Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] 281 ดยุคแห่งความมืด

Now you are reading Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] Chapter 281 ดยุคแห่งความมืด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 280 สกิลการคืนชีพศักดิ์สิทธิ์

บทที่ 280 สกิลการคืนชีพศักดิ์สิทธิ์

อย่างที่คาดคิด การที่ได้เป็นผู้เล่นคนแรกที่เปลี่ยนคลาสที่ 2 สำเร็จนั้นจะต้องได้รับรางวัลอย่างแน่นอน และการที่ได้รางวัลเป็นไอเทมระดับพระเจ้าเช่นนี้ มันทำให้เซียวเฟิงพึงพอใจไม่น้อย

ถึงแม้ว่าชุดเกราะทั้งตัวของเซียวเฟิงเกือบจะเป็นอาร์ติแฟกต์หมดแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้มีเครื่องแต่งกายอื่นมากนัก ดังนั้นเครื่องประดับระดับเทพเจ้าชิ้นนี้จึงดึงความสนใจเขาไปมาก ๆ เซียวเฟิงจึงเปิดกระเป๋าเพื่อนำสิ่งนั้นมาอ่านรายละเอียด

การตื่นของความรอบรู้

ระดับ : เทพเจ้า

ประเภทอุปกรณ์ : ต่างหู

เลเวลไอเทม : 30

ข้อกำหนดการใช้งาน : ไม่มี

ค่าสถานะ :

ค่าความฉลาด +5

สกิล :

การตื่นของความรอบรู้ : สกิลติดตัว – เมื่อสกิลถูกใช้งาน จะมีโอกาสสุมรีเซ็ตคูลดาวน์ของสกิลที่ติดคูลดาวน์อยู่ โอกาสนั้นขึ้นอยู่กับค่าโชคของผู้สวมใส่

ต่างหูคู่นี้มีสถานะเพียงแค่อย่างเดียว คือเพิ่มค่าความฉลาดอีก 5 แต้ม แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าช่วยได้มาก เพราะค่าความฉลาดนั้นเป็นค่าสถานะลับที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามเลเวลของผู้เล่น นั่นหมายถึงมันสามารถพัฒนากันได้ยากนั่นเอง

หากยังไม่เข้าใจว่า 5 แต้มของค่าความฉลาดมีประโยชน์อย่างไร ให้คิดตามตัวอย่างนี้ ในขณะที่ผู้เล่นปกติจะได้รับแต้มทักษะคนละ 1 แต้มเมื่อเลเวลอัป แต่ด้วยพลังของค่าความฉลาด 5 แต้มนั้น จะทำให้ผู้เล่นคนนั้นได้แต้มทักษะเพิ่มเป็น 1.5 แต้ม ทุกครั้งที่เลเวลอัปแทน ซึ่งมันจะทำให้สามารถอัปค่าทักษะเร็วขึ้นเป็น 50% เลย!

เรื่องความสำคัญของค่าทักษะนั้นคงไม่ต้องพูดถึง ดังนั้นแล้วการที่ได้ค่าความฉลาดเพิ่มขึ้นอีก 5 แต้มนั้นถือว่าเป็นประโยชน์และเลอค่ามาก ๆ!

ส่วนของสกิลยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย ถึงแม้จะเป็นเพียงสกิลหนึ่งเดียวของไอเทมระดับเทพเจ้า ผลการสุ่มรีเซ็ตคูลดาวน์สกิลนี้ก็น่าพึงพอใจมากแล้ว แล้วยิ่งอัตราการสุ่มขึ้นอยู่กับค่าโชคก็ยิ่งเข้าทางเขาไปอีก นั่นเพราะค่าโชคของเซียวเฟิงน่ะ เรียกได้ว่าสูงมากเลยทีเดียวเชียว!

สมแล้วที่เป็นไอเทมระดับเทพเจ้า!

ก่อนที่จะสวมใส่ต่างหูการตื่นของความรอบรู้ เซียวเฟิงก็นำต่างหูพระเจ้าประทานพรระดับเงินเลเวล 15 ออกมาเสียก่อน อันที่จริง ต่างหูระดับเงินคู่นี้ก็ไม่ได้ให้ค่าสถานะอะไรที่แย่นักหรอก แถมมันยังมีค่าสถานะลับอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่เพราะเซียวเฟิงไม่ได้อยากจะใช้ทักษะการหลอมทำอะไรอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้มีห่วงอะไรหากจะเก็บมันลงแล้วค่อยนำไปให้เฉียนโตวโตวในภายหลัง

ค่าสถานะหลักของเซียวเฟิงเองก็มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอันเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วหลังจากที่เขาเปลี่ยนคลาสครั้งที่ 2 ได้

ตัวละคร : แด๊ด

เลเวล : 30

คลาส : สังฆราชศักดิ์สิทธิ์

ค่าชื่อเสียง : 1,280 แต้ม

พลังชีวิต : 605 / 605 หน่วย

มานา : 665 / 665 หน่วย

พลังโจมตี : 260 – 260 หน่วย

พลังเวท : 236 – 236 หน่วย

พลังป้องกันกายภาพ : 170 – 170 หน่วย

พลังป้องกันเวทมนตร์ : 150 – 150 หน่วย

ค่าสถานะพื้นฐาน :

ค่าความแข็งแกร่ง : 260 แต้ม

ค่าความทนทาน : 245 แต้ม

ค่าความคล่องแคล่ว : 236 แต้ม

ค่าความฉลาด : 236 แต้ม

ค่าจิตวิญญาณ : 275 แต้ม

แต้มค่าสถานะที่เหลือ : 0 แต้ม

สัตว์เลี้ยง : นางฟ้า 4 ปีก – เสี่ยวไป๋ (เลเวล 30 สัตว์เลี้ยงระดับเทพเจ้า)

สัตว์ขี่ : ยูนิคอร์นแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ – เสี่ยวเสวีย (เลเวล 30 สัตว์ขี่ระดับทอง)

สกิลจิปาถะ : การสอดแนมระดับสูง, การเก็บของระดับต้น, การหลอมระดับกลาง

สกิลคลาส :

โฮลี่ไลท์ (เลเวล 3) : ฟื้นฟูพลังชีวิตของเป้าหมายทันที ตาม 20% ของพลังชีวิตเป้าหมาย คูลดาวน์ 30 วินาที

ถ้อยคำแห่งเงา (เลเวล 1) : เมื่อร่ายใส่เป้าหมายแล้ว จะช่วยฟื้นฟูพลังชีวิต 1% ของพลังชีวิตสูงสุดต่อวินาที หรือ จะสามารถลดพลังชีวิต 0.5% จากพลังชีวิตสูงสุดต่อวินาที ระยะเวลาขึ้นอยู่กับค่าสปิริตหารด้วย 10 คูลดาวน์ 5 นาที

ชำระล้าง (เลเวล 2) : ล้างดีบัฟทั้งหมดบนตัวเป้าหมาย

ปัดเป่า (เลเวล 2) : ยกเลิกผลของเวทมนตร์ทั้งหมดในพื้นที่

อวยพรอาวุธ (เลเวล 3) : เพิ่มพลังโจมตี 20% + ค่าความแข็งแกร่งของเป้าหมายเป็นเวลา 30 วินาที คูลดาวน์ 60 วินาที

อวยพรความกล้า (เลเวล 3) : เพิ่มพลังเวท 20% + ค่าพลังเวทของเป้าหมายเป็นเวลา 30 วินาที คูลดาวน์ 60 วินาที

อวยพรชีวิต (เลเวล 3) : เพิ่มพลังชีวิตสูงสุด 150% + ค่าความแข็งแกร่งของเป้าหมายเป็นเวลา 30 วินาที คูลดาวน์ 60 วินาที

อวยพรการป้องกัน (เลเวล 3) : เพิ่มพลังป้องกันกายภาพ 20% และ พลังป้องกันเวทมนตร์ 20% + ค่าความแข็งแกร่งของเป้าหมายเป็นเวลา 30 วินาที คูลดาวน์ 60 วินาที

ค้อนแห่งการพิพากษา (เลเวล 2) : เพิ่มพลังโจมตี 200% เมื่อโจมตีเป้าหมายในระยะ คูลดาวน์ 60 วินาที

หอกแสงศักดิ์สิทธิ์ (เลเวล 2) : สร้างหอกศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาและขว้างมันออกไป สร้างความเสียหายเวท 100 + 10% พลังเวท, เมื่อร่ายมนต์จะได้รับผลของกับดักเพิ่มขึ้น

อุปกรณ์สวมใส่ :

อาวุธ : คทานักปราชญ์แห่งความมืดมน (เลเวล 10 ระดับ อาร์ติแฟกต์)

เกราะ :

กระโหลกมังกร (เกราะหัว, อาร์ติแฟกต์)

กรงเล็บมังกร (เกราะมือ, อาร์ติแฟกต์)

เกราะไหล่มังกร (เกราะแขน, อาร์ติแฟกต์)

ชุดเกราะมังกร (เกราะลำตัว, อาร์ติแฟกต์)

เข็มขัดกระดูก (ชิ้นเกราะเอว, เลเวล 20 ระดับเงิน)

เท้ามังกร (เกราะเท้า, อาร์ติแฟกต์)

เครื่องแต่งกาย :

วัฏจักรชีวิต (เลเวล 20 ต่างหูระดับเทพเจ้า)

การตื่นของความรอบรู้ (เลเวล 30 ต่างหูระดับเทพเจ้า)

เครื่องหอมมันดาลา (เลเวล 20 สร้อยคอระดับเงิน)

แหวนจักรวาล (เลเวล 20 แหวนระดับเทพเจ้า)

แหวนราชากระดูก (เลเวล 20 แหวนระดับทอง)

แหวนแห่งชะตากรรม (เลเวล 5 แหวนระดับเงิน)

แหวนแห่งความเร็ว (เลเวล 15 แหวนระดับหายาก)

ชุดแฟชั่น : หน้ากากกระโหลก

ฉายา : อัครสาวกแห่งแสง, อาร์คบิชอป

ค่าสถานะต่าง ๆ ของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก! ค่าพื้นฐานทั้ง 5 เกือบจะแตะ 250 แต้มกันหมดแล้ว ตัวเลขเหล่านี้เป็นที่น่าโปรดปรานของผู้เล่นคนอื่น ๆ เป็นอย่างมาก นั่นเพราะตามปกติแล้วผู้เล่นทั่วไปจะสามารถอัพค่าสถานะให้สูง ๆ ได้เพียงค่าเดียวเท่านั้น ขนาดผู้ที่ถูกเรียกว่า เจ้า ยังมีเพียงค่าเดียวที่สูงถึง 150 แต้มเลย

ด้วยพลังของอาร์ติแฟกต์ที่เซียวเฟิงครอบครองอยู่ ทำให้ตอนนี้ชายหนุ่มอยู่เหนือผู้เล่นคนอื่นไปมากแล้ว หากเทียบกันแบบไม่มีบัฟ คลาสนักบวชของเซียวเฟิงนั้นมีพลังชีวิตสูงกว่านักรบโล่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคลาสที่มีพลังชีวิตสูงที่สุดในเขตฮัวเซียอีก พลังป้องกันของเขาเองก็แข็งแกร่งเหนือผู้เล่นคนอื่นจนไม่มีใครสามารถทลายมันได้เสียแล้ว

แล้วยิ่งถ้าหากได้บัฟมาเสริม ช่องว่างระหว่างเซียวเฟิงและผู้เล่นทั่วไปก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก ในแง่ของการรักษา เซียวเฟิงกล้าพูดได้อย่างมั่นใจว่า  ถ้าฉันทำไม่ได้ แล้วใครจะทำได้? 

ค่าสถานะว่าน่ามหัศจรรย์แล้ว ย้อนกลับมาดูแถบอุปกรณ์สวมใส่และแถบสกิลมันก็ยิ่งน่าภิรมณ์มากกว่า หากไม่ติดว่าชิ้นส่วนเข็มขัดนั้นมันเป็นคนละชุดกับชิ้นส่วนอื่น ๆ สิ่งนี้เปรี่ยบเสมือนก้างที่ติดคอเขาอยู่ ชายหนุ่มยังคิดไม่ออกเลยว่าจะไปหาผู้คุ้มกันชั้นที่ 4 แห่งปราสาทใต้พิภพได้จากที่ไหนอีกคราวนี้

ทุก ๆ สาขาของวิหารแห่งแสงได้ปล่อยภารกิจติดตามตัวออกไปแล้ว ตอนนี้เขาทำได้เพียงรอฟังข่าวจากผู้เล่นที่ทำภารกิจนี้งั้นหรือ? เอาเถอะ ยังไงเสียด้วยระดับของผู้เล่นทั่วไปตอนนี้ก็คงจะยังไม่มีใครกล้าสู้กับบอสระดับเทพเจ้าหรอก

เซียวเฟิงส่ายหน้าเบา ๆ เขาจากที่นี่ไปหลังจากรู้ว่าธิดาแห่งแสงผู้นี้ไม่มีแผนที่จะให้เขาเรียนรู้สกิลใหม่แต่อย่างใด ดูเหมือนว่าภารกิจเปลี่ยนคลาสครั้งนี้เขาจะไม่ได้รางวัลเพิ่มเติมจากวิหารแห่งแสงสินะ

อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังมีทางฝั่งของจักรวรรดิอยู่ แม้ว่าเซียวเฟิงจะพลาดพลั้งกำจัดมอนสเตอร์ไปบ้าง แต่รวม ๆ แล้วทั้งบอสทั้งมอนสเตอร์ธรรมดาที่โดนเขากำจัดไปนั้นก็เหยียบแสนตัวอยู่เหมือนกัน ดังนั้นแต้มความสำเร็จสมรภูมิของตัวเองก็จัดว่าสูงจนน่ากลัวอยู่ ถ้าหากนำไปแลกรางวัลล่ะก็ จะต้องได้อะไรกลับมาบ้างแน่ ๆ

แต่ก่อนหน้านั้น เซียวเฟิงต้องไปหาใครสักคนที่สามารถให้เขาเรียนรู้สกิลสำหรับคลาสใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนมาเสียก่อน ผู้เล่นทุกคนที่ก้าวผ่านเลเวล 30 มาแล้วจำเป็นต้องเรียนสกิลครั้งใหญ่ ซึ่งรู้กันดีในนามว่า สกิลสำหรับคลาสที่ 2 ถือเป็นสกิลประจำคลาสเลยก็ว่าได้ และพวกมันก็อยู่ในสายสืบทอดของสกิลด้วย อย่างเช่น ฝนดาวตกไฟของนักเวทไฟ หรือ ฟื้นคืนชีพของนักบวช

เซียวเฟิงตรงไปยังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ก่อนเพื่อเล่นกับเสี่ยวไป๋สักพัก จากนั้นก็กลับไปยังเมืองเทียนหลงเพื่อพบกับผู้ประกอบพิธีกรรมประจำเมืองเทียนหลงซึ่งมีหน้าที่ผู้ปรึกษาให้กับผู้ที่อยู่ในคลาสนักบวช ทั้งนี้เขามีคุณสมบัติพอจะเรียนรู้สกิลฟื้นคืนชีพแล้ว

[ท่านได้ทำการเรียนรู้สกิล ‘ฟื้นคืนชีพ’ สำเร็จแล้ว!]

[สกิลฟื้นคืน คืนชีพของท่าน ได้รับการอัปเกรดเป็น ‘การฟื้นคืนชีพศักดิ์สิทธิ์’ อันเป็นผลมาจากคลาสที่ท่านเป็นอยู่!]

เซียวเฟิงประหลาดใจนิดหน่อย ถึงแม้ว่าจะพอเดาได้ว่าคลาสของเขานั้นค่อนข้างแข็งแกร่งแต่ก็ไม่คิดว่าจะมีสกิลเฉพาะคลาสเช่นนี้ด้วย ทั้ง ๆ ที่ตลอดมาที่เรียนรู้สกิลจากผู้ปรึกษาคนนี้ก็ไม่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นเช่นเดียวกับนักบวชคนอื่น ๆ แท้ ๆ

การที่จู่ ๆ สกิลของชายหนุ่มเองก็พัฒนาเอาตอนนี้ มันเลยทำให้เซียวเฟิงแอบสงสัยว่ามันเป็นเพราะคลาสที่ 2 ที่เพิ่งเปลี่ยนมาจริง ๆ หรือว่าเป็นเพราะไอเทมระดับเทพเจ้าอย่างต่างหูการตื่นของความรอบรู้คู่นี้ที่ให้ค่าความฉลาดค่อนข้างสูง เพราะยังไงเสียค่าความฉลาดนี้ก็มีผลกับสกิลโดยตรงอยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่ดี เซียวเฟิงไม่รอช้าที่จะเปิดข้อมูลสกิลนั้นมาดู

การคืนชีพศักดิ์สิทธิ์ (เลเวล 1) : ใช้ได้กับผู้เล่นเท่านั้น

เอฟเฟกต์ 1 : เมื่อเลือกเป้าหมายเป็นศพผู้เล่น ผู้เล่นคนนั้นจะฟื้นคืนชีพทันทีที่จุดเดิม

เอฟเฟกต์ 2 : เมื่อเลือกเป้าหมายเป็นผู้เล่นที่ยังมีชีวิต ทิ้งสัญลักษณ์คืนชีพไว้ที่ตัวผู้เล่นคนนั้น สัญลักษณ์จะคงอยู่ 10 นาที หากผู้เล่นที่ติดสัญลักษณ์คืนชีพได้รับการโจมตีรุนแรงจนถึงแก่ความตายจะฟื้นคืนชีพทันที

เอฟเฟกต์ 3 : เมื่อฟื้นคืนชีพผู้เล่นได้ ผู้เล่นคนนั้นจะไม่สูญเสียค่าประสบการณ์ที่เก็บได้ ในขณะเดียวกันก็จะถือว่าไม่ได้มีการตายเกิดขึ้นในครั้งนั้นด้วย

มานาที่ต้องใช้ : 100 หน่วย

คูลดาวน์ : 10 นาที

สกิลนักบวชที่มีคูลดาวน์มากถึง 10 นาที! ส่วนเอฟเฟกต์นั้นก็ไม่ต้องเดาเลย มันคือการฟื้นคืนชีพ! ความสามารถที่จะช่วยขจัดปัญหาเรื่องการตายภายในปาร์ตี้! ความสามารถที่ไม่ว่าปาร์ตี้ไหนต่างก็ต้องการ!

ไม่ต้องพูดถึงความสามารถในการลบล้างประวัติการตาย ตามปกติแล้วหากผู้เล่นพลาดตาย พวกเขาจะต้องสูญเสียค่าประสบการณ์ 20% และเสียโอกาสในการเป็นเจ้าของไอเทมที่ดร็อปเมื่อบอสตาย ดังนั้นจะดีมากหากพวกเขาสามารถทำให้ตนเองฟื้นคืนชีพจากความตายได้

ในส่วนของการคืนชีพนั้น มันคงไม่มีอะไรต้องอธิบายอยู่แล้ว เพราะมันถือเป็นสกิลที่ทรงพลังและน่าทึ่งที่สุดของคลาสนักบวชแล้ว

นอกจากนี้ การพัฒนาและเปลี่ยนเป็น ‘การฟื้นคืนชีพศักดิ์สิทธิ์’ ตัวสกิลก็ยังเพิ่มความสามารถมาอีกหนึ่งอย่างด้วย นั่นคือ สัญลักษณ์คืนชีพ หากติดสัญลักษณ์นี้ไว้ให้ผู้เล่นถูกคนล่ะก็ มันจะช่วยรักษาชีวิตเขาได้เป็นอย่างมาก!

และด้วยสกิลติดตัวของเซียวเฟิง มันทำให้เขาสามารถติดสัญลักษณ์เกิดใหม่นี้ได้พร้อมกันหลายคน เพียงแค่คิดก็รับรู้ได้ถึงความทรงพลังของมันแล้ว!

สกิลใหม่นี้ทำให้เซียวเฟิงพึงพอใจขึ้นมาก เขาไม่เอื่อยเฉื่อย ออกจากเมืองเทียนหลงอย่างรวดเร็ว เพื่อไปยังเมืองจักรวรรดิด้วยการเทเลพอร์ตต่อ

ตอนนี้เซียวเฟิงสามารถเทเลพอร์ตเข้าไปยังเมืองจักรวรรดิโดยตรงได้แล้วหลังจากที่ทำการเปลี่ยนคลาสที่ 2 สำเร็จ เขาเดินทางไปหาฝ่ายพลาธิการเพื่อจะขอแลกรางวัลด้วยแต้มความสำเร็จ อันที่จริงเขาจะแลกมันในเมืองเทียนหลงก็ได้ แต่เพราะฝ่ายพลาธิการในเมืองนั้นวุ่นวายมาก ๆ ที่นั่นจึงเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างก็มาใช้แต้มความสำเร็จสมรภูมิของตนเองเหมือนกัน มีเพียงเมืองจักรวรรดินี้เท่านั้นที่ไม่วุ่นวาย เพราะยังไม่มีผู้เล่นคนอื่นสามารถเข้ามายังเมืองนี้ได้

 ท่านแม่ทัพใหญ่! ฮ่ะฮ่า! ข้าพบท่านแล้ว! เชิญทางนี้เลยครับ องค์จักรพรรดิกำลังตามหาตัวท่านอยู่พอดีเลย! 

เซียวเฟิงยังไม่ทันจะได้เข้าไปยังฝ่ายพลาธิการของเมืองจักรวรรดิ เพราะว่าเมืองแห่งนี้กว้างใหญ่มาก ๆ เขาเดินมาพักใหญ่แล้วแต่ก็ยังไม่พบฝ่ายพลาธิการ ผนวกกับการที่แม่ทัพที่ 3 เหลาหู่เจอเขาเข้าเสียก่อน เจ้าตัวจึงวิ่งเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้ม

 ท่านมาได้ถูกเวลาพอดีเลย ช่วยพาผมไปหาฝ่ายพลาธิการหน่อยได้ไหมครับ ผมอยากจะนำแต้มความสำเร็จของผมไปแลกเสียหน่อย  เซียวเฟิงรีบวิ่งเข้าไปหาเขาด้วย อย่างน้อยเขาก็น่าจะพาตนไปถูก

 เอ๊ะ…  แม่ทัพเหลาหู่แสดงท่าทีกระอักกระอ่วนก่อนจะพูด  จริง ๆ องค์จักรพรรดิก็อยากให้ข้ามาพูดเรื่องนี้กับท่านแหละครับ ท่านเป็นแม่ทัพใหญ่แถมยังมีแต้มความสำเร็จสะสมอยู่เป็นจำนวนมากด้วย และถึงแม้ท่านจะเป็นแม่ทัพใหญ่ ท่านเองก็ยังเป็นนักผจญภัยคนหนึ่ง ดังนั้นแล้วจักรวรรดิจึงอยากจะตอบแทนท่านตามแต้มความสำเร็จที่มี แต่ด้วยแต้มจำนวนหลักล้านของท่าน จักรวรรดิเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบแทนอะไรท่านให้สมน้ำสมเนื้อดี… 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด