่างไร​ ​ซาน​เอ๋อร​์​ก็​จะ​ทำ​เช่นนั้น​แน่นอน​ขอรับ​”

เมื่อ​จัดการ​ซาน​เอ๋อร​์​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ ​หลิน​หลัน​และ​แม่​โจว​ต่าง​มองหน้า​กัน​และ​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา​ ​จากนั้น​พยักหน้า​อย่าง​รู้กัน​โดยปริยาย

ครั้งนี้​ ​หลิน​หลัน​พา​หยิน​หลิ่ว​และ​จ้าวจั​วอี​้​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​โถง​รับแขก​ส่วนหน้า​ด้วยกัน

ภายใน​โถง​รับแขก​ส่วนหน้า​ ​หลี​่​จิ้ง​อี้​นั่ง​อยู่​บน​ที่นั่ง​หลัก​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​โดย​มีนา​งอ​วี​๋​นั่ง​ถัด​ลงมา​ใน​ที่นั่ง​แรก​ซ้ายมือ​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​เช่นกัน​ ​หลี่หมิง​เจ๋อ​และ​หลี่หมิง​จู​ยืน​คอย​อยู่​อย่างว่า​ง่าย​ ​เพราะ​ลุง​ใหญ่​ไม่ได้​บอก​ให้​นั่งลง​ ​ส่วน​อาสา​มห​ลี่​จิ้ง​เห​ริน​และ​บุตรชาย​ทั้งสอง​ยัง​มา​ไม่​ถึง

หลิน​หลัน​เดิน​เข้าไป​อย่าง​สง่าผ่าเผย​ ​จากนั้น​คารวะ​ให้​ลุง​ใหญ่​และ​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​ ​แล้ว​กล่าว​อย่าง​อ่อนน้อม​ ​“​ไม่ทราบ​ว่า​ลุง​ใหญ่​เรียก​ทุกคน​มา​พร้อมเพรียงกัน​ ​ต้องการ​พูดคุย​เรื่อง​อัน​ใด​หรือ​เจ้า​คะ​”

ขณะนี้​หลี​่​จิ้ง​อี้​จับจ้อง​ไป​ยัง​บุรุษ​ร่าง​กำยำ​มาด​ขึงขัง​ซึ่ง​อยู่​ด้านหลัง​ของ​ภรรยา​หมิง​อวิน​ผู้​นั้น​ ​ดวงตา​กลม​โตรั​บกับ​คิ้ว​เข้ม​ ​แสง​นัยน์ตา​ฉาย​ความ​ดุดัน​เย็นชา​ให้​เห็น​ ​ทำให้​เขา​หวาดหวั่น​โดยไม่รู้ตัว​ ​ทว่า​ ​ไม่ทัน​ไร​เขา​ก็​กลับคืน​สู่​สภาวะ​สงบนิ่ง​ ​บุรุษ​หนุ่ม​ผู้​นี้​ต่อให้​ดุดัน​เพียงใด​ ​ก็​เป็น​แค่​ข้า​รับใช้​ผู้​หนึ่ง​ ​แล้ว​จะ​กล้า​ลง​ไม้​ลงมือ​กับ​เขา​เช่นนั้น​หรือ​ ​ครั้งก่อน​เสียท่า​ให้​ไอ้​เด็ก​พิเรน​ทร​์​นั่น​ ​เขา​ไม่​อาจ​คิดเล็กคิดน้อย​ได้​ ​และ​ไม่กล้า​คิดเล็กคิดน้อย​ด้วย​เช่นกัน​ ​ใคร​จะ​รู้​ว่า​เด็ก​พิเรน​ทร​์​นั่น​มี​ภูมิหลัง​ที่​ไม่ธรรมดา​ถึง​เพียงนั้น​ ​ต่อให้​เขา​อาจหาญ​มากมาย​เพียงใด​ ​เขา​ก็​ไม่กล้า​พอ​อยู่ดี​ ​หลัง​หลี​่​จิ้ง​อี้​ดึง​สีหน้า​กลับ​ ​ไม่​หยิ่งผยอง​ได้​อีกครั้ง​ ​จึง​ตวัด​สายตา​เรียบ​เฉย​จับจ้อง​ไป​ที่​ศีรษะ​หลิน​หลัน​ ​วางมาด​อย่าง​ผู้อาวุโส​ ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​และ​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​“​อีก​เดี๋ยว​เจ้า​ก็​รู้​เอง​”

หลิน​หลัน​เผย​รอยยิ้ม​มุม​ปาก​ ​จากนั้น​ยืดตัว​ตรง​เดิน​ไป​ถึงที่​นั่ง​ถัดจาก​นาง​อวี​๋​แล้ว​หย่อน​ตัว​ลง​นั้น​ ​และ​ยัง​กล่าว​ต่อ​หลี่หมิง​เจ๋อ​อีกด้วย​ ​“​พี่ใหญ่​กับ​หมิง​จูมัว​ยืน​อยู่​ทำไม​หรือ​ ​รีบ​นั่งลง​เถอะ​เจ้าค่ะ​!​”

หลี​่​จิ้ง​อี้​ชักสีหน้า​บึ้งตึง​ ​และ​ส่งเสียง​สบถ​ฮึด​้วย​ความไม่พอใจ​ ​แต่กลับ​ไม่​เอ่ยปาก​ตำหนิ​ ​ถึงอย่างไร​น้อง​สาม​ก็​ยัง​ไม่​มา​ ​และ​สิ่ง​ที่​ต้อง​จัดการ​วันนี้​เป็นเรื่อง​สำคัญ​ใหญ่หลวง​ ​จึง​ไม่จำเป็น​ต้อง​ทะเลาะ​กับ​สะใภ้​ของ​หมิง​อวิ​นขึ​้​นมา​ด้วย​เรื่องเล็ก​น้อย​เช่นนี้

หลี่หมิง​เจ๋อ​มองดู​สีหน้า​ของ​ลุง​ใหญ่​ ​แล้วจึง​มอง​ไป​ยัง​ท่าที​ของ​น้อง​สะใภ้​ซึ่ง​เต็มไปด้วย​ความ​ไม่แยแส​และ​ไม่​สะทกสะท้าน​ ​จึง​เดิน​ไป​หย่อน​ตัว​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ตัว​ที่สอง​ทาง​ด้าน​ซ้าย​เช่นกัน

เมื่อ​พี่ชาย​หย่อน​ตัว​ลงนั่ง​แล้ว​ ​แน่นอน​ว่า​หมิง​จู​ก็​ไม่​ขอ​ยืน​อีกต่อไป​เช่นกัน​ ​โดย​นั่ง​เว้น​กับ​ที่นั่ง​หลิน​หลัน​ไป​หนึ่ง​ตำแหน่ง​ ​สายตา​หลุบ​มอง​ล่าง​ตลอดเวลา​ ​ไม่​สื่อสาร​ใดๆ​ ​กับ​หลิน​หลัน​ทั้งสิ้น

สีหน้า​ของ​หลี​่​จิ้ง​อี​จึง​บึ้งตึง​หนัก​เข้าไป​ใหญ่​ ​นาง​อวี​๋​ส่งสายตา​ให้​เขา​ ​แสดง​ความหมาย​ให้​เขา​ใจเย็น​ๆ​ ​เข้า​ไว้

หลัง​เวลา​ผ่าน​ไป​พักใหญ่​ ​หลี​่​จิ้ง​เห​ริน​เดิน​เข้ามา​โดย​มีบุ​ตร​ชาย​ทั้งสอง​คอย​ประครอง​แขน​ ​หลี​่​จิ้ง​เห​ริน​ทักทาย​พี่ชาย​และ​พี่สะใภ้​อย่าง​เป็นกันเอง​ ​ขณะที่​หลิน​หลัน​และ​คนอื่นๆ​ ​ซึ่ง​เป็น​เด็ก​รุ่นหลัง​ ​พากั​นลุก​ขึ้น​ยืน​และ​คารวะ​ให้​เขา

“​ทุกคน​นั่งลง​เถอะ​!​”​ ​น้ำเสียง​ของ​หลี​่​จิ้ง​เห​ริน​ยังคง​แหบ​พร่า​ ​ด้วย​ระยะนี้​ร้องไห้​มากเกินไป

หลี​่​จิ้ง​อี้​รู้สึก​ไม่​พึงพอใจ​ ​น้อง​สาม​ต้อง​ให้​ความ​เกรงอกเกรงใจ​พวกเขา​ถึง​เพียงนี้​ไป​ทำไม​กัน

แม่​จู้​ ​ชุ่ย​จือ​และ​ชุน​ซิ่ง​ตามหลัง​มาติด​ๆ​ ​เช่นกัน​ ​หลิน​หลัน​ให้​แม่​จู้​นั่งลง​ ​ทว่า​แม่​จู้​กล้า​นั่งลง​เสียที​่​ไหน​กัน​ล่ะ​ ​นาง​เป็น​ข้าทาส​ ​ใน​ห้อง​นี้​ล้วน​เป็น​นาย​ ​หาก​ทำ​เช่นนั้น​จะ​ไม่​ทำให้​กฎระเบียบ​เละเทะ​ไป​หมด​หรือ

หลี​่​จิ้ง​เห​ริน​กล่าว​ ​“​แม่​จู้​ ​ท่าน​ปรนนิบัติ​เหล่า​ไท่​ไท​มานาน​หลาย​ปี​เพียงนี้​ ​ก็​ถือว่า​เป็น​ผู้สร้าง​คุณประโยชน์​ใหญ่หลวง​ของ​ตระกูล​หลี​่​พวกเรา​เช่นกัน​ ​นั่งลง​เถิด​ ​มิ​เป็นไร​หรอก​”

แม่​จู้​ถึง​ยินยอม​นั่งลง​ ​โดย​มี​ชุ่ย​จือ​และ​ชุน​ซิ่ง​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​นาง

หลี​่​จิ้ง​อี้​กวาดสายตา​มอง​โดยรอบ​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​ก่อน​กล่าว​ขึ้น​มา​อย่างใจ​เย็น​ ​“​ในเมื่อ​มาค​รบ​ถ้วน​กัน​แล้ว​ ​พวกเรา​ก็​เริ่ม​เลย​แล้วกัน​!​”

หลี​่​จิ้ง​เห​ริน​ส่งเสียง​ไอ​สอง​สาม​ครั้ง​อย่าง​ไม่รู้​จัก​เวล​่ำ​เวลา​อัน​เหมาะสม​ ​หลี​่​จิ้ง​อี้​จึง​ชำเลือง​มอง​น้อง​สาม​อย่าง​อดกลั้น

หลี​่​จิ้ง​เห​ริน​ก้ม​ศีรษะ​ลง​เล็กน้อย​ ​ในเมื่อ​เขา​เป็น​วัณโรค​ปอด​ ​อาการไอ​นี้​จึง​ไม่ใช่​อะไร​ที่จะ​ควบคุม​ด้วย​ตนเอง​ได้

“​พิธีศพ​ของ​เหล่า​ไท่​ไท​ล่วงเลย​เจ็ด​วัน​แรก​แล้ว​ ​ข้า​คิด​ว่า​หลัง​ผ่านพ้น​สามสิบ​เจ็ด​วัน​ ​ก็​จะ​นำ​ดวงวิญญาณ​กลับบ้าน​เกิด​ ​ครั้งก่อน​ ​ข้า​ได้​ปรึกษาหารือ​กับ​หมิง​เจ๋อ​และ​ภรรยา​หมิง​อวิน​ไว้​แล้ว​ ​พวกเรา​จะ​จัด​พิธีศพ​อย่าง​ใหญ่โต​ให้​เหล่า​ไท่​ไท​ ​ตอนนี้​พวกเรา​จึง​ต้อง​มาป​รึก​ษา​หารือ​กับ​เรื่อง​ค่าใช้จ่าย​ที่​จำเป็น​ทั้งหมด​สำหรับ​พิธีศพ​นี้​”​หลี​่​จิ้ง​อี้​กล่าว

หลิน​หลัน​เข้าใจ​กลยุทธ์​ของ​ลุง​ใหญ่​ได้​ในทันที​ ​เอ่ย​ค่าใช้จ่าย​จัด​พิธีศพ​ขึ้น​มาก​่อน​ ​จากนั้น​ค่อย​ชักนำ​เข้าสู่​เรื่อง​สมบัติ​ ​นาง​จึง​ตั้งใจ​ว่า​จะ​อดทน​รับฟัง​ไป​ก่อน

หลี​่​จิ้ง​เห​ริน​ส่งเสียง​ไอ​สองครั​้ง​ ​แล้ว​กล่าว​ ​“​นี่​เป็นเรื่อง​ที่​สมควร​ ​พี่ใหญ่​มี​ความนึกคิด​เช่นไร​เพียงแค่​กล่าว​อย่างตรงไปตรงมา​ก็​พอ​ ​ตราบใดที่​เป็นการ​ดี​ต่อ​เหล่า​ไท่​ไท​ ​ข้า​ล้วน​ไม่​คัค​ค้าน​ทั้งนั้น​”

เวลานี้​เอง​ ​หลี​่​จิ้ง​อี้​ถึง​ได้​สุขใจ​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​นับว่า​น้อง​สาม​ให้ความร่วมมือ​อย่างดี​เยี่ยม​ทีเดียว

ยาม​ที่​หลี่หมิง​เจ๋อ​จะ​มาที​่​นี่​ใน​วันนี้​ ​หลั​้ว​เหยี​ยน​กำชับ​เขา​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ว่า​ ​ทุกอย่าง​ให้​ดำเนิน​ไป​ตาม​ความประสงค์​ของ​น้อง​สะใภ้​ ​ดังนั้น​ ​เขา​จึง​ไม่​เอ่ยปาก​ใดๆ​ ​โดยง่าย

หลี​่​จิ้ง​อี้​ปรับเปลี่ยน​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​ใน​ก่อนหน้านี้​ ​หันมา​เผย​แววตา​ซึ่ง​เต็มไปด้วย​ความรู้สึก​เศร้าโศก​ ​“​น้อง​รอง​เป็นความ​หวัง​และ​ที่พึ่ง​พา​ของ​ตระกูล​หลี​่​พวกเรา​มาโดยตลอด​ ​พวกเรา​ตระกูล​หลี​่​ต่าง​ก็​ภาคภูมิใจ​ใน​ตัว​น้อง​รอง​ ​แม้แต่​คนใน​หมู่บ้าน​ก็​เอ่ยถึง​น้อง​รอง​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​เช่นกัน​ ​คาดไม่ถึง​เลย​ว่า​ ​ที่​ประสบความสำเร็จ​ได้​ก็​เพราะ​น้อง​รอง​ ​ที่​พังพินาศ​ก็​เพราะ​น้อง​รอง​ ​น้อง​รอง​ทำ​อัน​ใด​ไว้​บ้าง​ ​ข้า​ขอ​ไม่​กล่าวถึง​ ​ต่อให้​ข้า​ได้รับ​ผลกระทบ​ได้​ด้วย​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ก็​ไม่​เกรงกลัว​ ​ทว่า​…​น้อง​รอง​ทำให้​เหล่า​ไท่​ไท​ล้ม​ป่วย​ไป​ด้วย​ ​จนกระทั่ง​จากกัน​ไป​ในท้ายที่สุด​ ​มัน​ช่าง​เจ็บปวด​ใจ​ยิ่งนัก​…​”​ ​หลี​่​จิ้ง​อี้​กะพริบตา​ปริบๆ​ ​ขณะ​กล่าว​ ​เพื่อ​ผลักดัน​หยาดน้ำ​ตา​อันน้อย​นิด​ไหลริน​ออกมา

“​พี่ใหญ่​ ​น้อง​รอง​ก็​ไม่​อยาก​ให้​เป็น​เช่นนี้​เช่นกัน​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​คงได้​แต่​โทษ​อิทธิพล​ของ​สภาพแวดล้อม​ภายนอก​ ​ที่​ชักนำ​ให้​ผู้คน​ก่อเรื่อง​ไม่​คาดคิด​”​ ​เมื่อ​นึกถึง​มารดา​ขึ้น​มา​หลี​่​จิ้ง​เห​ริน​ก็​เศร้าโศก​เช่นกัน

หลิน​หลัน​นึก​ตำหนิ​ ​แสดงละคร​อย่างเป็นจริงเป็นจัง​เพียงนี้​ ​คง​คิด​จะ​ให้​นาง​ออก​เงิน​มาก​ๆ​ ​หน่อย​สินะ

“​เมื่อยา​มอยู​่​ที่​บ้านเกิด​ ​เหล่า​ไท่​ไท​สุขภาพ​ร่างกาย​แข็งแรง​เสีย​ยิ่ง​อะไร​ดี​ ​หมอดู​ยัง​กล่าว​ไว้​ว่า​เหล่า​ไท่​ไท​จะ​มีชีวิต​อยู่​ถึง​แปดสิบ​แปด​ปี​ ​ไม่​คาดคิด​เลย​ว่า​ ​พอ​มา​อยู่​เมืองหลวง​ได้​ไม่​เท่าใด​ ​ก็​ถูก​คน​เขา​ทำให้​โกรธ​เกรี้ยว​จน​ลม​ป่วยหนัก​…​”​ ​นาง​อวี​๋​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​เศร้าสลด

“​เห็นได้ชัด​ว่า​หมอดู​ผู้​นี้​เป็น​คน​หลอกลวง​ผู้​หนึ่ง​เท่านั้น​”​ ​หมิง​จู​พึมพำ​เสียง​บางเบา

นาว​อวี​๋​ดัน​หูดี​ได้ยิน​เข้า​ ​จึง​กล่าว​ตะคอก​ทั้ง​น้ำตา​ ​“​ใคร​บอก​กว่า​หมอดู​โจว​ที่​ตาบอด​เป็น​คน​หลอกลวง​หรือ​ ​คน​เขา​ถ่าย​ถอด​คำพูด​จาก​สรวง​สรรค์​โดยตรง​ ​ทำนาย​ครั้งหนึ่ง​ต้อง​จ่าย​สอง​ตำลึง​เงิน​เชียว​นะ​!​”

โชคดี​ที่นา​งอ​วี​๋​ไม่ได้​กล่าว​ออก​ไป​ว่า​ทำนาย​ครั้งหนึ่ง​ต้อง​จ่าย​ทองพันชั่ง​ ​มิเช่นนั้น​หลิน​หลัน​คงได้​หลุด​หัวเราะ​เป็นแน่​ ​สามีภรรยา​คู่​นี้​จะ​น่า​เวท​น่า​เกินไป​แล้ว​หรือไม่​ ​แม้กระทั่ง​หมอดู​ตาบอด​ก็​ยัง​ต้อง​หยิบยก​ออกมา​ด้วย

หมิง​จู​กลายเป็น​คน​เงียบขรึม​ ​ตั้งแต่​ประสบ​พบ​เจอ​การเปลี่ยนแปลง​ ​แทบจะ​ไร้​ตัวตน​ก็​ว่า​ได้​ ​ทว่า​นิสัยใจคอ​ยังคง​ไม่​เลือนหาย​ ​ครั้ง​แต่​รู้​จุดประสงค์​การ​มา​ของ​ลุง​ใหญ่​จาก​ปาก​พี่ชาย​ ​จึง​เป็นธรรมดา​ที่นาง​จะ​โกรธเคือง​ผู้​เป็น​ลุง​และ​มอง​เป็น​ศัตรู​ผู้​หนึ่ง​ ​ก็​เสมือน​ที่​รู้สึก​ต่อ​หลิน​หลัน​ใน​ตอนแรก​ ​โดย​การ​เข้าใจ​ไป​แล้ว​ว่าการ​กลับมา​บ้าน​ตระกูล​หลี​่​ของ​หลิน​หลัน​กับ​พี่​รอง​มี​จุดมุ่งหมาย​อยู่​ด้วย​ ​ก็​เลย​ตั้ง​ตน​เป็น​อริ​ต่อ​พวกเขา​ ​แม้​ตอนนี้​นาง​สำนึก​ได้​ว่า​ตนเอง​ผิดพลาด​ไป​แล้ว​ ​ทว่า​ ​ครั้งนี้​ ​นาง​มั่นใจ​ว่า​ตนเอง​จะ​ไม่ผิด​พลาด​อีก​เป็นแน่​ ​ลุง​ใหญ่​มาถึง​ที่​ก็​เพื่อ​เงิน​ ​เพื่อ​แย่งชิง​สมบัติ​ของ​ท่าน​ย่า​ ​คน​ผิด​ต้อง​เป็น​ท่าน​ลุง​ใหญ่​อย่างแน่นอน​ ​ดังนั้น​ ​นาง​จึง​อด​หลุดปาก​เย้ยหยัน​ไม่ได้

“​ในเมื่อ​หมอดู​โจว​ที่​ตาบอด​นั่น​ทำนาย​แม่นยำ​เพียงนั้น​ ​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​ก็​ควร​ช่วย​ถามไถ่​หมอดู​โจว​ที่​ตาบอด​ผู้​นั้น​ก่อนที่​ท่าน​ย่า​จะ​มา​เมืองหลวง​ว่า​ ​การ​เดินทาง​มาค​รั้ง​นี้​ของ​ท่าน​ย่า​จะ​ได้​สุขสบาย​หรือ​ได้​เผชิญ​หายนะ​กัน​แน่​ ​ถึง​จะ​ถูก​นะ​เจ้า​คะ​”

หลิน​หลัน​แอบ​รำพึงรำพัน​ใน​ใจ​ ​นิสัย​ของ​หมิง​จูนี​่​นะ​ ​เหตุใด​ถึง​โผงผาง​ได้​เพียงนี้​!

หลี่หมิง​เจ๋อ​อด​จ้องเขม็ง​ใส่​หมิง​จู​ไม่ได้​ ​อุตส่าห์​กำชับ​นาง​ไว้​แต่แรก​แล้ว​เชียว​ว่า​ ​อย่า​เที่ยว​เอ่ยปาก​พูด​สุ่มสี่สุ่มห้า​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่เชื่อฟัง​กัน​เลย

นาง​อวี​๋​โกรธ​เกรี้ยว​จน​หน้า​เขียวปั​๊ด​ ​เดิมที​วันนี้​ก็​ต้องการ​เอาเรื่อง​หมิง​จู​อยู่​พอดี​ ​ยาม​นี้​หมิง​จูดัน​เป็น​ฝ่าย​รน​หาเรื่อง​เอง​ ​เช่นนั้น​นาง​ก็​ไม่​ขอ​เกรงใจ​แล้ว​เช่นกัน​ ​นาง​จึง​ชักสีหน้า​บูดบึ้ง​ขณะ​กล่าว​ออก​ไป​ ​“​หมิง​จู​ ​เจ้า​ช่วย​ปากพล่อย​ใน​ที่​แห่ง​นี้​ให้​มัน​น้อย​ๆ​ ​หน่อย​ ​เรื่อง​ของ​เจ้าที่​ก่อ​ไว้​ ​ข้า​ยัง​ไม่ได้​คิดบัญชี​กับ​เจ้า​เลย​!​”

หมิง​จู​ถูก​พี่ชาย​ถลึงตา​ใส่​ ​จึง​ทำได้​เพียง​สงบปากสงบคำ​อย่าง​จำใจ​ ​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​จะ​พูด​อัน​ใด​ ​นาง​ล้วน​ทำหูทวนลม​ใส่

นาง​อวี​๋​ไม่ได้​รู้​ถึง​การ​เปลี่ยนไป​ของ​หมิง​จู​ ​ทว่า​นาง​อวี​๋​รู้จัก​นิสัย​ของ​หมิง​จู​ ​นาง​เป็น​คนที​่​วู่วาม​ ​นิดๆ​ ​หน่อย​ๆ​ ​ก็​อาละวาด​ได้​ ​เดิม​คิด​ว่า​หมิง​จู​จะ​ต่อปากต่อคำ​ขึ้น​มา​ ​คาดไม่ถึง​ว่า​หมิง​จู​กลับ​ไม่​ตอบโต้​แม้แต่​นิดเดียว

หลี​่​จิ้ง​อี้​ยัง​ไม่ทัน​กล่าว​จบสิ้น​ ​ดัน​ถูก​นาง​อวี​๋​ก่อกวน​ขึ้น​มา​เช่นนี้​เสีย​แล้ว​!​ ​ความนึกคิด​ของ​เขา​เริ่ม​เกิด​ความวุ่นวาย​สับสน​เล็กน้อย​ ​จึง​อด​จ้อง​นาง​เขม็ง​ไม่ได้​ ​นี่​ไม่ได้​จะ​ทำให้​เรื่องราว​มัน​เละ​ตุ้ม​เปะ​ไป​กัน​ใหญ่​หรือ​ ​ทั้งที่​คุย​กัน​ไว้​ดิบดี​แล้ว​แท้ๆ​ ​ว่า​ให้​ค่อยเป็นค่อยไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด