สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหนเล่มที่ 18 523 สัมผัสรัก มอบแมงป่องให้เจ้าตัวหนึ่ง

Now you are reading สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน Chapter เล่มที่ 18 523 สัมผัสรัก มอบแมงป่องให้เจ้าตัวหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เยี่ยโยวเหยาไม่มองซูจิ่นซี ทว่ายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

ทันใดนั้น ซูจิ่นซีก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางคว้าลำคอของเยี่ยโยวเหยาอย่างทนรอที่จะถามไม่ไหว “ใช่แล้ว เช่นนั้นเงินในบัตรทองสองใบที่ท่านอ๋องจะมอบให้หม่อมฉันตอนนี้ มีเงินอยู่เท่าไร? ”

เยี่ยโยวเหยาก้มมองใบหน้าของซูจิ่นซีที่อยู่ในอ้อมแขน พลางยกยิ้มมุมปากลึกซึ้ง

ทว่าเหตุใด ซูจิ่นซีจึงรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นน่ากลัวอย่างมาก?

ขณะที่รอยยิ้มบนใบหน้าของซูจิ่นซีค่อยๆ เลือนหายไปท่ามกลางรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเยี่ยโยวเหยา ดวงตาของเขาพลันหรี่ลง

“ซูจิ่นซี เอาสิ่งของของข้าไป ทว่าต้องชดใช้คืน! ”

ชดใช้คืน?

บัดซบ โลกใบนี้ไม่มีของฟรีตกมาจากท้องฟ้า

ยามที่หัวใจของซูจิ่นซีกระตุก เยี่ยโยวเหยาก็พูดเสริมอีกหนึ่งประโยคโดยไม่ทันให้นางได้ตั้งตัว

“เช่นนั้น… ข้าจะคำนวณให้เจ้าอีกครั้ง แคว้นจงหนิงหนึ่งแคว้น เจ้าต้องใช้เวลากี่ปีจึงจะชำระคืนได้หมด? ”

ซูจิ่นซีกระตุกมุมปากอย่างแรง พลางมองเยี่ยโยวเหยาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง

เยี่ยโยวเหยาเห็นท่าทางของซูจิ่นซี รอยยิ้มมุมปากก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น

“ยั่วยวนสามี ก็ต้องชดใช้สิ่งที่กระทำเช่นกัน! ”

ซูจิ่นซีตอบโต้โดยการมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและไม่พูดสิ่งใด

“แต่งสามีผิดคน ก็ต้องชดใช้เช่นกัน! ”

แม้เยี่ยโยวเหยาจะไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘สามี’ ทว่ายังพอคาดเดาได้

“น่าเสียดาย เจ้าไม่มีโอกาสให้เสียใจแล้ว”

ด้านหลังของคฤหาสน์ครอบคลุมสถานที่ต่างๆ มากมาย รวมถึงทุ่งหญ้าและบ่อน้ำพุร้อน ตำหนักและเรือนพักในคฤหาสน์ทั้งหมดล้วนตั้งอยู่ในหุบเขาลึก

เยี่ยโยวเหยาเพิ่งอุ้มซูจิ่นซีเข้ามาในห้องโถงด้านหน้าตำหนัก แม่นมฮวาก็รีบเดินเข้ามาทันที

“แหะ แหะ พระชายา พระองค์กลับมาแล้ว ในที่สุดบ่าวก็ได้พบพระองค์ ช่วงนี้ พระองค์ทำให้บ่าวคิดถึง ทำให้บ่าวตกใจมากเพคะ! ”

แม่นมฮวาพูดพลางปาดน้ำตาที่ไหลพราก

ตอนที่ได้ยินว่าซูจิ่นซีตอบตกลงฮูหยินปิงจีว่าจะไปจากเยี่ยโยวเหยา และไม่กลับมาที่จวนโยวอ๋องอีก แม่นมฮวาตกใจอย่างมาก นางคิดว่าซูจิ่นซีจะไม่กลับมาแล้วจริงๆ

เยี่ยโยวเหยาวางซูจิ่นซีลงบนเตียง ซูจิ่นซีจึงดึงหมอนมาพิง

“แม่นมอย่าเสียใจไปเลย ท่านได้พบข้าแล้วมิใช่หรือ? วันหน้ายังอีกยาวไกล จะร่ำไห้เพื่ออันใด! ข้ากลัวการที่ผู้อื่นมาร้องไห้ต่อหน้าข้ามากที่สุด! ”

แม่นมฮวารีบเช็ดคราบน้ำตาและหัวเราะ

“ใช่ๆ พระชายามองบ่าวสิ กลายเป็นคนแก่เลอะเลือนไปแล้ว วันที่น่ายินดีเช่นนี้ จะร้องไห้ไปทำไม! ”

“แม่นม ท่านยกสิ่งใดเข้ามาหรือ? ”

ไม่ต้องพูดถึง แม้เมื่อวานนางจะไปร่วมงานเทศกาลร้อยบุปผา ทว่านางจดจ่ออยู่กับการตามหาดอกไม้ปีศาจ จึงไม่ได้รับประทานสิ่งใด ตอนนี้นางเริ่มหิวจนตาลายแล้ว เมื่อเห็นถาดอาหารในมือของแม่นมฮวา ท้องก็ยิ่งร้องดังมากขึ้น

แม่นมฮวาเห็นซูจิ่นซีถาม จึงเหลือบมองเยี่ยโยวเหยาด้วยความลังเล เมื่อเห็นเยี่ยโยวเหยาไม่แสดงท่าทีใดๆ นางจึงก้มตัวลงยกถาดอาหารในมือไปเบื้องหน้าซูจิ่นซี

“เอ่อ… คือว่า… พระชายา นี่คือสิ่งที่ท่านอ๋องให้บ่าวเตรียมให้พระองค์เพคะ”

“คือสิ่งใด? ”

“น้ำแกงไก่… ตุ๋นโสม! ”

ซูจิ่นซีที่กำลังยื่นมือออกไปเปิดถ้วยอาหารพลันหยุดชะงัก นางยังมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน ทันใดนั้น ใบหน้าก็ซีดขาวและเริ่มคลื่นไส้อย่างทนไม่ไหว

เยี่ยโยวเหยาเห็นสภาพนางแล้วก็ขมวดคิ้วแน่น เขารีบพุ่งไปข้างหน้าเพื่อพยุงซูจิ่นซี

แม่นมฮวาเห็นเช่นนั้นจึงขมวดคิ้วและครุ่นคิดด้วยใบหน้าสับสนครู่หนึ่ง จากนั้นจึงมองไปที่ถ้วยอาหารอีกครั้ง แม้นางจะเกรงกลัวซูจิ่นซีและกังวลใจอยู่บ้าง ทว่านางยังเอ่ยปากพูด

“พระชายา พระองค์ไม่สามารถดมกลิ่นน้ำแกงไก่นี้ได้ใช่หรือไม่? ”

ซูจิ่นซีแทบอาเจียนออกมา นางยกมือจับหน้าอกพลางจ้องมองแม่นมฮวา “เหตุใดจึงมีสิ่งนี้ทุกหนทุกแห่ง? ข้าพูดหลายรอบแล้วไม่ใช่หรือ? ไม่อนุญาตให้เอ่ยถึงคำว่า น้ำแกงไก่ เจ้ายังกล้านำสิ่งนี้มาวางตรงหน้าข้าอีก! ”

แม่นมฮวาไม่ได้ลืม ทว่านี่เป็นสิ่งที่เยี่ยโยวเหยาสั่งให้นางทำ นางไม่กล้าไม่ทำตาม!

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ ดูเหมือนแม่นมฮวาจะค้นพบเรื่องราวบางอย่าง นางแย้มยิ้มด้วยท่าทีมีเลศนัย

“แหะ แหะ พระชายา พระองค์ไม่ต้องรีบร้อน!หากพระองค์ไม่ชอบดื่มน้ำแกงไก่ตุ๋นโสม เช่นนั้นบ่าวจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น พระองค์ประสงค์เสวยสิ่งใด บ่าวจะไปทำให้ ทว่า… ทว่า… ”

แม่นมฮวาพูดพลางเหลือบตามองไปที่ท้องน้อยของซูจิ่นซี

ซูจิ่นซีขมวดคิ้ว “แม่นมฮวา เจ้าต้องการพูดอันใด? ”

ซูจิ่นซีรับรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ ดูจากท่าทางของแม่นมผู้นี้ นางต้องทำสิ่งใดไม่ดีเป็นแน่

ในวินาทีต่อมา แม่นมฮวาก็พูดขึ้นว่า “แหะ แหะ พระชายา บ่าวเห็นว่าพระอาการที่ไม่สามารถดมกลิ่นน้ำแกงได้ ทั้งลักษณะท้องน้อยของพระองค์ มีความเป็นไปได้มากว่าพระองค์จะทรงพระครรภ์ เช่นนั้น… บ่าวไปเชิญท่านหมอมาตรวจดูดีหรือไม่? ”

ซูจิ่นซีคิ้วกระตุกอย่างแรง มือของเยี่ยโยวเหยาที่ประคองซูจิ่นซีก็เกร็งขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเลื่อนสายตามามองใบหน้าของซูจิ่นซี

ซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยาต่างไม่พูดสิ่งใด ทันใดนั้น แม่นมฮวาก็บ่นเยี่ยโยวเหยาราวกับผู้อาวุโสบ่นเด็กรุ่นหลัง

“ท่านอ๋อง พระองค์ก็จริงๆ เลย โตป่านนี้แล้ว ไม่รู้จักเอาใจใส่บ้าง ได้ยินว่าเมื่อคืนพระองค์ทำกิจส่วนตัวกับพระชายาไปไม่น้อย หากพระชายามีท่านอ๋องน้อยจริง พระบิดาเช่นท่านจะไม่ทำร้ายท่านอ๋องน้อยหรอกหรือ? ”

แม่นมผู้นี้เริ่มเลอะเลือนแล้ว

เมื่อก่อน ต่อให้เลอะเลือนเพียงใด บางคำยังเป็นคำต้องห้ามอยู่บ้าง ทว่าตอนนี้ นึกไม่ถึงว่านางจะพูดออกมาตรงๆ

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแน่น มุมปากกระตุกอย่างแรง นางรับรู้ได้ถึงดวงตาที่ร้อนรุ่มดั่งไฟแผดเผาซึ่งอยู่เหนือศีรษะของตน รวมทั้งความผิดปกติ

ทว่าบางครั้ง สายตาของแม่นมฮวาก็น่ารังเกียจยิ่งนัก นางเป็นผู้ที่ฉลาดมากคนหนึ่ง เหตุใดจึงไม่เห็นความผิดปกติในการกระทำของซูจิ่นซี?

แม่นมฮวาค่อยๆ ยื่นมือออกมาลูบท้องน้อยของซูจิ่นซี

“ความจริงไม่ต้องตามหมอ แม่นมลูบดูก็รู้แล้ว แม่นมอาบน้ำร้อนมาก่อน หากสนมในวังหลวงตั้งครรภ์ แม่นมเพียงมองดูก็รู้แล้ว ทั้งยังสามารถคลำจนทราบว่าทารกมีอายุครรภ์กี่เดือน”

เมื่อสิ้นสุดคำพูดสุดท้าย มือของแม่นมฮวาก็วางอยู่บนท้องซูจิ่นซี

เดิมที ซูจิ่นซีที่กำลังอดกลั้นกับคำพูดแม่นมฮวาและคิดจะตำหนินาง กลับระงับความโกรธไว้ในใจ และนิ่งเงียบไม่ทำอันใด

แม่นมฮวาคลำซ้ายลูบขวา ทันใดนั้น ไม่รู้ว่านางคลำเจอสิ่งใดจึงหยุดชะงัก และค่อยๆ เงยหน้ามองซูจิ่นซีด้วยใบหน้าซีดขาว

ใบหน้าของซูจิ่นซีมืดครึ้ม “แม่นมฮวา คลำเจอสิ่งใดหรือ? ”

แม่นมฮวาไม่พูดอันใด มุมปากเริ่มสั่นเทา ทั้งยังมีเม็ดเหงื่อเย็นเฉียบค่อยๆ ผุดขึ้นมาบนหน้าผาก และริมฝีปากก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ

ภายใต้รอยยิ้มที่น่ากลัวของซูจิ่นซี ทันใดนั้น แม่นมฮวาก็ส่งเสียงร้องดัง “อ้าก!” นางกระโดดออกมา และจับมือตนเอง พลางหมุนตัวไปรอบๆ

เยี่ยโยวเหยามองแม่นมฮวา คิ้วของเขาขมวดแน่น

ผ่านไปครู่หนึ่ง แม่นมฮวายืนนิ่งอยู่กับที่ นางค่อยๆ ยกมือที่จับท้องซูจิ่นซีขึ้นมาตรงหน้า ก่อนจะตกตะลึงจนร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเฉียบอีกครั้ง

แท้จริงแล้ว แม่นมฮวาเป็นคนรูปร่างผอม มือของคนชราไม่ท้วมมากนัก ทว่าตอนนี้ มือของแม่นมฮวาบวมกว่าปกติสามถึงสี่เท่า ตั้งแต่นิ้วถึงผิวหนังใต้แขนเสื้อกลายเป็นสีเขียวคล้ำทั้งหมด

ภายใต้ใบหน้าที่เจ็บปวดของแม่นมฮวา ซูจิ่นซีค่อยๆ หยิบแมงป่องตัวหนึ่งออกมาจากอ้อมแขน ราวกับกำลังเพลิดเพลินกับมัน ทว่าดวงตากลับแฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์

“แม่นมฮวา หากคราวหลังเจ้ายังจำไม่ได้ และพูดจาไม่คิดกับข้าเช่นนี้อีก ข้าจะไม่มอบแมงป่องให้เจ้าง่ายๆ เช่นนี้! ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *