สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหนเล่มที่ 26 763 เป็นตายไม่แน่ชัด

Now you are reading สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน Chapter เล่มที่ 26 763 เป็นตายไม่แน่ชัด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นักฆ่าชุดดำมีทักษะสูง เห็นได้ชัดว่าได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ

หลังจากประมือไปหลายกระบวนท่า ตงหลิงหวงและมู่หรงฉีพบว่านักฆ่าเหล่านี้ไม่ใช่องครักษ์เงาหรือองครักษ์ที่ถูกเลี้ยงดูโดยคนธรรมดา ทว่ามาจากองค์กรนักฆ่ามืออาชีพ

ทั้งยังมีทักษะคล้ายกับนักฆ่าสี่คนก่อนหน้าที่เข้ามาขวางทางม้าของตงหลิงหวง

นักฆ่ามีวรยุทธ์สูงส่ง พวกเขาต้องใช้วรยุทธ์แทบทั้งหมดในการต่อสู้

ผ่านไปไม่นาน ตงหลิงหวงและมู่หรงฉีก็ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่

แม้ข้างพระวรกายของฮ่องเต้แคว้นตงเฉินจะมียอดฝีมือจำนวนไม่น้อย ทว่าตอนอยู่ที่หุบเขามรณะ พวกเขาก็ถูกกวาดล้างด้วยคนของหลินเฟิง

คนที่เหลือบางส่วนได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับนักฆ่ายอดฝีมือเหล่านี้ ผ่านไปครู่หนึ่ง พวกเขาก็รับมือไม่ไหวแล้ว

นักฆ่าทั้งห้าบุกฝ่าแนวป้องกันของค่ายทหารพยัคฆ์บินและกองทัพยวี่หลิน จากนั้นก็พุ่งเป้าโจมตีไปที่ฮ่องเต้แคว้นตงเฉิน

ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินทรงมีวรยุทธ์เช่นกัน ทว่าวรยุทธ์ของพระองค์ไม่ได้สูงส่งมากนัก ขณะที่รับมือกับนักฆ่ายอดฝีมือทั้งห้านั้น เห็นได้ชัดว่าพระองค์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา

เมื่อเห็นเช่นนี้ ตงหลิงหวงพลันรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย นางต้องการฝ่าวงล้อมเข้าไปช่วยฮ่องเต้แคว้นตงเฉิน

ทว่าเมื่อนางวอกแวก นางจึงได้รับบาดเจ็บอีกสองแผล

เวลานี้ ตงหลิงหวงและมู่หรงฉีมองออกแล้วว่าพวกเขาเป็นคนของตำหนักจิ่วเทียน ด้วยกระบวนท่าของนักฆ่าและสัญลักษณ์ของสิ่งที่พวกเขาสวมใส่

ตำหนักจิ่วเทียนนั้นซับซ้อนอย่างมาก ในหมู่พวกเขาไม่เพียงเป็นองค์กรนักฆ่าอันดับหนึ่ง ทว่ายังมีนักฆ่าที่มีวรยุทธ์สูงส่งในใต้หล้าอีกด้วย

ทั้งยังมีตลาดมืด โรงพนัน ลานประมูล หอคณิกา ตลาดเครื่องประดับและความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในบรรดาหกแคว้น ตำหนักจิ่วเทียนมีอิทธิพลเกือบทุกแคว้น

องค์กรนักฆ่าของตำหนักจิ่วเทียนมีชื่อเสียงเลื่องลือในอาณาจักรเทียนเหอ นอกจากวิหารวิญญาณของเยี่ยโยวเหยาแล้ว สิ่งต่อไปที่ทำให้ผู้คนหวาดผวาคือองค์กรนักฆ่าของตำหนักจิ่วเทียน

เพียงองค์กรนักฆ่าของตำหนักจิ่วเทียนลงมือ ไม่มีเรื่องใดที่ไม่สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม องค์กรนักฆ่าของตำหนักจิ่วเทียนไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะว่าจ้างได้

ผู้ใดกันที่ว่าจ้างองค์กรนักฆ่าของตำหนักจิ่วเทียนมาสังหารตงหลิงหวงและฮ่องเต้แคว้นตงเฉิน?

ทว่าเวลานี้ ตงหลิงหวงไม่มีเวลาครุ่นคิดเรื่องเหล่านี้แล้ว

ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินได้รับบาดเจ็บ เหล่าองครักษ์ข้างพระวรกายล้วนได้รับบาดเจ็บทุกคน พวกเขามีแนวโน้มว่าไม่อาจปกป้องพระองค์ได้อีก

ภายใต้สถานการณ์บีบบังคับ ตงหลิงหวงใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อจัดการกับเหล่านักฆ่า และพุ่งเข้าไปช่วยฮ่องเต้แคว้นตงเฉิน ทว่านางกลับถูกกลุ่มนักฆ่าเข้ามาขวางทางหลายครั้ง

มู่หรงฉีอยากเข้ามาช่วยตงหลิงหวง ทว่าลำพังตัวเขาเองก็ยังเอาตัวไม่รอด

เมื่อเห็นตงหลิงหวงถูกนักฆ่าสิบกว่าคนต้อนไปยังหน้าผา และเกือบตกหน้าผาอยู่หลายครั้ง หัวใจของมู่หรงฉีก็ราวกับกระโจนมาอยู่ที่ลำคอ

เขาพยายามเตือนตงหลิงหวงไม่หยุด

“หวงเอ๋อร์ระวัง”

“หวงเอ๋อร์ทางซ้าย”

“หวงเอ๋อร์ทางขวา! ”

……

ทว่าเขาไม่อาจไปอยู่ข้างกายตงหลิงหวงได้ ทันใดนั้น นักฆ่าหกคนก็กระโดดพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกัน เรียงแถวเป็นค่ายกลกระบี่แปลกประหลาด หลังจากนั้น พวกเขาก็หมุนตัวอย่างพร้อมเพรียง และแทงกระบี่ไปยังกะโหลกของตงหลิงหวง

กระบวนท่านี้ นักฆ่าทั้งสี่เคยใช้มาก่อนหน้านี้แล้ว ทว่าตงหลิงหวงหลบไม่ได้ นางทำได้เพียงใช้พัดต้านทาน

นักฆ่าทั้งหกรวบรวมพละกำลังทั้งหมดพร้อมกัน ตงหลิงหวงถูกพลังกดร่างจนเอนไปข้างหลัง… เอนแล้ว… เอนอีก

ทันใดนั้น… พื้นใต้เท้าของตงหลิงหวงก็แตกออกเป็นรอยแยก วินาทีถัดมา ร่างของนางก็ตกลงไปด้านล่างหน้าผาอย่างเงียบงันราวกับใบไม้ที่ร่วงหล่น

“หวงเอ๋อร์… ”

“องค์รัชทายาท… ”

มู่หรงฉีและอู๋ซวงแทบร้องเรียกออกมาพร้อมกัน

มู่หรงฉีไม่สนใจกระบี่ของนักฆ่าที่อาจเสียบร่างเขาได้ทุกเมื่อ เขาเหาะไปที่ขอบหน้าผา และกระโดดตามตงหลิงหวงลงไปโดยไม่คิดสิ่งใดแม้แต่น้อย

อู๋ซวงตกตะลึง นางลืมแม้กระทั่งว่าตนเองกำลังสู้อยู่กับนักฆ่า ร่างกายของนางถูกฟันไปหลายแผล

ในตอนที่นางใกล้จะต้านทานไม่ไหวแล้วนั้น บนท้องฟ้าไกลออกไปปรากฏเมฆสีดำทะมึนราวกับอสนีบาตซึ่งเคลื่อนที่เข้ามาอย่างเชื่องช้า ผู้นำขบวนที่อยู่บนหลังม้าคือโยวอ๋องและพระชายาโยวอ๋องแห่งแคว้นจงหนิง

แม้เหล่านักฆ่าของตำหนักจิ่วเทียนจะเป็นกลุ่มนักฆ่ามือหนึ่งของอาณาจักรเทียนเหอ เพียงได้รับคำสั่ง ไม่มีเรื่องที่ทำไม่สำเร็จ

ทว่ายกเว้นเพียงผู้เดียว ซึ่งก็คือเยี่ยโยวเหยา…

เกือบทั้งอาณาจักรเทียนเหอ นอกจากคนของหุบเขาคุนหลุนแห่งแคว้นเป่ยอี้ เยี่ยโยวเหยาเป็นเพียงผู้เดียวที่กลุ่มนักฆ่าของตำหนักจิ่วเทียนจะปฏิเสธรับคำสั่งว่าจ้าง

เนื่องจากโยวอ๋องแข็งแกร่งอย่างแท้จริง

มีคนกล่าวว่า ล่วงเกินตำหนักจิ่วเทียนจุดจบไม่สวย ทว่าล่วงเกินคนของวิหารวิญญาณมีจุดจบไม่สวยยิ่งกว่า

อย่างไรตาม ไม่มีผู้ใดกล้าโจมตีวิหารวิญญาณและเยี่ยโยวเหยา

เยี่ยโยวเหยาและซูจิ่นซีพาคนมาถึงเกือบจะทันเวลาพอดี หัวหน้านักฆ่าเหล่านั้นจึงรีบพาลูกน้องถอนกำลังไปอย่างรวดเร็ว

ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินได้รับบาดเจ็บสาหัส องครักษ์ของพระองค์ก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน

ซูจิ่นซีรีบจัดคนไปรักษาพวกเขา

ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินรีบสั่งให้คนไปตามหาตงหลิงหวงด้านล่างหน้าผาทันที

เมื่อซูจิ่นซีได้ยินว่ามู่หรงฉีกระโดดตามลงไปด้วย สีหน้าของนางพลันเปลี่ยนไป จากนั้นจึงกำชับให้คนไปค้นหาที่ด้านล่างหน้าผาเช่นกัน

ไม่ตายต้องพบตัว ตายต้องพบศพ

ซูจิ่นซีรู้ว่ามู่หรงฉีชอบพอตงหลิงหวง ทว่านางคาดไม่ถึงว่ามู่หรงฉีจะชอบตงหลิงหวงอย่างลึกซึ้งถึงขั้นนี้

นางอดขมวดคิ้วมุ่นไม่ได้

แม้เยี่ยโยวเหยาและมู่หรงฉีจะนับว่าเป็นศัตรูเพราะเรื่องสงครามระหว่างแคว้นจงหนิงและแคว้นหนานหลี ทว่ามู่หรงฉีก็เป็นพี่ชายของซูจิ่นซี

นอกจากนั้น เยี่ยโยวเหยายังรับรู้ได้ว่า แท้จริงแล้ว ซูจิ่นซีก็เป็นห่วงมู่หรงฉีเช่นกัน

เขาจับมือซูจิ่นซีไว้แน่น

“วางใจ ไม่เป็นอันใดแน่”

ซูจิ่นซีเงยหน้ามองเยี่ยโยวเหยา และพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่ว่าจะพบเจอเรื่องอันใด เพียงมีเยี่ยโยวเหยาอยู่ด้วย ย่อมทำให้นางรู้สึกสบายใจ

ทว่าเรื่องราวคงไม่ได้ราบรื่นดั่งที่ซูจิ่นซีคิด

คนที่ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินส่งไป กอปรกับคนที่เยี่ยโยวเหยาส่งไป อย่างน้อยก็มีจำนวนร้อยกว่าคน

คนจำนวนร้อยกว่าคนค้นหาอยู่สามวันสามคืน ทั้งยังค้นหาทั่วทุกซอกทุกมุมด้านล่างหน้าผา แต่กลับไม่พบตงหลิงหวงและมู่หรงฉี

อย่าว่าแต่คนเป็นเลย แม้แต่ศพก็หาไม่พบ

หลายวันมานี้หิมะตกเป็นระยะ บางครั้งยังตกหนักขึ้นในตอนกลางคืน หิมะตกหนักทั่วทั้งท้องฟ้า ทำให้มองไม่เห็นผู้ใดภายในระยะเกินกว่าห้าจั้ง

ในเวลาเพียงสามวัน ฮ่องเต้แคว้นตงเฉินทรงชราภาพลงไม่น้อย

ซูจิ่นซีเป็นกังวลจนพักผ่อนไม่เพียงพอ นางตัดสินใจพาคนไปด้านล่างหน้าผาเพื่อตามหาด้วยตนเอง

อย่างไรเสีย ตัวนางก็มีระบบถอนพิษและอาคมกำไลปี่อั้น ดังนั้น นางสามารถค้นหาได้รวดเร็วและละเอียดกว่าผู้อื่น

ทว่าเยี่ยโยวเหยากลับไม่ยอมให้นางไป

“หิมะตกเช่นนี้ พื้นด้านล่างหน้าผาเดินไม่สะดวก ยอดฝีมือล้มตายไปแล้วหลายคน เชื่อข้าเถิด จิ้นหนานเฟิงพาคนไปด้วยตนเองจะต้องสำเร็จแน่นอน”

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วแน่นตลอดเวลา “ทว่าเยี่ยโยวเหยา สองสามวันมานี้ข้าสับสนอย่างมาก ข้ามักจะรู้สึกว่าครั้งนี้ สิ่งต่างๆ ไม่ใคร่จะดีนัก ข้าต้องการลงไปดูด้วยตนเอง มู่หรงฉี… อย่างไรเขาก็เป็นพี่ชายของข้า”

เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้ว “รอก่อน ผ่านคืนนี้ไป หากยังไม่ได้ข่าว ข้าจะลงไปค้นหาด้านล่างหน้าผาพร้อมกับเจ้า”

“ตกลง! “

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *