Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] 363 เมืองแห่งความโศกเศร้าเปิดแล้ว

Now you are reading Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] Chapter 363 เมืองแห่งความโศกเศร้าเปิดแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 363 เมืองแห่งความโศกเศร้าเปิดแล้ว

บทที่ 363 เมืองแห่งความโศกเศร้าเปิดแล้ว

“ฮีลเลอร์? ช่างเถอะ เข้าปาร์ตี้มาก่อน”

ชื่อของผู้เล่นสาวสวยคนนี้คือ หลีเซียนหยุน เธอมองขึ้นลงที่เซียวเฟิง แต่น่าเสียดายที่เซียวเฟิงสวมชุดแฟชั่นและไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ ตอนนี้พวกเขาขาดแค่นักบวช ดังนั้นเธอจึงต้องถามพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย

[ติ๊ง! ผู้เล่นหลีเซียนหยุนเชิญคุณเข้าร่วมปาร์ตี้จักรวรรดิแห่งกาลาดู ยอมรับหรือไม่]

“ยอมรับ”

เซียวเฟิงเลือกยอมรับและเข้าสู่ปาร์ตี้ผู้เล่นสิบเก้าคนทันที

“เซียนหยุน หานักบวชได้แล้วเหรอ? ผู้เล่นคนนั้นชื่อแด๊ดงั้นเหรอ? ชื่อตัวละครแปลก ๆ นี่มันอะไรกัน? เฮ้ย นักประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์? ดูเหมือนว่าจะเป็นคลาสหายากนะเนี่ย แล้วความสามารถในการรักษาล่ะ?”

หลังจากที่เซียวเฟิงเข้ามาในปาร์ตี้ ซึ่งกัปตันดูเหมือนจะเป็นหลีเซียนหยุน สมาชิกในปาร์ตี้ก็เข้ามาหาทันที และนักรบที่ชื่อ ‘ฟีนิกซ์แสวงคู่’ ก็ถามขึ้นมา

“ฉันยังไม่ได้ดูเลย…เดี๋ยวก่อน! ทำไมนายถึงเลเวล 36 ล่ะ?” หลีเซียนหยุนกำลังจะดูค่าสถานะของเซียวเฟิง แต่เมื่อมองแวบแรก เธอก็เห็นเลเวลของเซียวเฟิงและอุทานด้วยความประหลาดใจ

ในปาร์ตี้นี้ ถ้าไม่นับเซียวเฟิงแล้ว คนที่เลเวลต่ำสุดคือเลเวล 39 และผู้เล่นสองคนที่มีเลเวลสูงสุดก็มีเลเวลถึง 41 แล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งคู่เป็นผู้เล่นชั้นสูง

ทว่าเซียวเฟิงก็ไม่เคยได้ยินชื่อตัวละครของพวกเขาเลย จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าผู้เล่นระดับสูงในเขตฮัวเซียถูกแทนที่ไปหรือไม่

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความสงสัยในใจของเซียวเฟิง แม้ว่าชายหนุ่มจะหายตัวไปนานแล้ว แต่ชื่อตัวละครและชื่อคลาสของเขาควรจะโด่งดังในหมู่ผู้เล่นระดับสูง ทว่าผู้เล่นเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ

“แค่เลเวล 36? เขาเป็นพวกขี้เกียจเหรอ?”

นอกจากเซียวเฟิงแล้วยังมีนักบวชสามคนในปาร์ตี้ ซึ่งทุกคนเป็นผู้เล่นหญิงที่ดูดี หลังจากได้ยินว่าเซียวเฟิงมีเลเวลแค่ 36 พวกเขาก็ไม่พอใจ

เนื่องจากมีนักบวชเพียงไม่กี่คนในปาร์ตี้ ถ้ามีใครทำเสียงาน ก็แปลว่าแรงกดดันของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และพวกเขากำลังจะทำภารกิจดันเจี้ยน มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ

“แล้วค่าสถานะของคุณสูงแค่ไหนล่ะ?”

หลีเซียนหยุนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว สาเหตุหลักมาจากเลเวลของเขาต่ำเกินไป เพราะพวกเขาเป็นปาร์ตี้ลงดันเจี้ยน ดังนั้นเขาจะทนแบกคนขี้เกียจมาเก็บเลเวลด้วยได้อย่างไร

เซียวเฟิงไม่ได้พูดอะไรมาก เขาเปิดเผยแผงค่าสถานะของเขาโดยตรง แม้ว่าเซียวเฟิงจะไม่มีของสวมใส่ใด ๆ แต่ค่าสถานะพื้นฐานของเซียวเฟิงก็ไม่ต่ำ เนื่องจากเสี่ยวไป๋และเสี่ยวเสวีย พวกเขาสามารถเพิ่มค่าสถานะให้กับเซียวเฟิงได้ตามระดับการเติบโตของพวกเขา

“ค่าจิตวิญญาณมากกว่า 190 หน่วย ค่าความแข็งแกร่งมากกว่า 160 หน่วย คุณได้มาตรฐานเลยนะเนี่ย มีของสวมใส่ดี ๆ งั้นเหรอ? งั้นมาเลย เร็วเข้า เรารอช้าไม่ได้แล้ว บางทีเขตอื่นก็เริ่มโจมตีแล้ว!”

หลังจากดูค่าสถานะของเซียวเฟิง สีหน้าของหลีเซียนหยุนก็ผ่อนคลายและตื่นเต้นในที่สุด

ด้วยคำสั่งอันเด็ดขาดของกัปตัน บวกกับค่าสถานะอันสูงส่งของเซียวเฟิง คนอื่น ๆ ก็หยุดบ่น และตามหลี่เซียนหยุนเข้าไปในดันเจี้ยน

ทางเข้าดันเจี้ยนคือสโตนเฮนจ์ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนจุดเทเลพอร์ต เมื่อเซียวเฟิงเดินตามเข้าไป ทิวทัศน์ก็เปลี่ยนไป และเขาก็ปรากฏตัวขึ้นในแผนที่ที่ดูเหมือนเหมืองหิน

“ระวังด้วย เราเพิ่งได้ลงดันเจี้ยนนี้เป็นครั้งแรกก็จริง แต่จากข้อมูลของผู้เล่นที่พบดันเจี้ยนนี้ หินทั้งหมดที่อยู่ในนี้อาจจะเป็นมอนสเตอร์ ดังนั้นทุกคนระวังตัวไว้ด้วย”

แผนที่เหมืองหินเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ มันเป็นแผนที่กลางแจ้ง เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็มีภูเขาหิน หินลูกรัง และหินงอกหินย้อยอยู่เต็มไปหมด หลีเซียนหยุนเตือนเสียงดัง แต่ทันทีที่เธอพูดจบ ก็มีใครบางคนถามด้วยความประหลาดใจ

“อะไรนะ? หินทั้งหมดอาจเป็นมอนสเตอร์? มันมีหินทุกที่เลยไม่ใช่หรือไง?”

“ใช่ เราเลยต้องเลือกเส้นทางที่กว้างที่สุด นั่นคืออยู่ตรงกลางและพยายามไม่ทำให้มอนสเตอร์ตัวเล็ก ๆ ทั้งสองฝั่งตื่นตัว ฆ่าบอสให้เร็วที่สุดและชิงการผ่านครั้งแรก!”

“เอาล่ะ นักบวชบัฟเพิ่มการป้องกันให้แนวหน้าและเตรียมบุก!”

ผู้เล่นแนวหน้าสี่คนก้าวออกมา โดยมีนักรบโล่สองคนและนักรับเถื่อนอีกสองคน นักบวชสี่คนในปาร์ตี้ก็แจกบัฟอวยพรการป้องกันและอวยพรชีวิตให้กับพวกเขาตามลำดับคู่

“หืม? ฮีลเลอร์คนนี้มีความสามารถในการบัฟสูงมาก ของสวมใส่ของเขาจะต้องดีมากแน่ ๆ บัฟนี่อย่างน้อยก็เท่ากับของสวมใส่สามชิ้นเลย!”

เซียวเฟิงรับหน้าที่ดูแลนักรบโล่ หลังจากที่เขาเพิ่มบัฟให้นักรบโล่ นักรบโล่ก็พูดด้วยความประหลาดใจทันที

“จริงหรือ? งั้นนายเป็นตัวแทงค์หลักแล้วกัน”

หลีเซียนหยุนเหลือบมองที่เซียวเฟิงด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยแล้วบอกกับนักรบโล่

“ไม่มีปัญหา!” นักรบโล่คนนี้มีความมั่นใจมาก ในตอนนี้ นักรบโล่สองคนในปาร์ตี้มีค่าสถานะใกล้เคียงกัน และมีพลังป้องกันและพลังชีวิตเท่ากัน อย่างไรก็ตาม หากความสามารถในการบัฟของนักบวชที่ดูแลเขาสูง เขาก็จะมีค่าแทงค์ที่สูงกว่าคนอื่น

นักบวชอีกสามคนที่เหลือเป็นผู้เล่นหญิงทั้งหมด การที่เข้าร่วมเปิดภารกิจดันเจี้ยนเพื่อพิชิตรอบแรกได้ ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเธอเป็นฮีลเลอร์ชั้นยอด แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ย่อมรู้สึกไม่พอใจ อย่างไรก็ตามพวกเธอก็ไม่ได้พูดอะไร แต่เดินตามปาร์ตี้ต่อไป

แกร๊ก!

เมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่พื้นที่เหมืองหินอย่างเป็นทางการ ทันทีที่ผู้เล่นแถวหน้าสี่คนเข้ามาใกล้ หินที่อยู่ใกล้ ๆ ทั้งหมดก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันที!

ไม่ว่าจะเป็นหินกลิ้ง แผ่นหินที่มีรอยสับและสิ่วเจาะ หรือหินงอกหินย้อยที่เติบโตตามธรรมชาติจากพื้นดิน ต่างก็เคลื่อนไหว

ทันใดนั้น หินตรงกลางแจ้งก็แตกออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมด้วยเสียง ‘แกร๊ก’ จากนั้นรวมตัวเป็นโกเลมสูง ในขณะที่ร่างหินงอกออกมาจากพื้นดินโดยตรงซึ่งมีหินงอกหินย้อยอยู่บนหัวขนาดใหญ่

โกเลมหินเสริมพลัง

เลเวล: 35

ประเภท: ระดับสูง

คุณสมบัติ: ธรรมชาติ

พลังชีวิต : 4,000/4,000

พลังโจมตี : 201 – 231

พลังโจมตีเวท : 211 – 241

พลังป้องกัน : 180 – 188

ค่าพลังป้องกันเวท : 200 – 220

สกิล: หมัดสะท้าน, ขว้างหิน, ขว้างทราย, กระทืบพื้น, หนังหิน

ทหารหินเสริมพลัง

เลเวล: 35

ประเภท: หายาก

คุณสมบัติ: ธรรมชาติ

พลังชีวิต : 6,000/6,000

พลังโจมตี : 261 – 281

พลังเวท : 271 – 291

พลังป้องกัน : 200 – 228

ค่าพลังป้องกันเวท : 220 – 240

สกิล: หมัดสะท้าน, ขว้างหิน, ขว้างทราย, กระทืบพื้น, หนังหิน, ปืนหิน, ค้อนหินกลิ้ง, เขย่าพสุธา

“พวกมันเป็นมอนสเตอร์เลเวล 35 แถมยังเป็นมอนสเตอร์หายากด้วย ไม่เก่งเท่าไหร่ แต่จำนวนค่อนข้างเยอะ! แยกย้ายกันไปฆ่าซะ!”

แม้ว่าพวกเขาจะเลือกเส้นทางที่เปิดกว้างที่สุด แต่ก็ยังดึงดูดความสนใจของมอนสเตอร์มากมาย มีมอนสเตอร์หินอย่างน้อยสิบห้าตัวล้อมรอบพวกเขา

นักรบโล่สองคนรีบวิ่งไปข้างหน้า และแต่ละคนก็แบ่งกันล่อมอนสเตอร์คนละครึ่ง ทว่าก็ยังมีมอนสเตอร์เหลืออยู่อีกสองสามตัว

แต่โชคดีที่มีนักรบเถื่อนที่พลังป้องกันสูงด้วยบัฟของนักบวช พวกเขารีบเข้าไปรับมือตัวที่เล็ดลอดมาได้ทันที

“นี่เจ็บนิดหน่อยนะ! เร็วเข้า รีบทำค่าความเสียหายต่อวินาทีเร็ว! นักบวชแจกบัฟให้แนวหลัง!”

แม้ว่าพวกมันจะเป็นมอนสเตอร์เลเวล 35 แต่พวกมันก็เป็นระดับสูงที่มาพร้อมพลังโจมตีสูง มันเลยยังเจ็บอยู่มากหากโดนโจมตีเต็ม ๆ

ยิ่งกว่านั้นจำนวนก็มากเกินไป แถวหน้าหลายคนรู้สึกรับแรงกดดันมหาศาล โชคดีที่การเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์หินนั้นงุ่มง่ามและความเร็วในการโจมตีก็ต่ำ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพวกเขา

นักบวชหลายคนได้แจกบัฟอวยพรอาวุธและอวยพรความกล้าให้กับผู้เล่นสายสร้างค่าความเสียหายต่อวินาทีที่อยู่ในแถวหลังทันที เซียวเฟิงก็เช่นกัน

ภายใต้ผลของพลังศักดิ์สิทธิ์ เอฟเฟกต์บัฟของเซียวเฟิงจะเพิ่มขึ้น 50% ดังนั้นถึงแม้จะไม่มีของสวมใส่ แต่ความสามารถในการบัฟของเขาก็ยังโดดเด่นมาก ทั้งนักธนูและนักเวทที่อยู่ในความดูแลของเซียวเฟิงหันหลังกลับและมองที่เซียวเฟิงด้วยความประหลาดใจ จากนั้นพวกเขาก็ทำหน้าที่สร้างค่าความเสียหายต่อวินาทีอย่างหนักหน่วง

การกำหนดค่าปาร์ตี้ของเซียวเฟิงขึ้นอยู่กับจำนวนนักบวช ตามจำนวนนักบวชสี่คน ก็จะมีผู้เล่นสี่คนในแนวหน้าที่จะได้รับบัฟอวยพรการกันและอวยพรชีวิต จากนั้นนักธนูทั้งสี่คนที่ทำค่าความเสียหายต่อวินาทีกายภาพจากระยะไกลก็จะได้รับอวยพรอาวุธเช่นเดียวกับนักเวทสี่คนที่ทำค่าความเสียหายต่อวินาที เวทมนตร์ระยะไกลก็จะได้รับบัฟอวยพรความกล้า

การจัดทีมที่ดีที่สุดคือการจัดคนห้าคนไว้ในแต่ละตำแหน่ง ซึ่งทำให้ทุกคนทำหน้าที่ของตนและมีประสิทธิภาพสูงสุด

แต่นี่เป็นการเปิดภารกิจดันเจี้ยน ดังนั้นจึงมีคลาสเสริมในปาร์ตี้อีกสี่คลาส ซึ่งเป็นคลาสสายควบคุมพื้นที่ รับผิดชอบในการขัดสกิลบอส อย่างเช่นคลาสวิซาร์ดที่รับหน้าที่ดีบัฟบอส และอื่น ๆ

นอกจากจำนวนมอนสเตอร์จำนวนมากแล้ว มันก็ไม่ได้ยากอะไรมาก พวกเขาเก็บกวาดอย่างรวดเร็วก่อนที่ปาร์ตี้จะออกเดินทางลึกเข้าไปในดันเจี้ยน

วันนี้เมืองแห่งความโศกเศร้าได้ต้อนรับผู้คนจำนวนมาก เพราะวันนี้เป็นวันที่เมืองแห่งความโศกเศร้าเปิดให้สาธารณชนเข้ามาอย่างเป็นทางการ!

และเพราะเมืองแห่งความโศกเศร้ามีชื่อเสียงจากสงครามตัดสินของขั้วมหาอำนาจ… มันเลยดึงดูดความสนใจจากกองกำลังนับไม่ถ้วนเข้ามา!

ทันทีที่เปิดเมือง กองกำลังทั้งหมดในเขตฮัวเซียก็ปรากฏตัว พวกเขาทั้งหมดปรากฏตัวจากจุดเทเลพอร์ตและมุ่งหน้าไปยังเมืองแห่งความโศกเศร้า ซึ่งทำให้เมืองแห่งความโศกเศร้าที่ใหญ่เป็นสองเท่าของเมืองหลักระดับสามทั่วไปกลายเป็นเมืองที่แออัด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในเมืองแห่งความโศกเศร้า ก็พบว่าเมืองแห่งความโศกเศร้าสามารถหาซื้อของสวมใส่ระดับทองขั้นสูงและยาหายากที่ไม่เคยปรากฏในตลาดได้ ซึ่งทำให้สถานการณ์ที่แออัดนั้นรุนแรงขึ้นไปอีก ผู้เล่นที่แห่มาไม่มีที่สิ้นสุดกำลังจะทำลายร้านค้าระบบหลายแห่งในเมืองแห่งความโศกเศร้า!

อาจารย์ตี้แห่งเผ่าคนแคระและอาจารย์ตี้อู่หยาแห่งเผ่ามนุษย์ซึ่งนำโดยอาจารย์หนี่อู๋ก็ถูกเฉียนโตวโตวพาตัวไปยังเมืองแห่งความโศกเศร้าได้สำเร็จ

การเล่นแร่แปรธาตุของอาจารย์หนี่อู๋สามารถสร้างยาหายากที่เพิ่มค่าสถานะของผู้เล่นในระยะเวลาสั้น ๆ ได้ ด้วยการจัดหาวัสดุอย่างไม่จำกัดของเฉียนโตวโตว จึงทำให้ผลิตได้มหาศาล

ความน่าดึงดูดใจของยาเหล่านี้ที่มีต่อผู้เล่นนั้นหาใดเปรียบ แม้แต่เซียวเฟิงก็เคยชินกับผลของยาเหล่านี้แล้ว จินตนาการได้เลยว่าในช่วงเวลาสำคัญของการฆ่าผู้เล่น หรือการฆ่าบอส ถ้าใช้ยาหายากที่สามารถเพิ่มค่าสถานะได้ทันใดนี้ สถานการณ์ที่เสียเปรียบจะพลิกกลับในทันที

ดังนั้นหลังจากที่ข่าวเรื่องยาหายากแพร่กระจายออกไป จำนวนผู้เล่นที่มายังเมืองแห่งความโศกเศร้าก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เล่นมากมายมาที่ร้านขายยาโดยเฉพาะ เนื่องจากเฉียนโตวโตวได้จำกัดการซื้อไว้ ผู้เล่นแต่ละคนสามารถซื้อยาหายากนี้ได้เพียงวันละครั้งเท่านั้น ซึ่งสามารถป้องกันพ่อค้าหัวใสที่คิดจะกักตุนยาเหล่านี้ไว้เพื่อเก็งกำไรในตลาดมืด

และอีกเหตุผลที่สำคัญที่สุด นั่นก็คือ ผู้เล่นที่ต้องการซื้อยาจะต้องมาที่เมืองแห่งความโศกเศร้าทุกวันเพื่อซื้อมัน ดังนั้นจะมีการเทเลพอร์ตมายังเมืองแห่งความโศกเศร้าจำนวนมาก ค่าเทเลพอร์ตของเมืองแห่งความโศกเศร้านั้นก็ไม่ถูก ปริมาณผู้เล่นจำนวนมากเช่นนี้จะสร้างรายได้จากการเทเลพอร์ตอย่างมหาศาลทุกวัน!

เช่นเดียวกับอาจารย์ตี้และอาจารย์ตี้อู่หยา พวกเขาสามารถสร้างของสวมใส่ระดับทองที่มีเลเวลถึง 35 หรือแม้แต่เลเวล 40 ได้!

แม้ว่าราคาจะสูง แต่เขตฮัวเซียก็มีผู้เล่นร่ำรวยไม่ขาดสาย ดังนั้นของสวมใส่ที่แข็งแกร่งที่สุดประเภทนี้จะไม่มีวันขาดตลาด!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด