สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหนเล่มที่ 23 673 กระหม่อมเป็นคนของพระองค์

Now you are reading สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน Chapter เล่มที่ 23 673 กระหม่อมเป็นคนของพระองค์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไม่กี่วันหลังจากนั้น ไม่มีผู้ใดมาหาซูจิ่นซีอีก นางไม่ได้นับว่าตนเองถูกขังอยู่ที่นี่นานเท่าไรแล้ว

ยิ่งใกล้วันต้นฤดูหนาวมากเท่าไร คำพูดของหญิงชราในห้องลับก็ยิ่งฝังลึกในใจนางมากขึ้นเท่านั้น ก่อนวันต้นฤดูหนาว นางต้องรีบไปหาหญ้าเสินเซียนที่ทะเลอู๋ว่าง และไปหาจิ่วหรงที่สำนักแพทย์เทียนอี

ชาติภพนี้ ดวงวิญญาณของนางไม่สมบูรณ์ ดังนั้น นางเชื่อคำพูดของหญิงชรา หากไม่ทำตามที่หญิงชราบอก เกรงว่านางคงไม่อาจก้าวข้ามหายนะในชีวิตนี้ไปได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนอื่น นางต้องใช้ชีวิตให้ดี

เพียงมีชีวิตที่ดีก็สามารถตอบแทนสามชาติภพของรัชทายาทเสวียนเยี่ยและจิ่วหรงได้ เพียงมีชีวิตที่ดี นางก็จะมีโอกาสได้อยู่กับคนที่นางรัก

ดังนั้นวันนี้ ตอนที่นางกำนัลนำสำรับอาหารมาส่ง ซูจิ่นซีจึงใช้ยาสลบกับนางกำนัล และพยายามหลบหนีออกไป

องครักษ์เงาฝีมือดีหลายหมื่นคนห้อมล้อมซูจิ่นซีไว้

หากไม่ใช่เพราะเชื่อว่านางจะหลบหนี ซูจิ่นซีคงไม่รู้ว่าเสด็จพ่อของนาง ฮ่องเต้แห่งแคว้นหนานหลี ใช้องครักษ์มากมายถึงเพียงนี้มาเฝ้านาง

เห็นได้ชัดว่าความเคียดแค้นระหว่างสกุลมู่หรงกับเชื้อพระวงศ์ต้าฉินนั้นลึกซึ้งยิ่งนัก

ซูจิ่นซีถือกระบี่เฟิ่งอวี่ไว้ในมือ พลางฟาดฟันไม่หยุด

รอบด้านมีศพล้มตาย เลือดอุ่นๆ กระเซ็นไปทั่วร่างของนาง จนทำให้นางแสบตา

ซูจิ่นซีไม่เคยฆ่าใครมากมายเท่าวันนี้มาก่อน

การสังหารทำให้นางรู้สึกใจอ่อน

สุดท้ายแล้ว นางจึงทำเพียงวางยาพิษองครักษ์เงาและองครักษ์ที่บุกเข้ามาหานาง

อย่างไรก็ตาม นางวางยาพิษคนกลุ่มหนึ่ง คนอีกกลุ่มก็เข้ามา

หลังจากนั้นก็มีอีกกลุ่ม

ท้ายที่สุด ร่างสีขาวราวหิมะที่ลอยอยู่กลางอากาศก็เหาะลงมาท่ามกลางกองเลือดสีแดงฉาน

จิ่วหรง…

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแน่น

ทว่าเมื่อร่างสีขาวบริสุทธิ์นั้นหันหลังกลับมา… โลกพลันไร้สีสัน สรรพสิ่งตอบรับแสงอาทิตย์ บรรยากาศอบอุ่นราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ…

“พระชายา กระหม่อมมาช้า! ”

ที่แท้เป็นอวิ๋นจิ่น

อวิ๋นจิ้นคว้ามือซูจิ่นซี พาวิ่งออกไปนอกวัง และปกป้องซูจิ่นซีตลอดทาง

“พระชายา ทางนี้… ”

“พระชายา ระวัง… ”

“พระชายา พระองค์ไปก่อน! ”

“พระชายา พระองค์ได้รับบาดเจ็บหรือไม่? ”

เมื่อเห็นร่างตรงหน้าที่พานางวิ่งอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาทั้งสองของซูจิ่นซีพลันร้อนผ่าว

นางต้องการพูดอันใดบางอย่าง ทว่าทุกครั้งที่อ้าปาก น้ำตาก็ไหลลงมาไม่หยุด ทุกอย่างติดอยู่ในลำคอ

สุดท้าย พวกเขาก็มาหยุดอยู่ที่เมืองเล็กๆ บริเวณชายแดนแคว้นหนานหลีกับแคว้นตงเฉิน อวิ๋นจิ่นวางจอกชาอุ่นๆ ลงบนฝ่ามือของซูจิ่นซี พลางแย้มยิ้มให้นางอย่างอ่อนโยน “พระชายาทรงม้าไม่พักตลอดทาง พระองค์คงเหน็ดเหนื่อยกระมัง? จิบชาร้อนสักจอกเถิด! ”

“ตกลง! ” ซูจิ่นซีรับชามาถือไว้ในมือ ดวงตาทั้งสองร้อนผ่าวยิ่งกว่าน้ำชาเสียอีก

ผ่านไปครู่หนึ่ง นางจึงเอ่ยถามว่า “อวิ๋นจิ่น เจ้ามาได้อย่างไร? ”

ทว่าอวิ๋นจิ่นยังไม่ทันได้พูด ซูจิ่นซีก็ตอบคำถามแทนเขา “ท่านอ๋องให้เจ้ามาใช่หรือไม่? ”

แววตาของอวิ๋นจิ่นปรากฏความผิดหวังที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น คำพูดที่ต้องการเอ่ยถูกเขากลืนลงคอ

“พ่ะย่ะค่ะ พระชายา เป็นท่านอ๋องที่รับสั่งให้กระหม่อมมา ไม่ว่าสกุลมู่หรงกับราชวงศ์ต้าฉินจะเกิดเรื่องราวอันใดขึ้น ท่านอ๋องก็ยังคงเป็นท่านอ๋อง เป็นท่านอ๋องของพระชายา ท่านอ๋อง… ไม่ทอดทิ้งพระชายาแน่นอน”

ผู้ใดเล่าจะรู้ว่า ที่อวิ๋นจิ่นพูดออกไปนั้น เขาเจ็บปวดมากเพียงใด

ซูจิ่นซีนิ่งเงียบ พลางยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะก้มศีรษะลงจิบชาร้อนๆ

ผ่านไปครู่หนึ่ง ซูจิ่นซีก็เงยหน้าขึ้น “อวิ๋นจิ่น เจ้ารู้หรือไม่ว่าทะลอู๋ว่างอยู่ที่ใด? ”

“ทะเลอู๋ว่าง? พระชายา พระองค์ต้องการไปทะเลอู๋ว่างหรือพ่ะย่ะค่ะ? ”

อวิ๋นจิ่นเกือบจะเป็นผู้รอบรู้ในอาณาจักรเทียนเหอ ซูจิ่นซีรู้ว่านางถามไม่ผิดคนแน่นอน

“ใช่แล้ว! ไปตามหาหญ้าเสินเซียนที่ทะเลอู๋ว่าง! ”

ดวงตาของอวิ๋นจิ๋นดูตกใจเล็กน้อย “ตำนานกล่าวว่า ทะเลอู๋ว่างอยู่บนเทือกเขาวิญญาณดวงดารา ซึ่งเป็นจุดที่โลกมนุษย์และดินแดนทั้งสามมาบรรจบกัน ทว่าไม่มีผู้ใดบนโลกมนุษย์เคยไปที่นั่น ได้ยินว่าที่นั่นเป็นสถานที่น่ากลัว เทพบนสวรรค์ จักรพรรดิของโลกมุษย์ และผู้นำของทั้งสามโลก เมื่อตายไปแล้วจะถูกฝังอยู่ที่นั่น ดังนั้น พลังหยินของที่นั่นจึงรุนแรงอย่างมาก พระชายาจะไปตามหาสิ่งใดที่ทะเลอู๋ว่างหรือพ่ะย่ะค่ะ? ”

ซูจิ่นซีจ้องอวิ๋นจิ่นอย่างลึกซึ้ง ไม่รู้ว่านางคิดอันใดอยู่ในใจ ผ่านไปครู่ใหญ่จึงพูดออกมาแผ่วเบา “ไปเสาะหายาช่วยชีวิต เจ้ารู้เส้นทางไปทะเลอู๋ว่างหรือไม่? ”

“ยาช่วยชีวิต? ผู้ใดได้รับบาดเจ็บจนต้องการยาช่วยชีวิตจากทะเลอู๋ว่างหรือพ่ะย่ะค่ะ? ”

ซูจิ่นซีแย้มยิ้มกว้าง ทว่าแววตาของนางกลับเศร้าหมองจนรู้สึกเจ็บปวด

“หากรู้ ก็พาข้าไปเถิด! ”

อวิ๋นจิ่นราวกับไตร่ตรองอันใดบางอย่างอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “ตกลง! กระหม่อมจะพาพระชายาไป เส้นทางไปทะเลอู๋ว่างนั้นอันตราย โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่เทือกเขาวิญญาณดวงดารา ระหว่างทาง ให้กระหม่อมปกป้องพระชายาเถิด”

“ตกลง! ”

หลังจากหยุดพักชั่วครู่ ซูจิ่นซีกับอวิ๋นจิ่นก็มุ่งหน้าไปที่ทะเลอู๋ว่าง ซูจิ่นซีไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัดของทะลอู๋ว่าง จึงไปตามเส้นทางที่อวิ๋นจิ่นพาไป

ผ่านไปสามวัน ทั้งสองก็มาถึงเมืองเล็กๆ

เมืองนี้แปลกประหลาดอย่างยิ่ง การแต่งกายของชาวบ้านที่นี่แตกต่างจากหกแคว้นของอาณาจักรเทียนเหอ พวกเขามีอุปนิสัยเย็นชา ไม่ชอบปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ทว่าไม่ได้ขับไล่ผู้ที่มาจากภายนอกอย่างซูจิ่นซีและอวิ๋นจิ่น

ทั้งสองหาโรงเตี๊ยมและพักที่นั่น เถ้าแก่โรงเตี๊ยมยังนับว่ากระตือรือร้น เขาหาห้องพักที่สะอาดที่สุดให้ซูจิ่นซีและอวิ๋นจิ่น

อวิ๋นจิ่นครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจเตือนซูจิ่นซี “พระชายา ตอนนี้พวกเราอยู่ระหว่างเขตแดนที่เรียกว่าดินแดนไร้ขอบเขต ซึ่งหมายความว่า อำนาจศาลและการปกครองไม่ได้เป็นของสามโลกและเจ็ดดินแดน ที่นี่มีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกัน พวกเราต้องเพิ่มความระมัดระวังอีกเท่าตัว”

“สามโลกเจ็ดดินแดน? ”

“ถูกต้อง โลกมนุษย์ โลกเขตแดน และโลกสวรรค์รวมเป็นสามโลก โลกเขตแดนแบ่งออกเป็นแดนวิญญาณ แดนมาร และแดนปีศาจ ส่วนโลกสวรรค์แบ่งเป็น แดนสวรรค์ชั้นฟ้าอันว่างเปล่า แดนเมฆา แดนสวรรค์ และสระมรกต หากมีโอกาส กระหม่อมจะอธิบายให้พระชายาฟังอย่างละเอียด”

เมื่อทราบเกี่ยวกับเผ่าเม้ยและเรื่องราวในช่วงสามพันปีก่อน เวลานี้ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่นางมาเยือน ซูจิ่นซีรู้ดีว่าโลกใบนี้หาได้เรียบง่าย อย่างไรก็ตาม นางไม่คิดว่ามันจะพิศวงเช่นนี้

ซูจิ่นซีเงียบไปครู่หนึ่ง นางมองลึกเข้าไปในแววตาของอวิ๋นจิ่น

ก่อนจะพูดว่า “อวิ๋นจิ่น เจ้าเป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงรอบรู้มากมายเพียงนี้? ”

เห็นได้ชัดว่าในใจของนางรู้ดีอยู่แล้ว ทว่าซูจิ่นซียังคงไม่ยินยอมเจาะหน้าต่างบานนั้นง่ายๆ

ชั้นหน้าต่างโปร่งใสนั้นสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน หากทะลุผ่านไปได้โดยง่าย บางที… อาจไม่เหลือสิ่งใด

รอยยิ้มที่มุมปากของอวิ๋นจิ่นแข็งค้างไปชั่วครู่จนแทบมองไม่เห็น ทว่าซูจิ่นซีกลับไม่เห็นความผิดปกติอันใด

เขาตอบอย่างมีไหวพริบ “พระชายา กระหม่อมเป็นคนของพระองค์! ”

เมื่อนานมาแล้ว ซูจิ่นซีกับอวิ๋นจิ่นเคยทำความตกลงร่วมกัน อวิ๋นจิ่นนับได้ว่าเป็นคนของซูจิ่นซี

ทว่าที่ซูจิ่นซีต้องการถาม ไม่ใช่เรื่องนี้

นอกจากนั้น นางรู้ดีว่าตอนนี้ นางไม่มีทางได้คำตอบที่อยากรู้จากปากของอวิ๋นจิ่น นางจึงยอมแพ้

“อวิ๋นจิ่น ใช้เวลาอีกนานเท่าใดกว่าเราจะไปถึงทะเลอู๋ว่าง”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *