บทที่ 284 สองข่าวใหม่
บทที่ 284 สองข่าวใหม่

[ประกาศผู้เล่นทั่วทั้งเขต! ผู้เล่น ‘ซีเหมินชุยเสวีย’ ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนคลาสที่ 2 เป็นคนที่สองเรียบร้อยแล้ว ได้รับค่าชื่อเสียง 150 แต้ม และกล่องสุ่มไอเทมระดับทอง 1 กล่อง! ขอให้ทุกท่านพยายามทำหน้าที่ของท่านให้ดีที่สุดต่อไป!]

[ประกาศผู้เล่นทั่วทั้งเขต! ผู้เล่น ‘ซีเหมินชุยเสวีย’ ประสบความสำเร็จ…]

[ประกาศผู้เล่นทั่วทั้งเขต! ผู้เล่น ‘ซีเหมินชุยเสวีย’ ประสบความสำเร็จ…]

[ประกาศผู้เล่นทั่วทั้งเขต! ผู้เล่น ‘นักธนูอายุ 17 ที่อยากจะนอนกับนักบวช’ ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนคลาสที่ 2 เป็นคนที่สามเรียบร้อยแล้ว ได้รับค่าชื่อเสียง 100 แต้ม และกล่องสุ่มไอเทมระดับเงิน 1 กล่อง! ขอให้ทุกท่านพยายามทำหน้าที่ของท่านให้ดีที่สุดต่อไป!]

[ประกาศผู้เล่นทั่วทั้งเขต! ผู้เล่น ‘นักธนูอายุ 17 ที่อยากจะนอนกับนักบวช’ ประสบความสำเร็จ…]

[ประกาศผู้เล่นทั่วทั้งเขต! ผู้เล่น ‘นักธนูอายุ 17 ที่อยากจะนอนกับนักบวช’ ประสบความสำเร็จ…]

นี่มันเพิ่งจะผ่านมาวันเดียวเท่านั้นหลังจากที่เซียวเฟิงเปลี่ยนคลาสได้สำเร็จ ผู้เล่นเซ็ตแรกก็เริ่มทยอยเปลี่ยนคลาสกันบ้างแล้วจากประกาศที่ได้ยินล่าสุดนี้

ดังนั้นแล้วเซียวเฟิงจะไม่ยอมเอาเวลาพัฒนาตนเองในเกมมาจมปลักอยู่กับเมืองแห่งความโศกเศร้าแน่ ๆ อย่างที่ทุกคนรู้ ว่าถึงแม้ชายหนุ่มจะก้าวนำทุกคนอยู่ แต่ก้าวนั้นก็ไม่ได้ทิ้งห่างอะไรมากนัก และถ้าเมื่อไหร่ตัวเองเอ้อระเหย ก็อาจจะโดนตามตัวได้ทันอย่างแน่นอน

“ว่ายังไงนะครับ? ภารกิจตามตัวได้เรื่องแล้วเหรอ?”

ตอนนี้เซียวเฟิงอยู่ที่วิหารแห่งแสงภายในนครศักดิ์สิทธิ์ เขาได้รับข่าวนี้จากบิชอปเรนัลด์หลังจากที่เล่นกับเสี่ยวไป๋มาพักหนึ่งแล้วและกำลังเตรียมจะเดินออกจากวิหารไป

ไม่สิ ต้องเรียกว่าอาร์คบิชอปเรนัลด์ถึงจะถูก!

หลังจากที่ภารกิจสมรภูมินั้นจบลง ไม่เพียงแต่เซียวเฟิงเท่านั้นที่ได้รางวัลใหญ่จากภารกิจ อย่างเช่น การสำเร็จภารกิจเปลี่ยนคลาสที่ 2 รวมไปถึงได้กลายเป็นดยุกแห่งความมืด บิชอปเรนัลด์ที่คอยติดตามเซียวเฟิงในฐานะผู้บังคับบัญชากลุ่มของสังฆราชเองก็ยังได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่และได้รับการแต่งตั้งเป็นอาร์คบิชอปด้วยเช่นกันหลังจากกลับมา นอกจากนี้ดูเหมือนเจ้าตัวเองจะดูหนุ่มขึ้นหลังจากที่ได้รับการชำระล้างในบ่อน้ำแห่งความศักดิ์สิทธิ์ แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่าผู้คนจะกลับมามีจิตวิญญาณที่ร้อนแรงหากได้ทำในสิ่งที่มีความสุขน่ะ?

อันที่จริงนอกจากอาร์คบิชอปเรนัลด์แล้ว กัปตันโบลตันที่คอยติดตามเซียวเฟิงเองก็ได้รับการเลื่อนขั้นจากผู้บังคับบัญชาการหน่วยพาลาดินเป็นรองหัวหน้าผู้พิพากษาด้วยเหมือนกัน ทว่าเพราะกัปตันโบลตันนั้นเป็นผู้มีจิตใจแน่วแน่ เขายืนยันที่จะอยู่ที่เมืองเทียนหลงและติดตามบิชอปไคเซอร์ต่อไป แม้อาร์คบิชอปเรนัลด์จะเกลี้ยกล่อมแล้วก็ตาม ด้วยเหตุนี้การเลื่อนขั้นให้กัปตันโบลตันจึงต้องเลื่อนไปก่อน

“ใช่แล้วครับ ท่านอาร์คบิชอป ภารกิจตามตัวที่ปล่อยไปในเมืองหลักต่าง ๆ นั้น มีนักผจญภัยทำมันสำเร็จถึง 4 ครั้ง นั่นหมายถึงอย่างน้อย ๆ ต้องมีเหล่าทัพแห่งความมืดจำนวน 4 กลุ่มถูกตรวจพบขณะกำลังเคลื่อนไหวกันอยู่”

ถึงแม้ว่าอาร์คบิชอปเรนัลด์จะถูกเลื่อนขั้นจนอยู่ในระดับเดียวกับเซียวเฟิงแล้ว แต่ก็ยังเลือกที่จะสุภาพกับเซียวเฟิงอยู่ดี นั่นเพราะหากไม่ได้เซียวเฟิงแล้วล่ะก็ เขาคงไม่มีโอกาสได้เลื่อนขั้นแน่ ๆ

นอกจากนี้ เขาเองก็ยังได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของเซียวเฟิงผู้ที่ถูกเรียกว่า ‘พระเจ้า’ มาแล้วด้วยตาของตนเอง ภายในสนามรบนั้น เหล่าทัพแห่งความมืดกว่าแสนตัวถูกกำจัดภายในเวลาไม่ถึง 2 นาทีเสียด้วยซ้ำ คนคนนี้สามารถขจัดความแออัดของมอนสเตอร์ได้รวดเร็วกว่าทัพหลักหรือผู้เล่นคนอื่นจัดการเสียอีก

“เข้าใจแล้วครับ ถ้ายังไงผมจะรีบไปตรวจสอบดู”

สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับชุดเซ็ตมังกรปีศาจ ดังนั้นเซียวเฟิงจึงมีไฟในการทำมันให้สำเร็จอย่างเปี่ยมล้น ยึดตามเบาะแสที่ได้จากอาร์คบิชอปเรนัลด์ เขามุ่งหน้าตรงไปยังเทวสถานภายในเมืองหลักที่อยู่ห่างจากเมืองแห่งความโศกเศร้าไม่ไกลนักอย่างรวดเร็ว ที่นั่น เขาก็ได้พบกับ NPC สังฆราชที่เป็นผู้รับผิดชอบภารกิจนี้อยู่

“ท่านอาร์คบิชอป…”

“นักผจญภัยรายงานภารกิจกันว่าอย่างไรบ้างครับ?”

เซียวเฟิงข้ามการทำความเคารพของสังฆราชไปแล้วถามสิ่งที่ต้องการโดยตรง

“พวกเขาเจอที่โบราณสถานใต้พิภพครับ เดี๋ยวข้าจะส่งเรื่องให้บิชอปเพื่อจัดเตรียมพาลาดินสำหรับคุ้มกันท่านอาร์คบิชอปให้นะครับ” สังฆราชผู้ซื่อสัตย์ทำสัญลักษณ์ลงไปบนแผนที่ของเซียวเฟิง

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปคนเดียว”

เซียวเฟิงออกจากที่แห่งนี้อย่างรวดเร็วและไปยังจุดเทเลพอร์ตเพื่อพาตนเองไปโผล่ ณ จุดที่ใกล้กับโบราณสถานแห่งนั้นให้มากที่สุดโดยไม่มีการรอคำตอบใด ๆ

การเดินทางครั้งนี้กินเวลาเซียวเฟิงไปกว่าชั่วโมง ถึงแม้ว่าบอสที่อยู่ภายในโบราณสถานชั้นใต้ดินนั้นจะเป็นบอสเผ่าพันธุ์อันเดดเหมือนกันก็จริง แต่มันเป็นแค่บอสระดับทอง ไม่ใช่ผู้คุ้มกันแห่งปราสาทใต้พิภพ เซียวเฟิงสามารถฆ่ามันได้อย่างง่ายดายและสิ่งที่ดร็อปมาก็มีเพียงอาวุธระดับทองเลเวล 30 หลายชิ้นเท่านั้น ไม่ค่อยคุ้มค่าสักเท่าไหร่เลย

เมื่อที่แรกไม่ได้เรื่อง เซียวเฟิงก็รีบเดินทางไปยังจุดอื่น ๆ อีก 3 จุดตามที่มีผู้ส่งเบาะแสมา แต่โชคก็ไม่เข้าข้าง ไม่มีบอสตนไหนเลยในบรรดาบอสเหล่านั้นที่เป็นผู้คุ้มกันแห่งปราสาทใต้พิภพ

แถม 1 ใน 3 ที่ที่เหลือนั้นยังเป็นข่าวลวงด้วย อยากรู้จริงเชียวว่าผู้เล่นหน้าไหนมันกล้าส่งข่าวปลอมในภารกิจเช่นนี้! เซียวเฟิงวิ่งหาจนทั่วแต่ก็ไม่เจอมอนสเตอร์ที่สามารถอ้วกออกมาเป็นของเหลวกลิ่นเหม็นสักตัว เอาเข้าจริง แม้แต่มอนสเตอร์โครงกระดูกสักตัวก็ไม่เห็น ไม่ต้องพูดถึงตัวบอสเลย

เซียวเฟิงที่กำลังหงุดหงิดรีบรายงานกลับไปยังเทวสถานที่ได้รับข่าวปลอมมาพร้อมส่งแจ้งแบล็กลิสต์กลุ่มผู้เล่นที่ส่งภารกิจด้วยข่าวปลอมนี้โทษฐานโกงภารกิจเพื่อให้ได้รางวัลด้วย

“อ๊ะ?”

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เซียวเฟิงกำลังจะออกจากที่นั่น ก็ได้เห็นผู้เล่นคนหนึ่งที่กำลังวิ่งเข้ามาจากไม่ไกลนัก

ถึงแม้ว่าที่แห่งนี้จะเป็นป่าและมันไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะมีผู้เล่นเดินเข้ามาก็จริง แต่มันดันเผอิญว่าคนที่กำลังวิ่งมานั้นเป็นคนรู้จักของเซียวเฟิงซะนี่

ลอว์ก็อด!

ต่อให้เจ้าตัวจะปกปิดชื่อเอาไว้ แต่แค่เหลือบมองเซียวเฟิงก็จำได้แล้ว!

เมื่อตอนที่เซียวเฟิงเข้ามาในเกมใหม่ ๆ เขาถือเป็นศัตรูคนแรกตั้งแต่ในหมู่บ้านเริ่มต้นเลย! แถมยังเป็นผู้นำคนแรกของกิลด์ดูมส์เดย์ลีกอีก!

“แสดงว่าดูมส์เดย์ลีกอยู่ใกล้ ๆ นี้งั้นเหรอ?”

ใบหน้าของเซียวเฟิงแสดงรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะสนอกสนใจสถานการณ์เช่นนี้อยู่ ดูมส์เดย์ลีกนั้นก่อปัญหาไว้กับชายหนุ่มมาก พวกนั้นเคยแม้กระทั่งถ่ายทอดสดตามล่าเซียวเฟิงด้วย

โชคไม่ดีเสียเท่าไหร่ที่ผลสรุปของการต่อสู้กับเซียวเฟิงครั้งนั้นมันน่าอเนจอนาถจนเซียวเฟิงไม่สามารถนึกแค้นได้

แต่ถึงจะไม่แค้นอะไรขนาดนั้น ก็ไม่สามารถปล่อยให้คนพวกนี้รอดไปได้อีก อย่างน้อย ๆ ก็ในฐานะศัตรู

ดูมส์เดย์ลีกทั้งกิลด์ไม่ได้ปรากฏตัวเลยตั้งแต่ที่มิดซัมเมอร์ยกทัพไปถล่มกิลด์กลอรี่ คนเหล่านี้หายจากที่สาธารณะและซ่อนตัวอย่างมิดชิด อันที่จริงมันก็เป็นวิธีที่ชาญฉลาดมากอยู่เหมือนกัน ไม่งั้นแล้วพวกเขาทั้งหมดก็คงจะเจอจุดจบไม่ต่างกับกิลด์กลอรี่อย่างแน่นอน

เซียวเฟิงไม่คาดคิดเลยว่าจะได้มาเจอผู้เล่นของดูมส์เดย์ลีกในที่แบบนี้ แถมผู้เล่นที่ว่ายังเป็นถึงระดับหัวหน้า ผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ (?) ของเซียวเฟิงอย่างลอว์ก็อดอีกด้วย มีความเป็นไปได้สูงว่าดูมส์เดย์ลีกจะต้องมีแคมป์อยู่แถว ๆ นี้แน่ ๆ

สรุปได้ดังนั้นเซียวเฟิงก็รีบมองรอบ ๆ ตัวก่อนจะแอบตามอีกฝ่ายไปอย่างเงียบเชียบ …

“เร็วเข้า! รีบรายงานสถานการณ์มาให้หมด! แล้วหัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์อยู่ไหน? ไปตามตัวให้เจอแล้วบอกให้มาหาฉันด้วย!”

“กลุ่มผู้เล่นชั้นสูงที่ 7 อยู่ไหนแล้ว? จัดการเคลียร์บอสที่อยู่ละแวกนี้หมดแล้วหรือยัง? อย่าลืมสำรวจอีกรอบด้วยเผื่อว่าพวกมันจะเกิดใหม่พอดี ขืนให้มันเกิดใหม่พร้อมกับตอนที่สงครามป้องกันแคมป์เริ่มล่ะก็ ได้กลายเป็นปัญหากันแน่!”

“ไม้ไม่พอ!? แล้วไอ้พวกหน้าใหม่ไปไหนหมด! บอกให้พวกมันขยันกว่านี้! อย่าขี้เกียจ!”

เซียวเฟิงแอบตามลอว์ก็อดอยู่ตลอดเวลา เขาเข้ามายังพื้นที่ภายในป่าลึกแห่งนี้ ซึ่งภายในนี้ถูกถางจนเกิดเป็นพื้นที่โล่งเตียนแถมยังมีแคมป์ของกิลด์กำลังค่อย ๆ ถูกสร้างขึ้นอยู่ภายในนี้ด้วย

“ท่านหัวหน้า ผมมาแล้วครับ”

ลอว์ก็อดเดินตรงไปหาผู้เล่นคนหนึ่งที่ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาการพื้นที่นี้ ซึ่งเขาคือ ดูมส์เดย์ก็อด

“ยังไม่มีใครรู้ใช่ไหม?” ก็อดที่กำลังวุ่นอยู่กับคำขอซื้อขายเอ่ยถามขึ้น

“ไม่มีครับ ผมปลอมตัวได้แนบเนียนมาก ไอ้พวกเวรมิดซัมเมอร์นั่นไล่ล่าพวกเราทั้งเขตฮัวเซียเลย พวกมันบังอาจมากที่กล้าผลักไสพวกเราออกมาจนถึงขนาดนี้!” ลอว์ก็อดส่ายหน้าก่อนจะพูดด้วยความโกรธเคือง

“พวกเราคงหยุดเรื่องนี้ไม่ได้ อัตราการเติบใหญ่ของมิดซัมเมอร์ตอนนี้ไม่น่าจะมีใครหยุดอยู่แล้ว ต่อให้เป็นกลอรี่ที่เพิ่งพ่ายแพ้ไปก็ตาม พวกเราทำได้แค่ก่อร่างสร้างตนใหม่ในเงามืดเท่านั้น ถ้าพวกเราไม่รีบสร้างแคมป์ให้เร็วที่สุด ฉันกลัวว่าสมาชิกเก่า ๆ เองก็คงจะออกไปด้วย” ก็อดเองก็ส่ายหน้าเช่นกัน เขาถอนหายใจด้วยความรู้สึกเปล่าเปลี่ยวลึก ๆ

“ท่านหัวหน้า…”

ลอว์ก็อดไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีในตอนนี้ สถานการณ์ทุกอย่างจู่ ๆ มันก็แย่ลงอย่างที่ไม่ควรเป็น ดูมส์เดย์ลีกไม่ควรน่าเวทนาถึงเพียงนี้ ทุกครั้งที่พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับเจ้าแห่งฮีลเลอร์นั้น ความเสียหายที่ได้รับต่างก็มากเกินจะฟื้นฟูแถมพวกเขายังแพ้อยู่บ่อยครั้งอีก

แต่ทั้งหมดนั่นก็เป็นเพราะพวกเขาเองที่เป็นฝ่ายเปิดฉากกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์ก่อน พวกเขาเลือกที่จะทำให้ดูมส์เดย์ลีกเป็นศัตรูกับเจ้าแห่งฮีลเลอร์ด้วยตนเอง

“เจ้าบ้าเอ้ย! แกถูกสะกดรอยตามไม่รู้ตัวบ้างหรือไง!?”

ทันใดนั้นเอง สีหน้าและอารมณ์ของก็อดก็เปลี่ยนไป เขามองผู้เล่นที่ค่อย ๆ เดินตามมาด้านหลังลอว์ก็อดก่อนจะตะโกนเสียงดัง

“ว่าไงนะ!?”

ด้วยความตกใจ ลอว์ก็อดรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว และเขาก็พบว่าผู้ที่ตามเขามานั้นคือเซียวเฟิง

“โอ๊ะ ไม่เจอกันนานเลยนะ”

เซียวเฟิงยิ้มแล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อม ๆ กับปลดเสื้อผ้าแฟชั่นออกไปด้วย เผยให้เห็นชุดเกราะที่ดูดุดัน น่าเกรงขามและร้ายกาจที่สวมใส่อยู่ภายใน

“เจ้า…เจ้าแห่งฮีลเลอร์!”

หัวใจของทั้งก็อดและลอว์ก็อดต่างร่วงลงไปกองกันอยู่ที่พื้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าแห่งฮีลเลอร์หรือมิดซัมเมอร์กิลด์ ทั้งสองชื่อนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อยากเจอมากที่สุดในช่วงก่อตั้งแคมป์ใหม่เช่นนี้!

โดยเฉพาะเจ้าแห่งฮีลเลอร์ พวกเขาค่อนข้างเชื่อจากสิ่งที่ได้เห็นในภารกิจสมรภูมิเมื่อวานนี้ว่าเจ้าตัวนั้นน่าจะแข็งแกร่งว่ามิดซัมเมอร์อีกหลายเท่านัก!

“กลุ่มผู้เล่นชั้นสูงที่ 3 และที่ 4 รีบเข้ามาหาฉันเร็ว!”

ลอว์ก็อดเตรียมพร้อมรับแรงปะทะอย่างรวดเร็ว เขารีบสั่งการผ่านช่องแชตกิลด์ทันที

“เดี๋ยวก่อน!”

อย่างไรก็ตาม การกระทำนั้นก็ถูกหยุดไว้ก่อนโดยก็อด เขามองไปยังเซียวเฟิงด้วยรอยยิ้มที่ค่อนข้างฝืนพร้อมกับพูดด้วยความถ่อมตน

“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์จะมาเยี่ยม ว่าแต่ มีอะไรหรือเปล่าล่ะ?”

“นายคิดว่าฉันจะมาปาร์ตี้น้ำชาด้วยหรือไง?” เซียวเฟิงเองก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะเปิดฉากเช่นกัน เขายิ้มแล้วตอบ

“อ่ะ…ฉันรู้ว่ามันมีปัญหาบางอย่างระหว่างพวกเราก่อนหน้านี้… และฉันเองก็อยากจะขอโทษแทนดูมส์เดย์ลีกทุกคนในฐานะหัวหน้ากิลด์ ฉันหวังว่าพวกเราจะยุติความขัดแย้งแต่กาลก่อน และหันมาร่วมมือกันด้วยความสงบอีกครั้ง”

ก็อดโค้งหัวลงและแสดงความกล้าในแบบลูกผู้ชาย ในฐานะหัวหน้ากิลด์แล้วตัวเขาเองก็ยังมีความสามารถและสกิลอยู่บ้าง

“หัวหน้า…” ลอว์ก็อดอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ถูกก็อดหยุดไว้อีกครั้ง

“ถ้าขอโทษแล้วเรื่องจบ พวกเราจะมีตำรวจไว้ทำไมนะ?” แต่เซียวเฟิงนั้นไม่ยอมรับคำขอโทษนั้นแต่อย่างใด เขายังคงยิ้มขณะพูดเช่นเดิม

“ฉะ…ฉันมีเรื่องสำคัญสองเรื่องที่จะบอกนายนะ เจ้าแห่งฮีลเลอร์ ด้วยความจริงใจของพวกเราดูมส์เดย์ลีกเลยนะ ฉันหวังว่านี่จะช่วยยุติความขัดแย้งระหว่างพวกเราได้” ก็อดลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกัดฟันและยอมพูดออกมา

“เรื่องที่ว่าทั้งสองเรื่องนั้นมีประโยชน์กับฉันเหรอ? ไหนว่ามาซิ” เซียวเฟิงเกิดความสนใจขึ้นเล็กน้อย เขารีบหยุดยิ้มแล้วถามกลับ

“เรื่องแรกมันเกี่ยวกับบอสโลก”

ทันทีที่ก็อดพูดขึ้นมา เซียวเฟิงก็สั่นสะท้านไปทั้งตัวด้วยความตกใจทันที

บอสระดับโลกนั้น…มันสูงเสียยิ่งกว่าบอสระดับเทพเจ้าอีกนะ! ยิ่งคิดตามก็ยิ่งทำให้เซียวเฟิงเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่อยู่!

“พูดต่อ!”

“แต่แรกแล้ว พวกเราดูมส์เดย์ลีกล้วนเกิดในเมืองเทียนหลงกันหมด สมาชิกคนหนึ่งของพวกเราได้รับภารกิจลับมา แต่ไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ นั่นเพราะระดับความยากของมันสูงเกินไป ขนาดฉันเองก็ไม่มั่นใจว่าจะผ่านมันได้ แต่จากการได้เข้าร่วมภารกิจนั้น มันทำให้พวกเรารู้มาบ้างว่าภารกิจนี้มันเกี่ยวข้องกับบอสระดับโลก!” ก็อดไม่กล้าที่จะยียวนท้าทายความอดทนของเซียวเฟิง เขารีบเปิดปากพูดต่อเมื่ออีกฝ่ายเร่งเร้า

“ภารกิจนั้นอยู่ที่ไหน?” เซียวเฟิงถาม

“ฉันรู้แค่พื้นที่คร่าว ๆ มันอยู่ในแม็ปป่ามู่กวางที่อยู่ใกล้ ๆ เมืองเทียนหลง”

เมื่อก็อดพูดจบ สิ่งแรกที่เข้ามาในหัวเซียวเฟิงก็คือรูปปั้นโคลนที่เขาเจอใต้ทะเลสาปมู่กวางนั่น!

“แล้วเรื่องที่สองล่ะ?” เซียวเฟิงไม่ได้ถามรายละเอียดของภารกิจเพิ่มเติมแต่หันไปถามเกี่ยวกับอีกเรื่องหนึ่งแทน

“เรื่องที่สอง…โปรดระวังพวกกิลด์กลอรี่ไว้ให้ดี! ฉันไม่ได้หมายถึงระวังตัวในโลกของเกม แต่ฉันกำลังให้นายระวังตัวในโลกของความเป็นจริง!”