Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน 222

Now you are reading Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน Chapter 222 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
บทที่ 222
ลวดลายดาบ
ติดตามไปยังทางเดิมที่พวกเขาเคยผ่านมา ในที่สุดพวกเขาทั้งห้าก็เดินออกจากหลุมฝังศพได้
เมื่อพวกเขาหันกลับไปมองประตูโลหะขนาดใหญ่หัวใจของพวกเขาก็ยังมีร่องรอยของความกลัวที่เผยออกมา
เส้นทางเต๋าแห่งการต่อสู้อันตรายเกินไป ใครจะไปคาดคิดว่าร่างกายของพวกเขาจะเกือบถูกยึดครอง
แม้ว่าพวกเขาจะออกจากหลุมฝังศพได้แล้ว พวกเขาทั้งห้าก็ได้รู้ว่าหลุมฝังศพเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของดินแดนแห่งหมอก พวกเขาจะปลอดภัยอย่างแท้จริงหลังจากที่พวกเขาเดินออกจากดินแดนแห่งหมอก
ระหว่างทางกลับ พวกเขาทั้งห้าได้พบกับสัตว์ปีศาจค้างคาวยักษ์อีกตัวหนึ่ง
สัตว์ปีศาจค้างคาวยักษ์เป็นสัตว์ปีศาจชั้นยอดในหมู่สัตว์ปีศาจระดับสูง 3 ก่อนหน้านี้ มันต้องเวลาคนถึงสิบเอ็ดคนเพื่อกำจัดหนึ่งในสัตว์ปีศาจค้างคาวยักษ์ และ พวกเขาส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพาชูมู่หยู
แต่ตอนนี้ เพียงแค่หลี่ฟู่เฉินและชูมู่หยูก็เพียงพอที่จะจำกัดสัตว์ปีศาจค้างคาวยักษ์แล้ว
แต่นี้เป็นเพราะหลี่ฟูเฉินไม่ได้ออกแรงอะไรมากมาย
ในแง่ของพลังโจมตี หลี่ฟู่เฉินยังด้อยกว่าชูมู่หยูมาก แต่ในแง่ของความสามารถในการต่อสู้ เขาแซงหน้าชูมู่หยูอย่างไม่ต้องสงสัย
“ความสามารถของเขา?”
ชูมู่หยูไม่ได้เป็นคนโง่และสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงในความสามารถของหลี่ฟู่เฉิน
ความเร็วและความแข็งแกร่งของหลี่ฟู่เฉินไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ทักษะการต่อสู้ของเขายอดเยี่ยมมาก ถือดาบยาวแต่ก็ยังดูคล่องแคล่ว และเต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาลากลายเส้นบากร่างของค้างคาวยักษ์ มันราวกับว่าทุกแผลถูกวัดด้วยไม้บรรทัด พวกมันทั้งหมดมีความยาวเท่ากัน ไม่มีอันไหนที่ยาวหรือสั้นกว่ากันเลย
“หากข้าต่อสู้กับเขา ข้าอาจจะแพ้เขาได้”
เธอไม่ต้องการยอมรับมัน แต่ชูมู่หยูก็ไม่ต้องการที่จะโกหกตัวเอง ในแง่ของทักษะการต่อสู้ เธออยู่ต่ำกว่าหลี่ฟู่เฉินระดับหนึ่ง
การเคลื่อนไหวทุกการเคลื่อนไหวของหลี่ฟู่เฉินมีจุดประสงค์และมันไม่ใช่แค่การตอบสนองทางร่างกายแต่เพียงเท่านั้น ทุกอย่างมันราวกับถูกเตรียมล้วนหน้าเอาไว้
ตั้งแต่ต้นจนจบ มันเป็นเหมือนการแสดงและทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
“จิตสำนึกที่น่าหวาดกลัวอะไรเช่นนี้?” ชูมู่หยูนั้นไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่หน้านิ่วคิ้วขมวด
หลังจากกำจัดค้างคาวยักษ์ไปแล้ว พวกเขาทั้งห้าก็ยังมุ่งหน้าต่อไป
ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงชายขอบของหมอกอันหนาแน่น
ด้วยความลังเลเล็กน้อย ทั้งห้าคนเข้าไปในหมอกหนาที่ว่านั้น
ภายในหมอก พวกเขาไม่สามารถมองเห็นนิ้วมือและพึ่งพาความรู้สึกใดๆ ได้
นอกเหนือจากหลี่ฟู่เฉิน ที่เหลือของพวกเขามีระยะสัมผัสเพียงไม่กี่สิบเมตร
หลี่ฟู่เฉินนั้นต่างออกไป หลังจากปล่อยจิตสำนึกของเขา ระยะสัมผัสของเขาขยายไปกว่าหลายร้อยเมตร ตราบใดที่มนุษย์หรือสัตว์ปีศาจใดๆ เข้ามาในรัศมีนี้ พวกเขาจะถูกพบทันทีโดยหลี่ฟูเฉิน
การเดินทางนี้ใช้เวลากว่าสิบวัน มันเป็นตอนนี้เองที่หมอกเริ่มจางลง ตาเปล่าของพวกเขาเริ่มมองเห็นได้แล้วประมาณสองถึงสามเมตร ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับรัศมีประสาทสัมผัสของพวกเขา
“เราเกือบจะออกจากดินแดนแห่งหมอกได้แล้ว” เหว่ยชานเห่อรู้สึกยินดี
“โชคดีที่เราสามารถออกมาได้ ข้าจะจดจำการเดินทางไปหลุมฝังศพครั้งนี้ตลอดไป” ฟานเฉียนสงอาลัย
หลังจากครึ่งวัน สถานที่ที่ทุกคนอยู่ไม่มีหมอกอีกต่อไป
นี่เป็นเวลาที่พวกเขาจะแยกทางกัน
ก่อนจะแยกทางกัน ชูมู่หยูส่งข้อความลับมาถึงหลี่ฟู่เฉิน “ข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้าต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังหลุมฝังศพ ข้าจะตอบแทนเจ้าในอนาคต”
เธอมั่นใจว่าหลี่ฟู่เฉินเป็นคนที่ช่วยทุกคนเอาไว้
หลี่ฟู่เฉินยิ้มและไม่ได้กล่าวสิ่งใด
หลังจากที่เหว่ยชานเห่อและชูมู่หยูได้จากไปแล้ว ฟานเฉียนสงกล่าวขึ้นมาว่า “ไปหาเมืองที่จะพักกันเถอะ!”
“แน่นอน” หลี่ฟู่เฉินพยักหน้า
เขาต้องการเวลาในการย่อยข้อมูลทุกอย่างที่เขาได้รับในหลุมฝังศพ
ไม่กี่วันต่อมา ทั้งสามคนก็มาถึงเมืองพิรุณใบไม้ร่วงในระแวกใกล้เคียง
นี่เป็นเมืองที่ไร้เจ้าเมืองและถูกกครองโดยสามตระกูลใหญ่
หลังจากลงหลักปักฐานในโรงแรมดีๆ แห่งหนึ่งในเมือพิรุณใบไม้ร่วง ทั้งสามก็เริ่มการปลีกวิเวกเข้าสู่การบ่มเพาะ
บทดาบไร้สมบรูณ์ยอดเยี่ยมในแง่ของพลัง แค่บทดาบเหล็กสีดำก็เพียงพอที่จะเพิ่มความสามารถของหลี่ฟู่เฉินได้อย่างมากแล้ว
การเดินทางไปที่หลุมฝังศพนี้ทำให้หลี่ฟู่เฉินรู้ว่าเขาอ่อนแอเกินไป หากเขาไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความสามารถของเขาให้เร็วขึ้น เขาอาจจะไม่โชคดีแบบนี้ในการผจญภัยครั้งต่อไป
เขารู้ดีว่าวิญญาณแท้จริงของ เจ้าของสุสานนั้นถูกทำลายโดยเครื่องรางทองคำ
และมีเพียงเครื่องรางทองคำเท่านั้นที่มีความสามารถนี้
โรงแรมขนาดใหญ่แห่งนี้มีลานนับร้อย หลี่ฟู่เฉินและกลุ่มของเขาต่างก็เลือกลานของตัวเอง
ในสนามหญ้าแห่งหนึ่ง หลี่ฟูเฉินนั่งในท่าไขว้ขา พยายามเข้าใจบทดาบไร้สมบรูณ์บทดาบเหล็กดำ
แก่นแท้ของดาบ ใช้ไขกระดูกเป็นดาบในการสร้างรูปแบบดาบ
รูปแบบดาบนี้เป็นรูปแบบของลวดลาย
เพื่อที่จะสร้างรูปแบบดาบ ก่อนอื่นต้องเข้าใจลวดลายในตัวดาบ
ในบทดาบไร้สมบรูณ์บทดาบเหล็กดำ มีความรู้เกี่ยวกับลวดลายดาบจำนวนมาก หลี่ฟูเฉินรู้สึกว่าถ้าเขาสามารถเข้าใจบทดาบเหล็กดำได้ เขาอาจจะสามารถฝังลวดลายดาบบนดาบประดิษฐ์และกลายเป็นปรมาจารย์ลวดลายดาบ
ปรมาจารย์ลวดลายดาบมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับปรมาจารย์อาวุธ แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด
ปรมาจารย์ลวดลายดาบอาจจะสามารถฝังลวดลายลงดาบได้ แต่อาจไม่รู้วิธีตีดาบขึ้นมา
แต่ปรมาจารย์อาวุธสามารถสร้างดาบได้และสามารถฝังลวดลายลงดาบได้
แน่นอนว่า ปรมาจารย์ลวดลายดาบเป็นชนกลุ่มน้อย
เมื่อนักดาบบางคนที่ไม่สามารถพัฒนาด้วยเต๋าแห่งดาบได้ พวกเขาก็เลือกที่จะเรียนรู้ลวดลายาบและดูว่าพวกเขาสามารถพัฒนามันต่อไปได้อีกหรือไม่
“ซับซ้อนอะไรเช่นนี้”
ภายในบทดาบไร้สมบรูณ์บทดาบเหล็กดำ มีลวดลายดาบสีเหลืองขั้นต่ำมากกว่า 800 ลวดลาย
เพื่อที่จะเข้าใจบทดาบไร้สมบรูณ์บทดาบเหล็กดำ ก่อนอื่นเขาจะต้องเข้าใจลวดลายดาบสีเหลืองขั้นต่ำกว่า 800 ลวดลายให้ได้อย่างถ่องแท้เสียก่อน
หลังจากได้รับความรู้เกี่ยวกับลวดลายดาบสีเหลืองขั้นต่ำกว่า 800 ลวดลาย เขาก็ต้องรวมมันเข้ากับลวดลายดาบสีเหลืองขั้นกลางกว่าอีก 200 ลวดลาย จากนั้นก็เป็นลวดลายดาบสีเหลืองขั้นสูงกว่า 48 ลวดลาย จากนั้นก็เป็นลวดลดาบสีเหลืองขั้นสูงสุดอีก 9 ลวดลาย และท้ายที่สุดก็เป็นลวดลายดาบระดับลึกลับขั้นต่ำอีก 1 ลวดลาย
ลวดลายดาบระดับลึกลับขั้นต่ำ 1 ลวดลายนี้เป็นลวดลายดาบเหล็กดำ
หลี่ฟูเฉินมีจิตสำนึกที่ทรงพลัง มีความสามารถในการลดช่วงเวลาที่ต้องเรียนรู้ลงเป็นพิเศษ และยังมีการรับรู้ที่น่าประหลาดใจ เขาใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์เพื่อทำความเข้าใจอย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับลวดลายดาบสีเหลืองขั้นกว่า 800 ลวดลาย
ถ้าเขาต้องการมัน เขาสามารถฝังลวดลายดาบบนดาบใดก็ได้ ณ ขณะนี้
“ให้ข้าลองกระบวนการสร้างลวดลายดาบ”
หลี่ฟูเฉินดึงกิ่งไม้จากต้นไม้ในภายในลาน เขาจับกิ่งไม้แล้วถ่ายพลังงฉีของเขาลงไป
บนกิ่งที่กว้างสองนิ้ว เส้นของลวดลายเริ่มขยายตัว มันเรืองแสงด้วยแสงที่ละเอียดอ่อนและทำให้กิ่งไม้นี้ดูโดดเด่นเมื่อเทียบกับส่วนที่เหลือ มันราวกับว่ากิ่งไม้นี้กลายเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
ในพริบตาเดียว ลวดลายก็ครอบคลุมไปทั่วกิ่งไม้
ตึก!
จับกิ่งไม้ไว้ในมือข้างหนึ่ง หลี่ฟู่เฉินตวัดไปที่ความว่างเปล่า
ในช่วงเวลาหนึ่ง หลี่ฟูเฉินรู้สึกว่ากิ่งไม้นี้มีความคมขึ้นมาซะเฉยๆ
ความคมนี้เป็นเพียงบางสิ่งที่ดาบประดิษฐ์สามารถมีได้
มีกลิ่นลึกลับแห่งความเสื่อมโทรมลอยออกมา
ปึก!
กิ่งไม้แตกออกเป็นชิ้นๆ และกลายเป็นกองฝุ่นไม้
หลี่ฟูเฉินไม่ได้สนใจเรื่องนี้และคิดกับตัวเอง “ลวดลายอุปกรณ์นี้มีความโดดเด่นอย่างมาก วัสดุต้องมีความแข็งแกร่งสำหรับการฝังลวดลายอุปกรณ์ ในทำนองเดียวกัน ดาบเองก็เหมือนกัน”
เขานำกิ่งไม้อันอื่นออกมา แต่หลี่ฟู่เฉินใลวดลายดาบสีเหลืองขั้นต่ำอีกประเภทหนึ่ง
การสร้างลวดลายดาบเสร็จสมบูรณ์
กิ่งไม้ในมือของเขามีความคมเหมือนอันก่อน แต่ความคมนั้นไม่สำคัญเท่ากับความยืดหยุ่นของกิ่งไม้ เห็นได้ชัดว่ากิ่งไม้นี้ดูน่ากลัวกว่ากิ่งไม้อันก่อนมาก มันทั้งหนาและแน่นเหมือนเหล็กเส้น
ปึก!
มันอาจจะแน่น แต่มันก็ไม่สามารถคงไว้ได้นาน กิ่งไม้ก็ยังแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอยู่ดี
“หากข้าต้องเลือกลวดลายดาบสีเหลืองขั้นต่ำทั้ง 800 ลวดลายนี้ พวกมันมีผลที่ดีๆ เพียงไม่กี่ลวดลายเท่านั้น ความแตกต่างจะอยู่ในสิ่งของที่ต่างกันเท่านั้น ข้าสงสัยว่าลวดลายดาบสีเหลืองขั้นกลางนั้นจะเป็นอย่างไร?”
หลี่ฟูเฉินสนใจลวดลายดาบมากขึ้น ราวกับว่าเขาได้พบสวรรค์ใหม่
หลังจากอีกหนึ่งสัปดาห์ได้ผ่านไป หลี่ฟู่เฉินมีความเข้าใจที่สมบูรณ์แบบเกี่ยวกับลวดลายดาบสีเหลืองขั้นกลางกว่าอีก 200 ลวดลาย
ลวดลายดาบสีเหลืองขั้นกลางถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันกับลวดลายดาบสีเหลืองขั้นต่ำ
มันมีข้อบกพร่องน้อยกว่าลวดลายดาบสีเหลืองขั้นต่ำและแข็งแกร่งกว่ามาก
และมันก็ยังเอาแต่ใจเช่นกัน
กิ่งไม้ไม่มีทางที่จะฝังด้วยลวดลายดาบสีเหลืองขั้นกลางได้ ก่อนที่การก่อตัวจะเสร็จสมบูรณ์ กิ่งไม้ก็จะแตกออก แถมบางครั้งยังระเบิดออกด้วยก็มี
คราวนี้ เขาต้องใช้ไม้ที่แข็งแรงกว่าหรือวัสดุโลหะเพื่อสร้างลวดลายดาบ
ทันใดนั้นเอง หลี่ฟู่เฉินก็คิดถึงปัญหา หากเขามีความรู้เกี่ยวกับลวดลายดาบระดับลึกลับขั้นต่ำที่สมบรูณ์แล้ว ไขกระดูกของเขาจะสามารถทนต่อมันได้หรือไม่ถ้ามันถูกฝังลงในไขกระดูก? มันจะไม่แตกออกใช่หรือไม่?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด