Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]บทที่ 326 พลังขู่

Now you are reading Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] Chapter บทที่ 326 พลังขู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 326 พลังขู่
บทที่ 326 พลังขู่

แผ่นดินสั่นสะเทือนและแตกแยก ทำให้ทุกคนสั่นไหวและยืนไม่มั่นคง

ในขณะเดียวกัน แสงศักดิ์สิทธิ์ที่เข้มข้นก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้นในพื้นที่นี้ โลกของทุกคนก็เต็มไปด้วยแสงสีขาวพร่างพราว พวกเขามองไม่เห็นอะไรเลย ราวกับว่ากำลังเข้าสู่โลกสีขาว

ในเวลานี้สนามรบที่ไม่มีที่สิ้นสุดตกอยู่ในความเงียบสงัด ผู้เล่นทุกคนไม่ได้ยินหรือเห็นอะไรเลยเป็นเวลาครึ่งนาที

ครู่ต่อมา พวกเขาก็ค่อย ๆ เริ่มฟื้นฟูการมองเห็นและการได้ยิน

โลกสีขาวเริ่มจางหายไป ผู้เล่นทุกคนเห็นเมฆเห็ดสีขาวขนาดใหญ่ที่ลอยขึ้นอย่างช้า ๆ!

ภายใต้เมฆเห็ดขนาดใหญ่นั้น สนามรบที่แต่เดิมแออัดก็กลายเป็นพื้นที่โล่งว่าง ผู้เล่นทุกคนยืนอยู่ที่บริเวณด้านนอกสุดด้วยสีหน้าสับสน นอกเหนือจากผู้เล่นของกิลด์มิดซัมเมอร์และกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ที่อยู่บนขอบสนามรบ ผู้เล่นของกิลด์ใหญ่ทั้งสี่ในพื้นที่ระเบิดก็กลายเป็นศพ!

มีกองศพบนทุ่งน้ำแข็งซึ่งอยู่หน้าฐานที่ตั้งกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์!

ตัวเลขความเสียหายไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป เนื่องจากแสงศักดิ์สิทธิ์ทำให้ผู้เล่นทุกคนสูญเสียการมองเห็น จึงมองไม่เห็นตัวเลขความเสียหายไปด้วย สิ่งที่พวกเขารู้ก็คือ ผู้เล่นในฝ่ายรุกทั้งหมดถูกฆ่าตายในไม่กี่วินาที!

ผู้เล่นมากกว่าล้านคนเสียชีวิตในทันที! ศพเกลื่อนไปหมดราวกับมหาสมุทร!

และไม่เพียงแต่ผู้เล่นจำนวนมากจะถูกฆ่า แต่ยังรวมถึงทุ่งน้ำแข็งทั้งหมดด้วย! มันเหมือนกับสนามกีฬาที่จมลงอย่างกะทันหัน เหมือนกับหุบเขาขนาดใหญ่ที่แยกออก!

ทุกคนตกใจ พวกเขาทั้งหมดเบิกตากว้าง มองดูฉากที่น่าทึ่งนี้อย่างเหลือเชื่อ และลืมไปว่าพวกเขาจมกับความรู้สึกตกใจนี้นานแค่ไหน?

จนกระทั่งมีการออกคำสั่งอพยพจากที่ไหนสักแห่งที่พันธมิตรของกิลด์ใหญ่ทั้งสี่ดังมา ทุกคนก็ได้สติและหนีไปอย่างบ้าคลั่ง ถอนตัวไปเหมือนกระแสน้ำ

“นายท่าน… นายท่าน…”

ทันทีที่เซียวเฟิงลงพื้น สกาย หลิวเฉียงเหว่ย และจืออี้ที่อยู่บนกำแพงเมืองก็ยังไม่ฟื้นจากความตกใจ พวกเขาทั้งหมดมองไปที่เซียวเฟิงอย่างว่างเปล่าในขณะที่สกายกำลังพูดตะกุกตะกัก

“นายท่านอะไรเล่า? พวกเขาถอนตัวออกไปแล้ว เตรียมเก็บกวาดสนามรบกันได้แล้ว”

เซียวเฟิงปลุกพวกเขา พูดตามตรงแล้ว แม้ว่าเซียวเฟิงจะได้เห็นพลังของหอกลองกินัสมาก่อน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจกับสิ่งที่ตัวเองเห็น

ขณะที่กองซากศพหายไป พวกเขาทั้งหมดก็ถอยกลับเข้าไปในเมืองเพื่อฟื้นคืนชีพทีละคน ทุ่งน้ำแข็งที่จมลงก็ถูกแสดงให้เห็นเช่นกัน มันเหมือนกับชิ้นส่วนของทุ่งน้ำแข็งที่ถูกใครบางคนกดลงไปและมีหลุมขนาดใหญ่อยู่บนนั้น

สกายเพิ่งฟื้นกลับมาจากความตกใจ และกำลังจะจัดคนให้ไปเก็บกวาดสนามรบ เป็นผลให้เขาได้ยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของเมืองและมองลงไปที่หลุมด้วยสีหน้าที่ปั้นยาก

ฐานที่ตั้งของกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์นั้นดีมาก มันเป็นทุ่งน้ำแข็งที่เกิดจากทะเลน้ำแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุ่งน้ำแข็งที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งอยู่ข้างหน้านั้นราบเรียบและสวยงามราวกับกระจก

แต่ตอนนี้มี ‘แผลเป็น’ ขนาดใหญ่อยู่บนนั้น

เห็นได้ชัดว่าริมฝีปากของสกายสั่นเทา เมื่อมองดูหลุม เขาไม่สามารถพูดอะไรได้อยู่นาน และแม้แต่ไนฟซึ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองหัวหน้ากิลด์ก็เรียกหัวหน้ากิลด์อย่างเขาหลายครั้งในช่องแชตกิลด์ สกายก็ไม่ตอบเช่นกัน

ท้ายที่สุด สกายก็ทำได้เพียงชำเลืองมองเซียวเฟิงอย่างไม่พอใจแล้วก็จากไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยความหดหู่ใจ

ในเมื่อมันเป็นเช่นนี้ จะทำอะไรได้? เขาทำได้ยังไง? คงทำได้เพียงระงับความเศร้าและน้ำตา ช่างน่าเสียดาย! ทุ่งน้ำแข็งที่งดงามราวกับกระจกของเขา…

“พี่เซียว! ในที่สุดพี่ก็มาที่นี่!”

ก่อนที่หลิวเฉียงเหว่ยและจืออี้จะได้เข้ามาหา เซียวเฟิงก็ถูกเฉินโตวโตวที่เพิ่งเข้าสู่ระบบขวางเอาไว้ พฤติกรรมที่เฉียนโตวโตวกอดแขนของเซียวเฟิงอย่างไม่รู้ตัวทำให้ผู้หญิงสองคนที่งดงามเท่าเทียมกันเดินช้าลง

เฉียนโตวโตวเข้าไปในห้องของเซียวเฟิงแล้วและกำลังจะกดปุ่มเรียกบนหมวกเกมเพื่อบังคับเรียกเซียวเฟิง โชคดีที่เธอได้ข่าวจากหลิวเฉียงเหว่ยก่อนว่าเซียวเฟิงมาถึงแล้ว

จากนั้นเฉียนโตวโตวก็เข้าสู่ระบบทันที เธอออกจากระบบบนกำแพงเมืองของฐานที่ตั้งกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ ดังนั้นเธอจึงหยุดเซียวเฟิงได้ไม่ยาก

“ทุกอย่างเรียบร้อยไหม? เมื่อกี้ฉันทำเรื่องสำคัญอยู่ก็เลยปิดการสื่อสารทั้งหมดไป”

เซียวเฟิงถามพวกเขา อันที่จริงตอนนี้มีข้อความมากกว่าห้าสิบข้อความในแชตส่วนตัวของเซียวเฟิง

“โชคดีที่นายมาทันเวลา ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว” หลิวเฉียงเหว่ยตอบ เสียงของเธอเบาบางและนุ่มนวล

“ท่านเซียว คุณช่วยกิลด์วอร์สปิริตฮอลล์ของเราทั้งหมดไว้ ฉันจะตอบแทนความกรุณาของคุณได้อย่างไร?”

จืออี้กล่าวตามด้วยเสียงที่มีเสน่ห์ของเธอ ทำให้ผู้คนรู้สึกเคลิบเคลิ้ม

“ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉันก็จะไปแล้วล่ะ”

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เซียวเฟิงพยักหน้า เขาก็หยิบคัมภีร์เทเลพอร์ตกลับเมืองของเมืองแห่งความโศกเศร้าออกมาและหายตัวไปโดยไม่ให้หญิงทั้งสามได้มีเวลาตอบสนอง

“เฮ้!”

เมื่อมองไปยังจุดที่เซียวเฟิงหายตัวไป ผู้หญิงทั้งสามก็ตกตะลึง เซียวเฟิงเพิกเฉยต่อพวกเธอทั้งสามซึ่งเป็นสาวงามในสิบอันดับแรกของรายชื่อสาวในฝันของเขตฮัวเซีย

ผู้หญิงสามคนมองหน้ากัน ขณะที่ดวงตาของพวกเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและความขุ่นเคือง

เซียวเฟิงยังคงมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ ชายหนุ่มก็เลยไม่มีเวลาให้กับพวกเธอ หลังจากกลับมาที่เมืองแห่งความโศกเศร้า เขาก็รีบเทเลพอร์ตไปยังโฮลี่ซิตี้และรีบไปที่สระศักดิ์สิทธิ์

“นายท่าน…”

เสี่ยวไป๋รู้สึกเบื่อขณะที่เธอหยอกไก่คูอิ้งอยู่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ใบหน้าที่ยังเด็กของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังเหม่อลอย เสี่ยวไป๋ไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ ดูมึนงงเหมือนเคย

ทันทีที่เธอรู้สึกว่าเซียวเฟิงกำลังเข้ามา ดวงตาสีเงินของเสี่ยวไป๋ก็เปล่งประกายออกมาทันที เด็กสาวกางปีกทั้งสี่ออกและกวาดไก่คูอิ้งออกไป แล้วบินไปทางเซียวเฟิงอย่างสนิทสนม

เซียวเฟิงแสดงท่าทางกังวลเล็กน้อย แต่ก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว เขาเอื้อมมือออกไปจับร่างเล็ก ๆ ของเสี่ยวไป๋โดยอุ้มเด็กสาวไว้ในอ้อมแขนแล้วหาที่นั่งลง จากนั้นเขาก็หยิบคริสตัลศักดิ์สิทธิ์ออกมา

“เสี่ยวไป๋ กินมันซะ”

เสี่ยวไป๋ก้มหน้าลง สูดดมของในมือของเซียวเฟิงด้วยความสงสัย ในสายตาของเธอ คริสตัลศักดิ์สิทธิ์เป็นเหมือนหัวใจสีทองที่กำลังเต้น ไม่เหมือนอาหารเลยสักนิด

จมูกเล็ก ๆ ของเสี่ยวไป๋กระตุก แต่เธอก็ยังคงไว้ใจเซียวเฟิงและอ้าปากเพื่อกัดมัน โชคดีที่แม้ว่าคริสตัลศักดิ์สิทธิ์จะใหญ่ แต่เนื้อสัมผัสของมันก็นุ่ม เสี่ยวไป๋ใส่มันทั้งหมดเข้าปากแล้วกลืนเข้าไปในคราวเดียว!

ตู้ม!

มีเสียงดังมาจากที่ไหนสักแห่ง จากนั้นก็มีเสาแสงศักดิ์สิทธิ์ควบแน่นพุ่งลงมาจากท้องฟ้าซึ่งเชื่อมต่อกับสระศักดิ์สิทธิ์ มาปกคลุมร่างของเสี่ยวไป๋ มันแข็งและหนาแน่นมาก

เสี่ยวไป๋ขดตัวลงทันที ห่อตัวด้วยปีก และนอนหลับสนิทราวกับไข่ปกคลุมด้วยขนนก ในขณะเดียวกัน เซียวเฟิงก็ถูกเหวี่ยงออกไปด้วยพลังมหาศาลที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งทำให้ชายหนุ่มตกใจมาก เพราะเขายังคงสวมชุดมังกรและจะไม่สามารถถูกทำให้กระเด็นได้ แต่ตอนนี้เขากลับถูกทำให้กระเด็นออกไปจริง ๆ! พลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้คืออะไร?

เซียวเฟิงลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มมองไปยังเสี่ยวไป๋ที่ขดตัวและลอยอยู่ในเสาแสงศักดิ์สิทธิ์ เขารู้สึกพูดไม่ออก ในเวลาเดียวกัน เสียงของระบบก็ดังขึ้น

[ติ๊ง! ภายใต้อิทธิพลของพลังที่ไม่รู้จัก สัตว์เลี้ยงของคุณ เสี่ยวไป๋ (นางฟ้าสี่ปีก) ไม่สามารถอัญเชิญได้ชั่วคราว สกิลเรียกสัตว์เลี้ยงจะไม่สามารถใช้ได้ชั่วคราวเป็นระยะเวลาที่ไม่ทราบ]

หลังจากอ่านคำเตือนของระบบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ในที่สุดเซียวเฟิงก็โล่งใจเล็กน้อย ไม่น่าจะผิดอะไร เสี่ยวไป๋กำลังอยู่ในกระบวนการวิวัฒนาการ!

เมื่อคิดดูแล้ว เซียวเฟิงก็เรียกเสี่ยวเสวียออกมา ชายหนุ่มแตะหัวของเสี่ยวเสวีย แล้วปล่อยมันไว้ที่นี่เพื่ออยู่กับเสี่ยวไป๋

สิ่งที่เซียวเฟิงทำในกรณีนี้คืออะไร? ถ้าเขาจากไป ตัวเองก็อาจจะออฟไลน์ไปอีกนาน

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเขาเองอาจจะมีอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นจึงไม่สามารถทิ้งเสี่ยวเสวียไว้ในช่องเก็บสัตว์ขี่ได้ตลอด

ท้ายที่สุดแล้ว โฮลี่ซิตี้ก็เป็นบ้านของเสี่ยวเสวีย และถ้าเขาทิ้งมันไว้ที่นี่ เสี่ยวเสวียก็จะอยู่กับเสี่ยวไป๋

“ฮึ่ม!”

เสี่ยวเสวียกรนผ่านลำคอ ถูหัวของมันกับหน้าอกของเซียวเฟิงแล้วมันก็มองไปทางด้านหลังของภูเขา มันรู้สึกว่าสถานที่นั้นคือที่ที่มันเกิดมา

“ไปเถอะ”

เซียวเฟิงตบหลังเสี่ยวเสวีย ทันใดนั้นเสี่ยวเสวียก็กางปีกของมันอย่างมีความสุข มันกระพือสองสามครั้งแล้วบินกลับไปที่ภูเขา

หลังดูเสี่ยวเสวียกลับบ้าน และมองไปที่ ‘ไข่’ ที่เกิดจากเสี่ยวไป๋ขดตัว เซียวเฟิงยังคงรู้สึกไม่สบายใจ จากนั้นชายหนุ่มก็ไปที่วิหารอีกครั้งเพื่อพบเทพธิดาแห่งแสง เขาได้รู้ว่าเสี่ยวไป๋อยู่ในกระบวนการวิวัฒนาการจริง ๆ จากเทพธิดาแห่งแสง

หลังจากมั่นใจทุกอย่างแล้วเซียวเฟิงก็วางใจอย่างสมบูรณ์ เขาเผยรอยยิ้มแล้วกลับไปที่เมืองเทียนหลงเพื่อออกจากระบบ

ขณะนี้เป็นเวลา 9.30 น. เซียวเฟิงรู้สึกว่าหนิงเคอเค่อมาที่ห้องของเขามากกว่าหนึ่งครั้งเพื่อเรียกเขาออกจากระบบมากินข้าว แต่เขามักจะสายเพราะเรื่องยุ่ง ๆ

เมื่อเปิดประตูห้อง ปรากฏว่าหลิวเฉียงเหว่ย ซือเยี่ยจิ๋ง และเฉียนโตวโตวออกมาจากห้องพร้อมกันทุกคน บางทีพวกเขาอาจจะเห็นเซียวเฟิงออกจากระบบ ดังนั้นพวกเธอจึงออกจากระบบตามเขาและไปกินอาหารเช้า แต่ก็บังเอิญมาเจอกัน

“ฮึ่ม!”

ซือเยี่ยจิ๋งพ่นลม หลับตาและเดินผ่านเซียวเฟิงไปพร้อมกลิ่นหอมโชยมา เธอเป็นคนเดินนำลงไปข้างล่าง

“เฮ้ พี่เซียว!”

เฉียนโตวโตวแนบชิดกับเขาอย่างเป็นธรรมชาติ กอดแขนของเซียวเฟิงและถูไถเซียวเฟิงด้วยหน้าอกแบน ๆ ของเธอ หญิงสาวไม่เคยสนใจเรื่องนี้แม้ว่าจะถูกเซียวเฟิงผลักออกไปด้วยความรังเกียจ

“สกิลอะไรที่สามารถฆ่าผู้เล่นนับล้านได้กัน? มันเป็นสกิลต้องห้ามหรือเปล่า? จะมีการลงโทษใด ๆ หลังจากใช้ไหม?”

ร่างที่สมบูรณ์แบบของหลิวเฉียงเหว่ยก็ใกล้กับเซียวเฟิงเล็กน้อย เธอถามเรื่องนี้กับเขาทันทีเมื่อเธอเปิดปากพูด

หอกลองกินัสที่เซียวเฟิงใช้นั้นน่ากลัวเกินไป มันน่ากลัวขนาดที่ฆ่าผู้เล่นหลายล้านคนในการโจมตีครั้งเดียวได้!

“มันเป็นสกิลระดับตำนาน มันไม่มีผลข้างเคียงอะไรนอกจากคูลดาวน์ที่นานมาก ๆ หากมองข้ามข้อเสียของมันได้ อย่างเช่นสกิลตอบสนองช้าเกินไป เปลี่ยนพื้นที่เป้าหมายหลังจากใช้สกิลไม่ได้ และจะทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย”

เซียวเฟิงตอบไปคร่าว ๆ ที่จริงแล้วถึงหอกลองกินัสจะดูน่ากลัว แต่ก็ทำได้เพียงขู่ผู้อื่นเท่านั้น อย่างแรก มันมีคูลดาวน์ที่ยาวนานและไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

อย่าว่าแต่จะส่งผลกระทบต่อสงครามหลายครั้งเลย แม้ในสงครามครั้งเดียว มันสามารถฆ่าผู้เล่นได้แค่ในบางพื้นที่เท่านั้น

เช่นเดียวกับสงครามเมื่อครู่ เซียวเฟิงฆ่าผู้เล่นที่อยู่ด้านหน้าเท่านั้น ผู้เล่นในสามทิศทางที่เหลือไม่ได้รับผลกระทบเลย ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะสนามรบมีขนาดใหญ่และแออัด เซียวเฟิงก็คงไม่สามารถฆ่าผู้เล่นหลายล้านคนในวินาทีเดียวได้ อาจกล่าวได้ว่าสี่กิลด์หลักรวมตัวกันก็เพื่อให้โอกาสเซียวเฟิงสังหาร

อีกประเด็นหนึ่งคือผู้เล่นที่ถูกฆ่าโดยเซียวเฟิงก็เพียงต้องจ่ายค่าปรับจากการตายเท่านั้น หลังจากฟื้นคืนชีพ พวกเขาก็สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ต่อไปได้โดยไม่ต้องกลัวถูกถล่มซ้ำอีกรอบ สำหรับผู้เล่นแล้ว การตายครั้งเดียวนั้นไม่เป็นปัญหาเลย เหตุผลที่พวกเขาถอยกลับไปก็เพราะความกลัวล้วน ๆ

นี่เป็นผลที่ใหญ่ที่สุดของหอกลองกินัส พลังขู่นั้นมีมากกว่าพลังในการต่อสู้จริง ๆ เสียอีก!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *