สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหนเล่มที่ 35 1022 ชิงอวิ๋นจื่อไปและกลับมาอีกครั้ง

Now you are reading สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน Chapter เล่มที่ 35 1022 ชิงอวิ๋นจื่อไปและกลับมาอีกครั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ไม่รู้ว่าซูจิ่นซีกำลังคิดสิ่งใด จู่ๆ นางก็ถามขึ้นว่า “อู๋จุนอยู่ที่ใด”

ทุกคนเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าอู๋จุนหายตัวไป

“ข้าไม่รู้ ไม่เห็นเขาเลย ถังเสวี่ยก็เหมือนกัน”

ซูจิ่นซีไม่สนใจมากนัก นางยังคงร่วมมือกับอวิ๋นจิ่นและซูอวี้ถอนพิษให้เยี่ยโยวเหยา

ชิงอวิ๋นจื่อพาบรรดาลูกศิษย์ออกจากเรือนพักที่เยี่ยโยวเหยาอยู่ได้ไม่ไกลเท่าไรนัก เขาก็ถูกคนที่เสวียนเจิ้นจื่อส่งไปขวางไว้ได้ทัน

เสวียนเจิ้นจื่อเหลือบมองไปข้างหลัง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนที่เกี่ยวข้องกับซูจิ่นซีไม่ทันได้สังเกต เขาจึงตามลูกศิษย์ไปพบชิงอวิ๋นจื่อ

ภายในตำหนักฉางเซิง

“คำนับศิษย์พี่เสวียนเจิ้นจื่อ”

สีหน้าของเสวียนเจิ้นจื่อจริงจัง และมีท่าทีไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

“เกิดอันใดขึ้น? ข้าสั่งให้เจ้าใช้โอกาสนี้โจมตีกลุ่มคนนั้น แล้วใช้กระบี่ยวี่หลงชิงป้ายคำสั่งเจ้าสำนักกลับคืนมามิใช่หรือ? ”

ชิงอวิ๋นจื่อเลิกคิ้ว และเดินไปทางด้านข้างของเสวียนเจิ้นจื่อ “ศิษย์พี่ ไม่ใช่ศิษย์น้องไม่ช่วยท่าน ความจริงคือ… วรยุทธ์ของศิษย์พี่ใหญ่เยี่ยร้ายกาจอย่างมาก ยังมีพระชายาโยวอ๋องอีกคน อย่างที่ศิษย์พี่รู้ อาศัยความสามารถของข้า ไม่สามารถต่อสู้กับพวกเขาได้เลย! ”

เสวียนเจิ้นจื่อตำหนิไปว่า “พวกไร้ประโยชน์ แม้แต่คนใกล้ตายก็ยังกลัว ข้าจะเก็บเจ้าไปเพื่ออันใดอีก! ”

ชิงอวิ๋นจื่อตกใจจนหน้าถอดสี “ศิษย์พี่บอกว่าศิษย์พี่เยี่ยกำลังใกล้ตาย ทว่าขณะที่ข้าพาคนเข้าไป ข้าเห็นเขาเดินออกมาจากในห้อง ร่างกายไม่บุบสลายแม้แต่น้อย อีกทั้ง… อีกทั้งเขาเกือบจะสังหารข้าอีกด้วย ข้า… ข้าไม่กลัวได้อย่างไร”

สีหน้าของเสวียนเจิ้นจื่อเปลี่ยนไป ใบหน้าปรากฏความงุนงง “เป็นไปได้อย่างไร? ข้าสืบมาแล้ว เยี่ยโยวเหยาถูกพิษของท่านเทพพิษ แม้เทพเซียนต้าหลัวจุติลงมายังโลกมนุษย์ก็ไม่มีทางช่วยชีวิตเขาได้อย่างแน่นอน อีกทั้งซูจิ่นซียังได้รับบาดเจ็บสาหัสและตั้งครรภ์อีกด้วย นางไม่ต่างอันใดกับพวกสวะ ส่วนคนที่เหลือ… ไม่ได้สร้างปัญหาใหญ่โตอันใดมากมาย”

เขาเดินออกมาจากห้องได้อย่างไร?

ชิงอวิ๋นจื่อกล่าวว่า “ทว่าข้าเห็นกับตาของข้าเอง! ”

“ตอนนั้นเกิดอันใดขึ้นกันแน่ บอกรายละเอียดให้ข้าฟัง ห้ามปกปิด”

“ขอรับ! ”

จากนั้น ชิงอวิ๋นจื่อก็เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเรือนพักของเยี่ยโยวเหยาให้เสวียนเจิ้นจื่อฟังอย่างละเอียด ไม่ตกหล่นแม้แต่สายตามองของซูจิ่นซีและเยี่ยโยวเหยา

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! ” เสวียนเจิ้นจื่อหรี่ตาลงเล็กน้อย

หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ชิงอวิ๋นจื่อก็ใบหน้าซีดเผือด “ศิษย์พี่ ข้าอยากให้ท่านเป็นเจ้าสำนัก อย่างไรเสีย ท่านก็ดูแลงานในสำนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ศิษย์พี่เยี่ยก็ไม่อยู่ เรื่องในสำนักศิษย์พี่กับข้ารู้เป็นอย่างดี ในอนาคตคิดจะทำสิ่งใดล้วนสะดวก ทว่า… ข้าไม่ชอบรนหาที่ตาย! ”

เสวียนเจิ้นจื่อนิ่งเงียบไม่พูดอันใดอีก ขณะที่ชิงอวิ๋นจื่อกำลังจะตัดสินใจเดินออกไป เสวียนเจิ้นจื่อก็พูดขึ้นว่า “ไม่ถูกต้อง! ”

“เหตุใดจึงไม่ถูกต้อง? ”

“เจ้าลองทบทวนให้ดีๆ ตามอุปนิสัยของเยี่ยโยวเหยา เจ้าพาคนเข้าไปถึงเรือนพักเพื่อบีบบังคับเขาถึงขั้นนี้แล้ว เขาปล่อยให้เจ้าออกมาอย่างปลอดภัยได้อย่างไร? ”

ชิงอวิ๋นจื่อพูดด้วยสีหน้าเศร้าใจ “ศิษย์พี่ ท่านหมายความว่าอย่างไร? ท่านอยากให้เขาสังหารข้าหรือ? ”

เสวียนเจิ้นจื่อพูดว่า “ข้าต้องการให้เขาสังหารเจ้า! ”

ชิงอวิ๋นจื่อใบหน้าถอดสีทันที เขาคิดจะพูดสวนกลับไป ทว่าเสวียนเจิ้นจื่อพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อนว่า “ทว่าเขาไม่ได้สังหารเจ้า! ไม่ใช่เขาไม่ทำ ทว่าเขาทำไม่ได้! ”

ชิงอวิ๋นจื่อดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างได้จากคำพูดของเสวียนเจิ้นจื่อ ดวงตาของเขาเปล่งประกาย

“ศิษย์พี่ ท่านหมายถึง… ”

ชิงอวิ๋นจื่อจงใจแสดงท่าทีแปลกใจคาดเดาไม่ได้ และไม่ได้พูดประโยคหลังต่อ เสวียนเจิ้นจื่อพูดเสริมอีกว่า “หากข้าเดาไม่ผิด เจ้าพาคนเข้าไปเมื่อครู่ สาเหตุที่เยี่ยโยวเหยาสามารถเดินออกมาจากภายในห้องเพื่อให้เจ้าเห็นนั้น คงเป็นการฝืนร่างกายตนเองอย่างมาก พิษของเทพพิษไม่ใช่ยาพิษธรรมดา เกรงว่าอาการของเขาในเวลานี้คงรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแน่นอน หากตอนนี้เจ้าพาคนบุกเข้าไปอีก เขาต้องตายแน่”

ชิงอวิ๋นจื่อครุ่นคิด ทว่ายังมีความหวาดกลัวอยู่บ้าง

“ท่านพี่ ท่านหาคนอื่นเถิด ครั้งนี้ข้าทำไม่ได้”

เสวียนเจิ้นจื่อคว้าแขนชิงอวิ๋นจื่อและบีบอย่างแรง “ศิษย์น้อง หลังเสร็จภารกิจนี้ ข้าจะมอบตำแหน่งรองเจ้าสำนักให้เจ้า”

ตำแหน่งรองเจ้าสำนักกระบี่คุนหลุนเป็นสิ่งล่อใจอย่างดี แววตาของชิงอวิ๋นจื่อพลันทอประกาย เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน เขารู้สึกได้เพียงว่าบนศีรษะของตนเปล่งประกายด้วยหมวกสีทอง

ทว่าเขาไม่ใช่คนที่จะหลงไปกับสิ่งล่อใจเล็กๆ น้อยๆ จึงสงบสติอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็ว

“ศิษย์พี่ อย่าคิดพูดจาล้อเล่นกับข้านักเลย ยังมีผู้อาวุโสอีกหลายคนอยู่ที่นี่ ข้าจะเป็นรองเจ้าสำนักได้อย่างไร” “ข้าบอกได้ก็ต้องได้! เจี้ยนอู๋ซินแห่งหอกระบี่ฉางเจี้ยนและชิวฉางเซิงแห่งหอพระสูตรเจี๋ยลวี่ เวลานี้ลงนรกไปแล้ว อีกทั้งเฉาเซิงและชื่อหงที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บสาหัส แม้พวกเขาจะฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ ทว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ สี่ในหกหน่วยของสำนักกระบี่คุนหลุนเหลือเพียงชื่อเท่านั้น เจ้ากลัวแค่เสวียนชิงกับหลิงอวิ๋นหรือ? ”

ชิงอวิ๋นจื่อรู้สึกว่าสิ่งที่เสวียนเจิ้นจื่อพูดนั้นสมเหตุสมผล อีกทั้ง อย่างไรเสีย เขาก็เป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของอดีตเจ้าสำนักอวี้หยาง และดูแลเรื่องในสำนักมาตลอด การสืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล

“ทว่า… ” เขายังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ และกำลังพูดความกังวลของตนเอง กลับถูกเสวียนเจิ้นจื่อพูดขัดจังหวะ “อย่าทว่าอีกเลย หากมัวแต่ทว่า เจ้าจะพลาดโอกาสที่ดีที่สุด”

หลังชิงอวิ๋นจื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ตกลง ข้าจะไปทำแทนศิษย์พี่อีกครั้ง”

เสวียนเจิ้นจื่อพอใจอย่างมาก “อย่าลืมพาคนไปมากกว่านี้ ต้องมากกว่าเดิมสามเท่า”

“ขอรับ! ”

“เจ้าไปกันก่อน ข้าจะตามไปภายหลัง! ” เสวียนเจิ้นจื่อหรี่ตาเล็กน้อย ดวงตาเรียวเล็กของเขาเต็มไปด้วยแผนการชั่วร้าย

ชิงอวิ๋นจื่องุนงงเล็กน้อย “ศิษย์พี่จะไปหรือ เหตุใดถึงไม่ไปพร้อมกับข้า? ”

“ข้ากำลังรอคนผู้หนึ่ง! ”

“รอคนผู้หนึ่ง? ”

“ใช่ คนที่สามารถช่วยเจ้ากับข้าได้ มีเขาอยู่ ตำแหน่งเจ้าสำนักและรองเจ้าสำนักของพวกเราไม่มีทางพลาด”

แม้ชิงอวิ๋นจื่อจะคิดจนสมองระเบิดก็นึกไม่ออกว่าเสวียนเจิ้นจื่อกำลังพูดถึงผู้ใด ทว่าเขาไม่ได้ถามอันใดมาก เพราะแม้เขาจะซักไซ้ เสวียนเจิ้นจื่อก็ไม่บอกเขาแน่

“ศิษย์พี่ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

ชิงอวิ๋นจื่อพูดจบก็กำลังจะจากไป เสวียนเจิ้นจื่อกำชับอีกครั้ง “จำไว้ว่าซูจิ่นซีกำลังตั้งครรภ์ ครั้งนี้เป็นไพ่ตายแล้ว ถ้าเจ้าใช้โอกาสนี้จัดการให้สำเร็จ การต่อสู้ครั้งนี้อาจทำให้ชื่อเสียงของเจ้าโด่งดังไปทั่วใต้หล้าทีเดียว”

……

ซูจิ่นซี อวิ๋นจิ่น และซูอวี้ยังคงถอนพิษให้เยี่ยโยวเหยา ประตูปิดสนิท สถานการณ์ภายในกลายเป็นปริศนาอีกครั้ง

ด้านนอกประตู ตงหลิงหวง มู่หรงฉี มู่หรงอวิ๋นไห่ จงซีจือ และคนอื่นๆ ต่างวิตกกังวลและเป็นห่วง

แววตาของตงหลิงหวงมองออกไปนอกเรือนด้วยความไม่สบายใจนัก

เป็นจริงดั่งคาด สิ่งที่คาดไว้อย่างไรก็ต้องมาถึง ชิงอวิ๋นจื่อจากไปและกลับมาอีกครั้ง เขาพาลูกศิษย์สำนักกระบี่คุนหลุนกลับมาอีกจำนวนมาก

คนเหล่านั้นแผ่ไอสังหารดุดัน ราวกับจะฉีกพวกเขาให้เป็นชิ้นๆ

ทว่าที่นี่คือสำนักกระบี่คุนหลุน พวกเขาไม่สามารถทำอันใดได้

เดิมทีตงหลิงหวงสามารถใช้วิญญาณกระบี่ต่อต้านได้ ทว่าพลังทำลายล้างของวิญญาณกระบี่รุนแรงมากเกินไป อย่างไรเสีย ทุกคนในที่นี้คือเพื่อนร่วมสำนักเดียวกับนาง นางไม่ต้องการใช้กระบวนท่าที่โหดร้ายเช่นนี้ เว้นแต่นางจำเป็นต้องทำเท่านั้น

เยี่ยโยวเหยาก็คงคิดแบบนี้เช่นเดียวกัน ไม่เช่นนั้น รู้ทั้งรู้ว่าสถานการณ์วิกฤติมาก ซูจิ่นซีคงให้สัตว์เทพกิเลนและจิ้งจอกเก้าสีปกป้องอยู่ด้านนอกแล้ว

ทว่านางไม่ได้ทำเช่นนั้น นางคงนึกถึงจิตใจของเยี่ยโยวเหยา

ทว่าในเวลานี้ ศัตรูอยู่เบื้องหน้า พวกเขาควรรับมืออย่างไร?

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *