เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ 379 อยากไปยุ่งกับผู้ชายคนนั้น

Now you are reading เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ Chapter 379 อยากไปยุ่งกับผู้ชายคนนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กลางคืน ในห้องVIPสวยหรู งานเลี้ยงสังสรรค์กำลังเริ่มขึ้น

เจ้าภาพคือโอวหยางเช่อ ข้างกายของเขาคือหลินหวั่นหญิง ผู้หญิงที่อ่อนโยนรูปร่างอวบอิ่มนั่งอยู่ ลี่เฉินซีกับหานฉ่ายหลิงนั่งอยู่ตรงข้าม และยังมีลู่ส้าวหลิงกับหญิงสาวแปลกหน้าอีกคน ทุกคนนั่งดื่มเหล้ากินอะไรกันอยู่ ก็ไม่ถือว่าเป็นงานสังสรรค์ทางการอะไร แค่เพื่อนๆนัดรวมตัวกัน

“หวั่นหญิง เราไม่ได้เจอหน้ากันมากี่ปีแล้วนะ?”จู่ๆ หานฉ่ายหลิงก็ถามขึ้นมา

หลินหวั่นหญิงคิดๆแล้ว มองไปที่ลี่เฉินซีที่อยู่ข้างๆ ดวงตาสวยคู่นั้นมองหน้าผู้ชายไม่ยอมขยับไปไหน ผ่านไปนานถึงพูด“ตั้งแต่ที่เธอเลิกกับเฉินซี หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลย!”

เอ่ยถึงการเลิกการตอนนั้น ก็เหมือนทิ่มแทงใจของหานฉ่ายหลิง เธอหน้าย้อยลงมาทันที แต่ก็ยิ้มปลอมๆแล้วพูด“คงห้าหกปีได้แล้ว!ไม่นึกไม่ฝันเลยนะ ว่าเธอจะอยู่กับโอวหยางได้!”

โอวหยางเช่อตกใจอึ้ง หันไปมองหน้าหลินหวั่นหญิงที่อยู่ข้างๆแล้วเปิดปากก็พูด“ที่จริงเรา……”

ยังไม่รอให้เขาได้พูดจบ มือนุ่มๆของเธอก็ไปควงแขนของโอวหยางเช่อแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“พวกเราก็เพิ่งจะคบกัน เรื่องความรักเนี่ย ใครก็ห้ามกันไม่ได้หรอกนะ!”

หานฉ่ายหลิงยิ้มเห็นฟัน“ก็ใช่ ฉันกับเฉินซีเราก็เพิ่งจะหมั้นกัน……”

ระหว่างที่พูด เธอก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมา แหวนหมั้นที่อยู่บนนิ้วกลางมือซ้ายของเธอ ภายใต้แสงไฟอันนุ่มนวลดูระยิบระยับเป็นพิเศษ ทิ่มตาของหลินหวั่นหญิงอย่างจัง

อดีต หลินหวั่นหญิงกับหานฉ่ายหลิงเคยเป็นเพื่อนสนิทกัน

ถือว่าโตมาด้วยกัน เป็นคนเมืองAและต่างก็อยู่ในวงการนี้เหมือนกัน บริษัทHSกับกรุ๊ปหลิน พอๆกัน ต่างก็เป็นบริษัทขนาดกลาง ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนบริษัทลี่ซื่อ แต่ก็มีแวดวงทางสังคมของตัวเอง เป็นเพราะโตมาในบ้านที่มีสภาวะแวดล้อมเดียวกัน ตลอดทางที่ผ่านมา ทั้งสองคนเรียนมาด้วยกันจนจบเลยกลายเป็นเพื่อนสนิทไปโดยปริยาย

กลับเพราะผู้ชายคนเดียว ทำให้ความเป็นเพื่อนสิ้นสุดลง

เรื่องราวก็ประมาณเหมือนละครฉากน้ำเน่า จนตอนนี้ หานฉ่ายหลิงก็ขี้เกียจจะไปนึกถึงมัน คิดแค่ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ขวางหูขวางตาเธอมาก ถ้าสามารถทำได้ อยากจะไล่เธอไปให้ไกลๆเลยยิ่งดี

ลี่เฉินซีนั่งดื่มเหล้าคนเดียวอย่างเงียบๆตั้งแต่เริ่มจนจบ แล้วทานอาหารเป็นครั้งคราว เหมือนจะไม่มีอารมณ์สนุกกับการทานข้าวเมื้อนี้เลย และเขาไม่ค่อยพูดอะไรเลยด้วย

หานฉ่ายหลิงกับหลินหวั่นหญิงนั่งคุยกัน แต่ต่างคนก็ต่างคิดร้ายต่อกัน พูดประชดประชันอีกฝ่าย บรรยากาศดูอึมครึมแปลกๆ ลู่ส้าวหลิงทำหน้าที่คอยคลี่คลายสถานการณ์ ไม่อยากให้อะไรก็ตามมาทำลายการสังสรรค์ครั้งนี้

พูดไปพูดมา จู่ๆหานฉ่ายหลิงก็โยนไปถึงเรื่องงานแล้วเธอก็พูด“ได้ยินมาว่าบริษัทจู้สือกรุ๊ปของพวกเธอที่กลับประเทศครั้งนี้ ก็เพื่อหาพันธมิตรเพิ่มใช่มั้ย?”

หลินหวั่นหญิงพยักหน้า“ใช่ มีอะไรงั้นหรอ?หรือว่าบริษัทHSของเธอมีความคิดอยากจะร่วมเป็นพันธมิตรกับเรางั้นหรอ?”

“บริษัทHSของฉันทำธุรกิจเที่ยวกับเสื้อผ้า และภัตตาคารหลิงเตี่ยนที่อยู่ภายใต้บริษัทก็เป็นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม กับบริษัทพวกเธอคนละเรื่องเลย กลับเป็นบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปของเฉินซีสิ สามารถลองคิดดูหน่อย!”หานฉ่ายหลิงพูดด้วยรอยยิ้ม

สีหน้าของลี่เฉินซีแอบเปลี่ยนนิดๆโดยที่สังเกตไม่ออก ความมืดมัวค่อยๆปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าหล่อของเขา ดูเย็นชานิ่งลึกราวกับท้องทะเล เดาอารมณ์เขาไม่ถูก

เห็นเขาไม่แสดงความคิดเห็นอะไร หลินหวั่นหญิงก็เลยพูด“แน่นอนว่าบริษัทเราอยากจะได้บริษัทลี่ซื่อมาเป็นพันธมิตรมาก สองบริษัทยักษ์ใหญ่ร่วมมือกันก็คงเป็นเรื่องดี แต่เรื่องเล็กๆละเอียดอ่อนคงต้องยุ่งกันน่าดู เลยยังไม่ได้คิดไปถึงจุดนั้น แต่ว่าตอนนี้เป้าหมายของเราคือบริษัทเจียงหย่วนมากกว่า”

“บริษัทเจียงหย่วน?”หานฉ่ายหลิงอึ้งไปครู่หนึ่ง“ประธานบริษัทเจียงจี้เซิงของบริษัทเจียงหย่วน ปกติไม่ได้ไปมาหาสู่กับเราเลย และอีกอย่างได้ยินมาว่าเขาควบทั้งธุรกิจสีขาวและสีดำเลยนะ เธออย่าไปทำเรื่องเสี่ยงอะไรเพื่องานอีกเลยนะ!”

ได้ยินแบบนี้แล้ว หลินหวั่นหญิงก็หัวเราะขึ้นเบาๆ“วางใจเถอะ พวกเราก็แค่ทำธุรกิจด้วยกัน จะเกิดเรื่องอะไรได้?อีกอย่าง ตอนนี้จะคุยสำเร็จหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ที่แน่ๆเรื่องจะถึงขั้นไหนยังต้องดูฝั่งประธานซู”

คำว่า‘ประธานซู’คำหนึ่งเบาๆ พอเข้าหูของใครบางคนแล้วกลับดังสนั่นราวกับฟังร้อง

“เธอมอบงานนี้ให้กับซูย้าว?”หานฉ่ายหลิงถาม

หลินหวั่นหญิงพยักหน้า“ใช่ ความสามารถของประธานซูเหนือกว่าใครๆ แถมรับผิดชอบด้านฝ่ายขาย ถ้าเธอสามารถคุยงานนี้กับบริษัทเจียงหย่วนสำเร็จ มันก็เป็นผลดีต่อเธอด้วย !นี่เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไงล่ะ?”

หานฉ่ายหลิงยิ้มอย่างเย็นชา เห็นชัดว่าหลินหวั่นหญิงตั้งใจโยนงานเน่าแบบนี้ให้ซูย้าวไปจัดการ ก็เพื่อตั้งใจแกล้งเธอ ให้เธอไม่มีทางเลือก ยิ่งร้ายไปกว่านั้น อาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ แผนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองหัวของเธอใช้ได้ผลเลยทีเดียว!

“ก็ใช่ ฉันคิดว่าคนมีความสามารถอย่างประธานซู ต้องคุยงานนี้สำเร็จแน่นอน!นั้นฉันคงต้องยินดีล่วงหน้ากับเธอแล้วสินะ!”หานฉ่ายหลิงยกแก้วเหล้าขึ้นมา

……

ห้องVIPข้างๆ

ซูย้าวก็พาแขกหลายคนมาทานข้าวกันที่นี่ โดยที่ปฏิเสธไม่ได้

หลังจากชนเหล้ากับแขกครบทุกคนสามรอบซูย้าวก็หาข้ออ้างขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน

ในห้องน้ำ เธอค่อยๆล้างมือ แล้วมองตัวในกระจก เป็นเพราะเมื่อกี้ดื่มเหล้า โรคกระเพาะเลยกำเริบ

เธอหยิบยาออกมาจากกระเป๋าแล้วเทยาออกมาหลายเม็ด จากนั้นก็กลืนลงไปทันที

ตอนที่ออกไป จู่ๆก็มีคนปรากฏแล้วดึงข้อมือเธอไว้ทันทีด้วยแรง ซูย้าวตกใจแล้วเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นลี่เฉินซี

เขาใส่ชุดสูทสีเทาอ่อน ด้านในใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว รูปร่างที่สูงใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าที่หล่อเหลาและแววตาที่เคร่งขรึมจ้องดูเธออย่างไม่ขยับ

เขาไม่พูดอะไร แต่จับข้อมือเธอไว้อย่างแข็งข้อแล้วฉุดเธอเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง โดยปิดประตูห้องกั้น ในพื้นที่แคบ ร่างที่ใหญ่โตของเขาบีบจนเธอต้องหลบเข้าในมุม พอมองมาที่เธออีกที แววตากลับดูสับสนและเย็นชาขึ้น

ซูย้าวขมวดคิ้วทีหนึ่ง“ประธานลี่ นี่คุณ……”

“คุณจะไปหาเจียงจี้เซิง?”จู่ๆเขาก็เปิดปาก คำพูดที่เย็นชาราวกับมีพลังทะลุเข้าไปในความคิดของเธอได้

เธอขมวดคิ้วแน่นขึ้น“คุณรู้ได้ยังไงคะ?”

“คุณไม่ต้องสนใจว่าผมรู้ได้ยังไง คุณแค่บอกมาว่าคุณจะไปหาเจียงจี้เซิงใช่มั้ย?”เขาถาม

ซูย้าวไม่อยากปิดบังเขาแล้วพยักหน้าโดยตรง และยังแก้ไขคำพูดของเขาว่า“พูดให้ถูกก็คือ ไม่ใช่ฉันจะไปหาเขา แต่เจียงจี้เซิงต่างหากที่ต้องมาหาฉัน”

ลี่เฉินซีหัวเราะเย็นชาทีหนึ่ง“ดูคุณมั่นใจเต็มร้อยจังนะ?”

“ไม่ถึงว่ามั่นใจเต็มร้อยหรอกนะคะ แค่คิดว่าเอาอยู่!”เธอยิ้มเบาๆ เพราะเธอเพิ่งไปผิดใจกับผู้หญิงของเจียงจี้เซิงมา คิดว่าเขาคงไม่อยู่เฉยแน่!

หลังจากนั้น ซูย้าวก็ยักคิ้วมองหน้าเขา“แต่ประธานลี่ถามพวกนี้ทำไมคะ?”

“ได้ยินมา เลยแปลกใจอยากมาถามดู”ลี่เฉินซีอธิบายอย่างนิ่งเฉย

เธอก้มหน้า“อย่างนี้เองหรอ นั้นตอนนี้คุณก็รู้แล้ว ฉันไปได้ยังคะ?”

เห็นสีหน้านิ่งเฉยของผู้หญิง แววตาดูเรียบเฉยไร้ความรู้สึก เหมือนกับทั้งสองคนแค่เป็นคนรู้จักกันธรรมดา เหมือนเธอลืมเรื่องอดีตไปหมดแล้ว

ลี่เฉินซีก็ยิ้มเย็นชาขึ้นตาม“อืม ถือว่ามาเตือนคุณด้วยความหวังดีแล้วกัน บริษัทเจียงหย่วนและคนอย่างเจียงจี้เซิง ดีที่สุดคุณอย่าไปยุ่งด้วยจะดีกว่า มันไม่มีผลดีกับคุณหรอกนะ”

คำเตือนแบบนี้เธอฟังมาเยอะแล้ว

ก่อนหน้านี้ไม่นาน หลินโม่ป่ายยังเตือนเธอในโทรศัพท์อยู่เลย ให้เธออย่าไปยุ่งกับบริษัทเจียงหย่วน กับคนที่ชื่อเจียงจี้เซิงคนนี้ยิ่งเลย ไม่ว่าจะกับซูย้าวหรือกับจู้สือก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องดีแน่

แล้วทำยังไงได้ล่ะ?

หลินหวั่นหญิงอยากจะร่วมงานกับเจียงหย่วน ถึงซูย้าวจะไม่กลัวคำสั่งของผู้หญิงคนนี้ แต่ว่า ถ้าซูย้าวทายไม่ผิดละก็ คำสั่งของหลินหวั่นหญิง ที่จริงก็คือคำสั่งของJock

นั้นเธอก็จำเป็นต้องลองเสี่ยงดู อยากรู้ว่าหลินหวั่นหญิงหรือว่าJockทั้งสองคนคิดอะไรอยู่

ที่สำคัญคือ เธออยากสืบให้รู้ว่า ทำไมเรื่องหลายเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง ถึงได้ไปเกี่ยวข้องกับจู้สือด้วย แล้ว Jockคนลึกลับคนนี้ต้องการอะไรกันแน่

ซูย้าวมองหน้าผู้ชายด้วยสายตาเรียบเฉย“ประธานลี่พาฉันมานี่ก็เพื่อจะบอกแค่นี้หรอคะ?”

เขาพิงอยู่ที่ผนัง หยิบบุหรี่ออกมาม้วนหนึ่งจากซองบุหรี่โดยคาบบุหรี่ไว้ในปากแล้วจุดไฟ ภายใต้แสงไฟสลัว ทำให้โครงหน้าของผู้ชายยิ่งดูคมชัดขึ้น จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น มองมาที่เธอด้วยสายตามืดมน ขยับริมฝีปากบาง“ใช่ ผมแค่ต้องการจะบอกคุณแค่นี้แหละ อยู่ให้ห่างจากบริษัทเจียงหย่วนซะ และไม่ต้องไปยุ่งกับเจียงจี้เซิงด้วย มันไม่มีผลดีต่อคุณ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด