เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ 257 โยนเงินสร้างความวุ่นวาย

Now you are reading เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ Chapter 257 โยนเงินสร้างความวุ่นวาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สำหรับเทียนซ่างเหรินเจียนแล้วเงินหนึ่งล้านหยวนไม่นับเป็นอะไรได้ เนื่องจากบริการของที่นี่หนึ่งคืนก็มีราคามากเพียงพอที่จะทำให้คนธรรมดาตกใจแล้ว เป็นจำนวนเงินที่คิดไม่ถึง เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องแปลกใจก็คือ การที่มีคนหิ้วถุงใส่เงินสดจำนวนหนึ่งล้านหยวนไปตบรางวัลให้พนักงานในเทียนซ่างเหรินเจียนตามอำเภอใจ เกรงว่านี่จะเป็นครั้งแรก โดยปกติคนที่มีเงินและมีอำนาจมักจะใช้บัตรเครดิตหรือไม่ก็คิดเงินหลังจากเที่ยวเสร็จ ดูเหมือนว่าแต่ไหนแต่ไรจะไม่เคยมีใครแบกเงินสดหนึ่งล้านหยวนไปตบรางวัลให้พนักงานหลังจากที่เพิ่งทำบัตร VIP ราคาสิบล้านมาก่อน

เย่เทียนเฉินแบกถุงเงิน มุมปากคาบซิก้ามวนหนึ่งเดินเข้าไปในเทียนซ่างเหรินเจียนอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขามีท่าทางเหมือนผู้ชายเสเพลที่ดูอันธพาลเล็กน้อย จะดูอย่างไรก็เหมือนกับเพลบอยคนหนึ่ง ไม่มีใครคิดเลยว่าเขาคือเย่เทียนเฉินที่ในระยะนี้ก่อคลื่นลมไปทั่วทั้งเมืองหลวงจนเป็นที่รู้จักไปทั่ว

ด้านหลังของเย่เทียนเฉินมีหญิงสาวอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปีคนหนึ่งยืนอึ้งอยู่กับที่ มองแผ่นหลังของเย่เทียนเฉินที่กำลังเดินจากไปด้วยความมึนงง เธอคิดไม่ถึงเลยว่าตนเองเรียกแขกตามปกติเพราะจะถือโอกาสทำเงิน จะถึงกับมีคนยัดเงินจำนวนห้าหมื่นหยวนในชั้นในของเธอ ไม่ผิด ธนบัตรที่โผล่ออกมาจากชุดชั้นในมีค่าถึงห้าหมื่นหยวน เพียงครั้งเดียวก็ได้รับรางวัลถึงห้าหมื่นหยวนโดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนอะไรออกไป ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตใจล้วนไม่ต้องจ่ายออกไปสักนิดก็สามารถได้เงินมาแบบนี้ ทำให้หญิงสาวคนนี้รู้สึกแปลกใจและตกตะลึงอยู่บ้าง“นี่ เธอจะไปไหนเหรอ?” สาวเซ็กซี่คนหนึ่งดึงเพื่อนๆ ที่กำลังจะเดินออกไปนอกห้องโถงแล้วถามขึ้น

“โอ๊ย เธอไม่รู้เหรอ มีคนใจกว้างตบรางวัลให้คนอื่นตามใจ อย่างน้อยก็สองสาม หมื่นเลย พวกเราจะไปดูน่ะสิ!” สาวเซ็กซี่ที่ถูกดึงพูดอย่างเร่งรีบ

“อะไรนะ? ไม่จริงน่ะ โยนเงิน?” สาวเซ็กซี่อ้าปากเล็กๆ ถามด้วยความตื่นตะลึง

“ใช่แล้ว ฉันไม่พูดกับเธอแล้ว ฉันจะไปดูสักหน่อย หากว่าเก็บได้สักหลายหมื่น ไม่ใช่ว่าจะทำเงินได้เยอะเลยเหรอ?”

“เดี๋ยวก่อน รอฉันด้วยสิ ฉันไปด้วย…”

ตลอดทาง เย่เทียนเฉินพบคนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาก็ไม่สนใจเลยแม้เพียงนิด ทุกคนที่ยื่นมือมาทางเขา เขาก็จะโยนเงินไปให้หลายหมื่นหยวน ตอนที่เขาเดินขึ้นไปถึงห้องโถงของเทียนซ่างเหรินเจียน หลายคนก็มองเขาด้วยความตกตะลึงจนตาค้าง ต่างพากันสงสัยว่าคนคนนี้เป็นใครกันแน่? จะเวอร์เกินไปหรือเปล่า? โยนเงินสดเนี่ยนะ? ที่สำคัญไม่ว่าใครที่ยื่นมือไปก็จะโยนไปให้หลายหมื่นหยวน ตกลงเป็นพวกขี้โอ่หรือพวกปัญญาอ่อนกันแน่?

“พี่ชายสุดหล่อ สนใจไปเที่ยวกับผมไหมครับ?” ตอนนี้เอง ชายร่างกำยำที่หน้าตาไม่เลวคนหนึ่งเดินมาเบื้องหน้าเย่เทียนเฉิน ถามพลางเล่นหูเล่นตา

พลั่ก!

ทว่าชายร่างกำยำคนนี้กลับกระเด็นออกไปแล้วตกกระแทกกับพื้นอย่างแรง สูญเสียความสามารถในการต่อสู้จนลุกไม่ขึ้น เย่เทียนเฉินยักไหล่แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอโทษที รสนิยมทางเพศของฉันปกติ!”

เทียนซ่างเหรินเจียนก็เป็นเช่นนี้เอง มีแต่สิ่งที่คุณคิดไม่ถึง ไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้ สรุปแล้วที่นี่ไม่ว่าคุณอยากจะเที่ยวเล่นอะไรก็มีทั้งหมด เป็นสถานที่ที่ทำให้ทุกคนมีความสุข

“โอ้โหคุณชาย คุณมือเติบจริงๆ วันนี้ให้ฉันปรนนิบัติคุณดีไหมคะ?” ผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อแหวกหลังจนเรียกได้ว่ากางเกงในและเสื้อชั้นในโผล่ออกมาให้เห็นได้เลยทีเดียว เธอเดินมาเบื้องหน้าเย่เทียนเฉินด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ พูดขึ้นพลางส่งสายตาไปให้

เย่เทียนเฉินยิ้มเล็กน้อย ควักเงินปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อตามใจแล้วโยนไปให้ผู้หญิงคนนั้น เพี๊ยะ! มือขวาตีบนสะโพกผายของเธอครั้งหนึ่ง แล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “น่าเสียดายจริงๆ ก้นของเธอใหญ่ไม่พอ ฉันชอบผู้หญิงก้นใหญ่!”

พูดจบเย่เทียนเฉินก็ไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่กำลังมองมาทางเขาด้วยอาการตกตะลึง พนักงานที่ทำงานอยู่ในเทียนซ่างเหรินเจียนและแขกที่อยู่ที่นี่พากันเดินเข้าไปด้านในต่อไป เป้าหมายของเย่เทียนเฉินก็คือชั้นสาม ที่นี่ก็เป็นแค่การเปิดตัวของเขาเท่านั้น เป็นการเปิดตัวเพื่อที่จะได้ขึ้นไปยังชั้นสามได้อย่างสะดวกราบรื่น และเขาคิดจะทำเซอร์ไพรส์ใหญ่ที่สุดให้กลุ่มของพรรคคุณชายที่ชั้นสามในสถานการณ์ที่ไม่มีใครสงสัย

“คุณผู้ชายคะ คุณคิดว่าฉันพอได้หรือเปล่า? ให้ฉันพาคุณไปเยี่ยมชมที่นี่ดีไหมคะ…” ผู้หญิงหน้าตางดงามคนหนึ่งในชุดพนักงานเอ่ยปากถามด้วยรอยยิ้ม

“เธอฉลาดมาก ถึงกับมองออกว่าฉันมาที่นี่เป็นครั้งแรก งั้นเธอก็นำทางเถอะ!”

ไหนเลยจะรู้ว่าในตอนที่พนักงานสาวสวยคนนั้นเกาะแขนเย่เทียนเฉินเตรียมที่จะพาเขาเดินไปรอบๆ ชายอ้วนคนหนึ่งที่มีบอดี้การ์ดในชุดเสื้อกล้ามสีดำสี่คนเดินตามหลังก็เดินมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่เทียนเฉิน จ้องมองเย่เทียนเฉินด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์และไม่พอใจ

“ไอ้หนู เห็นว่าแกมือเติบ ได้ยินว่ารวยมากนักนี่ เอามาให้บิดาใช้สักหลายแสนหน่อยสิ?” ชายอ้วนมองเย่เทียนเฉินอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้น

“แกเป็นใคร คิดว่าตัวเองหน้าตาเหมือนหมูแล้วจะวิ่งไปที่ไหนก็ได้หรือไง? ระวังถูกโรงฆ่าสัตว์จับไปล่ะ!” เย่เทียนเฉินเอ่ยปากพูดด้วยรอยยิ้ม

“แก…แม่ง กล้ามาแกล้งทำเป็นรวยที่นี่ เดี๋ยวบิดาจะทำให้แกพูดไม่ออกเลยเชื่อไหม?” ชายล่างอ้วนตะโกนใส่เย่เทียนเฉินด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด

“ไม่เชื่อ!” เย่เทียนเฉินพูดอย่างเรียบเฉย

ใครก็คิดไม่ถึงว่า ระหว่างทางจะมีชายร่างอ้วนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ทั้งยังพาบอดี้การ์ดในชุดเสื้อกล้ามสีดำมาอีกสี่คนซึ่งมองผิวเผินดูเหมือนพวกอันธพาล มีหลายคนมองออกว่าคนอย่างเย่เทียนเฉินมาทำตัวโดดเด่นที่เทียนซ่างเหรินเจียน จะต้องมีคนรู้สึกขัดลูกตาและต้องการที่จะสั่งสอนเขาแน่นอนอยู่แล้ว

เป็นเช่นนี้จริงๆ เทียนซ่างเหรินเจียนเป็นถ้ำเสือมังกรที่แท้จริง เรียกได้ว่าคนที่เข้ามาเที่ยว มีใครบ้างที่ไม่มีเบื้องหลังยิ่งใหญ่? กระทั่งข้าราชการระดับสูงบางคนในเมืองหลวงก็ยังมาอุดหนุนที่นี่บ่อยๆ

“นี่ไม่ใช่พ่างสยงเหรอ? เขามาได้ยังไง?”

“พ่างสยง เขาไม่ใช่น้องชายแท้ๆ ของผู้จัดการใหญ่ของเทียนซ่างเหรินเจียนเหรอ?”

“เขาเป็นคนคุ้มครองที่นี่ แต่คนๆ นี้ก็เป็นคนที่โอหังมาก พี่ชายของเขาเป็นผู้จัดการใหญ่ของเทียนซ่างเหรินเจียน มีเบื้องหลังไม่กระจอกเลย เขาต้องยโสโอหังเป็นธรรมดาอยู่แล้ว คิดว่าคนที่มาเที่ยวที่นี่ก็คงเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเขามาบ้าง!”

หลายคนรอบๆ อดไม่ได้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้น ชาอ้วนคนนี้มีฉายาว่าพ่างสยง กล่าวคือเป็นอันธพาลน้อยที่ไม่ร่ำเรียน หลังจากที่พี่ชายของเขาได้เป็นผู้จัดการใหญ่ที่เทียนซ่างเหรินเจียนแห่งนี้ ทำให้เขามีที่พึ่งและมีเบื้องหลังไม่น้อย ดังนั้นเขาจึงมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่นี่ แม้จะบอกว่าเป็นผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยแต่ก็ทำตัวไม่ต่างไปจากมาเฟียคุมถิ่นด้านนอก ใช้อำนาจบาตรใหญ่ทำตามอำเภอใจอยู่ในเทียนซ่างเหรินเจียน และเนื่องจากไม่อยากไปขัดแย้งกับอำนาจเบื้องหลังของพี่ชายเขาจึงทำให้คนที่มาเที่ยวหลายคนโดยเฉพาะเหล่าพนักงานไม่อยากไปล่วงเกินเขาถ้าหากไม่มีเรื่องใหญ่อะไร เป็นเพราะเห็นแก่อำนาจเบื้องหลังของพี่ชายเขา นี่ทำให้พ่างสยงยิ่งยโสโอหังมากขึ้น

เดิมทีพ่างสยงกำลังเสพสุขกับผู้หญิงอยู่ในห้องน้ำ ทันใดนั้นได้ยินลูกน้องมารายงานว่าที่ห้องโถงใหญ่ในชั้นหนึ่งมีชายวัยรุ่นคนหนึ่งหิ้วถุงสดหนึ่งล้านมาโปรยแจกไปทั่ว ทำให้เกิดความวุ่นวายไม่น้อย ทันใดนั้นพ่างสยงจึงรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา ในใจคิดว่าใครกันที่กล้ามาทำตัวโอหังยิ่งกว่าเขาในเทียนซ่างเหรินเจียน? จะต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว

“ดี ดี บิดาไม่สนว่าแกจะเป็นใคร วันนี้แกจะต้องทอดตัวนอนเป็นศพ!” พ่างสยงโอหังมาก แน่นอนว่าเขาเองก็รู้จักดูคน จะอย่างไรเย่เทียนเฉินก็ดูเหมือนจะเป็นคนมีเงิน แต่กลับสวมเสื้อผ้าธรรมดา ดูไร้ราคาไม่มีหน้ามีตาอะไรเลย คงจะหลอกง่าย ดังนั้นพ่างสยงจึงคิดสั่งให้คนที่ติดตามมาอัดเย่เทียนเฉินสักยก จากนั้นค่อยโยนเขาออกไป ให้ทุกคนได้รู้ว่า ถ้ามาเที่ยวที่นี่แล้วไม่เคารพกฎของเขาพ่างสยง ก็จะมีจุดจบที่อนาถ

เย่เทียนเฉินมองพ่างสยงอย่างไม่สบอารมณ์ วันนี้เขาจะสร้างชื่อขึ้นก่อนแล้วค่อยไปรวมตัวกับคนที่เคยรวมกลุ่มกันเมื่อสมัยก่อนบริเวณชั้นสาม ถ้าไม่สร้างความเคลื่อนไหวบ้างจะเป็นไปได้อย่างไร ทันใดนั้นจึงแค่นเสียงเย็นออกมาครั้งหนึ่ง พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า

“อ้วนเป็นหมูแล้วยังมีหน้าออกมาเจอผู้คนในสภาพน่าเกลียดแบบนี้อีก รีบกลับไปในท้องแม่เลยไป ไปเกิดใหม่ซะเถอะ!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียนเฉิน คนที่มาเที่ยวบ่อยๆ ต่างรู้สึกตื่นตะลึง พ่างสยงโกรธจนแทบจะระเบิด พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้จะกล้าทำให้พ่างสยงอับอาย ไม่เห็นพ่างสยงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ต้องพูดว่าถึงแม้พ่างสยงจะไม่มีอำนาจอะไร แต่พี่ชายของเขาสามารถเป็นผู้จัดการใหญ่ในเทียนซ่างเหรินเจียนที่เป็นที่รวมตัวของคนมีเงินมีอำนาจจำนวนมากได้ เห็นได้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา คุณชายทั้งหลายที่มาเที่ยวที่นี่ ต่อให้ไม่พอใจพ่างสยงแต่ก็จะไม่ล่วงเกิน เมื่อมาเที่ยวก็ยังต้องทักทายปราศรัย ที่สำคัญคือต้องแสดงความสัมพันธ์เบื้องหน้าให้ดีสักหน่อย แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีใครกล้าทำให้เขาอับอายเหมือนเย่เทียนเฉินมาก่อน

“แก บิดาจะฆ่าแกซะ…”

คำว่า “ฆ่า” ของพ่างสยงยังพูดไม่ทันจบ บนศีรษะก็ถูกขวดเบียร์ขวดหนึ่งกระทบลงมา สำหรับคนประเภทนี้ไม่มีอะไรต้องพูดมาก จงใจหาเรื่องเช่นนี้ เย่เทียนเฉินจะเกรงใจได้อย่างไร จึงได้หยิบขวดเบียร์ที่วางอยู่บนชั้นวางเหล้าด้านข้างตีลงไปบนศีรษะของพ่างสยงโดยตรง ซัดจนหัวแตกเลือดไหล

“อ๊าก! หัวฉัน!” พ่างสยงล้มลงบนพื้น กรีดร้องออกมาราวกับหมูถูกเชือด มือทั้งสองกุมอยู่บนศีรษะของตน ขวดเบียร์เมื่อสักครู่นี้แข็งมาก เป็นเบียร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นคงจะทำให้ศีรษะของพ่างสยงแตกเป็นรูใหญ่ไปแล้ว

“หัวของแกก็คือหัวหมูไง แข็งจริง ถึงกับไม่แตกเลยนะเนี่ย!” เย่เทียนเฉินพูดด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน

คนที่อยู่ข้างๆ ทั้งหมดตกตะลึงจนแข็งค้างไปหมดแล้ว กระทั่งชายฉกรรจ์สวมเสื้อกล้ามสีดำทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังของพ่างสยงก็มองฉากนี้อย่างตกตะลึงจนตาค้าง เนื่องจากมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป ไม่มีใครคิดว่าเย่เทียนเฉินยังไม่ทันพูดกับพ่างสยงให้มากความ ขวดเบียร์ก็กระแทกลงบนหัวเขาแล้ว

ทุกคนถอยหลังไปเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว พนักงานหญิงที่จะนำทางให้เย่เทียนเฉินก็ตกใจจนวิ่งหนีไปแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ว่าเกิดเรื่องแล้ว เย่เทียนเฉินก่อเรื่อง จะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว

“จบ จบกัน ไอ้หมอนี่ตายแน่ ถึงกับกล้าอัดพ่างสยงเลย!”

“คงไม่สามารถออกไปจากเทียนซ่างเหรินเจียนอย่างมีชีวิตได้แล้ว พ่างสยงจะต้องฆ่าเขาแน่”

“พี่ชายแท้ๆ ของพ่างสยงคือผู้จัดการใหญ่ของเทียนซ่างเหรินเจียน จะต้องฆ่าไอ้หมอนี่แน่ ไม่งั้นวันหลังเขาจะคุมที่นี่ได้ยังไง!”

……………………………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ 257 โยนเงินสร้างความวุ่นวาย

Now you are reading เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ Chapter 257 โยนเงินสร้างความวุ่นวาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สำหรับเทียนซ่างเหรินเจียนแล้วเงินหนึ่งล้านหยวนไม่นับเป็นอะไรได้ เนื่องจากบริการของที่นี่หนึ่งคืนก็มีราคามากเพียงพอที่จะทำให้คนธรรมดาตกใจแล้ว เป็นจำนวนเงินที่คิดไม่ถึง เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องแปลกใจก็คือ การที่มีคนหิ้วถุงใส่เงินสดจำนวนหนึ่งล้านหยวนไปตบรางวัลให้พนักงานในเทียนซ่างเหรินเจียนตามอำเภอใจ เกรงว่านี่จะเป็นครั้งแรก โดยปกติคนที่มีเงินและมีอำนาจมักจะใช้บัตรเครดิตหรือไม่ก็คิดเงินหลังจากเที่ยวเสร็จ ดูเหมือนว่าแต่ไหนแต่ไรจะไม่เคยมีใครแบกเงินสดหนึ่งล้านหยวนไปตบรางวัลให้พนักงานหลังจากที่เพิ่งทำบัตร VIP ราคาสิบล้านมาก่อน

เย่เทียนเฉินแบกถุงเงิน มุมปากคาบซิก้ามวนหนึ่งเดินเข้าไปในเทียนซ่างเหรินเจียนอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขามีท่าทางเหมือนผู้ชายเสเพลที่ดูอันธพาลเล็กน้อย จะดูอย่างไรก็เหมือนกับเพลบอยคนหนึ่ง ไม่มีใครคิดเลยว่าเขาคือเย่เทียนเฉินที่ในระยะนี้ก่อคลื่นลมไปทั่วทั้งเมืองหลวงจนเป็นที่รู้จักไปทั่ว

ด้านหลังของเย่เทียนเฉินมีหญิงสาวอายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปดปีคนหนึ่งยืนอึ้งอยู่กับที่ มองแผ่นหลังของเย่เทียนเฉินที่กำลังเดินจากไปด้วยความมึนงง เธอคิดไม่ถึงเลยว่าตนเองเรียกแขกตามปกติเพราะจะถือโอกาสทำเงิน จะถึงกับมีคนยัดเงินจำนวนห้าหมื่นหยวนในชั้นในของเธอ ไม่ผิด ธนบัตรที่โผล่ออกมาจากชุดชั้นในมีค่าถึงห้าหมื่นหยวน เพียงครั้งเดียวก็ได้รับรางวัลถึงห้าหมื่นหยวนโดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนอะไรออกไป ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตใจล้วนไม่ต้องจ่ายออกไปสักนิดก็สามารถได้เงินมาแบบนี้ ทำให้หญิงสาวคนนี้รู้สึกแปลกใจและตกตะลึงอยู่บ้าง“นี่ เธอจะไปไหนเหรอ?” สาวเซ็กซี่คนหนึ่งดึงเพื่อนๆ ที่กำลังจะเดินออกไปนอกห้องโถงแล้วถามขึ้น

“โอ๊ย เธอไม่รู้เหรอ มีคนใจกว้างตบรางวัลให้คนอื่นตามใจ อย่างน้อยก็สองสาม หมื่นเลย พวกเราจะไปดูน่ะสิ!” สาวเซ็กซี่ที่ถูกดึงพูดอย่างเร่งรีบ

“อะไรนะ? ไม่จริงน่ะ โยนเงิน?” สาวเซ็กซี่อ้าปากเล็กๆ ถามด้วยความตื่นตะลึง

“ใช่แล้ว ฉันไม่พูดกับเธอแล้ว ฉันจะไปดูสักหน่อย หากว่าเก็บได้สักหลายหมื่น ไม่ใช่ว่าจะทำเงินได้เยอะเลยเหรอ?”

“เดี๋ยวก่อน รอฉันด้วยสิ ฉันไปด้วย…”

ตลอดทาง เย่เทียนเฉินพบคนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาก็ไม่สนใจเลยแม้เพียงนิด ทุกคนที่ยื่นมือมาทางเขา เขาก็จะโยนเงินไปให้หลายหมื่นหยวน ตอนที่เขาเดินขึ้นไปถึงห้องโถงของเทียนซ่างเหรินเจียน หลายคนก็มองเขาด้วยความตกตะลึงจนตาค้าง ต่างพากันสงสัยว่าคนคนนี้เป็นใครกันแน่? จะเวอร์เกินไปหรือเปล่า? โยนเงินสดเนี่ยนะ? ที่สำคัญไม่ว่าใครที่ยื่นมือไปก็จะโยนไปให้หลายหมื่นหยวน ตกลงเป็นพวกขี้โอ่หรือพวกปัญญาอ่อนกันแน่?

“พี่ชายสุดหล่อ สนใจไปเที่ยวกับผมไหมครับ?” ตอนนี้เอง ชายร่างกำยำที่หน้าตาไม่เลวคนหนึ่งเดินมาเบื้องหน้าเย่เทียนเฉิน ถามพลางเล่นหูเล่นตา

พลั่ก!

ทว่าชายร่างกำยำคนนี้กลับกระเด็นออกไปแล้วตกกระแทกกับพื้นอย่างแรง สูญเสียความสามารถในการต่อสู้จนลุกไม่ขึ้น เย่เทียนเฉินยักไหล่แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอโทษที รสนิยมทางเพศของฉันปกติ!”

เทียนซ่างเหรินเจียนก็เป็นเช่นนี้เอง มีแต่สิ่งที่คุณคิดไม่ถึง ไม่มีอะไรที่คุณทำไม่ได้ สรุปแล้วที่นี่ไม่ว่าคุณอยากจะเที่ยวเล่นอะไรก็มีทั้งหมด เป็นสถานที่ที่ทำให้ทุกคนมีความสุข

“โอ้โหคุณชาย คุณมือเติบจริงๆ วันนี้ให้ฉันปรนนิบัติคุณดีไหมคะ?” ผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อแหวกหลังจนเรียกได้ว่ากางเกงในและเสื้อชั้นในโผล่ออกมาให้เห็นได้เลยทีเดียว เธอเดินมาเบื้องหน้าเย่เทียนเฉินด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ พูดขึ้นพลางส่งสายตาไปให้

เย่เทียนเฉินยิ้มเล็กน้อย ควักเงินปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อตามใจแล้วโยนไปให้ผู้หญิงคนนั้น เพี๊ยะ! มือขวาตีบนสะโพกผายของเธอครั้งหนึ่ง แล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “น่าเสียดายจริงๆ ก้นของเธอใหญ่ไม่พอ ฉันชอบผู้หญิงก้นใหญ่!”

พูดจบเย่เทียนเฉินก็ไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่กำลังมองมาทางเขาด้วยอาการตกตะลึง พนักงานที่ทำงานอยู่ในเทียนซ่างเหรินเจียนและแขกที่อยู่ที่นี่พากันเดินเข้าไปด้านในต่อไป เป้าหมายของเย่เทียนเฉินก็คือชั้นสาม ที่นี่ก็เป็นแค่การเปิดตัวของเขาเท่านั้น เป็นการเปิดตัวเพื่อที่จะได้ขึ้นไปยังชั้นสามได้อย่างสะดวกราบรื่น และเขาคิดจะทำเซอร์ไพรส์ใหญ่ที่สุดให้กลุ่มของพรรคคุณชายที่ชั้นสามในสถานการณ์ที่ไม่มีใครสงสัย

“คุณผู้ชายคะ คุณคิดว่าฉันพอได้หรือเปล่า? ให้ฉันพาคุณไปเยี่ยมชมที่นี่ดีไหมคะ…” ผู้หญิงหน้าตางดงามคนหนึ่งในชุดพนักงานเอ่ยปากถามด้วยรอยยิ้ม

“เธอฉลาดมาก ถึงกับมองออกว่าฉันมาที่นี่เป็นครั้งแรก งั้นเธอก็นำทางเถอะ!”

ไหนเลยจะรู้ว่าในตอนที่พนักงานสาวสวยคนนั้นเกาะแขนเย่เทียนเฉินเตรียมที่จะพาเขาเดินไปรอบๆ ชายอ้วนคนหนึ่งที่มีบอดี้การ์ดในชุดเสื้อกล้ามสีดำสี่คนเดินตามหลังก็เดินมาขวางอยู่เบื้องหน้าของเย่เทียนเฉิน จ้องมองเย่เทียนเฉินด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์และไม่พอใจ

“ไอ้หนู เห็นว่าแกมือเติบ ได้ยินว่ารวยมากนักนี่ เอามาให้บิดาใช้สักหลายแสนหน่อยสิ?” ชายอ้วนมองเย่เทียนเฉินอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้น

“แกเป็นใคร คิดว่าตัวเองหน้าตาเหมือนหมูแล้วจะวิ่งไปที่ไหนก็ได้หรือไง? ระวังถูกโรงฆ่าสัตว์จับไปล่ะ!” เย่เทียนเฉินเอ่ยปากพูดด้วยรอยยิ้ม

“แก…แม่ง กล้ามาแกล้งทำเป็นรวยที่นี่ เดี๋ยวบิดาจะทำให้แกพูดไม่ออกเลยเชื่อไหม?” ชายล่างอ้วนตะโกนใส่เย่เทียนเฉินด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด

“ไม่เชื่อ!” เย่เทียนเฉินพูดอย่างเรียบเฉย

ใครก็คิดไม่ถึงว่า ระหว่างทางจะมีชายร่างอ้วนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ทั้งยังพาบอดี้การ์ดในชุดเสื้อกล้ามสีดำมาอีกสี่คนซึ่งมองผิวเผินดูเหมือนพวกอันธพาล มีหลายคนมองออกว่าคนอย่างเย่เทียนเฉินมาทำตัวโดดเด่นที่เทียนซ่างเหรินเจียน จะต้องมีคนรู้สึกขัดลูกตาและต้องการที่จะสั่งสอนเขาแน่นอนอยู่แล้ว

เป็นเช่นนี้จริงๆ เทียนซ่างเหรินเจียนเป็นถ้ำเสือมังกรที่แท้จริง เรียกได้ว่าคนที่เข้ามาเที่ยว มีใครบ้างที่ไม่มีเบื้องหลังยิ่งใหญ่? กระทั่งข้าราชการระดับสูงบางคนในเมืองหลวงก็ยังมาอุดหนุนที่นี่บ่อยๆ

“นี่ไม่ใช่พ่างสยงเหรอ? เขามาได้ยังไง?”

“พ่างสยง เขาไม่ใช่น้องชายแท้ๆ ของผู้จัดการใหญ่ของเทียนซ่างเหรินเจียนเหรอ?”

“เขาเป็นคนคุ้มครองที่นี่ แต่คนๆ นี้ก็เป็นคนที่โอหังมาก พี่ชายของเขาเป็นผู้จัดการใหญ่ของเทียนซ่างเหรินเจียน มีเบื้องหลังไม่กระจอกเลย เขาต้องยโสโอหังเป็นธรรมดาอยู่แล้ว คิดว่าคนที่มาเที่ยวที่นี่ก็คงเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเขามาบ้าง!”

หลายคนรอบๆ อดไม่ได้ที่จะวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้น ชาอ้วนคนนี้มีฉายาว่าพ่างสยง กล่าวคือเป็นอันธพาลน้อยที่ไม่ร่ำเรียน หลังจากที่พี่ชายของเขาได้เป็นผู้จัดการใหญ่ที่เทียนซ่างเหรินเจียนแห่งนี้ ทำให้เขามีที่พึ่งและมีเบื้องหลังไม่น้อย ดังนั้นเขาจึงมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่นี่ แม้จะบอกว่าเป็นผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยแต่ก็ทำตัวไม่ต่างไปจากมาเฟียคุมถิ่นด้านนอก ใช้อำนาจบาตรใหญ่ทำตามอำเภอใจอยู่ในเทียนซ่างเหรินเจียน และเนื่องจากไม่อยากไปขัดแย้งกับอำนาจเบื้องหลังของพี่ชายเขาจึงทำให้คนที่มาเที่ยวหลายคนโดยเฉพาะเหล่าพนักงานไม่อยากไปล่วงเกินเขาถ้าหากไม่มีเรื่องใหญ่อะไร เป็นเพราะเห็นแก่อำนาจเบื้องหลังของพี่ชายเขา นี่ทำให้พ่างสยงยิ่งยโสโอหังมากขึ้น

เดิมทีพ่างสยงกำลังเสพสุขกับผู้หญิงอยู่ในห้องน้ำ ทันใดนั้นได้ยินลูกน้องมารายงานว่าที่ห้องโถงใหญ่ในชั้นหนึ่งมีชายวัยรุ่นคนหนึ่งหิ้วถุงสดหนึ่งล้านมาโปรยแจกไปทั่ว ทำให้เกิดความวุ่นวายไม่น้อย ทันใดนั้นพ่างสยงจึงรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา ในใจคิดว่าใครกันที่กล้ามาทำตัวโอหังยิ่งกว่าเขาในเทียนซ่างเหรินเจียน? จะต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว

“ดี ดี บิดาไม่สนว่าแกจะเป็นใคร วันนี้แกจะต้องทอดตัวนอนเป็นศพ!” พ่างสยงโอหังมาก แน่นอนว่าเขาเองก็รู้จักดูคน จะอย่างไรเย่เทียนเฉินก็ดูเหมือนจะเป็นคนมีเงิน แต่กลับสวมเสื้อผ้าธรรมดา ดูไร้ราคาไม่มีหน้ามีตาอะไรเลย คงจะหลอกง่าย ดังนั้นพ่างสยงจึงคิดสั่งให้คนที่ติดตามมาอัดเย่เทียนเฉินสักยก จากนั้นค่อยโยนเขาออกไป ให้ทุกคนได้รู้ว่า ถ้ามาเที่ยวที่นี่แล้วไม่เคารพกฎของเขาพ่างสยง ก็จะมีจุดจบที่อนาถ

เย่เทียนเฉินมองพ่างสยงอย่างไม่สบอารมณ์ วันนี้เขาจะสร้างชื่อขึ้นก่อนแล้วค่อยไปรวมตัวกับคนที่เคยรวมกลุ่มกันเมื่อสมัยก่อนบริเวณชั้นสาม ถ้าไม่สร้างความเคลื่อนไหวบ้างจะเป็นไปได้อย่างไร ทันใดนั้นจึงแค่นเสียงเย็นออกมาครั้งหนึ่ง พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า

“อ้วนเป็นหมูแล้วยังมีหน้าออกมาเจอผู้คนในสภาพน่าเกลียดแบบนี้อีก รีบกลับไปในท้องแม่เลยไป ไปเกิดใหม่ซะเถอะ!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เทียนเฉิน คนที่มาเที่ยวบ่อยๆ ต่างรู้สึกตื่นตะลึง พ่างสยงโกรธจนแทบจะระเบิด พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้จะกล้าทำให้พ่างสยงอับอาย ไม่เห็นพ่างสยงอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย ต้องพูดว่าถึงแม้พ่างสยงจะไม่มีอำนาจอะไร แต่พี่ชายของเขาสามารถเป็นผู้จัดการใหญ่ในเทียนซ่างเหรินเจียนที่เป็นที่รวมตัวของคนมีเงินมีอำนาจจำนวนมากได้ เห็นได้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา คุณชายทั้งหลายที่มาเที่ยวที่นี่ ต่อให้ไม่พอใจพ่างสยงแต่ก็จะไม่ล่วงเกิน เมื่อมาเที่ยวก็ยังต้องทักทายปราศรัย ที่สำคัญคือต้องแสดงความสัมพันธ์เบื้องหน้าให้ดีสักหน่อย แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีใครกล้าทำให้เขาอับอายเหมือนเย่เทียนเฉินมาก่อน

“แก บิดาจะฆ่าแกซะ…”

คำว่า “ฆ่า” ของพ่างสยงยังพูดไม่ทันจบ บนศีรษะก็ถูกขวดเบียร์ขวดหนึ่งกระทบลงมา สำหรับคนประเภทนี้ไม่มีอะไรต้องพูดมาก จงใจหาเรื่องเช่นนี้ เย่เทียนเฉินจะเกรงใจได้อย่างไร จึงได้หยิบขวดเบียร์ที่วางอยู่บนชั้นวางเหล้าด้านข้างตีลงไปบนศีรษะของพ่างสยงโดยตรง ซัดจนหัวแตกเลือดไหล

“อ๊าก! หัวฉัน!” พ่างสยงล้มลงบนพื้น กรีดร้องออกมาราวกับหมูถูกเชือด มือทั้งสองกุมอยู่บนศีรษะของตน ขวดเบียร์เมื่อสักครู่นี้แข็งมาก เป็นเบียร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้นคงจะทำให้ศีรษะของพ่างสยงแตกเป็นรูใหญ่ไปแล้ว

“หัวของแกก็คือหัวหมูไง แข็งจริง ถึงกับไม่แตกเลยนะเนี่ย!” เย่เทียนเฉินพูดด้วยรอยยิ้มสนุกสนาน

คนที่อยู่ข้างๆ ทั้งหมดตกตะลึงจนแข็งค้างไปหมดแล้ว กระทั่งชายฉกรรจ์สวมเสื้อกล้ามสีดำทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังของพ่างสยงก็มองฉากนี้อย่างตกตะลึงจนตาค้าง เนื่องจากมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป ไม่มีใครคิดว่าเย่เทียนเฉินยังไม่ทันพูดกับพ่างสยงให้มากความ ขวดเบียร์ก็กระแทกลงบนหัวเขาแล้ว

ทุกคนถอยหลังไปเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว พนักงานหญิงที่จะนำทางให้เย่เทียนเฉินก็ตกใจจนวิ่งหนีไปแล้ว ทุกคนต่างก็รู้ว่าเกิดเรื่องแล้ว เย่เทียนเฉินก่อเรื่อง จะเกิดเรื่องใหญ่แล้ว

“จบ จบกัน ไอ้หมอนี่ตายแน่ ถึงกับกล้าอัดพ่างสยงเลย!”

“คงไม่สามารถออกไปจากเทียนซ่างเหรินเจียนอย่างมีชีวิตได้แล้ว พ่างสยงจะต้องฆ่าเขาแน่”

“พี่ชายแท้ๆ ของพ่างสยงคือผู้จัดการใหญ่ของเทียนซ่างเหรินเจียน จะต้องฆ่าไอ้หมอนี่แน่ ไม่งั้นวันหลังเขาจะคุมที่นี่ได้ยังไง!”

……………………………..

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+