Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]บทที่ 162 กำลังทำอะไรอยู่?

Now you are reading Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] Chapter บทที่ 162 กำลังทำอะไรอยู่? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กรงเล็บมังกรนั้นมีรูปทรงเหมือนกับสนับแขนของอัศวิน เพราะฉะนั้นเซียวเฟิงจึงสวมมันลงไปที่แขนขวาของเขาแทนที่ของเดิมที่เป็นสนับแขนสีเงิน

กระดูกมังกรสีขาวนั้นปกคลุมไปทั้งแขนท่อนล่างของเขา ยาวจนไปถึงข้อศอก ที่ส่วนหน้าสุดของมันก็มีมือกระดูกที่มีเล็บแหลมคมยื่นออกมาปกป้องหลังมือให้ด้วย พอมอง ๆ ดูแล้วมันทำให้รู้สึกเหมือนว่าผิวหนังของชายหนุ่มมันเปิดออกเผยให้เห็นกระดูกเสียอย่างนั้น เกราะแขนที่สามารถปกป้องได้ตั้งแต่ปลายนิ้วยันข้อศอกเนี่ย… มันเจ๋งจริง ๆ

เซียวเฟิงลองขยับแขนขวาไปมา แล้วก็พบว่ามันขยับลำบากนิด ๆ หน่อย ๆ เพราะทรงกระดูกที่นำมาทำเป็นเกราะนั่นแหละ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับการเคลื่อนไหว เขารับได้ เพราะยังไงเสียมันก็เป็นถึงอาร์ติแฟคท์…

ค่าสถานะของเขาเปลี่ยนแปลงไปอีกรอบ สกิลของกรงเล็บมังกรนับได้ว่าแข็งแกร่งไม่ต่างอะไรจากกระโหลกมังกร หากจะบอกว่ากระโหลกมังกรนั้นโดดเด่นเรื่องการตั้งรับ กรงเล็บมังกรนี่ก็โดดเด่นเรื่องการจู่โจมอย่างไม่ต้องสงสัย

การโจมตีที่สามารถหยุดสกิลการฟื้นตัวของเป้าหมายได้ มีประโยชน์มาก ๆ ในการ PK*[1] และโค่นบอส โดยเฉพาะในการ PK การที่ไม่สามารถใช้สกิลรักษาหรือใช้ยาฟื้นฟูพลังชีวิตได้นั้นไม่ต่างอะไรกับความพ่ายแพ้ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง สกิลนี้มันคือคำสาปสำหรับใครก็ตามที่คิดจะมาเป็นศัตรูกับเขาจริง ๆ!

สำหรับการโค่นบอส สิ่งที่สำคัญก็คือการทำให้บอสไม่สามารถรักษาตนเองได้ เพราะทุกคนย่อมรู้ดีกันอยู่แล้วว่าความสามารถในการฟื้นฟูของบอสนั้นน่ากลัวขนาดไหน…

ไม่ต้องพูดถึงสกิลการฟื้นฟูเลือดเลย เพราะค่าฟื้นฟูเลือดปกติของบอสนั้นก็เร็วจนน่าประหลาดใจอยู่แล้ว ดีไม่ดีบางครั้ง ความเร็วในการเพิ่มเลือดของตัวมันเองยังมากกว่าเวลาที่มันเสียเลือดอีก ด้วยเรื่องนี้ เหล่าชาแมนถึงได้โดดเด่นหากต้องเจอบอสที่รักษาตัวเองได้รวดเร็ว เพราะพวกเขามีสกิลที่สามารถยับยั้งความเร็วในการรักษาตนเองของบอสเหล่านั้นได้

แต่ถึงจะบอกว่าสกิลแรกของกรงเล็บมังกรน่ากลัวแล้ว สกิลที่สองของมันเองก็น่ากลัวไม่แพ้กัน

สิ่งนี้จะบอกว่ามันกำลังดูดเลือดศัตรูทุกครั้งที่โจมตีเลยก็ว่าได้!

ความสามารถในการดูดเลือดนั้นตั้งแต่แรกแล้วมันก็ถือเป็นสกิลระดับสูง แต่นี่มันยิ่งกว่านั้น เพราะโดยทั่วไปแล้วสกิลดูดเลือดจะแยกออกจากการโจมตี แต่นี่มันกลับทำให้ทุกการโจมตีเป็นการดูดเลือดจากศัตรูได้! แถมอัตราการดูดเลือดยังสูงถึง 10%!

ด้วยความที่ทั้งกระโหลกมังกรและกรงเล็บมังกรเป็นอาร์ติแฟค์ที่อยู่ในเซ็ตเดียวกัน ดังนั้นมันจึงมีสกิลกดใช้เหมือน ๆ กัน สกิลกดใช้ที่ว่านี้ไม่ได้เพิ่มความเสียหายโดยตรงซะทีเดียว หากแต่มันเป็นบัฟที่หลังจากกดใช้แล้ว จะทำให้ภายใน 5 วินาที การโจมตีทั้งหมดกลายเป็นคริติคอลได้

หากผู้ที่ครอบครองมันเป็นสายอาชีพที่ทำความเสียหายต่อวินาทีได้เยอะ ๆ จำพวกนักเวทหรือไม่ก็นักธนูแล้วละก็ พวกเขาแทบจะเป็นเทพเลยก็ว่าได้ การกดใช้งานสกิลควบคู่ไปกับการโจมตีที่ระห่ำและรุนแรงไม่ว่าจะเป็นสกิลพื้นที่สเกลใหญ่อย่างทะเลเพลิงหรือห่าศรธนู ล้วนแต่จะกลายเป็นสกิลพื้นที่ที่สร้างความเสียหายรุนแรงไม่ต่างอะไรกับการโจมตีของบอสทั้งสิ้น

โชคร้ายที่สำหรับเซียวเฟิงแล้วมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรขนาดนั้น นั่นเพราะเขามีค้อนแห่งการพิพากษาเพียงสกิลเดียวเท่านั้นที่สามารถโจมตีได้

แต่ถึงอย่างนั้นสกิลนี้ก็ยังถือเป็นสิ่งที่เลอค่าอยู่ดี…

ชายหนุ่มยังคงขยับแขนขวาอยู่อีกนิดหน่อย ตอนนี้เซียวเฟิงเริ่มไม่รู้สึกถึงความไม่สะดวกนั้นแล้ว ซึ่งมันทำให้เซียวเฟิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ทันใดนั้นเอง เขาก็นึกถึงซางกวน อาโอเชินขึ้นมาได้และรีบติดต่ออีกฝ่ายไปทันที

“นายอยู่ที่ไหนแล้ว?”

เซียวเฟิงส่งข้อความหาเพื่อนร่วมปาร์ตี้แล้วรีบตรงไปยังจุดที่เด็กหนุ่มช่วยลากตัวผู้พิทักษ์ซ่อนเร้นออกไปให้ ระหว่างทางที่วิ่งไปนั้น เซียวเฟิงรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยเลย เพราะถ้าหากเขาสามารถโค่นผู้พิทักษ์ซ่อนเร้น มันก็มีโอกาสที่เขาจะได้อาร์ติแฟคท์อีกชิ้นหนึ่ง!

“ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทางแยก..”

เด็กหนุ่มรีบตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงไร้ชีวิตชีวา

พลันเมื่อเซียวเฟิงเลี้ยวไปตามทางที่บอก ซางกวน อาโอเชินก็กลายเป็นศพนอนตัวเย็นอยู่บนพื้นไปแล้ว ดูจากสภาพ… เจ้าหนูนี่น่าจะตายมาได้พักหนึ่ง แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเด็กคนนี้สามารถยืนต้านผู้พิทักษ์ซ่อนเร้นไว้ได้หลักนาที เท่านี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าเขาแข็งแกร่งจริง ๆ

มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วสำหรับการที่ต้องมาเผชิญบอสระดับเทพเลเวล 30 เช่นนี้ ผู้เล่นทั่ว ๆ ไปน่ะไม่สามารถรับมือมันได้ง่าย ๆ หรอก

“ระวังตัวด้วยนะพี่ชาย! บอสน่าจะยังอยู่แถวนี้แหละ! ฉันมองไม่เห็นหรอก แต่มันจะต้องอยู่ใกล้ ๆ ร่างของฉันแน่ ๆ!”

ซางกวน อาโอเชินนั้นยังไม่ได้กลับไปยังเมืองเพื่อฟื้น เขาคอยกล่าวเตือนเซียวเฟิงขณะที่นอนเป็นศพอยู่เช่นนั้นและดูว่าอีกฝ่ายจะผ่านไปได้ยังไง

“เข้าใจแล้ว ฉันจะฆ่ามันเอง”

แน่นอนว่าเซียวเฟิงไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้ว แถมยังหวังจะให้ผู้พิทักษ์ซ่อนเร้นนั้นโผล่มาตรงหน้าเลยจะได้ไม่ต้องตามหาตัวให้ยาก

ซู่ม!

ทันทีที่เซียวเฟิงเดินเข้าไปใกล้ศพของซางกวน อาโอเชิน อากาศตรงหน้าก็ถูกผ่าออกพร้อมกับการปรากฏขึ้นของดาบสีเงินที่ตัดผ่าลงมา แสงที่ส่องประกายนั้นทำให้เซียวเฟิงรับรู้ได้ก่อนที่มันจะมาถึงตัวและถอยออกไปทัน

พลาด!

เซียวเฟิงยังคงถอยออกเพื่อสร้างระยะห่างอย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้เห็นดาบโครงกระดูกนั้น ข้อความผลลัพธ์การโจมตีก็ปรากฏขึ้นบนหัวเขาก่อนที่จะได้เตรียมรับมือให้พร้อมเสียอีก นี่มันรวดเร็วเกินไปจนตัวเซียวเฟิงเองยังช็อก

ผู้พิทักษ์ซ่อนเร้นยังคงหลบซ่อนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังโจมตีเรื่อย ๆ แม้จะไม่ปรากฏตัวออกมา สิ่งที่เซียวเฟิงเห็นตอนนี้มีแค่แสงสีเงินจากดาบกระดูกที่ฟาดฟันลงมาเท่านั้น มันยากเกินที่จะสามารถจับทิศทางของบอสตรงหน้าได้จริง ๆ

“สารเลวเอ้ย…”

สถานการณ์ตอนนี้มันตึงเครียดกว่าที่คิดไว้มาก เขาควรจะทำยังไงดีนะ? การล่องหนของผู้พิทักษ์ตนนี้มันสมบูรณ์แบบจนจับทางไม่ได้ และถ้าจับทางไม่ได้ เขาก็ใช้สกิลโจมตีไม่ได้ด้วย สกิลโฮลี่ไลท์จำเป็นต้องมีเป้าหมาย ดังนั้นแล้วมันจึงไร้ประโยชน์กับบอสที่ล่องหนแบบนี้ แล้วยิ่งเป็นนักฆ่าที่ล่องหนได้ด้วย เขายิ่งจับไม่ได้แม้กระทั่งเสียงฝีเท้าเลย!

ฉั้วะ!

ฉั้วะ!

คมดาบสีเงินนั้นพุ่งลงมาโจมตีอย่างต่อเนื่องจากกลางอากาศเช่นเดิม มันเริ่มจะน่ากลัวขึ้นมาจริง ๆ แล้ว สิ่งที่เซียวเฟิงทำได้ตอนนี้มีเพียงคอยหลบหลีกการโจมตีนั้นเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถโต้ตอบได้เลย การหลบซ่อนชนิดที่ไม่เหลือร่องรอยใด ๆ นั้นมันเป็นปัญหาอย่างมาก

อวยพรอาวุธ!

ใช้งาน เขี้ยวมังกรขย้ำ!

แม้จะหมดหวังแต่ก็ยังไม่หมดไฟ เมื่อสกิลอวยพรอาวุธถูกร่ายใส่ตัวเขาเอง พลังโจมตีของชายหนุ่มก็เพิ่มขึ้นสูงกว่า 400 แต้ม ในขณะเดียวกัน สกิลเขี้ยวมังกรขย้ำก็ทำให้การโจมตีใน 5 วินาทีหลังจากนี้ติดคริติคอลทุกครั้ง ด้วยสถานะบัฟตอนนี้มันทำให้เซียวเฟิงอยู่ในสภาวะที่แข็งแกร่งมาก ๆ

ค้อนแห่งการพิพากษา!

เมื่อค้อนยักษ์สีทองปรากฏขึ้นในมือของเขา เซียวเฟิงก็คาดเดาทิศทางที่ผู้พิทักษ์ซ่อนเร้นน่าจะยืนอยู่ก่อนจะฟาดค้อนยักษ์นั้นลงไปเต็มแรง!

-2! คริติคอล!

การโจมตีนั้นโดนเป้าหมายอย่างแน่นอน เพราะมีเลขความเสียหายปรากฏขึ้นมาบนอากาศ ทว่าตัวเลขเหล่านั้นมันมีแค่ 2 หน่วยเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่มันขึ้นว่าคริติคอล เห็นเช่นนั้น…สีหน้าของเซียวเฟิงก็ถอดสีทันที

จากทฤษฏีแล้วเขาน่าจะรับมือกับผู้พิทักษ์ซ่อนเร้นนี้ได้แท้ ๆ และด้วยการโจมตีควบคู่กับกรงเล็บมังกร มันก็น่าจะทำให้บอสตนนี้ไม่สามารถฟื้นฟูเลือดได้ด้วย มันควรจะเป็นแบบนั้นแท้ ๆ แต่กลับกลายเป็นว่าถ้ายังเป็นอย่างที่เห็น เขาอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนเลยกว่าจะโค่นมันได้ แม้ว่าบอสจะไม่สามารถโจมตีเขาได้และทำได้เพียงรับการโจมตีเท่านั้น

“ขอโทษนะ…”

เซียวเฟิงทำได้แค่ยอมจำนนและไม่แสดงความเสียดายออกมา จนกว่าเขาจะแก้ทางสกิลล่องหนของผู้พิทักษ์ซ่อนเร้นได้ ชายหนุ่มคงไม่สามารถโค่นมันได้แน่ ๆ สำหรับบอสเลเวลสูงธาตุอันเดดเช่นนี้ เขาหวังพึ่งได้เพียงพลังเต็มที่ของสกิลโฮลี่ไลท์เท่านั้น ลำพังพลังโจมตีที่ไม่ได้สูงของเขาแล้ว แค่จะทำลายเกราะของมันยังยากเลย

“พี่ชาย พอจะจัดการได้ไหม?”

ซางกวน อาโอเชินที่กลายเป็นศพมานานแล้วไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ ณ จุดที่ศพของเขายังอยู่ได้ในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงเอ่ยถามขึ้นมาแทน

“บอสมันหนังเหนียวไปหน่อย ฉันคงยังฆ่ามันไม่ได้ ถ้ายังไงกลับไปที่จุดเกิดกันก่อนเถอะ”

แม้จะพูดออกไปแบบนั้น แต่เซียวเฟิงก็ไม่ได้กลับออกไปในทันที เขาหันหน้าและย้อนกลับไปยังชั้นที่ 1 ของดันเจี้ยนอีกครั้ง

ผู้พิทักษ์ซ่อนเร้นนั้นไม่ได้ไล่ตามเซียวเฟิงแต่อย่างใด เพราะงั้นเซียวเฟิงจึงรีบออกจากพื้นที่ต่อสู้และใช้ใบวาร์ปเพื่อเคลื่อนที่ออกจากจุดนี้ไปอย่างรวดเร็ว

“พี่ฆ่าบอสที่โจมตีระยะไกลได้แล้วเหรอ? มันดร็อปอะไรออกมาบ้างอะ?”

ท่ามกลางแสงสว่างที่กำลังเจือจางลงจากผลของการวาร์ป ภาพฉากที่คุ้นเคยของเมืองเทียนหลงก็ปรากฏต่อหน้าเซียวเฟิงอีกครั้ง จุดที่เขาวาร์ปมานั้นไม่ได้ไกลจากจุดเกิดเสียเท่าไหร่ ดังนั้นซางกวน อาโอเชินที่กลับมารอที่จุดเกิดก่อนแล้วจึงรีบวิ่งเข้ามาหาทันทีหลังจากที่เห็นว่าชายหนุ่มกลับมา

ถึงแม้ว่าเด็กคนนี้จะตายเร็วไปหน่อย แต่เขาก็ยังอยู่ในแผนที่นั้นโดยที่ไม่ได้กลับมาฟื้นฟูเลือด ดังนั้นมันจึงยังถือว่าเขาอยู่ในทีม ด้วยเหตุนี้เด็กหนุ่มจึงได้ยินเสียงของระบบและทำให้รู้ว่าเซียวเฟิงสามารถปราบบอสระดับเทพเลเวล 30 ลงได้ด้วยตัวคนเดียวจริง ๆ

แทนที่เขาจะรู้สึกตกใจ หนุ่มน้อยคนนี้กลับรู้สึกตื่นเต้นเสียยิ่งกว่าเดิมซะอีก!

นั่นก็เพราะว่านี่เป็นถึงบอสระดับเทพ! เด็กหนุ่มย่อมต้องคาดหวังกับสิ่งที่มันดร็อปจากบอสอยู่แล้ว! มันจะต้องเป็นของระดับเทพแน่ ๆ !

“อืม”

ชัดเจนเลยว่าเซียวเฟิงไม่ทำให้เขาผิดหวัง ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วตอบกลับไป

“มันดร็อปอะไรบ้างเหรอ? โชว์ให้ฉันดูหน่อยสิ!”

ซางกวน อาโอเชินกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิม เขาไม่สนใจเลยว่าตนเองจะอยู่ในจุดวาร์ปที่ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คน หนุ่มน้อยยื่นหน้ายื่นตาไปดูตามตัวเซียวเฟิงแล้วถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“แค่เจ้านี้”

เซียวเฟิงโบกมือขวาขึ้นมาและแสดงให้เห็นเกราะกระดูกที่ถูกสวมไว้ที่แขนขวาของเขาให้อีกฝ่ายดู

“แค่นี้เองเหรอ? แล้วของระดับเทพของฉันอะ?” เด็กชายดูจะชะงักไปขณะที่มองไปยังเกราะแขนกระดูกมังกรชิ้นนั้น

“มันมีแค่สิ่งนี้ที่ดร็อปลงมา ในรายงานของปาร์ตี้ก็น่าจะมีนี่?” เซียวเฟิงพูด อันที่จริงก็ใช่ เพราะในปาร์ตี้นั้นจะมีตัวรายงานทุกคนให้รู้ว่าแต่ละคนในปาร์ตี้เก็บอะไรไปบ้าง

“ทำไมถึงดร็อปมาแค่ชิ้นเดียวเองล่ะ! มันเป็นถึงบอสระดับเทพเลยนะ!” ซางกวน อาโอเชินเปิดดูรายงาน และมันมีเพียงแค่ชิ้นเดียวจริง ๆ ความไม่พอใจของเขามันปรากฏขึ้นในทันที แต่แล้วขณะที่เจ้าตัวกำลังจ้องมองไปยังเกราะกระดูกที่แขนของเซียวเฟิงนั้น ความคิดบางอย่างมันก็ผุดขึ้นมา เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายก่อนจะถามด้วยความลังเล

“หรือว่านี่…คืออาร์ติแฟคท์เหรอ?”

“ใช่”

เซียวเฟิงไม่ได้ปฏิเสธรวมถึงยอมเปิดค่าสถานะต่าง ๆ ของกรงเล็บมังกรให้อีกฝ่ายดูด้วยความใจกว้างอีก

ฟุ่บ!

หลังจากที่ได้ดูสถานะของอาร์ติแฟ็คท์ชิ้นนี้ ร่างของเด็กน้อยก็หายไปต่อหน้าต่อตาเซียวเฟิง ทว่าร่างนั้นกลับมาปรากฏที่เบื้องล่างของเขาเอง อีกฝ่ายกำลังทรุดเข่ากอดขาเซียวเฟิงไว้อย่างแน่นหนึบ

“พี่ชาย! พี่ชายที่รัก! ยกเกราะแขนนั่นให้ฉันเถอะนะ! ฉันฝันอยากจะได้มันมานานแล้วจริง ๆ !”

“ออกไปห่าง ๆ เลย!” เซียวเฟิงสะบัดขาไปมา แต่ไม่ได้เดินหรือหนีไปไหน นั่นเพราะเด็กคนนี้กอดเขาเอาไว้ราวกับกับดักจำพวกกาวก็มิปาน และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เซียวเฟิงไปไหนไม่ได้ด้วย

“ไม่มีทาง! ได้โปรด ยกมันให้ฉันเถอะนะ! ฉันจะไม่ยอมปล่อยพี่เด็ดขาดแม้ว่าฉันจะดูไม่มีศักดิ์ศรีก็ตาม! ความสามารถของเกราะแขนนั่นน่ะ มันเหมาะกับฉันจริง ๆ นะ! ทั้งดูดเลือดทั้งคริติคอลเลย! ฉันอยากได้มันสุด ๆ เลยพี่ชาย!!” เขาไม่ยอมปล่อยมือที่กอดขาของเซียวเฟิงเลยแม้แต่น้อย พร้อมทั้งร้องห่มร้องไห้อยู่บนพื้นจนผู้เล่นรอบข้างเริ่มหันมามอง

พวกเขามองมายังซางกวน อาโอเชินและคิดว่าคน ๆ นั้นเป็นไอ้งี่เง่าไปแล้ว

กระนั้นแล้วเด็กหนุ่มก็ไม่ได้สนใจคนอื่นเลย เพื่อให้ได้มาซึ่งอาร์ติแฟคท์ ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจอะไรเลยจริง ๆ

“จะให้ฉันยอมแลกกับอะไรก็ได้! เอ่อ…อ๊า ใช่แล้ว! ลูกพี่ลูกน้องของฉัน! เอาเป็นเบอร์โทรศัพท์ของลูกพี่ลูกน้องของฉันก็ได้! จะให้บอกที่อยู่ของเธอให้ด้วยก็ได้นะ! ได้โปรด ยกมันให้ฉันเถอะ!”

“ก็บอกให้ไปไกล ๆ!”

สีหน้าของเซียวเฟิงดูบึ้งตึงขึ้นมา คนที่มองมายังพวกเขาทั้งสองนั้นอาจจะคิดว่าตัวเขากลายเป็นตัวตลกไปแล้วก็ได้ นอกจากนี้ อุปกรณ์ทุกชิ้นในเซ็ตมังกรปีศาจน่ะ ล้วนแต่เป็นอาร์ติแฟคท์ทั้งหมด เพราะงั้นชายหนุ่มไม่ยอมยกมันให้ซางกวน อาโอเชินแน่ ๆ! โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทั้งเขาและเจ้าเด็กนี่สัญญากันไว้แค่ระดับเทพเท่านั้น!

“นายมาทำอะไรที่นี่น่ะ?”

ตอนนั้นเอง เสียงที่ฟังดูขี้เกียจแต่เย้ายวนก็ดังขึ้นจากด้านหลังทั้งสอง เป็นเสียงของหญิงสาวที่อ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย

ทั้งสองหนุ่มหันกลับไปมองพร้อม ๆ กันแล้วจึงได้พบว่าเจ้าของเสียงนั้นคือผู้เล่นหญิงผู้มีทรวดทรงอันทรงเสน่ห์กำลังยืนอยู่ รอยยิ้มที่ดูยั่วยวนมาคู่กับใบหน้าที่ดูนุ่มนิ่ม ดวงตาของเธอนั้นชุ่มชื้นเป็นประกาย รวมถึงหน้าอกทรงโตที่อยู่ใต้เสื้อคลุมก็ยังดึงดูดสายตาด้วยความยิ่งใหญ่แบบไม่แพ้ใครของตัวมันเอง ทั้ง ๆ ที่ชุดคลุมของพระนั้นควรจะเป็นชุดที่ทำให้ดูสงบจิตสงบใจได้แท้ ๆ กลับกลายเป็นว่าพอมันมาอยู่กับเธอแล้วกลายเป็นสิ่งที่นำพาจิตใจให้เข้าสู่ความลุ่มหลงได้ไม่ยากเสียอย่างนั้น

เธอคนนี้คือ…จืออี้!

“ดูนั่น! อันดับ 3 ของอันดับเทพธิดา! จืออี้!”

“ว้าว! เธอสวยจริง ๆ ! สวยระดับนี้ควรเป็นอันดับ 1 ของอันดับเทพธิดาได้แล้วนะ! พอได้เห็นตัวจริงแล้ว เธอสวยกว่าในรูปซะอีก!”

“บ้าเอ้ย! ดูหุ่นเธอสิ สุดยอด! อั่ก!? กำเดาไหล!!”

[1] PK = Player Killing การฆ่าผู้เล่นด้วยกันเอง

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *