เวลาสามวันผ่านไปในพริบตา วันนี้หอคอยโยวหลิงแห่งแรกถูกปิด วิญญาณจำนวนมากมารวมตัวกันนอกหอคอยโยวหลิง ขณะที่วิญญาณมนุษย์นำโดยเจียงอวิ๋นหลงยืนล้อมรอบอูจิ่วที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้แดง
ดาบตัดวิญญาณนำวิญญาณอาวุธจำนวนมากมายืนเฝ้าอยู่ด้านข้างด้วย อูจิ่วได้บอกดาบตัดวิญญาณว่าการปรากฏตัวของน่าหลานเยว่ในวันนี้จะส่งผลต่อหอคอยโยวหลิงว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ได้หรือไม่ ดังนั้นดาบตัดวิญญาณที่ไม่อยากรอนานไปกว่านี้จึงพาวิญญาณอาวุธทั้งหลายมาดูเหตุการณ์ด้วยตัวเอง
สิ่งที่แปลกคือวิญญาณสัตว์อสูร เมื่อกรรมสิทธิ์ในหอคอยโยวหลิงแห่งที่สี่ถูกวิญญาณอาวุธยึดครองไปได้ ตอนนี้วิญญาณสัตว์อสูรและวิญญาณอาวุธจึงขัดแย้งกันชนิดที่ไม่สามารถประนีประนอมได้ ตามหลักเหตุผลแล้ว เหตุการณ์วันนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิญญาณสัตว์อสูรเลย แต่ไม่รู้ทำไม วิญญาณสัตว์อสูรจำนวนมากจึงมารวมตัวกันอยู่นอกหอคอยโยวหลิงแห่งแรก พวกมันไม่ได้พยายามเข้าไปข้างใน แค่ยืนดูอยู่ข้างนอก ทำให้เหล่าวิญญาณอาวุธที่ดาบตัดวิญญาณพามารู้สึกไม่พอใจมาก
เพราะชัยชนะที่ได้รับมาทำให้วิญญาณอาวุธเงยหน้าอ้าปากต่อหน้าวิญญาณสัตว์อสูรได้ ตอนนี้พวกมันจึงมีความรู้สึกว่าตนเหนือกว่าพวกวิญญาณสัตว์อสูร
วิญญาณสัตว์อสูรไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ดูเหมือนไม่ได้สังเกตเห็นถึงความหยิ่งยโสและความดูถูกที่วิญญาณอาวุธแสดงต่อพวกมัน พวกมันแค่จับกลุ่มกระซิบกระซาบกันเอง ส่วนเรื่องที่พูดอะไรนั้น ไม่ได้ยินจริงๆ
อูจิ่วจิบชาอย่างช้าๆ แล้วมองดูเวลา จากนั้นเขาก็กวักมือเรียกเจียงอวิ๋นหลง เจียงอวิ๋นหลงถอยกลับไปทางด้านหลังทันที แล้วลากครูวิญญาณที่มือเท้าใส่ตรวนเหล็กไว้ออกมาจากกรงเหล็ก
เสียงโซ่ตรวนกระทบพื้นดังกังวานจากกำแพงด้านนอกหอคอยโยวหลิง ครูวิญญาณในสภาพที่น่าเวทนาได้สูญเสียความสง่างามในอดีตไปแล้ว เขาถูกเจียงอวิ๋นหลงและวิญญาณมนุษย์จำนวนนึงลากเหมือนสัตว์เข้ามาในพื้นที่เปิดโล่งนอกหอคอยโยวหลิง.ไอรีนโนเวล.
เจียงอวิ๋นหลงไม่ได้แสดงความเคารพเลยแม้แต่น้อย เขาผลักครูวิญญาณลงไปที่พื้น ครูวิญญาณล้มลงแต่ไม่พูดอะไร ดวงตากวาดมองเหล่าวิญญาณทั้งหลายที่มารวมตัวกันเพื่อเฝ้าดู
การปรากฏตัวของครูวิญญาณดึงดูดความสนใจของวิญญาณมนุษย์จำนวนมาก บางคนไม่ใช่คนที่อูจิ่วพามา แต่มาที่นี่เพื่อชมการแสดงเท่านั้น เมื่อเห็นครูวิญญาณในสภาพน่าเวทนา หลายคนก็ไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไรดี
มีข่าวลือไปทั่วว่าอูจิ่วจับครูวิญญาณ แต่วิญญาณมนุษย์หลายคนก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นความจริงหรือไม่ เมื่อได้เห็นครูวิญญาณในตอนนี้ พวกเขาถึงตระหนักว่าข่าวลือเป็นความจริง!
“ครูวิญญาณถูกจับจริงๆหรือ?”
“ล้อเล่นใช่ไหม……ครูวิญญาณคืออาจารย์ของวิญญาจารย์อูจิ่วไม่ใช่หรือ?”
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”
“ครูวิญญาณเคยสมคบคิดกับจักรพรรดิแห่งความมืดจริงๆหรือ?”
ทันใดนั้น ฝ่ายวิญญาณมนุษย์ก็เกิดประเด็นถกเถียงกันขึ้น ความผิดที่อูจิ่วตราหน้าครูวิญญาณนั้นช่างน่าขำ เขาบอกว่าจักรพรรดิแห่งความมืดเข้ามาในโลกวิญญาณตอนนั้นได้เป็นเพราะเขาสมคบคิดกับครูวิญญาณ และนับตั้งแต่จักรพรรดิแห่งความมืดสิ้นไป ครูวิญญาณก็สละตำแหน่งเพราะเขาสูญเสียการสนับสนุนจากจักรพรรดิแห่งความมืด และสุดท้ายก็ถูกดูหมิ่นดูแคลนจากจ้าววิญญาณ เขาจึงทำได้แค่สละตำแหน่งของตนเพราะไม่มีทางเลือก ไม่ใช่เพราะอยากลงโทษตัวเองตามข่าวลือ
จักรพรรดิแห่งความมืดสร้างบาดแผลทางจิตใจให้กับโลกวิญญาณอย่างมาก แม้ว่าเขาจะไม่ได้ลงมือสังหารหมู่ แต่ก็ได้สร้างความตื่นตระหนกและความหวาดกลัวไว้กับเหล่าวิญญาณที่อาศัยอยู่อย่างสงบสุข หากกล่าวถึงจักรพรรดิแห่งความมืดขึ้นมาเมื่อไร เหล่าวิญญาณก็จะพากันหวาดกลัวจนตัวสั่น
คำสาปแช่งและข้อสงสัยดังก้องอยู่ในหูของครูวิญญาณ ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่เคารพนับถือ แบกรับความเสี่ยงและอันตรายด้วยความเต็มใจ แต่วันนี้ชื่อเขากลับเสียหายได้อย่างง่ายดายเพราะการใส่ร้ายป้ายสีของอูจิ่ว เขาหมดแรงใจที่จะอธิบาย ได้แต่นั่งตัวตรงอยู่บนพื้น และหลับตาลงไม่อยากมองดวงตากล่าวหาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังเหล่านั้น
อูจิ่วมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นครูวิญญาณที่เคยเป็นผู้นำวิญญาณมนุษย์กลายเป็นเป้าหมายของการดูถูกเหยียดหยามของมวลชน เขาก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย