Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 307

Now you are reading Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน Chapter 307 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 307

 

เข็มศักดิ์สิทธิ์พลังฉีม่วง

 

 

เทพธิดาระบำแสง หยานฉิงหวู นายน้อยนภาดารา มู่หรงตี๋ นายน้อยต้วนหลิน เซี่ยฮัวชวน เทพธิดาวายุเหมันต์ ซูหลิน นายน้อยวายุ ฮั่นยี๋หมิง และนายน้อยดาบบิน หลั่วเฟ่ยหยุน

 

 

ณ ตอนนี้ หลี่ฟู่เฉินได้เอาชนะนายน้อย 4 จาก 6 ไปแล้ว และยังเทพธิดาอีกทั้ง 2 คนก็เช่นกัน

 

 

หลี่ฟู่เฉินยังไม่ได้พบกับชูมู่หยู แต่เธอก็ได้พ่ายแพ้ให้กับมู่หรงตี๋ไปแล้วและโดยธรรมชาติเธอย่อมไม่สามารถต่อกรกับหลี่ฟู่เฉินได้

 

 

หลังจากเอาชนะนายน้อยวายุ ฮั่นยี๋หมิงได้แล้วนั้น หลี่ฟู่เฉินก็ได้ก้าวเข้าไปสู่เส้นทางที่ไม่อาจหยุดยั้งได้แล้ว เขายืนอยู่บนเสาหินชุบสวรรค์ด้วยร่างสูงตั้งตรงที่ดูราวกับคมดาบ เมื่อมองดูมันให้ความรู้สึกที่ดูเหมือนกับดาบพลังฉีอันแหลมคม

 

 

เขายืนอยู่ตรงกันข้ามกับนายน้อยดาบมังกรจื่อหยูเย่ พวกเขายืนอยู่ห่างกันสุดขั้วเหนือใต้ ไม่นานนักพวกเขาก็ค่อยๆ แรงกดดันของตัวเองออกมาทีละเล็กละน้อย

 

 

ยิ่งการแข่งจัดอันดับดาราผ่านไปนานมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งเริ่มเข้มข้นขึ้นมากเท่านั้น

 

 

ภูเขาโชคชะตาดาราและค่ายกลชุบสวรรค์ดูเหมือนจะมีจิตใจเป็นของตัวเอง ก็ในเมื่อมันคอยควบคุมจังหวะของการแข่งขันในทุกๆ รอบ

 

 

ในนัดที่ 3200 นายน้อยหุบเขานิรันดร์ เถิงฉิงหยุน ต่อสู้กับนายน้อยวายุฮั่นยี๋หมิง

 

 

อาวุธของเถิงฉิงหยุนคือไม้ไผ่ยาวสีเขียวเข้ม ไม้ไผ่ยาวอาจจะดูเหมือนไม้ แต่มันก็ไม่ใช่ไม้ ดูเหมือนโลหะ แต่ก็ไม่ใช่โลหะ มันดูเหมือนกับงานศิลปะชิ้นนึงเสียมากกว่า

 

 

ฮั่นยี๋หมิงใช้เทคนิคตัวเบาที่เหนือชั้นของเขาและไปโผล่รอบๆ ตัวของเถิงฉิงหยุนเพื่อรอโอกาสโจมตี

 

 

แต่ทว่าเถิงฉิงหยุนกลับใช้การเพื่อกระบวนท่าเดียวเพื่อทำให้ฮั่นยี๋หมิงต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง

 

 

ในฐานะคนที่เก่งที่สุดของหกนายน้อย เถิงฉิงหยุนจึงเหนือกว่าในทุกด้าน ไม้ไผ่ยาวสีเขียวเข้มในมือของเขาดูราวกับมีชีวิต เขาเหวี่ยงมันไปตามที่เขาต้องการและเมื่อพลังฉีลากผ่านกลางอากาศ มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงแล้ว ที่ซึ่งเป็นฤดูที่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดก้าวหน้ารุ่งเรืองและเติบโตอย่างไร้ที่สิ้นสุด

 

 

‘เจตจำนงทักษะระดับลึกลับขั้นสูงขั้นสมบูรณ์แบบ!’ หลี่ฟู่เฉินประหลาดใจ

 

 

เขาจะไม่เห็นได้อย่างไรว่าเถิงฉิงหยุนมีเจตจำนงทักษะระดับลึกลับขั้นสูงที่มาถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว? ทุกท่วงท่าและการลงมือแต่ละครั้งมันดูสมบูรณ์แบบมาก

 

 

เสริมด้วยพลังฝึกฝนที่อยู่ในขอบเขตปฐพีระดับสูงสุดของเขา ระดับความประณีตและพลังจึงน่ากลัวอย่างยิ่ง

 

 

“รกพันธ์พืช!”

 

 

บนเวทีวงกลม หลังจากผ่านไปห้ากระบวนท่า เถิงฉิงหยุนก็ระเบิดพลังออกมาพร้อมกับท่าสังหาร ไม้ไผ่ยาวในมือของเขาเปลี่ยนเป็นป่าเงาไผ่ มันเข้าไปโอบล้อมฮั่นยี๋หมิงกำลังที่หลบหนีอยู่ตลอดเวลา

 

 

ปิสส!

 

 

ฮั่นยี๋หมิงพ่นเลือดออกมาและบินกลับไป เขาพ่ายแพ้ในทันที

 

 

ในนัดที่ 3500 เถิงฉิงหยุนต่อสู้กับซูหลิน

 

 

การต่อสู้ระหว่างพวกเขาทั้งสองถือว่ารุนแรงมากมันยิ่งกว่าตอนที่เธอสู้กับหลี่ฟู่เฉินเสียอีก

 

 

ซูหลินใช้เทคนิคบ่มเพาะและพลังฝึกฝนที่สูงของเธอเข้าสู้ ทุกกระบวนท่าของเธอนั้นโดดเด่น เธอสร้างพายุหิมะพลังฉีและนำมันไประเบิดใส่เถิงฉิงหยุน

 

 

ระดับพลังฝึกฝนและขั้นเทคนิคของเถิงฉิงหยุนอาจไม่สูงเท่าซูหลิน แต่ความสามารถด้านทักษะต่อสู้ของเขานั้นเหนือกว่า นอกจากนี้ การรับรู้ของเถิงฉิงหยุนเองก็เหนือกว่ามาก ไม่เช่นนั้นแล้ว มันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะฮั่นยี๋หมิงได้เพียงแค่หกกระบวนท่า

 

 

ปิส ปิส ปิส ปิส…

 

 

เงาไม้ไผ่ยาวนั้นว่องไวและคล่องแคล่วมาก ขณะที่พวกมันระเบิดพายุหิมะพลังฉีด้วยการระเบิดไปทีละส่วน แต่เมื่อผ่านไปนานๆ เกราะพลังฉีของเถิงฉิงหยุนก็ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งชั้นบางๆ

 

 

“พายุเหมันต์ไร้สิ้นสุด!”

 

 

หลังจากที่เธอก้าวขึ้นสู่ขอบเขตครึ่งก้าวสวรรค์แล้วนั้น ข้อบกพร่องในท่าสังหารของซูหลินจึงมีไม่มากนัก ในชั่วพริบตา พายุหิมะพลังฉีที่รุนแรงก็ได้เข้าไปทำลายเถิงฉิงหยุน

 

 

“นี่แหละที่ข้าต้องการ”

 

 

เถิงฉิงหยุนมีสีหน้าเคร่งขรึม ในขณะที่ไม้ไผ่ยาวสีเขียวเข้มของเขาถูกเคลือบด้วยชั้นสีม่วงในทันที

 

 

สีม่วงเรืองแสง ยันต์ปีศาจม่วง

 

 

“ทำลาย!”

 

 

เถิงฉิงหยุนตะโกนออกมา ในขณะที่ไม้ไผ่ยาวสีม่วงของเขาพุ่งออกไปพร้อมกับสภาวะพลังฉีที่ยิ่งใหญ่ มันแทงทะลุผ่านพายุหิมะพลังฉี

 

 

ฉึก!

 

 

พลังฉีสีม่วงเป็นเหมือนกับเข็มที่ได้แทงทะลุเกราะป้องกันพลังฉีของซูหลิน มันแทงเข้าไปในร่างกายของเธอทันที

 

 

เลือดสดพ่นออกมาในขณะที่ซูหลินถอยกลับ

 

 

“ทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงสุด?” ซูหลินตกตะลึง

 

 

เถิงฉิงหยุนไม่ได้ฉวยโอกาส เขากล่าวอย่างช้าๆ “ใช่แล้ว ทักษะต่อสู้ของข้าเรียกว่า เข็มศักดิ์สิทธิ์พลังฉีม่วงข้ายังฝึกไม่ถึงกับขั้นที่เกิดเจตจำนง แต่มันอยู่ในขั้นดีเลิศแล้ว มันสามารถทำลายเกราะพลังฉีของเจ้าได้อย่างง่ายดาย”

 

 

“ทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงสุดอยู่ในขั้นดีเลิศ?” ทุกคนอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

 

 

ตามชื่อที่ปรากฏ ทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงสุดนั้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาทักษะต่อสู้ระดับลึกลับด้วยกันเอง เนื่องจากยุคปัจจุบันมีทักษะต่อสู้ระดับปฐพีอยู่น้อยนิด ทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงสุดจึงเป็นที่สุดของทักษะในตอนนี้แล้วอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

 

 

ทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงสุดในขั้นดีเลิศอาจจะไม่มีเจตจำนงใดๆ แต่วิธีการโคจรพลังฉีเองกลับลึกลับอย่างยิ่ง

 

 

เห็นได้ชัดว่าเข็มศักดิ์สิทธิ์พลังฉีม่วงของเถิงฉิงหยุนสามารถควบแน่นพลังฉีจำนวนมากมาเป็นเข็มเล่มเล็กๆ ได้และมันยังสามารถทำลายการเกราะพลังฉีได้ทุกชนิด นับประสาอะไรกับซูหลิน บางทีแม้แต่กระทั้งสามราชาดาราก็ไม่เต็มใจที่จะรับการโจมตีนี้

 

 

‘ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขายืนอยู่จุดสูงสุดของหกนายน้อย เขาได้ฝึกฝนทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงสุดไปจนถึงขั้นดีเลิศแล้วจริงๆ’ หลี่ฟู่เฉินมองด้วยความชื่นชมอยู่อย่างเงียบๆ

 

 

ทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงถูกจำกัดไว้ด้วยขั้นของมันเอง แม้ว่าจะเข้าใจเจตจำนงและพลังยังเพิ่มขึ้นมาก แต่รูปแบบการโจมตีก็ยังคงด้อยกว่าทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงสุดอบู่

 

 

ทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงสุดถูกยอมรับว่าลึกซึ้งสุดขีดในแง่รูปแบบการโจมตีและกระบวนท่า

 

 

“เหลือเชื่อ เหลือเชื่อจริงๆ ความสามารถด้านทักษะต่อสู้ของเด็กคนนี้กำลังจะตามข้าทันแล้ว” จ้าวหวูจินยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

 

 

เขาอยู่ในระดับสูงสุดของขอบเขตสวรรค์ แต่ก็เพิ่งเข้าใจเจตจำนงทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงสุดได้ไม่นานมานี้

 

 

โอหยางเหวินเทียนกล่าว “เด็กผู้นี้เป็นหนึ่งในบุคคลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในรุ่นนี้ มันเป็นเรื่องปกติที่เขาจะมีความสามารถด้านทักษะต่อสู้เช่นนี้ได้”

 

 

หากเปรียบเทียบกกันแล้ว โอหยางเหวินเทียนอาจจะตกใจ แต่ก็ไม่มากเกินไป

 

 

ในช่วงรุ่นของพวกเขา เหล่าอัจฉริยะชั้นยอดที่ไม่ได้ตายไปก่อน แต่ละคนก็อยู่ในระดับกลางหรือระดับสูงของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดกันทั้งนั้น แต่เขากลับอยู่เพียงระดับที่ 2 ของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดเท่านั้น และมันก็เห็นได้ชัดว่ามีความเหลื่อมล้ำมากเพียงใด

 

 

หากจะเทียบจ้าวหวูจินกับคนอื่นในทวีปนี้ เขาก็ไม่อาจถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้วยซ้ำ กลับไปที่นิกายวารีคราม เขาเป็นเพียงศิษย์หลักระดับทองธรรมดาๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่ต้องจินตนาการถึงความน่ากลัวของอัจฉริยะชั้นยอดเหล่านี้

 

 

ในนัดที่ 3650 เทพธิดาไตรสิกจา เจียงหรั่วหลิวต่อสู้กับนายน้อยดาบทยาน หลั่วเฟ่ยหยุน

 

 

เมื่อเผชิญหน้ากับหนึ่งในสี่เทพธิดาเจียงหรั่วหลิว หลั่วเฟยหยุนไม่กล้าที่จะประมาทและเริ่มหาช่องว่างระหว่างของคู่ต่อสู้เขาในทันที จากนั้นเขาก็ระเบิดพลังและใช้เทคนิคลับดาบบินของเขาออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

เจียงหรั่วหลิวที่อยู่ในขอบเขตครึ่งก้าวสวรรค์ เธอปล่อยสภาวะพลังฉีที่น่าตกตะลึงออกมา มันทั้งดูพร่าเลือนและไม่ชัดเจน เทคนิคลับดาบบินของหลั่วเฟ่ยหยุนที่ไม่สมควรที่จะพลาดเป้า แต่มันก็เหมือนกับว่าดาบบินได้สูญเสียความแม่นยำไป เจียงหรั่วหลิวยืนอยู่ตรงนั้น แต่ทว่ากลับไม่มีการโจมตีใดพุ่งเข้ามาหาเธอเลย

 

 

ทักษะภาพลวงตา? หลี่ฟู่เฉินหรี่ตาของตัวเอง

 

 

พวกเขาทั้งสองเป็นอัจฉริยะชั้นยอด ดังนั้น ทักษะภาพลวงตาของเจียงหรั่วหลิวจึงไม่สมควรทำให้หลั่วเฟ่ยหยุนต้องตกอยู่ในสภาพลวงตาได้ แต่มันง่ายมากถ้าจะทำให้เกิดผลกระทบกับหลั่วเฟ่ยหยุน

 

 

ท้ายที่สุด เจียงหรั่วหลิวที่ใช้ทักษะลวงตาของเธอ หลั่วเฟ่ยหยุนจึงไม่สามารถต่อต้านได้และบินออกไปด้วยฝ่ามือเดียว

 

 

ตอนนี้ นอกเหนือจากราชาดารา สือตูเหล่ย แล้วนั้น แม้แต่กระทั้งราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง และราชาดาราแส้ทองคำ จินซูตง ต่างก็มีสีหน้าเคร่งขรึม

 

 

พวกเขาไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะต้านทานทักษะลวงตาของเจียงหรั่วหลิวได้หรือไม่ พวกเขาไม่คาดคิดว่าหลังผ่านไปจากสามปี ทักษะภาพลวงตาของเธอจะสามารถแพร่มันผ่านทางสภาวะพลังฉีได้ด้วย จากสิ่งนี้มันจึงทำให้ยากที่จะป้องกันยิ่งขึ้น

 

 

ในนัดที่ 3720 เจียงหรั่วหลิวเอาชนะนายน้อยวายุ ฮั่นยี๋หมิง มันก็เนื่องจากเขาไม่มีทางป้องกันทักษะภาพลวงตาของเธอได้

 

 

ในนัดที่ 3900 หลี่ฟู่เฉินต่อสู้กับเถิงฉิงหยุน

 

 

หนึ่งในนั้นคือราชาแห่งม้ามืด และอีกคนได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในหกนายน้อยที่แข็งแกร่งที่สุด การจับคู่ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระดับชนชั้นยอดที่มาชนกันอย่างไม่ต้องสงสัย มันเป็นรองเพียงแค่การแข่งขันระหว่างสองราชาดาราแต่เพียงเท่านั้น

 

 

“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” เถิงฉิงหยุนกล่าวอย่างเฉยเมย

 

 

ไพ่ตายของหลี่ฟู่เฉินสมควรเผยออกมาส่วนใหญ่แล้ว นอกเหนือจากความสามารถในการป้องกันแล้วนั้น หลี่ฟู่เฉินก็แทบจะอยู่ในระดับเดียวกับซูหลินทั้งหมด

 

 

มันเป็นเรื่องบังเอิญมากที่เข็มศักดิ์สิทธิ์พลังฉีม่วงของเถิงฉิงหยุนสามารถทำลายการป้องกันได้เป็นอย่างดี

 

 

มันอาจจะกล่าวได้ว่าเขาเป็นดาวข่มของหลี่ฟู่เฉินก็ไม่ผิด

 

 

“นั่นอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น”

 

 

หลี่ฟู่เฉินมีสีหน้าสงบและไม่ได้รับผลกระทบจากคำประกาศของเถิงฉิงหยุนเลยแม้แต่น้อย

 

 

“โห?”

 

 

เถิงฉิงหยุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นปฏิกิริยาของหลี่ฟู่เฉิน ดูเหมือนว่าหลี่ฟู่เฉินยังคงเก็บไพ่ตายไว้อยู่อีก

 

 

“ข้าเองก็อยากจะเห็นเช่นนั้นว่าไพ่ใบนั้นของเจ้าจะมีดีอะไร” เถิงฉิงหยุนเป็นฝ่ายริเริ่มและโจมตีก่อน ไม้ไผ่ยาวสีเขียวเข้มของเขากลายเป็นเงาหลายเส้นและพุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉิน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด