เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ 306 ผู้หญิงสองคนแย่งผู้ชายคนเดียว

Now you are reading เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ Chapter 306 ผู้หญิงสองคนแย่งผู้ชายคนเดียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พวกเธอสองคนยังไม่จบอีกรึไง? ฉันบอกพวกเธอไปแล้ว ต่อให้ฉันจะไปติดหญิงก็เป็นเรื่องปกติ ฉันเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ต้องการผู้หญิงมันไม่ปกติรึไง? แต่บอกไว้ก่อนว่าฉันไม่ได้ไปเที่ยวผู้หญิง เห็นฉันเป็นคนเสเพลแบบนั้นรึไง?” เย่เทียนเฉินมองไปยังเย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ยด้วยท่าทีเคร่งขรึมจริงจังแล้วพูดขึ้น

“ใช่!” เย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ยใช้ท่าทางเหมือนกับว่าของมันแน่อยู่แล้ว มันต้องใช่แน่ๆ ตลอดจนท่าทางมั่นใจตอบเย่เทียนเฉิน

เย่เทียนเฉินรู้สึกอับจนคำพูดไปในพริบตา ไม่รู้จริงๆ ว่าผู้หญิงทั้งสองคนนี้เป็นอะไร ตนเองเป็นคนที่เคร่งครัดขนาดไหน แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยทำตัวเกเร ไม่เคยเลยเถิด ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมพวกเธอถึงมักจะคิดว่าตนเป็นพวกอันธพาลแบบนั้น หรือจะเกิดมาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว?

“พวกเธอสองคนมีอคติกับฉันแล้ว…แม่ครับ แม่ว่าลูกชายของแม่เป็นคนไม่เอาไหนเหรอครับ? แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเป็น…” เย่เทียนเฉินตะโกนถามไปยังหลัวเยี่ยนที่อยู่ในห้องครัว

“เทียนเฉิน ตอนนี้ลูกไปอยู่ข้างนอกแล้วต้องดูแลความปลอดภัยให้ดี อย่าได้เกเร!”

เสียงของหลัวเยี่ยนดังออกมาจากในครัว เดิมทีเย่เทียนเฉินมีท่าทางมั่นอกมั่นใจมาก เพียงพริบตาเดียวก็แทบจะทรุดลงนั่งกับพื้น อยากจะร้องไห้โดยไร้น้ำตาจริงๆ ไม่รู้ว่าหลัวเยี่ยนผู้เป็นแม่ถูกน้องสาวและฉีหรูเสวี่ยล้างสมองไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ค่อยๆ ไม่เชื่อมั่นในลูกชายของตัวเองแล้ว ผู้หญิงแบบฉีหรูเสวี่ยน่ากลัวจริงๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงสวยๆ ยิ่งสวยก็ยิ่งน่ากลัว!

ยิ่งได้เห็นผู้หญิงทั้งสองคนอย่างฉีหรูเสวี่ยและเย่เชี่ยนเหวินพากันหัวเราะคิกคักก็แทบจะทรุดลงไปกับพื้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่เห็นใบหน้าชอกช้ำของเย่เทียนเฉินก็ยิ่งหัวเราะร่า

“แม่ครับ แม่จะใส่ร้ายลูกชายของแม่เกินไปแล้ว ชั่วชีวิตนี้ของผม ความ ปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือกตัญูและเคารพต่อแม่และพ่อ ส่วนเรื่องเมียผมยังไม่เคยคิด ยิ่งไปกว่านั้นผมก็ไม่เกเรด้วย ผมออกไปข้างนอกหลายวันล้วนแต่ไปทำงานทั้งนั้น ไม่ได้แตะผู้หญิงเลย จะเกเรเสียคนได้ยังไง ผมถูกใส่ร้าย!” เย่เทียนเฉินแสร้งทำเป็นพูดด้วยท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจและน่าสงสารเป็นอย่างมาก

“นายกล้าสาบานหรือเปล่า?” ฉีหรูเสวี่ยเดินมาเบื้องหน้าเย่เทียนเฉิน จ้องมองเจ้าบานี่แล้วถามขึ้นอย่างดุดัน

“ทำไมจะไม่กล้า ฉันเย่เทียนเฉินขอสาบานเลยว่า หลายวันมานี้พยายามทำงานเต็มที่ ไม่ได้แตะต้องแม้แต่ผู้หญิง ไม่ได้เกเรเสียคนอย่างเด็ดขาด!” เย่เทียนเฉินพูดอย่างจริงจังแล้วจ้องมองไปยังฉีหรูเสวี่ย

ฉีหรูเสวี่ยเห็นท่าทีสาบานเช่นนี้ของเย่เทียนเฉินก็รู้สึกยินดีในใจ เธอหลงรักเย่เทียนเฉิน ย่อมไม่หวังให้ผู้ชายคนนี้ออกไปเที่ยวเสเพล ต่อให้อยากจะเสเพลก็ทำได้กับตนคนเดียว ในเมื่อเขาสาบานอย่างแน่วแน่จริงจังแล้วก็แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่คนแบบนั้นจริงๆ ฉีหรูเสวี่ยย่อมดีใจ

เย่เทียนเฉินเห็นเย่เชี่ยนเหวินผู้เป็นน้อง ฉีหรูเสวี่ย และยังมีหลัวเยี่ยนผู้เป็นแม่ที่เดินออกมาจากในครัวต่างพูดไม่ออกจึงอดไม่ได้ที่จะกรอกตามองทุกคนอย่างลำพองใจแล้วพูดขึ้นว่า “พวกเธอกำลังอิจฉาในเสน่ห์ของพี่ชายสุดหล่อที่ไม่มีใครเทียบได้คนนี้สินะ พวกเธอจะเห็นแก่ตัวไปแล้ว พี่ชายสุดหล่ออย่างฉันเป็นของทุกคน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ฉันถูกกำหนดมาให้เป็นคนที่หล่อที่สุดในโลก!”

เมื่อคำนี้ถูกกล่าวออกมา เย่เทียนเฉินก็ได้ยินเสียงคลื่นไส้ระงม กระทั่งหลัวเยี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะทำท่าคลื่นไส้ออกมา ในใจคิดไปว่าลูกชายไปมั่นใจตัวเองขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ดูเหมือนก่อนหน้านี้เขาจะถ่อมตัวมากนี่นา!

“พวกเธออ้วกกันไปเถอะ ฉันเป็นคนที่จริงจังคนหนึ่ง พวกเธอมาใส่ร้ายฉัน ฉัน…”

คำพูดหยอกล้อของเย่เทียนเฉินยังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว ถึงกับมีคนมาเคาะประตูเชียว จะเป็นใครกัน?

“ใครน่ะ แม่จะไปเปิดประตูสักหน่อย…” หลัวเยี่ยนเดินไปที่ประตูคฤหาสน์

“เอ๋? แม่ครับ แม่ฟังผิดไปแล้ว จะมีคนมาเคาะประตูที่ไหนกัน ไม่มี!” เย่เทียนเฉินรีบหยุดเอาไว้ เนื่องจากเขาสำรวจผ่านพลังพิเศษแห่งการรับรู้แล้วจึงได้รู้ทันทีว่าคนที่เคาะประตูอยู่ด้านนอกคือใคร เขาตกใจจนเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมา  จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาหาเขาที่นี่

ปังๆๆ!

มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง บนหน้าผากของเย่เทียนเฉินมีเหงื่อเย็นๆ ซึมออกมา แม่เดินไปที่ประตูเตรียมเปิดประตูแล้ว จินตนาการได้เลยว่า ในตอนที่แม่เปิดประตูและผู้หญิงคนนี้เดินเข้ามา คำสาบานและคำพูดอันแน่วแน่จริงจังของเขาก่อนหน้านี้คงถูกเข้าใจผิดและดูไร้ค่าไปเลย จะต้องถูกตำหนิอีกครั้งแน่นอน

“ใครคะ?” หลัวเยี่ยนเปิดประตูคฤหาสน์ออกไป ในตอนที่เธอเห็นว่าด้านนอกมีผู้หญิงผมทองคนหนึ่งยืนอยู่ก็ชะงักไปทั้งร่าง ปฏิกิริยาแรกก็คือ คนคนนี้คือใคร? ปฏิกิริยาที่สองก็คือ ผู้หญิงคนนี้มาผิดบ้านหรือเปล่า?

“สวัสดีค่ะที่นี่ ใช่บ้านของเย่เทียนเฉินหรือเปล่าคะ?” สาวผมทองเอ่ยปากถาม

“อา ใช่ค่ะ เขาเป็นลูกชายของฉันเอง คุณคือ…” หลัวเยี่ยนเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“สวัสดีค่ะคุณป้า ฉันชื่ออลิซ เป็นแฟนของเทียนเฉิน!”

ผู้มาเยือนก็คืออลิซ เธอตามหลังเย่เทียนเฉินมาโดยตลอด จุดประสงค์ที่มาเคาะประตูในตอนนี้ก็ชัดเจนมาก นั่นก็คือต้องการเข้าไปที่บ้านตระกูลเย่ เธอรู้ว่าความสามารถของเย่เทียนเฉินลึกล้ำไม่อาจคาดเดา ตอนนี้ตนเองเพิ่งจะเข้าใกล้เย่เทียนเฉินได้ หากต้องการฆ่าเขาโดยที่เขาคาดไม่ถึงยังเป็นเรื่องยากมาก สิ่งเดียวที่ต้องทำก็คือ ต้องค่อยๆ ทำให้ได้รับความเชื่อใจจากเย่เทียนเฉินทีละน้อย และการได้รับความเชื่อใจจากครอบครัวของเย่เทียนเฉินจะเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดที่จะได้ความเชื่อใจจากเย่เทียนเฉิน

“อา… เธอ…เชิญเข้ามาเถอะ…”

หลัวเยี่ยนเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากคนหนึ่งแต่ก็ยังชะงักไปในพริบตา จะอย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่าสาวผมทองที่ยืนอยู่นอกคฤหาสน์ของตนคนนี้จะถึงกับเป็นแฟนของเย่เทียนเฉิน? นี่เพิ่งจะผ่านไปกี่วันเอง ไปมีแฟนเป็นสาวผมทองแล้วหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยได้ยินลูกชายพูดถึงมาก่อน นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ผู้มาเยือนก็ยังเป็นแขก หลัวเยี่ยนจึงเชิญให้อลิซเข้ามาในบ้าน อีกทั้งยังเดินนำทางด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้ม พูดเสียงดังว่า “เทียนเฉิน มีคนมาหา รีบออกมาเร็ว!”

หลัวเยี่ยนพาอลิซเดินไป ในห้องโถงของคฤหาสน์มีแค่เย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ย ส่วนเย่เทียนเฉินไม่เห็นนานแล้ว ไม่รู้ว่าหนีไปที่ไหนแล้ว

“พี่ชายของลูกล่ะ? มีคนมาหา…” หลัวเยี่ยนส่งสายตาให้เย่เชี่ยนเหวินผู้เป็นลูกสาวของตนแล้วเอ่ยถาม

“อา พี่เขาขึ้นไปข้างบนแล้วมั้งคะ?” เย่เชี่ยนเหวินก็ไม่รู้ว่าพี่ชายของตนหายไปโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

“เธอคือ…” ฉีหรูเสวี่ยขมวดคิ้วมองไปยังอลิซแล้วถามขึ้น สัญชาตญาณของผู้หญิงกำลังบอกเธอว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นภัยคุกคามต่อเธอ

“สวัสดีทุกคน ฉันคือแฟนของเย่เทียนเฉินชื่อว่าอลิซ!” อลิซยิ้มให้เย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ยแล้วจึงแนะนำตัวเอง

“เธอ…เธอคือแฟนของเทียนเฉิน?” ฉีหรูเสวี่ยเป็นคนแรกที่เอ่ยถามขึ้นอย่างไม่เชื่อนัก

“เธอเป็นแฟนของพี่ชายฉันเหรอ? ทำไมฉันไม่เคยเจอเธอมาก่อนล่ะ?” เย่เชี่ยนเหวินก็ถามอย่างไม่ค่อยเชื่อนัก

การแนะนำตัวของอลิซทำให้หลัวเยี่ยน เย่เชี่ยนเหวิน และฉีหรูเสวี่ยตกตะลึงไปจริงๆ ต้องพูดว่าหลังจากที่เย่เทียนเฉินกลับมาที่เมือง ผู้หญิงข้างกายก็มีไม่น้อย แต่ว่าไม่เคยเกิดสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันคน อยู่ดีๆ ก็มีสาวผมทองปรากฎตัวออกมาอย่างกระทันหัน และยังแนะนำตัวว่าเป็นแฟนของเย่เทียนเฉินโดยที่คนในบ้านไม่รู้ จะไม่ทำให้ทุกคนตกใจได้อย่างไร?

“เธออย่าคิดจะหลอกพวกเราเลย เทียนเฉินไม่ชอบผู้หญิงแบบเธอหรอก!”

ฉีหรูเสวี่ยพูดขึ้นมาเป็นคนแรก เธอไม่เชื่อแน่นอนอยู่แล้วว่าอลิซจะพูดความจริง ในใจเธอรับไม่ได้แน่นอน ตนกับเย่เทียนเฉินนับว่าฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกัน ถึงแม้เจ้าหมอนี่จะไม่มีอีคิวและไม่เข้าใจเรื่องรักหยกถนอมบุปผา แต่กลับเป็นคนที่สามารถพึ่งพาได้ไม่เลวคนหนึ่ง ตอนนี้ฉีหรูเสวี่ยมั่นใจได้แล้วว่าตนเองหลงรักเย่เทียนเฉิน ในเมื่อรักชายคนนี้แล้วถ้าเช่นนั้นก็จะไล่ตามความสุขของตน ดังนั้นผู้หญิงผมทองหน้าตาสวยงามคนนี้เป็นศัตรูหัวใจของเธอ จะต้องทำหน้าดีๆ ให้ศัตรูหัวใจหรือไง?

“เอ๋? เธอเป็นใคร?” อลิซเป็นผู้หญิงที่ฉลาดระดับไหนกัน เมื่อเห็นว่าฉีหรูเสวี่ยพูดแบบนี้จึงถามออกไปด้วยรอยยิ้มเย็นชาอย่างเจตนาเป็นศัตรู

“ฉัน…ฉัน…ฉันสิเป็นแฟนของเทียนเฉิน!” ฉีหรูเสวี่ยจ้องมองไปยังอลิซอย่างดุดันแล้วพูดขึ้น

ตอนนี้สองงามทั้งสองคนอย่างอลิซและฉีหรูเสวี่ยต่างไม่มีใครยอมใคร หลัวเยี่ยนและเย่เชี่ยนเหวินยืนอึ้งอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี พวกเธอรู้สึกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกระทันหันเกินไปและรุนแรงเกินไป เวลาเพียงชั่วครู่ยังไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ส่วนเย่เทียนเฉินก็ดูเหมือนจะคาดเดาเหตุการณ์นี้ได้นานแล้วจึงแอบไปซ่อนก่อนแล้ว เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เย่เทียนเฉินคิดไม่ถึงก็คือ อลิซจะเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนของเขา ทำให้เรื่องใหญ่โตยิ่งขึ้น

“เธอเป็นแฟนของเขาเหรอ? อย่าพูดให้ตลกเลยน่า ถ้าหากเธอเป็นแฟนของเขาแล้วฉันจะเป็นใครล่ะ?” เพียงไม่นานอลิซก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ชอบเย่เทียนเฉินอย่างชัดเจน แต่เมื่อดูท่าทางหูแดงหน้าแดงของผู้หญิงคนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่เทียนเฉินยังไม่ก้าวหน้าไปถึงขั้นนั้น

สิ่งที่ทำให้อลิซแปลกใจก็คือ เย่เทียนเฉินมีผู้หญิงที่สวยเหนือระดับแบบนี้มาชอบจริงๆ ด้วย ฉีหรูเสวี่ยสวยขนาดนี้ยังมาทะเลาะกับเธอเพื่อเย่เทียนเฉินด้วยท่าทางหูแดงหน้าแดงโดยไม่เสียดาย ดูท่าเสน่ห์ของเจ้าหมอนี่จะไม่น้อยเลยจริงๆ

“ฉันไม่สนใจว่าเธอจะเป็นใคร ที่นี่ไม่ต้อนรับเธอ เธอออกไปได้แล้ว!” ฉีหรูเสวี่ยพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“งั้นเหรอ? เกรงว่าจะยังไม่ถึงตาเธอมาพูดแบบนี้ละมั้ง เทียนเฉิน ฉันมาแล้ว นายยังไม่ออกมารับอีกเหรอ?” อลิซอดไม่ได้ที่จะตะโกนเสียงดัง ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความออดอ้อน เมื่อได้ฟังก็ทำให้ผู้ชายรู้สึกทนไม่ไหว

“เธอ เธออย่าตะโกนเลย เขาไม่อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่ใช่แฟนของเขาด้วย!” ฉีหรูเสวี่ยพองแก้มเล็กๆ อันน่ารักของตนพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำดูเซ็กซี่

“ไม่อยู่? เป็นไปไม่ได้น่ะ ฉันกลับมาด้วยกันกับเขา เพียงแต่ฉันมีธุระเลยมาสายไปเล็กน้อย ไม่งั้นเธอคิดว่าฉันจะหาที่นี่เจอได้ยังไง?” อลิซพูดด้วยรอยยิ้ม

“เธอ…” ฉีหรูเสวี่ยถูกทำให้โกรธจนทนไม่ไหว ถึงแม้ว่าเธอจะฉลาดมากแต่เมื่อเทียบกับอลิซที่เป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองพิเศษแห่งประเทศ M แล้วยังแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย

“ถ้าหากเธอไม่เชื่อฉันก็สามารถขึ้นไปถามเจ้าหมอนั่นได้เลย คิดจะกินแล้วกลบเกลื่อนหลักฐานมันไม่ได้หรอกนะ!” อลิซยิ่งพูดยิ่งอิน ทำให้ฉีหรูเสวี่ยโกรธจนหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว นั่งทิ้งตัวลงบนโซฟาด้านข้าง

………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ 306 ผู้หญิงสองคนแย่งผู้ชายคนเดียว

Now you are reading เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ Chapter 306 ผู้หญิงสองคนแย่งผู้ชายคนเดียว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“พวกเธอสองคนยังไม่จบอีกรึไง? ฉันบอกพวกเธอไปแล้ว ต่อให้ฉันจะไปติดหญิงก็เป็นเรื่องปกติ ฉันเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ต้องการผู้หญิงมันไม่ปกติรึไง? แต่บอกไว้ก่อนว่าฉันไม่ได้ไปเที่ยวผู้หญิง เห็นฉันเป็นคนเสเพลแบบนั้นรึไง?” เย่เทียนเฉินมองไปยังเย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ยด้วยท่าทีเคร่งขรึมจริงจังแล้วพูดขึ้น

“ใช่!” เย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ยใช้ท่าทางเหมือนกับว่าของมันแน่อยู่แล้ว มันต้องใช่แน่ๆ ตลอดจนท่าทางมั่นใจตอบเย่เทียนเฉิน

เย่เทียนเฉินรู้สึกอับจนคำพูดไปในพริบตา ไม่รู้จริงๆ ว่าผู้หญิงทั้งสองคนนี้เป็นอะไร ตนเองเป็นคนที่เคร่งครัดขนาดไหน แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยทำตัวเกเร ไม่เคยเลยเถิด ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมพวกเธอถึงมักจะคิดว่าตนเป็นพวกอันธพาลแบบนั้น หรือจะเกิดมาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว?

“พวกเธอสองคนมีอคติกับฉันแล้ว…แม่ครับ แม่ว่าลูกชายของแม่เป็นคนไม่เอาไหนเหรอครับ? แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยเป็น…” เย่เทียนเฉินตะโกนถามไปยังหลัวเยี่ยนที่อยู่ในห้องครัว

“เทียนเฉิน ตอนนี้ลูกไปอยู่ข้างนอกแล้วต้องดูแลความปลอดภัยให้ดี อย่าได้เกเร!”

เสียงของหลัวเยี่ยนดังออกมาจากในครัว เดิมทีเย่เทียนเฉินมีท่าทางมั่นอกมั่นใจมาก เพียงพริบตาเดียวก็แทบจะทรุดลงนั่งกับพื้น อยากจะร้องไห้โดยไร้น้ำตาจริงๆ ไม่รู้ว่าหลัวเยี่ยนผู้เป็นแม่ถูกน้องสาวและฉีหรูเสวี่ยล้างสมองไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ค่อยๆ ไม่เชื่อมั่นในลูกชายของตัวเองแล้ว ผู้หญิงแบบฉีหรูเสวี่ยน่ากลัวจริงๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงสวยๆ ยิ่งสวยก็ยิ่งน่ากลัว!

ยิ่งได้เห็นผู้หญิงทั้งสองคนอย่างฉีหรูเสวี่ยและเย่เชี่ยนเหวินพากันหัวเราะคิกคักก็แทบจะทรุดลงไปกับพื้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่เห็นใบหน้าชอกช้ำของเย่เทียนเฉินก็ยิ่งหัวเราะร่า

“แม่ครับ แม่จะใส่ร้ายลูกชายของแม่เกินไปแล้ว ชั่วชีวิตนี้ของผม ความ ปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือกตัญูและเคารพต่อแม่และพ่อ ส่วนเรื่องเมียผมยังไม่เคยคิด ยิ่งไปกว่านั้นผมก็ไม่เกเรด้วย ผมออกไปข้างนอกหลายวันล้วนแต่ไปทำงานทั้งนั้น ไม่ได้แตะผู้หญิงเลย จะเกเรเสียคนได้ยังไง ผมถูกใส่ร้าย!” เย่เทียนเฉินแสร้งทำเป็นพูดด้วยท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจและน่าสงสารเป็นอย่างมาก

“นายกล้าสาบานหรือเปล่า?” ฉีหรูเสวี่ยเดินมาเบื้องหน้าเย่เทียนเฉิน จ้องมองเจ้าบานี่แล้วถามขึ้นอย่างดุดัน

“ทำไมจะไม่กล้า ฉันเย่เทียนเฉินขอสาบานเลยว่า หลายวันมานี้พยายามทำงานเต็มที่ ไม่ได้แตะต้องแม้แต่ผู้หญิง ไม่ได้เกเรเสียคนอย่างเด็ดขาด!” เย่เทียนเฉินพูดอย่างจริงจังแล้วจ้องมองไปยังฉีหรูเสวี่ย

ฉีหรูเสวี่ยเห็นท่าทีสาบานเช่นนี้ของเย่เทียนเฉินก็รู้สึกยินดีในใจ เธอหลงรักเย่เทียนเฉิน ย่อมไม่หวังให้ผู้ชายคนนี้ออกไปเที่ยวเสเพล ต่อให้อยากจะเสเพลก็ทำได้กับตนคนเดียว ในเมื่อเขาสาบานอย่างแน่วแน่จริงจังแล้วก็แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่คนแบบนั้นจริงๆ ฉีหรูเสวี่ยย่อมดีใจ

เย่เทียนเฉินเห็นเย่เชี่ยนเหวินผู้เป็นน้อง ฉีหรูเสวี่ย และยังมีหลัวเยี่ยนผู้เป็นแม่ที่เดินออกมาจากในครัวต่างพูดไม่ออกจึงอดไม่ได้ที่จะกรอกตามองทุกคนอย่างลำพองใจแล้วพูดขึ้นว่า “พวกเธอกำลังอิจฉาในเสน่ห์ของพี่ชายสุดหล่อที่ไม่มีใครเทียบได้คนนี้สินะ พวกเธอจะเห็นแก่ตัวไปแล้ว พี่ชายสุดหล่ออย่างฉันเป็นของทุกคน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ฉันถูกกำหนดมาให้เป็นคนที่หล่อที่สุดในโลก!”

เมื่อคำนี้ถูกกล่าวออกมา เย่เทียนเฉินก็ได้ยินเสียงคลื่นไส้ระงม กระทั่งหลัวเยี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะทำท่าคลื่นไส้ออกมา ในใจคิดไปว่าลูกชายไปมั่นใจตัวเองขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ดูเหมือนก่อนหน้านี้เขาจะถ่อมตัวมากนี่นา!

“พวกเธออ้วกกันไปเถอะ ฉันเป็นคนที่จริงจังคนหนึ่ง พวกเธอมาใส่ร้ายฉัน ฉัน…”

คำพูดหยอกล้อของเย่เทียนเฉินยังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว ถึงกับมีคนมาเคาะประตูเชียว จะเป็นใครกัน?

“ใครน่ะ แม่จะไปเปิดประตูสักหน่อย…” หลัวเยี่ยนเดินไปที่ประตูคฤหาสน์

“เอ๋? แม่ครับ แม่ฟังผิดไปแล้ว จะมีคนมาเคาะประตูที่ไหนกัน ไม่มี!” เย่เทียนเฉินรีบหยุดเอาไว้ เนื่องจากเขาสำรวจผ่านพลังพิเศษแห่งการรับรู้แล้วจึงได้รู้ทันทีว่าคนที่เคาะประตูอยู่ด้านนอกคือใคร เขาตกใจจนเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมา  จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาหาเขาที่นี่

ปังๆๆ!

มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง บนหน้าผากของเย่เทียนเฉินมีเหงื่อเย็นๆ ซึมออกมา แม่เดินไปที่ประตูเตรียมเปิดประตูแล้ว จินตนาการได้เลยว่า ในตอนที่แม่เปิดประตูและผู้หญิงคนนี้เดินเข้ามา คำสาบานและคำพูดอันแน่วแน่จริงจังของเขาก่อนหน้านี้คงถูกเข้าใจผิดและดูไร้ค่าไปเลย จะต้องถูกตำหนิอีกครั้งแน่นอน

“ใครคะ?” หลัวเยี่ยนเปิดประตูคฤหาสน์ออกไป ในตอนที่เธอเห็นว่าด้านนอกมีผู้หญิงผมทองคนหนึ่งยืนอยู่ก็ชะงักไปทั้งร่าง ปฏิกิริยาแรกก็คือ คนคนนี้คือใคร? ปฏิกิริยาที่สองก็คือ ผู้หญิงคนนี้มาผิดบ้านหรือเปล่า?

“สวัสดีค่ะที่นี่ ใช่บ้านของเย่เทียนเฉินหรือเปล่าคะ?” สาวผมทองเอ่ยปากถาม

“อา ใช่ค่ะ เขาเป็นลูกชายของฉันเอง คุณคือ…” หลัวเยี่ยนเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“สวัสดีค่ะคุณป้า ฉันชื่ออลิซ เป็นแฟนของเทียนเฉิน!”

ผู้มาเยือนก็คืออลิซ เธอตามหลังเย่เทียนเฉินมาโดยตลอด จุดประสงค์ที่มาเคาะประตูในตอนนี้ก็ชัดเจนมาก นั่นก็คือต้องการเข้าไปที่บ้านตระกูลเย่ เธอรู้ว่าความสามารถของเย่เทียนเฉินลึกล้ำไม่อาจคาดเดา ตอนนี้ตนเองเพิ่งจะเข้าใกล้เย่เทียนเฉินได้ หากต้องการฆ่าเขาโดยที่เขาคาดไม่ถึงยังเป็นเรื่องยากมาก สิ่งเดียวที่ต้องทำก็คือ ต้องค่อยๆ ทำให้ได้รับความเชื่อใจจากเย่เทียนเฉินทีละน้อย และการได้รับความเชื่อใจจากครอบครัวของเย่เทียนเฉินจะเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดที่จะได้ความเชื่อใจจากเย่เทียนเฉิน

“อา… เธอ…เชิญเข้ามาเถอะ…”

หลัวเยี่ยนเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมากคนหนึ่งแต่ก็ยังชะงักไปในพริบตา จะอย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่าสาวผมทองที่ยืนอยู่นอกคฤหาสน์ของตนคนนี้จะถึงกับเป็นแฟนของเย่เทียนเฉิน? นี่เพิ่งจะผ่านไปกี่วันเอง ไปมีแฟนเป็นสาวผมทองแล้วหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยได้ยินลูกชายพูดถึงมาก่อน นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ผู้มาเยือนก็ยังเป็นแขก หลัวเยี่ยนจึงเชิญให้อลิซเข้ามาในบ้าน อีกทั้งยังเดินนำทางด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้ม พูดเสียงดังว่า “เทียนเฉิน มีคนมาหา รีบออกมาเร็ว!”

หลัวเยี่ยนพาอลิซเดินไป ในห้องโถงของคฤหาสน์มีแค่เย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ย ส่วนเย่เทียนเฉินไม่เห็นนานแล้ว ไม่รู้ว่าหนีไปที่ไหนแล้ว

“พี่ชายของลูกล่ะ? มีคนมาหา…” หลัวเยี่ยนส่งสายตาให้เย่เชี่ยนเหวินผู้เป็นลูกสาวของตนแล้วเอ่ยถาม

“อา พี่เขาขึ้นไปข้างบนแล้วมั้งคะ?” เย่เชี่ยนเหวินก็ไม่รู้ว่าพี่ชายของตนหายไปโดยไม่รู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

“เธอคือ…” ฉีหรูเสวี่ยขมวดคิ้วมองไปยังอลิซแล้วถามขึ้น สัญชาตญาณของผู้หญิงกำลังบอกเธอว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นภัยคุกคามต่อเธอ

“สวัสดีทุกคน ฉันคือแฟนของเย่เทียนเฉินชื่อว่าอลิซ!” อลิซยิ้มให้เย่เชี่ยนเหวินและฉีหรูเสวี่ยแล้วจึงแนะนำตัวเอง

“เธอ…เธอคือแฟนของเทียนเฉิน?” ฉีหรูเสวี่ยเป็นคนแรกที่เอ่ยถามขึ้นอย่างไม่เชื่อนัก

“เธอเป็นแฟนของพี่ชายฉันเหรอ? ทำไมฉันไม่เคยเจอเธอมาก่อนล่ะ?” เย่เชี่ยนเหวินก็ถามอย่างไม่ค่อยเชื่อนัก

การแนะนำตัวของอลิซทำให้หลัวเยี่ยน เย่เชี่ยนเหวิน และฉีหรูเสวี่ยตกตะลึงไปจริงๆ ต้องพูดว่าหลังจากที่เย่เทียนเฉินกลับมาที่เมือง ผู้หญิงข้างกายก็มีไม่น้อย แต่ว่าไม่เคยเกิดสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ไม่เจอกันแค่ไม่กี่วันคน อยู่ดีๆ ก็มีสาวผมทองปรากฎตัวออกมาอย่างกระทันหัน และยังแนะนำตัวว่าเป็นแฟนของเย่เทียนเฉินโดยที่คนในบ้านไม่รู้ จะไม่ทำให้ทุกคนตกใจได้อย่างไร?

“เธออย่าคิดจะหลอกพวกเราเลย เทียนเฉินไม่ชอบผู้หญิงแบบเธอหรอก!”

ฉีหรูเสวี่ยพูดขึ้นมาเป็นคนแรก เธอไม่เชื่อแน่นอนอยู่แล้วว่าอลิซจะพูดความจริง ในใจเธอรับไม่ได้แน่นอน ตนกับเย่เทียนเฉินนับว่าฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกัน ถึงแม้เจ้าหมอนี่จะไม่มีอีคิวและไม่เข้าใจเรื่องรักหยกถนอมบุปผา แต่กลับเป็นคนที่สามารถพึ่งพาได้ไม่เลวคนหนึ่ง ตอนนี้ฉีหรูเสวี่ยมั่นใจได้แล้วว่าตนเองหลงรักเย่เทียนเฉิน ในเมื่อรักชายคนนี้แล้วถ้าเช่นนั้นก็จะไล่ตามความสุขของตน ดังนั้นผู้หญิงผมทองหน้าตาสวยงามคนนี้เป็นศัตรูหัวใจของเธอ จะต้องทำหน้าดีๆ ให้ศัตรูหัวใจหรือไง?

“เอ๋? เธอเป็นใคร?” อลิซเป็นผู้หญิงที่ฉลาดระดับไหนกัน เมื่อเห็นว่าฉีหรูเสวี่ยพูดแบบนี้จึงถามออกไปด้วยรอยยิ้มเย็นชาอย่างเจตนาเป็นศัตรู

“ฉัน…ฉัน…ฉันสิเป็นแฟนของเทียนเฉิน!” ฉีหรูเสวี่ยจ้องมองไปยังอลิซอย่างดุดันแล้วพูดขึ้น

ตอนนี้สองงามทั้งสองคนอย่างอลิซและฉีหรูเสวี่ยต่างไม่มีใครยอมใคร หลัวเยี่ยนและเย่เชี่ยนเหวินยืนอึ้งอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี พวกเธอรู้สึกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกระทันหันเกินไปและรุนแรงเกินไป เวลาเพียงชั่วครู่ยังไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี ส่วนเย่เทียนเฉินก็ดูเหมือนจะคาดเดาเหตุการณ์นี้ได้นานแล้วจึงแอบไปซ่อนก่อนแล้ว เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เย่เทียนเฉินคิดไม่ถึงก็คือ อลิซจะเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนของเขา ทำให้เรื่องใหญ่โตยิ่งขึ้น

“เธอเป็นแฟนของเขาเหรอ? อย่าพูดให้ตลกเลยน่า ถ้าหากเธอเป็นแฟนของเขาแล้วฉันจะเป็นใครล่ะ?” เพียงไม่นานอลิซก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ชอบเย่เทียนเฉินอย่างชัดเจน แต่เมื่อดูท่าทางหูแดงหน้าแดงของผู้หญิงคนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่เทียนเฉินยังไม่ก้าวหน้าไปถึงขั้นนั้น

สิ่งที่ทำให้อลิซแปลกใจก็คือ เย่เทียนเฉินมีผู้หญิงที่สวยเหนือระดับแบบนี้มาชอบจริงๆ ด้วย ฉีหรูเสวี่ยสวยขนาดนี้ยังมาทะเลาะกับเธอเพื่อเย่เทียนเฉินด้วยท่าทางหูแดงหน้าแดงโดยไม่เสียดาย ดูท่าเสน่ห์ของเจ้าหมอนี่จะไม่น้อยเลยจริงๆ

“ฉันไม่สนใจว่าเธอจะเป็นใคร ที่นี่ไม่ต้อนรับเธอ เธอออกไปได้แล้ว!” ฉีหรูเสวี่ยพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“งั้นเหรอ? เกรงว่าจะยังไม่ถึงตาเธอมาพูดแบบนี้ละมั้ง เทียนเฉิน ฉันมาแล้ว นายยังไม่ออกมารับอีกเหรอ?” อลิซอดไม่ได้ที่จะตะโกนเสียงดัง ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความออดอ้อน เมื่อได้ฟังก็ทำให้ผู้ชายรู้สึกทนไม่ไหว

“เธอ เธออย่าตะโกนเลย เขาไม่อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่ใช่แฟนของเขาด้วย!” ฉีหรูเสวี่ยพองแก้มเล็กๆ อันน่ารักของตนพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำดูเซ็กซี่

“ไม่อยู่? เป็นไปไม่ได้น่ะ ฉันกลับมาด้วยกันกับเขา เพียงแต่ฉันมีธุระเลยมาสายไปเล็กน้อย ไม่งั้นเธอคิดว่าฉันจะหาที่นี่เจอได้ยังไง?” อลิซพูดด้วยรอยยิ้ม

“เธอ…” ฉีหรูเสวี่ยถูกทำให้โกรธจนทนไม่ไหว ถึงแม้ว่าเธอจะฉลาดมากแต่เมื่อเทียบกับอลิซที่เป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองพิเศษแห่งประเทศ M แล้วยังแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย

“ถ้าหากเธอไม่เชื่อฉันก็สามารถขึ้นไปถามเจ้าหมอนั่นได้เลย คิดจะกินแล้วกลบเกลื่อนหลักฐานมันไม่ได้หรอกนะ!” อลิซยิ่งพูดยิ่งอิน ทำให้ฉีหรูเสวี่ยโกรธจนหน้าเดี๋ยวแดงเดี๋ยวขาว นั่งทิ้งตัวลงบนโซฟาด้านข้าง

………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+