Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 181

Now you are reading Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน Chapter 181 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 181

สิบเจตจำนงแห่งดาบ

 

 

เมื่อฝึกฝนวิชาดาบลึกลับขั้นต่ำ หลี่ฟู่เฉินใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบ

 

แต่เมื่อฝึกฝนทักษะดาบลึกลับขั้นกลาง หลี่ฟู่เฉินใช้เวลาสิบวันในการเข้าถึงขั้นดีเลิศย่อย

 

หลี่ฟู่เฉินเข้าใจได้ว่าเพียงแค่พึ่งพาการรับรู้ของเขาคงจะไม่เข้าท่านัก

 

ระดับการฝึกฝนของเขาจะต้องก้าวหน้าต่อไป

 

ยิ่งระดับทักษะที่ฝึกฝนสูงขึ้น ความต้องการต่อระดับบ่มเพาะของใครคนหนึ่งก็มากขึ้นเช่นกัน

 

ยกตัวอย่างเช่นการเคลื่อนที่ของแม่น้ำ วังวนสามารถก่อตัวได้อย่างง่ายดายเมื่อเป็นน้ำลึก แต่สำหรับน้ำตื้นมันยากที่จะก่อตัวเป็นวังวน มันจะยากขั้นเป็นสิบเท่า

 

เว้นแต่กระแสน้ำนี้จะไหลเร็วมากกว่าสิบเท่าหรือร้อยเท่า

 

น่าเสียดายที่ปริมาณน้ำในลำธารมีจำกัดเกินไป เพื่อให้มันกลายเป็นกระแสน้ำที่ไหลอย่างรวดเร็ว จะต้องมีลำธารที่ลึกมากขึ้น

 

ในตัวอย่างนี้ แม่น้ำและลำธารก็เปลี่ยนเสมือนระดับการบ่มเพาะ วังวนก็เหมือนทักษะต่อสู้ ความเร็วของกระแสน้ำแสดงถึงระดับการรับรู้ของคนหนึ่ง และความลึกก็คือรากฐานเต๋าทักษะยุทธ์

 

การรับรู้และรากฐานเต๋าทักษะยุทธ์ค่อนข้างคล้ายกัน ระดับการรับรู้ขึ้นอยู่กับร่างกายของคนๆ หนึ่ง แต่ผูเคนก็สามารถเพิ่มระดับรากฐานเต๋าทักษะยุทธ์ได้ มันเป็นสิ่งที่เกื้อหนุนเสริมซึ่งกันและกัน อย่างใดอย่างนึงไม่สามารถขาดได้

 

หลังจากนั้นอีกสองสัปดาห์ หลี่ฟู่เฉินบรรลุขั้นดีเลิศย่อยสองวิชาดาบ ดาบเก้าโคจรและดาบโคจรเลื่อนไหล

 

ไม่ใช่เพราะหลี่ฟู่เฉินไม่ต้องการศึกษาวิชาดาบเพลิงดาวตกต่อไป แต่เป็นเพราะเขาไม่สามารถทำได้

 

ทักษะดาบลึกลับขั้นกลางความต้องการขั้นต่ำของมันคือนักสู้ขอบเขตปฐพีระดับสูงสุดเพื่อที่จะได้ใช้งานทักษะได้อย่างเต็มที่ ถ้าเขาจะใช้การรับรู้พิเศษของเขาเพื่อบังคับฝืนมัน มันจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามเดือน

 

“ดูเหมือนจะถึงเวลาแล้วที่ข้าจะต้องเยี่ยมชมอนุสาวรีย์แห่งดาบ”

 

ภายในอนุสาวรีย์แห่งดาบนั้นมีเจตจำนงแห่งดาบของนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในนิกายวารีครามอยู่ หากใครสามารถเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบเหล่านี้ทั้งหมด มันก็จะหมายถึงการเข้าใจทักษะดาบของนิกายวารีครามทั้งหมด จากนั้นรากฐานเต๋าแห่งดาบของพวกเขาก็จะเทียบเท่ากับรากฐานเต๋านิกายแห่งดาบและนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะก่อกำเกิดนักสู้ที่แข็งแกร่งผิดปกติขึ้นมา

 

หลังจากส่งคืนวิชาดาบเพลิงดาวตก วิชาดาบเก้าโคจร และวิชาดาบโคจรเลื่อนไหล หลี่ฟูเฉินมุ่งหน้าไปที่อนุสาวรีย์แห่งดาบ

 

อนุสาวรีย์แห่งดาบตั้งอยู่ในหุบเขาลึก หุบเขานี้ได้รับการตั้งชื่อตามอนุสาวรีย์แห่งดาบและดังนั้นจึงเรียกว่าหุบเขาอนุสาวรีย์ดาบ

 

หุบเขากว้างใหญ่มาก แต่ก็มีคนจำนวนมากเช่นกัน ประมาณ 30 ถึง 40 คน หลี่ฟูเฉินเหลือบมองอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่เป็นผู้อาวุโสชั้นในและส่วนน้อยเป็นผู้อาวุโสชั้นนอกกับศิษย์หลัก

 

ทุกคนคำนึงถึงสิ่งที่ตัวเองต้องทำและทำสมาธิอย่างเงียบๆ บางคนในนั้นจะเริ่มควบคุมทักษะดาบ

 

เมื่อหลี่ฟู่เฉินมาถึง มันไม่ได้ทำให้ใครสนใจเขา

 

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันถูกเรียกว่าอนุสาวรีย์แห่งดาบ”

 

แม้ในระยะไกล หลี่ฟู่เฉินก็รู้สึกถึงเจตจำนงแห่งดาบที่ไหลผ่านออกมาจากอนุสาวรีย์แห่งดาบได้ เจตจำนงแห่งดาบบางเจตจำนงนั้นบอบบางดุจสายน้ำ ร้อนแรงดุจไฟ ดุร้ายราวกับสายฟ้า สะพรั้งเช่นดอกไม้ ร่องลอยคล้ายกับความว่างเปล่า หรือแม้แต่กระทั่งลอยออกมาคล้ายกับเสียงเพลง เข้ารบกวนจิตใจมนุษย์

 

มีเจตจำนงแห่งดาบมากเกินไป ขณะที่เจตจำนงแห่งดาบนั้นถักโยงกันเหมือนตาข่ายเล็กๆ มันจึงยากที่จะเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบเหล่านั้นได้อย่างสมบูรณ์

 

หลี่ฟูเฉินเลือกพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างขณะที่นั่งลงและจ้องมองไปยังอนุสาวรีย์แห่งดาบ

 

บนอนุสาวรีย์แห่งดาบ มีรอยบากจากดาบนับไม่ถ้วน เมื่อลี่ฟู่เฉินจดจ่อไปยังมัน เขาก็คล้ายกับจะเห็นกระบวนดาบที่ใช้ออกกระพริบไปมาอยู่ข้างหน้าเขา กระบวนดาบแต่อย่างนั้นยอดเยี่ยมมาก เป็นสิ่งที่ไร้คำบรรยาย แต่ก็รู้สึกหน้ามืดได้ในเวลาเดียวกัน

 

เมื่อเทียบกับทักษะดาบเหล่านี้ ทักษะดาบของหลี่ฟู่เฉินดูคล้ายกับจะเป็นการละเล่นของเด็กไปเลย และยังอ่อนด้อยเกินไป

 

***

 

เมื่อเวลาผ่านไป

 

หัวใจของหลี่ฟู่เฉินได้รับแรงบันดาลใจขึ้นมา ขณะที่เขาลุกขึ้นและใช้ทักษะดาบ

 

กระบวนดาบนี้คือ ‘เร็วดุจเพลิงดารา’  ของวิชาเพลิงดาวตก

 

ประกายไฟเล็กๆ พุ่งออกมาจากกลางอากาศ มันมีขนาดเล็กและไม่สะดุดตา ในช่วงเวลาต่อไป ประกายไฟก็ระเบิดออกและแสดงพลังทำลายล้างของ ‘เร็วดุจเพลิงดารา’

 

เพลิงดาวตกแพร่กระจายไปทั่วท้องฟ้า

 

อย่างไม่รู้ตัว วิชาดาบเพลิงดาวตกของหลี่ฟู่เฉินบรรลุขั้นดีเลิศแล้ว

 

แม้ว่าระดับการฝึกฝนของหลี่ฟู่เฉินจะต่ำและก็ยังไม่ใกล้กับผู้ที่อยู่ในขอบเขตปฐพีระดับสูง แต่ทว่าการควบคุมของเขานั้นเหนือกว่าที่นักสู้ขอบเขตปฐพีระดับสูงมีเสียอีก ระดับการใช้ออกของกระบวนดาบจึงยอดเยี่ยมหาที่เปรียบมิได้

 

วิชาดาบเก้าโคจร หมุนเก้ารอบทุกๆ การลงดาบ

 

ก่อนหน้านี้หลี่ฟูเฉินทำได้แค่แปดรอบเท่านั้น

 

หลังจากนั่งสมาธิที่อนุสาวรีย์แห่งดาบเป็นเวลาหลายวัน หลี่ฟูเฉินจึงสามารถการหมุนเก้าครั้งต่อหนึ่งดาบได้

 

ด้วยการหมุนเก้าครั้งนี้ มันจึงอนุญาตให้เขาต้านทานพลังต่างๆ และส่งคืนกลับไปยังศัตรู หากกำลังของศัตรูแข็งแกร่งมากกว่า พลังที่ผู้ใช้จะจ่ายออกก็ยิ่งสูงขึ้น

 

ท้ายสุด วิชาดาบโคจรเลื่อนไหล

 

นี่เป็นทักษะดาบที่ดุร้ายอย่างยิ่ง มันสามารถใช้ได้กับพลังเย็นหยินหรือพลังร้อนหยางได้

 

กลางอากาศ เปลวไฟหมุนคล้าบกับกระแสน้ำ สร้างห่วงไฟขึ้นมา ดูดกลืนทุกสิ่งและทำลายล้างทุกอย่าง

 

“ไม่พอ มันยังไม่เพียงพอ”

 

แม้ว่าทักษะดาบลึกลับขั้นกลางจะอยู่ในขั้นดีเลิศทั้งสามทักษะแล้ว แต่หลี่ฟูเฉินยังไม่พอใจ

 

ขั้นดีเลิศของทักษะดาบลึกลับขั้นกลางแข็งแกร่งกว่าทักษะดาบลึกลับขั้นต่ำที่มีเจตจำนงแห่งดาบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันไม่สามารถเพิ่มความสามารถในการต่อสู้โดยรวมของเขาได้มากนัก

 

ด้วยตอนนี้ที่เพิ่มสมาธิมากขึ้น หลี่ฟูเฉินเข้าไปจ้องที่อนุสาวรีย์แห่งดาบอย่างใกล้ชิด และพยายามค้นหาเจตจำนงแห่งดาบที่สามารถคู่กับทักษะดาบทั้งสามของเขาได้

 

“ทักษะดาบนี้คือสิ่งใด?”

 

หลี่ฟูเฉินสังเกตเห็นรอยบากแปลกจากดาบได้โดยไม่ตั้งใจ

 

รอยบากนี้คล้ายกับกองขี้เถ้า ล่องลอยไปตามสายลมและมีร่องรอยของประกายไฟที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

“ทุกสิ่งในสวรรค์และโลกล้วนกลายเป็นเถ้าถ่าน”

 

เสียงสะท้อนออกมาจากความว่างเปล่า ขณะที่หลี่ฟู่เฉินเห็นกระบวนดาบที่กำลังเคลื่อนไหว

 

“กระบวนดาบนี้น่าหวาดกลัวยิ่ง ด้วยการกวัดแกว่งเพียงครั้งเดียว ทุกสิ่งในโลกล้วนกลายเป็นเถ้าถ่าน”

 

‘นี่อาจเป็นหนึ่งในสามทักษะดาบที่สำคัญของนิกายวารีคราม วิชาดาบเถ้าถ่าน?’ หลี่ฟู่เฉินคิดกับตัวเอง

 

นิกายวารีครามมีเทคนิคบ่มเพาะที่ดีที่สุดที่สองเทคนิค ทักษะดาบที่สำคัญสามทักษะ และหนึ่งเทคนิคลับที่เป็นความลับของนิกาย

 

เทคนิคบ่มเพาะดีที่สุดสองเทคนิคได้แก่ เทคนิควารีครามแท้จริงและเทคนิคเพลิงโลกันต์

 

หนึ่งในสามของทักษะที่สำคัญก็คือวิชาดาบเถ้าถ่าน

 

สำหรับเทคนิคลับที่เป็นความลับของนิกาย โดยธรรมแล้วมันย่อมเป็นนิกายต้นกำเนิดดาบ

 

หากใครสามารถฝึกฝนทักษะทั้ง 6 นี้ให้สมบูรณ์ได้ คนผู้นั้นก็สามารถปกครองเหนือสุดและดูถูกผู้อื่นได้ตามใจปราถนา

 

สัมผัสได้ว่าวิชาดาบเถ้าถ่านมีความคล้ายคลึงกับวิชาดาบเพลิงดาวตก หลี่ฟูเฉินเริ่มวิเคราะห์อย่างจริงจัง

 

วันแล้ววันเล่า…

 

หลี่ฟู่เฉินเริ่มดิ่งลึกและลึกลงไป เจตจำนงแห่งดาบที่ซ่อนอยู่ค่อยๆ ก่อเกิดอย่างช้าๆ ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจเขา

 

นั่งอยู่บนพื้นดิน หลี่ฟู่เฉินดึงดาบทองดำของเขาออกมา และฟาดฟันอย่างบ้าคลั่ง

 

เจตจำนงอันเข้มข้นสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน บนพื้นผิวดาบทองดำของหลี่ฟู่เฉินนั้นมีร่องรอยของคลื่น ขณะที่จุดไฟเล็กๆ ลอยขึ้นมา

 

“ไป!”

 

เปิดตาของเขาออก หลี่ฟูเฉินเหวี่ยงดาบของเขา

 

ด้วยแสงดาบไม่สามารถมองเห็นได้ จึงมีเพียงแต่จุดไฟขนาดเล็กเท่านั้นที่เห็นมันถูกยิงออกไป มันร่อนลงบนก้อนหินยักษ์ด้านหน้า เห็นได้ชัดว่าเต็มไปด้วยแรงระเบิด แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงใดๆ สิ่งที่คล้ายหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นตรงก้อนหินทันที หินหนืดเหลวไหลออกมาจากข้างใน ขณะที่ของเหลวบางๆ นั้นกระจายออกไปทั่ว

 

จิตวิญญาณที่อยู่ในสายตาของเขาเหือดหายไปและหลี่ฟู่เฉินก็ฟื้นคืนสติ

 

“นี่คือเจตจำนงเพลิงดาวตกหรือไม่?”

 

ดูที่ส่วนตรงกลางของก้อนหินที่กลายเป็นหินหนืด ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินเบิกกว้าง

 

ทักษะดาบนี้โดดเด่นเกินไป โดดเด่นเสียยิ่งเสียกว่าพลังของวิชาดาบดาวตกหรือพลังของวิชาดาบเรืองรองที่โจมตีแบบหมู่เสียอีก มันน่ากลัวกว่าอย่างน้อยก็สองสามเท่า หากกระบวนดาบนี้ไม่ถูกมองออกเสียก่อน เวลาดำเนินไร้สิ่งใดที่เกิดขึ้น แต่เมื่อดาบถูกเป้าหมาย ความตายจะเป็นผลผลลัพธ์สุดท้ายที่รออยู่

 

หลี่ฟู่เฉินมองนาฬิกาทรายที่เขาแลกมาจากถุงเก็บของเขา

 

15 วันผ่านไปแล้ว มันเร็วกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก

 

เขาคิดว่ามันเป็นเพียงไม่กี่วัน

 

“ยังมีอีก 15 วัน มาใช้มันเถอะ!”

 

ชั่วพริบตาอีก 13 วันผ่านไป หลี่ฟูเฉินเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบเก้าโคจร

 

บางทีอาจเสพติดความรู้สึกนี่แล้ว หลี่ฟู่เฉินยอมใช้คะแนนสนับสนุนอีก 1 ล้านคะแนนเพื่อทำความเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบโคจรเลื่อนไหล

 

ณ ตอนนี้ หลี่ฟู่เฉินมีเจตจำนงแห่งดาบทั้งหมด 10 เจตจำนง

 

เจตจำนงของทักษะดาบลึกลับขั้นต่ำ 7 และทักษะดาบลึกลับขั้นกลาง 3 เจตจำนง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด