สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหนเล่มที่ 21 618 กิเลนปรากฏ หงส์ขับขาน ดอกปี่อั้นเบ่งบาน

Now you are reading สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน Chapter เล่มที่ 21 618 กิเลนปรากฏ หงส์ขับขาน ดอกปี่อั้นเบ่งบาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผ่านไปไม่นาน ซูจิ่นซีและซูอวี้ก็หายาสมุนไพรได้ครบถ้วน ขณะที่ซูจิ่นซีและซูอวี้กำลังจะออกจากเขตเวทมนตร์ ทันใดนั้น ตงหลิงหวงและเป่ยถางเย่ก็ปรากฏตัวขึ้น และขัดขวางซูจิ่นซีไว้

“แม่นางซู ครอบครองยาสมุนไพรทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว คงไม่ดีกระมัง? ” เป่ยถางเย่ยกยิ้มพลางพูดแผ่วเบา

“พระชายาโยวอ๋อง ท่านเก็บยาสมุนไพรทั้งหมดได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ข้าและท่านอ๋องน้อยเย่ยังไม่ทันเก็บแม้แต่น้อย นี่นับเป็นความพ่ายแพ้ที่อัปยศเกินไปกระมัง? แม้ก่อนหน้านี้พวกเราทั้งสองจะเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ทว่ามิตรภาพก็ส่วนมิตรภาพ การแข่งขันก็คือการแข่งขัน ท่านอย่าได้ถือสาข้าเลย! ”

นางพูดพลางคลี่พัดที่อยู่ในมือดัง ‘พรึบ’ ดาบรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนบนพัดพลันปรากฏต่อสายตาทุกคน แสงสว่างที่สาดส่องลงมาก สะท้อนกลับจนเกิดเป็นประกายระยิบระยับ

ตงหลิงหวงคิดจะร่วมมือกับเป่ยถางเย่ เพื่อต่อสู้กับซูจิ่นซีและซูอวี้

สมุนไพรทั้งหมดถูกรวบรวมไว้อย่างดีในถุงผ้าทึบแสงที่ซูจิ่นซีถือไว้ ดวงตาของซูจิ่นซีเปล่งประกายเย็นชา นางยื่นถุงผ้าให้ซูอวี้ และปกป้องซูอวี้ไว้ด้านหลัง

“อวี้เอ๋อร์ อย่าลืมสิ่งที่พี่บอกเจ้าก่อนหน้านี้”

ซูจิ่นซีพูดพลางยื่นมือขวาไปข้างหน้า ทันใดนั้น ในมือของนางก็ปรากฏกระบี่จื๋ออิ่งที่เปล่งประกายสีขาวหิมะ ซึ่งมันถูกเรียกออกมาจากอาคมกำไลปี่อั้น

ผู้คนที่อยู่ด้านนอกเขตเวทมนตร์ ล้วนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้านในเขตเวทมนตร์

เวลานี้ ทุกคนต่างตกตะลึงกับแสงสีขาวดั่งหิมะจนไม่อาจลืมตาได้ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งจึงมองได้ชัดเจนว่าในมือของซูจิ่นซีคือสิ่งใด

“กระบี่จื๋ออิ่ง… ”

“คาดไม่ถึงว่าจะเป็นกระบี่จื๋ออิ่ง ตำนานกล่าวไว้ว่า กระบี่จื๋ออิ่งสามารถสังหารสัตว์เทพได้ทุกตัวในใต้หล้า”

“ไม่คิดว่ากระบี่จื๋ออิ่งจะตกอยู่ในมือของพระชายาโยวอ๋อง นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ ”

“ใช่ ไม่น่าเชื่อ กระบี่จื๋ออิ่งเป็นของวิเศษในตำนานที่ถูกเล่าขานกันมากว่าพันปี กระบี่จื๋ออิ่งเป็นสมบัติวิเศษของเทพธิดาเผ่าเม้ย ทว่าในสงครามระหว่างจอมมารกับจอมเทพ นางถูกจอมมารโจมตี กระบี่จื๋ออิ่งจึงตกลงไปยังทะเลตงไห่ ก่อนจะหายสาบสูญและหาไม่พบอีกเลย เหตุใดตอนนี้ กระบี่จื๋ออิ่งจึงอยู่ในมือของพระชายาโยวอ๋องได้? ”

“ใช่ ได้ยินมาว่า หากไม่มีพลังภายในที่แข็งแกร่ง ก็ไม่อาจควบคุมกระบี่จื๋ออิ่งได้ นอกจากนั้น ยังอาจถูกพลังที่แก่กล้าของกระบี่จื๋ออิ่งทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ”

“ทว่า พวกเจ้าดูสิ ดูเหมือนพระชายาโยวอ๋องจะครอบครองกระบี่จื๋ออิ่งได้แล้ว! ”

“นี่มันเกิดอันใดขึ้น? ได้ยินว่าพระชายาโยวอ๋องไม่เป็นวรยุทธ์”

ด้านนอกเขตเวทมนตร์ ผู้คนต่างถกเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ใบหน้าของพวกเขาแสดงออกอย่างเหลือเชื่อ

ด้านในเขตเวทมนตร์ ตงหลิงหวงและเป่ยถางเย่ต่างประหลาดใจ

แววตาของเป่ยถางเย่ปรากฏความผิดปกติ

“ท่านเป็นผู้ใดกันแน่? ”

ซูจิ่นซียกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ซูจิ่นซี พระชายาโยวอ๋องแห่งแคว้นจงหนิง! เมื่อครู่รัชทายาทแคว้นตงเฉินได้แนะนำชื่อของข้าแล้วมิใช่หรือ? ”

เป่ยถางเย่มีสีหน้าเคร่งขรึม “ที่ข้าถามไม่ใช่เรื่องนี้ นอกจากพระชายาโยวอ๋องแล้ว คงมีสถานะอื่นอีก ในเมื่อพวกเราอยู่ในการแข่งขัน ข้าคิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องรู้ว่าคู่ต่อสู้ของตนคือผู้ใด”

แคว้นเป่ยอี้มีความใกล้ชิดกับเผ่าเทพมากที่สุด ดังนั้นเป่ยถางเย่จึงจับสัมผัสของวิเศษโบราณได้มากกว่าคนปกติทั่วไป

ซูจิ่นซียังคงแย้มยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะประกาศอีกหนึ่งฐานะที่ถูกปกปิดมาเป็นเวลานาน

“บุตรสาวของคุณหนูสามแห่งสำนักแพทย์สกุลจง แคว้นหนานหลี… จง… จิ่น… ซี… ”

“อ๋า… บุตรสาวของจงซีจือ คุณหนูสามแห่งสำนักแพทย์หรือ? ”

“นึกไม่ถึงว่านางจะเป็นบุตรสาวของจงซีจือ จงซีจือคุณหนูสามแห่งสำนักแพทย์สกุลจง นางหายสาบสูญไปนานแล้วมิใช่หรือ? ที่แท้นางยังมีบุตรสาวอีกคนหนึ่ง… ”

“ที่แท้ พระชายาโยวอ๋องหาใช่คนไร้สกุล ทว่านางเป็นสายเลือดของสกุลจง”

“ใช่ นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจยิ่งนัก ในอดีต พวกเราคิดว่า อาศัยเพียงฐานะบุตรีของภรรยารองแห่งสกุลซู พระชายาโยวอ๋องคงไม่คู่ควรกับโยวอ๋อง อย่างไรก็ตาม นึกไม่ถึงว่านางจะเป็นคนของสกุลจง เช่นนี้แล้ว อาศัยฐานะของพระชายาโยวอ๋องในเวลานี้ เมื่ออภิเษกกับโยวอ๋องก็นับเป็นเรื่องที่เหมาะสมกันจริงๆ ดั่งคู่สวรรค์สรรค์สร้าง! ”

ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็น พลางมองไปทางฮูหยินเฒ่าหานและจงรุ่ยอัน

ฮูหยินเฒ่าหานยืนขึ้น ก่อนจะพูดแทนซูจิ่นซี “ใช่แล้ว จิ่นซีเป็นสายเลือดสกุลจงของเรา เป็นบุตรสาวของซีจือ”

ทันใดนั้น ทุกคนต่างมองซูจิ่นซีที่ถือกระบี่จื๋ออิ่งอยู่ด้านในเขตเวทมนตร์ด้วยสายตาสับสน

พวกเขาทั้งตกใจ ประหลาดใจ ไม่อยากจะเชื่อ ยกย่อง นับถือ ชื่นชม เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

“กิเลนปรากฏ หงส์ขับขาน ดอกปี่อั้นเบ่งบาน สายน้ำดินแดนแห่งความตาย… หากพระชายาโยวอ๋องเป็นบุตรสาวของจงซีจือจริงๆ เช่นนั้น หมายความว่านางต้องเป็น… มิใช่หรือ… ”

“เป็นชาวเผ่าเม้ย… ”

หนานกงหว่านเอ๋อร์พูดต่อคำพูดของผู้ใดบางคน แววตาของนางทอประกายความอิจฉาอย่างรุนแรง

ชาวเผ่าเม้ย…

พวกเขาหลายคนล้วนคิดได้ เพียงไม่กล้าพูดออกมาเท่านั้น ทว่าเวลานี้ เมื่อหนานกงหว่านเอ๋อร์พูดออกมา ทุกคนก็พลันอ้าปากค้าง

ในอาณาจักรเทียนเหอ มีตำนานเล่าขานมากมายเกี่ยวกับชาวเผ่าเม้ย

ในตำนานกล่าวถึงลำดับชั้นของเทพธิดาเผ่าเม้ยว่า เป็นบัวหิมะที่ซีหวังหมู่แห่งเขาคุนหลุนตั้งใจหล่อเลี้ยงจนแปลงร่างเป็นมนุษย์ ก่อนจะตกหลุมรักกับเทพกระเรียนผู้พิทักษ์สระบัว…

ตามตำนานเล่าว่า เซียนดอกบัวเคยทำความผิดครั้งใหญ่ และถูกซีหวังหมู่ลงโทษให้ลงมาจุติยังโลกมนุษย์…

ทั้งยังเล่าว่า เซียนดอกบัวได้รับคำสั่งจากซีหวังหมู่ ให้จุติลงมายังโลกมนุษย์เป็นเทพธิดาเผ่าเม้ย เพื่อปกป้องสกุลจิ่นอีโหว…

ตำนานยังกล่าวอีกว่า แท้จริงแล้ว เผ่าเม้ยไม่มีความเกี่ยวข้องกับซีหวังหมู่ ทว่านางถือกำเนิดจากเทพชิงชิวเผ่าจิ้งจอก ขณะที่เผ่าจิ้งจอกได้รับบัญชาให้มาปกป้องอาณาจักรแคว้นโจว นางได้กระทำความผิดครั้งใหญ่ จนถูกส่งให้กลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์ ต่อมา เนื่องจากเทพเซียนไป๋เฉ่าเกิดรักใคร่นาง และยอมรับความผิดบาปแทนนาง นางจึงได้ละเว้นโทษให้ลงมาอยู่ที่โลกมนุษย์ ต่อมา ทั้งคู่ไม่อาจเข้าสู่วิถีแห่งเทพและวิถีแห่งเซียน ทำได้เพียงฝึกตนและปฏิบัติตนระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์ ไม่มีโอกาสกลับขึ้นไปเป็นเซียนอีก

ยังมีตำนานเล่าขานอีกว่า…

สำหรับผู้คนในอาณาจักรเทียนเหอ มีตำนานเกี่ยวกับเผ่าเม้ยมากมายยิ่งนัก

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีมากมายเพียงใด มันก็เป็นเพียงตำนาน ไม่มีผู้ใดเคยเห็นเรื่องราวของซีหวังหมู่ว่าเป็นเช่นไร เทพเซียนดอกบัวเป็นอย่างไร เทพเซียนกระเรียนเป็นอย่างไร เทพเซียนไป๋เฉ่าเป็นอย่างไร เทพเซียนชิงชิวเผ่าจิ้งจอกเป็นอย่างไร…

แม้จะมีเรื่องเล่าขานต่างๆ นานา ทว่าจนถึงตอนนี้ กลับไม่มีแม้แต่รูปวาดของพวกเขา

ทว่าสำหรับพวกเขาแล้ว เรื่องเกี่ยวกับเผ่าเม้ยนั้น ไม่ใช่เรื่องธรรมดาทั่วไป

“กิเลนปรากฏ หงส์ขับขาน ดอกปี่อั้นเบ่งบาน สายน้ำดินแดนแห่งความตาย… ” นี่เป็นคำเล่าลือเกี่ยวกับเผ่าเม้ยที่อยู่ในใจของพวกเขา

เนื่องจากมันเกี่ยวข้องกับสุสานจิ่นอีโหว เกี่ยวข้องกับการรวมใต้หล้าเป็นหนึ่ง และเกี่ยวข้องกับสันติภาพ ความสงบสุข ความมั่นคง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากการแตกแยกของจักรวรรดิต้าฉิน ความคาดหวังของผู้คนที่มีต่อเผ่าเม้ยจึงเพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

พวกเขา… ปรารถนาสันติภาพและความรุ่งเรือง

พวกเขาปรารถนาให้คนเผ่าเม้ยเป็นเหมือนในตำนาน เป็นเผ่าเซียนหรือเผ่าเทพที่ลงมายังโลกมนุษย์ และช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก

แน่นอนว่า ไม่ได้มีเพียงผู้คนที่อยู่ด้านนอกเขตเวทมนตร์เท่านั้นที่ตกใจ ทว่ารวมถึงเป่ยถางเย่ ตงหลิงหวง และซูอวี้ที่อยู่ด้านในเขตเวทมนตร์อีกด้วย

แววตาของซูอวี้ทอประกายความสับสน ดูเหมือนว่า ซูจิ่นซีในสายตาของเขา จะถูกยกระดับสูงขึ้นไปอีก

การแสดงออกของเป่ยถางเย่ล้วนเต็มไปด้วยความสับสน

“ลูกหลานเผ่าเม้ย… ดี ดี ! ” เป่ยถางเย่หรี่ตาลง ทั้งยังกล่าวสองคำนี้ออกมาโดยไม่รู้ว่าเขาต้องการสื่อถึงสิ่งใด

ตงหลิงหวงแย้มยิ้มเล็กน้อย “ในเมื่อพระชายาโยวอ๋องเป็นชาวเผ่าเม้ย แม้วันนี้ข้าจะพ่ายแพ้ต่อพระชายาโยวอ๋อง รัชทายาทอย่างข้าก็พ่ายแพ้อย่างเต็มใจ ท่านอ๋องน้อยเย่ ท่านยังคิดจะลงมืออีกหรือ? ”

“ต้องลงมืออย่างแน่นอน ท่านอ๋องน้อยอย่างข้ารอวันนี้มานานแล้ว”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *