สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหนเล่มที่ 10 300 ความอ่อนโยนและความรักอย่างบ้าคลั่งของผู้ใด

Now you are reading สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน Chapter เล่มที่ 10 300 ความอ่อนโยนและความรักอย่างบ้าคลั่งของผู้ใด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อกลับมาถึงจวนโยวอ๋อง เยี่ยโยวเหยาจัดแจงให้ซูอวี้อยู่ในเรือน จากนั้นก็ดึงตัวซูจิ่นซีเข้าไปในตำหนักฝูอวิ๋น เขาโยนนางไปบนแท่นนอนในตำหนักฝูอวิ๋นอย่างรุนแรง

ซูจิ่นซีตกใจกลัวเล็กน้อย นางรีบพูดอธิบายว่า “เยี่ยโยวเหยา ท่าน… ท่านฟังหม่อมฉันอธิบายก่อน สาเหตุที่หม่อมฉันไปตำบลผูหลิว ก็เพราะว่า… ”

เพราะว่าอะไร?

ซูจิ่นซียังไม่ทันพูดจนจบ เยี่ยโยวเหยาก็กดตัวนางไว้แน่น พลางใช้ริมฝีปากของเขาปิดปากนาง

หากเวลานี้ซูจิ่นซีมีไหวพริบสักหน่อย นางคงมองออกว่าเยี่ยโยวเหยากำลังปกปิดความหวาดกลัวไว้ในดวงตาของตนเอง

เขาหวาดกลัวอันใด?

โยวอ๋องที่เพียงผู้คนในแคว้นจงหนิงได้ยินชื่อก็ต่างอกสั่นขวัญแขวนด้วยความเกรงกลัว บนโลกใบนี้ยังมีเรื่องอันใดที่ทำให้เขาหวาดกลัวอีกหรือ?

เขากลัวว่า ซูจิ่นซีจะพูดความจริงเรื่องการช่วยเหลือฮองเฮากับหลวงจีนทุศีลหรือ?

เขากลัวซูจิ่นซีจะพูดความจริงต่อหน้าเขา เรื่องที่นางกำลังสืบหาสถานะที่แท้จริงของตนเองหรือ?

ความจริงเป็นเช่นไรกันแน่? สถานะที่แท้จริงของนางเป็นเช่นไร? เหตุใดเยี่ยโยวเหยาต้องหวาดกลัวเช่นนี้?

ซูจิ่นซีผู้ซึ่งไม่รู้อะไรเลย เบิกตากว้าง ผ่านไปครู่ใหญ่ เมื่อเยี่ยโยวเหยาผละริมฝีปากออกจากนาง นางจึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เยี่ยโยวเหยา… ”

เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้ว จับคางของซูจิ่นซีและพูดว่า “ซูจิ่นซี เจ้าไม่เห็นข้ากับแคว้นจงหนิงอยู่ในสายตา หัวใจของเจ้าใหญ่ถึงเพียงนี้ บรรจุสิ่งใดไว้บ้าง?

ซูจิ่นซีตกตะลึงเล็กน้อย นางคิดว่าเสียงของเยี่ยโยวเหยาที่เรียกนางว่า ‘จิ่นซี’ ตอนอยู่ที่ค่ายกลเทวะแปดลักขณานั้น เพราะเยี่ยโยวเหยาไม่ได้เข้าใจนางผิดในเรื่องนี้แล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าเขายังจำได้ และไม่ยอมปล่อยวาง

“เยี่ยโยวเหยา หม่อมฉัน… ในตอนนั้นหม่อมฉัน… ”

ซูจิ่นซีกำลังจะอธิบาย เยี่ยโยวเหยาก็จุมพิตนางอีกครั้ง

เยี่ยโยวเหยาไม่ได้จุมพิตซูจิ่นซีอย่างดุดันเช่นนี้นานมากแล้ว ครั้งนี้ทั้งขุ่นเคือง ดุดัน และแสดงความเป็นเจ้าของ ซูจิ่นซีรับรู้ได้ถึงความโกรธเคืองของเยี่ยโยวเหยา การจุมพิตที่ไม่ทันได้ตั้งตัวราวกับลมพายุทำให้ซูจิ่นซีรับมือไม่ทัน การจุมพิตอย่างดูดดื่มทำให้ความคิดของนางว่างเปล่า

ผ่านไปครู่ใหญ่ ซูจิ่นซีจึงมีการตอบสนอง นางรู้สึกถึงความซาบซ่าน จึงหลับตายกสองมือโอบลำคอของเยี่ยโยวเหยา และเริ่มจุมพิตเยี่ยโยวเหยาอย่างตั้งใจและอ่อนโยน ราวกับว่าใช้ความอ่อนโยนของนาง คลายความขุ่นเคืองในใจของเยี่ยโยวเหยา

ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ ความรักที่ต้องการครอบงำของเขา ถูกสัมผัสด้วยความรักและความอ่อนโยนของนาง

ทว่าท้ายที่สุด ซูจิ่นซีต้องยอมแพ้ต่อความรุนแรงของเยี่ยโยวเหยา นางถูกจุมพิตจนตัวสั่นเทาและหายใจลำบาก สุดท้ายก็ทนไม่ไหว จึงก้มหน้าผลักเยี่ยโยวเหยาเบาๆ

“ซูจิ่นซี” เยี่ยโยวเหยารั้งใบหน้าที่แดงก่ำของซูจิ่นซีอย่างแผ่วเบา เขามองใบหน้าที่เขินอายมีเสน่ห์ของนาง “ข้าต้องการให้เจ้า… ”

ทำอย่างไรหรือ?

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเยี่ยโยวเหยาก็ไม่ได้พูดออกมา ซูจิ่นซีรอฟังคำพูดของเยี่ยโยวเหยาอยู่นาน นางเงยหน้ามองเยี่ยโยวเหยาด้วยแววตาดั่งปีกผีเสื้อ

แม้เยี่ยโยวเหยาจะไม่พูดอันใด ทว่าซูจิ่นซีก็รู้คำตอบจากแววตาของเขา แก้มทั้งสองพลันร้อนผ่าว นางรีบก้มหน้าลงทันที

“กลับไปเถิด! ”

บนศีรษะมีเสียงเย็นชาของเยี่ยโยวเหยาดังขึ้น

เมื่อซูจิ่นซีเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เยี่ยโยวเหยาก็ลุกขึ้นเดินไปยังห้องอาบน้ำแล้ว

เยี่ยโยวเหยาต้องการอาบน้ำหรือ?

ในความคิดของซูจิ่นซีพลันจดจำถึงความน่าอึดอัดเมื่อครั้งที่นางเคย ‘ปรนนิบัติ’ เยี่ยโยวเหยาอาบน้ำ ดังนั้นนางจึงรีบลุกขึ้นเดินหนีออกไปจากตำหนักฝูอวิ๋นอย่างรวดเร็ว

ทว่าเมื่อเดินมาถึงประตู ไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจของซูจิ่นซีจึงปรากฏความว่างเปล่า นางหันหลังไปมองด้านในตำหนักฝูอวิ๋น กลับเห็นเพียงผ้าม่านผืนยาวด้านในห้องกำลังโบกสะบัด แต่ไม่เห็นเยี่ยโยวเหยาแล้ว

ผ่านไปครู่ใหญ่ ซูจิ่นซีจึงหันหลังเดินออกจากเรือนชิงโยว

ก่อนหน้านี้ที่กลับมาถึงจวนโยวอ๋อง เยี่ยโยวเหยาพาซูอวี้มาไว้ในเรือน แม้เยี่ยโยวเหยาไม่ได้บอกให้คนในจวนดูแลเขา ทว่าพ่อบ้านเป็นผู้ที่ทำอันใดรอบคอบ จึงได้จัดเตรียมสถานที่พักให้ซูอวี้เรียบร้อยแล้ว ซูจิ่นซีต้องการไปหาซูอวี้ เพื่อหาวิธีกำจัดพิษเผ่าเหมียว

ส่วนพิษของเยี่ยโยวเหยา…

ระบบถอนพิษได้วิเคราะห์และบอกวิธีการรักษาไว้เรียบร้อยแล้ว ทว่าในตอนนี้นางยังขาดสมุนไพรบางตัว

ในตำหนักฝูอวิ๋น เมื่อซูจิ่นซีเดินออกไปแล้ว เยี่ยโยวเหยาก็ก้าวออกมาจากด้านหลังผ้าม่านผืนยาว

เขามองซูจิ่นซีเดินลับสายตาไป ในแววตาปรากฏความรู้สึกสับสนและซับซ้อน

ครู่หนึ่ง เขาก็ยื่นมือซ้ายออกมาอย่างเชื่องช้า ก่อนหน้านี้ ที่ใจกลางฝ่ามือซ้ายมีเพียงรอยสีดำขนาดเท่าเมล็ดถั่ว ทว่าเวลานี้มันได้ลุกลามจนมีขนาดใหญ่กว่าก่อนหน้านี้ถึงสามสี่เท่า

ครั้งก่อนตอนอยู่ที่ศาลาร่มเย็นในเรือนชิงโยว เยี่ยโยวเหยารู้ว่าซูจิ่นซีตั้งใจตรวจสอบกลางฝ่ามือของเขาโดยเฉพาะ จึงได้ใช้หนังมนุษย์ปกปิดรอยไว้ ในตอนนั้นซูจิ่นซีจึงไม่พบอันใด

ทว่าผลสะท้อนกลับของหมุดกร่อนรักยิ่งรุนแรงขึ้นทุกวัน รอยสีดำใจกลางฝ่ามือลุกลามรวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าอีกไม่นานนักคงปรากฏเป็นรอยสีดำทั่วทั้งฝ่ามือ เขาไม่สามารถปกปิดซูจิ่นซีได้อีกแล้ว

หลังจากที่ซูจิ่นซีพบซูอวี้ ก็กำชับให้พ่อบ้านไปเตรียมรถม้าหนึ่งคัน นางตั้งใจจะพาซูอวี้กลับจวนสกุลซู

พ่อบ้านได้ส่งคนไปแจ้งข่าวให้คนในจวนสกุลซูแล้ว ฮูหยินปี้กับแม่นมเจิ้งจึงมายืนรอที่ประตูตั้งแต่เช้า

“อวี้เอ๋อร์! ”

ตั้งแต่ซูอวี้หายตัวไป ฮูหยินปี้ก็ร้อนใจมาโดยตลอด เวลานี้ยิ่งเห็นซูอวี้ได้รับบาดเจ็บกลับมา ก็ยิ่งเจ็บปวดจนใจแทบสลาย นางรีบสั่งให้คนเข้าไปประคองซูอวี้

“ฮูหยินปี้ ตามข้าไปที่หอโอสถ” หลังจัดแจงที่พักให้ซูอวี้เรียบร้อยแล้ว ซูจิ่นซีจึงกล่าวกับฮูหยินปี้

ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ซูจิ่นซีใช้น้ำยาที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ทำลายประตูเหล็กนิลกล้าของหอโอสถสกุลซู ประตูนั้นก็ได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่อีกครั้ง แม่กุญแจและลูกกุญแจล้วนทำขึ้นใหม่เช่นกัน ฮูหยินปี้เคยมอบกุญแจให้ซูจิ่นซีหนึ่งดอก ทว่าซูจิ่นซีไม่ได้นำติดตัวมาด้วย เวลานี้มีเพียงฮูหยินปี้กับซูอวี้เท่านั้นที่มีกุญแจ

“พระชายาโปรดรอสักครู่ หม่อมฉันจะไปเอากุญแจมาเดี๋ยวนี้เพคะ”

ฮูหยินปี้พูดพลางรีบเดินเข้าไปในเรือนเพื่อหยิบกุญแจ ผ่านไปครู่ใหญ่ก็เดินกลับมา และมุ่งหน้าไปที่หอโอสถพร้อมกับซูจิ่นซี

ซูจิ่นซีจำได้ว่า ครั้งก่อนตอนมาที่หอโอสถ นางเห็นคัมภีร์ยาและคัมภีร์แพทย์จำนวนไม่น้อยอยู่ด้านในหอโอสถ มีหลายเล่มที่บันทึกเกี่ยวกับพิษเผ่าเหมียวของแคว้นไหวเจียง ซูจิ่นซีต้องการดูสักหน่อย ไม่แน่ว่าอาจพบวิธีถอนพิษเผ่าเหมียวในตัวของซูอวี้

อีกเหตุผลหนึ่งคือ ภายในหอโอสถได้เก็บสมุนไพรล้ำค่าจำนวนมาก สมุนไพรหลายตัวที่จำเป็นต่อการถอนพิษของเยี่ยโยวเหยา ล้วนอยู่ที่หอโอสถนี้เช่นกัน

หลังจากที่เดินเข้าไปด้านในหอโอสถแล้ว ซูจิ่นซีก็หยิบสมุนไพรและคัมภีร์แพทย์ออกมา

นางเขียนเทียบยาขึ้นมาชุดหนึ่ง และมอบสมุนไพรให้กับองครักษ์ สั่งให้องครักษ์นำกลับไปส่งที่จวนโยวอ๋องเพื่อมอบให้แม่นมฮวา ให้แม่นมฮวาจัดสมุนไพรตามเทียบยา ต้มให้เยี่ยโยวเหยาดื่ม ส่วนซูจิ่นซีก็หยิบคัมภีร์แพทย์ไปที่เรือนฮั่นเซียงและอ่านทั้งวันทั้งคืน นอกจากนี้ยังสั่งให้คนไปที่จวนอวิ๋นเพื่อเชิญอวิ๋นจิ่น

คนที่จวนอวิ๋นบอกว่า หมอหลวงอวิ๋นกลับไปที่สำนัก ยังไม่กลับมา

ยังไม่กลับมา?

เหตุใดเขาถึงไปนานเช่นนี้?

ซูจิ่นซีขมวดคิ้ว เดิมทีนางคิดจะหารือกับอวิ๋นจิ่นเกี่ยวกับพิษของซูอวี้ วิชาแพทย์ของอวิ๋นจิ่นร้ายกาจนัก ไม่แน่ว่าเขาอาจจะมีวิธีรักษา กลับคิดไม่ถึงว่าอวิ๋นจิ่นยังไม่กลับมา ดูแล้วตอนนี้นางคงต้องลงมือทำด้วยตนเอง

แม่นมเจิ้งเห็นซูจิ่นซีอ่านคัมภีร์แพทย์กับคัมภีร์ยาด้วยท่าทีครุ่นคิด นางต้องการพูดอันใดบางอย่าง ทว่ายังคงลังเลไม่กล้าพูด

ซูจิ่นซีเห็นท่าทางของแม่นมเจิ้งจึงถามว่า “แม่นมเจิ้ง เจ้าต้องการพูดอันใด ก็พูดมาเถิด! ”

เมื่อซูจิ่นซีอนุญาตให้พูด แม่นมเจิ้งจึงไม่ลังเลอีก นางพูดว่า “พระชายา สองวันก่อนตอนที่บ่าวติดตามฮูหยินปี้ไปที่หอโอสถ บ่าวเห็นคุณชายจิ่วของสำนักแพทย์เทียนอีเหมินนั่งวินิจฉัยอาการป่วย วิชาแพทย์ของคุณชายจิ่วเก่งกาจอัศจรรย์ ไร้ผู้ใดเปรียบ มิสู้ท่านไปเชิญคุณชายจิ่วมาดูอาการของคุณชายน้อยอวี้ดีหรือไม่? ”

จิ่วหรง?

ใช่แล้ว!

จิ่วหรงร้ายกาจถึงเพียงนั้น ซูจิ่นซีลืมเขาไปเสียสนิท

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *