(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! 24

Now you are reading (WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! Chapter 24 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การเตรียมการ

 

ไกด์กำลังมีความสุข

 

“ปีเตอร์! คุณนี่มันสุดยอด”

 

ไกด์ชมปีเตอร์ ที่ลากบ้านพีตัคมาเข้าร่วม

 

ไกด์ยินดีกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม อะไรก็ดีตราบใดที่มันพยายามทำร้ายเลียม

 

“ตอนนี้พวกโจรสลัด บ้านพีตัค และบ้านราเซลต่างก็ร่วมมือกันเพื่อโจมตีเลียม! สุดยอด!”

 

เมื่อเขาเฝ้าดูสถานการณ์ เขาตัดสินใจว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้พลังของเขา

 

พื้นที่ข้างหน้าของเขาบิดเบี้ยวเมื่อเขาเอื้อมมือออกไป

 

ตรงจุดนั้น พลังของมัคคุเทศก์ก็ระเบิดออกมาเพื่อเข้าไปยุ่งกับสถานการณ์

 

“ครั้งนี้คุณโดนดีแน่ เลียม!”

 

อย่างไรก็ตาม พลังของไกด์ไม่ได้เหลือเยอะมากพอ ดังนั้นเขาจึงทำอะไรไม่ได้มากนัก

 

ในสถานะปัจจุบันของเขา เขาทำได้เพียงก่อความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

ถึงกระนั้น เขาก็ยังมีความสุขที่สามารถขัดขาเลียมได้  

 

“สักวันพลังฉันจะฟื้นกลับมา และคราวนี้จะเป็นคุณที่รู้สึกเจ็บปวด เลียม! ฟุฮะๆๆๆ!”

 

แสงสีขาวมองดูไกด์หัวเราะก่อนจะหายตัวไป

 

◇ ◇ ◇

 

…ระยะเวลาการฝึกกำลังจะสิ้นสุดลง

 

แม้ว่าพวกเขาจะเรียกมันว่าการฝึกอบรม แต่ส่วนใหญ่ก็แค่ทำงานง่ายๆ ให้กับบ้านของไวเคานต์

 

แม้ว่าผมจะไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษใดๆ แต่ก็สนุกดี

 

ถึงอย่างนั้นผมก็เบื่อ นโยบายของครอบครัวราเซลที่จริงจังเกินไป

 

ผมอยากเที่ยวเล่นมากกว่านี้…แต่มันค่อนข้างไม่ปลอดภัยอ่ะ

 

หลังจากที่ผมกลับไปยังอาณาเขตของ ผมสาบานว่าจะลงทุนในกิจการย่านบันเทิงมากขึ้น

 

“เร็วเข้า! แขกคนสำคัญหลายคนจะมาร่วมงานนี้นะ!”

 

ขณะที่ผมกำลังช่วยจัดห้องจัดเลี้ยง ผมก็คุยกับเคิร์ตขณะทำงานไปด้วย

 

“เขาดูกระตือรือร้นจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

“ได้ยินมาว่าครั้งนี้แขกมาเยอะ เนื่องจากบ้านปีเตอร์แห่งพีตักอยู่ที่นี่ กองกำลังทหาร ผู้แทนโรงงานอาวุธ และหัวหน้าหอการค้าต่างๆ ก็จะมาด้วย”

 

เมื่อผมทำพิธีบรรลุนิติภาวะ ผู้คนยังไม่เยอะเท่านี้

 

แต่ดูเหมือนว่าสำหรับ ขุนนางที่แท้จริงที่มีอำนาจและประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า ผู้คนจำนวนมากจะแห่เข้าหาพวกเขาโดยธรรมชาติโดยหวังว่าจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

 

ผมอิจฉานิดหน่อย

 

สักวันหนึ่ง ผมอยากจะจัดงานเลี้ยงแบบนี้ได้ทุกวัน พร้อมดื่มด่ำรสชาติของชีวิต

 

“แม้ว่าพวกเขาจะบอกให้เราจัดสถานที่จัดปาร์ตี้ แต่เขารื้อสถานที่สร้างใหม่เลยไม่ใช่เหรอ?”

 

“นั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่าเรื่องนี้สำคัญสำหรับพวกเขามากน่ะสิ”

 

พื้นของสถานที่ถูกรื้อออกและเปลี่ยนใหม่ ในขณะที่มีการเตรียมน้ำพุไว้ตรงกลาง

 

การหมั้นของปีเตอร์และแคทเทอรีน่าจะมีการประกาศในงานปาร์ตี้นี้ด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจว่าเกือบทุกอย่างควรถูกสร้างใหม่และปรับปรุงให้ทันสมัย

 

มีคนงานก่อสร้างมากมายที่นี่ แต่เราก็ต้องช่วยด้วย

 

อย่างแรกเลย สถานที่จัดงานมันกว้างมาก

 

นี่พวกเขาคาดหวังว่าจะมีคนเข้าร่วมกี่คน?

 

ขณะที่ผมคิดเรื่องนี้ ผมก็สังเกตเห็นว่ามีสนามประลองก็เตรียมไว้ที่นี่ด้วย

 

“นั่นคือเวทีประลองเรอะ?”

 

“ฉันคิดว่างั้นนะ คุณจะไม่เข้าร่วมใช่ไหมเลียม?”

 

“การประลองถูกจัดฉากไว้ก็จริง แต่ผมยอมให้ตัวเองแพ้ไม่ได้ ในฐานะผู้ใช้ทักษะดาบประกายแสงเพียงคนเดียวที่นี่”

 

นี่เป็นเพียงงานเล็กๆ เพื่อแสดงผลของการฝึกอบรม  

 

ดูเหมือนว่าเคิร์ทจะเข้าร่วมและจะต้องแกล้งแพ้อย่างเหมาะสม

 

เรื่องมันยุ่งยาก

 

“ฉันอาจจะคิดถึงที่นี่นิดหน่อย”

 

เคิร์ทดูเศร้าเล็กน้อย

 

“ไม่มีเวลาให้ซึมหรอกนะ อีกไม่นานเราจะต้องไปโรงเรียนประถม ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องทำหลังจากนี้”

 

“ก็จริงนะ”

 

ขณะที่เคิร์ทตอบด้วยรอยยิ้มแหย อัศวินฝึกสอนก็เข้ามาหา

 

“เคิร์ท มีการติดต่อจากที่บ้านน่ะ!”

 

“ครับ ฉันกำลังไป!”

 

เคิร์ทจึงออกจากสถานที่

 

ขณะที่ผมทำงานตัวเองต่อไป ผมเหลือบเห็นเหมือนหางอยุ่ที่มุมโต๊ะ

 

-มันดูเหมือนสุนัข

 

“หลงทางมมาเหรอ? แกหาทางออกอยู่รึเปล่า?”

 

ขณะที่ผมพยายามจะเข้าใกล้มัน ทันใดนั้น สัตว์ที่เหมือนสุนัขก็หนีไปทางด้านหลังของห้อง

 

ก่อนที่ผมจะรู้ตัว ผมก็ไล่ตามไปจนถึงโถงทางเดินใกล้ทางออก

 

“หืม? มันไปไหนแล้วล่ะ? ช่างเถอะ…หวังว่าคงไม่เป็นอะไรนะ?”

 

ตราบใดที่มันออกจากสถานที่จัดเลี้ยงก็ไม่มีปัญหา

 

แต่เมื่อผมหันหลังจะเดินกลับ ผมได้ยินเสียงของเคิร์ต

 

“–คุณมาไม่ได้เพราะพวกโจรสลัดเริ่มมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นเมื่อเร็วๆนี้? ครับ ฉันเข้าใจ… ครับ”

 

คนที่เขาคุยด้วยน่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว

 

ฟังดูเหมือนพวกโจรสลัดเคลื่อนไหวในอาณาเขตของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถมารับเคิร์ทได้

 

เคิร์ตมีสีหน้ากังวล

 

เมื่อเขาวางสาย ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขิน เมื่อเขาสังเกตเห็นผม

 

“คุณฟังอยู่เหรอ?”

 

“อ่า ผมขอโทษ ผมกำลังไล่ตามสุนัขจนมาถึงนี่ แล้วบังเอิญได้ยินน่ะ”

 

“ไม่เป็นไร. ตอนนี้ครอบครัวของฉันกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ฉันจึงไม่สามารถกลับไปได้อีกสักพัก ฉันจะต้องถามไวเคานต์ว่าเป็นไรไหมถ้าฉันอยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อย”

 

ดูเหมือนว่าสถานะการณ์ทางบ้านทำให้เขาวิตกกังวล

 

ผมคิดว่าสามารถช่วยเขาได้ ในฐานะเพื่อของจอมวายร้าย

 

“ถ้ากังวลขนาดนั้น ให้ผมช่วยส่งคุณกลับบ้านแล้วกัน”

 

“จริงรึ?! ไม่… นั่นมันไม่ได้หรอก ที่นั่นมีโจรสลัด-”

 

“เคิร์ท โจรสลัดเป็นเพียงกระเป๋าเงินที่มีชีวิตเท่านั้นแหละ”

 

“ฮะ?”

 

“หลังจากเคลียร์ทุกอย่างแล้ว ผมจะเอาของที่ริบมาเจ็ดส่วน และคุณก็รับไปสามส่วน”

 

“เดี๋ยว อย่าพูดอย่างกับว่าเป็นเรื่องง่ายๆสิ! คุณต้องไปคุยกับคนของคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน แถมถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้-”

 

“ไม่เป็นไรหรอก ผมมีอำนาจเบ็ดเสร็จภายในอาณาเขต พวกเขาจะฟังทุกสิ่งที่ผมพูดทุกอย่าง จำไว้ว่านี่คือข้อดีอย่างหนึ่งของการเป็นจอมวายร้าย ต่อให้ของสิ่งนั่นเป็นสีขาวแต่ถ้าผมบอกว่ามันสีดำมันก็จะเป็นสีดำ  

ดังนั้นถ้าผมสั่งให้พวกเขาเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ ไม่มีทางที่พวกเขาจะปฏิเสธได้”

 

เคิร์ตมองมาที่ผมในขณะที่ตกตะลึง

 

ยังไร้เดียวสาอยู่ล่ะนะ

 

ผมคิดว่าต้องติดต่ออามากิซะแล้วสิ

 

◇ ◇ ◇

 

คฤหาสน์เบนฟิลด์

 

ภายในอาคารสำนักงาน อามากิกำลังคุยกับเลียม

 

ภาพฉายของเลียมลอยอยู่ในอากาศ

 

“-ส่งกองยานไปรับ? ได้ค่ะ แต่ดิฉันคิดว่ามันไม่เหมาะสมที่จะส่งไปยังดินแดนของไวเคานต์”

 

“ผมต้องการกิงยานเพื่อช่วยพาเพื่อนกลับบ้าน ผมจะไปล่าโจรสลัดอีกครั้ง”

 

“อ้อเข้าใจแล้ว… นายท่านทำเพื่อช่วยเพื่อนใช่ไหม?

 

“เพราะเขาเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ลอร์ดผู้ชั่วร้าย ผมจึงต้องรักษาความสัมพันธ์ของเราไว้”

 

“ดิฉันดีใจกับคุณด้วย.”

 

อามากิแสดงสีหน้าอ่อนโยน ขณะที่เธอคิดว่าเลียมอาจเข้าใจผิดอะไรบางอย่างอีกครั้ง

 

“แล้วคุณต้องการกองยานมากแค่ไหน”

 

“ส่งมาได้เท่าไหร่?”

 

เมื่อไม่นานมานี้ดินแดนเบนฟิลด์ถูกโจมตีโดยกองยานโจรสลัดของโกอาส

 

เพราะแบบนั้น ผมจึงลงทุนเล็กน้อยในการขยายกองเรือ

 

“ดิฉันสามารถเตรียมยานได้ประมาณ 12,000 ลำ”

 

“นั่นก็น่าจะพอ โอ้ และอย่าลืมพาเอวิทของผมมาด้วย”

 

เอวิทเป็นอัศวินขับเคลื่อนส่วนตัวของเลียม

 

มันใหญ่กว่าอัศวินทั่วไป เป็นเครื่องคุณภาพสูงที่มีคนเพียงไม่กี่คนที่สามารถขับได้

 

“ทำไมไม่พักผ่อนซักหน่อยล่ะ? คุณไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง”

 

“มันเป็นความฝันของเด็กผู้ชายที่จะต่อสู้ในหุ่นยนต์! ครั้งนี้น่าจะได้กำไรไม่น้อย”

 

“…ถ้าเป็นอย่างนั้น ดิฉันจะติดต่อกับบารอน เอ็กซ์เนอร์”

 

“ต้องฝากเรื่องนี้ให้คุณแล้ว”

 

ทันทีที่เลียมวางสาย อามากิก็เริ่มติดต่อกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทันที

 

“–พอดีเลย ฉันควรให้พวกเขาทำงานด้วย”

 

◇ ◇ ◇

 

โรงงานอาวุธที่สาม

 

ต่อหน้าอัศวินขับเคลื่อนจำนวนมากที่เรียงรายอยู่ที่นั่น – เทีย มองดูหุ่นรูปร่างมนุษย์

 

เธอเพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย

 

หลังจากรวบรวมหน่วยกิตที่จำเป็นสำหรับการสำเร็จการศึกษา เธอก็จบหลักสูตร

 

ต่อจากนี้ไป สิ่งที่รอเธออยู่คือการฝึกเป็นข้าราชการ แต่ก่อนหน้านั้นเธอกำลังจะกลับไปยังดินแดนของเลียม

 

สาวๆ ที่สมัครเป็นอัศวินก็กลับมาเช่นกัน

 

–พวกเขาทั้งหมดต้องการมีส่วนร่วมในการล่าโจรสลัด

 

ยูลิเซีย ซึ่งทำงานในโรงงานอาวุธที่สาม กำลังอธิบายคุณสมบัติอัศวินรุ่นใหม่ล่าสุดของพวกเขา

 

“รุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ในกองกำลังพิเศษของกองทัพจักรวรรดิ”

 

จากการออกแบบ อัศวินขับเคลื่อนควรจะมีขนาดใหญ่ แต่เครื่องที่อยู่ด้านหน้าเทียถูกสร้างขึ้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย

 

พวกมันมีหุ่นเพรียวบางและรูปลักษณ์สวยงาม

 

“สเปกที่ระบุไว้ในแค็ตตาล็อกก็ไม่เลว”

 

ยูลิเซียที่ได้ยินคำชมของเทียก็ยิ้มออกมา

 

“ฉันมีความมั่นใจในคุณภาพของพวกมันมาก แต่ท่านเคานต์ก็สุดยอดมาก มีขุนนางไม่กี่คนที่สามารถซื้ออัศวินจำนวนมากพร้อมกันได้ขนาดนี้”

 

เป็นการซื้อรุ่นใหม่หลายร้อยเครื่อง

 

ในขณะที่ชื่นชมอัศวินขับเคลื่อนเครื่องใหม่ของเธอ เทียได้ร้องขอไปยังยูลิเซีย

 

“ฉันอยากให้สีเครื่องของฉันเป็นสีขาวและสีม่วง มันเป็นสีประจำตัวของฉัน”

 

“สีประจำตัวสำหรับผู้สมัครอัศวิน? คุณต้องมีความมั่นใจในตัวเองมาก”

 

เทียหัวเราะกับสิ่งนี้และยิ้ม

 

“ก็คงงั้น นับจากนี้ไปฉันมั่นใจว่าเราจะเป็นฝ่ายชนะเสมอ”

 

เมื่อผู้สมัครอัศวินของบ้านเบนฟิลด์ เข้าไปในเครื่องของตัวเอง สายตาของอัศวินขับเคลื่อนทั้งหมดก็เปล่งประกายด้วยแสงจ้าขณะที่พวกเขาเดินเครื่อง

 

เทีย เริ่มพูดกับทุกคน

 

“ทุกคนจงสรรเสริญ! ลอร์ดเลียมให้โอกาสที่ดีที่สุดแก่เราในการพิสูจน์คุณค่าของเรา! ถึงเวลาล่าโจรสลัดแล้ว!”

 

◇ ◇ ◇

 

การฝึกอบรมของเราในต่างแดนใกล้จะสิ้นสุดแล้ว

 

ก่อนที่เราจะออกจากบ้านราเซล มีการจัดแสดงศิลปะการต่อสู้โดยมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษามาเข้าร่วม

 

ผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษจะชนะการแข่งขันครั้งแล้วครั้งเล่า และสถานที่จัดงานก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 

ตอนนี้มันเป็นการแข่งขันระหว่างเคิร์ทและปีเตอร์

 

“-อุ!”

 

“หืม? เป็นอะไรไป? เราต่างก็เป็นนักดาบของโรงฝึกอาเรส ดังนั้นมันคงดูไม่ดีที่คุณไม่สามารถทำอะไรฉันได้~”

 

ปีเตอร์ที่เป็นฝ่ายเหนือกว่าในการแข่งขัน เขาเริ่มเยาะเย้ยเคิร์ท

 

ผมค่อนข้างแปลกใจกับความโหดร้ายที่เกินความจำเป็น

 

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างปกติ แต่จู่ๆปีเตอร์ก็ทำให้เรื่องมันยากขึ้นด้วยการแกล้งอ่อนข้อ ทำให้ศึกนี้ยาวโดยไม่จำเป็น

 

ปีเตอร์แกล้งอ่อนข้อหนักมาก จนแม้แต่เคิร์ทก็ยังดูงุนงงไม่รู้จะทำตัวอย่างไร

 

“นั่นสินะ…”

 

ในขณะที่พูดแบบนั้น เคิร์ทก็แกล้งแพ้โดยตั้งใจทำดาบตก

 

แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะมาจากโรงเรียนเดียวกัน แต่พวกเขาก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

ไม่ นี่มันผิดปกติเกินไปละ…ไม่น่าจะแกล้งอ่อนข้อ… ผู้ชายคนนี้เป็นทายาทของบ้านที่มีคุณธรรมจริงดิ?

 

แบบนั้นใช่มะ? แบบที่ลูกกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ทั้งๆ ที่พ่อแม่ยอดเยี่ยมอะไรแบบนั้น?

 

หลังจากทิ้งดาบของเขา เคิร์ทก็ทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่ง

 

“…ฉันยอมแพ้”

 

บรรยากาศของสถานที่จัดงานดูเหมือนจะเงียบลงเล็กน้อย แต่ก็ยังน่าตื่นเต้นอยู่

 

ปีเตอร์กระทืบไปที่เคิร์ทที่คุกเข่าอยู่

 

“แสดงว่าคุณยอมรับความสามารถของฉันแล้วสินะ?”

 

“…ใช่.”

 

แค่ดูท่าทางของเคิร์ทผมก็สงสารเขาแล้ว

 

ถึงอย่างนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจที่ปีเตอร์มีคุณสมบัติที่จำเป็นในการเป็นลอร์ดชั่วร้ายที่ดีในอนาคต

 

ขณะที่ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จู่ๆ ปีเตอร์ก็หันดาบมาทางผม

 

“นายน่ะขึ้นมาสู้กับฉันซะ! มันคงจะน่าเบื่อถ้าจบแค่นี้ มาเร็วๆเข้า ไอ้ผู้ฝึกดาบผู้น่าสงสาร”

 

เมื่อปีเตอร์ประกาศเช่นนั้น ไวเคานต์ก็สั่งให้ผมขึ้นไปที่ลานประลองพร้อมกับทำหน้าลำบากใจ

 

หัวหน้าอัศวินผู้ฝึกสอนเริ่มขอโทษผม

 

“ฉันขอโทษ เขาเป็นแขกคนสำคัญของเรา ดังนั้นฉันจะขอบคุณมากถ้าคุณออกไปซักหน่อย”

 

“เขากล้ามากที่ดูถูกโรงฝึกของผม เฮ้– จะเป็นไรไหมถ้าผมจะเอาจริง”

 

หัวหน้าอัศวินผู้ฝึกสอนยิ้มให้ผมเล็กน้อย

 

“ก็เขาไม่ยอมรามือเองนี่? ฉันไม่เคยชอบเรื่องตลกแบบนี้ตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม อย่าฆ่าเขาล่ะ”

 

มีเพียงส่วนที่ไม่ฆ่าเขาเท่านั้นที่พูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง

 

ก็แน่นอนผมจะไม่ฆ่าเขา

 

“อย่ากังวลไป ผมอาจไม่ได้ฝึกฝนการอ่อนข้อไว้มากนัก แต่ด้วยความช่วยเหลือของเคิร์ท ผมสามารถหาวิธีแก้ไขเพื่อทำให้วิชาดาบของผมอันตรายน้อยลง”

 

“จริงรึ?”

 

เพื่อตอบคำถามให้กับอัศวินที่สงสัย ผมขอนำเสนอ ค้อนของเล่นส่งเสียงปิ๊ดๆ

 

ทั้งในจักรวาลนี้และในชีวิตก่อนหน้าของฉัน นี่คือค้อนของเล่นที่ส่งเสียงมื่อใดก็ตามที่มันกระทบบางสิ่ง

 

มันจะไม่เจ็บมากถ้าผมตบเขาด้วยสิ่งนี้

 

“เดี๋ยวนะ คุณไม่คิดว่านั่นจะดูหมิ่นไปหน่อยเหรอ?”

 

“ถ้าผมไม่ใช้สิ่งนี้ ผมอาจจะฆ่าพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้”

 

เมื่อผมเข้าสู่สนามประลองด้วยค้อนของเล่น ปีเตอร์เริ่มหัวเราะเยาะผม

 

ไวเคานต์ราเซล จ้องมาที่ผมราวกับว่าฉันเพิ่งตอกตะปูสุดท้ายในโลงศพ

 

ปีเตอร์หันมาหาผม

 

“พูฮะฮะ! ดูเหมือนแกจะยากจน จนไม่มีเงินซื้อดาบสินะ แกรู้ไหมว่าฉันสามารถซื้อของเหล่านั้นได้มากเท่าที่ฉันต้องการ”

 

ขณะที่ฟังเขาพูดพล่อยๆ ผมก็รอสัญญาณเริ่มต่อสู้

 

ผู้ตัดสินมองไปที่ไวเคานต์ราเซล และดูเหมือนจะลังเล แต่ในที่สุดก็ยอมปล่อยหลังจากได้รับคำสั่ง

 

“เตรียมพร้อม… เริ่ม!”

 

พริบตาหลังจากนั้น

 

ค้อนที่ผมเหวี่ยงลงบนหัวของปีเตอร์ก็ส่งเสียง ‘ปิ๊บ’ ดังลั่น เขาทรุดตัวลงกับพื้นดัง ‘ป๊าบ!’

 

ทันทีที่การแข่งขันเริ่มต้น ผมก็ประชิดตัวทันทีแล้วเหวี่ยงค้อนลงไป ทำให้ปีเตอร์ล้มลงไปกองกับพื้น

 

ผมมองเห็นสีขาวในดวงตาของเขา

 

“…ก็แค่นี้เอง”

 

ผมเขย่าค้อนเพื่อตรวจดูสภาพ ดูเหมือนว่าจะยังไม่หัก

 

มันทนทานมากสำหรับของเล่น

 

ขณะที่ผมยืนอยู่คนเดียวในสนามประลอง เด็กรอบๆที่ได้รับสิทธิพิเศษก็ประณามผม

 

“ค-คุณโกง! อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว ไม่ยุติธรรมเลย!”

 

“ถ้ามีเรื่องจะบ่นก็ขึ้นมาสิ”

 

ผมจะสอนความจริงของจักรวาลนี้ให้สักหน่อยนะ

 

ในจักรวาลนี้ คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่ถูกต้อง!

 

ถึงเหล่าขุนนางผู้มีคุณธรรมในอนาคต ผมจะสอนความจริงทั้งหมดให้คุณเอง!

 

“มันน่ารำคาญที่จะสู้กับพวกคุณทีละคน ดังนั้นมาพร้อมกันทั้งหมดนั่นแหละ!”

 

“แกมันก็แค่ขยะจากโรงฝึกดาบเล็กๆ อย่ามาอวดดีนะ!”

 

สำหรับพวกโง่ที่ปีนขึ้นมาบนสังเวียน ผมส่งเขาบินออกจากสังเวียนทันที

 

“มันไม่ใช่ ‘โรงฝึกเล็กๆ’ มันคือโรงฝึกประกายแสง ผมจะสลักชื่อนี้ลงไปในหัวของคุณเอง”

 

พวกที่ชนะการแข่งขันเริ่มปีนขึ้นมาบนเวทีและแห่เข้ามาหาผม

 

ผมเป่าพวกมันทั้งหมดออกจากวงแหวนด้วยค้อนของเล่นขณะหัวเราะ

 

เมื่อยืนอยู่ใจกลางเวที ผมเริ่มเล่าความจริงของสถานที่นี้ให้พวกเขาฟัง

 

“อย่าเพิ่งเหลิงเพียงเพราะคุณชนะการแข่งขันที่กำหนดชัยชนะไว้แล้ว! คุณมันเป็นแค่นักดาบตัวเล็กๆเท่านั้นแหละ!”

 

ไม่ใช่แค่คนที่ท้าทายผม แต่แม้แต่ไวเคานต์ราเซล ก็จ้องมาที่ผมด้วยใบหน้าสีแดง

 

ผมคิดว่าอาจจะทำมันเกินไปหน่อย แต่นั่นก็เพราะผมไม่คิดว่าจะมีส่วนร่วมอะไรกับพวกเขาอีก

 

อย่างน้อยมันก็สดชื่น

 

——————————

 

ไบรอัน ( ´・ω・`) “ท่านเลียมน่าทึ่งมาก!”  

 

เทีย ( ゜∀゜) “ลอร์ดเลียมสุดยอดเลยค่ะ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! 24

Now you are reading (WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! Chapter 24 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

การเตรียมการ

 

ไกด์กำลังมีความสุข

 

“ปีเตอร์! คุณนี่มันสุดยอด”

 

ไกด์ชมปีเตอร์ ที่ลากบ้านพีตัคมาเข้าร่วม

 

ไกด์ยินดีกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลยก็ตาม อะไรก็ดีตราบใดที่มันพยายามทำร้ายเลียม

 

“ตอนนี้พวกโจรสลัด บ้านพีตัค และบ้านราเซลต่างก็ร่วมมือกันเพื่อโจมตีเลียม! สุดยอด!”

 

เมื่อเขาเฝ้าดูสถานการณ์ เขาตัดสินใจว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้พลังของเขา

 

พื้นที่ข้างหน้าของเขาบิดเบี้ยวเมื่อเขาเอื้อมมือออกไป

 

ตรงจุดนั้น พลังของมัคคุเทศก์ก็ระเบิดออกมาเพื่อเข้าไปยุ่งกับสถานการณ์

 

“ครั้งนี้คุณโดนดีแน่ เลียม!”

 

อย่างไรก็ตาม พลังของไกด์ไม่ได้เหลือเยอะมากพอ ดังนั้นเขาจึงทำอะไรไม่ได้มากนัก

 

ในสถานะปัจจุบันของเขา เขาทำได้เพียงก่อความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

ถึงกระนั้น เขาก็ยังมีความสุขที่สามารถขัดขาเลียมได้  

 

“สักวันพลังฉันจะฟื้นกลับมา และคราวนี้จะเป็นคุณที่รู้สึกเจ็บปวด เลียม! ฟุฮะๆๆๆ!”

 

แสงสีขาวมองดูไกด์หัวเราะก่อนจะหายตัวไป

 

◇ ◇ ◇

 

…ระยะเวลาการฝึกกำลังจะสิ้นสุดลง

 

แม้ว่าพวกเขาจะเรียกมันว่าการฝึกอบรม แต่ส่วนใหญ่ก็แค่ทำงานง่ายๆ ให้กับบ้านของไวเคานต์

 

แม้ว่าผมจะไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษใดๆ แต่ก็สนุกดี

 

ถึงอย่างนั้นผมก็เบื่อ นโยบายของครอบครัวราเซลที่จริงจังเกินไป

 

ผมอยากเที่ยวเล่นมากกว่านี้…แต่มันค่อนข้างไม่ปลอดภัยอ่ะ

 

หลังจากที่ผมกลับไปยังอาณาเขตของ ผมสาบานว่าจะลงทุนในกิจการย่านบันเทิงมากขึ้น

 

“เร็วเข้า! แขกคนสำคัญหลายคนจะมาร่วมงานนี้นะ!”

 

ขณะที่ผมกำลังช่วยจัดห้องจัดเลี้ยง ผมก็คุยกับเคิร์ตขณะทำงานไปด้วย

 

“เขาดูกระตือรือร้นจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

“ได้ยินมาว่าครั้งนี้แขกมาเยอะ เนื่องจากบ้านปีเตอร์แห่งพีตักอยู่ที่นี่ กองกำลังทหาร ผู้แทนโรงงานอาวุธ และหัวหน้าหอการค้าต่างๆ ก็จะมาด้วย”

 

เมื่อผมทำพิธีบรรลุนิติภาวะ ผู้คนยังไม่เยอะเท่านี้

 

แต่ดูเหมือนว่าสำหรับ ขุนนางที่แท้จริงที่มีอำนาจและประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า ผู้คนจำนวนมากจะแห่เข้าหาพวกเขาโดยธรรมชาติโดยหวังว่าจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

 

ผมอิจฉานิดหน่อย

 

สักวันหนึ่ง ผมอยากจะจัดงานเลี้ยงแบบนี้ได้ทุกวัน พร้อมดื่มด่ำรสชาติของชีวิต

 

“แม้ว่าพวกเขาจะบอกให้เราจัดสถานที่จัดปาร์ตี้ แต่เขารื้อสถานที่สร้างใหม่เลยไม่ใช่เหรอ?”

 

“นั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่าเรื่องนี้สำคัญสำหรับพวกเขามากน่ะสิ”

 

พื้นของสถานที่ถูกรื้อออกและเปลี่ยนใหม่ ในขณะที่มีการเตรียมน้ำพุไว้ตรงกลาง

 

การหมั้นของปีเตอร์และแคทเทอรีน่าจะมีการประกาศในงานปาร์ตี้นี้ด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจว่าเกือบทุกอย่างควรถูกสร้างใหม่และปรับปรุงให้ทันสมัย

 

มีคนงานก่อสร้างมากมายที่นี่ แต่เราก็ต้องช่วยด้วย

 

อย่างแรกเลย สถานที่จัดงานมันกว้างมาก

 

นี่พวกเขาคาดหวังว่าจะมีคนเข้าร่วมกี่คน?

 

ขณะที่ผมคิดเรื่องนี้ ผมก็สังเกตเห็นว่ามีสนามประลองก็เตรียมไว้ที่นี่ด้วย

 

“นั่นคือเวทีประลองเรอะ?”

 

“ฉันคิดว่างั้นนะ คุณจะไม่เข้าร่วมใช่ไหมเลียม?”

 

“การประลองถูกจัดฉากไว้ก็จริง แต่ผมยอมให้ตัวเองแพ้ไม่ได้ ในฐานะผู้ใช้ทักษะดาบประกายแสงเพียงคนเดียวที่นี่”

 

นี่เป็นเพียงงานเล็กๆ เพื่อแสดงผลของการฝึกอบรม  

 

ดูเหมือนว่าเคิร์ทจะเข้าร่วมและจะต้องแกล้งแพ้อย่างเหมาะสม

 

เรื่องมันยุ่งยาก

 

“ฉันอาจจะคิดถึงที่นี่นิดหน่อย”

 

เคิร์ทดูเศร้าเล็กน้อย

 

“ไม่มีเวลาให้ซึมหรอกนะ อีกไม่นานเราจะต้องไปโรงเรียนประถม ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องทำหลังจากนี้”

 

“ก็จริงนะ”

 

ขณะที่เคิร์ทตอบด้วยรอยยิ้มแหย อัศวินฝึกสอนก็เข้ามาหา

 

“เคิร์ท มีการติดต่อจากที่บ้านน่ะ!”

 

“ครับ ฉันกำลังไป!”

 

เคิร์ทจึงออกจากสถานที่

 

ขณะที่ผมทำงานตัวเองต่อไป ผมเหลือบเห็นเหมือนหางอยุ่ที่มุมโต๊ะ

 

-มันดูเหมือนสุนัข

 

“หลงทางมมาเหรอ? แกหาทางออกอยู่รึเปล่า?”

 

ขณะที่ผมพยายามจะเข้าใกล้มัน ทันใดนั้น สัตว์ที่เหมือนสุนัขก็หนีไปทางด้านหลังของห้อง

 

ก่อนที่ผมจะรู้ตัว ผมก็ไล่ตามไปจนถึงโถงทางเดินใกล้ทางออก

 

“หืม? มันไปไหนแล้วล่ะ? ช่างเถอะ…หวังว่าคงไม่เป็นอะไรนะ?”

 

ตราบใดที่มันออกจากสถานที่จัดเลี้ยงก็ไม่มีปัญหา

 

แต่เมื่อผมหันหลังจะเดินกลับ ผมได้ยินเสียงของเคิร์ต

 

“–คุณมาไม่ได้เพราะพวกโจรสลัดเริ่มมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นเมื่อเร็วๆนี้? ครับ ฉันเข้าใจ… ครับ”

 

คนที่เขาคุยด้วยน่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัว

 

ฟังดูเหมือนพวกโจรสลัดเคลื่อนไหวในอาณาเขตของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถมารับเคิร์ทได้

 

เคิร์ตมีสีหน้ากังวล

 

เมื่อเขาวางสาย ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขิน เมื่อเขาสังเกตเห็นผม

 

“คุณฟังอยู่เหรอ?”

 

“อ่า ผมขอโทษ ผมกำลังไล่ตามสุนัขจนมาถึงนี่ แล้วบังเอิญได้ยินน่ะ”

 

“ไม่เป็นไร. ตอนนี้ครอบครัวของฉันกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ฉันจึงไม่สามารถกลับไปได้อีกสักพัก ฉันจะต้องถามไวเคานต์ว่าเป็นไรไหมถ้าฉันอยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อย”

 

ดูเหมือนว่าสถานะการณ์ทางบ้านทำให้เขาวิตกกังวล

 

ผมคิดว่าสามารถช่วยเขาได้ ในฐานะเพื่อของจอมวายร้าย

 

“ถ้ากังวลขนาดนั้น ให้ผมช่วยส่งคุณกลับบ้านแล้วกัน”

 

“จริงรึ?! ไม่… นั่นมันไม่ได้หรอก ที่นั่นมีโจรสลัด-”

 

“เคิร์ท โจรสลัดเป็นเพียงกระเป๋าเงินที่มีชีวิตเท่านั้นแหละ”

 

“ฮะ?”

 

“หลังจากเคลียร์ทุกอย่างแล้ว ผมจะเอาของที่ริบมาเจ็ดส่วน และคุณก็รับไปสามส่วน”

 

“เดี๋ยว อย่าพูดอย่างกับว่าเป็นเรื่องง่ายๆสิ! คุณต้องไปคุยกับคนของคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน แถมถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้-”

 

“ไม่เป็นไรหรอก ผมมีอำนาจเบ็ดเสร็จภายในอาณาเขต พวกเขาจะฟังทุกสิ่งที่ผมพูดทุกอย่าง จำไว้ว่านี่คือข้อดีอย่างหนึ่งของการเป็นจอมวายร้าย ต่อให้ของสิ่งนั่นเป็นสีขาวแต่ถ้าผมบอกว่ามันสีดำมันก็จะเป็นสีดำ  

ดังนั้นถ้าผมสั่งให้พวกเขาเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ ไม่มีทางที่พวกเขาจะปฏิเสธได้”

 

เคิร์ตมองมาที่ผมในขณะที่ตกตะลึง

 

ยังไร้เดียวสาอยู่ล่ะนะ

 

ผมคิดว่าต้องติดต่ออามากิซะแล้วสิ

 

◇ ◇ ◇

 

คฤหาสน์เบนฟิลด์

 

ภายในอาคารสำนักงาน อามากิกำลังคุยกับเลียม

 

ภาพฉายของเลียมลอยอยู่ในอากาศ

 

“-ส่งกองยานไปรับ? ได้ค่ะ แต่ดิฉันคิดว่ามันไม่เหมาะสมที่จะส่งไปยังดินแดนของไวเคานต์”

 

“ผมต้องการกิงยานเพื่อช่วยพาเพื่อนกลับบ้าน ผมจะไปล่าโจรสลัดอีกครั้ง”

 

“อ้อเข้าใจแล้ว… นายท่านทำเพื่อช่วยเพื่อนใช่ไหม?

 

“เพราะเขาเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ลอร์ดผู้ชั่วร้าย ผมจึงต้องรักษาความสัมพันธ์ของเราไว้”

 

“ดิฉันดีใจกับคุณด้วย.”

 

อามากิแสดงสีหน้าอ่อนโยน ขณะที่เธอคิดว่าเลียมอาจเข้าใจผิดอะไรบางอย่างอีกครั้ง

 

“แล้วคุณต้องการกองยานมากแค่ไหน”

 

“ส่งมาได้เท่าไหร่?”

 

เมื่อไม่นานมานี้ดินแดนเบนฟิลด์ถูกโจมตีโดยกองยานโจรสลัดของโกอาส

 

เพราะแบบนั้น ผมจึงลงทุนเล็กน้อยในการขยายกองเรือ

 

“ดิฉันสามารถเตรียมยานได้ประมาณ 12,000 ลำ”

 

“นั่นก็น่าจะพอ โอ้ และอย่าลืมพาเอวิทของผมมาด้วย”

 

เอวิทเป็นอัศวินขับเคลื่อนส่วนตัวของเลียม

 

มันใหญ่กว่าอัศวินทั่วไป เป็นเครื่องคุณภาพสูงที่มีคนเพียงไม่กี่คนที่สามารถขับได้

 

“ทำไมไม่พักผ่อนซักหน่อยล่ะ? คุณไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง”

 

“มันเป็นความฝันของเด็กผู้ชายที่จะต่อสู้ในหุ่นยนต์! ครั้งนี้น่าจะได้กำไรไม่น้อย”

 

“…ถ้าเป็นอย่างนั้น ดิฉันจะติดต่อกับบารอน เอ็กซ์เนอร์”

 

“ต้องฝากเรื่องนี้ให้คุณแล้ว”

 

ทันทีที่เลียมวางสาย อามากิก็เริ่มติดต่อกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทันที

 

“–พอดีเลย ฉันควรให้พวกเขาทำงานด้วย”

 

◇ ◇ ◇

 

โรงงานอาวุธที่สาม

 

ต่อหน้าอัศวินขับเคลื่อนจำนวนมากที่เรียงรายอยู่ที่นั่น – เทีย มองดูหุ่นรูปร่างมนุษย์

 

เธอเพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย

 

หลังจากรวบรวมหน่วยกิตที่จำเป็นสำหรับการสำเร็จการศึกษา เธอก็จบหลักสูตร

 

ต่อจากนี้ไป สิ่งที่รอเธออยู่คือการฝึกเป็นข้าราชการ แต่ก่อนหน้านั้นเธอกำลังจะกลับไปยังดินแดนของเลียม

 

สาวๆ ที่สมัครเป็นอัศวินก็กลับมาเช่นกัน

 

–พวกเขาทั้งหมดต้องการมีส่วนร่วมในการล่าโจรสลัด

 

ยูลิเซีย ซึ่งทำงานในโรงงานอาวุธที่สาม กำลังอธิบายคุณสมบัติอัศวินรุ่นใหม่ล่าสุดของพวกเขา

 

“รุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ในกองกำลังพิเศษของกองทัพจักรวรรดิ”

 

จากการออกแบบ อัศวินขับเคลื่อนควรจะมีขนาดใหญ่ แต่เครื่องที่อยู่ด้านหน้าเทียถูกสร้างขึ้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย

 

พวกมันมีหุ่นเพรียวบางและรูปลักษณ์สวยงาม

 

“สเปกที่ระบุไว้ในแค็ตตาล็อกก็ไม่เลว”

 

ยูลิเซียที่ได้ยินคำชมของเทียก็ยิ้มออกมา

 

“ฉันมีความมั่นใจในคุณภาพของพวกมันมาก แต่ท่านเคานต์ก็สุดยอดมาก มีขุนนางไม่กี่คนที่สามารถซื้ออัศวินจำนวนมากพร้อมกันได้ขนาดนี้”

 

เป็นการซื้อรุ่นใหม่หลายร้อยเครื่อง

 

ในขณะที่ชื่นชมอัศวินขับเคลื่อนเครื่องใหม่ของเธอ เทียได้ร้องขอไปยังยูลิเซีย

 

“ฉันอยากให้สีเครื่องของฉันเป็นสีขาวและสีม่วง มันเป็นสีประจำตัวของฉัน”

 

“สีประจำตัวสำหรับผู้สมัครอัศวิน? คุณต้องมีความมั่นใจในตัวเองมาก”

 

เทียหัวเราะกับสิ่งนี้และยิ้ม

 

“ก็คงงั้น นับจากนี้ไปฉันมั่นใจว่าเราจะเป็นฝ่ายชนะเสมอ”

 

เมื่อผู้สมัครอัศวินของบ้านเบนฟิลด์ เข้าไปในเครื่องของตัวเอง สายตาของอัศวินขับเคลื่อนทั้งหมดก็เปล่งประกายด้วยแสงจ้าขณะที่พวกเขาเดินเครื่อง

 

เทีย เริ่มพูดกับทุกคน

 

“ทุกคนจงสรรเสริญ! ลอร์ดเลียมให้โอกาสที่ดีที่สุดแก่เราในการพิสูจน์คุณค่าของเรา! ถึงเวลาล่าโจรสลัดแล้ว!”

 

◇ ◇ ◇

 

การฝึกอบรมของเราในต่างแดนใกล้จะสิ้นสุดแล้ว

 

ก่อนที่เราจะออกจากบ้านราเซล มีการจัดแสดงศิลปะการต่อสู้โดยมีนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษามาเข้าร่วม

 

ผู้ที่ได้รับสิทธิพิเศษจะชนะการแข่งขันครั้งแล้วครั้งเล่า และสถานที่จัดงานก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 

ตอนนี้มันเป็นการแข่งขันระหว่างเคิร์ทและปีเตอร์

 

“-อุ!”

 

“หืม? เป็นอะไรไป? เราต่างก็เป็นนักดาบของโรงฝึกอาเรส ดังนั้นมันคงดูไม่ดีที่คุณไม่สามารถทำอะไรฉันได้~”

 

ปีเตอร์ที่เป็นฝ่ายเหนือกว่าในการแข่งขัน เขาเริ่มเยาะเย้ยเคิร์ท

 

ผมค่อนข้างแปลกใจกับความโหดร้ายที่เกินความจำเป็น

 

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างปกติ แต่จู่ๆปีเตอร์ก็ทำให้เรื่องมันยากขึ้นด้วยการแกล้งอ่อนข้อ ทำให้ศึกนี้ยาวโดยไม่จำเป็น

 

ปีเตอร์แกล้งอ่อนข้อหนักมาก จนแม้แต่เคิร์ทก็ยังดูงุนงงไม่รู้จะทำตัวอย่างไร

 

“นั่นสินะ…”

 

ในขณะที่พูดแบบนั้น เคิร์ทก็แกล้งแพ้โดยตั้งใจทำดาบตก

 

แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะมาจากโรงเรียนเดียวกัน แต่พวกเขาก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

ไม่ นี่มันผิดปกติเกินไปละ…ไม่น่าจะแกล้งอ่อนข้อ… ผู้ชายคนนี้เป็นทายาทของบ้านที่มีคุณธรรมจริงดิ?

 

แบบนั้นใช่มะ? แบบที่ลูกกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ทั้งๆ ที่พ่อแม่ยอดเยี่ยมอะไรแบบนั้น?

 

หลังจากทิ้งดาบของเขา เคิร์ทก็ทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่ง

 

“…ฉันยอมแพ้”

 

บรรยากาศของสถานที่จัดงานดูเหมือนจะเงียบลงเล็กน้อย แต่ก็ยังน่าตื่นเต้นอยู่

 

ปีเตอร์กระทืบไปที่เคิร์ทที่คุกเข่าอยู่

 

“แสดงว่าคุณยอมรับความสามารถของฉันแล้วสินะ?”

 

“…ใช่.”

 

แค่ดูท่าทางของเคิร์ทผมก็สงสารเขาแล้ว

 

ถึงอย่างนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจที่ปีเตอร์มีคุณสมบัติที่จำเป็นในการเป็นลอร์ดชั่วร้ายที่ดีในอนาคต

 

ขณะที่ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จู่ๆ ปีเตอร์ก็หันดาบมาทางผม

 

“นายน่ะขึ้นมาสู้กับฉันซะ! มันคงจะน่าเบื่อถ้าจบแค่นี้ มาเร็วๆเข้า ไอ้ผู้ฝึกดาบผู้น่าสงสาร”

 

เมื่อปีเตอร์ประกาศเช่นนั้น ไวเคานต์ก็สั่งให้ผมขึ้นไปที่ลานประลองพร้อมกับทำหน้าลำบากใจ

 

หัวหน้าอัศวินผู้ฝึกสอนเริ่มขอโทษผม

 

“ฉันขอโทษ เขาเป็นแขกคนสำคัญของเรา ดังนั้นฉันจะขอบคุณมากถ้าคุณออกไปซักหน่อย”

 

“เขากล้ามากที่ดูถูกโรงฝึกของผม เฮ้– จะเป็นไรไหมถ้าผมจะเอาจริง”

 

หัวหน้าอัศวินผู้ฝึกสอนยิ้มให้ผมเล็กน้อย

 

“ก็เขาไม่ยอมรามือเองนี่? ฉันไม่เคยชอบเรื่องตลกแบบนี้ตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม อย่าฆ่าเขาล่ะ”

 

มีเพียงส่วนที่ไม่ฆ่าเขาเท่านั้นที่พูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง

 

ก็แน่นอนผมจะไม่ฆ่าเขา

 

“อย่ากังวลไป ผมอาจไม่ได้ฝึกฝนการอ่อนข้อไว้มากนัก แต่ด้วยความช่วยเหลือของเคิร์ท ผมสามารถหาวิธีแก้ไขเพื่อทำให้วิชาดาบของผมอันตรายน้อยลง”

 

“จริงรึ?”

 

เพื่อตอบคำถามให้กับอัศวินที่สงสัย ผมขอนำเสนอ ค้อนของเล่นส่งเสียงปิ๊ดๆ

 

ทั้งในจักรวาลนี้และในชีวิตก่อนหน้าของฉัน นี่คือค้อนของเล่นที่ส่งเสียงมื่อใดก็ตามที่มันกระทบบางสิ่ง

 

มันจะไม่เจ็บมากถ้าผมตบเขาด้วยสิ่งนี้

 

“เดี๋ยวนะ คุณไม่คิดว่านั่นจะดูหมิ่นไปหน่อยเหรอ?”

 

“ถ้าผมไม่ใช้สิ่งนี้ ผมอาจจะฆ่าพวกเขาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้”

 

เมื่อผมเข้าสู่สนามประลองด้วยค้อนของเล่น ปีเตอร์เริ่มหัวเราะเยาะผม

 

ไวเคานต์ราเซล จ้องมาที่ผมราวกับว่าฉันเพิ่งตอกตะปูสุดท้ายในโลงศพ

 

ปีเตอร์หันมาหาผม

 

“พูฮะฮะ! ดูเหมือนแกจะยากจน จนไม่มีเงินซื้อดาบสินะ แกรู้ไหมว่าฉันสามารถซื้อของเหล่านั้นได้มากเท่าที่ฉันต้องการ”

 

ขณะที่ฟังเขาพูดพล่อยๆ ผมก็รอสัญญาณเริ่มต่อสู้

 

ผู้ตัดสินมองไปที่ไวเคานต์ราเซล และดูเหมือนจะลังเล แต่ในที่สุดก็ยอมปล่อยหลังจากได้รับคำสั่ง

 

“เตรียมพร้อม… เริ่ม!”

 

พริบตาหลังจากนั้น

 

ค้อนที่ผมเหวี่ยงลงบนหัวของปีเตอร์ก็ส่งเสียง ‘ปิ๊บ’ ดังลั่น เขาทรุดตัวลงกับพื้นดัง ‘ป๊าบ!’

 

ทันทีที่การแข่งขันเริ่มต้น ผมก็ประชิดตัวทันทีแล้วเหวี่ยงค้อนลงไป ทำให้ปีเตอร์ล้มลงไปกองกับพื้น

 

ผมมองเห็นสีขาวในดวงตาของเขา

 

“…ก็แค่นี้เอง”

 

ผมเขย่าค้อนเพื่อตรวจดูสภาพ ดูเหมือนว่าจะยังไม่หัก

 

มันทนทานมากสำหรับของเล่น

 

ขณะที่ผมยืนอยู่คนเดียวในสนามประลอง เด็กรอบๆที่ได้รับสิทธิพิเศษก็ประณามผม

 

“ค-คุณโกง! อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว ไม่ยุติธรรมเลย!”

 

“ถ้ามีเรื่องจะบ่นก็ขึ้นมาสิ”

 

ผมจะสอนความจริงของจักรวาลนี้ให้สักหน่อยนะ

 

ในจักรวาลนี้ คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่ถูกต้อง!

 

ถึงเหล่าขุนนางผู้มีคุณธรรมในอนาคต ผมจะสอนความจริงทั้งหมดให้คุณเอง!

 

“มันน่ารำคาญที่จะสู้กับพวกคุณทีละคน ดังนั้นมาพร้อมกันทั้งหมดนั่นแหละ!”

 

“แกมันก็แค่ขยะจากโรงฝึกดาบเล็กๆ อย่ามาอวดดีนะ!”

 

สำหรับพวกโง่ที่ปีนขึ้นมาบนสังเวียน ผมส่งเขาบินออกจากสังเวียนทันที

 

“มันไม่ใช่ ‘โรงฝึกเล็กๆ’ มันคือโรงฝึกประกายแสง ผมจะสลักชื่อนี้ลงไปในหัวของคุณเอง”

 

พวกที่ชนะการแข่งขันเริ่มปีนขึ้นมาบนเวทีและแห่เข้ามาหาผม

 

ผมเป่าพวกมันทั้งหมดออกจากวงแหวนด้วยค้อนของเล่นขณะหัวเราะ

 

เมื่อยืนอยู่ใจกลางเวที ผมเริ่มเล่าความจริงของสถานที่นี้ให้พวกเขาฟัง

 

“อย่าเพิ่งเหลิงเพียงเพราะคุณชนะการแข่งขันที่กำหนดชัยชนะไว้แล้ว! คุณมันเป็นแค่นักดาบตัวเล็กๆเท่านั้นแหละ!”

 

ไม่ใช่แค่คนที่ท้าทายผม แต่แม้แต่ไวเคานต์ราเซล ก็จ้องมาที่ผมด้วยใบหน้าสีแดง

 

ผมคิดว่าอาจจะทำมันเกินไปหน่อย แต่นั่นก็เพราะผมไม่คิดว่าจะมีส่วนร่วมอะไรกับพวกเขาอีก

 

อย่างน้อยมันก็สดชื่น

 

——————————

 

ไบรอัน ( ´・ω・`) “ท่านเลียมน่าทึ่งมาก!”  

 

เทีย ( ゜∀゜) “ลอร์ดเลียมสุดยอดเลยค่ะ!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+