Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา 101 ทักษะ 7 ดาราคลอเคลียพระจันทร์! (1)

Now you are reading Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา Chapter 101 ทักษะ 7 ดาราคลอเคลียพระจันทร์! (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แสงสีทองเข้มพวยพุ่งออกมาก่อนจะทะยานสู่ท้องฟ้า เห็นได้ชัดว่ามันคือเกราะป้องกันเทพเจ้า นอกจากนี้ มันยังปรากฏขึ้นพร้อมกันถึงสองแห่ง!

แม่มดน้อยผู้มีมณี 6 ชุดแค่นเสียงอู้อี้ออกมาจากลำคอ กลุ่มควันสีเทาดำถอยห่างจากคู่ต่อสู้ทันที

ในที่สุดโจวเหว่ยชิงก็เห็นปลอกแขนทั้งสองข้างของหญิงสาวผู้นั้น

ปลอกแขนนั้นแข็งแรงและหนาแน่นมาก พวกมันยื่นยาวออกมาเป็นชั้นๆ ทำให้ดูเหมือนว่าปลอกแขนของเธอจะมีขนาดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ทว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดคือมือทั้งสองข้างของเธอที่กำลังถูกปกคลุมไปด้วยถุงมือสีทองเข้มซึ่งมีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งส่วนปลายยังเป็นส่วนกรงเล็บสีทองเปล่งประกายที่ยาว 7 ฉื่อ แม้ว่าเขาจะยังยืนอยู่ห่างจากเธอมาก แต่โจวเหว่ยชิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลังขณะเขามองเห็นอีกฝ่าย

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงชุดปลอกแขนและถุงมือ ทั้งยังเป็นเพียงศาสตรามณียุทธ์จำนวน 2 ชิ้นเท่านั้น แต่สำหรับจ้าวมณีสวรรค์ธรรมดาคนอื่นๆ แล้ว แค่ทั้งหมดนั้นรวมกันก็มีขนาดและน้ำหนักมากกว่าศาสตรามณียุทธ์ทั่วๆ ไปจำนวน 3 ชิ้นแล้ว ตามที่เทียนเอ๋อร์ได้อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเพราะมณียุทธ์แปรสภาพคู่ของเธอสามารถหลอมรวมเป็นศาสตรามณียุทธ์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้

แม่มดน้อยถูกกระแทกจนต้องถอยหลังออกไปเกือบ 10 หลาในร่างของมนุษย์ไม่ใช่หมอกควันเหมือนเคย ใบหน้าของเธอเผยแววประหลาดใจและสงสัย

สมาชิกหญิงกลุ่มนักรบจ้งเทียนหัวเราะเสียงแหบพร่า คล้ายกับเสียงบาดแก้วหูในตอนกลางคืน “ไม่มีประโยชน์หรอก การโจมตีระยะประชิดของข้ามีพลังเสริมช่วย…เจ้าคิดว่าเพียงเพราะตนเองมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีทางกายภาพในรูปแบบหมอกควันแล้วจะรอดพ้นจากข้าไปได้งั้นหรือ? หึ…ทักษะธาตุมืดและทักษะธาตุปีศาจ ข้าไม่คาดคิดมาก่อนว่าแม้แต่ยอดฝีมือจากนิกายปีศาจสวรรค์ก็จะมาเข้าร่วมงานประลองมณีสวรรค์ของเราด้วยจริงๆ”

แม่มดน้อยจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็นและพูดอย่างเย็นชา “มณียุทธ์แปรสภาพคู่ ข้าเคยได้ยินเพียงว่าในบรรดาคนรุ่นใหม่ของวังสวรรค์ไพศาล ซ่างกวนเสว่เอ๋อร์เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนจะตามด้วยจ้านหลิงเทียน ขณะนี้ทั้งสองคนได้ไปถึงระดับมณี 7 ชุดแล้ว แต่แม้ว่าเจ้าจะมีมณีระดับ 6 ชุด ข้าก็เห็นได้ชัดเจนว่าเจ้าก็อาจอยู่ในระดับสูงสุดเช่นกัน ไม่แน่ว่าอาจเป็นรองเพียงพวกเขาเท่านั้น ข้าอยากรู้ว่าเจ้าคือผู้ใดในวังสวรรค์ไพศาล?…แล้วชื่ออะไร?”

เสียงหัวเราะเสียดหูดังขึ้นอีกครั้งจากปากของหญิงสาว “ชื่อของข้าไม่สำคัญหรอก ใช้สถานะปีศาจกลายร่างของเจ้าตอนนี้ซะ มิฉะนั้นเจ้าอาจจะไม่มีโอกาสทำเช่นนั้นอีก”

ความจริงแล้วในแง่ของระดับพลังปราณ แม่มดน้อยก็อาจเทียบเท่ากับหญิงสาวคนนี้ ทว่าเธอกลับเสียเปรียบอย่างมากในแง่ของศาสตรามณียุทธ์

แม้ว่าแม่มดน้อยจะเป็นหญิงสาวศักดิ์สิทธิ์ของนิกายปีศาจสวรรค์ แต่จริงๆ แล้วเธอมีศาสตรามณียุทธ์เพียงชิ้นเดียวซึ่งก็คือดาบสั้นในมือเท่านั้น แม่มดน้อยสามารถหลอมรวมศาสตรามณียุทธ์เพิ่มได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว ทว่าถึงอย่างไรก็จะไม่ยอม “ผลาญ” มณียุทธ์ไปกับศาสตรามณียุทธ์ที่ไม่ใช่ระดับเทพเจ้าแน่นอน แม้ว่านิกายปีศาจสวรรค์จะยังคงถือเป็น 1 ใน 5 มหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่พลังของพวกเขายังห่างชั้นกับ 4 มหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอื่นๆ อยู่บ้าง บางทีก็อาจจะไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าพวกเขาไม่สมควรเป็นหนึ่งในมหาดินแดนศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป ถึงแม้จะเป็นหญิงสาวศักดิ์สิทธิ์แห่งนิกาย แต่เธอก็ไม่มีศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าให้ใช้สอยมากกว่านี้แล้ว ทว่าคู่ต่อสู้ของเธอกลับมีถึง 2 ชิ้น…ยิ่งไปกว่านั้น ยังเห็นได้ชัดว่าชุดปลอกแขนและถุงมือที่มีกรงเล็บนั้นน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของชุดศาสตรามณียุทธ์ ในช่วงเวลาที่หญิงสาวทั้งสองปะทะกันก่อนหน้านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติและล่าถอยอย่างรวดเร็ว บางทีแม่มดน้อยอาจได้รับบาดเจ็บไปแล้วก็เป็นได้

แสงเจิดจรัสพลันพวยพุ่งออกมาจากดวงตาของแม่มดน้อยราวกับดวงดาราบนท้องฟ้า ผมสีดำเงางามของเธอหมุนวนไปมาในอากาศแม้จะไม่มีลมพัดผ่านมาเลยก็ตาม เส้นผมดำขลับแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินถึงรากและยาวไปจนสุดด้านหลังของเธอ

ลวดลายสีน้ำเงินเป็นชั้นๆ โผล่ออกมาปกคลุมผิวหนังของเธอทันที อย่างไรก็ตาม กล้ามเนื้อของเธอกลับไม่ได้โป่งพองออกมาเหมือนกับโจวเหว่ยชิง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะดูเพรียวบางและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น มีดอกฝูหรงสีน้ำเงินที่งดงามตระการตาปรากฏอยู่ข้างหลังและส่ายไปมากลางอากาศ

ในแง่ของมณีธาตุและคุณสมบัติธาตุของเธอ นอกจากโจวเหว่ยชิงแล้ว แม่มดน้อยก็มั่นใจมากว่าตัวเองใกล้จะถึงจุดสุดยอดของโลกใบนี้แล้ว ทักษะธาตุปีศาจ ทักษะธาตุมืด และทักษะธาตุชีวิต ทักษะธาตุทั้ง 3 ชนิดนี้ถือว่าหาได้ยากมาก แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ปรมาจารย์ปีศาจรุ่นแรก แต่สายเลือดและคุณสมบัติของเธอก็บริสุทธิ์เพียงพอที่จะทำให้หญิงสาวได้รับพิจารณาให้เป็นปรมาจารย์ปีศาจรุ่นที่สอง ทักษะธาตุทั้ง 3 ของเธอมีพลังแข็งแกร่งและมีประโยชน์ในตัวเอง นอกจากนี้ เธอยังได้ฝึกฝนกับคู่มือปีศาจมาตั้งแต่ยังเด็กๆ หากไม่ใช่เพราะเธอกำลังรอให้รวบรวมศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าให้ได้มากกว่านี้และมีข้อจำกัดในแง่ของจำนวนมณีที่ใช้หลอมรวมศาสตรามณียุทธ์ แม้จะมีศาสตรามณียุทธ์ใบมีดสั้นเพียงใบเดียวที่ใช้เป็นอาวุธ เธอก็ยังจะเป็นหนึ่งในยอดคนอันดับต้นๆ ของยุคนี้อย่างแน่นอน

แม่มดน้อยเปิดใช้งานสถานะปีศาจกลายร่างของเธอโดยไม่ลังเล เช่นเดียวกับที่คู่ต่อสู้ของเธอพูด แม้ว่ามันจะฟังดู ‘น่าเกลียด’ แต่หากเธอไม่เปิดใช้มันตอนนี้ แม่มดน้อยก็รู้ว่าเธอจะไม่มีโอกาสต่อกรกับสมาชิกหญิงกลุ่มนักรบจ้งเทียนที่ทรงพลังคนนั้นได้แน่นอน หญิงสาวที่มีมณียุทธ์แปรสภาพคู่เป็นภัยคุกคามที่รุนแรงต่อแม่มดน้อยมาก ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังได้จุดประกายจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ภายในตัวเธอขึ้นมาแล้วด้วย ถึงอย่างไรเทียนเอ๋อร์และโจวเหว่ยชิงก็กำลังมองดูอยู่จากด้านข้าง เธอจะแสดงความอ่อนแอได้อย่างไร?

ขณะอยู่ในสถานะปีศาจกลายร่าง แม่มดน้อยเต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่แสนแปลกตา แม้ว่ากล้ามเนื้อของหญิงสาวจะไม่ได้ขยายใหญ่ขึ้นเหมือนโจวเหว่ยชิง แต่เธอก็สูงขึ้นมาก แขนขาทั้งสี่ต่างก็ยืดยาวออก เป็นความงามของปีศาจซึ่งไร้ที่ติจนแทบจะเหนือกว่ามนุษย์ แผ่แรงดึงดูดรูปแบบใหม่ออกมารอบตัว

แสงสีฟ้าอมเทาสลัวหมุนวนรอบๆ ตัวแม่มดน้อย และเมื่อเธอยกมือขึ้น แรงกดดันก็หนักหน่วงขึ้นอย่างชัดเจน ดวงตาของเธอพลันเผยประกายที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน

สมาชิกหญิงกลุ่มนักรบจ้งเทียนเองก็ดูจริงจังขึ้นเช่นกัน การแสดงออกบนใบหน้าของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปทันตาเห็น หญิงสาวยกขาซ้ายออกไปข้างหน้าครึ่งก้าว เธอกำลังแสดงท่าทางแปลกประหลาดบางอย่าง ให้ความรู้สึกราวกับว่าเธอเป็นเสือดำตัวเมียที่สามารถกระโจนเข้าใส่ศัตรูได้ทุกเมื่อ

ในชั่วพริบตาต่อมา เด็กสาวทั้งสองก็เริ่มเปิดฉากการโจมตีแทบจะในเวลาเดียวกัน ทั้งคู่ต่างพุ่งเข้าหากันด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

ดอกฝูหรงสีน้ำเงินที่เบ่งบานอยู่ด้านหลังแม่มดน้อยพลันระเบิดออกมาพร้อมกับแสงสีฟ้าที่งดงามตระการตา แผ่ขยายอาณาเขตโอบล้อมพื้นที่ในรัศมีประมาณ 10 หลาไว้จนทั่ว ความเร็วของแม่มดน้อยเองก็ไต่ไปถึงระดับที่น่ากลัวเช่นกัน ดาบสั้นในมือของเธอสบโอกาสฟาดฟันไปข้างหน้า ทิ้งรอยแสงสีเทา-น้ำเงินไว้กลางอากาศ เสมือนสายรุ้งพาดผ่านบนท้องฟ้าขณะที่มันพุ่งเข้าใส่คู่ต่อสู้อย่างโหดเหี้ยม

ในเวลาเดียวกัน สมาชิกหญิงกลุ่มนักรบจ้งเทียนก็ยื่นมือออกมาอย่างใจเย็น หญิงสาวยกมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อตอบโต้การโจมตีนั้น กรงเล็บสีทองบนถุงมือของเธอดูเหมือนจะสั่นไหวท่ามกลางอากาศเป็นจังหวะที่แปลกประหลาด ทั้งร่างของเธอถูกห่อหุ้มไปด้วยชั้นแสงสีเขียว ทำให้หญิงสาวสามารถพุ่งออกไปกลางอากาศได้ราวกับว่าร่างกายของเธอเป็นใบไม้ที่ปลิดปลิวจากขั้ว รัศมีแสงสีฟ้าจำนวนมหาศาลตรงเข้าโอบล้อมรอบตัวเธอเอาไว้จนมิด ทว่ามันกลับถูกแสงสีเขียวที่ล้อมรอบตัวเธออยู่ตลอดเวลาผลักไสออกไป ในขณะที่เธอเองก็ดูเหมือนจะสามารถทะลุผ่านซอกหลืบเล็กๆ ที่แสงนั้นส่องไม่ถึงเช่นกัน

*เคร้ง*

หญิงสาวตวัดกรงเล็บซ้ายไปด้านหน้า กรงเล็บโลหะสีทองที่ส่องประกายโดดเด่นปะทะเข้ากับพลังปราณในรูปใบมีดสีเทาอมฟ้าของแม่มดน้อยอย่างหนักหน่วง ทั้งยังสามารถต้านรับดาบนั้นไว้ได้ราวกับว่าใบมีดนั้นเป็นของแข็งจริงๆ ขณะกรงเล็บขวาอีกข้างตวัดลงไป เสียงระเบิดก็ดังขึ้นอีกครั้ง การโจมตีอันทรงพลังของแม่มดน้อยพลันถูกกำจัดจนแตกสลายไปกลางอากาศและกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ดอกฝูหรงสีน้ำเงินยังคงส่งลำแสงพุ่งเข้าใส่หญิงสาวจากฝ่ายจ้งเทียนต่อไปในขณะที่เธอกำลังเสียจังหวะหลังการโจมตีเมื่อสักครู่นี้ อนิจจา สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นลำดับถัดมากลับเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดโดยสิ้นเชิง ร่างกายของเธอบิดตัวในองศาที่ไม่มีใครเคยจินตนาการมาก่อน ราวกับว่าเอวของเธอถูกตัดออกจากร่างกาย หญิงสาวโยกหลบไปยังมุมหนึ่งที่จะทำให้ได้รับผลกระทบจากการโจมตีน้อยที่สุดจนขาลอยขึ้นฟ้า จากนั้นก็เด้งตัวกลับขึ้นมาอีกครั้งหลังปลายเท้าแตะถึงพื้น ร่างกายของเธอหมุนกลางอากาศและหลบหลีกการโจมตีทั้งหมดเอาไว้ได้ ในเวลาเดียวกัน ทั้งแขนและกรงเล็บของเธอก็บิดเป็นเกลียวพร้อมๆ กับแสงสีทองที่ส่องสว่างออกมา ทำให้ฝนดอกฝูหรงสีน้ำเงินถูกปิดกั้นไว้ให้อยู่เพียงแค่ภายนอก จากนั้นร่างกายของเธอพุ่งทะยานไปหาแม่มดน้อยในสภาพเช่นนั้น

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ แม่มดน้อยพลันสูดลมหายใจเข้าลึก ลายสีน้ำเงินบนร่างกายของเธอสว่างเจิดจ้าขึ้นจนดูเหมือนดวงไฟสีฟ้าขนาดใหญ่ แม้แต่ใบมีดสั้นในมือของเธอก็ยังส่องสว่างเป็นแสงสีน้ำเงิน และในเวลาต่อมา มือขวาที่จับใบมีดอยู่ก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิททันที นั่นไม่ใช่แสงที่เกิดขึ้นเพราะเธอถูกโจมตีจากคนอื่น แต่เป็นเพราะเธอกำลังพยายามจะโต้กลับโดยเค้นพลังเข้าใส่ศัตรูผู้ที่กำลังรุกล้ำเข้ามาต่างหาก

ทักษะผสาน! แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่โจวเหว่ยชิงเห็นแม่มดน้อยใช้ทักษะนี้ แต่เขาก็สามารถบอกได้ทันทีว่ามันเป็นทักษะผสานระหว่างทักษะธาตุชีวิตและธาตุปีศาจ หากใช้ทักษะนี้โดยมีดาบสั้นนั้นเป็นตัวกลางล่ะก็ มันย่อมไม่ใช่ของธรรมดาๆ แน่นอน

ในขณะที่ใบมีดสั้นและกรงเล็บปะทะกันอีกครั้ง เสียงกระทบกระทั่งของโลหะที่แหลมเสียดแก้วหูก็ทำให้โจวเหว่ยชิงต้องยกมืออุดหูโดยไม่รู้ตัว

นอกจากนี้ เขายังสามารถมองเห็นประกายไฟจำนวนนับไม่ถ้วนซึ่งเกิดจากการปะทะกันระหว่างทั้งสองด้วย ทว่าแม้จะเป็นการโจมตีที่ทรงพลังของแม่มดน้อย เธอเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องเดินโซเซถอยหลังไป 9 ก้าวก่อนจะลุกขึ้นยืนได้ ทั้งยังทิ้งรอยเท้าลึกไว้ ที่พื้นอีกว่า 9 แห่ง

*เคร้ง**เคร้ง* เสียงกระทบกระทั่งดังอีกครั้ง

เมื่อร่างทั้งสองหลุดออกจากการปะทะ สีหน้าของแม่มดน้อยก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เธอบิดข้อมือซ้ายขึ้นชี้ไปบนท้องฟ้าและดอกฝูหรงสีน้ำเงินที่อยู่ด้านหลังก็ปลดปล่อยแสงสีฟ้าอ่อนออกมาอาบไล้ร่างของเธอทันที นั่นทำให้สีหน้าเครียดขึ้งผ่อนคลายลงในที่สุด ถึงกระนั้น ใบหน้าของแม่มดน้อยก็ยังดูซีดเซียวและเห็นได้ชัดว่าตอนนี้มือที่กำลังถือดาบสั้นของเธอกำลังสั่นเทา

สำหรับสมาชิกหญิงกลุ่มนักรบจ้งเทียน ผลของการปะทะทำให้เธอต้องตีลังกากลางอากาศและเซถอยหลังไปประมาณ 6 ก้าวก่อนที่จะทรงตัวได้ในที่สุด แสงสีเทาอมฟ้าแปลกประหลาดกระพริบวูบวาบไปทั่วใบหน้าของเธอ แต่เมื่อหญิงสาวหมุนเวียนพลังปราณสวรรค์ของตัวเอง มันก็ค่อยๆ หายไปในไม่ช้า

จากผลลัพธ์ที่ได้จากการต่อสู้ที่ทรงพลังระหว่างทั้งสอง แสดงให้เห็นชัดเจนว่าแม่มดน้อยยังคงเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด