บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ 337 ญาติโยมคนนี้พิเศษเล็กน้อย

Now you are reading บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ Chapter 337 ญาติโยมคนนี้พิเศษเล็กน้อย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

พวก​ฮวา​ลั่ว​เห็น​ดังนั้น​จึงตะโกน​อีก​หลายครั้ง​ด้วย​ความ​ไม่ยอม​ ทว่า​มีเพียง​เสียง​ราบเรียบ​ของ​ฟางเจิ้งดัง​แว่ว​มาจาก​ข้างใน​ “เชิญทุกท่าน​กลับ​ไป​เถอะ​ ถ้าอยาก​กิน​ วันนี้​ปีหน้า​ก็​ขอให้​ตื่น​เช้า”

ทุกคน​จนปัญญา​แล้ว​ ได้​แต่​ขอร้อง​หวัง​โอ้ว​กุ้ย​

ฮวา​ลั่ว​พูด​ “ผู้ใหญ่บ้าน​ พวกเรา​เป็น​คนคุ้นเคย​กัน​ มาช่วย​ให้​หมู่บ้าน​พวกคุณ​ก็​ไม่น้อย​ คุณ​ว่า​…ควรจะ​…”

หวัง​โอ้ว​กุ้ย​ฝืนยิ้ม​ “คุณ​ไม่รู้จัก​นิสัย​ของ​ฟางเจิ้ง เขา​ว่า​คำ​ไหน​คำ​นั้น​ บอ​กว่า​ไม่มีก็​ต้อง​ไม่มีแน่​ เอาเถอะ​ เห็นแก่​ที่​พวกเรา​มีความสัมพันธ์​อัน​ดี​ต่อกัน​ ผม​กลับ​ไป​จะหารือ​กับ​คนอื่น​ว่า​จะแบ่ง​ให้​พวกคุณ​เท่าๆ​ กัน​”

เดิมที​ฮวา​ลั่ว​ไม่กลัว​จะมาเอา​บ๊ะจ่าง​เพิ่ม​อยู่แล้ว​ แต่​พอ​หวัง​โอ้ว​กุ้ย​พูด​แบบนี้​จึงยิ้ม​ร่าเริง​ รีบ​ขานรับ​

กลุ่มคน​พา​กันลง​เขา​ไป​อย่าง​ยิ่งใหญ่​ หวัง​โอ้ว​กุ้ย​ยัง​มีอำนาจ​ใน​หมู่บ้าน​อยู่​ พูด​ทีเดียว​พวก​ชาวบ้าน​ต่าง​ไม่ขี้เหนียว​ ทุก​ครอบครัว​แบ่ง​ออกมา​หลาย​อัน​ นักท่องเที่ยว​ทุกคน​จึงได้​กิน​คนละ​อัน​ แน่นอน​ว่า​คน​ที่​เคย​กิน​ไป​แล้ว​ย่อม​เก็บ​ไว้​อย่าง​ระมัดระวัง​ กลับ​ไป​ค่อย​ลิ้มลอง​รสชาติ​ช้าๆ แต่​คน​ที่​ไม่เคย​กิน​จะแกะ​ห่อ​ออก​อย่าง​ร้อนใจ​ พวกเขา​อยาก​รู้มาก​ว่า​บ๊ะจ่าง​นี่​อร่อย​ขนาด​นั้น​เลย​หรือ​ ถึงขั้น​ให้​คน​เหล่านี้​รอ​บน​เขา​อย่าง​แน่วแน่​ได้​หนึ่ง​วัน​!

ผล​คือ​เมื่อ​กิน​คำ​แรก​ล้วน​เสียใจ​ภายหลัง​กัน​หมด​

“เฮ้ย​ กิน​หมด​แล้ว​ ถ้าอยาก​กิน​อีก​จะทำ​ยังไง​…”

“แย่​แล้ว​ รู้​อย่างนี้​กิน​ครึ่ง​คำ​แล้ว​เก็บ​เอาไว้​ดีกว่า​”

“ฉัน​ว่า​จะกิน​แค่​นิดเดียว​นะ​ แต่​ทำไม​อดใจ​ไม่ไหว​…”

…….

แต่​คน​ที่​สำนึก​เสียใจ​ที่สุด​ก็​ยัง​เป็น​ผู้หญิง​ที่​ตอนแรก​สุด​บอ​กว่า​บ๊ะจ่าง​ของ​ฟางเจิ้งมีปัญหา​ ก่อนหน้านี้​ถ้าเธอ​ไม่พูด​เอาไว้​เยอะ​ อย่าง​น้อย​ๆ ตอนนี้​คง​ได้​กิน​หลาย​อัน​…เสียใจ​นัก​!

ไม่ว่า​ทุกคน​จะบ่น​อย่างไร​ แต่​พวก​ชาวบ้าน​ก็​พยายาม​แล้ว​ ทั้ง​ยัง​ได้​กิน​อาหาร​เลิศ​รส​จริงๆ​ แถมไม่ต้อง​จ่าย​เงิน​อีก​! ความไม่พอใจ​ใน​ใจกลายเป็น​ความสุข​ แต่ละ​คนขับรถ​กลับบ้าน​ เพียงแต่​ภายในใจ​จด​จำวัด​เอก​ดรรชนี​ไว้​เงียบๆ​ แล้ว​ จำไว้​ว่า​วันนี้​ของ​ปีหน้า​พวกเขา​จะต้อง​มา แล้ว​ต้อง​มาเช้าๆ ด้วย​!

ขณะเดียวกัน​ ภาพถ่าย​เกี่ยวกับ​วัด​เอก​ดรรชนี​ต่างๆ​ และ​ภาพ​ป่าไผ่​ถูก​เผยแพร่​ออก​ไป​ เมื่อ​ได้ประโยชน์​จาก​ชาวบ้าน​แล้ว​ ทุกคน​ย่อม​ลงแรง​ช่วย​โม้ให้​หมู่บ้าน​อย่าง​เต็มที่​ ทั้ง​ยัง​เผยแพร่​คำพูด​และ​เรื่องเล่า​ที่​พวก​ชาวบ้าน​เคย​บอก​ออก​ไป​ สิ่งที่​น่าอัศจรรย์​ที่สุด​ใน​นั้น​คือ​เรื่อง​ครอบครัว​หยาง​หวา​ขอ​ลูก​

วัด​เอก​ดรรชนี​กลายเป็น​หัวข้อ​สนทนา​เวลา​ดื่ม​ชาหลังอาหาร​ของ​คน​มากมาย​อีกครั้ง​ ข่าว​ความ​ศักดิ์สิทธิ์​ของวัด​เอก​ดรรชนี​กระจาย​ไป​ถึงหู​ชาย​ที่​กำลังกิน​หมั่นโถว​คน​หนึ่ง​ เขา​เงยหน้า​ขึ้น​ ขบคิด​ชั่วครู่​ ก่อน​เก็บ​หมั่นโถว​ที่​เหลือ​ไป​

วัน​ใหม่​มาถึง กระแสข่าว​เมื่อวาน​สลาย​ตาม​ไป​ด้วย​

ดวงตะวัน​ยัง​ไม่โดด​ออก​มาจาก​เส้น​ขอบฟ้า​ แต่​แสงท้องฟ้า​สว่างไสว​แล้ว​ ตั้งแต่​ที่​เด็กแดง​อธิบาย​ว่า​ทำไม​ไก่​ตัวผู้​ถึงขัน​ใน​วันนั้น​ ฟางเจิ้งตั้งนาฬิกาปลุก​ไว้​อย่าง​แน่วแน่​ ไม่ฟังเสียง​ไก่​อีก​ ด้วย​มักจะ​รู้สึก​ว่า​เสียง​นั้น​เต็มไปด้วย​ความปวด​ไข่​

กวาด​อุโบสถ​เสร็จ​ กินข้าว​เช้าแล้ว​ ฟางเจิ้งเปิด​ประตู​ใหญ่​อย่าง​มีชีวิตชีวา​ แต่​พบ​ว่า​มีคน​สอง​คน​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​!

ผู้ชาย​คน​หนึ่ง​สวม​เสื้อเชิ้ต​สีเทา​ กางเกง​สีดำ​ ใน​วันที่​ร้อน​แบบนี้​ยัง​สวม​เสื้อแขนยาว​ พับ​แขน​เสื้อ​ขึ้น​ทำเป็น​แขน​สั้น​ ข้างๆ​ เป็น​เด็กหญิง​คน​หนึ่ง​กอด​กระต่าย​ไหมพรม​ที่​หู​ตก​ข้าง​หนึ่ง​ไว้​ เด็กหญิง​สวม​เสื้อ​สีเหลือง​ กางเกง​เจ็ด​ส่วน​สีแดง​ ยืน​อยู่​ข้าง​ผู้ชาย​ด้วย​ท่าที​กลัว​นิดๆ​ พลาง​จับมือ​เขา​ไว้​ ดู​ตึงเครียด​เล็กน้อย​ พอ​เห็น​ฟางเจิ้งออกมา​ก็​หลบ​ไป​ข้างหลัง​ผู้ชาย​โดยพลัน​

จอน​ผม​ของ​ผู้ชาย​คน​นี้​แซมสีขาว​เล็กน้อย​ ดู​อายุ​น่าจะ​ไม่มาก​ แต่​ดวง​ตากลับ​เต็มไปด้วย​การ​ผ่าน​โลก​มาโชกโชน​

ฟางเจิ้งประนม​สอง​มือ​กล่าว​ “อ​มิตา​พุทธ​ อรุณสวัสดิ์​ทั้งสอง​ท่าน​”

ผู้ชาย​พยายาม​เค้น​รอยยิ้ม​บาง​ๆ “อรุณสวัสดิ์​ครับ​หลวงพี่​…”

“อ​มิตา​พุทธ​ เชิญด้านใน​” มาวัด​คง​ไม่พ้น​มาไหว้พระ​ขอพร​ ฟางเจิ้งย่อม​เชิญเข้ามา​

ทว่า​สิ่งที่​ฟางเจิ้งแปลกใจ​คือ​ผู้ชาย​ไม่เดิน​เข้าไป​ข้างใน​ แต่​ลังเล​อยู่​ชั่วครู่​ แล้ว​ถามฟางเจิ้งว่า​ “ขอ​ถามหน่อย​ครับ​เจ้าอาวาส​ ที่นี่​…ศักดิ์สิทธิ์​จริงๆ​ เหรอ​ครับ​?”

“จริงใจ​ก็​จะสัมฤทธิผล​” ฟางเจิ้งเคย​เจอ​คำถาม​แบบนี้​มาเยอะ​แล้ว​ จึงตอบ​ไป​ทันที​

ผู้ชาย​พยักหน้า​ก่อน​จูงเด็กหญิง​เข้าไป​ใน​วัด​ เห็น​ต้น​โพธิ์​เขียวชอุ่ม​ต้อนรับ​ ด้วย​ผล​จาก​พระธรรม​ของ​ป้าย​วัด​ ความ​กลัดกลุ้ม​ใน​ใจเขา​สงบ​ตาม​ไป​ไม่น้อย​ เด็กหญิง​ก็​ไม่กลัว​อีก​ แถมยัง​แอบ​ส่งยิ้ม​ให้​ฟางเจิ้ง

ฟางเจิ้งยิ้ม​ตอบ​บาง​ๆ

ผู้ชาย​พา​เด็กหญิง​มาที่​หน้า​อุโบสถ​ มอง​ป้าย​หน้า​ประตู​ นัยน์ตา​มีความลังเล​วูบ​ผ่าน​

ฟางเจิ้งพูด​เสียง​เบา​ “ธูป​ชั้นดี​กับ​ธูป​ธรรมดา​ต่างกัน​เพียง​รูปลักษณ์​ จริงใจ​หรือไม่​ไม่เกี่ยวกับ​ธูป​ จิต​ใจถึง ก็​จะถึงเอง​”

ผู้ชาย​ถอนหายใจ​โล่งอก​ มอง​ฟางเจิ้งด้วย​ความ​ซึ้งใจแวบ​หนึ่ง​แล้ว​พา​เด็กหญิง​เข้า​อุโบสถ​ จากนั้น​พูดเสียงต่ำ​ “พ่อ​ทำ​ยังไง​ ลูก​ทำตาม​พ่อ​ เข้าใจ​ไหม​?”

“อืม​” เด็กหญิง​พยักหน้า​อย่าง​ว่าง่าย​

ผู้ชาย​จุด​ธูป​ พา​เด็กหญิง​คุกเข่า​ลง​ อธิษฐาน​อะไร​อยู่​เงียบๆ​ เสร็จ​แล้วจึง​พา​เธอ​ออกจาก​อุโบสถ​ ถามฟางเจิ้งว่า​ “หลวงพี่​ ขอ​ถามหน่อย​ว่า​วัด​เปิด​ประตู​เวลานี้​ทุกวัน​เลย​เหรอ​ครับ​?”

ฟางเจิ้งตอบ​ “เวลาเปิด​ประตู​ทุกวัน​ไม่แน่นอน​หรอก​”

“ถ้าอย่างนั้น​…ช่วย​เปิด​เร็ว​หน่อย​ได้​ไหม​ครับ​?” ผู้ชาย​ลังเล​อยู่​ชั่วครู่​จึงค่อย​ถาม

ฟางเจิ้งอึ้ง​ไป​ ก่อน​พูด​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ได้​แน่นอน​ ประสก​อยาก​ให้​เปิด​กี่​โมงล่ะ​?”

“หก​โมงได้​ไหม​ครับ​?” ผู้ชาย​ถาม

ฟางเจิ้งงงงวย​ เช้าขนาด​นั้น​เลย​? ถึงตอนกลางวัน​ทาง​ภาค​ตะวันออกเฉียงเหนือ​หลัง​ผ่าน​หน้าหนา​วจะ​ยาวนาน​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ท้องฟ้า​สว่าง​เร็ว​ แต่​หก​โมงเช้านี่​ก็​ยัง​เช้าไป​หน่อย​ ทว่า​พอ​เห็น​ความ​ลำบากใจ​และ​ความปรารถนา​เสี้ยว​หนึ่ง​ใน​แววตา​ผู้ชาย​คน​นี้​แล้ว​ ฟางเจิ้งก็​ยัง​พยักหน้า​ “ได้​”

“ขอบคุณ​มาก​ครับ​หลวงพี่​” ผู้ชาย​ถอนหายใจ​ พา​เด็กหญิง​จากไป​

ฟางเจิ้งมอง​แผ่น​หลัง​สอง​คน​นี้​พลาง​เปิด​เนตร​สวรรค์​เงียบๆ​ แต่​ไม่มีอะไร​เกิด​ขึ้นกับ​สอง​คน​นี้​ จึงเปิด​เนตร​ปัญญา​ ทว่า​ก็​มองไม่เห็น​อะไร​อีก​…

ฟางเจิ้งส่ายหน้า​น้อย​ๆ ไม่ได้​สนใจ​อะไร​

หลาย​วัน​มานี้​ เด็กแดง​จะออก​ไป​เรียก​ฝน​ตอนกลางคืน​ หมู่บ้าน​แห้งแล้ง​หลาย​แห่ง​ใกล้เคียง​ต่าง​ได้รับ​ฝน​กัน​หมด​ เขา​ใช้วิชา​เหนื่อย​จน​ไม่ทำงาน​อะไร​แล้ว​ ทุกวัน​จะนอนหลับ​จน​ตื่น​เอง​ตาม​ธรรมชาติ​ ช่วงนี้​มีชีวิต​สุขสบาย​ขึ้น​มาก​ กับ​เรื่อง​นี้​ฟางเจิ้งก็​ไม่สนใจ​เขา​ด้วย​ ตรงกันข้าม​กลับ​วาง​ภาชนะ​รับ​น้ำ​ไว้​จำนวนมาก​ใน​ลาน​เพื่อ​รองรับ​น้ำฝน​ แล้ว​เอา​ไป​ใส่ใน​โอ่ง​ ดื่ม​แล้ว​มีรสชาติ​เหมือนกัน​ทุก​ประการ​

หลังจาก​ฝนตก​ติดต่อกัน​เกือบ​ครึ่ง​เดือน​ ประกอบ​กับ​พวก​ชาวบ้าน​ปิด​บ่อน้ำ​เครื่องสูบ​ คุณภาพ​ดินทราย​ที่นี่​ก็​มีส่วนช่วย​มาก​ ฝนตก​น้ำซึม​ลง​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ น้ำบาดาล​จึงมากขึ้น​เรื่อยๆ​ ตอนนี้​น้ำพุ​เอก​ดรรชนี​กลับมา​มีน้ำ​ผุด​อีกครั้ง​ เพียงแต่​น้ำ​ยัง​ไหล​ไม่แรง​เท่านั้น​

ดี​ที่​พวก​ชาวบ้าน​รักษา​สิ่งแวดล้อม​มากขึ้น​ พวกเขา​ทำความสะอาด​สายน้ำ​เดิม​ของ​น้ำพุ​เอก​ดรรชนี​ และ​เอา​มารวม​กับ​ลำธาร​ที่​ไหล​มาจาก​ภูเขา​ทง​เทียน​ ถือว่า​เป็น​จุดชมวิว​เล็ก​ๆ แห่ง​หนึ่ง​เช่นกัน​

เมื่อ​เห็น​ว่า​หมู่บ้าน​เอก​ดรรชนี​เปิด​สถานที่พักผ่อน​เชิงเกษตร​ นับวัน​ยิ่ง​เจริญรุ่งเรือง​ หมู่บ้าน​อื่นๆ​ ก็​ต่าง​อิจฉา​ ทว่า​ไม่มีต้น​ไผ่​ นี่​คือ​ความเสียหาย​หลัก​ๆ! แต่​พวกเขา​ก็​ไม่ท้อใจ​ พา​กัน​ปลูก​พวก​ผลไม้​ แตง​หวาน​ และ​แตงโม​แทน​ อีก​ทั้ง​หมู่บ้าน​เอก​ดรรชนี​อยู่​ใน​สุด​ ปกติ​คน​ที่มา​หมู่บ้าน​เอก​ดรรชนี​จะต้อง​ผ่าน​หลาย​หมู่บ้าน​ พวก​ชาวบ้าน​จึงนำ​ผลไม้​แตง​และ​ผักสด​มาวางขาย​ข้างทาง​ ปัก​ธงสีเขียว​บริสุทธิ์​สื่อ​ว่า​ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง​ และ​ผล​ที่​ได้​คือ​ขาย​ดีมาก​! ภายใต้​การนำ​ของ​หมู่บ้าน​เอก​ดรรชนี​ หมู่บ้าน​ต่างๆ​ เริ่ม​เปลี่ยน​รูปแบบ​การผลิต​แบบ​เดิม​ สิ่งแวดล้อม​และ​ระบบนิเวศ​ดีขึ้น​เรื่อยๆ​ เพียงแต่​ขั้น​ตอนนี้​ช้ามาก​ ยัง​ไม่เห็น​การเปลี่ยนแปลง​มาก​นัก​ใน​เวลา​สั้น​ๆ

………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด