เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ 755 เฝ้าห้องโดดเดี่ยวคนเดียว

Now you are reading เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ Chapter 755 เฝ้าห้องโดดเดี่ยวคนเดียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความลับ

คำนี้สำหรับลี่เฉินซีแล้ว ที่จริงเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไร และก็ไม่สมจริงด้วย

เขาเข้มงวดและมีวินัยมาตลอด ดังนั้นตัวเขาเองก็ไม่มีข่าวเสียหายให้พูดถึง สำหรับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปที่เขาดูแลอยู่ นับตั้งแต่สิบกว่าปีหลังจากที่เขารับช่วงมา ก็ถือว่าประกอบกิจการอยู่ในหน้าที่ ในแต่ละด้าน ก็ทำตามกฎระเบียบ และก็ไม่มีวี่แววว่าจะก้าวข้ามหรือออกนอกลู่นอกทางให้เห็น

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ย่อมไม่มีคำว่า’ความลับ ‘ หรือคำพูดที่หวาดกลัวอะไรอีก

แต่หากบริษัทลี่ซื่อเป็นอย่างนี้ตลอดตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงวันนี้ นั่นก็ถือว่าราบรื่นจริงๆ เป็นเรื่องที่น่ายินดี

มีความลับอยู่ และก็มีความลับที่ไม่อาจเปิดเผยได้ ยิ่งมีเรื่องเกินเลยข่าวอื้อฉาวบ้าง ที่เป็นความจริงที่ถูกปกปิดไว้ไม่อาจจะเปิดเผยความจริงต่อภายนอกอย่างแน่นอน

ล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งหมด

ลี่เฉินซีรู้เรื่องเหล่านี้ แต่เพิ่งรู้มาไม่นาน พูดให้ถูกต้องก็คือ เขารู้จากปากของลี่เหิงจิ่ว เมื่อสองเดือนก่อน

ตระกูลลี่มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี และตระกูลลี่เป็นตระกูลใหญ่ในประเทศที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี สาเหตุที่ธุรกิจยิ่งทำยิ่งใหญ่ขึ้น กำลังและอำนาจก็ยิ่งมั่นคงขึ้น เพราะมาจากหยาดเหงื่อทีละหยด ของทุกผู้นำตระกูลลี่ที่กุมอำนาจของราชาแห่งความบ้าคลั่ง พยายามต่อสู้อย่างสุดกำลังความสามารถ

สมัยปู่และบรรพบุรุษของเขา เพื่อจะขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น เพื่อผลประโยชน์ที่มากกว่า ก็ได้ใช้วิธีการมากมาย ในการวางแผนทำเรื่องไม่ดี และก็ใช้เส้นสายบ้าง เพื่อให้ได้เงินทองและผลประโยชน์ ค่อยๆ สะสมมา ซึ่งนั่นจึงได้กลายเป็นความลับ

ที่ว่าคนไม่นอกลู่ไม่รวย ม้าไม่กินหญ้ากลางคืนไม่อ้วน มีธุรกิจใหญ่ตระกูลใหญ่มากมาย ปกติก็มักใช้วิธีนี้ในการเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อก้าวกระโดดออกมามั่งคงแล้ว ก็ดำเนินการอยู่ในหน้าที่ของตนเอง และค่อยบริหารกิจการให้คงที่ต่อไป

ดังนั้น ความลับนี้ มีทุกคน อยู่ในทุกบ้าน

ตระกูลร่ำรวยก็เช่นนี้ บ้านคนธรรมดาทั่วไปก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน

แม้ว่าความลับเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวของลี่เฉินซี แต่ก็เกี่ยวพันกับตระกูลลี่ เมื่อถูกเปิดเผยออกมา แล้วบริษัทลี่ซื่อทั้งหมด ก็จะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ไม่อาจจะจัดการได้

ตอนนั้นลี่เหิงจิ่วกำชับเรื่องเหล่านี้กับเขาตามความเป็นจริง และก็เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขาปล่อยซูย้าวไป ไม่ต้องเพราะผู้หญิงคนเดียว จนทำให้ตระกูลลี่ตกอยู่ในอันตราย อย่าเป็นศัตรูกับอานเจียเย้นซึ่งๆ หน้า

แต่การเกลี้ยกล่อมเช่นนี้ ลี่เฉินซีจะฟังหรือ?

ฉากแล้วฉากเล่าผุดขึ้นในหัวสมองของเขาแล้วหายไป ในที่สุดดวงตาของเขาก็ได้กลายเป็นว่างเปล่า เขาเพียงแค่มองไปทางเจียงจี้เซิงด้วยความสนใจ แล้วคำพูดหยอกล้อก็ออกมาอย่างต่อเนื่อง”ผมรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย พวกคุณตระกูลเจียง จุดอ่อนที่อยู่ในมือของคนอื่นคืออะไร? ”

เจียงจี้เซิงหัวเราะเบาๆ ดวงตาขี้เล่นหม่นหมอง เอื้อมมือตบไปที่ไหล่ของลี่เฉินซี “ความลับที่สามารถกลายเป็นจุดอ่อน ถ้าผมพูดออกมาแล้ว ยังจะเป็นความลับอยู่หรือ?”

ลี่เฉินซีพยักหน้าอย่างมีความรู้สึกเหมือนกันเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นเล็กน้อย หยิบบุหรี่ออกมาจากซองบุหรี่บนโต๊ะน้ำชา ใส่ไปที่ปากแล้วจุดไฟ เมื่อพ่นควันบุหรี่ออกมา เขาถึงกล่าวว่า”แต่ว่าคุณต้องคิดให้ดี ถอนตัวตอนนี้ ยังทัน ”

เจียงจี้เซิงพิงบนโซฟาไตร่ตรองเงียบๆ อยู่เนิ่นนาน “หากไม่กำจัดอันตรายออก มันก็จะคงอยู่ตลอดไป หนามแหลมทิ่มอยู่ที่หลัง กินไม่ได้นอนไม่หลับ แล้วใครจะยอม?”

ลี่เฉินซีถอนหายใจเบาๆ “แต่ต่อให้ไม่มีอันเจียเย้นแล้ว ก็ยังมีคนที่สอง คนที่สาม… เรื่องแบบนี้ ไม่มีทางกำจัดหมดได้……….”

“เพราะฉะนั้น”เจียงจี้เซิงนั่งตัวตรง ยกมือขึ้นดึงเนกไทออก จากนั้นก็โยนไปข้างๆ “แทนที่จะให้คนอื่นควบคุม สู้เราตัดสินใจเองดีกว่า ”

ทันใดนั้น ลี่เฉินซีก็เข้าใจความหมายของเขาแล้ว เนิ่นนาน รอยยิ้มเย็นชาราวเยาะเย้ยก็แวบผ่านที่มุมปากบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาแล้วก็หายไป

ดวงตาหม่นหมองของเจียงจี้เซิงเป็นประกาย ลำแสงล้ำลึกราวคลื่นทะเลขึ้นลง สูงตระหง่านและหวิดร้อง ได้ทำลายความคิดของเขาไป

แม้ว่าเขาเองจะไม่อยากจะพูดถึง แต่ความลับของตระกูลเจียง จะต้องทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างแน่นอน

เคยได้ยินเรื่องการฉ้อฉลของธุรกิจพอนซีไหม?

หากรู้ ก็จะต้องรู้การฉ้อโกงของแมดอฟฟ์อย่างแน่นอน

พวกเขาล้วนอยู่ในวงการธุรกิจ ทำธุรกิจมานานขนาดนี้ คำเหล่านี้ คุ้นเคยกันอย่างดี แต่ที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึง นั่นก็คือที่ตระกูลเจียงสามารถพัฒนามาถึงทุกวันนี้ ตอนที่เริ่มต้นและหลังจากนั้นทุกก้าว ล้วนเกิดจากการฉ้อโกง

น่าจะย้อนไปถึงบรรพบุรุษของเจียงจี้เซิงหลายชั่วโคตร เป็นตระกูลใหญ่ที่มีประวัติสืบทอดมานานนับร้อยปีเช่นเดียวกับบริษัทลี่ซื่อ ตระกูลเจียงเมื่อหลายปีก่อน จากโรงผลิตเล็กๆ เงียบๆ ที่ไม่มีชื่อเสียง จนเติบใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้

และตระกูลเจียงมีอาณาจักรที่กว้างใหญ่ได้วันนี้นั้นล้วนเป็นการฉ้อโกง

โดยจากการรายงานการเล่นหุ้นจำนวนมหาศาล ทำให้ปู่ของตระกูลเจียงได้กลายเป็นนักลงทุนผู้มีชื่อเสียงในวงการลงทุน ดึงดูดคนจำนวนมากให้มาลงทุนอย่างไม่ขาด แล้วหากำไรจากในนั้น เพียงแต่ไม่เหมือนกับแมดอฟฟ์ ที่ในที่สุดก็ถูกเปิดโปงการฉ้อโกงจากวิกฤติเศรษฐกิจ ปู่ตระกูลเจียงวางแผนได้แยบยลมาก ทำให้การฉ้อโกงนี้รอดพ้นครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่คาดคิด ดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งตระกูลเจียงโดดเด่นขึ้นมา เมื่อมีกำลังและความสามารถ จึงทำให้การฉ้อโกงนี้กลายเป็นความจริงขึ้นมาทีละก้าว

ถึงแม้จะไม่ถูกคนค้นพบ และก็ไม่เคยมีอันตรายใดๆ แต่การใช้วิธีการนี้และกระบวนการนี้เริ่มต้นสร้างครอบครัว ก็น่าอับอายเล็กน้อย หากถูกเปิดเผยในเวลานี้ ก็จะเป็นหายนะสำหรับตระกูลเจียงอย่างไม่ต้องสงสัย

คิดอย่างรอบคอบแล้ว ที่เรียกว่า’ความลับ’เหล่านี้ แม้จะมีอยู่จริง แต่ล้วนไม่ใช่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง ถือว่าเป็นหนี้บรรพบุรุษลูกหลานชดใช้ ชดใช้บาปแทนบรรพบุรุษ

ทั้งสองคิดหนัก ต่างมีเรื่องในใจปิดบัง ส่วนทางพี่เลี้ยงก็ได้เตรียมหม้อไฟกับวัตถุดิบอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว มาแจ้งทั้งสองให้ทราบว่ากินข้าวได้แล้ว

ซูย้าวกับเซียวไน่ก็กำลังก้าวเท้าไปที่ห้องอาหาร ทั้งสี่คนนั่งลงกินข้าว บรรยากาศอึมครึมก่อนหน้านั้นหายไปในพริบตา แล้วเริ่มพูดคุยหัวเราะกัน บรรยากาศเป็นไปอย่างกลมกลืนและสนุกสนาน

หลังจากกินอาหารแล้ว ซูย้าวหยิบของบางอย่างจากในตู้เย็นแล้วขึ้นชั้นบนไป

ก่อนหน้านั้นพี่เลี้ยงได้จัดห้องไว้ให้เธอแล้ว เวลานี้เธออยู่ที่นี่ ยังไม่ลืมที่จะล็อกประตูห้องจากข้างใน จากนั้นก็เข้าไปในห้องอาบน้ำ

รอเมื่อเธอออกมาอีกครั้ง ก็ได้กลิ่นบุหรี่ในอากาศก่อน จึงอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ แล้วก็เดินไปที่ห้องนอน ก็เห็นชายหนุ่มนั่งอยู่ข้างเตียง เขากำลังสูบบุหรี่ ขยับมือดีดบุหรี่ลงที่เขี่ยบุหรี่ข้างๆ

ซูย้าวมองไปที่ประตูห้องด้วยความประหลาดใจ ทั้งๆ ที่เธอล็อกจากข้างในแล้ว……….

ลี่เฉินซีมองตาสายตาของเธอ และก็ดูออกว่าเธอสงสัยอยู่ จึงยิ้มบางๆ “จี้เซิงเอากุญแจสำรองให้ผม”

ซูย้าว”………”

เธอลืมได้อย่างไร?ความสัมพันธ์พี่น้องของพวกเขา การพักอยู่ที่นี่ ก็เท่ากับ ‘รังหมาป่าถ้ำเสือ’แล้วมันต่างกันตรงไหน?!

ซู้ย้าวส่ายหน้าอย่างหมดแรง ผ้าขนหนูที่อยู่ในมือปิดไปที่ต้นคอ หันหลังนั่งลงบนโซฟา น่องเล็กทั้งสองข้างขดตัวนั่งขัดสมาธิ แล้วประคบของในมืออย่างจริงจัง

ลี่เฉินซีรู้สึกสงสัยเล็กน้อยจึงลุกขึ้นเดินไปใกล้เธอ ก้มหน้ามองดูผ้าขนหนูสีขาวในมือเธอ “นี่มันอะไร?”

“น้ำแข็ง”เธออธิบาย ก่อนหน้านั้นเซียวไน่บอกว่าใช้น้ำแข็งประคบอย่างนี้ สามารถช่วยขจัดร่องรอยได้ ประคบช้ำไปมาหลายครั้ง ประมาณหนึ่งคืนก็หายแล้ว

เขานึกถึงก่อนกินข้าวเซียวไน่ดึงเธอเข้าไปในห้องครัว ที่แท้ก็เพื่ออันนี้ เขาเอียงข้างนั่งลง เขายิ้มแล้วเอื้อมมือไปปัดผ้าขนหนูและน้ำแข็งในมือเธอออก แล้วก็โยนเข้าไปในถังขยะ แล้วก็ดับไฟบุหรี่ในมือ เอียงตัวมาที่เธอ”จะมีประโยชน์หรือ?”

“คืนนี้ผ่านไป ทำออกมาอีกเล็กน้อย แล้วพรุ่งนี้จะต้องประคบอีกใช่ไหม?”เขาเฉยเมย ดวงตาเป็นประกาย ความหมายลึกซึ้งเกินไป ไม่ปิดบังแม้แต่น้อย

ซูย้าวไม่ต้องคิดเลย ร่างกายหดตัวไปเข้ามุมข้างๆ ด้วยสัญชาตญาณ ยื่นมือออกมาปกป้องด้านหน้าโดยปริยาย “คุณ…….คุณ…..”

เธอตกใจ’คุณ’อยู่เนิ่นนาน ก็ไม่พูดอะไรไม่ออก

เขายื่นมือมาดึงกระชากเธอเข้ามาในอ้อมกอดอย่างถือวิสาสะ กอดเธอไว้แน่นๆ คางสวยก็กดไปที่ศีรษะของเธอ “เมื่อก่อนไม่เป็นอย่างนี้ ตอนนี้กลัวผมขนาดนี้เลยหรือ?”

เธอถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ดิ้นรนอยู่หลายครั้งก็ปัดเขาออก”ฉันไม่ได้กลัวคุณ แค่ไม่ต้องการจะยุ่งกับคุณ!”

“ลี่เฉินซี ห้องนอนที่นี่ไม่ได้มีเพียงห้องเดียวเท่านั้น คุณไปนอนห้องอื่น!”เธอผลักเขาออกอย่างรังเกียจ ลุกขึ้นก็จะจากไป แต่ถูกลี่เฉินซีขวางไว้ แล้วฉวยโอกาสกระชากลากเธอกลับมาในอ้อมกอดอีกครั้ง

เขากระซิบข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ลมหายใจชายหอมดั่งดอกกล้วยไม้”ทิ้งคุณไว้คนเดียว ให้เฝ้าห้องว่างเปล่าโดดเดี่ยวเดียวดาย คุณคิดว่าเหมาะสมไหม?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ 755 เฝ้าห้องโดดเดี่ยวคนเดียว

Now you are reading เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ Chapter 755 เฝ้าห้องโดดเดี่ยวคนเดียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ความลับ

คำนี้สำหรับลี่เฉินซีแล้ว ที่จริงเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไร และก็ไม่สมจริงด้วย

เขาเข้มงวดและมีวินัยมาตลอด ดังนั้นตัวเขาเองก็ไม่มีข่าวเสียหายให้พูดถึง สำหรับบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปที่เขาดูแลอยู่ นับตั้งแต่สิบกว่าปีหลังจากที่เขารับช่วงมา ก็ถือว่าประกอบกิจการอยู่ในหน้าที่ ในแต่ละด้าน ก็ทำตามกฎระเบียบ และก็ไม่มีวี่แววว่าจะก้าวข้ามหรือออกนอกลู่นอกทางให้เห็น

เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ย่อมไม่มีคำว่า’ความลับ ‘ หรือคำพูดที่หวาดกลัวอะไรอีก

แต่หากบริษัทลี่ซื่อเป็นอย่างนี้ตลอดตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงวันนี้ นั่นก็ถือว่าราบรื่นจริงๆ เป็นเรื่องที่น่ายินดี

มีความลับอยู่ และก็มีความลับที่ไม่อาจเปิดเผยได้ ยิ่งมีเรื่องเกินเลยข่าวอื้อฉาวบ้าง ที่เป็นความจริงที่ถูกปกปิดไว้ไม่อาจจะเปิดเผยความจริงต่อภายนอกอย่างแน่นอน

ล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งหมด

ลี่เฉินซีรู้เรื่องเหล่านี้ แต่เพิ่งรู้มาไม่นาน พูดให้ถูกต้องก็คือ เขารู้จากปากของลี่เหิงจิ่ว เมื่อสองเดือนก่อน

ตระกูลลี่มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี และตระกูลลี่เป็นตระกูลใหญ่ในประเทศที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี สาเหตุที่ธุรกิจยิ่งทำยิ่งใหญ่ขึ้น กำลังและอำนาจก็ยิ่งมั่นคงขึ้น เพราะมาจากหยาดเหงื่อทีละหยด ของทุกผู้นำตระกูลลี่ที่กุมอำนาจของราชาแห่งความบ้าคลั่ง พยายามต่อสู้อย่างสุดกำลังความสามารถ

สมัยปู่และบรรพบุรุษของเขา เพื่อจะขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น เพื่อผลประโยชน์ที่มากกว่า ก็ได้ใช้วิธีการมากมาย ในการวางแผนทำเรื่องไม่ดี และก็ใช้เส้นสายบ้าง เพื่อให้ได้เงินทองและผลประโยชน์ ค่อยๆ สะสมมา ซึ่งนั่นจึงได้กลายเป็นความลับ

ที่ว่าคนไม่นอกลู่ไม่รวย ม้าไม่กินหญ้ากลางคืนไม่อ้วน มีธุรกิจใหญ่ตระกูลใหญ่มากมาย ปกติก็มักใช้วิธีนี้ในการเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อก้าวกระโดดออกมามั่งคงแล้ว ก็ดำเนินการอยู่ในหน้าที่ของตนเอง และค่อยบริหารกิจการให้คงที่ต่อไป

ดังนั้น ความลับนี้ มีทุกคน อยู่ในทุกบ้าน

ตระกูลร่ำรวยก็เช่นนี้ บ้านคนธรรมดาทั่วไปก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน

แม้ว่าความลับเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวของลี่เฉินซี แต่ก็เกี่ยวพันกับตระกูลลี่ เมื่อถูกเปิดเผยออกมา แล้วบริษัทลี่ซื่อทั้งหมด ก็จะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน ไม่อาจจะจัดการได้

ตอนนั้นลี่เหิงจิ่วกำชับเรื่องเหล่านี้กับเขาตามความเป็นจริง และก็เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขาปล่อยซูย้าวไป ไม่ต้องเพราะผู้หญิงคนเดียว จนทำให้ตระกูลลี่ตกอยู่ในอันตราย อย่าเป็นศัตรูกับอานเจียเย้นซึ่งๆ หน้า

แต่การเกลี้ยกล่อมเช่นนี้ ลี่เฉินซีจะฟังหรือ?

ฉากแล้วฉากเล่าผุดขึ้นในหัวสมองของเขาแล้วหายไป ในที่สุดดวงตาของเขาก็ได้กลายเป็นว่างเปล่า เขาเพียงแค่มองไปทางเจียงจี้เซิงด้วยความสนใจ แล้วคำพูดหยอกล้อก็ออกมาอย่างต่อเนื่อง”ผมรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย พวกคุณตระกูลเจียง จุดอ่อนที่อยู่ในมือของคนอื่นคืออะไร? ”

เจียงจี้เซิงหัวเราะเบาๆ ดวงตาขี้เล่นหม่นหมอง เอื้อมมือตบไปที่ไหล่ของลี่เฉินซี “ความลับที่สามารถกลายเป็นจุดอ่อน ถ้าผมพูดออกมาแล้ว ยังจะเป็นความลับอยู่หรือ?”

ลี่เฉินซีพยักหน้าอย่างมีความรู้สึกเหมือนกันเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นเล็กน้อย หยิบบุหรี่ออกมาจากซองบุหรี่บนโต๊ะน้ำชา ใส่ไปที่ปากแล้วจุดไฟ เมื่อพ่นควันบุหรี่ออกมา เขาถึงกล่าวว่า”แต่ว่าคุณต้องคิดให้ดี ถอนตัวตอนนี้ ยังทัน ”

เจียงจี้เซิงพิงบนโซฟาไตร่ตรองเงียบๆ อยู่เนิ่นนาน “หากไม่กำจัดอันตรายออก มันก็จะคงอยู่ตลอดไป หนามแหลมทิ่มอยู่ที่หลัง กินไม่ได้นอนไม่หลับ แล้วใครจะยอม?”

ลี่เฉินซีถอนหายใจเบาๆ “แต่ต่อให้ไม่มีอันเจียเย้นแล้ว ก็ยังมีคนที่สอง คนที่สาม… เรื่องแบบนี้ ไม่มีทางกำจัดหมดได้……….”

“เพราะฉะนั้น”เจียงจี้เซิงนั่งตัวตรง ยกมือขึ้นดึงเนกไทออก จากนั้นก็โยนไปข้างๆ “แทนที่จะให้คนอื่นควบคุม สู้เราตัดสินใจเองดีกว่า ”

ทันใดนั้น ลี่เฉินซีก็เข้าใจความหมายของเขาแล้ว เนิ่นนาน รอยยิ้มเย็นชาราวเยาะเย้ยก็แวบผ่านที่มุมปากบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาแล้วก็หายไป

ดวงตาหม่นหมองของเจียงจี้เซิงเป็นประกาย ลำแสงล้ำลึกราวคลื่นทะเลขึ้นลง สูงตระหง่านและหวิดร้อง ได้ทำลายความคิดของเขาไป

แม้ว่าเขาเองจะไม่อยากจะพูดถึง แต่ความลับของตระกูลเจียง จะต้องทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างแน่นอน

เคยได้ยินเรื่องการฉ้อฉลของธุรกิจพอนซีไหม?

หากรู้ ก็จะต้องรู้การฉ้อโกงของแมดอฟฟ์อย่างแน่นอน

พวกเขาล้วนอยู่ในวงการธุรกิจ ทำธุรกิจมานานขนาดนี้ คำเหล่านี้ คุ้นเคยกันอย่างดี แต่ที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึง นั่นก็คือที่ตระกูลเจียงสามารถพัฒนามาถึงทุกวันนี้ ตอนที่เริ่มต้นและหลังจากนั้นทุกก้าว ล้วนเกิดจากการฉ้อโกง

น่าจะย้อนไปถึงบรรพบุรุษของเจียงจี้เซิงหลายชั่วโคตร เป็นตระกูลใหญ่ที่มีประวัติสืบทอดมานานนับร้อยปีเช่นเดียวกับบริษัทลี่ซื่อ ตระกูลเจียงเมื่อหลายปีก่อน จากโรงผลิตเล็กๆ เงียบๆ ที่ไม่มีชื่อเสียง จนเติบใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้

และตระกูลเจียงมีอาณาจักรที่กว้างใหญ่ได้วันนี้นั้นล้วนเป็นการฉ้อโกง

โดยจากการรายงานการเล่นหุ้นจำนวนมหาศาล ทำให้ปู่ของตระกูลเจียงได้กลายเป็นนักลงทุนผู้มีชื่อเสียงในวงการลงทุน ดึงดูดคนจำนวนมากให้มาลงทุนอย่างไม่ขาด แล้วหากำไรจากในนั้น เพียงแต่ไม่เหมือนกับแมดอฟฟ์ ที่ในที่สุดก็ถูกเปิดโปงการฉ้อโกงจากวิกฤติเศรษฐกิจ ปู่ตระกูลเจียงวางแผนได้แยบยลมาก ทำให้การฉ้อโกงนี้รอดพ้นครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่คาดคิด ดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งตระกูลเจียงโดดเด่นขึ้นมา เมื่อมีกำลังและความสามารถ จึงทำให้การฉ้อโกงนี้กลายเป็นความจริงขึ้นมาทีละก้าว

ถึงแม้จะไม่ถูกคนค้นพบ และก็ไม่เคยมีอันตรายใดๆ แต่การใช้วิธีการนี้และกระบวนการนี้เริ่มต้นสร้างครอบครัว ก็น่าอับอายเล็กน้อย หากถูกเปิดเผยในเวลานี้ ก็จะเป็นหายนะสำหรับตระกูลเจียงอย่างไม่ต้องสงสัย

คิดอย่างรอบคอบแล้ว ที่เรียกว่า’ความลับ’เหล่านี้ แม้จะมีอยู่จริง แต่ล้วนไม่ใช่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง ถือว่าเป็นหนี้บรรพบุรุษลูกหลานชดใช้ ชดใช้บาปแทนบรรพบุรุษ

ทั้งสองคิดหนัก ต่างมีเรื่องในใจปิดบัง ส่วนทางพี่เลี้ยงก็ได้เตรียมหม้อไฟกับวัตถุดิบอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว มาแจ้งทั้งสองให้ทราบว่ากินข้าวได้แล้ว

ซูย้าวกับเซียวไน่ก็กำลังก้าวเท้าไปที่ห้องอาหาร ทั้งสี่คนนั่งลงกินข้าว บรรยากาศอึมครึมก่อนหน้านั้นหายไปในพริบตา แล้วเริ่มพูดคุยหัวเราะกัน บรรยากาศเป็นไปอย่างกลมกลืนและสนุกสนาน

หลังจากกินอาหารแล้ว ซูย้าวหยิบของบางอย่างจากในตู้เย็นแล้วขึ้นชั้นบนไป

ก่อนหน้านั้นพี่เลี้ยงได้จัดห้องไว้ให้เธอแล้ว เวลานี้เธออยู่ที่นี่ ยังไม่ลืมที่จะล็อกประตูห้องจากข้างใน จากนั้นก็เข้าไปในห้องอาบน้ำ

รอเมื่อเธอออกมาอีกครั้ง ก็ได้กลิ่นบุหรี่ในอากาศก่อน จึงอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ แล้วก็เดินไปที่ห้องนอน ก็เห็นชายหนุ่มนั่งอยู่ข้างเตียง เขากำลังสูบบุหรี่ ขยับมือดีดบุหรี่ลงที่เขี่ยบุหรี่ข้างๆ

ซูย้าวมองไปที่ประตูห้องด้วยความประหลาดใจ ทั้งๆ ที่เธอล็อกจากข้างในแล้ว……….

ลี่เฉินซีมองตาสายตาของเธอ และก็ดูออกว่าเธอสงสัยอยู่ จึงยิ้มบางๆ “จี้เซิงเอากุญแจสำรองให้ผม”

ซูย้าว”………”

เธอลืมได้อย่างไร?ความสัมพันธ์พี่น้องของพวกเขา การพักอยู่ที่นี่ ก็เท่ากับ ‘รังหมาป่าถ้ำเสือ’แล้วมันต่างกันตรงไหน?!

ซู้ย้าวส่ายหน้าอย่างหมดแรง ผ้าขนหนูที่อยู่ในมือปิดไปที่ต้นคอ หันหลังนั่งลงบนโซฟา น่องเล็กทั้งสองข้างขดตัวนั่งขัดสมาธิ แล้วประคบของในมืออย่างจริงจัง

ลี่เฉินซีรู้สึกสงสัยเล็กน้อยจึงลุกขึ้นเดินไปใกล้เธอ ก้มหน้ามองดูผ้าขนหนูสีขาวในมือเธอ “นี่มันอะไร?”

“น้ำแข็ง”เธออธิบาย ก่อนหน้านั้นเซียวไน่บอกว่าใช้น้ำแข็งประคบอย่างนี้ สามารถช่วยขจัดร่องรอยได้ ประคบช้ำไปมาหลายครั้ง ประมาณหนึ่งคืนก็หายแล้ว

เขานึกถึงก่อนกินข้าวเซียวไน่ดึงเธอเข้าไปในห้องครัว ที่แท้ก็เพื่ออันนี้ เขาเอียงข้างนั่งลง เขายิ้มแล้วเอื้อมมือไปปัดผ้าขนหนูและน้ำแข็งในมือเธอออก แล้วก็โยนเข้าไปในถังขยะ แล้วก็ดับไฟบุหรี่ในมือ เอียงตัวมาที่เธอ”จะมีประโยชน์หรือ?”

“คืนนี้ผ่านไป ทำออกมาอีกเล็กน้อย แล้วพรุ่งนี้จะต้องประคบอีกใช่ไหม?”เขาเฉยเมย ดวงตาเป็นประกาย ความหมายลึกซึ้งเกินไป ไม่ปิดบังแม้แต่น้อย

ซูย้าวไม่ต้องคิดเลย ร่างกายหดตัวไปเข้ามุมข้างๆ ด้วยสัญชาตญาณ ยื่นมือออกมาปกป้องด้านหน้าโดยปริยาย “คุณ…….คุณ…..”

เธอตกใจ’คุณ’อยู่เนิ่นนาน ก็ไม่พูดอะไรไม่ออก

เขายื่นมือมาดึงกระชากเธอเข้ามาในอ้อมกอดอย่างถือวิสาสะ กอดเธอไว้แน่นๆ คางสวยก็กดไปที่ศีรษะของเธอ “เมื่อก่อนไม่เป็นอย่างนี้ ตอนนี้กลัวผมขนาดนี้เลยหรือ?”

เธอถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ดิ้นรนอยู่หลายครั้งก็ปัดเขาออก”ฉันไม่ได้กลัวคุณ แค่ไม่ต้องการจะยุ่งกับคุณ!”

“ลี่เฉินซี ห้องนอนที่นี่ไม่ได้มีเพียงห้องเดียวเท่านั้น คุณไปนอนห้องอื่น!”เธอผลักเขาออกอย่างรังเกียจ ลุกขึ้นก็จะจากไป แต่ถูกลี่เฉินซีขวางไว้ แล้วฉวยโอกาสกระชากลากเธอกลับมาในอ้อมกอดอีกครั้ง

เขากระซิบข้างหูเธอด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ลมหายใจชายหอมดั่งดอกกล้วยไม้”ทิ้งคุณไว้คนเดียว ให้เฝ้าห้องว่างเปล่าโดดเดี่ยวเดียวดาย คุณคิดว่าเหมาะสมไหม?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+