Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 344 บทที่สี่ขั้นสมบูรณ์แบบ

Now you are reading Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน Chapter 344 บทที่สี่ขั้นสมบูรณ์แบบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Eternal Reverence บทที่ 344 บทที่สี่ขั้นสมบูรณ์แบบ

บทที่ 344

บทที่สี่ขั้นสมบูรณ์แบบ

พื้นที่ว่างใต้พื้นดินนั้นใหญ่มาก ถึงแม้ว่าคนนับล้านจะลงไปด้านใน พวกเขาก็จะ เทียบได้กับมด

ท่ามกลางนิยายทั้งหมด นิกายอุปกรณ์ลึกลับไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญในปรับแต่งอ ปกรณ์แต่เพียงเท่านั้น พวกเขายังค่อนข้างเชี่ยวชาญในรูปแบบของค่ายกลด้วย ผู้ อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งของนิกายอุปกรณ์ลึกลับได้เคลื่อนไหว และทําให้พื้นที่ทางเข้า ซากโบราณสถานของนิกายนภาทมิฬไร้พิษภัยได้ภายในสามวัน

“ฮ่าฮ่า พวกเรารวยแล้ว เสาทั้งต้นนี้ทั้งต้นทํามาจากโลหะระดับลึกลับขั้นสูงจริงๆ ทองแดงลายเขียว ด้วยโลหะเราจะสร้างอาวุธระดับลึกลับขั้นสูงออกมาได้มากแค่ไหน กัน?!”

“ที่นี่มีสมุนไพรเหลืออยู่จริงๆ ระดับลึกลับขั้นสูง ระดับลึกลับขั้นสูงสุด และแม้แต่ระ ดับปฐพีขั้นต่ําก็มีอยู่!”

ซากโบราณสถานของนิกายมีโอกาสมากกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ อีกไม่กี่วันต่อ มา นิกายส่วนใหญ่ล้วนมีรางวัลมากมาย

แต่ยังไม่มีใครได้รับทักษะหรือยาอายุวัฒนะเลย

แต่มันก็สมเหตุสมผลเมื่อคิดถึงมัน เนื่องจากทักษะและยาอายุวัฒนะเป็นโอกาสท่า มกลางโอกาสต่างๆ อีกที่นึง เนื่องจากเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมขอ งบุคคลได้อย่างง่ายดาย มันจะได้รับมาอย่างง่ายดายได้อย่างไร?

ขณะที่พวกเขาเข้าไปในโบราณสถานลึกขึ้น อัตราการตายก็เริ่มเพิ่มขึ้น มีบาง นิกายที่ค่อนข้างโชคร้าย เนื่องจากนักสู้ขอบเขตสวรรค์เกือบทั้งหมดถูกกําจัดออกไป และหลงเหลือขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดไว้ให้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น มันยังมีอีกนิกาย หนึ่งที่โชคร้ายยิ่งกว่า เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดหลงเข้าไปสู่ค่ายกลที่โหดร้ายมาก ทุกคน รวมทั้งนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดของพวกเขา ทั้งหมดตกตายลงทันที โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้เบื้องหลังแม้แต่น้อย

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับหลี่ฟูเฉิน ก็ในเมื่อเขากําลังฝึกร่างกายมังกรค ชสารปลอมแปลงอยู่ เมื่อมีแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 ที่เพียงพอ มันจึงไม่ใช่ เรื่องยากเลยที่เขาจะไปถึงระดับสมบูรณ์แบบของบทที่สี่ตราบเท่าที่เขามีเวลาเพียง พอ

นอกจากนี้ เมื่อบทหลอมร่างกายมังกรคชสารปลอมแปลงมาถึงระดับสมบูรณ์แบบ ในบทที่สี่ เพียงแค่การป้องกันทางกายภาพของเขาเพียงอย่างเดียวก็สามารถปะทะ กับการโจมตีเต็มรูปแบบจากนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงได้แล้ว นี่เป็นสิ่งที่น่าเหลือ เชื่อมากกว่าเกราะป้องกันพลังฉีเสียอีก

***

ผ่านไปหนึ่งเดือน

นักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นก่าเนิดบินขึ้นมาสู่พื้นดิน ร่างกายของเขาทรุดโทรมและมี สภาวะพลังที่อ่อนแอ

“ผู้อาวุโสหู เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? แล้วคนอื่นๆล่ะ?”

“พวกเขาตายกันหมด ข้าเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้”

“อะไรนะ? ตายกันหมด? ผู้อาวุโสหยู และผู้อาวุโสฟูก็ตายด้วยงั้นหรือ?”

นักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดที่เข้ามาดูอาการเขามีสีหน้าซีดเซียวอย่างน่าตกใจ นิกายมีนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นก่าเนิดเพียงหกคนเท่านั้น เมื่อรวมกับสองคนที่ตายไป แล้ว พวกเขาประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่

ต่อจากนั้นมันมักจะมีคนบินออกมาในทุกๆ วัน และคนเหล่านี้ทั้งหมดล้วนเป็นนักสู้ ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิด มันมีนักสู้ขอบเขตสวรรค์เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดมาได้

“ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินความยากในการฝึกฝนของบทหลอมร่างกานมังกรคช สารปลอมแปลงต่าไป แม้จะดื่มแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 จํานวน 1,000 หยด ข้าก็ยังไม่สามารถบรรลุระดับสมบูรณ์แบบในบทที่สี่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ประสิทธิภาพ ของแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 ตอนนี้อยู่ที่ 50% ข้าเกรงว่ามันคงจะเป็นเรื่อง ยากแล้ว หากจะทะลวงไปสู่ระดับสมบูรณ์แบบด้วยแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 เพียงอย่างเดียว”

หลี่ฟูเฉินที่กําลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนพื้นได้ลืมตาขึ้นและร่างกายของเขาก็เปล่งประ กายด้วยสภาวะพลังฉีที่กดขี่ออกมา

เขาอาจจะไม่สามารถฝึกฝนถึงระดับสมบูรณ์แบบของบทที่สี่ได้ แต่ปัจจุบันการ ป้องกันทางกายภาพของเขาก็ยังคงสามารถต้านทานการโจมตีทั้งหมดจากนักสู้ระดับ 5 หรือระดับที่ 6 ของขอบเขตสวรรค์ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ
นี่เป็นเพียงการป้องกันทางกายภาพของเขาเท่านั้น ถ้าเขาใช้เกราะพลังฉีและเก ราะหนังสัตว์ปีศาจระดับ 5 ของเขาด้วย บุคคลที่อยู่ต่ากว่าขอบเขตต้นกําเนิดหรือแม้ แต่กระทั้งปีศาจระดับ 4 ก็ไม่สามารถทําร้ายเขาได้

และนี่เป็นแค่สถานการณ์ที่เขายังไม่เปิดเผยไพ่ตายของเขา
ถ้าหลี่ฟูเฉินเผยไพ่ตายของตัวเองออกมา เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ําว่าความสามารถใน การป้องกันของเขาจะเป็นอย่างไร มันอาจเป็นได้สําหรับเขา ที่อาจสามารถต้านทา นการโจมตีทั้งหมดจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตหวนต้นกาเนิดระดับ 1 ได้
มันได้รับการพิสูจน์แล้วเมื่อตอนที่เขาเผยไพ่ตายทั้งหมดออกมา เพื่อป้องกันกา รโจมตีคลื่นกระแทกจากสัตว์ปีศาจระดับ 5 ขั้นต่ํา อินทรีวายุ

“ข้าสงสัยเกี่ยวกับผลลัพธ์ของแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5”

ด้วยการพลิกฝ่ามือของหลี่ฟูเฉิน ขวดเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้น

ขวดนี้ดูว่างเปล่า และสามารถมองเห็นได้หลังจากดูอย่างระมัดระวังเท่านั้น ที่ด้าน ล่างของขวด เป็นร่องรอยของของเหลวสีเหลืองเข้ม

นี่คือแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจระดับ 5 ที่หลี่ฟูเฉินได้รวบรวมมาโดยเฉพาะใน สนามรบ

สัตว์ปีศาจระดับ 5 อาจทรงพลัง แต่ในระหว่างการต่อสู้ มันย่อมได้รับบาดเจ็บอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้และย่อมต้องมีเลือดไหลออกมาโดยธรรมชาติ ตราบใดที่ได้รับเลื อดจํานวนหนึ่ง มันก็สามารถสกัดเลือดที่บริสุทธิ์ออกมาได้ มันอาจจะไม่มาก เพราะ มันไม่ได้แม้แต่หยดเดียว แต่ประสิทธิภาพของมันก็เป็นบางสิ่งที่แก่นแท้โลหิตสัตว์ปี ศาจระดับ 4 ไม่สามารถเทียบได้

หลังจากดื่มแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจสีเหลืองเข้ม หลี่ฟูเฉินก็ยังคงปรับแต่งร่างกาย ของเขาต่อไป

ฟับ ฟีบ…

แก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ถูกดูดซึมทันทีเมื่อเข้าสู่ร่างกาย มันรู้สึกราวกับว่า พลังฉีกาลังเผาผลาญตัวมันเอง มันทําให้เลือดและกระดูกของหลี่ฟูเฉินราวกับ ถูกแผดเผา

“มันได้ผล!” ใบหน้าของหลี่ฟูเฉินมีความยินดี

ปริมาณแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจระดับ 5 นั้นน้อยเกินไป และหลี่ฟูเฉินก็รู้สึกกัง วลเล็กน้อย

แต่ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว เนื่องจากแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 อันเล็กน้อย นี้สามารถกลั่นร่างกายของเขาในระดับที่ลึกซึ้งกว่ามาก

หากแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 ถูกเรียกว่าเป็นอาหารธรรมดา เช่นนั้นแล้ว แก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ก็คงเป็นโสม

ไม่ว่าเจ้าจะทานอาหารธรรมดามากแค่ไหน เจ้าก็ทําได้แค่บํารุงร่างกายเพียงอย่าง เดียวเท่านั้น

แต่โสมเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้วที่เจ้าจะรู้สึกถึงความแตกต่าง

“ต่อ”

หลังจากแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ดูดซึมเสร็จแล้ว หลี่ฟูเฉินก็นําแก่นแท่โล หิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ออกมาอีกส่วนหนึ่ง

แก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 อันนี้มีสีเทาซีด และดูเหมือนว่าจะมีสีสันมากกว่า

นี่คือแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ขั้นกลาง

แม้ว่าจะเป็นแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 เหมือนๆ กัน แต่แก่นแท้โลหิตระดับ 5 ขั้นกลางนั้นย่อมต้องบริสุทธิ์กว่าโดยธรรมชาติ และมันมีศักยภาพมากกว่าแก่นแท้ โลหิตระดับ 5 ขั้นต่ํามากนัก

หลังจากทานแล้ว หลี่ฟูเฉินก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากําลังถูกปรุงให้สุก ใน ขณะที่เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากการเผาไหม้

เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็โผล่ออกมาจากซากโบราณสถานนิกายนภาทมิฬมากเรือ ยๆ

แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาย่อมต้องมาจากนิกายระดับสองหรือระดับสาม นักสู้ จากนิกายระดับหนึ่งและนิกายชั้นนําล้วนเป็นนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดระดับก ลางไม่ก็สูง

“ผู้อาสุโสโอหยาง ผู้อาวุโสกั่ว ผู้อาวุโสจ้าว”

ไม่นาน ผู้คนจากนิกายวารีครามก็กลับมา แต่มีเพียงแค่สามคนเท่านั้น

“ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายอยู่ที่ไหน?” หนึ่งในผู้อาวุโสชั้นในถาม

(หมายเหตุ TL: ในคําศัพท์ของจีนย่อมมีฝ่ายซ้ายและขวาสําหรับนิกายเสมอ)

จ้าหวูจินกล่าวด้วยน้ําเสียงอันหนักอึ้ง “ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้าย เสียสละตัวเอง”

สถานการณ์วิกฤตยิ่ง และจ้าหวูจินก็สามารถรักษาชีวิตของเขาไว้ได้เพราะเขาอยู่ ภายใต้การคุ้มครองจากผู้อาวุโสโอหยางเกี่ย แต่ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายไม่ได้โชคดีเท่าเขา แม้ว่าผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายจะอยู่ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดระดับที่ 1 แต่เขาก็ถูกฆ่าตาย ในทันที่ด้วยกับดักจากค่ายกล

เมื่อได้ยินข่าว ผู้คนจากนิกายวารีครามต่างก็รู้สึกไม่สบายใจ

หลังจากรวมผู้อาวุโสเหลียงที่ได้ตายในช่วงแรกของสงคราม นิกายวารีครามได้ สูญเสียนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดไปแล้วสองคน ในขณะที่นิกายปีศาจสวรรค์ไม่ ได้สูญเสียนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดเลยแม้แต่คนเดียว ความเหลื่อมล้ําระหว่าง สองนิกายกว้างขึ้นโดยไม่รู้ตัว

หลี่ฟูเฉินเงยหน้าขึ้นมองผู้อาวุโสทั้งสาม และเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ อยู่ในใจ

การเสียสละของผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายควรจะเป็นสิ่งที่ท่าให้หัวใจของทั้งสามหนักอึ้ง และมันไม่ควรมีอารมณ์อื่นใดอีก แต่เมื่อมองไปที่สายตาของพวกเขาหลี่ฟูเฉินสามาร ถมองเห็นร่องรอยของความสุขได้

“พวกเขาได้รับสมบัติบางอย่างมาหรือไม่?” หลี่ฟูเฉินคิดกับตัวเอง

เมื่อหลี่ฟูเฉินคิดเกี่ยวกับมัน อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น หากบุคคลทั้งสามนี้มีทรัพย์ สมบัติที่ทําให้พวกเขามีความสุขอยู่ข้างในได้ มันต้องเป็นสมบัติล้ําค่ามากแน่ๆ อย่าง น้อยที่สุด มันสมควรเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสําหรับนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิด!

หลังจากหายใจเข้าลึกๆ หลี่ฟูเฉินยังคงพาตัวเองจมลงไปในการฝึกฝนบทหลอม ร่างกายมังกรคชสารปลอมแปลง

ไม่กี่วันต่อมา ร่างกายของหลี่ฟูเฉินหดตัวลงเนื่องจากพลังงานที่พุ่งพล่านเกิดขึ้น ภายในร่างกายของเขา

บทที่สี่ของบทหลอมร่างกานมังกรคชสารปลอมแปลงสําเร็จระดับสมบรูณ์แบบ

“ในที่สุดข้าก็มาถึงขั้นสมบูรณ์แบบ” หลี่ฟูเฉินปล่อยพลังที่ตกค้างผ่านการหายใจ

เขาสัมผัสได้ถึงพลังทางกายภาพของเขาที่เพิ่มขึ้นไปจนถึงสัดส่วนที่ไม่รู้จัก ใน ขณะที่กระดูก เนื้อ เส้นชีพจร และแม้แต่กระทั้งผิวของเขาก็แข็งแรงขึ้นหลายเท่า

ปัก!

หลี่ฟูเฉินชักดาบเหล็กดํา และฟันมันใส่แขนด้วยกําลังทั้งหมดที่มี มีเสียงแปลก ประหลาดเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามผิวของเขากับไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย

“ด้วยการป้องกันทางกายภาพของข้าในปัจจุบัน แม้แต่นักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 9 ก็ไม่สามารถทําอันตรายข้าได้ หากข้าใช้เกราะพลังฉีด้วยแล้ว มันก็เพียงพอแล้วที่ จะต้านทานการโจมตีจากปีศาจระดับ 4 ได้ หากข้าเปิดใช้งานเกราะหนังสัตว์ปีศาจระ ดับ 5 ความสามารถในการป้องกันของข้าก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่านี้” หลี่ฟูเอ็นเผยรอยยิ้ม

เป็นช่วงเวลานี้ที่ในที่สุดเขาก็มีสิ่งที่สามารถรับรองความปลอดภัยของเขาได้ เขา อาจจะไม่สามารถปะทะกับนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดได้ตรงๆ แต่อย่างน้อยเขาก็ สามารถเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดได้

“หลังจากถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว ยังคงมีขั้นดีเลิศอยู่อีก ข้าสงสัยว่านานแค่ไหนกัน ก่อนที่ข้าจะไปถึงระดับดีเลิศของบทที่สี่

ระดับดีเลิศของบทที่สี่นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าระดับชั้นปัจจุบันเสียอีก เนื่องจากการ ป้องกันทางกายภาพของเขาอาจจะสามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีทั้งหมดของนักสู้ ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงสุดได้เลย

“หากข้าต้องการฝึกฝนให้ถึงระดับดีเลิศของบทที่สี่ ข้ายังต้องการแก่นแท้ โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ที่มากพอ”

หลี่ฟูเฉินถอนหายใจเพราะแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 นั้นยากเกินไปที่จะได้ รับมัน เป็นการยากที่จะสกัดแก่นแท้โลหิตให้ได้จํานวนมากจากเลือดสัตว์ปีศาจระดับ 5 ที่กระจายอยู่ทั่วพื้น นอกจากนี้ ในช่วงเวลาต่อจากนี้ต่อไป อาจไม่ได้มีการต่อสู้ใดๆ เกิดขึ้นอีก และเขาก็ไม่ต้องการมันด้วยเช่นกัน

“ช่างมันเถอะ ข้าจะค่อยๆ ก้าวไปที่ละก้าว”

เมื่อลุกขึ้น หลี่ฟูเฉินเริ่มสํารวจสัตว์ปีศาจและปีศาจที่อยู่อีกด้านหนึ่ง

สัตว์ปีศาจและปีศาจมีจํานวนน้อยกว่าร้อยนิกายมาก อย่างไรก็ตามแต่ละตัวมันก ลับก็มีสภาวะพลังที่ทรงพลัง หลังจากที่พวกมันรวมตัวกัน พลังฉีปีศาจและพลังฉีอัน ชั่วร้ายเริ่มวนเวียนอยู่รอบ ๆ นี้แล้ว ส่งผลทําให้ราวกับว่าอากาศกําลังบิดเบี้ยวและ พร่ามัว

แม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่หลี่ฟูเฉินก็ยังเห็นร่างใหญ่ได้สองสามตัว

สิบภูมิภาคปีศาจมีตัวตนที่ทรงพลังอยู่ทั้งหมดสิบตัวตน

มันไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังตัวไหนเข้าไปในซากโบราณสถานของนิกายนภาทมิฬ

ด้านซ้ายสุดคือ ปีศาจโลหิต ซึ่งมีความสูงประมาณสิบเมตร ร่างกายของมันถูก ปกคลุมไปด้วยหนามสีเลือดและสภาวะพลังที่ท่วมท้น มันแทบจะกลายเป็นสนามพ ลัง รัศมีขนาดใหญ่ถูกห่อหุ้มด้วยปราณสีเลือดของเขา รัศมีพลังขนาดใหญ่ถูกปกคลุม ไว้ด้วยสภาวะพลังฉีโลหิตของมัน ส่งผลทําให้บรรยากาศรอบด้านราวกับเป็นโลกสี เลือด และเขาก็เป็นผู้ปกครองเพียงตนเดียวของโลกสีเลือดแห่งนี้

ด้านขวาสุดเป็นสัตว์ที่มีหัวเป็นเสื้อและร่างกายเป็นมนุษย์ สิ่งมีชีวิตตนนี้มีสีดําสนิท และแม้แต่หัวเสือก็มีสี่ดา แต่หน้าผากกลับมีลวดลายสีทอง เมื่อพลังฉีปีศาจและพลัง ฉีปีศาจถูกทักทอเข้าด้วยกัน มันจึงให้ความรู้สึกทั้งรุนแรงและดุร้าย

ตัวที่อยู่ด้านหลังที่ไกลที่สุดดูพร่ามัวเล็กน้อยและเหมือนจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นครึ่ง คนครึ่งงู แต่หลี่ฟูเฉินกลับรู้สึกได้ว่าสิ่งมีชีวิตตนนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด

“ราชาปีศาจโลหิต ราชาปีศาจลวดลายพยัคฆ์ และราชินีสาปศิลา”

หลี่ฟูเฉินเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตทั้งสามนี้

ราชาปีศาจโลหิตเป็นผู้ปกครองของภูมิภาคปีศาจโลหิต

ปีศาจลวดลายพยัคฆ์เป็นผู้ปกครองของภูมิภาคปีศาจพยัคฆ์

ราชินีสาปศิลาเป็นผู้ปกครองของภูมิภาคศิลา

ในบรรดาทั้งสามตน ราชาปีศาจโลหิตและปีศาจลวดลายพยัคฆ์มีชื่อเสียงมากกว่า ในอดีตนั้นพวกมันเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ปีศาจระดับ 5 และมันก็โหดร้ายเป็นอย่างยิ่ง ว่ากันว่าเขาให้ที่พักพิงแก่พวกเต่ปีศาจมากมาย เช่นลัทธิโลหิตที่สร้างความหายนะ ให้กับทวีปมันก็เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเช่นกัน และดูเหมือนว่าพวกมันจะอยู่ในเขตของปี ศาจโลหิต

ปีศาจลวดลายพยัคฆ์เป็นสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ระดับ 5 ขั้นสงสด มันมีทั้งพลังฉีปี ศาจและพลังฉีของสัตว์ปีศาจ ส่งผลทําให้มันทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

ราชินีสาปศิลามีชื่อเสียงน้อยกว่า แต่ทุกคนรู้ว่าราชินีสาปศิลาเป็นตัวตนที่เก่าแก่ที่ สุดในสิบภูมิภาคปีศาจ ว่ากันว่าเธอมีสายเลือดของราชาอสูรเหมือนคชสารทลายผา แต่ความเข้มข้นของสายเลือดเธอนั้นเหนือกว่าคชสารทลายผามาก

ความสามารถในการสาปให้คนกลายเป็นหินของเธอทําให้ทั้งทวีปยูนิคอร์นตะวัน ออกถึงกับต้องตกตะลึง เธอต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนที่ 8 และไม่ได้รับ บาดเจ็บใดๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 344 บทที่สี่ขั้นสมบูรณ์แบบ

Now you are reading Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน Chapter 344 บทที่สี่ขั้นสมบูรณ์แบบ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Eternal Reverence บทที่ 344 บทที่สี่ขั้นสมบูรณ์แบบ

บทที่ 344

บทที่สี่ขั้นสมบูรณ์แบบ

พื้นที่ว่างใต้พื้นดินนั้นใหญ่มาก ถึงแม้ว่าคนนับล้านจะลงไปด้านใน พวกเขาก็จะ เทียบได้กับมด

ท่ามกลางนิยายทั้งหมด นิกายอุปกรณ์ลึกลับไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญในปรับแต่งอ ปกรณ์แต่เพียงเท่านั้น พวกเขายังค่อนข้างเชี่ยวชาญในรูปแบบของค่ายกลด้วย ผู้ อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งของนิกายอุปกรณ์ลึกลับได้เคลื่อนไหว และทําให้พื้นที่ทางเข้า ซากโบราณสถานของนิกายนภาทมิฬไร้พิษภัยได้ภายในสามวัน

“ฮ่าฮ่า พวกเรารวยแล้ว เสาทั้งต้นนี้ทั้งต้นทํามาจากโลหะระดับลึกลับขั้นสูงจริงๆ ทองแดงลายเขียว ด้วยโลหะเราจะสร้างอาวุธระดับลึกลับขั้นสูงออกมาได้มากแค่ไหน กัน?!”

“ที่นี่มีสมุนไพรเหลืออยู่จริงๆ ระดับลึกลับขั้นสูง ระดับลึกลับขั้นสูงสุด และแม้แต่ระ ดับปฐพีขั้นต่ําก็มีอยู่!”

ซากโบราณสถานของนิกายมีโอกาสมากกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ อีกไม่กี่วันต่อ มา นิกายส่วนใหญ่ล้วนมีรางวัลมากมาย

แต่ยังไม่มีใครได้รับทักษะหรือยาอายุวัฒนะเลย

แต่มันก็สมเหตุสมผลเมื่อคิดถึงมัน เนื่องจากทักษะและยาอายุวัฒนะเป็นโอกาสท่า มกลางโอกาสต่างๆ อีกที่นึง เนื่องจากเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมขอ งบุคคลได้อย่างง่ายดาย มันจะได้รับมาอย่างง่ายดายได้อย่างไร?

ขณะที่พวกเขาเข้าไปในโบราณสถานลึกขึ้น อัตราการตายก็เริ่มเพิ่มขึ้น มีบาง นิกายที่ค่อนข้างโชคร้าย เนื่องจากนักสู้ขอบเขตสวรรค์เกือบทั้งหมดถูกกําจัดออกไป และหลงเหลือขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดไว้ให้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น มันยังมีอีกนิกาย หนึ่งที่โชคร้ายยิ่งกว่า เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดหลงเข้าไปสู่ค่ายกลที่โหดร้ายมาก ทุกคน รวมทั้งนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดของพวกเขา ทั้งหมดตกตายลงทันที โดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ไว้เบื้องหลังแม้แต่น้อย

แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับหลี่ฟูเฉิน ก็ในเมื่อเขากําลังฝึกร่างกายมังกรค ชสารปลอมแปลงอยู่ เมื่อมีแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 ที่เพียงพอ มันจึงไม่ใช่ เรื่องยากเลยที่เขาจะไปถึงระดับสมบูรณ์แบบของบทที่สี่ตราบเท่าที่เขามีเวลาเพียง พอ

นอกจากนี้ เมื่อบทหลอมร่างกายมังกรคชสารปลอมแปลงมาถึงระดับสมบูรณ์แบบ ในบทที่สี่ เพียงแค่การป้องกันทางกายภาพของเขาเพียงอย่างเดียวก็สามารถปะทะ กับการโจมตีเต็มรูปแบบจากนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงได้แล้ว นี่เป็นสิ่งที่น่าเหลือ เชื่อมากกว่าเกราะป้องกันพลังฉีเสียอีก

***

ผ่านไปหนึ่งเดือน

นักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นก่าเนิดบินขึ้นมาสู่พื้นดิน ร่างกายของเขาทรุดโทรมและมี สภาวะพลังที่อ่อนแอ

“ผู้อาวุโสหู เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า? แล้วคนอื่นๆล่ะ?”

“พวกเขาตายกันหมด ข้าเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้”

“อะไรนะ? ตายกันหมด? ผู้อาวุโสหยู และผู้อาวุโสฟูก็ตายด้วยงั้นหรือ?”

นักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดที่เข้ามาดูอาการเขามีสีหน้าซีดเซียวอย่างน่าตกใจ นิกายมีนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นก่าเนิดเพียงหกคนเท่านั้น เมื่อรวมกับสองคนที่ตายไป แล้ว พวกเขาประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่

ต่อจากนั้นมันมักจะมีคนบินออกมาในทุกๆ วัน และคนเหล่านี้ทั้งหมดล้วนเป็นนักสู้ ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิด มันมีนักสู้ขอบเขตสวรรค์เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดมาได้

“ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินความยากในการฝึกฝนของบทหลอมร่างกานมังกรคช สารปลอมแปลงต่าไป แม้จะดื่มแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 จํานวน 1,000 หยด ข้าก็ยังไม่สามารถบรรลุระดับสมบูรณ์แบบในบทที่สี่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ประสิทธิภาพ ของแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 ตอนนี้อยู่ที่ 50% ข้าเกรงว่ามันคงจะเป็นเรื่อง ยากแล้ว หากจะทะลวงไปสู่ระดับสมบูรณ์แบบด้วยแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 เพียงอย่างเดียว”

หลี่ฟูเฉินที่กําลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนพื้นได้ลืมตาขึ้นและร่างกายของเขาก็เปล่งประ กายด้วยสภาวะพลังฉีที่กดขี่ออกมา

เขาอาจจะไม่สามารถฝึกฝนถึงระดับสมบูรณ์แบบของบทที่สี่ได้ แต่ปัจจุบันการ ป้องกันทางกายภาพของเขาก็ยังคงสามารถต้านทานการโจมตีทั้งหมดจากนักสู้ระดับ 5 หรือระดับที่ 6 ของขอบเขตสวรรค์ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ
นี่เป็นเพียงการป้องกันทางกายภาพของเขาเท่านั้น ถ้าเขาใช้เกราะพลังฉีและเก ราะหนังสัตว์ปีศาจระดับ 5 ของเขาด้วย บุคคลที่อยู่ต่ากว่าขอบเขตต้นกําเนิดหรือแม้ แต่กระทั้งปีศาจระดับ 4 ก็ไม่สามารถทําร้ายเขาได้

และนี่เป็นแค่สถานการณ์ที่เขายังไม่เปิดเผยไพ่ตายของเขา
ถ้าหลี่ฟูเฉินเผยไพ่ตายของตัวเองออกมา เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ําว่าความสามารถใน การป้องกันของเขาจะเป็นอย่างไร มันอาจเป็นได้สําหรับเขา ที่อาจสามารถต้านทา นการโจมตีทั้งหมดจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตหวนต้นกาเนิดระดับ 1 ได้
มันได้รับการพิสูจน์แล้วเมื่อตอนที่เขาเผยไพ่ตายทั้งหมดออกมา เพื่อป้องกันกา รโจมตีคลื่นกระแทกจากสัตว์ปีศาจระดับ 5 ขั้นต่ํา อินทรีวายุ

“ข้าสงสัยเกี่ยวกับผลลัพธ์ของแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5”

ด้วยการพลิกฝ่ามือของหลี่ฟูเฉิน ขวดเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้น

ขวดนี้ดูว่างเปล่า และสามารถมองเห็นได้หลังจากดูอย่างระมัดระวังเท่านั้น ที่ด้าน ล่างของขวด เป็นร่องรอยของของเหลวสีเหลืองเข้ม

นี่คือแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจระดับ 5 ที่หลี่ฟูเฉินได้รวบรวมมาโดยเฉพาะใน สนามรบ

สัตว์ปีศาจระดับ 5 อาจทรงพลัง แต่ในระหว่างการต่อสู้ มันย่อมได้รับบาดเจ็บอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้และย่อมต้องมีเลือดไหลออกมาโดยธรรมชาติ ตราบใดที่ได้รับเลื อดจํานวนหนึ่ง มันก็สามารถสกัดเลือดที่บริสุทธิ์ออกมาได้ มันอาจจะไม่มาก เพราะ มันไม่ได้แม้แต่หยดเดียว แต่ประสิทธิภาพของมันก็เป็นบางสิ่งที่แก่นแท้โลหิตสัตว์ปี ศาจระดับ 4 ไม่สามารถเทียบได้

หลังจากดื่มแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจสีเหลืองเข้ม หลี่ฟูเฉินก็ยังคงปรับแต่งร่างกาย ของเขาต่อไป

ฟับ ฟีบ…

แก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ถูกดูดซึมทันทีเมื่อเข้าสู่ร่างกาย มันรู้สึกราวกับว่า พลังฉีกาลังเผาผลาญตัวมันเอง มันทําให้เลือดและกระดูกของหลี่ฟูเฉินราวกับ ถูกแผดเผา

“มันได้ผล!” ใบหน้าของหลี่ฟูเฉินมีความยินดี

ปริมาณแก่นแท้โลหิตของสัตว์ปีศาจระดับ 5 นั้นน้อยเกินไป และหลี่ฟูเฉินก็รู้สึกกัง วลเล็กน้อย

แต่ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว เนื่องจากแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 อันเล็กน้อย นี้สามารถกลั่นร่างกายของเขาในระดับที่ลึกซึ้งกว่ามาก

หากแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 4 ถูกเรียกว่าเป็นอาหารธรรมดา เช่นนั้นแล้ว แก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ก็คงเป็นโสม

ไม่ว่าเจ้าจะทานอาหารธรรมดามากแค่ไหน เจ้าก็ทําได้แค่บํารุงร่างกายเพียงอย่าง เดียวเท่านั้น

แต่โสมเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้วที่เจ้าจะรู้สึกถึงความแตกต่าง

“ต่อ”

หลังจากแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ดูดซึมเสร็จแล้ว หลี่ฟูเฉินก็นําแก่นแท่โล หิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ออกมาอีกส่วนหนึ่ง

แก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 อันนี้มีสีเทาซีด และดูเหมือนว่าจะมีสีสันมากกว่า

นี่คือแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ขั้นกลาง

แม้ว่าจะเป็นแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 เหมือนๆ กัน แต่แก่นแท้โลหิตระดับ 5 ขั้นกลางนั้นย่อมต้องบริสุทธิ์กว่าโดยธรรมชาติ และมันมีศักยภาพมากกว่าแก่นแท้ โลหิตระดับ 5 ขั้นต่ํามากนัก

หลังจากทานแล้ว หลี่ฟูเฉินก็รู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากําลังถูกปรุงให้สุก ใน ขณะที่เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดจากการเผาไหม้

เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็โผล่ออกมาจากซากโบราณสถานนิกายนภาทมิฬมากเรือ ยๆ

แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาย่อมต้องมาจากนิกายระดับสองหรือระดับสาม นักสู้ จากนิกายระดับหนึ่งและนิกายชั้นนําล้วนเป็นนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดระดับก ลางไม่ก็สูง

“ผู้อาสุโสโอหยาง ผู้อาวุโสกั่ว ผู้อาวุโสจ้าว”

ไม่นาน ผู้คนจากนิกายวารีครามก็กลับมา แต่มีเพียงแค่สามคนเท่านั้น

“ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายอยู่ที่ไหน?” หนึ่งในผู้อาวุโสชั้นในถาม

(หมายเหตุ TL: ในคําศัพท์ของจีนย่อมมีฝ่ายซ้ายและขวาสําหรับนิกายเสมอ)

จ้าหวูจินกล่าวด้วยน้ําเสียงอันหนักอึ้ง “ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้าย เสียสละตัวเอง”

สถานการณ์วิกฤตยิ่ง และจ้าหวูจินก็สามารถรักษาชีวิตของเขาไว้ได้เพราะเขาอยู่ ภายใต้การคุ้มครองจากผู้อาวุโสโอหยางเกี่ย แต่ผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายไม่ได้โชคดีเท่าเขา แม้ว่าผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายจะอยู่ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดระดับที่ 1 แต่เขาก็ถูกฆ่าตาย ในทันที่ด้วยกับดักจากค่ายกล

เมื่อได้ยินข่าว ผู้คนจากนิกายวารีครามต่างก็รู้สึกไม่สบายใจ

หลังจากรวมผู้อาวุโสเหลียงที่ได้ตายในช่วงแรกของสงคราม นิกายวารีครามได้ สูญเสียนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดไปแล้วสองคน ในขณะที่นิกายปีศาจสวรรค์ไม่ ได้สูญเสียนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดเลยแม้แต่คนเดียว ความเหลื่อมล้ําระหว่าง สองนิกายกว้างขึ้นโดยไม่รู้ตัว

หลี่ฟูเฉินเงยหน้าขึ้นมองผู้อาวุโสทั้งสาม และเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ อยู่ในใจ

การเสียสละของผู้พิทักษ์ฝ่ายซ้ายควรจะเป็นสิ่งที่ท่าให้หัวใจของทั้งสามหนักอึ้ง และมันไม่ควรมีอารมณ์อื่นใดอีก แต่เมื่อมองไปที่สายตาของพวกเขาหลี่ฟูเฉินสามาร ถมองเห็นร่องรอยของความสุขได้

“พวกเขาได้รับสมบัติบางอย่างมาหรือไม่?” หลี่ฟูเฉินคิดกับตัวเอง

เมื่อหลี่ฟูเฉินคิดเกี่ยวกับมัน อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้น หากบุคคลทั้งสามนี้มีทรัพย์ สมบัติที่ทําให้พวกเขามีความสุขอยู่ข้างในได้ มันต้องเป็นสมบัติล้ําค่ามากแน่ๆ อย่าง น้อยที่สุด มันสมควรเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสําหรับนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิด!

หลังจากหายใจเข้าลึกๆ หลี่ฟูเฉินยังคงพาตัวเองจมลงไปในการฝึกฝนบทหลอม ร่างกายมังกรคชสารปลอมแปลง

ไม่กี่วันต่อมา ร่างกายของหลี่ฟูเฉินหดตัวลงเนื่องจากพลังงานที่พุ่งพล่านเกิดขึ้น ภายในร่างกายของเขา

บทที่สี่ของบทหลอมร่างกานมังกรคชสารปลอมแปลงสําเร็จระดับสมบรูณ์แบบ

“ในที่สุดข้าก็มาถึงขั้นสมบูรณ์แบบ” หลี่ฟูเฉินปล่อยพลังที่ตกค้างผ่านการหายใจ

เขาสัมผัสได้ถึงพลังทางกายภาพของเขาที่เพิ่มขึ้นไปจนถึงสัดส่วนที่ไม่รู้จัก ใน ขณะที่กระดูก เนื้อ เส้นชีพจร และแม้แต่กระทั้งผิวของเขาก็แข็งแรงขึ้นหลายเท่า

ปัก!

หลี่ฟูเฉินชักดาบเหล็กดํา และฟันมันใส่แขนด้วยกําลังทั้งหมดที่มี มีเสียงแปลก ประหลาดเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามผิวของเขากับไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย

“ด้วยการป้องกันทางกายภาพของข้าในปัจจุบัน แม้แต่นักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 9 ก็ไม่สามารถทําอันตรายข้าได้ หากข้าใช้เกราะพลังฉีด้วยแล้ว มันก็เพียงพอแล้วที่ จะต้านทานการโจมตีจากปีศาจระดับ 4 ได้ หากข้าเปิดใช้งานเกราะหนังสัตว์ปีศาจระ ดับ 5 ความสามารถในการป้องกันของข้าก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่านี้” หลี่ฟูเอ็นเผยรอยยิ้ม

เป็นช่วงเวลานี้ที่ในที่สุดเขาก็มีสิ่งที่สามารถรับรองความปลอดภัยของเขาได้ เขา อาจจะไม่สามารถปะทะกับนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดได้ตรงๆ แต่อย่างน้อยเขาก็ สามารถเอาชีวิตรอดจากการโจมตีของนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกําเนิดได้

“หลังจากถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว ยังคงมีขั้นดีเลิศอยู่อีก ข้าสงสัยว่านานแค่ไหนกัน ก่อนที่ข้าจะไปถึงระดับดีเลิศของบทที่สี่

ระดับดีเลิศของบทที่สี่นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าระดับชั้นปัจจุบันเสียอีก เนื่องจากการ ป้องกันทางกายภาพของเขาอาจจะสามารถเพิกเฉยต่อการโจมตีทั้งหมดของนักสู้ ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงสุดได้เลย

“หากข้าต้องการฝึกฝนให้ถึงระดับดีเลิศของบทที่สี่ ข้ายังต้องการแก่นแท้ โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 ที่มากพอ”

หลี่ฟูเฉินถอนหายใจเพราะแก่นแท้โลหิตสัตว์ปีศาจระดับ 5 นั้นยากเกินไปที่จะได้ รับมัน เป็นการยากที่จะสกัดแก่นแท้โลหิตให้ได้จํานวนมากจากเลือดสัตว์ปีศาจระดับ 5 ที่กระจายอยู่ทั่วพื้น นอกจากนี้ ในช่วงเวลาต่อจากนี้ต่อไป อาจไม่ได้มีการต่อสู้ใดๆ เกิดขึ้นอีก และเขาก็ไม่ต้องการมันด้วยเช่นกัน

“ช่างมันเถอะ ข้าจะค่อยๆ ก้าวไปที่ละก้าว”

เมื่อลุกขึ้น หลี่ฟูเฉินเริ่มสํารวจสัตว์ปีศาจและปีศาจที่อยู่อีกด้านหนึ่ง

สัตว์ปีศาจและปีศาจมีจํานวนน้อยกว่าร้อยนิกายมาก อย่างไรก็ตามแต่ละตัวมันก ลับก็มีสภาวะพลังที่ทรงพลัง หลังจากที่พวกมันรวมตัวกัน พลังฉีปีศาจและพลังฉีอัน ชั่วร้ายเริ่มวนเวียนอยู่รอบ ๆ นี้แล้ว ส่งผลทําให้ราวกับว่าอากาศกําลังบิดเบี้ยวและ พร่ามัว

แม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่หลี่ฟูเฉินก็ยังเห็นร่างใหญ่ได้สองสามตัว

สิบภูมิภาคปีศาจมีตัวตนที่ทรงพลังอยู่ทั้งหมดสิบตัวตน

มันไม่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังตัวไหนเข้าไปในซากโบราณสถานของนิกายนภาทมิฬ

ด้านซ้ายสุดคือ ปีศาจโลหิต ซึ่งมีความสูงประมาณสิบเมตร ร่างกายของมันถูก ปกคลุมไปด้วยหนามสีเลือดและสภาวะพลังที่ท่วมท้น มันแทบจะกลายเป็นสนามพ ลัง รัศมีขนาดใหญ่ถูกห่อหุ้มด้วยปราณสีเลือดของเขา รัศมีพลังขนาดใหญ่ถูกปกคลุม ไว้ด้วยสภาวะพลังฉีโลหิตของมัน ส่งผลทําให้บรรยากาศรอบด้านราวกับเป็นโลกสี เลือด และเขาก็เป็นผู้ปกครองเพียงตนเดียวของโลกสีเลือดแห่งนี้

ด้านขวาสุดเป็นสัตว์ที่มีหัวเป็นเสื้อและร่างกายเป็นมนุษย์ สิ่งมีชีวิตตนนี้มีสีดําสนิท และแม้แต่หัวเสือก็มีสี่ดา แต่หน้าผากกลับมีลวดลายสีทอง เมื่อพลังฉีปีศาจและพลัง ฉีปีศาจถูกทักทอเข้าด้วยกัน มันจึงให้ความรู้สึกทั้งรุนแรงและดุร้าย

ตัวที่อยู่ด้านหลังที่ไกลที่สุดดูพร่ามัวเล็กน้อยและเหมือนจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นครึ่ง คนครึ่งงู แต่หลี่ฟูเฉินกลับรู้สึกได้ว่าสิ่งมีชีวิตตนนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด

“ราชาปีศาจโลหิต ราชาปีศาจลวดลายพยัคฆ์ และราชินีสาปศิลา”

หลี่ฟูเฉินเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตทั้งสามนี้

ราชาปีศาจโลหิตเป็นผู้ปกครองของภูมิภาคปีศาจโลหิต

ปีศาจลวดลายพยัคฆ์เป็นผู้ปกครองของภูมิภาคปีศาจพยัคฆ์

ราชินีสาปศิลาเป็นผู้ปกครองของภูมิภาคศิลา

ในบรรดาทั้งสามตน ราชาปีศาจโลหิตและปีศาจลวดลายพยัคฆ์มีชื่อเสียงมากกว่า ในอดีตนั้นพวกมันเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ปีศาจระดับ 5 และมันก็โหดร้ายเป็นอย่างยิ่ง ว่ากันว่าเขาให้ที่พักพิงแก่พวกเต่ปีศาจมากมาย เช่นลัทธิโลหิตที่สร้างความหายนะ ให้กับทวีปมันก็เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเช่นกัน และดูเหมือนว่าพวกมันจะอยู่ในเขตของปี ศาจโลหิต

ปีศาจลวดลายพยัคฆ์เป็นสัตว์ปีศาจกลายพันธุ์ระดับ 5 ขั้นสงสด มันมีทั้งพลังฉีปี ศาจและพลังฉีของสัตว์ปีศาจ ส่งผลทําให้มันทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

ราชินีสาปศิลามีชื่อเสียงน้อยกว่า แต่ทุกคนรู้ว่าราชินีสาปศิลาเป็นตัวตนที่เก่าแก่ที่ สุดในสิบภูมิภาคปีศาจ ว่ากันว่าเธอมีสายเลือดของราชาอสูรเหมือนคชสารทลายผา แต่ความเข้มข้นของสายเลือดเธอนั้นเหนือกว่าคชสารทลายผามาก

ความสามารถในการสาปให้คนกลายเป็นหินของเธอทําให้ทั้งทวีปยูนิคอร์นตะวัน ออกถึงกับต้องตกตะลึง เธอต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนที่ 8 และไม่ได้รับ บาดเจ็บใดๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+