บทที่ 346 เสน่ห์เต็มเปี่ยม
บทที่ 346 เสน่ห์เต็มเปี่ยม

ผู้เล่นใหม่ที่เข้าสู่เกมในช่วงนี้สบายมาก เนื่องจากพวกเขามีผู้เล่นเก่าชี้นำ ไม่ว่าล่ามอนสเตอร์หรือทำภารกิจก็ล้วนง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก

เนื่องจากอีเวนต์ศิษย์อาจารย์ ผู้เล่นเก่าจำนวนมากจึงเต็มใจรับดูแลผู้เล่นใหม่ ไม่ต้องพูดถึงว่าผู้เล่นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่เข้าสู่เกมก็มักจะมีผู้ปกครองอยู่ในเกมก่อนอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องทำความคุ้นเคยกับโลกของเกมตั้งแต่เริ่มต้น

เซียวหลิงก็เป็นแบบนี้ ความเร็วในการอัปเลเวลของเธอนั้นน่ากลัว เพราะซือเยี่ยจิ๋งลากเธอไปที่เขตทดสอบเพื่อรับค่าประสบการณ์ และเมื่อพวกเขาออกมา เธอก็มีเลเวล 6 ทันที

หลังจากนั้นพวกเขาก็ไปยังพื้นที่มอนสเตอร์เลเวล 10 เพื่อเก็บเลเวล ทำให้ความเร็วในการอัปเลเวลเร็วพอ ๆ กับจรวด

ในขณะนี้ พื้นที่มอนสเตอร์เลเวล 10 นั้นแออัดเกินไปแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยผู้เล่นเก่าที่มาพาผู้เล่นใหม่ มีฉากขโมยฆ่ากันเหมือนตอนเปิดบริการ

โชคดีที่หลังจากซือเยี่ยจิ๋งแสดงชื่อตัวละครออกมา เธอก็เลยกลายเป็นผู้เล่นที่ครอบครองพื้นที่มอนสเตอร์บริเวณนี้ไป และผู้เล่นที่อยู่รอบตัวเธอพอเห็นชื่อของเธอก็พากันแยกย้ายกันไป

เมื่อดูการบูชาจากเซียวหลิง ซือเยี่ยจิ๋งก็อดไม่ได้ที่จะภูมิใจและมีแรงจูงใจที่จะฆ่ามอนสเตอร์มากขึ้น แต่น่าเสียดายที่มอนสเตอร์เลเวล 10 นั้นก็เหมือนทำจากกระดาษสำหรับเธอ

หญิงสาวสามารถฆ่าพวกมันได้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว เธอไม่มีโอกาสแสดงความแข็งแกร่งและฝีมือของตัวเองเลย

แม้ว่าเซียวหลิงจะสวมชุดแฟชั่นที่มีหน้ากากกระต่ายน่ารัก แต่ผมสีบลอนด์เป็นประกายของเธอและดวงตาที่สวยงามราวกับไพลินก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก แน่นอน เพราะซือเยี่ยจิ๋งอยู่ข้าง ๆ เธอ เลยไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น

ภายในเวลาไม่ถึงคืน ก่อนรุ่งสาง เลเวลของเซียวหลิงก็ไปถึงเลเวล 10 ซึ่งคาดว่าจะเป็นความเร็วในการเก็บเลเวลที่เร็วที่สุดในบรรดาผู้เล่นใหม่เหล่านี้

“เซียวหลิง เธอจะเปลี่ยนเป็นอาชีพอะไรเหรอ?” ซือเยี่ยจิ๋งพาเซียวหลิงไปที่โถงเปลี่ยนอาชีพในจัตุรัสเมืองเทียนหลง และถามด้วยความสงสัย

“แน่นอนว่าเป็นนักเวท!” เซียวหลิงตอบโดยไม่ลังเล เห็นได้ชัดว่าเธอตัดสินใจมานานแล้ว เพราะอาชีพแรกเริ่มของเธอก็เป็นนักเวทฝึกหัดด้วย

“อืม การเปลี่ยนอาชีพของนักเวทก็ยังมีหลายสาขา การเรียนรู้ธาตุต่าง ๆ จะเปลี่ยนเป็นนักเวทที่มีธาตุแตกต่างกันด้วยเช่น นักเวทไฟ นักเวทน้ำแข็ง นักเวทลม และอื่น ๆ” ซือเยี่ยจิ๋งอธิบาย

“อืม ยุ่งยากจัง มีนักเวทสายผสมที่สามารถเรียนรู้ธาตุทั้งหมดได้ไหม?” เซียวหลิงครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วถามพร้อมเอียงคอ

“มีสิ เมื่อเปลี่ยนเป็นอาชีพนี้แล้วจะเรียกว่านักเวทธาตุ แม้ว่าจะสามารถเรียนรู้เวทมนตร์ได้ทุกธาตุ แต่ค่าพลังเวทของคลาสนี้จะต่ำกว่านักเวทที่เป็นธาตุเดียว” ซือเยี่ยจิ๋งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วอธิบาย

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็เลือกอันนี้แหละ! ฮะ แน่นอนว่าท่านเซียวหลิงเป็นผู้รอบรู้! จะมีเวทมนตร์ไหนที่ฉันร่ายไม่ได้ได้ยังไง!” เซียวหลิงตอบอย่างดื้อรั้น

“งั้นฉันจะพาเธอไปหาที่ NPC เปลี่ยนอาชีพแล้วกัน” ซือเยี่ยจิ๋งส่ายหัวของเธอ แต่คิดว่าสกิลที่ไม่มีต้องการของเซียวหลิงจะก่อให้เกิดความสูญเสีย เธอรู้สึกว่าไม่มันเป็นไร จากนั้นเธอก็พาเซียวหลิงไปที่ห้องโถงเปลี่ยนอาชีพที่เพื่อไปหา NPC เปลี่ยนอาชีพเป็นนักเวทธาตุ

เนื่องจากเซียวหลิงอัปเลเวลเร็วเกินไป โถงเปลี่ยนอาชีพจึงค่อนข้างว่างและไม่จำเป็นต้องเข้าแถว

“ว้าว! ช่างเป็นสาวน้อยที่สวยอะไรอย่างนี้! เธอจะเปลี่ยนอาชีพเป็นนักเวทธาตุหรือ?”

NPC เปลี่ยนอาชีพเป็นมนุษย์เพศหญิงที่มีรูปร่างดี หลังจากที่เห็นเซียวหลิง เธอก็ทำเสียงรู้สึกอัศจรรย์

“ใช่แล้ว รีบเปลี่ยนอาชีพให้ท่านเซียวหลิงซะ” เซียวหลิงกล่าวอย่างไม่อดทน

“ฉันมีอาชีพที่ทรงพลังกว่าให้เธอเลือกนะ มันคือนักเวทระเบิดธาตุ ต้องการเปลี่ยนเป็นอาชีพนี้ไหม?” NPC เปลี่ยนอาชีพไม่สนใจท่าทีของเซียวหลิงเลย แต่ถามด้วยรอยยิ้ม

“หา? อาชีพที่ทรงพลังกว่า? งั้นฉันก็เอาอาชีพนี้แหละ!” เซียวหลิงสงสัย

ซือเยี่ยจิ๋งที่อยู่ข้างหลังตกตะลึง เกิดอะไรขึ้น? นี่ไม่ใช่อาชีพลับหรอกเหรอ? ทำไมเซียวหลิงถึงเลือกได้เลยล่ะ?

เนื่องจากซือเยี่ยจิ๋งและเซียวหลิงอยู่ในปาร์ตี้เดียวกัน เธอจึงได้ยินเสียงของระบบในเวลานี้ด้วย

[ติ๊ง! เอลีน NPC เปลี่ยนอาชีพสายธาตุ มีค่าความพึงพอใจต่อไฮเนสเพิ่มขึ้น 30 หน่วย และตอนนี้กำลังชื่นชมเธอ]

“ถ้าเธอจะเปลี่ยนอาชีพเป็นนักเวทระเบิดธาตุ เธอต้องทำภารกิจทดสอบให้เสร็จก่อน ภารกิจนั้นไม่ง่าย แต่เธอสามารถขอให้เพื่อนของเธอช่วยได้” NPC เปลี่ยนอาชีพพูดต่อ

“พูดมากน่า มันก็แค่ภารกิจ ให้ท่านเซียวหลิงไปทำเร็ว ๆ ได้แล้ว” เซียวหลิงยังคงใจร้อน และไม่ได้เปลี่ยนท่าทีของเธอเลยเพราะมันเป็นภารกิจเปลี่ยนเป็นอาชีพลับ

“ตกลง! ฉันจะส่งภารกิจให้เธอ!” NPC เปลี่ยนคลาสยังคงยิ้ม

“ให้ฉันไปที่หอคอยนักเวทงั้นเหรอ? ไปกันเถอะ!”

เซียวหลิงน่าจะได้ยินข้อความแจ้งภารกิจ หลังจากตรวจดูแล้วก็พูดกับซือเยี่ยจิ๋ง

“อา? โอ้! ได้เลย! ไปกันเถอะ!” ซือเยี่ยจิ๋งจึงกลับมาจากภวังค์และตอบอย่างรวดเร็ว

จากนั้นซือเยี่ยจิ๋งมองไปที่ NPC เปลี่ยนอาชีพและเซียวหลิงผู้ที่กระตุ้นภารกิจเปลี่ยนอาชีพลับ ในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะถาม

“เซียวหลิง ค่าเสน่ห์เริ่มต้นของเธอมีเท่าไหร่?”

ในฐานะเซียนเกม ซือเยี่ยจิ๋งคุ้นเคยกับกฎของเกมเป็นอย่างดี ตามความหายากของอาชีพลับแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะกระตุ้นภารกิจได้ง่าย ๆ มิฉะนั้นอาชีพลับจะเป็นเรื่องธรรมดามาก เหตุผลเดียวก็คือมันอาจเกี่ยวข้องกับการที่ NPC เปลี่ยนอาชีพเพิ่มค่าความพึงพอใจให้กับเซียวหลิง

ค่าความพึงพอใจเริ่มต้นของ NPC เผ่ามนุษย์ที่มีต่อผู้เล่นมนุษย์คือ 60 หน่วย ซึ่งถือว่าเป็นมิตร ผู้เล่นสามารถเพิ่มมันได้เล็กน้อยโดยการทำภารกิจ แต่ถึงแม้จะเพิ่มให้เป็น 65 หรือ 70 หน่วยได้ มันก็ยังไม่สูงมากอยู่ดี

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เซียวหลิงสนทนากับที่ปรึกษา NPC ค่าความพึงพอใจก็เพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัวถึง 90 หน่วย!

อีก 10 หน่วยก็เต็มแล้ว!

มันทำให้ซือเยี่ยจิ๋งประหลาดใจ เพราะเซียวหลิงไม่ได้ทำอะไรเลย ค่าความพึงพอใจจะเพิ่มขึ้นโดยไม่มีเหตุผลได้อย่างไร แถมยังเพิ่มขึ้นเยอะมากในคราวเดียวด้วย?

ในกฎของเกม นอกเหนือจากการเพิ่มค่าความพึงพอใจของ NPC ผ่านภารกิจแล้ว วิธีเดียวก็คือขึ้นอยู่กับค่าเสน่ห์ของผู้เล่น ซึ่งค่าเสน่ห์จัดเป็นหนึ่งในค่าสถานะลับของผู้เล่น หน้าที่ของมันคือการเพิ่มค่าความพึงพอใจของ NPC และเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเรียกภารกิจลับได้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ซือเยี่ยจิ๋งจึงอดไม่ได้ที่จะถาม

“ค่าเสน่ห์? ขอคิดดูก่อนนะ เหมือนว่าจะมี 10 หน่วยล่ะ มีอะไรเหรอ? มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” เซียวหลิงคิดดูและถาม

“ไม่! ไม่มีปัญหา!”

ซือเยี่ยจิ๋งส่ายหัวทันที แม้ว่าสีหน้าของเธอจะสงบ แต่ในใจเธอกำลังตกใจมาก!

พระเจ้า! เธอได้ยินถูกหรือเปล่า? ค่าเสน่ห์เริ่มต้น 10 หน่วย? กล่าวคือ มีค่าเสน่ห์เริ่มต้นเต็ม! ช่างเป็นค่าสถานะเริ่มต้นที่น่ากลัวมาก!

เพราะเป็นค่าสถานะลับ จึงเป็นการยากที่จะเพิ่มค่าเสน่ห์ แม้ว่าตอนนี้ซือเยี่ยจิ๋งจะมีเซ็ตอาร์ติแฟกต์ของเซียวเฟิง แต่ค่าเสน่ห์ของเธอก็มีแค่ 4 ซึ่งเป็นค่าสถานะเริ่มต้นเท่านั้น ทว่าเซียวหลิงมีมันเต็มตั้งแต่เริ่มแล้ว!

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ NPC เปลี่ยนอาชีพจะมอบภารกิจเปลี่ยนเป็นอาชีพลับให้เธอ! ค่าสถานะลับของเซียวหลิงนั้นหาที่เปรียบไม่ได้จริง ๆ!

ซือเยี่ยจิ๋งหันไปมองรูปลักษณ์สวยสมบูรณ์แบบของเซียวหลิงซึ่งดูเหมือนตุ๊กตาในเทพนิยาย ทว่าสำหรับซือเยี่ยจิ๋ง เธอมีความรู้สึกเล็กน้อยว่ามันดูเหมือนปกติ

“เธอมัวทำอะไรอยู่? รีบพาท่านเซียวหลิงไปที่หอคอยนักเวทเพื่อทำภารกิจสิ”

เซียวหลิงก้าวนำไปสองสามก้าว แต่เมื่อหันกลับมาและพบว่าซือเยี่ยจิ๋งยังคงยืนนิ่งและไม่ตามมา เธอจึงพูดอย่างเอาแต่ใจ

“ฉันกำลังไป!”

ซือเยี่ยจิ๋งส่ายหัวอย่างรวดเร็วและตามไป โดยในขณะเดียวกันก็ส่งข่าวว่าเซียวหลิงมีค่าเสน่ห์ที่น่าทึ่งไปยังหลิวเฉียงเหว่ยและเฉียนโตวโตว

หอคอยนักเวทเป็นแผนที่ระดับกลาง มันไม่มีแรงกดดันสำหรับซือเยี่ยจิ๋ง แต่ตอนนี้มันดึกแล้ว ดังนั้นหลังจากที่ซือเยี่ยจิ๋งพาเซียวหลิงมาใกล้แผนที่ภารกิจ ทั้งสองก็หาโรงแรมแห่งหนึ่งและออกจากระบบ

แม้ว่าเซียวหลิงจะไม่เต็มใจ แต่เนื่องจากข้อจำกัดของระบบ เธอจึงต้องออกจากระบบ เพราะในฐานะผู้เล่นเยาว์ชน เธอสามารถเล่นได้มากที่สุดเพียงสิบสองชั่วโมงต่อวัน เมื่อคืนเธอเข้าระบบตอนหกโมงเย็น ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเช้า ดังนั้นเธอจึงต้องออกจากระบบแม้ว่าจะลังเลใจมากก็ตาม

“ว้าว! น้องเซียวหลิง เธอสุดยอดมาก!”

ทันทีที่เซียวหลิงออกจากห้อง เธอถูกเฉียนโตวโตวซึ่งวิ่งมาจากด้านข้างกอดและพูดด้วยความตื่นเต้นอย่างมาก

“ฮึ! แน่นอน เพราะว่าท่านเซียวหลิงเก่งที่สุดในโลก! ไม่ต้องย้ำหรอก! ปล่อยมือเถอะ ท่านเซียวหลิงหายใจไม่ออกแล้ว” เซียวหลิงพอใจกับปฏิกิริยาของเธอมาก ก่อนตอบกลับอย่างไม่สุภาพ

“เฮ้ ฉันหมายถึงค่าสถานะของเซียวหลิงในเกมน่ะ ค่าเสน่ห์เริ่มต้นเต็มจริง ๆ! มันมีประโยชน์มาก! คืนนี้เธอช่วยฉันหน่อยได้ไหม” เฉียนโตวโตวยิ้มขณะที่ลูบหัวของเธอ และปล่อยมือของตนเองออกอย่างรวดเร็ว

“ท่านเซียวหลิงเห็นอกเห็นใจในความยากลำบากของบ่าวไพร่เป็นบางครั้งอยู่แล้ว หากมีปัญหาใดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ปล่อยให้ท่านเซียวหลิงจัดการเอง!” เซียวหลิงกล่าวอย่างหยิ่งผยอง

“งั้นเป็นอันตกลงแล้วนะ! น้องเซียวหลิงน่ารักมาก!” เฉียนโตวโตวเกือบจะกระโดดตัวลอยและอดหอมแก้มเซียวหลิงไม่ได้

“ฮึ่ม! ช่างเป็นแม่บ้านที่หยาบคายจริง! คงจะดีถ้าคนใช้ชายหยาบคายแบบนี้บ้าง!” เซียวหลิงรู้สึกรังเกียจและเช็ดใบหน้าอันบอบบางของเธอขณะนึกถึงบางอย่างและบ่นพึมพำ

“ไปกันเถอะ! น้องเซียวหลิง ไปกินข้าวเช้ากันเถอะ!” เฉียนโตวโตวซึ่งแต่เดิมก็ชมเซียวหลิงอยู่ ตอนนี้เธอเกือบจะอุ้มเซียวหลิงขึ้น

“ฮึ่ม!” เซียวหลิงสะบัดผมทวิลเทลอย่างภาคภูมิใจ และลงไปชั้นล่างก่อน ขณะที่เฉียนโตวโตวตามหลังไปติด ๆ

หลิวเฉียงเหว่ยและซือเยี่ยจิ๋งซึ่งออกมาทีหลัง มองเหตุการณ์อย่างครุ่นคิดและดูเหมือนจะหาทางแก้ไขเพื่อรับมือเซียวหลิง

“เคอเค่อ เสร็จแล้วมานั่งด้วยกันนะ”

เฉียนโตวโตวทักทายหนิงเคอเค่อที่ออกมาจากห้องครัวพร้อมกับขนมปังปิ้ง

“อ่า ค่ะ…คุณโตวโตว”

หนิงเคอเค่อในชุดเมดขาวดำส่ายตัว แล้วก้มหน้าพึมพำ แม้ว่าเธอจะอาศัยอยู่ในวิลล่ากับพวกเขามานานแล้ว แต่เธอก็ไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยที่เหมือนกระต่ายน้อยของเธอได้

“เคอเค่อ เมื่อคืนเธอได้เล่นเกมแล้วหรือยัง?” เฉียนโตวโตวถามอีกครั้ง

“ยัง ยังไม่…” หนิงเคอเค่อตอบอย่างระมัดระวัง

“ถ้าเธอมีเวลาก็เข้ามาเล่นได้เลย โลกของเกมนั้นน่าสนใจมากนะ ไม่งั้นเธอจะเบื่อเพราะอยู่ในวิลล่าทั้งวัน” เฉียนโตวโตวกล่าว

“มัน…มันไม่น่าเบื่อหรอกค่ะ…นายท่านและทุกคนในวิลล่าใจดีกับฉันมาก…ฉันรู้สึกขอบคุณ…และทุกวันก็มีการทำความสะอาด ซักผ้า ทำอาหาร และหลายอย่างให้ทำ…มันไม่น่าเบื่อเลย…” หนิงเคอเค่อกระซิบ

“พูดสั้น ๆ ถ้าเธออยากเล่นเกม ก็ใช้หมวกเกมที่ฉันซื้อมาให้เธอเล่นซะ อย่าลืมเพิ่มฉันเป็นเพื่อนด้วยถ้าเธอเข้าเกมมาแล้ว” เฉียนโตวโตวส่ายหัว

“ค่ะ…ค่ะ…” หนิงเค่อกระซิบกระซาบ

“ทำไมเอเรบัสยังไม่ลงมาล่ะ? เธอยังอยู่ในเกมหรือเปล่า” หลิวเฉียงเหว่ยมีความอยากอาหารเพียงน้อยนิด ขนมปังครึ่งชิ้นก็เพียงพอสำหรับเธอแล้ว หญิงสาววางถ้วยนมร้อนลง มองขึ้นไปชั้นบนแล้วถาม

“ฉันโทรหาเธอก่อนที่ฉันจะออกจากระบบแล้ว แต่เธอบอกว่ายุ่งอยู่กับการเก็บเลเวลและเราไม่จำเป็นต้องรอเธอ” เฉียนโตวโตวตอบกลับ

“เอเรบัส…และคนของเธอทำงานหนักเกินไปแล้ว พวกเขาอยู่ในเกมนานขนาดไหนกัน? ตอนนี้เลเวลของพวกเขาทั้งหมดเกิน 20 ไปแล้ว” หลิวเฉียงเหว่ยส่ายหัว

“คนพวกนั้นน่าจะไม่ธรรมดา” ซือเยี่ยจิ๋งวางแก้วลงและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ตอนที่เธอและหลิวเฉียงเหว่ยไปต้อนรับพวกเขา พวกเธอก็ต้องประหลาดใจกับกลิ่นอายที่เย็นชาของคนเหล่านั้น

“พวกเขาเป็นเพื่อนเก่าพี่เซียว ดังนั้นพวกเขาก็น่าจะมาจากที่เดียวกัน ว่ากันว่ามันเป็นสถานที่ที่น่ากลัวมาก” หลิวเฉียงเว่ยพูดด้วยเสียงต่ำ

“พี่เซียว… ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าพี่เซียวเคยเจออะไรมาก่อน เขาไปมีอะไรเกี่ยวข้องกับสถานที่เลวร้ายแบบนั้นได้ยังไง? เมื่อวานนี้ฉันลองถามเอเรบัสแล้ว แต่ฉันก็ไม่ได้อะไรเลย” เฉียนโตวโตวถอนหายใจ

เกิดความเงียบขึ้นบนโต๊ะไปซักพักหลังคำถามดังกล่าว