Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตาบทที่ 111 ผนึกมืดแช่แข็งชะตา! (2)

Now you are reading Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา Chapter บทที่ 111 ผนึกมืดแช่แข็งชะตา! (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หมิง​ฮัว​ยืน​อยู่​ที่​ด้านนอก​ฝูงชน​ อด​ไม่ได้​ที่จะ​จ้องมอง​โจว​เหว่​ย​ชิงอย่าง​สับสน​ หลาย​เดือน​แล้ว​ที่​เธอ​ไม่ได้​เห็น​เขา​ ดูเหมือน​เด็กหนุ่ม​จะสูงและ​มีกล้ามเนื้อ​บึกบึน​มากยิ่งขึ้น​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ก่อนหน้า​ เวลานี้​ใบหน้า​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงไม่ได้​ฉาบ​ด้วย​รอยยิ้ม​ใสซื่อ​ตามแบบฉบับ​ของ​ตน​อีกต่อไป​ อีก​ทั้ง​ดวงตา​ของ​เขา​ยัง​ดูเหมือน​จะซ่อน​ความ​เศร้าโศก​เอาไว้​ข้างใน​ลึก​ๆ ภาย​ นอก​เขา​ไม่ได้​ดู​แตกต่าง​ไป​จาก​เดิม​มาก​นัก​ แต่​สำหรับ​หญิงสาว​ที่​กำลัง​เข้าสู่​ช่วง​วัย​แรก​แย้ม​เช่น​หมิง​ฮัว​ โจว​เหว่​ย​ชิงใน​ปัจจุบัน​กลับ​ดู​มีแรงดึงดูด​มากกว่า​

“ทุกคน​สบายดี​ไหม​?” โจว​เหว่​ย​ชิงโอบ​แขน​รอบ​ไหล่​ของ​โข่ว​รุ่ย​ เมื่อ​สัมผัส​ถึงความอบอุ่น​และ​ความ​กระตือรือร้น​ได้​จาก​เพื่อนร่วมชั้น​ของ​เขา​ รอยยิ้ม​น้อย​ๆ ก็​ปรากฏ​บน​ใบหน้า​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง อย่าง​น้อย​ความพยายาม​ของ​เขา​ก็​ไม่สูญเปล่า​ แม้ตน​จะจากไป​หลาย​เดือน​ แต่​เพื่อนร่วมชั้น​ก็​ยัง​ไม่ลืม​เขา​

โข่ว​รุ่ย​หัวเราะ​อย่าง​เต็มที่​และ​พูดว่า​ “หัวหน้า​ พวกเรา​ไม่เคย​รู้สึก​ดี​เช่นนี้​มาก่อน​ ตอนนี้​ใน​โรงเรียน​ไม่มีใคร​เทียบ​ห้องเรียน​เอก​สามัญของ​เรา​ได้​อีกต่อไป​ และ​แม้แต่​พวก​ชนชั้นสูง​ก็​ยัง​ไม่กล้า​ตอแย​พวกเรา​ เรา​เป็น​กลุ่มก้อน​เดียวกัน​อย่าง​แท้จริง​ และ​ถ้าใคร​กล้า​แตะต้อง​พวกเรา​คนใดคนหนึ่ง​ ทุกคน​ก็​จะร่วมมือ​กัน​ตอบโต้​อย่าง​เป็น​น้ำหนึ่ง​ใจเดียว​ นี่​คือ​สิ่งที่​ท่าน​สอน​พวกเรา​ ความสามัคคี​คือ​ความ​แข็งแกร่ง​!”

หยาง​เจ๋อ​ชียังคง​พยายาม​เบียด​ตัว​แทรก​ฝูงชน​เข้า​มาหา​โจว​เหว่​ย​ชิงและ​พูดว่า​ “หัวหน้า​ ในที่สุด​ท่าน​ก็​กลับมา​ พวกเรา​ทุกคน​ย่อม​ไม่ทำให้​ท่าน​ผิดหวัง​อย่าง​แน่นอน​! ตอนนี้​จาก​ห้องเรียน​ของ​เรา​ทั้งหมด​ 29 คน​ นอกจาก​ท่าน​และ​พี่สะใภ้​แล้ว​ อีก​ 27 คน​ที่​เหลืออยู่​ ไม่ว่า​จ้าว​มณีสวรรค์​ มณียุทธ์​หรือ​จ้าว​มณีธาตุ​ พวกเรา​ต่าง​ก็​เลื่อน​ขึ้นไป​ถึงระดับ​มณี 2 ชุด​แล้ว​ จาก​ใน​นั้น​ 11 คน​มีศาสตรา​มณียุทธ์​อย่าง​น้อย​หนึ่ง​ชิ้น​ และ​จ้าว​มณีธาตุ​ 3 คน​ก็​กักเก็บ​ได้​คนละ​ 1 ทักษะ​เช่นกัน​ ม้วน​คัมภีร์​ศาสตรา​มณียุทธ์​และ​เงิน​ที่​ท่าน​ทิ้ง​ไว้​ไม่ได้​ถูก​ใช้ไป​ทั้งหมด​ ข้า​จึงจะส่งที่​เหลือ​คืนให้​ท่าน​หลังจากนี้​”

โจว​เหว่​ย​ชิงเงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​และ​พูดว่า​ “เอาล่ะ​ พวก​เจ้าทุกคน​กลับ​ไป​รอ​ข้า​ที่​ห้องเรียน​ก่อน​ ข้า​เพิ่ง​กลับ​มาถึงและ​ต้อง​ไป​รายงานตัว​กับ​ท่าน​ผู้อำนวยการ​ไช่ไช่ก่อน​ หลังจากนั้น​ ข้า​มีเรื่อง​จะต้อง​คุย​กับ​พวก​เจ้าทุกคน​”

โข่ว​รุ่ย​หัวเราะ​และ​พูดว่า​ “ได้​ขอรับ​หัว​น้า​ ไม่มีปัญหา​! เรา​จะกลับ​ไป​ที่​ห้องเรียน​เพื่อ​รอ​ท่าน​แน่นอน​ แม้จะปวดท้อง​จน​ฉี่ราด​ พวกเรา​ก็​จะอั้น​เอาไว้​ก่อน​!”

หยาง​เจ๋อ​ชีตะโกน​ออกมา​เสียงดัง​ “ห้องเรียน​เอก​สามัญทุกคน​กลับ​เข้า​ห้องเรียน​!”

เสียง​ขานรับ​ดัง​ขึ้น​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน​ ภายใต้​การนำ​ของ​หยาง​เจ๋อ​ชีและ​โข่ว​รุ่ย​ ทุกคน​จึงกลับ​ไป​ที่​ห้องเรียน​ทันที​ อย่างไรก็ตาม​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ยัง​สามารถ​มองเห็น​แสงไฟที่​ลุกโชน​ใน​ดวงตา​ของ​เพื่อนร่วมห้อง​ทุกคน​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

แท้จริง​แล้ว​พวกเขา​ยัง​ไม่ลืม​ข้า​…น่าเสียดาย​…น่าเสียดาย​จริงๆ​ แต่​ข้า​จะต้อง​จากไป​ในไม่ช้า​แล้ว​

โจว​เหว่​ย​ชิงถอนหายใจ​อยู่​ภายใน​ลึก​ๆ เขา​เชื่อ​ว่า​หาก​ตน​มีเวลา​อยู่​กับ​พวกเขา​เพิ่มขึ้น​อีก​เพียง​หนึ่ง​ปี​ เขา​จะสามารถ​เอา​ชนะใจ​เพื่อนร่วมชั้น​เหล่านี้​ ชักนำ​พวกเขา​ไป​ยัง​อาณาจักร​เกาทัณฑ์​สวรรค์​ และ​ท้ายที่สุด​พวกเขา​ก็​จะกลายเป็น​ผู้ติดตาม​ที่​ซื่อสัตย์​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิง ด้วย​ความช่วยเหลือ​ของ​กลุ่มคน​เหล่านี้​ การ​จะทำให้​อาณาจักร​เกาทัณฑ์​สวรรค์​กลายเป็น​ขุม​กำลัง​ที่​ไม่อาจ​มองข้าม​ก็​คงอยู่​ไม่ไกล​เกิน​เอื้อม​

อนิจจา​ ทุกอย่าง​เปลี่ยนแปลง​รวดเร็ว​เกินไป​จน​ไม่มีเวลา​ให้ได้​ตั้งตัว​

เมื่อ​สะบัด​หัว​ไล่​ความคิด​ฟุ้งซ่าน​เหล่านั้น​ออก​ไป​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​มองเห็น​หมิง​ฮัว​อยู่​ตรงหน้า​เขา​ เธอ​พยักหน้า​ให้​เขา​และ​พูดว่า​ “เจ้ากลับมา​แล้ว​สินะ​ ข้า​ได้ยิน​เรื่องราว​ทั้งหมด​มาก่อนหน้านี้​แล้ว​ คราวนี้​เจ้าสามารถ​พิสูจน์​ตัวเอง​ใน​งาน​ประลอง​มณีสวรรค์​ได้​จริงๆ​”

โจว​เหว่​ย​ชิงยิ้ม​อย่าง​ไม่ใส่ใจและ​พูดว่า​ “ค่อย​พูด​กัน​ทีหลัง​เถอะ​ ข้า​ต้อง​ไป​คุย​กับ​ท่าน​ผู้อำนวยการ​ก่อน​” ขณะ​พูด​เช่นนั้น​ เขา​ก็​ดึง​โต​ว​โต​ว​ไป​ที่​บันได​

เมื่อ​ร่าง​ของ​เขา​หาย​ลับตา​ไป​แล้ว​ หมิง​ฮัว​ถึงได้​ตอบสนอง​ อะไร​นะ​? ข้า​เป็น​อาจารย์​ แต่​น้ำเสียง​ของ​เขา​กลับ​เหมือนว่า​กำลัง​พูด​สั่งสาวใช้​ สหาย​น้อย​คน​นี้​กล้า​ดีขึ้น​มาก​เลย​จริงๆ​!

ถึงห้องทำงาน​ของ​ไช่ไช่ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​เคาะ​ประตู​และ​รอ​อยู่​ข้างนอก​ ไม่ช้าเสียง​ของ​เธอ​ก็​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​ เป็น​เสียง​ที่​ฟังดู​น่าเกรงขาม​ แต่ทว่า​ก็​ดู​เกียจคร้าน​เล็กน้อย​ นั่น​ทำให้​คนฟัง​รู้สึก​สบาย​หู​แต่​ก็​ดูเหมือน​จะทำให้​ต้อง​ตั้งใจ​มอง​หญิงสาว​ตรงหน้า​เสมอ​ด้วย​ “เข้ามา​”

โจว​เหว่​ย​ชิงเปิด​ประตู​และ​เดิน​เข้าไป​พร้อมกับ​โต​ว​โต​ว​

ไช่ไช่นั่ง​อยู่​หลัง​โต๊ะทำงาน​ขนาดใหญ่​ของ​เธอ​และ​กำลัง​อ่าน​อะไร​บางอย่าง​ คิ้ว​ของ​หญิงสาว​ขมวด​เล็กน้อย​ราวกับว่า​เธอ​กำลัง​ครุ่นคิด​อย่าง​หนัก​เกี่ยวกับ​บางสิ่งบางอย่าง​ เธอ​ยังคง​งดงาม​เหมือน​ครั้งสุดท้าย​ที่​เขา​เห็น​ ความ​งามสง่าที่​สูงส่งราวกับว่า​ความ​โสมมใดๆ​ ก็​ไม่อาจ​กล้ำกราย​เธอ​ได้​

“มีอะไร​?” ไช่ไช่ไม่ได้​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​อีก​ฝ่าย​ขณะที่​เอ่ยปาก​ถาม

“ท่าน​ผู้อำนวยการ​ไช่ไช่ โจว​เหว่​ย​ชิงกลับมา​แล้ว​” โจว​เหว่​ย​ชิงกล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​

“อืม​?” จากนั้น​ไช่ไช่ก็​มอง​ขึ้นไป​โดยไม่รู้ตัว​ เมื่อ​เธอ​เห็น​โจว​เหว่​ย​ชิง ใบหน้า​ของ​เธอ​ก็​ฉายแวว​ประหลาดใจ​แกม​ยินดี​ “ในที่สุด​เจ้าก็​กลับมา​ เจ้าไม่รู้​หรือว่า​ไม่กี่​วันนี้​เหล่า​ราชวงศ์​แห่ง​อาณาจักร​เฟยห​ลี่​ต้อง​กระสับกระส่าย​กับ​ข่าว​ของ​เจ้ามาก​แค่​ไหน​?” สีหน้า​ซับซ้อน​ปรากฏ​บน​ใบหน้า​ของ​เธอ​

“กระสับกระส่าย​เพราะ​ข้า​?” โจว​เหว่​ย​ชิงชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ก่อน​จะถามอย่าง​สงสัย​ “ทำไม​ล่ะ​?”

ไช่ไช่ถอนหายใจ​เสียงดัง​และ​เดิน​ออก​มาจาก​ด้านหลัง​โต๊ะทำงาน​ของ​เธอ​ หญิงสาว​ชี้ไป​ที่​เบาะ​นั่ง​ด้าน​ข้าง​และ​ส่งสัญญาณให้​โจว​เหว่​ย​ชิงนั่งลง​

โต​ว​โต​ว​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ โจว​เหว่​ย​ชิงพลัน​จ้องมอง​ไป​ที่​ไช่ไช่ เมื่อ​เธอ​เดิน​ออกมา​ด้านหน้า​ โต​ว​โต​ว​ก็​ก็​อุทาน​ออกมา​ด้วย​ความชื่นชม​ว่า​ “พี่สาว​ ท่าน​สวย​มาก​!”

ไช่ไช่อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​กับ​ตัวเอง​ “พี่สาว​? เหว่​ย​ชิง เจ้ายัง​ไม่ได้​แนะนำ​นาง​เลย​ นี่​คือ​?”

โจว​เหว่​ย​ชิงกล่าวว่า​ “นี่​คือ​โต​ว​โต​ว​ เพื่อน​ของ​ข้า​ นาง​กลับมา​กับ​ข้า​ใน​ครั้งนี้​ ท่าน​ผู้อำนวยการ​ไช่ไช่ สถานการณ์​ใน​อาณาจักร​เกาทัณฑ์​สวรรค์​เป็น​อย่างไรบ้าง​?” เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถามออก​ไป​โดยตรง​เกี่ยวกับ​สิ่งที่​กวนใจ​เขา​มาก​ที่สุด​ โดย​ไม่แม้แต่​จะใส่ใจเกี่ยวกับ​ความสำเร็จ​ที่​น่าพึงพอใจ​อย่าง​อื่น​

หลังจาก​ถามคำถาม​นั้น​ หัวใจ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​เต้น​แรง​ขณะที่​หยุด​รอ​ฟังนิ่ง​ๆ ครั้งแรก​ที่​ซ่างกวน​เสว่เอ๋อร์​บอก​ข่าวร้าย​กับ​เขา​ เธอ​ได้​กล่าวว่า​อาณาจักร​เกาทัณฑ์​สวรรค์​กำลัง​ถูก​ปิดล้อม​และ​บุก​จู่โจม แต่​สิ่งที่​เกิดขึ้น​หลังจากนั้น​ยัง​ไม่เป็นที่​รู้​แน่ชัด​ เวลา​ไป​ผ่าน​ไป​หลาย​วัน​ สิ่งที่​สมควร​เกิด​ก็​น่าจะ​เกิด​ไป​แล้ว​ แม้ว่า​เขา​พอ​จะคาดเดา​สิ่งที่​เกิดขึ้น​ได้​ แต่​ก่อนที่​ทุกอย่าง​จะได้รับ​การ​ยืนยัน​ เด็กหนุ่ม​ก็​ยังคง​มีความหวัง​อยู่​ใน​ใจลึก​ๆ

ไช่ไช่มอง​ไป​ที่​โจว​เหว่​ย​ชิง ทว่า​กลับ​ยังคง​นิ่งเงียบ​ เมื่อ​ได้​เห็น​ดวงตา​ของ​เธอ​ หัวใจ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงก็​จมดิ่ง​ลง​สู่หุบเหว​ลึก​ เขา​รู้​ว่า​สิ่งที่​ตน​กลัว​ที่สุด​น่าจะ​ได้​เกิดขึ้น​แล้ว​

ไช่ไช่ถอนหายใจ​และ​กล่าวว่า​ “แต่เดิม​บิดา​ของ​เจ้าและ​องค์​จักรพรรดิ​แห่ง​อาณาจักร​เกาทัณฑ์​สวรรค์​มีโอกาส​หลบหนี​ก่อนที่​อาณาจักร​คา​ลิ​เซจะปิดล้อม​พวกเขา​เอาไว้​ได้​ทุกทิศทาง​ พวกเขา​มีโอกาส​ให้​ตีฝ่า​วงล้อม​และ​หลบหนี​ออกมา​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ แต่ทว่า​พวกเขา​กลับ​ไม่ได้​เลือก​ที่จะ​ทำ​เช่นนั้น​ ในทางตรงกันข้าม​ พวกเขา​กลับ​ยืนหยัด​ต่อสู้​ใน​เมืองหลวง​จนถึง​วินาที​สุดท้าย​”

โจว​เหว่​ย​ชิงรู้สึก​ราวกับว่า​ตน​กำลังจะ​หมดสติ​ เด็กหนุ่ม​ทรุด​ลง​บน​เก้าอี้​อย่าง​หมดแรง​ ขบ​ฟัน​จน​เห็น​สัน​กราม​และ​กำหมัด​แน่น​

ไช่ไช่กล่าวว่า​ “เหว่​ย​ชิง ฟังข้า​ก่อน​ สถานการณ์​ตอนนี้​ยัง​ไม่ได้​ถึงขั้น​เลวร้าย​ที่สุด​”

“หืม?”​ เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​เธอ​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​เบิกตา​กว้าง​ทันที​

ไช่ไช่กล่าวว่า​ “เมืองหลวง​เกาทัณฑ์​สวรรค์​ถูก​ยึดครอง​ไป​แล้ว​ และ​อาณาจักร​เกาทัณฑ์​สวรรค์​ก็​ถูก​ทำลาย​ ทว่า​บิดา​ของ​เจ้าและ​จักรพรรดิ​แห่ง​อาณาจักร​เกาทัณฑ์​สวรรค์​ต่าง​ก็​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ อย่าง​น้อย​ก็​ในเวลานี้​”

“สิ่งที่​ท่าน​พูด​เป็น​ความจริง​หรือไม่​!? พวกเขา​ถูก​ขัง​ไว้​ใน​คุก​หรือ​?” โจว​เหว่​ย​ชิงพลัน​รู้สึก​ยิน​ดีขึ้น​มา ดวงตา​ของ​เขา​เปล่งประกาย​ขณะที่​อุทาน​ออกมา​เสียงดัง​

ไช่ไช่ส่าย​หัว​และ​พูดว่า​ “ไม่ พวกเขา​ไม่ได้​ถูก​ขัง​คุก​ ด้วย​นิสัย​ดื้อรั้น​ของ​บิดา​ของ​เจ้า เจ้าก็​รู้​ว่า​เขา​จะยอม​หัก​แต่​ไม่ยอม​งอ​ เช่นนั้น​เขา​จะถูกจับ​เข้า​คุก​ได้​อย่างไร​? ในเวลานั้น​ เมื่อ​พระราชวัง​กำลังจะ​ถูก​ถล่ม​จน​พังทลาย​ บิดา​ของ​เจ้าฝืน​ใช้พลัง​ทั้งหมด​ของ​เขา​ปลดปล่อย​ทักษะ​ที่​ทรงพลัง​ที่สุด​ซึ่งเป็น​ทักษะ​ที่​เขา​ไม่เคย​ใช้มาก่อน​ออกมา​ นั่น​ก็​คือ​ทักษะ​ธาตุ​มืด​สังเวย​ตนเอง​ อาจ​เป็น​เพราะ​ความกดดัน​ที่​เขา​เผชิญ​อยู่​ในขณะนั้น​ใหญ่หลวง​เกินไป​ และ​ในเวลานั้น​ แม่ทัพ​โจว​ก็ได้​ทะลวง​ไป​สู่ระดับ​มณี 9 ชุด​เช่นกัน​ ทำให้​เขา​สามารถ​ใช้ทักษะ​สุดท้าย​ที่​ทรงพลัง​ที่สุด​ใน​บรรดา​ทักษะ​สังเวย​ธาตุ​มืด​ ผนึก​มืด​แช่แข็ง​ชะตา​”

ผนึก​มืด​แช่แข็ง​ชะตา​?! หัวใจ​ของ​โจว​เหว่​ย​ชิงเต็มไปด้วย​คำถาม​เนื่องจาก​ไม่เคย​ได้ยิน​เกี่ยวกับ​ทักษะ​นี้​มาก่อน​

ไช่ไช่อธิบาย​ว่า​ “ผนึก​มืด​แช่แข็ง​ชะตา​เป็น​ผนึก​ขั้นสูงสุด​ใน​บรรดา​ทักษะ​สังเวย​ธาตุ​มืด​ทั้งหมด​ แม้จะเป็นยอด​ฝีมือ​ระดับ​ราชา​ที่​ปลดปล่อย​ทักษะ​นี้​ออกมา​ มัน​ก็​อาจจะ​ไม่ประสบความสำเร็จ​ก็ได้​ ด้วย​ระดับ​พลัง​ปราณ​ของ​บิดา​เจ้า อัตรา​ความสำเร็จ​ของ​มัน​น้อยกว่า​ 2 ใน​ 10 ด้วยซ้ำ​ แต่บางที​ในเวลานั้น​สวรรค์​อาจ​กำลัง​ประทาน​พร​ให้​เขา​ หรือ​บางที​ความ​ดื้อรั้น​และ​ความมุ่งมั่น​ที่​แท้จริง​ของ​เขา​อาจ​กลายเป็น​แรงผลักดัน​ขั้นสูงสุด​ และ​ตอนท้าย​เขา​ก็​ทำสำเร็จ​จนได้​”

ด้วย​ผนึก​มืด​แช่แข็ง​ชะตา​ บิดา​ของ​เจ้าได้​สร้าง​ผนึก​สัมบูรณ์​ขึ้น​ล้อมรอบ​พระราชวัง​เมืองหลวง​อาณาจักร​เกาทัณฑ์​สวรรค์​ทั้งหมด​เอาไว้​ โดย​พื้นที่​ทั้งหมด​มีรัศมี​ 100 เมตร​รอบตัว​เขา​ ผนึก​นั้น​มีผล​สัมบูรณ์​ และ​ใน​พื้นที่​ทั้งหมด​บริเวณ​นั้น​ ทุกอย่าง​จะแข็งตัว​เพราะ​ถูก​แช่แข็ง​ นั่น​รวมถึง​กาลเวลา​ พื้นที่​ และ​แม้แต่​สิ่งมีชีวิต​ ทั้งหมด​จะคงอยู่​ใน​สภาพ​นั้น​ไป​อีก​ 10 ปี​”

“เมื่อ​ผนึก​นี้​ถูก​ปลดปล่อย​ออกมา​แล้ว​ ก็​มีเพียง​ 2 วิธี​เท่านั้น​ที่จะ​ทำลาย​มัน​ได้​ อย่าง​แรก​คือ​ต้อง​ใช้พลัง​อย่าง​น้อย​ 10 เท่าที่​ใช้ใน​การ​ปิดผนึก​เพื่อ​บังคับ​ทำลาย​มัน​ ใน​การ​ทำ​เช่นนั้น​ ทุกสิ่ง​ภายใน​ผนึก​จะถูก​ทำลาย​และ​สลาย​กลายเป็น​ความว่างเปล่า​ อย่าง​ที่สอง​คือ​ต้อง​รอ​ ใน​ 10 ปี​ผนึก​จะหมดฤทธิ์​ไป​เอง​ ทว่า​สิ่งมีชีวิต​ทั้งหมด​ภายใน​ผนึก​ก็​จะอยู่​ใน​สภาพ​อ่อนแอ​และ​ไร้​กำลัง​ เพื่อที่จะ​ฟื้นฟู​พลัง​ชีวิต​ของ​พวกเขา​ เรา​ต้อง​ใช้ความสามารถ​ใน​การฟื้นฟู​ของ​ทักษะ​ธาตุ​เทวา​ กล่าวคือ​บิดา​ของ​เจ้าได้​ใช้ทักษะ​ของ​เขา​เพื่อ​ถ่วงเวลา​และ​เหลือ​ความหวัง​สุดท้าย​ไว้​ให้​แก่​อาณาจักร​ธนู​สวรรค์​ ข้า​พูด​ได้​แค่​ว่า​ข้า​เคารพ​บิดา​ของ​เจ้ามาก​ที่สุด​จริงๆ​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ไช่ไช่ ประกาย​แห่ง​ความหวัง​ก็​ถูกจุด​ขึ้น​ใน​ใจของ​โจว​เหว่​ย​ชิงอีกครั้ง​ คราวนี้​มัน​เป็น​เปลวไฟ​ที่​ลุกโชติช่วง​ ในที่สุด​เขา​ก็​สามารถ​มองเห็น​ความเป็นไปได้​เสียที​ อย่าง​น้อย​ท่าน​พ่อ​และ​พ่อ​ทูนหัว​ของ​เขา​ก็​ยัง​ไม่ตาย​ หาก​ท่าน​พ่อ​อยู่​ที่นั่น​จริงๆ​ ก็​เป็นไปได้​สูงว่า​ท่าน​แม่ของ​เขา​ก็​จะอยู่​ที่นั่น​เช่นกัน​ ไม่ว่า​จะเกิด​อะไร​ขึ้น​ พวกเขา​ก็​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ และ​ท่าน​พ่อ​ก็​ยัง​ให้​เวลา​เขา​ถึง 10 ปี​

10 ปี​…10 ปี​…มัน​ฟังดู​ยาวนาน​ แต่​สำหรับ​โจว​เหว่​ย​ชิงมัน​กลับ​สั้น​เกินไป​ ใน​ 10 ปี​นั้น​เขา​จะต้อง​แข็งแกร่ง​และ​มีพลัง​เพียงพอ​เพื่อ​ตอบโต้​เหล่า​ผู้รุกราน​เมืองหลวง​เกาทัณฑ์​สวรรค์​และ​ยึดอำนาจ​กลับมา​ ในเวลาเดียวกัน​ เขา​ก็​จะต้องหา​จ้าว​มณีสวรรค์​ที่​มีทักษะ​ธาตุ​เทวา​เพื่อ​ช่วยเหลือ​ท่าน​พ่อ​ พ่อ​ทูนหัว​และ​คนอื่นๆ​ ที่​ติด​อยู่​ภายใน​ด้วย​

“ท่าน​ผู้อำนวยการ​ไช่ไช่ จะมีใคร​ใน​อาณาจักร​ป่าย​ต้า​ที่​สามารถ​ทำลาย​ผนึก​ได้​โดยตรง​หรือไม่​?” โจว​เหว่​ย​ชิงถามอย่าง​เป็นกังวล​

ไช่ไช่ส่าย​หัว​และ​พูดว่า​ “ไม่ บิดา​ของ​เจ้าได้​ทะลวง​ไป​สู่ระดับ​มณี 9 ชุด​ก่อนที่​เขา​จะปลดปล่อย​ผลึก​ออกมา​ เพื่อให้​มีพลัง​มากกว่า​เขา​ 10 เท่า​ อย่าง​น้อย​ก็​ต้อง​เป็น​จ้าว​มณีสวรรค์​ระดับ​ราชา​ขั้นสูงสุด​ หรือ​แม้แต่​ระดับ​มหา​ราชา​ นอกจากนี้​ ขณะ​ทำลาย​ผนึก​ดังกล่าว​ แรง​สะท้อน​พลัง​ของ​มัน​ก็​รุนแรง​มาก​ อาณาจักร​ป่าย​ต้า​ไม่มียอด​ฝีมือ​เช่นนั้น​หรอก​ แต่​ถึงแม้ว่า​พวกเขา​จะมีจริงๆ​ ก็​ไม่น่า​เป็นไป​ได้ที่​พวกเขา​จะทำ​เช่นนั้น​เพราะ​เสี่ยง​ต่อ​อาการ​บาดเจ็บสาหัส​ สำหรับ​อาณาจักร​ป่าย​ต้า​ เพียงแค่​รัศมี​ 100 เมตร​ของ​ผนึก​รอบ​ๆ พระราชวัง​ย่อม​ไม่นับว่า​เป็น​อะไร​ได้​เนื่องจาก​พวกเขา​มีอำนาจ​ควบคุม​อาณาจักร​เกาทัณฑ์​สวรรค์​ส่วนที่เหลือ​อยู่แล้ว​ นอกจากนี้​ พวกเขา​ต้อง​รอ​เพียงแค่​ 10 ปี​จึงจะสามารถ​ฆ่าบิดา​ของ​เจ้าและ​คนอื่นๆ​ ได้​อย่าง​ง่ายดาย​ ทำไม​พวกเขา​ถึงต้อง​ตามหา​ยอด​ฝีมือ​มาแบกรับ​ความเสี่ยง​เช่นนี้​ด้วย​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​เธอ​ โจว​เหว่​ย​ชิงก็​ถอนหายใจ​ยาว​ด้วย​ความ​โล่งอก​ เมื่อ​มอง​ไป​ที่​ไช่ไช่ ดวงตา​ของ​เขา​ก็​เปล่งประกาย​ด้วย​ความหวัง​อีกครั้ง​ เด็กหนุ่ม​พลัน​กล่าว​อย่าง​ซาบซึ้ง​ “ขอบคุณ​ท่าน​ผู้อำนวยการ​ไช่ไช่ นี่​เป็น​ข่าวดี​ที่สุด​ที่​ข้า​ได้ยิน​ใน​ช่วง​ไม่กี่​วัน​ที่ผ่านมา​”

ไช่ไช่ส่าย​หัว​และ​พูดว่า​ “เจ้าไม่จำเป็นต้อง​ขอบคุณ​ ข้า​กลัว​ว่า​อีก​เดี๋ยว​เจ้าก็​จะเกลียด​ข้า​แล้ว​ ข้า​ขอโทษ​นะ​เหว่​ย​ชิง แม้ว่า​ข้า​จะเป็น​เจ้าหญิง​แห่ง​อาณาจักร​เฟยห​ลี่​ แต่​ข้า​ก็​ไม่สามารถ​ช่วยเหลือ​เจ้าได้​”

………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด