พี่เลี้ยงเจ้าอสูร 37 ยูจีน ปรึกษากับเจ้าอสูร

Now you are reading พี่เลี้ยงเจ้าอสูร Chapter 37 ยูจีน ปรึกษากับเจ้าอสูร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

37 ยูจีน ปรึกษากับเจ้าอสูร

“เครื่องหมายของโบสถ์งู คือเครื่องหมายที่เค้าออกแบบเองแหละ” (เอริ)

“…เอ๋?” (ยูจีน)

ผมส่งเสียงตะลึงจนโง่ กับคำพูดของเอริ

“แฟนซี ช้ะป้ะ?” (เอริ)

“เออ่อ หืมม…แฟนซี?” (ยูจีน)

แอปเปิลเงิน  ที่มีูดำนิลที่ดูเป็นลางร้าย รัดรอบมัน

พูดจากใจ มันดูน่ากลัว มากกว่าอย่างอื่น

“งั้น เตงก็ไม่เห็นค่าของนี่ดิ ยูจีน~” (เอริ)

เจ้าอสูรนอนบนเตียง เหมือนจะพูดว่า ‘ให้ตายซี้’

มันดูเหมือนผมไปทำให้เธออารมณ์บูดแต่ผมต้องถาม สิ่งที่ผมอยากรู้

“ผมไปเจอเครื่องหมายของโบสถ์งู ที่ชั้น 52 ที่เราสำรวจกันอยู่ พูดอีกอย่าง พวกเค้าอยู่ในชั้เดียวกัน… ที่พวกเค้ามีนี่ ต้องหมายถึงพวกเค้าบูชาเธอ ใช่มะ?” (ยูจีน)

“หืมม ดั้งเดิมแล้วโบสถ์งูบูชาเจ้าอสูรผู้ยิ่งใหญ่ซามะ  ที่ปกครองโลกเมื่อ 1,000 ปีก่อนนะ แตะทวีปใต้ ทางเทคนิคแล้วถูกปกครองโดยชั้น เจ้านางฟ้าตกสวรรค์ เอริเนียส เพราะทั้งหมด เค้าน่ะน่าร้าก☆” (เอริ)

เจ้าอสูรเอริขยิบตาขณะที่โพสถ้า มันน่าโมโห แต่ แน่นอน ว่าไม่ต้องสงสัยเลยว่าน่ารัก

พูดถึงแล้ว เป้าหมายยของการบูชา ของโบสถ์งู คือเจ้าอสูรผู้ยิ่งใหญ่

แต่เพราะผลของเจ้าอสูรเอริเนียสนั้นโดดเด่นในทวีปใต้ ทางเทคนิคแล้ว พวกเขาบูชาเจ้าอสูรแทน

“ผมรู้สึกถึงสายตาที่ไม่น่าพอใจบนผม ตอนเราสำรวจชั้น 52 กัน ตอนแรกผมคิดว่ามอนสเตอร์ แต่มันอาจจะเป็นโบสถ์งู…” (ยูจีน)

“ยังไงซะ เพราะทั้งหมดหอคิซีนิทไม่ปฏิเสธใครเลย นั่นพูด เค้าสงสัยนะ ว่าพวกนั้นเค้าไปทำไรกัน…” (เอริ)

“บางทีพวกเค้าจะแกผนึกเธอป่าว?” (ยูจน)

“ถ้าเป็นงั้น พวกนั้นเค้าแค่มาที่คุกปิดผนผึกใต้ดินตรงๆเลยก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องพยายามมาก ไปขึ้นหอคอยซีนิทเลย” (เอริ)

“…จริง” (ยูจีน)

ผมแค่กังวลมากไปเหรอ?

ผมพูดเรื่องกังวลอีกเรื่องของผม

“มีโอกาสที่สัญญากับเธอได้ถูกเล็ดออกไปหาคนอื่นมั้ย? อย่างน้อยที่สุด มันก็ถูกสังเกตุโดยจารใหญ่อูเธอร์” (ยูจีน)

ผมแค่คิดได้อย่างเดียว ว่านี่เกี่ยวกับเอริ ถ้าผม ตกเป็นเป้าหมายของโบสถ์งู

“เก่ะ! มันถูกค้นพบโดยเจ้านั้นเหรอ?! อุวะช่า… เค้าพยายามจะแอบเอาเตงเข้ามาละนะ…” (เอริ)

“…เธอพูดนั่นกับคนนั้นที่พูดถึงตรงๆต่อหน้าเลยเหรอเนี่ย?” (ยูจีน)

“อะไร? เตได้ประสบการณ์ดีๆนี่ ดังนั้นมันไม่เป็นไรหรอก ถูกม้ะ~?” (เอริ

“…”

เอริจิ้มแก้มของผม

ผม ปฏิเสธไม่ได้

“และดังนั้น เกี่ยวกับสัญญาระหว่าเตงกะเค้า ที่เตงกังวลอยู่ มันน่าจะไม่ได้ถูกสังเกตโดยใครเลย แม้แต่เทพธิดาแห่งโชคชะตา อิลเลีย ผู้ที่เฝ้าดูทวีปใต้จากดินแดนสวรรค์ ถ้าเธอสังเกต อย่างน้อยเธอจะโยนนางฟ้ามาซักคน แต่ไม่มีการตอบสนอง ดังนั้นเธอต้องบอดน่นอน” (เอริ)

เอริหัวเราะ ด้วย ‘คุซุคุซุ’

แม้แต่เทพธิดา…ก็ไม่สังเกตเหรอ?

มันทำให้ผมมีคำถามแทน ว่าแล้วทำไมบนโลกนี้กัน ที่จารใหญ่อูเธอ์ สังเกตได้

ผมเห็นขีดจำกัดของคนนั้นไม่ได้เลย

ผมคิดว่าผมจะหาข้อมูลจากเอริได้ แต่มันดูเหมือน นั่นก็ไม่ลบปัญหาอยู่ดี

กลุ่มที่บูชาเจ้าอสูร อาจจะวางแผนอะไรซักอย่าง…คือที่ผมคิด แต่ ผมคิดเยอะไปมั้ยที่นี่?

ผมโล่งใจหน่อยนึง

ยังไงซะ นี่ไม่ใช่หัวเรื่องหลัก

“ผมอยากจะมาปรึกษาอะไรเธอบางอย่างน่ะ เอริ” (ยูจีน)

“หืมม โอเค แต่…เตงเข้าใจล้ะน้ะ ถูกต้องมั้ย?” (เอริ)

เอริห่อแขนเธอรอบคอผม ด้วยสายตาโหยหา และหน้าของเธอเข้าไกลๆผม

การไหลมาเป็นแบบนี้…ถ้ามันปรกติ เราจะขึ้นเตียง แต่…

“วันนี้ ไม่ใช่วัน ‘ปรกติ’ ใช่มั้ย?” (ยูจีน)

ผมหยุดเอริด้วยมือของผม

ผมเสนอตัวผมเองให้เอริ ทุกๆ 7 วัน

ผมมีบางอย่าง ที่ผมอยากจะถามวันนี้ ดังนั้นผมมาที่นี่ ในเวลาที่ไม่ปรกติ

“เอ๋? เอ๋?! ทำไมอ๊ะ?! ปิดเตียงไมอ๊ะ?! ไม่มีทางน่า~” (เอริ)

หัวใจผมหวั่นไหว เมื่อเอริมองผม ด้วยสายตาลูกสุนั

“……ห-หลังจากผมเสร็จธุระน่ะ เคมะ?” (ยูจีน)

“เย้~☆ งั้น ถามอะไรเค้าก็ได้” (เอริ)

หน้าที่ร้องไห้ของเอริ หายไปในพริบตา และเปลี่ยนเป็นยิม

คคคคุ…ผมถูกเล่นเป็นเด็กอ่อนเลย

แต่ผมต้องถาม สิ่งที่ผมจำเป็นต้องถาม

ผมเริ่มทันที

“มอนสเตอร์จะเพิ่มระดับความแกร่ง หลังจากที่เรา ผ่านชั้น 50 เราน่าจะไปชนกำแพงถ้าแบบนี้้ มีความคิดอะไรมั้ย?” (ยูจีน)

“หืมมม… เข้าใจแล้ว” (เอริ)

เอริวางมือลงบนคางของเธอ และตกอยู่ในห้วงความคิ

“เตงคิดยังไง เกี่ยวกับความแกร่งและจุดอ่อนของเตง ยูจีน?” (เอริป

เอริไม่ตอบคำถามของผมตรงๆ และโยนคำถามมาให้ผมแทน

…นั่นหมายถึง เธอบอกให้ผม ไปคิดเองเหรอ?

“ความแกร่งของผม…น่าจะเป็นในหนึ่งต่อหนึ่ง และผมใช้ดาบมานา ที่ผมยืมเธอและมานาของซูมิเระได้ ดังนั้นผมมีความมั่นใจ ว่าผมจะไม่แพ้ แม้แต่มอนสเตอร์กำหนดภัยพิบัติ” (ยูจีน)

“ถูก งั้น อะไรคือจุดอ่อนของเตง?” (เอริ)

“ผมไม่มีวิธี ที่จะโจมตีศัตรูระยะกลางและไกล แล้วก็ เวทย์บาเรีย และเวทย์ฮิลใช้กับคนคนเดียวได้ในระยะเท้านั้น ผมปกป้องสายของผมไม่ได้ ถ้าผมถูกล้อมเยอะ นั่น คือจุดอ่อนของผม มั้งนะ” (ยูจีน)

“เตงเข้าใจมันได้ดี” (เอริ)

เอริยิ้ม พอใจกับคำตอบของผม

“ต่อไป…ผมเดาว่ามันจะเป็นมานาของผมเอง เวลามีผลของดาบมานานั้นสั้งง ผมพอทำได้อยู่ตอนนี้ แต่มันยังมีความไม่สบายใจ ถ้าผมถูกล้อมโดยมอนสเตอร์เยอะๆ” (ยูจีน)

“ฟุฟุ นั่นแค่กับมานาไฟของซูมิเระจัง ใช่มั้ย ดาบมานา ที่มีมานาของเค้า ควรจะมีผลตลอดเวลา รู้มั้ย” (เอริ)

“…ตอนนี้เมื่อเธอพูดถึง…” (ยูจีน)

เมื่อผมสู้เซอร์เบอรัส ใบมีดมืดของผม ไม่เสียงความแกร่งไป เมื่อผมฟันศัตรู

แรงกายของผม ไม่ได้อยู่นาย เนื่องจกการใช้งานดาบมานา

“คุณสมบัติของมานาของซูมิเระ และของเธอต่างออกไปเหรอ…?” (ยูจีน)

“ไม่ใช่คุณสมบัติจ้ะ แต่ {ความรัก} ตัว {ความรัก} มันเพราะเตงกะเค้าร้างกัน จนดาบานาอะค้างยาวนาน♡” (เอริ)

“ความรัก…? จริงๆเหรอ?” (ยูจีน)

นั่นฟังดูน่าสงสัยอ่ะ…

“ชัดเจนที่สุด! ไม่มีทางที่ความลึกซึ้งของการเชื่อมต่อของเรา จะไม่แพ้สาวไม่รู้เรื่อง ที่เพิ่งจะมาโลกนี้ไม่นาน!” (เอริ)

“เข้าใจแล้ว งั้นหมายถึง ผมอยู่กกับเธอนานกว่า” (ยูจีน)

เมื่อต้องตัดสินใจจริงๆ ผมจะพึ่งพาดาบความมืด

ส่วนตัวแล้ว ผมมคิดถึงมันว่าเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายของผม ดังนั้นผม ไม่ค่อนจะอยากใช้มันสบายๆเกินไป

“และดังนั้นเอง จุดอ่อนของเตง คือเคงททำการโจมตีระยะไกลไม่ได้ และเวทย์บาเรียกับเวทย์ฮิล มีระยะสัน เตงแก้ไขมันได้ง่ายๆ เตงรู้ป่าว?” (เอริ)

“…ยังไงเหรอ?” (ยูจีน)

ตัวผมเองได้ทำการทดลองแบบผิดๆถูกๆไปแล้วหลังๆ

ยกตัวอย่างเช่น; สำหรับระยะไกล มีเทคนิดที่ให้ยิงคลื่นดาบได้ ในสไตล์เสียงสะท้อนสองสวรรค

มันเรียกว่า รูปแบบลม: นกนางแอ่นโบยบิน แต่ถ้าผมยิงนั่นไป ดาบไฟจะหายไป

มันจบที่การยิ่งได้ทีเดียว เพราะผมยืมมานาจากซูมิเระ ดังนั้นมันใช้งานจิรงไม่ได้

ระยะของเวทย์บาเรีย และเวทย์ฮีลที่มันสั้นมากแค่ไหน คือปัญหา ที่ผมพยายาแต่ ตั้งแต่โรงเรียนจักรวรรดิ

ผมได้ลองไช้ไม้เาท้า หรือเปลี่ยนบทการร่าย แต่มันไม่มีผลอะไรเลย

เห็นว่ามันเป็นคุณสมบัิ ที่ผมเกิดมาเป็นแบบนี้

แต่ผลของเวทย์ฮีล และเวทย์บาเรียของผมสูงนะ…

ระหว่างที่ผมคิดอย่างนั้น…

“ยูจีน ลองสำรวจโซโล่ดิิ” (เอริ)

เอริตอบ

“โซโล่…?” (ยูจีน)

“นั่นใช่แล้ว นั่นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด กับความสามารถของเจ ยูจีน ปัญหาของเตงนั้นหมด จะแก้ไขได้ด้วยนั่น” (เอริ)

“ความสามารถของผม…” (ยูจีน)

ผมคิดเกี่ยวกับมัน

“เตงควรจะเข้าใจมันด้วยตัวเอง ใช่ไม้?  เตงสู้เซอร์เบอรัสจัง ทั้งหมดดัวงตัวเองของเตง รู้มั้ย? ถ้า ไม่มีใคร {มาคอยดึงขา} ไม่มีทางเลย ที่เตงจะลำบา เพราะแค่ชั้น 52” (เอริ)

เธอพูดบางอย่างไรหัวใจ ด้วยรอยยิ้มที่เป็นประกายบนหน้าขอเธอ

แต่มันไม่เหมือนว่า ผมเข้าใจ ว่าเธอพูดอะไรที่นี่นะ…

“แต่ผมมีแค่มานาขาวนะ ผมกำจัดมอนสเตอร์คนเดียวไม่ได้” (ยูจีน)

“เตงไม่ต้องสู้มอนสเตอร์ไปซะทุกตัวดิ เวทย์บาเรียของเตงน่ะ บล็อคได้แม้กระทั่งพิษ ของคุกปิผนึกใต้ดินนะ เติงแค่เมินมันให้หมดเลยก็ได้” (เอริ)

ผมได้คิดถึงวิธีนั้นมาก่อน

วิธีนี่ใช้เวทย์บาเรีย และจุดบอดของดันเจี้ยน เพื่อเลี่ยงมนสเตอร์

แต่…

“นั่นไม่ได้หรอก เอริ แม้ว่าผมจะเมินมอนสเตอร์ตามทาง ผมยังต้องสู้หัวหน้าชั้น ไม่ว่ายังไง” (ยูจีน)

นั่นเป็นกฎของดันเจี้ยนสุดท้าย

การโกง ไม่ถูกยกโทษให้ ในหอคอยซีนิท ที่เป็นบททดสอบของพระเจ้า

ผมแค่เมินการต่อสู้ทั้งหมดไม่ได้หรอก

“เค้ารู้เรื่องนั้นด้วย เตงก็แค่ใช้มานาเค้า เมื่อเวลามาถึง ที่เเตงต้องสู้กับหัวหน้าชั้นได้นี่ เมินมอนสเตอร์ชั้นธรรมดาให้หมด; กำจัดหัวหน้าชั้น ด้วยมานาเค้า เห็นป่าว? ง่ายๆ ถูกป๊ะ?” (เอริ)

“……”

เธอพูดมันอย่างเฉยๆมากเลย

ผมสงสัยว่ามันจะราบรื่นปานนั้น

แต่ผมคิดอะไรมาพูดหักประเด็นเธอไม่ได้

“แต่ ซูมิเระ…คือสมาชิกปาร์ตี้ของผม” (ยูจีน)

“แค่ให้เะอไปไกลๆได้แล้ว ตั้งแต่ทีแรก ยัยสาวซูมิเระนั่นอ่ะ มาใช้เล่ห์เหลี่ยมกะเตงเยอะเกินไป นั่นก็เหมือนกัน กะยัยผู้สมัครเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อวซาร่า เค้าไม่ยากเห็นยูจีน มัวแต่จมอยู่กับความรัก ระหว่างที่ถูกล้อมโดยผู้หญิง” (เอริ)

“……ั่นมันความคิดเห็นของตัวเธอเองแล้วแหละ” (ยูจีน)

“แต่ มันจริงอยู่ ที่เตงจะโชว์พลังได้มมากกว่า ถ้าเตงโซโล่ ยูจีน” (เอริ)

สายตาเหล่านั้น ที่มองดูผม ดูเหมือนจริงจัง

ผมสามารถจะโชว์พลังได้มากกว่า ถ้าผมอยุ่คนเดียว หือ

แน่นอน ว่านั้นอาจจะมีจุดบอด

“ผมจะเอานั่นมาอ้างอิง ขอบคุณนะ เอริ” (ยูจีน)

ผมขอบคุณเอริ

ผมกำลังจะจากไป แต่…

“ยูจีน จ่ายด้วยร่างการเตงเลยนะ” (เอริ)

ผมหนีจากเจ้าอสูรไม่ได้

ผมถูกผลักลง เดียนั้นและตรงนั้นเลย

◇◇

“…เจอกัน เอริ ผมจะมาอีกนะ” (ยูจีน)

หลังจาก {เสร็จ} ผมยืนขึ้นจากเตียง

“ไปแล้วเหรอ? เตงไม่พักเลยนะ ยูจีน” (เอริ)

เอริเบะ

ผมไม่ได้รู้สึกอยากสบาย

ตัวผมรู้สึกหนัก แต่ผมเริมจะเห็นแล้ว ว่าอะไรที่ผมต้องทำ

(มาลองสำรวจดันเจี้ยนคนเดียวครั้งหน้าเถอะ…) (ยูยีน)

แต่นอน มันไม่เหมือนว่าผมล้มปาร์ต้กับซูมิเระ

แต่มันไม่แย่ ที่จะไปทดลองหลายๆอย่าง

เหมือฝึกตัวเองคนเดียว เพื่อเริ่

ผมควรคิดว่านี่ เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกขอผม

ผมเน่าไป หลังจากที่ไม่สามารถผ่านชั้น 9 ได้ ไม่กี่เดือนก่อน แต่ตอนนี้  ผมมีวิธีโจมตีแล้ว

ผมรู้สึกว่าแคนผมคันๆ แค่คิดเกี่ยวกับนี่

งั้นตอนนี้ แค่เมื่อผมคิด ที่จะออกไปจากคุกใต้ดิน และทำการเตรียมสำรวจขอผม…

“เฮ้ ยูจีน…” (เอริ)

เอริเรียกผม

“อะไรเหรอ?” (ยูจีน)

“รู้มั้ยทำไมหนึ่งในดันเจี้ยนสุดท้าย หอคอยซีนิท ถูกสร้าง?” (เอริ)

เธอถามนี่กับผมกระทันหัน

“เป็นบททดสองสำหรับคนของดินแดนมนุษย์ คนที่เอาชะดังเจี้ยนสุด้ายได้  จะได้สิทธิ์ใช้ชีวิต ในดินแดนสวรรค์ และได้รับชีวิตตลอดกาล…ใช่มั้ย?” (ยูจีน

ผมบอกคำตอบเอริตามหนังสือ และเธอแสดงรอบยิ้มที่มีความหมาย

“นั่นเป็นข้างหน้า เตงรู้เหตุผล ที่เทพธิดาของดินแดนสวรรค์ได้ทำมากขนาดที่สร้าดันเจี้ยนขนาดยักษ์ สำหรับคนของมนุษย์มั้ย?” (เอริ)

“ไม่…” (ยูจีน)

เหตุผขอพระเจ้าเหรอ หือ

ผมไม่ได้คิดถึงมัน

“เทพธิดาแห่งแสง อัลเธน่าซามะ ที่คุมเทพธิดาไว้ด้ว้ยกัน… บุคคลนั้น…อยากจะสร้างพระเจ้าคนใหม่” (เอริ)

“…สร้าง…พระเจ้า?” (ยูจีน)

ผมเอียงหัว

“พระเจ้าใหม่ ไม่ได้เกิดมา ตั้งแต่สงครามดินแดนสวรรค์ครั้งที่แล้ว เมื่อ 15 ล้านปีก่อน ดนิแดนสวรรค์ได้ลดจำนวนมา ในตลอดเวลานี้… เทพธิดาแห่งแสงซามะ อยากจะหักหัน นั่นคือแผนบันไดสู่สวรรค์ และดังนั้น อุปกรณ์สำหรับเรื่องนั้น คือหอคอยซีนิทนี้ โดยแขวน {สุดยอดเหยื่อ} ไว้ข้างหน้า คือชีวิตอมตะ และสังเกตหนูทดลอง ที่กำลังขึ้น…” (เอริ)

“…”

อะรไคือที่เจ้าอสูรพูดอยู่ที่นี่

แผนบันไดสู่สวรรค์?

หนูทดลอง…?

และที่สุดของทั้งหมด  สุดยอดเหยื่อนี้…

“เอริ…แค่มันคืออะไรกัน…” (ยูจีน)

“ล้อเล่นน่ะ☆ นั่นเป็นมุข มุขตลก!” (เอริ)

สีหน้าที่มีความหมายเมื่อตะกี้ หายไปและเธอกลับไปสู่รอยยิ้มไม่ค่อยคิด เดิมๆของเธอ

“เตงลืมเกี่ยวกับที่เค้าพูด…{สำหรับตอนนี้} ผ่านบางอย่างเหมือนชั้น 100 ได้แล้วแหละ อย่าถือวิธีที่เตงใช้เลง เตงน่ะเถรตรรง เตงเลยแค่คิด เกี่ยวกับกันฝ่าไปจากข้างหน้า แต่ เตงอ่ะ จะไปติดทันทีตะ ถ้าแบบนั้น” (เอริ)

“…เข้าใจละจ้ะ” (ยูจีน)

อะไรที่เอริเพิ่งจะพูด กวนใจผม แต่ผมสงสัย ว่าเธอคงจะไม่บอกผม แม้ว่าผมจะถามเธอ

(สำหรับตอนนี้ ชั้นควรจะไปถึงชั้น 100 หือ…) (ยูจีน)

ผมจะเป็นนักสำรวจแรงค์ A ถ้าผมผ่านนั่น

มันเป็นหนึ่งในตำแหน่สูงที่สุด ของทวีปใต้

ผมจพูดว่ามันเป็นวัตถุประสงค์ที่ดี ที่จะมีในปัจจุบันนี้

แน่นอน วัตถุประสงค์สุดท้ายของผม คือเป้าหมายของซูมิเเระ ชั้น 500

“ฟุว้าาา…” (เอริ)

เจ้าอสูรหาวและนอนลง

ไม่นาน ผมก็ได้ยินเธอ ‘ชชชชู่ ชชชชู่’

หน้ายามหลับที่สงบสุข และสวยงาม

ผมพบว่ามันยากจริงๆ ที่จะเชื่อ ว่าเธอนั้นเป็นเจ้าอสูรที่น่ากลัว

“ฝันดีนะ เอริ” (ยูจีน)

ผมออกจากคุกใต้ดิน

—วันต่อมา

มันดูเหมือนซูมิเระเรียนวิชาเวทย์แบบคอร์สเน้นระยะสั้น เธอเลยจะปิดตัวเธอเองในโรงเรีนซักพัก

หน้าที่ของเธอคือควบคุมมานา และเวทมนตร์

ซูมิเระทำเต็มทีของเธอ เพื่อที่จะทำให้ตัวเธอเองดีขึ้น

ผมต้องไม่แพ้ด้วยเหมือนกัน

(โอเค ลุยกันเลยเถอะ!) (ยูจีน)

ผมมุ่งหน้าไปที่ลิฟต์ดันเจี้ยน ในหอคอยซีนิท

มันเป็นซักพักแล้ว ตั้งแต่ผมสำรวจดับเจี้ยนคนเดียว

เป้าหมายของผม คือผ่านชั้น 53

ชั้น 50 ถึง 60 คือโซนทะเลป่า

เมื่อผมลงจากลิฟต์ดันเจี้ยน อะไรที่อยู่ที่นั่น คือภาพของต้นไม้ที่ซ้อนทับกัน และมีเสียงร้องของมอนสเตอร์และแมลง ‘กิ๊กิ๊กิ๊กิ๊…’ ‘เกี๊ยวเกี๊ยวเกี๊ยวเกี๊ยว…’

ไม่มีนักสำรวจ แม้ว่าเมื่อผมมองไปรอบๆ

(งั้นตอนนี้…) (ยูจีน)

ผมอยู่คนเดียวอย่างสิ้นเชิงวันนี้

ผมยืมมานาจากซูมิเระไม่ได้

นั่นทำไม ผมสู้กับมอนสเตอร์ไม่ได้

(เวทย์บาเรีย: [ซ่อนตำแหน่ง]) (ยูจีน)

เวทย์ที่หลอกได้แม้แต่ตาของเซอร์เบอรัส

ไม่ ผมมีความสงสัย เกี่ยวกับมันหลอกเขาได้จริงๆมั้ย…

เวทย์บาเรียที่ดูดซึม ทิวทัศน์รอบข้าง

โอกาสที่จะถูกค้นพบโดยมอนสเตอร์ ค่อนข้างจะน้อย ถ้าผมไม่ขยับ

แต่ผมเลี่ยงการขับไม่ได้ ถ้าผมจะสำรวจ

เพราะนั่น…

(สไตล์เสียงสะท้นสองสวรรค์: รูปแบบไม้ – [หนูเงา]) (ยูจีน)

วิธีเคลื่อนที่ ที่จะลบการมาอยู่ของผม เหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ

เห็นว่าดั้งเดิมแลว้ มมันเป็นเทคนคสำหรับการลอบสังหาร…

ผมใช้การผสมเวทย์บาเรีย และเทคนิคของสไตล์เสียงะท้อนสองสวรรค์ และตัดสินใจที่จะผ่านชั้น 53

ผมเินหน้าอย่างระวัง ในทะเลที่มืดมิด ของต้นไม้

ผมผ่านมอนสเตอร์หลายครั้งบนทาง แต่พวกมันไม่สังเกตผม

(นี่มัน…) (ยูจีน)

มันเป็นไปได้เหรอ?

อย่างที่คาดกำคำแนะนำของเอริ

ผมควรจะขอโทษเธอครั้งหน้า

ผมรู้สึกว่าเธอจะบอก ให้ผมจ่ายด้วยตัวผมอีกแล้ว

(แต่มันต้อการสมาธิระดับที่น่ากลัวเลย…) (ยูจีน)

ผมเก็บบาเรียขึ้นไว้ตลอดเวลา และผมปิดเทคนิคเสียงสะท้อนสองสวรรค์ไม่ได้

แม้ว่าจะไม่มีการต่อสู้ ผมทำนี่ต่อไปนานๆไม่ได้

ผมพักเป็นครั้งคราว และหาบันไดไปสู่ชั้นต่อไป ในวันเดียว

(1 ชั้นคือขีดจำกัดของชั้น…) (ยูจีน)

นั่นคือที่ผมรู้สึก

แต่นี่ทำหน้าที่เป็นข้อพิสูจน์ ที่ผมผ่านชั้นที่ 50 แและขึ้นไปได้ แม้ว่าจะด้วยตัวผมเอง

มาลองไปให้ไกลที่สุดเท่าที่ผมไปได้ ด้วยวิธีนี้จากพรุ่งนี้ต่อไปด้วยเถอะ

◇◇

วันที่ 7 ของการสำรวจโซโล่ของผม

มันจะเป็นชั้น 59 วันนี้

การสำรวจโซโล่ขอผมไปได้ดี

(ในที่สุดมันก็เป็นชั้น 60 ต่อไป…) (ยูจีน)

หืมม การไปเจอหัวหนัาคนเดียวมันนิดหน่อยนะ…

มันจะดีกว่า ที่จะถามความคดดเห็นของซูมิเระและซาร่า สำหรับนี่

ระหว่างที่ผมคิดเกี่ยวกับนั่น…

“ยูจีนคุง!”

“ยูจีน!!”

ชื่อผมถูกเรียกจากข้างหลัง

ผมรู้สึกว่าเสียงที่คุ้นเคยนั้น มีความโกรธโดสเล็กๆในมัน

เมื่อผมมองกลับไป ซูมิเระและซาร่ามาหาผม

“เฮ้ยานั่น ตัวเธอทั้งสอง มันเป็นซะ—” (ยูจีน)

“สำรวจด้วยตัวเองมันนิสัยไม่ดีอ้ะ จะโยนตัวเราทิ้งแล้วอ๋อ?!!!” (ซูมิเระ)

“ทำไมตัวเธอสำรวจคนเดียวล่ะ?! ตัวเธอเบื่อตัวเราแล้วอ๋อ?!!” (ซาร่า)

ทั้งสองเข้ามาใกล้ขึ้น

ดูเหมือนพวกเธอเห็นผมสำรวจคนเดียว ผ่านระบบดาวเทียม

(พูดถึงแล้ว ชั้นก็ได้บอกทั้งสอง ว่าชั้นจะไปฝึกคนเดียว แต่ชั้นไม่ได้บอกวิธีฝึกในรายละเอียด…) (ยูจีน)

มันดูเหมือนพวกเธอเข้าใจผิด ว่าผมเปลี่ยนเป็นโซโล่

หรือเหมือนกับ นี่คือชั้น 1 ของหอคอยซีนิท

พูดอีกอย่า มีนักสำรวจเยอะ รวมกันที่นี่

มันน่าจะไม่ใช่จินตนาการของผม ที่สายตาของรอบข้าง เปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างย่ำแย่ เมื่อสองสาวพูด ‘โยนทิ้ง’ และ ‘เบื่อ’

“เดี๋ยว! ใจเย็นก่อน ตัวเธอทั้งสอง!” (ยูจีน)

ผมจบที่ใช้เวลาซักพัก เพื่อที่จะทำให้พวกเธอเข้าใจ

วายุ: เอริเนียส!

1 / 2

แปลโดย: wayuwayu

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ถ้าท่านชอบและอยากอ่านเพิ่ม โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปลด้วยนะครับ สปอนเซอร์ตอนให้อัพโหลดเพิ่มทันที แจ้งได้ทาง Facebook ครับ   

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด