Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา 23.1 เข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่าง (1)

Now you are reading Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา Chapter 23.1 เข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่าง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หนีไปเร็ว!” โจวเหว่ยชิงตะโกนบอกซ่างกวนปิงเอ๋อร์ด้วยความโกรธและความวิตกกังวล แต่ทว่าในเวลานี้ราชาหมาป่าโลกันตร์ได้ปล่อยกงจักรวายุ 12 เล่มออกมาเพื่อโจมตีเขาอีกครั้งแล้ว

หากถูกโจมตีจากหลายทิศทางเช่นนี้ ด้วยความเร็วปัจจุบันของโจวเหว่ยชิง แน่นอนว่าเขาไม่อาจจะหลบหนีพ้นได้ ดังนั้นเด้กหนุ่มจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาอีกครั้งเพื่อเอาตัวรอดไปก่อน

ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ไม่สนใจเสียงของโจวเหว่ยชิง ตอนนี้เธออยู่ห่างจากเขาประมาณ 5 หลา เธอสะบัดมือซ้ายขึ้น กงจักรวายุ 3 เล่มก็บินออกไปเฉือนใส่หมาป่าโลกันตร์ทั้ง 3 ตัวตรงหน้า ร่างของเธอขยับสั่นไหววูบวาบในอากาศอีกครั้งก่อนจะมาปรากฏตัวข้างๆ โจวเหว่ยชิงในชั่วพริบตา เธอพูดอย่างช้าๆ และชัดเจน “เรา…จะ…ร่วมเป็น…และ…ร่วมตาย…ด้วยกัน”

เนื่องจากโจวเหว่ยชิงมีพลังปราณสวรรค์อยู่ในระดับที่ 4 เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว แม้จะไม่ได้ใช้ธนูราชัน แต่การใช้ทักษะธาตุซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ทำให้เด็กหนุ่มต้องสูญเสียปราณไปจำนวนมหาศาล อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินคำพูดของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ เขาก็รู้สึกราวกับว่าเลือดในตัวกำลังเดือดพล่าน

นี่ช่างคุ้มจริงๆ แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว แม้ว่าชั่วชีวิตของข้าจะได้พบกับผู้หญิงคนนี้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่การตายเพื่อเธอมันก็คุ้มค่าแล้ว

นัยน์ตาของราชาหมาป่าโลกันตร์นั้นแผ่ไอเยือกเย็นและโหดเหี้ยมออกมา หลังจากมันได้แลกเปลี่ยนการโจมตีกับโจวเหว่ยชิงไปหลายครั้ง ในที่สุดมันก็ค้นพบพละกำลังที่แท้จริงของเขาแล้ว แน่นอน มันรู้ว่านอกจากขาขวาของเขาแล้ว มนุษย์คนนั้นก็ไม่อาจนับเป็นภัยคุกคามอะไรได้เลย อีกทั้งเขายังไม่มีปราณสวรรค์เหลือมากพอให้ยื้อเวลาไว้ได้นานกว่านี้แล้วด้วย ดังนั้น มันจึงคิดว่าตัวมันสามารถกำจัดโจวเหว่ยชิงได้อย่างง่ายดายราวกับเป่าฝุ่นผง อีกทั้งยังไม่รู้สึกว่าจะต้องรีบร้อนอะไร มันไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะอื่นๆ ช่วยเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นมันจึงส่งเพียงแค่กงจักรวายุอีก 12 เล่มออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อปิดโอกาสไม่ให้โอกาสโจวเหว่ยชิงได้เข้าใกล้มันมากกว่านี้  คราวนี้มันฉลาดกว่าเดิมมาก แทนที่จะส่งกงจักรวายุเหล่านั้นพุ่งตรงไปยังโจวเหว่ยชิง แต่ทว่าตอนนี้มันกลับเปลี่ยนเส้นทางมุ่งไปยังซ่างกวนปิงเอ๋อร์แทน

ไม่ว่าทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาของมันจะแข็งแกร่งสักเพียงใด ยังไงซะมันก็เคลื่อนย้ายใครบางคนไปกับมันด้วยไม่ได้อยู่ดี อย่างน้อยระดับพลังของโจวเหว่ยชิงในตอนนี้ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

กงจักรวายุทั้ง 12 เล่มกำลังพุ่งเข้าหาเธอจากทุกทิศทุกทางและปิดกั้นเส้นทางหลบหนีที่เป็นไปได้ทั้งหมด เมื่อเห็นดังนั้น ซ่างกวนปิงเอ๋อร์จึงหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง เธอกำลังยอมรับชะตากรรมของตนเองอย่างว่าง่าย อย่างน้อยเธอได้อยู่ข้างๆ เขาก่อนที่เธอจะต้องตาย

“ให้ตายเถอะ! ยัยผู้หญิงโง่!” โจวเหว่ยชิงยกขาขวาขึ้นปัดกงจักรวายุ 6 เล่มทิ้งไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กระโจนเข้าไปผลักซ่างกวนปิงเอ๋อร์จนเธอล้มลงไปติดพื้น

กงจักรวายุปะทะเข้ากับขาขวาของโจวเหว่ยชิงจนเกิดเสียงดัง *เคร้ง* ทันใดนั้นขากางเกงของเขาก็ถูกฉีกออกเป็นริ้วๆ เผยให้เห็นผิวหนังข้างในที่มีลายเสือสีดำกำลังแผ่ขยายออกมาจนทั่ว

ขาขวาปีศาจนั้นแข็งแกร่งมากอย่างไม่ต้องสงสัย ภายใต้การโจมตีที่โหดร้ายทารุณ มันก็ยังคงไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย อนิจจา พลังนั่นมีไว้สำหรับขาขวาของเขาเพียงเท่านั้น …

แม้ว่โจวเหว่ยชิงจะกระโดดหนีและกวาดขาขวาออกไปรับการโจมตีของกงจักรวายุทั้ง 6 เล่มได้สำเร็จ  แต่ทว่ากงจักรวายุ 3 เล่มสุดท้ายที่ตามมาก็ยังคงกระแทกเข้าใส่ร่างกายของเขาอยู่ดี

เมื่อกงจักรพวกนั้นพุ่งเข้าเฉือนร่างของโจวเหว่ยชิง ทันใดนั้นก็มีเสียงราวกับเหล็กแข็งๆ กำลังกระทบกระทั่งกันจนแสบแก้วหู โจวเหว่ยชิงรู้สึกว่าบริเวณแผ่นหลังของเขากำลังแสบร้อนและเกราะอ่อนโลหะผสมไทเทเนียมก็กำลังถูกใบมีดคมๆ เหล่านั้นฉีกกระชากออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แม้ว่าโลหะผสมไทเทเนียมจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่เพราะเกราะอ่อนนั้นค่อนข้างบาง และอสรพิษวิเศษเองก็เป็นเพียงอสูรสวรรค์ระดับปฐมเท่านั้น ดังนั้นผิวหนังของมันจึงไม่สามารถต้านทานพลังกงจักรวายุของราชาหมาป่าโลกันตร์ได้ แม้ว่าเกราะอ่อนนี้จะสามารถลดทอนแรงปะทะและพลังทำลายล้างของกงจักรวายุส่วนใหญ่ได้ แต่ทว่าตัวมันเองก็ต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จากการทำเช่นนั้นด้วย

หลังจากแผ่นหลังของเขาปะทะเข้ากับใบมีดพวกนั้น โจวเหว่ยชิงก็แทบจะกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ กงจักรวายุได้ทิ้งรอยแผลลึกเอาไว้ถึง 3 รอย มันลากผ่านเป็นทางยาวพร้อมกับมีเลือดไหลซึมออกมาเป็นวงกว้าง

จู่ๆก็มีเสียงวิ้งๆ ดังขึ้นข้างหูของเขา โจวเหว่ยชิงรู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังบุกเคลือบคลานเข้ามาในสมอง วงล้อทักษะธาตุค่อยๆ กลายเป็นสีแดงเลือดไปในพริบตา อีกทั้งพลังปราณสวรรค์ในตันเถียนของเขาก็ยังดูเหมือนจะระเบิดออกมาอย่างรวดเร็ว ขั้วอารมณ์ที่แสนชั่วร้าย โหดเหี้ยมและไร้เมตตาบุกทะลวงเข้ามาโจมตีจิตใต้สำนึกของโจวเหว่ยชิง ทำให้เด็กหนุ่มต้องผจญกับความรู้สึกด้านลบต่างๆ ที่ประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน

ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ถูกโจวเหว่ยชิงกดลงติดกับพื้น เธอทำเสียงฮึดฮัดอู้อี้ขณะที่หอบหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง เธอลืมตาขึ้นอีกครั้งและพบว่าดวงตาของโจวเหว่ยชิงได้เปลี่ยนไปเป็นสีแดงก่ำคล้ายเลือด และนั่นยังเป็นสีเลือดที่เข้มข้นกว่าคืนที่เขาใช้เธอเป็นเครื่องสังเวยเสียอีก กลิ่นอายเยือกเย็นอันทรงพลังขุมหนึ่งพลันระเบิดออกมาจากร่างของเขา  ทันใดนั้นความรู้สึกหนาวเย็นไปถึงขั้วหัวใจและไอชั่วร้ายที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขาก็ทำให้ซ่างกวนปิงเอ๋อร์สั่นระริกด้วยความหวาดกลัว

เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนลวกที่พัดเข้ามาโดนใบหน้าของเธอ หัวใจของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็เริ่มสั่นเทาทันที ทันใดนั้น มือขวาของโจวเหว่ยชิงก็ฟาดลงกับพื้นตรงหน้าเธออย่างรุนแรง เฉียดผ่านใบหน้าของเธอไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น

หลังจากเกิดเสียง *ปั่ก* พื้นดินตรงหน้าเธอก็ทรุดตัวลงไปประมาณ 3 ฟุตในชั่วพริบตาทันที แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่นั่นก็ทำให้ร่างของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ต้องไถลตกลงไปในหลุมนั้นด้วย ในทางตรงกันข้าม โจวเหว่ยชิงกลับใช้แรงต้านจากพื้นดีดตัวขึ้นสูงและกระโจนขึ้นไปเหนืออากาศ

ทว่าไม่กี่อึดใจต่อมาโจวเหว่ยชิงก็ร่วงผล็อยลงมาจากตามแนวขวาง ในขณะที่ร่างของเขากำลังร่วงหล่นลงมานั้น เสื้อผ้าของเขาสวมใส่อยู่ก็พลันปริแตกออกเป็นชิ้นๆ ราวกับว่าภายในร่างกำลังเกิดระเบิดปะทุขึ้นจากภายใน เสียงกระดูกปริแตกดังขึ้นมา กล้ามเนื้อของเขาเติบโตและขยายใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนั้นผิวหนังก็ยังมีลายเสือดำแผ่ขยายออกมาจนไม่มีที่ว่าง ลวดลายเหล่านั้นก็ราวกับว่ามีชีวิตขึ้นมา พวกมันเคลื่อนไหวชอนไชบนผิวหนังของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน และนั่นก็คือสิ่งที่ดูน่ากลัวที่สุดในตอนนี้

มณีสวรรค์ที่ลอยวนอยู่รอบข้อมือทั้ง 2 ข้างของโจวเหว่ยชิงดูเหมือนกำลังจะเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง หยกน้ำแข็งนั้นราวกับเปลี่ยนไปเป็นบริสุทธิ์มากขึ้นและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ไพฑูรย์ตาแมวที่ข้อมืออีกข้างก็เข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเช่นเดียวกัน ประกายแสงสีแดงกุหลาบพลันสว่างไสวมากขึ้นและสีสดขึ้นมากกว่าเดิม ราวกับว่ามันคือหยดเลือดหยดหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ประกายแสงที่ระยิบระยับอยู่รอบๆ มณีเหล่านั้นก็ยังเปลี่ยนไปเป็นแสงสีเทาอีกด้วย

ร่างของโจวเหว่ยชิงหกกลับอยู่กลางอากาศ ถึง 3 ครั้ง ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ร่วงลงถึงพื้นพร้อมกับเสียงกระแทกดังสนั่น มือและเท้าซ้ายของเขาถูกใช้รองรับแรงกระแทกทั้งหมดในขณะที่ขาขวาถูกยกขึ้นชี้ฟ้า เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ขาขวาของโจวเหว่ยชิงได้กลายเป็นสีดำสนิททั้งหมด ทั้งยังมีไอพลังสีเทาหนาแน่นกลุ่มหนึ่งหมุนวนอยู่รอบๆ ผมสั้นสีดำดุจขนกาของเขาเปลี่ยนเป็นสีเทาทั่วทั้งศีรษะ ยิ่งไปกว่านั้น ดวงตาสีแดงก่ำก็ยังส่งผลให้โจวเหว่ยชิงดูน่าเกรงขามมากขึ้นอีกด้วย

“ปีศาจกลายร่าง!” ทันใดนั้นคำๆ หนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ ในเวลานี้ หัวใจของเธอกำลังบีบรัดอย่างรุนแรงด้วยความหวาดกลัว ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารูปโฉมภายนอกของโจวเหว่ยชิงในตอนนี้คล้ายกับสถานะปีศาจกลายร่างในตำนานแค่ไหน เท่าที่เธอรู้ สถานะปีศาจกลายร่างจะเกิดขึ้นได้ 2 แบบเท่านั้น

แบบแรกก็คือเมื่อจ้าวมณีสวรรค์ที่มีทักษะธาตุปีศาจได้รับการกระตุ้นจากภายนอกอย่างรุนแรง พวกเขาจึงเข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่างชั่วคราว ในระหว่างการเข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่าง จ้าวมณีสวรรค์ผู้นั้นจะกลายเป็นปีศาจบ้าคลั่ง อีกทั้งพละกำลังความแข็งแกร่งก็จะจะเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก  อย่างไรก็ตาม เขาจะขาดสติเพราะถูกปีศาจควบคุม ดังนั้นจึงมักจะสังหารสิ่งมีชีวิตรอบๆ ตัวอย่างเลือดเย็นจนกระทั่งไม่มีอะไรเหลือรอดไปแม้แต่อย่างเดียว สถานการณ์เช่นนี้อาจจะฟังดูไม่ค่อยเข้าท่า แต่ทว่าก็ยังมีผลดีอยู่บ้าง นี่เป็นเพราะหลังจากเข่นฆ่าสังหารผู้คนไปจนหมดสิ้นแล้ว จ้าวมณีสวรรค์คนนั้นก็จะสามารถควบคุมจิตใจของตนเองได้ แม้ว่าเขาจะอ่อนแอลงไปในชั่วระยะเวลาหนึ่งก็ตาม

อนิจจา แบบที่ 2 นั้นกลับน่ากลัวและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อจ้าวมณีสวรรค์ มันคือสถานะปีศาจกลายร่างแบบสมบูรณ์ การเข้าสู่สถานะเช่นนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ก็มีเพียงคำว่า “ภัยพิบัติ” เท่านั้นที่จะใช้อธิบายได้

เมื่อจ้าวมณีสวรรค์ต้องเข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่างแบบสมบูรณ์ เขาจะกลายเป็นปีศาจอย่างสมบูรณ์และไม่เหลือความเป็นมนุษย์อีกต่อไป กระบวนการเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตรอบๆ ตัวทิ้งอย่างโหดเหี้ยมนั้นยังคงมีอยู่เช่นเดียวกับแบบแรก แต่ทว่าในครั้งนี้เขาจะต้องสังหารผู้คนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทนไม่ไหวและขาดใจตายไปเอง ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยน แปลงเช่นนี้มักจะนำมาซึ่งความแข็งแกร่งและพลังการทำลายล้างที่เพิ่มขึ้นจากสถานะปีศาจกลายร่างแบบเดิมหลายเท่ามาก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมในอดีตสำนักกักเก็บทักษะของอาณาจักรใหญ่ๆ ในดินแดนไร้ขอบเขตจึงต้องรวมกำลังกันเพื่อตามล่าเหล่าจ้าวมณีสวรรค์ทักษะธาตุปีศาจพวกนี้

……………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา 23.1 เข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่าง (1)

Now you are reading Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา Chapter 23.1 เข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่าง (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“หนีไปเร็ว!” โจวเหว่ยชิงตะโกนบอกซ่างกวนปิงเอ๋อร์ด้วยความโกรธและความวิตกกังวล แต่ทว่าในเวลานี้ราชาหมาป่าโลกันตร์ได้ปล่อยกงจักรวายุ 12 เล่มออกมาเพื่อโจมตีเขาอีกครั้งแล้ว

หากถูกโจมตีจากหลายทิศทางเช่นนี้ ด้วยความเร็วปัจจุบันของโจวเหว่ยชิง แน่นอนว่าเขาไม่อาจจะหลบหนีพ้นได้ ดังนั้นเด้กหนุ่มจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาอีกครั้งเพื่อเอาตัวรอดไปก่อน

ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ไม่สนใจเสียงของโจวเหว่ยชิง ตอนนี้เธออยู่ห่างจากเขาประมาณ 5 หลา เธอสะบัดมือซ้ายขึ้น กงจักรวายุ 3 เล่มก็บินออกไปเฉือนใส่หมาป่าโลกันตร์ทั้ง 3 ตัวตรงหน้า ร่างของเธอขยับสั่นไหววูบวาบในอากาศอีกครั้งก่อนจะมาปรากฏตัวข้างๆ โจวเหว่ยชิงในชั่วพริบตา เธอพูดอย่างช้าๆ และชัดเจน “เรา…จะ…ร่วมเป็น…และ…ร่วมตาย…ด้วยกัน”

เนื่องจากโจวเหว่ยชิงมีพลังปราณสวรรค์อยู่ในระดับที่ 4 เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว แม้จะไม่ได้ใช้ธนูราชัน แต่การใช้ทักษะธาตุซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ทำให้เด็กหนุ่มต้องสูญเสียปราณไปจำนวนมหาศาล อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินคำพูดของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ เขาก็รู้สึกราวกับว่าเลือดในตัวกำลังเดือดพล่าน

นี่ช่างคุ้มจริงๆ แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว แม้ว่าชั่วชีวิตของข้าจะได้พบกับผู้หญิงคนนี้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่การตายเพื่อเธอมันก็คุ้มค่าแล้ว

นัยน์ตาของราชาหมาป่าโลกันตร์นั้นแผ่ไอเยือกเย็นและโหดเหี้ยมออกมา หลังจากมันได้แลกเปลี่ยนการโจมตีกับโจวเหว่ยชิงไปหลายครั้ง ในที่สุดมันก็ค้นพบพละกำลังที่แท้จริงของเขาแล้ว แน่นอน มันรู้ว่านอกจากขาขวาของเขาแล้ว มนุษย์คนนั้นก็ไม่อาจนับเป็นภัยคุกคามอะไรได้เลย อีกทั้งเขายังไม่มีปราณสวรรค์เหลือมากพอให้ยื้อเวลาไว้ได้นานกว่านี้แล้วด้วย ดังนั้น มันจึงคิดว่าตัวมันสามารถกำจัดโจวเหว่ยชิงได้อย่างง่ายดายราวกับเป่าฝุ่นผง อีกทั้งยังไม่รู้สึกว่าจะต้องรีบร้อนอะไร มันไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะอื่นๆ ช่วยเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นมันจึงส่งเพียงแค่กงจักรวายุอีก 12 เล่มออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อปิดโอกาสไม่ให้โอกาสโจวเหว่ยชิงได้เข้าใกล้มันมากกว่านี้  คราวนี้มันฉลาดกว่าเดิมมาก แทนที่จะส่งกงจักรวายุเหล่านั้นพุ่งตรงไปยังโจวเหว่ยชิง แต่ทว่าตอนนี้มันกลับเปลี่ยนเส้นทางมุ่งไปยังซ่างกวนปิงเอ๋อร์แทน

ไม่ว่าทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาของมันจะแข็งแกร่งสักเพียงใด ยังไงซะมันก็เคลื่อนย้ายใครบางคนไปกับมันด้วยไม่ได้อยู่ดี อย่างน้อยระดับพลังของโจวเหว่ยชิงในตอนนี้ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

กงจักรวายุทั้ง 12 เล่มกำลังพุ่งเข้าหาเธอจากทุกทิศทุกทางและปิดกั้นเส้นทางหลบหนีที่เป็นไปได้ทั้งหมด เมื่อเห็นดังนั้น ซ่างกวนปิงเอ๋อร์จึงหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง เธอกำลังยอมรับชะตากรรมของตนเองอย่างว่าง่าย อย่างน้อยเธอได้อยู่ข้างๆ เขาก่อนที่เธอจะต้องตาย

“ให้ตายเถอะ! ยัยผู้หญิงโง่!” โจวเหว่ยชิงยกขาขวาขึ้นปัดกงจักรวายุ 6 เล่มทิ้งไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กระโจนเข้าไปผลักซ่างกวนปิงเอ๋อร์จนเธอล้มลงไปติดพื้น

กงจักรวายุปะทะเข้ากับขาขวาของโจวเหว่ยชิงจนเกิดเสียงดัง *เคร้ง* ทันใดนั้นขากางเกงของเขาก็ถูกฉีกออกเป็นริ้วๆ เผยให้เห็นผิวหนังข้างในที่มีลายเสือสีดำกำลังแผ่ขยายออกมาจนทั่ว

ขาขวาปีศาจนั้นแข็งแกร่งมากอย่างไม่ต้องสงสัย ภายใต้การโจมตีที่โหดร้ายทารุณ มันก็ยังคงไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย อนิจจา พลังนั่นมีไว้สำหรับขาขวาของเขาเพียงเท่านั้น …

แม้ว่โจวเหว่ยชิงจะกระโดดหนีและกวาดขาขวาออกไปรับการโจมตีของกงจักรวายุทั้ง 6 เล่มได้สำเร็จ  แต่ทว่ากงจักรวายุ 3 เล่มสุดท้ายที่ตามมาก็ยังคงกระแทกเข้าใส่ร่างกายของเขาอยู่ดี

เมื่อกงจักรพวกนั้นพุ่งเข้าเฉือนร่างของโจวเหว่ยชิง ทันใดนั้นก็มีเสียงราวกับเหล็กแข็งๆ กำลังกระทบกระทั่งกันจนแสบแก้วหู โจวเหว่ยชิงรู้สึกว่าบริเวณแผ่นหลังของเขากำลังแสบร้อนและเกราะอ่อนโลหะผสมไทเทเนียมก็กำลังถูกใบมีดคมๆ เหล่านั้นฉีกกระชากออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แม้ว่าโลหะผสมไทเทเนียมจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่เพราะเกราะอ่อนนั้นค่อนข้างบาง และอสรพิษวิเศษเองก็เป็นเพียงอสูรสวรรค์ระดับปฐมเท่านั้น ดังนั้นผิวหนังของมันจึงไม่สามารถต้านทานพลังกงจักรวายุของราชาหมาป่าโลกันตร์ได้ แม้ว่าเกราะอ่อนนี้จะสามารถลดทอนแรงปะทะและพลังทำลายล้างของกงจักรวายุส่วนใหญ่ได้ แต่ทว่าตัวมันเองก็ต้องแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จากการทำเช่นนั้นด้วย

หลังจากแผ่นหลังของเขาปะทะเข้ากับใบมีดพวกนั้น โจวเหว่ยชิงก็แทบจะกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ กงจักรวายุได้ทิ้งรอยแผลลึกเอาไว้ถึง 3 รอย มันลากผ่านเป็นทางยาวพร้อมกับมีเลือดไหลซึมออกมาเป็นวงกว้าง

จู่ๆก็มีเสียงวิ้งๆ ดังขึ้นข้างหูของเขา โจวเหว่ยชิงรู้สึกราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังบุกเคลือบคลานเข้ามาในสมอง วงล้อทักษะธาตุค่อยๆ กลายเป็นสีแดงเลือดไปในพริบตา อีกทั้งพลังปราณสวรรค์ในตันเถียนของเขาก็ยังดูเหมือนจะระเบิดออกมาอย่างรวดเร็ว ขั้วอารมณ์ที่แสนชั่วร้าย โหดเหี้ยมและไร้เมตตาบุกทะลวงเข้ามาโจมตีจิตใต้สำนึกของโจวเหว่ยชิง ทำให้เด็กหนุ่มต้องผจญกับความรู้สึกด้านลบต่างๆ ที่ประดังประเดเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน

ซ่างกวนปิงเอ๋อร์ถูกโจวเหว่ยชิงกดลงติดกับพื้น เธอทำเสียงฮึดฮัดอู้อี้ขณะที่หอบหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง เธอลืมตาขึ้นอีกครั้งและพบว่าดวงตาของโจวเหว่ยชิงได้เปลี่ยนไปเป็นสีแดงก่ำคล้ายเลือด และนั่นยังเป็นสีเลือดที่เข้มข้นกว่าคืนที่เขาใช้เธอเป็นเครื่องสังเวยเสียอีก กลิ่นอายเยือกเย็นอันทรงพลังขุมหนึ่งพลันระเบิดออกมาจากร่างของเขา  ทันใดนั้นความรู้สึกหนาวเย็นไปถึงขั้วหัวใจและไอชั่วร้ายที่ปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขาก็ทำให้ซ่างกวนปิงเอ๋อร์สั่นระริกด้วยความหวาดกลัว

เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนลวกที่พัดเข้ามาโดนใบหน้าของเธอ หัวใจของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ก็เริ่มสั่นเทาทันที ทันใดนั้น มือขวาของโจวเหว่ยชิงก็ฟาดลงกับพื้นตรงหน้าเธออย่างรุนแรง เฉียดผ่านใบหน้าของเธอไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น

หลังจากเกิดเสียง *ปั่ก* พื้นดินตรงหน้าเธอก็ทรุดตัวลงไปประมาณ 3 ฟุตในชั่วพริบตาทันที แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่นั่นก็ทำให้ร่างของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ต้องไถลตกลงไปในหลุมนั้นด้วย ในทางตรงกันข้าม โจวเหว่ยชิงกลับใช้แรงต้านจากพื้นดีดตัวขึ้นสูงและกระโจนขึ้นไปเหนืออากาศ

ทว่าไม่กี่อึดใจต่อมาโจวเหว่ยชิงก็ร่วงผล็อยลงมาจากตามแนวขวาง ในขณะที่ร่างของเขากำลังร่วงหล่นลงมานั้น เสื้อผ้าของเขาสวมใส่อยู่ก็พลันปริแตกออกเป็นชิ้นๆ ราวกับว่าภายในร่างกำลังเกิดระเบิดปะทุขึ้นจากภายใน เสียงกระดูกปริแตกดังขึ้นมา กล้ามเนื้อของเขาเติบโตและขยายใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนั้นผิวหนังก็ยังมีลายเสือดำแผ่ขยายออกมาจนไม่มีที่ว่าง ลวดลายเหล่านั้นก็ราวกับว่ามีชีวิตขึ้นมา พวกมันเคลื่อนไหวชอนไชบนผิวหนังของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน และนั่นก็คือสิ่งที่ดูน่ากลัวที่สุดในตอนนี้

มณีสวรรค์ที่ลอยวนอยู่รอบข้อมือทั้ง 2 ข้างของโจวเหว่ยชิงดูเหมือนกำลังจะเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง หยกน้ำแข็งนั้นราวกับเปลี่ยนไปเป็นบริสุทธิ์มากขึ้นและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ไพฑูรย์ตาแมวที่ข้อมืออีกข้างก็เข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเช่นเดียวกัน ประกายแสงสีแดงกุหลาบพลันสว่างไสวมากขึ้นและสีสดขึ้นมากกว่าเดิม ราวกับว่ามันคือหยดเลือดหยดหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ประกายแสงที่ระยิบระยับอยู่รอบๆ มณีเหล่านั้นก็ยังเปลี่ยนไปเป็นแสงสีเทาอีกด้วย

ร่างของโจวเหว่ยชิงหกกลับอยู่กลางอากาศ ถึง 3 ครั้ง ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ร่วงลงถึงพื้นพร้อมกับเสียงกระแทกดังสนั่น มือและเท้าซ้ายของเขาถูกใช้รองรับแรงกระแทกทั้งหมดในขณะที่ขาขวาถูกยกขึ้นชี้ฟ้า เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ขาขวาของโจวเหว่ยชิงได้กลายเป็นสีดำสนิททั้งหมด ทั้งยังมีไอพลังสีเทาหนาแน่นกลุ่มหนึ่งหมุนวนอยู่รอบๆ ผมสั้นสีดำดุจขนกาของเขาเปลี่ยนเป็นสีเทาทั่วทั้งศีรษะ ยิ่งไปกว่านั้น ดวงตาสีแดงก่ำก็ยังส่งผลให้โจวเหว่ยชิงดูน่าเกรงขามมากขึ้นอีกด้วย

“ปีศาจกลายร่าง!” ทันใดนั้นคำๆ หนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของซ่างกวนปิงเอ๋อร์ ในเวลานี้ หัวใจของเธอกำลังบีบรัดอย่างรุนแรงด้วยความหวาดกลัว ไม่ต้องสงสัยเลยว่ารูปโฉมภายนอกของโจวเหว่ยชิงในตอนนี้คล้ายกับสถานะปีศาจกลายร่างในตำนานแค่ไหน เท่าที่เธอรู้ สถานะปีศาจกลายร่างจะเกิดขึ้นได้ 2 แบบเท่านั้น

แบบแรกก็คือเมื่อจ้าวมณีสวรรค์ที่มีทักษะธาตุปีศาจได้รับการกระตุ้นจากภายนอกอย่างรุนแรง พวกเขาจึงเข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่างชั่วคราว ในระหว่างการเข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่าง จ้าวมณีสวรรค์ผู้นั้นจะกลายเป็นปีศาจบ้าคลั่ง อีกทั้งพละกำลังความแข็งแกร่งก็จะจะเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก  อย่างไรก็ตาม เขาจะขาดสติเพราะถูกปีศาจควบคุม ดังนั้นจึงมักจะสังหารสิ่งมีชีวิตรอบๆ ตัวอย่างเลือดเย็นจนกระทั่งไม่มีอะไรเหลือรอดไปแม้แต่อย่างเดียว สถานการณ์เช่นนี้อาจจะฟังดูไม่ค่อยเข้าท่า แต่ทว่าก็ยังมีผลดีอยู่บ้าง นี่เป็นเพราะหลังจากเข่นฆ่าสังหารผู้คนไปจนหมดสิ้นแล้ว จ้าวมณีสวรรค์คนนั้นก็จะสามารถควบคุมจิตใจของตนเองได้ แม้ว่าเขาจะอ่อนแอลงไปในชั่วระยะเวลาหนึ่งก็ตาม

อนิจจา แบบที่ 2 นั้นกลับน่ากลัวและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อจ้าวมณีสวรรค์ มันคือสถานะปีศาจกลายร่างแบบสมบูรณ์ การเข้าสู่สถานะเช่นนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่เมื่อมันเกิดขึ้น ก็มีเพียงคำว่า “ภัยพิบัติ” เท่านั้นที่จะใช้อธิบายได้

เมื่อจ้าวมณีสวรรค์ต้องเข้าสู่สถานะปีศาจกลายร่างแบบสมบูรณ์ เขาจะกลายเป็นปีศาจอย่างสมบูรณ์และไม่เหลือความเป็นมนุษย์อีกต่อไป กระบวนการเข่นฆ่าสิ่งมีชีวิตรอบๆ ตัวทิ้งอย่างโหดเหี้ยมนั้นยังคงมีอยู่เช่นเดียวกับแบบแรก แต่ทว่าในครั้งนี้เขาจะต้องสังหารผู้คนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทนไม่ไหวและขาดใจตายไปเอง ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยน แปลงเช่นนี้มักจะนำมาซึ่งความแข็งแกร่งและพลังการทำลายล้างที่เพิ่มขึ้นจากสถานะปีศาจกลายร่างแบบเดิมหลายเท่ามาก นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมในอดีตสำนักกักเก็บทักษะของอาณาจักรใหญ่ๆ ในดินแดนไร้ขอบเขตจึงต้องรวมกำลังกันเพื่อตามล่าเหล่าจ้าวมณีสวรรค์ทักษะธาตุปีศาจพวกนี้

……………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+