(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! 37

Now you are reading (WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! Chapter 37 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตระกูลเบิร์กลีย์

 

โรเซตต้ากำลังจนมุม

 

ปีหนึ่งกำลังจะสิ้นสุดลง แต่คะแนนของเธอแย่มาก

 

เกรดโดยรวมของเธอถูกทิ้งห่างจากเพื่อนในห้อง

 

ซึ่งเทียบเฉพาะในหมู่นักเรียนของอาคารเรียนหลังที่หนึ่ง แน่นอนว่ามันต่ำสุด

 

“ทั้งๆที่ฉันตั้งใจมากขนาดนั้น…”

 

เธอเรียนจนแทบไม่ได้นอน

 

แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเธอที่จะตามทัน

 

ขณะที่เธอเดินผ่านโถงทางเดินด้วยสีหน้าสิ้นหวัง นักเรียนบางคนที่ปกติแล้วคุณจะไม่เห็นในอาคารเรียนหลังที่หนึ่งได้เข้ามาหาเธอ

 

ที่ศูนย์กลางของกลุ่มห้าคนคือ บารอนของบ้านเบิร์กลีย์-เดอร์ริก

 

โรเซตต้าหันหลังกลับทันทีและพยายามจะหนี แต่เขาคว้าแขนเธอไว้

 

“เดี๋ยวก่อนเซ่ คนจนอย่างคุณจะหนีไปไหน”

 

แม้ว่าโรเซตต้าจะพยายามสะบัดมือที่คว้าเธอไว้ แต่แขนของเดอร์ริกซึ่งดูบอบบางก็แข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อ

 

เดอร์ริกซึ่งผ่านการเสริมสร้างร่างกายมาหลายครั้งนั้น แข็งแกร่งกว่าโรเซตตาซึ่งได้รับความแข็งแกร่งจากการทำงานหนักและการฝึกฝน

 

—นั่นคือความเป็นจริงของจักรวาลนี้

 

“ป-ปล่อยฉันนะ!”

 

“อย่าพูดจาเย็นชาอย่างนั้นสิ ดยุกผู้ยากไร้ โรเซตต้า”

 

ผู้ติดตามของเดอร์ริกหัวเราะ

 

เมื่อเดอร์ริกจ้องมองโรเซตต้า เธอรู้สึกว่าการจ้องมองของเขานั้นเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย

 

“แม้ว่าคุณจะได้รับการเสริมความแข็งแกร่งทางร่างกายเพียงเล็กน้อย แต่ร่างกายของคุณค่อนข้างดีเลยนี่? อย่างที่คิด สำหรับคนยากจนที่ทำได้เพียงขายร่างกาย คุณสมบูรณ์แบบจริงๆ”

 

หลังจากถูกผลัก โรเซตต้าก็ล้มลง กระเป๋าเธอตกกระจายเต็มพื้นสมุดเกรดของเธอก็ถูกแสดง

 

เดอร์ริกเห็นเนื้อหาของมัน – และหัวเราะ

 

“ย-อย่ามองนะ!”

 

เธอพยายามเอาอุปกรณ์ของเธอคืน แต่มันอยู่ในกำมือของเดอร์ริกแล้ว

 

“คุณนี่มันน่าสิ้นหวังจริงๆ คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นขุนนางด้วยซ้ำ”

 

โรเซตต้าพยายามที่จะดึงเอกสารของเธอ เดอร์ริกหัวเราะขณะที่ผลักเธอล้มลงอีกครั้ง

 

“ว้าย…!”

 

ผู้ติดตามเดอร์ริกยืนล้อมโรเซตต้า หลังจากเดอร์ริกผลักเธอลง

 

“–โรเซตต้า ครอบครัวของคุณกำลังมองหายีนของขุนนางที่มีความสามารถไม่ใช่เหรอ?”

 

เดอร์ริกถอดเข็มขัดออก และมองโรเซตตาขณะที่เลียริมฝีปาก

 

โรเซตต้ารู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลังของเธอขณะที่เธอเหงื่อตก

 

“ก-แกพูดบ้าอะไร?”

 

เดอร์ริกทไหน้าจริงจัง

 

“ขอบคุณฉันซะซี่ บ้านของคุณจะสามารถสืบทอดยีนอันสุดยอดของตระกูลเบิร์กลีย์ได้… โอ้…แต่อย่าได้มีความคิดว่าจะได้รับอะไรจากครอบครัวเบิร์กลีย์ เพราะจะไม่มีใครรู้ว่าเป็นลูกของเรา”

 

โรเซตต้าพยายามหนีจากเดอร์ริก ผู้ซึ่งเพิ่งพูดเรื่องหยาบคายใส่ แต่เธอทำไม่ได้เพราะลูกน้องของเขาที่อยู่รอบตัวเธอ

 

“ดัชเชสผู้น่าอับอายควรจะรู้สึกขอบคุณที่ได้รับยีนอันยอดเยี่ยมของท่านเดอร์ริคคนนี้!”

 

เมื่อเดอร์ริกเอื้อมมือออกไปหาโรเซตต้า เธอพยายามต่อต้านแต่ถูกกดลงอย่างง่ายดาย

 

“มะ-ไม่ หยุดนะ! ใครก็ได้ช่วยด้วย!”

 

นักเรียนและครูที่เดินผ่านโถงทางเดินนั้น เมินหน้าหนี

 

พวกเขาไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับเดอร์ริคและครอบครัวเบิร์กลีย์

 

และไม่มีประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ที่มีสถานะแบบโรเซตต้า

 

(…ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้?)

 

ปากของเธอถูกปิดไว้เพื่อกลบเสียงกรีดร้องของเธอ ดังนั้นสิ่งที่ โรเซตต้าทำได้คือจ้องไปที่พวกเขา

 

นั่นคือตอนที่ลูกน้องคนหนึ่งปลิวออกไป

 

“…ฮะ?”

 

หลังจากเห็นลูกน้องคนหนึ่งของเดอร์ริคปลิวออกไป โรเซตต้าหันหน้ามองไปทิศทางตรงกันข้ามที่เขาปลิว  

 

คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือเลียมซึ่งมีเคิร์ทและวอลเลซอยู่ข้างๆ

 

“พวกนี้คือใครละเนี่ย? ผมไม่เคยเห็นหน้าเจ้าพวกนี้ที่นี่มาก่อน”

 

เพราะคำพูดของเลียม วอลเลซหน้าซีด

 

“เลียม! นั่นบารอน เบิร์กลีย์!”

 

เคิร์ทรู้สึกประหลาดใจ

 

“เขาคือผู้ชนะของทัวร์นาเมนต์ที่แล้วไม่ใช่เหรอ? เขาเป็นนักเรียนของอาคารเรียนหลังที่สองนี่?”

 

เคิร์ทดูเหมือนไม่ค่อยรู้เรื่องครอบครัวเบิร์กลีย์มากนัก

 

เลียมก็เหมือนกัน

 

“แล้วเขามาที่นี่ทำไมล่ะนั่น? ช่างเหอะ เฮ้ย หลีกทางไปหน่อยซิ”

 

หลังจากที่เลียมพูดแบบนั้น เดอร์ริกรู้สึกว่าเลือดพุ่งไปที่หัวของเขาและเริ่มตะโกน

 

“ไอ้เหี้ย มึงคิดว่ากำลังทำน้ำเสียงแบบนี้กับใครวะไอ้สัส! กูชื่อ บารอน เบิร์กลีย์นะเว้–!”

 

ยังไม่ทันจบประโยคดี เดอร์ริกก็ปลิวออกไปอย่างแรง

 

เลียมย่นระยะห่างในพริบตา หมัดของเขากระแทกเข้าไปที่ใบหน้าของเดอร์ริก

 

“– คุณคิดว่าคุณใช้น้ำเสียงนี้กับใครเหรอ? ผมขอคืนคำนั้นกลับไปให้คุณ ผมเป็นเคานต์”

 

ลูกน้องคนหนึ่งที่รีบไปหาเดอร์ริคได้รู้ความจริงหลังจากได้ยินคำพูดนั้น

 

“เคานต์? คุณคือเบนฟิลด์!”

 

นั่นคือตอนที่ลูกน้องที่เหลือปลิวไป

 

“อย่ามาเรียกเหมือนเราสนิทกัน ไอ้ขยะ!”

 

เคิร์ทและวอลเลซกรีดร้องกับการกระทำของเลียม

 

“เลียม รุนแรงเกินไปแล้ว!”

 

“อ๊ากกกกก!!! เลียม! ช่วยดูคู่ต่อสู้ของคุณก่อนที่จะสู้เซ่!”

 

เหล่าลูกน้องหิ้วปีกเดอร์ริกที่หมดสติขึ้นมาแล้วรีบหนีไป

 

โรเซตต้ามองดูเหตุการณ์ทั้งหมดขณะนั่งอยู่บนพื้น ตอนนี้ชุดที่เธอใส่ดูไม่เรียบร้อยเอาซะเลย

 

เลียมเข้าไปหาเธอและเอื้อมมือออกไปเพื่อจะดึงเธอขึ้นมา

 

“เฮ้ คุณโอเคไหม?”  

 

มือนั้นที่ยื่นมาหา…โรเซตต้าตบมันออกไป

 

“โอ๊ะ?”

 

เลียมพยายามช่วยเธอ แต่โรเซตต้าก็จ้องมาที่เขา

 

“อย่ามายุ่งกับฉัน… ฉัน… แม้ว่าฉันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ยังเป็นลูกสาวของบ้านดยุค!”

 

เธออยากจะขอบคุณเขา

 

อย่างไรก็ตาม โรเซตต้าพูดอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้ เพราะเป็นเลียมที่ช่วยเธอไว้

 

เธอรีบลุกขึ้นและวิ่งหนีไป

 

(…ทำไมฉันถึงทำตัวแบบนี้นะ?)

 

เธอเกลียดตัวเองที่ไม่มีอำนาจใดๆ

 

เธอเกลียดคนรอบข้างที่ไม่ได้ช่วยเธอ

 

และเธอเกลียดเลียมที่สมบูรณ์แบบและมีคุณธรรมที่เธออิจฉามากที่สุด

 

เธอดีใจในตอนแรก แต่แล้วเธอก็รู้ว่ามันเป็นความสงสารของคนที่ชีวิตดีพร้อม และความรู้สึกของเธอก็กลับกลายเป็นความเกลียดชัง

 

โรเซตต้าเกลียดชีวิตของเธอที่โรงเรียนประถม

 

◇ ◇ ◇

 

ขณะที่ผมมองดูร่างของโรเซตต้าวิ่งหนีไป ผมอดคิดไม่ได้

 

-เธอดูสบายดีนะ

 

ผมที่ตอนนี้เป็นหัวหน้าบ้านยศเคาท์ แต่เธอปฏิเสธที่จะก้มหัวให้ผมเพราะเธอกำลังจะเป็นดัชเชส

 

เมื่อเธอหายไปจากสายตาของผมในที่สุด วอลเลซก็เรียกผม

 

“เลียม คุณรู้ใช่ไหมว่านั่นคือใคร”

 

ผมหันไปยิ้มให้วอลเลซที่กำลังมีสีหน้ากังวล

 

“โอ้ฉันรู้…ผมชักจะชอบเธอแล้วสิ”

 

เคิร์ทมองมาที่ผมและเบิกตากว้าง

 

“เลียม นิสัยแย่ๆ ของคุณกำลังออกมาอีกแล้ว”

 

วอลเลซดูไม่สบายใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินความคิดเห็นเกี่ยวกับนิสัยแย่ๆ ของผม

 

แต่เคิร์ทไม่ได้อธิบาย

 

–มันไม่ใช่เรื่องที่วอลเลซต้องรู้

 

โดยพื้นฐานแล้ววอลเลซเป็นคนดี

 

เขาไม่ใช่วายร้ายอย่างเคิร์ทกับผม

 

“อย่าพูดอย่างนั้น มันเหมือนกับงานอดิเรกของผมมากกว่า”

 

ผมต้องการให้โรเซตต้าผู้มีความภาคภูมิใจในสายเลือดของเธอ ยอมมอบตัวและหัวใจให้ผมจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

มันน่าสนใจมากที่จะมีผู้หญิงที่เย่อหยิ่งมายอมจำนนต่อผม

 

ผมชอบผู้หญิงที่ซื่อสัตย์และเชื่อฟัง แต่บางครั้งผู้หญิงที่ดื้อรั้นก็ดีเหมือนกัน

 

ไม่ว่าจะเป็นเทียหรือมารีพวกเขาทั้งหมดยอมจำนนต่อผมง่ายดายเกินไป

 

ผมไม่ได้เกลียดทัศนคติแบบนั้น แต่มนุษย์เป็นสัตว์ที่มองหาสิ่งเร้าอยู่เสมอ

 

ผมต้องการเห็นการยอมจำนนของบุคคลที่จองหอง

 

– เลือดของลอร์ดชั่วร้ายในตัวผมกู่ร้อง

 

นี่เป็นนิสัยเสียที่เคิร์ทพูดถึงก่อนหน้านี้

 

โรเซตต้า หนอ โรเซตต้า…เมื่อคุณทำสายตานั่นใส่ผม คุณก็จบสิ้นแล้ว

 

ผมจะทำลายคุณ

 

◇ ◇ ◇

 

เลียมเข้าไปในหอพักนักเรียนพร้อมกับยิ้ม

 

เคิร์ทมองภาพดังกล่าวพลางถอนหายใจ ตอนนี้มีเพียงวอลเลซเป็นคนเดียวที่อยู่รอบๆ

 

“เลียมไม่ได้เปลี่ยนไปเลย”

 

วอลเลซดูกังวล

 

“เฮ้ เลียมจะไม่เป็นไรเหรอเนี่ย? ฉันไม่ต้องการให้ผู้อุปถัมภ์ของฉันหายไปทันทีหรอกนะ ตอนนี้เขาเปลี่ยนทั้งตระกูลเบิร์กลีย์เป็นศัตรูไปแล้ว”

 

“ทั้งตระกูล?”

 

วอลเลซยิ่งกังวล

 

“คุณไม่รู้เหรอ! พวกเขามีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ‘ขุนนางโจรสลัด’ พวกมันคือขยะของจักรวรรดิ ในแง่ของขนาดพวกเขาสามารถเทียบได้กับบ้านของดยุค!”

 

ในตระกูลเบิร์กลีย์ เมื่อใดก็ตามที่เด็กเกิดมา พวกเขาจะพิชิตดินแดนและทำให้เด็กคนนั้นกลายเป็นบารอน

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดอยู่ภายใต้การจัดการโดยบารอน พ่อของเดอร์ริค

 

พวกเขาอยู่ในยศแค่บารอน เพื่อลดการมีส่วนร่วมที่พวกเขาต้องปฏิบัติตามจักรวรรดิ

 

เป็นผลมาจากการหาความมั่งคั่งมากกว่าสถานะทางสังคม

 

ด้วยเหตุนี้ บ้านเบิร์กลีย์ จึงถูกเรียกว่าตระกูลเบิร์กลีย์ซึ่งเป็นกลุ่มของยักษ์ใหญ่ที่เกี่ยวพันกัน

 

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นโจรสลัดตั้งแต่รากเหง้า แต่พวกเขาเป็นส่วนสำคัญในการผลิตและจัดหาน้ำอมฤตให้จักรวรรดิ

 

“…พวกเขาเป็นโจรสลัด? อ่อ…แบบนี้นี่เอง”

 

“พวกมันอันตรายมาก เราต้องขอโทษทันที”

 

เคิร์ทส่ายหัวกับความคิดเห็นของวอลเลซ

 

“นั่นเป็นไปไม่ได้… เลียมจะไม่มีวันยอมก้มหัวให้โจรสลัด”

 

“แต่คู่ต่อสู้เป็นทั้งตระกูลเชียวนะ!”

 

“ถึงอย่างนั้น เลียมก็มองพวกนั้นไม่ต่างอะไรจากอาชญากร ถ้าพวกเขาเข้ามาหาเรื่องกับเขา เบัยมจะทำลายกองยานของพวกเขาเหมือนที่เกิดกับบ้านพีตัค”

 

กรามของวอลเลซลดลงอย่างประหลาดใจ

 

“บ้านพีตัค… มาลองคิดดูแล้ว คุณบอกว่าคุณทั้งคู่ฝึกมาจากบ้านของอดีตไวเคานต์ราเซลก่อนหน้านี้ อย่าบอกนะว่าพวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นั่นงั้นหรอ!”

 

แท่งที่หว่างขาขอปีเตอร์ของบ้านพีตัคได้ระเบิดขึ้น ดังนั้นการลงทะเบียนเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาของเขาจึงถูกเลื่อนออกไปสำหรับการพักฟื้น

 

“ต-แต่ตระกูลเบิร์กลีย์มันแย่กว่านั้นมาก! เลียมไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้! ไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งของพวกเขา พวกเขายังมีโจรสลัดเป็นพันธ์มิตร!”

 

เคิร์ทส่ายหัวแม้จะได้ยินอย่างนั้น

 

“ถึงจะพูดแบบนั้น มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เลียมจะเปลี่ยนใจ เลียมไม่เคยปรานีต่อโจรสลัด”

 

วอลเลซทรุดตัวลงกับพื้นและเอามือกุมหน้า

 

“อิสรภาพของฉันสิ้นสุดลงแล้ว มันจบแล้ว…”

 

วอลเลซตกอยู่ในความกลัวเมื่อคิดถึงการตอบโต้ของบ้านเบิร์กลีย์

 

◇ ◇ ◇

 

หอพักนักเรียนของอาคารเรียนหลังที่สอง

 

เดอร์ริกพันผ้าพันแผลบนใบหน้าของเขา

 

“…ฉันจะฆ่าไอ้เวรเลียมนั่นซะ!”

 

ในขณะที่เขายังคงโกรธจากการถูกต่อย ไม่มีใครในบริเวณโดยรอบของเขาแย้งคำพูดของเขาที่จะฆ่าเลียม

 

สำหรับเดอร์ริกแล้ว แม้แต่ความตายก็ยังไม่พอ

 

“ฉันจะทำลายอาณาเขตทั้งหมดของเขา ฉันจะพรากทุกอย่างที่เขารัก ก่อนที่ฉันจะทรมานและฆ่าเขาซะ”

 

ถ้าไกด์ฟังอยู่ เขาคงดีใจมาก

 

แต่เขาไม่ได้อยู่ที่นั่น

 

“เฮ้ย แกไปรู้อะไรเกี่ยวกับเขามา”

 

“ครับ! นี่คือสิ่งที่เรารวบรวมมาได้ในตอนนี้”

 

ข้อมูลที่รวบรวมถูกฉายขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว

 

ด้วยเหตุนี้ เดอร์ริกจึงได้เรียนรู้ว่าดาวหลักของเลียมมีกองทัพจำนวนมาก

 

“–มีดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกซะด้วย”

 

เขาสังเกตเห็นว่ามีดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกที่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา

 

“มียานทางทหารประมาณพันลำประจำการอยู่ที่นั่นด้วย”

 

เดอร์ริคยิ้มทั้งที่เขาไม่มีฟันหน้า

 

“ส่งกองยานส่วนตัวของฉันออกไป ติดต่อบ้านพ่อแม่ของฉันด้วย รวบรวมโจรสลัด เราจะใช้ ‘สิ่งนั้น’ ในบ้านของเขาและเอาทุกสิ่งมา บีบทุกสิ่งที่เราสามารถทำได้จากเขา”

 

เดอร์ริกแทบไม่มีอำนาจภายในครอบครัวของเขา

 

แต่เขายังคงมีกองยานอยู่สามพันลำภายใต้การควบคุมของเขา

 

ถ้าเขารวบรวมกองกำลังอื่น จำนวนจะเพิ่มเป็นสองเท่า

 

เขาคิดว่ามันง่ายที่จะเผาทุกอย่างถ้ามันเป็นเพียงดาวเคราะห์ผู้บุกเบิก

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เลียม… ฉันจะทำให้คุณเสียใจที่ทำให้ฉันโกรธ”

 

เดอร์ริกตัดสินใจโจมตีอาณาเขตของบ้านเบนฟิลด์

 

◇ ◇ ◇

 

ที่ดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกของบ้านเบนฟิลด์

 

เกิดความโกลาหลขึ้นที่ฐานป้องกันที่ประจำการอยู่ที่นั่น

 

“ท่านผู้บัญชาการ! มีกองยานจำนวนหกพันลำกำลังใกล้เข้ามา!”

 

“อะไรนะ?!”

 

ผู้บัญชาการที่ได้รับมอบหมายให้ประจำฐานป้องกันรู้สึกประหลาดใจที่เห็นกองยานข้าศึกฉายบนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่

 

“มีหกพันลำจริงๆเหรอ?”

 

“ใช่ครับ ยืนยันแล้ว”

 

จำนวนหน่วยป้องกันที่พวกเขาประจำการอยู่ที่นั่นเพิ่งเพิ่มขึ้นเป็นพันสองร้อย

 

พวกเขาน้อยกว่าในเรื่องจำนวน แต่…

 

“…พวกเขาโง่หรือบ้า? ยังมีโจรสลัดที่เต็มใจจะต่อสู้กับบ้านเบนฟิลด์อีกรึเนี่ย?”

 

กองยานโจรสลัดกำลังบุกรุกอาณาเขตของเลียม ซึ่งเป็นที่เกรงกลัวของโจรสลัดอย่างมาก

 

พวกเขามาเพื่อโจมตีดาวเคราะห์ผู้บุกเบิก แต่ผู้บังคับบัญชาไม่กลัวเลย

 

เพราะว่า-

 

“–รีบไปอพยพผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ ฐานป้องกันจะช่วยในการสกัดกั้น”

 

ยานขนาดใหญ่พิเศษระดับป้อมปราการ ซึ่งเลียมตัดสินใจซื้อหลังจากได้เห็นชุดกีฬาของไนอัสที่ตอนนี้เป็นฐานทัพชั่วคราวสำหรับฐานป้องกัน

 

ประสิทธิภาพของมันสูงมาก

 

เหมาะสมกับชื่อยานระดับป้อมปราการ เป็นยานขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเหมือนป้อมปราการที่เข้มแข็ง

 

เจ้าหน้าที่รีบออกคำสั่ง  

 

ผู้บัญชาการมองไปที่กองยานศัตรูอย่างไม่เชื่อ

 

“ทำไมกองยานโจรสลัดถึงเข้าต่อสู้กับเราด้วยยานเพียงหกพันลำ”

 

กองยานของบ้านเบนฟิลด์ ซึ่งมีระดับป้อมปราการเป็นเรือธง ได้ทำลายล้างข้าศึกอย่างต่อเนื่องเพื่อรอกองกำลังหลัก

 

โจรสลัดร้องขอชีวิต แต่คำวิงวอนของพวกเขาถูกเพิกเฉยและพวกเขาก็ถูกสังหาร

 

ขณะที่ทีมป้องกันกำลังตามล่าศัตรูเพียงลำพัง ศัตรูพยายามวิ่งหนี แต่แล้วพันธมิตรก็มาถึง

 

ศัตรูไม่มีเวลาในการถอนตัวและไม่มีที่จะหลบหนี

 

“พวกเขาพยายามจะทำอะไรกันแน่?”

 

ผู้บัญชาการหน่วยป้องกันเอียงคอ

 

กองยานที่เดอร์ริกรวบรวมไว้ ไม่สามารถเข้าถึงดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกของบ้านเบนฟิลด์ได้ด้วยซ้ำ

 

————————–

 

ไบรอัน (´・ω・`) “ช่วงนี้ฉันไม่สามารถติดต่อกับลอร์ดเลียมหรือเพื่อนของเขาได้เลย ไบรอันคนนี้เป็นห่วงจริงๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

(WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! 37

Now you are reading (WN) I’m the Evil Lord of an Intergalactic Empire! Chapter 37 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตระกูลเบิร์กลีย์

 

โรเซตต้ากำลังจนมุม

 

ปีหนึ่งกำลังจะสิ้นสุดลง แต่คะแนนของเธอแย่มาก

 

เกรดโดยรวมของเธอถูกทิ้งห่างจากเพื่อนในห้อง

 

ซึ่งเทียบเฉพาะในหมู่นักเรียนของอาคารเรียนหลังที่หนึ่ง แน่นอนว่ามันต่ำสุด

 

“ทั้งๆที่ฉันตั้งใจมากขนาดนั้น…”

 

เธอเรียนจนแทบไม่ได้นอน

 

แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเธอที่จะตามทัน

 

ขณะที่เธอเดินผ่านโถงทางเดินด้วยสีหน้าสิ้นหวัง นักเรียนบางคนที่ปกติแล้วคุณจะไม่เห็นในอาคารเรียนหลังที่หนึ่งได้เข้ามาหาเธอ

 

ที่ศูนย์กลางของกลุ่มห้าคนคือ บารอนของบ้านเบิร์กลีย์-เดอร์ริก

 

โรเซตต้าหันหลังกลับทันทีและพยายามจะหนี แต่เขาคว้าแขนเธอไว้

 

“เดี๋ยวก่อนเซ่ คนจนอย่างคุณจะหนีไปไหน”

 

แม้ว่าโรเซตต้าจะพยายามสะบัดมือที่คว้าเธอไว้ แต่แขนของเดอร์ริกซึ่งดูบอบบางก็แข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อ

 

เดอร์ริกซึ่งผ่านการเสริมสร้างร่างกายมาหลายครั้งนั้น แข็งแกร่งกว่าโรเซตตาซึ่งได้รับความแข็งแกร่งจากการทำงานหนักและการฝึกฝน

 

—นั่นคือความเป็นจริงของจักรวาลนี้

 

“ป-ปล่อยฉันนะ!”

 

“อย่าพูดจาเย็นชาอย่างนั้นสิ ดยุกผู้ยากไร้ โรเซตต้า”

 

ผู้ติดตามของเดอร์ริกหัวเราะ

 

เมื่อเดอร์ริกจ้องมองโรเซตต้า เธอรู้สึกว่าการจ้องมองของเขานั้นเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย

 

“แม้ว่าคุณจะได้รับการเสริมความแข็งแกร่งทางร่างกายเพียงเล็กน้อย แต่ร่างกายของคุณค่อนข้างดีเลยนี่? อย่างที่คิด สำหรับคนยากจนที่ทำได้เพียงขายร่างกาย คุณสมบูรณ์แบบจริงๆ”

 

หลังจากถูกผลัก โรเซตต้าก็ล้มลง กระเป๋าเธอตกกระจายเต็มพื้นสมุดเกรดของเธอก็ถูกแสดง

 

เดอร์ริกเห็นเนื้อหาของมัน – และหัวเราะ

 

“ย-อย่ามองนะ!”

 

เธอพยายามเอาอุปกรณ์ของเธอคืน แต่มันอยู่ในกำมือของเดอร์ริกแล้ว

 

“คุณนี่มันน่าสิ้นหวังจริงๆ คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นขุนนางด้วยซ้ำ”

 

โรเซตต้าพยายามที่จะดึงเอกสารของเธอ เดอร์ริกหัวเราะขณะที่ผลักเธอล้มลงอีกครั้ง

 

“ว้าย…!”

 

ผู้ติดตามเดอร์ริกยืนล้อมโรเซตต้า หลังจากเดอร์ริกผลักเธอลง

 

“–โรเซตต้า ครอบครัวของคุณกำลังมองหายีนของขุนนางที่มีความสามารถไม่ใช่เหรอ?”

 

เดอร์ริกถอดเข็มขัดออก และมองโรเซตตาขณะที่เลียริมฝีปาก

 

โรเซตต้ารู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลังของเธอขณะที่เธอเหงื่อตก

 

“ก-แกพูดบ้าอะไร?”

 

เดอร์ริกทไหน้าจริงจัง

 

“ขอบคุณฉันซะซี่ บ้านของคุณจะสามารถสืบทอดยีนอันสุดยอดของตระกูลเบิร์กลีย์ได้… โอ้…แต่อย่าได้มีความคิดว่าจะได้รับอะไรจากครอบครัวเบิร์กลีย์ เพราะจะไม่มีใครรู้ว่าเป็นลูกของเรา”

 

โรเซตต้าพยายามหนีจากเดอร์ริก ผู้ซึ่งเพิ่งพูดเรื่องหยาบคายใส่ แต่เธอทำไม่ได้เพราะลูกน้องของเขาที่อยู่รอบตัวเธอ

 

“ดัชเชสผู้น่าอับอายควรจะรู้สึกขอบคุณที่ได้รับยีนอันยอดเยี่ยมของท่านเดอร์ริคคนนี้!”

 

เมื่อเดอร์ริกเอื้อมมือออกไปหาโรเซตต้า เธอพยายามต่อต้านแต่ถูกกดลงอย่างง่ายดาย

 

“มะ-ไม่ หยุดนะ! ใครก็ได้ช่วยด้วย!”

 

นักเรียนและครูที่เดินผ่านโถงทางเดินนั้น เมินหน้าหนี

 

พวกเขาไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับเดอร์ริคและครอบครัวเบิร์กลีย์

 

และไม่มีประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ที่มีสถานะแบบโรเซตต้า

 

(…ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้?)

 

ปากของเธอถูกปิดไว้เพื่อกลบเสียงกรีดร้องของเธอ ดังนั้นสิ่งที่ โรเซตต้าทำได้คือจ้องไปที่พวกเขา

 

นั่นคือตอนที่ลูกน้องคนหนึ่งปลิวออกไป

 

“…ฮะ?”

 

หลังจากเห็นลูกน้องคนหนึ่งของเดอร์ริคปลิวออกไป โรเซตต้าหันหน้ามองไปทิศทางตรงกันข้ามที่เขาปลิว  

 

คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือเลียมซึ่งมีเคิร์ทและวอลเลซอยู่ข้างๆ

 

“พวกนี้คือใครละเนี่ย? ผมไม่เคยเห็นหน้าเจ้าพวกนี้ที่นี่มาก่อน”

 

เพราะคำพูดของเลียม วอลเลซหน้าซีด

 

“เลียม! นั่นบารอน เบิร์กลีย์!”

 

เคิร์ทรู้สึกประหลาดใจ

 

“เขาคือผู้ชนะของทัวร์นาเมนต์ที่แล้วไม่ใช่เหรอ? เขาเป็นนักเรียนของอาคารเรียนหลังที่สองนี่?”

 

เคิร์ทดูเหมือนไม่ค่อยรู้เรื่องครอบครัวเบิร์กลีย์มากนัก

 

เลียมก็เหมือนกัน

 

“แล้วเขามาที่นี่ทำไมล่ะนั่น? ช่างเหอะ เฮ้ย หลีกทางไปหน่อยซิ”

 

หลังจากที่เลียมพูดแบบนั้น เดอร์ริกรู้สึกว่าเลือดพุ่งไปที่หัวของเขาและเริ่มตะโกน

 

“ไอ้เหี้ย มึงคิดว่ากำลังทำน้ำเสียงแบบนี้กับใครวะไอ้สัส! กูชื่อ บารอน เบิร์กลีย์นะเว้–!”

 

ยังไม่ทันจบประโยคดี เดอร์ริกก็ปลิวออกไปอย่างแรง

 

เลียมย่นระยะห่างในพริบตา หมัดของเขากระแทกเข้าไปที่ใบหน้าของเดอร์ริก

 

“– คุณคิดว่าคุณใช้น้ำเสียงนี้กับใครเหรอ? ผมขอคืนคำนั้นกลับไปให้คุณ ผมเป็นเคานต์”

 

ลูกน้องคนหนึ่งที่รีบไปหาเดอร์ริคได้รู้ความจริงหลังจากได้ยินคำพูดนั้น

 

“เคานต์? คุณคือเบนฟิลด์!”

 

นั่นคือตอนที่ลูกน้องที่เหลือปลิวไป

 

“อย่ามาเรียกเหมือนเราสนิทกัน ไอ้ขยะ!”

 

เคิร์ทและวอลเลซกรีดร้องกับการกระทำของเลียม

 

“เลียม รุนแรงเกินไปแล้ว!”

 

“อ๊ากกกกก!!! เลียม! ช่วยดูคู่ต่อสู้ของคุณก่อนที่จะสู้เซ่!”

 

เหล่าลูกน้องหิ้วปีกเดอร์ริกที่หมดสติขึ้นมาแล้วรีบหนีไป

 

โรเซตต้ามองดูเหตุการณ์ทั้งหมดขณะนั่งอยู่บนพื้น ตอนนี้ชุดที่เธอใส่ดูไม่เรียบร้อยเอาซะเลย

 

เลียมเข้าไปหาเธอและเอื้อมมือออกไปเพื่อจะดึงเธอขึ้นมา

 

“เฮ้ คุณโอเคไหม?”  

 

มือนั้นที่ยื่นมาหา…โรเซตต้าตบมันออกไป

 

“โอ๊ะ?”

 

เลียมพยายามช่วยเธอ แต่โรเซตต้าก็จ้องมาที่เขา

 

“อย่ามายุ่งกับฉัน… ฉัน… แม้ว่าฉันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ยังเป็นลูกสาวของบ้านดยุค!”

 

เธออยากจะขอบคุณเขา

 

อย่างไรก็ตาม โรเซตต้าพูดอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้ เพราะเป็นเลียมที่ช่วยเธอไว้

 

เธอรีบลุกขึ้นและวิ่งหนีไป

 

(…ทำไมฉันถึงทำตัวแบบนี้นะ?)

 

เธอเกลียดตัวเองที่ไม่มีอำนาจใดๆ

 

เธอเกลียดคนรอบข้างที่ไม่ได้ช่วยเธอ

 

และเธอเกลียดเลียมที่สมบูรณ์แบบและมีคุณธรรมที่เธออิจฉามากที่สุด

 

เธอดีใจในตอนแรก แต่แล้วเธอก็รู้ว่ามันเป็นความสงสารของคนที่ชีวิตดีพร้อม และความรู้สึกของเธอก็กลับกลายเป็นความเกลียดชัง

 

โรเซตต้าเกลียดชีวิตของเธอที่โรงเรียนประถม

 

◇ ◇ ◇

 

ขณะที่ผมมองดูร่างของโรเซตต้าวิ่งหนีไป ผมอดคิดไม่ได้

 

-เธอดูสบายดีนะ

 

ผมที่ตอนนี้เป็นหัวหน้าบ้านยศเคาท์ แต่เธอปฏิเสธที่จะก้มหัวให้ผมเพราะเธอกำลังจะเป็นดัชเชส

 

เมื่อเธอหายไปจากสายตาของผมในที่สุด วอลเลซก็เรียกผม

 

“เลียม คุณรู้ใช่ไหมว่านั่นคือใคร”

 

ผมหันไปยิ้มให้วอลเลซที่กำลังมีสีหน้ากังวล

 

“โอ้ฉันรู้…ผมชักจะชอบเธอแล้วสิ”

 

เคิร์ทมองมาที่ผมและเบิกตากว้าง

 

“เลียม นิสัยแย่ๆ ของคุณกำลังออกมาอีกแล้ว”

 

วอลเลซดูไม่สบายใจเล็กน้อยหลังจากได้ยินความคิดเห็นเกี่ยวกับนิสัยแย่ๆ ของผม

 

แต่เคิร์ทไม่ได้อธิบาย

 

–มันไม่ใช่เรื่องที่วอลเลซต้องรู้

 

โดยพื้นฐานแล้ววอลเลซเป็นคนดี

 

เขาไม่ใช่วายร้ายอย่างเคิร์ทกับผม

 

“อย่าพูดอย่างนั้น มันเหมือนกับงานอดิเรกของผมมากกว่า”

 

ผมต้องการให้โรเซตต้าผู้มีความภาคภูมิใจในสายเลือดของเธอ ยอมมอบตัวและหัวใจให้ผมจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

มันน่าสนใจมากที่จะมีผู้หญิงที่เย่อหยิ่งมายอมจำนนต่อผม

 

ผมชอบผู้หญิงที่ซื่อสัตย์และเชื่อฟัง แต่บางครั้งผู้หญิงที่ดื้อรั้นก็ดีเหมือนกัน

 

ไม่ว่าจะเป็นเทียหรือมารีพวกเขาทั้งหมดยอมจำนนต่อผมง่ายดายเกินไป

 

ผมไม่ได้เกลียดทัศนคติแบบนั้น แต่มนุษย์เป็นสัตว์ที่มองหาสิ่งเร้าอยู่เสมอ

 

ผมต้องการเห็นการยอมจำนนของบุคคลที่จองหอง

 

– เลือดของลอร์ดชั่วร้ายในตัวผมกู่ร้อง

 

นี่เป็นนิสัยเสียที่เคิร์ทพูดถึงก่อนหน้านี้

 

โรเซตต้า หนอ โรเซตต้า…เมื่อคุณทำสายตานั่นใส่ผม คุณก็จบสิ้นแล้ว

 

ผมจะทำลายคุณ

 

◇ ◇ ◇

 

เลียมเข้าไปในหอพักนักเรียนพร้อมกับยิ้ม

 

เคิร์ทมองภาพดังกล่าวพลางถอนหายใจ ตอนนี้มีเพียงวอลเลซเป็นคนเดียวที่อยู่รอบๆ

 

“เลียมไม่ได้เปลี่ยนไปเลย”

 

วอลเลซดูกังวล

 

“เฮ้ เลียมจะไม่เป็นไรเหรอเนี่ย? ฉันไม่ต้องการให้ผู้อุปถัมภ์ของฉันหายไปทันทีหรอกนะ ตอนนี้เขาเปลี่ยนทั้งตระกูลเบิร์กลีย์เป็นศัตรูไปแล้ว”

 

“ทั้งตระกูล?”

 

วอลเลซยิ่งกังวล

 

“คุณไม่รู้เหรอ! พวกเขามีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ‘ขุนนางโจรสลัด’ พวกมันคือขยะของจักรวรรดิ ในแง่ของขนาดพวกเขาสามารถเทียบได้กับบ้านของดยุค!”

 

ในตระกูลเบิร์กลีย์ เมื่อใดก็ตามที่เด็กเกิดมา พวกเขาจะพิชิตดินแดนและทำให้เด็กคนนั้นกลายเป็นบารอน

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดอยู่ภายใต้การจัดการโดยบารอน พ่อของเดอร์ริค

 

พวกเขาอยู่ในยศแค่บารอน เพื่อลดการมีส่วนร่วมที่พวกเขาต้องปฏิบัติตามจักรวรรดิ

 

เป็นผลมาจากการหาความมั่งคั่งมากกว่าสถานะทางสังคม

 

ด้วยเหตุนี้ บ้านเบิร์กลีย์ จึงถูกเรียกว่าตระกูลเบิร์กลีย์ซึ่งเป็นกลุ่มของยักษ์ใหญ่ที่เกี่ยวพันกัน

 

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นโจรสลัดตั้งแต่รากเหง้า แต่พวกเขาเป็นส่วนสำคัญในการผลิตและจัดหาน้ำอมฤตให้จักรวรรดิ

 

“…พวกเขาเป็นโจรสลัด? อ่อ…แบบนี้นี่เอง”

 

“พวกมันอันตรายมาก เราต้องขอโทษทันที”

 

เคิร์ทส่ายหัวกับความคิดเห็นของวอลเลซ

 

“นั่นเป็นไปไม่ได้… เลียมจะไม่มีวันยอมก้มหัวให้โจรสลัด”

 

“แต่คู่ต่อสู้เป็นทั้งตระกูลเชียวนะ!”

 

“ถึงอย่างนั้น เลียมก็มองพวกนั้นไม่ต่างอะไรจากอาชญากร ถ้าพวกเขาเข้ามาหาเรื่องกับเขา เบัยมจะทำลายกองยานของพวกเขาเหมือนที่เกิดกับบ้านพีตัค”

 

กรามของวอลเลซลดลงอย่างประหลาดใจ

 

“บ้านพีตัค… มาลองคิดดูแล้ว คุณบอกว่าคุณทั้งคู่ฝึกมาจากบ้านของอดีตไวเคานต์ราเซลก่อนหน้านี้ อย่าบอกนะว่าพวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นั่นงั้นหรอ!”

 

แท่งที่หว่างขาขอปีเตอร์ของบ้านพีตัคได้ระเบิดขึ้น ดังนั้นการลงทะเบียนเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาของเขาจึงถูกเลื่อนออกไปสำหรับการพักฟื้น

 

“ต-แต่ตระกูลเบิร์กลีย์มันแย่กว่านั้นมาก! เลียมไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้! ไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งของพวกเขา พวกเขายังมีโจรสลัดเป็นพันธ์มิตร!”

 

เคิร์ทส่ายหัวแม้จะได้ยินอย่างนั้น

 

“ถึงจะพูดแบบนั้น มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เลียมจะเปลี่ยนใจ เลียมไม่เคยปรานีต่อโจรสลัด”

 

วอลเลซทรุดตัวลงกับพื้นและเอามือกุมหน้า

 

“อิสรภาพของฉันสิ้นสุดลงแล้ว มันจบแล้ว…”

 

วอลเลซตกอยู่ในความกลัวเมื่อคิดถึงการตอบโต้ของบ้านเบิร์กลีย์

 

◇ ◇ ◇

 

หอพักนักเรียนของอาคารเรียนหลังที่สอง

 

เดอร์ริกพันผ้าพันแผลบนใบหน้าของเขา

 

“…ฉันจะฆ่าไอ้เวรเลียมนั่นซะ!”

 

ในขณะที่เขายังคงโกรธจากการถูกต่อย ไม่มีใครในบริเวณโดยรอบของเขาแย้งคำพูดของเขาที่จะฆ่าเลียม

 

สำหรับเดอร์ริกแล้ว แม้แต่ความตายก็ยังไม่พอ

 

“ฉันจะทำลายอาณาเขตทั้งหมดของเขา ฉันจะพรากทุกอย่างที่เขารัก ก่อนที่ฉันจะทรมานและฆ่าเขาซะ”

 

ถ้าไกด์ฟังอยู่ เขาคงดีใจมาก

 

แต่เขาไม่ได้อยู่ที่นั่น

 

“เฮ้ย แกไปรู้อะไรเกี่ยวกับเขามา”

 

“ครับ! นี่คือสิ่งที่เรารวบรวมมาได้ในตอนนี้”

 

ข้อมูลที่รวบรวมถูกฉายขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว

 

ด้วยเหตุนี้ เดอร์ริกจึงได้เรียนรู้ว่าดาวหลักของเลียมมีกองทัพจำนวนมาก

 

“–มีดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกซะด้วย”

 

เขาสังเกตเห็นว่ามีดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกที่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา

 

“มียานทางทหารประมาณพันลำประจำการอยู่ที่นั่นด้วย”

 

เดอร์ริคยิ้มทั้งที่เขาไม่มีฟันหน้า

 

“ส่งกองยานส่วนตัวของฉันออกไป ติดต่อบ้านพ่อแม่ของฉันด้วย รวบรวมโจรสลัด เราจะใช้ ‘สิ่งนั้น’ ในบ้านของเขาและเอาทุกสิ่งมา บีบทุกสิ่งที่เราสามารถทำได้จากเขา”

 

เดอร์ริกแทบไม่มีอำนาจภายในครอบครัวของเขา

 

แต่เขายังคงมีกองยานอยู่สามพันลำภายใต้การควบคุมของเขา

 

ถ้าเขารวบรวมกองกำลังอื่น จำนวนจะเพิ่มเป็นสองเท่า

 

เขาคิดว่ามันง่ายที่จะเผาทุกอย่างถ้ามันเป็นเพียงดาวเคราะห์ผู้บุกเบิก

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เลียม… ฉันจะทำให้คุณเสียใจที่ทำให้ฉันโกรธ”

 

เดอร์ริกตัดสินใจโจมตีอาณาเขตของบ้านเบนฟิลด์

 

◇ ◇ ◇

 

ที่ดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกของบ้านเบนฟิลด์

 

เกิดความโกลาหลขึ้นที่ฐานป้องกันที่ประจำการอยู่ที่นั่น

 

“ท่านผู้บัญชาการ! มีกองยานจำนวนหกพันลำกำลังใกล้เข้ามา!”

 

“อะไรนะ?!”

 

ผู้บัญชาการที่ได้รับมอบหมายให้ประจำฐานป้องกันรู้สึกประหลาดใจที่เห็นกองยานข้าศึกฉายบนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่

 

“มีหกพันลำจริงๆเหรอ?”

 

“ใช่ครับ ยืนยันแล้ว”

 

จำนวนหน่วยป้องกันที่พวกเขาประจำการอยู่ที่นั่นเพิ่งเพิ่มขึ้นเป็นพันสองร้อย

 

พวกเขาน้อยกว่าในเรื่องจำนวน แต่…

 

“…พวกเขาโง่หรือบ้า? ยังมีโจรสลัดที่เต็มใจจะต่อสู้กับบ้านเบนฟิลด์อีกรึเนี่ย?”

 

กองยานโจรสลัดกำลังบุกรุกอาณาเขตของเลียม ซึ่งเป็นที่เกรงกลัวของโจรสลัดอย่างมาก

 

พวกเขามาเพื่อโจมตีดาวเคราะห์ผู้บุกเบิก แต่ผู้บังคับบัญชาไม่กลัวเลย

 

เพราะว่า-

 

“–รีบไปอพยพผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ ฐานป้องกันจะช่วยในการสกัดกั้น”

 

ยานขนาดใหญ่พิเศษระดับป้อมปราการ ซึ่งเลียมตัดสินใจซื้อหลังจากได้เห็นชุดกีฬาของไนอัสที่ตอนนี้เป็นฐานทัพชั่วคราวสำหรับฐานป้องกัน

 

ประสิทธิภาพของมันสูงมาก

 

เหมาะสมกับชื่อยานระดับป้อมปราการ เป็นยานขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเหมือนป้อมปราการที่เข้มแข็ง

 

เจ้าหน้าที่รีบออกคำสั่ง  

 

ผู้บัญชาการมองไปที่กองยานศัตรูอย่างไม่เชื่อ

 

“ทำไมกองยานโจรสลัดถึงเข้าต่อสู้กับเราด้วยยานเพียงหกพันลำ”

 

กองยานของบ้านเบนฟิลด์ ซึ่งมีระดับป้อมปราการเป็นเรือธง ได้ทำลายล้างข้าศึกอย่างต่อเนื่องเพื่อรอกองกำลังหลัก

 

โจรสลัดร้องขอชีวิต แต่คำวิงวอนของพวกเขาถูกเพิกเฉยและพวกเขาก็ถูกสังหาร

 

ขณะที่ทีมป้องกันกำลังตามล่าศัตรูเพียงลำพัง ศัตรูพยายามวิ่งหนี แต่แล้วพันธมิตรก็มาถึง

 

ศัตรูไม่มีเวลาในการถอนตัวและไม่มีที่จะหลบหนี

 

“พวกเขาพยายามจะทำอะไรกันแน่?”

 

ผู้บัญชาการหน่วยป้องกันเอียงคอ

 

กองยานที่เดอร์ริกรวบรวมไว้ ไม่สามารถเข้าถึงดาวเคราะห์ผู้บุกเบิกของบ้านเบนฟิลด์ได้ด้วยซ้ำ

 

————————–

 

ไบรอัน (´・ω・`) “ช่วงนี้ฉันไม่สามารถติดต่อกับลอร์ดเลียมหรือเพื่อนของเขาได้เลย ไบรอันคนนี้เป็นห่วงจริงๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+