Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]บทที่ 389 ชุดพรแห่งทวยเทพ

Now you are reading Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] Chapter บทที่ 389 ชุดพรแห่งทวยเทพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 389 ชุดพรแห่งทวยเทพ

บทที่ 389 ชุดพรแห่งทวยเทพ

“ท่านหมายถึงคลังแสงสินะครับ? ถึงแม้ว่ามันจะได้รับความเสียหายค่อนข้างรุนแรง แต่ข้าว่ามันยังพอมีของที่ใช้ได้อยู่ ถ้ายังไงท่านอาร์คบิชอปยังต้องการมันอยู่ไหมครับ?” โจลีฟคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกไป

“ต้องการสิ…พาฉันไปดูหน่อย” เซียวเฟิงพยักหน้าอย่างไม่ลังเล

“เช่นนั้นแล้ว เชิญตามข้ามาได้เลยครับ ท่านอาร์คบิชอป” เมื่อเซียวเฟิงมั่นใจ บิชอปโจลีฟก็ไม่พูดมากให้เสียเวลา เขาเดินนำอาร์คบิชอปหนุ่มไปยังคลังแสงเก็บอาวุธทันที

คลังแสงที่ว่าเสียหายนั้น มีสภาพไม่ต่างอะไรกับห้องเก็บฝุ่นไปแล้ว ภายในนั้นมีชั้นวางของอยู่มากมาย แต่อุปกรณ์หรือสิ่งของที่อยู่บนนั้นก็เป็นเพียงของทั่ว ๆ ไป ที่ดูจะโดดเด่นกว่าใครเพื่อนก็เห็นจะเป็นชุดเกราะอัศวินทั้งสองชุดที่วางอยู่คู่กันด้านในสุด

ทว่าทันทีที่เดินเข้ามา แววตาของเซียวเฟิงก็เปล่งประกายแสงสะท้อนแวววาวขึ้นมาทันที เพราะชุดเกราะอัศวินทั้งสองชุดที่อยู่ด้านในสุดนั้น มันกำลังเปล่งแสงสีขาวออกมาจากตัวมันเองอยู่!

นี่มัน…อุปกรณ์ระดับเทพเจ้า!

มันเป็นแสงที่จะเปล่งออกมาจากอุปกรณ์ระดับเทพเจ้าเท่านั้น! แล้วนี่มันยังเปล่งออกมาจากทั้งชุดเลยด้วย!

“สิ่งนี้เคยเป็นของหัวหน้าภาคีพาลาดินน่ะครับ เขาทิ้งมันไว้ที่นี่ก่อนที่ตัวเขาจะตายในสงครามศักดิ์สิทธิ์ ถ้าหากท่านอาร์คบิชอปต้องการมันล่ะก็ เชิญนำไปใช้ได้เลย”

บิชอปโจลีฟแนะนำชุดสูทขณะที่เขาก็รำลึกความหลังไปด้วย ดูเหมือนว่าเจ้าของชุดเกราะเหล่านี้ น่าจะเป็นเป็นคนสนิท

“ถ้างั้นขอยืมก่อนก็แล้วกันนะ”

ด้วยธรรมชาติของเซียวเฟิงย่อมไม่สามารถอดกลั้นความกระหายในความแข็งแกร่งของชุดเกราะตรงหน้าได้อยู่แล้ว เขาเดินตรงไปยังชุดนั้นแล้วเริ่มตรวจสอบคุณสมบัติของมัน มันเป็นชุดเกราะหกชิ้นแบบใส่ทั้งตัว และทุกชิ้นก็เป็นระดับเทพเจ้าเหมือนกันหมด!

หมวกพรแห่งทวยเทพ

ระดับ : เทพเจ้า

ประเภทของอุปกรณ์ : ชิ้นเกราะส่วนหมวก

เลเวลของอุปกรณ์ : 50

ข้อจำกัดการใช้งานอุปกรณ์ : มีค่าความแข็งแกร่งของจิตใจสูงกว่า 200 หน่วย

สถานะ :

ความแข็งแกร่ง +80

ความว่องไว +80

ค่าร่างกาย +80

ค่าจิตวิญญาณ +100

ค่าพลังเวท +80

พิเศษ :

เทพเจ้า : อนุญาตให้ผู้สวมใส่เลเวลเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่สนเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ แต่ทุก ๆ เลเวลที่ต่ำกว่าเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ จะทำให้ค่าสถานะโบนัสลดลง 10%

เกราะไหล่พรแห่งทวยเทพ

ระดับ : เทพเจ้า

ประเภทของอุปกรณ์ : เกราะไหล่

เลเวลของอุปกรณ์ : 50

ข้อจำกัดของอุปกรณ์ : มีค่าความแข็งแกร่งทางจิตสูงกว่า 200 หน่วย

สถานะ :

โอกาศโจมตีโดน +20%

ค่าความแข็งแกร่ง +80

ค่าความว่องไว +80

ค่าร่างกาย +80

ค่าจิตวิญญาณ +100

ค่าพลังเวท +80

พิเศษ :

เทพเจ้า : อนุญาตให้ผู้สวมใส่เลเวลเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่สนเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ แต่ทุก ๆ เลเวลที่ต่ำกว่าเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ จะทำให้ค่าสถานะโบนัสลดลง 10%

เกราะมือพรแห่งทวยเทพ

ระดับ : เทพเจ้า

ประเภทของอุปกรณ์ : ชิ้นส่วนเกราะมือ

เลเวลของอุปกรณ์ : 50

ข้อจำกัดของอุปกรณ์ : มีค่าความแข็งแกร่งทางจิตสูงกว่า 200 หน่วย

สถานะ :

ค่าความแข็งแกร่ง +80

ค่าความว่องไว +80

ค่าร่างกาย +80

ค่าจิตวิญญาณ +100

ค่าพลังเวท +80

พิเศษ :

เทพเจ้า : อนุญาตให้ผู้สวมใส่เลเวลเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่สนเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ แต่ทุก ๆ เลเวลที่ต่ำกว่าเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ จะทำให้ค่าสถานะโบนัสลดลง 10%

เกราะพรแห่งทวยเทพ

ระดับ : เทพเจ้า

ประเภทของอุปกรณ์ : ชุดเกราะ

เลเวลของอุปกรณ์ : 50

ข้อจำกัดของอุปกรณ์ : มีค่าความแข็งแกร่งทางจิตสูงกว่า 200 หน่วย

สถานะ :

พลังป้องกันกายภาพ +100

พลังป้องกันเวทมนต์ +100

ค่าความแข็งแกร่ง +100

ค่าความว่องไว +100

ค่าร่างกาย +100

ค่าจิตวิญญาณ +120

ค่าพลังเวท +100

พิเศษ :

เทพเจ้า : อนุญาตให้ผู้สวมใส่เลเวลเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่สนเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ แต่ทุก ๆ เลเวลที่ต่ำกว่าเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ จะทำให้ค่าสถานะโบนัสลดลง 10%

เข็มขัดพรแห่งทวยเทพ

ระดับ : เทพเจ้า

ประเภทของอุปกรณ์ : ชิ้นส่วนเกราะ – เข็มขัด

เลเวลของอุปกรณ์ : 50

ข้อจำกัดของอุปกรณ์ : มีค่าความแข็งแกร่งทางจิตสูงกว่า 200 หน่วย

สถานะ :

โอกาสในการหลบหลีก +20%

ค่าความแข็งแกร่ง +80

ค่าความว่องไว +80

ค่าร่างกาย +80

ค่าจิตวิญญาณ +100

ค่าพลังเวท +80

พิเศษ :

เทพเจ้า : อนุญาตให้ผู้สวมใส่เลเวลเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่สนเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ แต่ทุก ๆ เลเวลที่ต่ำกว่าเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ จะทำให้ค่าสถานะโบนัสลดลง 10%

รองเท้าพรแห่งทวยเทพ

ระดับ : เทพเจ้า

ประเภทของอุปกรณ์ : ชิ้นส่วนเกราะ – รองเท้า

เลเวลของอุปกรณ์ : 50

ข้อจำกัดของอุปกรณ์ : มีค่าความแข็งแกร่งทางจิตสูงกว่า 200 หน่วย

สถานะ :

ความเร็วในการเคลื่อนที่ +20%

ค่าความแข็งแกร่ง +80

ค่าความว่องไว +80

ค่าร่างกาย +80

ค่าจิตวิญญาณ +100

ค่าพลังเวท +80

พิเศษ :

เทพเจ้า : อนุญาตให้ผู้สวมใส่เลเวลเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่สนเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ แต่ทุก ๆ เลเวลที่ต่ำกว่าเลเวลที่อุปกรณ์กำหนดไว้ จะทำให้ค่าสถานะโบนัสลดลง 10%

ชุดเกราะเต็มตัวครบทุกชิ้นระดับเทพเจ้าเลเวล 50 ด้วยคุณสมบัติของเกราะเซ็ตนี้กลับทำให้เซียวเฟิงต้องรู้สึกงุนงง

ถึงแม้ว่าค่าสถานะพื้นฐานของมันจะเหมาะสมกับการเป็นอุปกรณ์ระดับเทพเจ้าก็จริง…แต่พวกมันกลับไม่มีสกิลมาเลยสักชิ้นเดียว!

หากจะให้พูดง่าย ๆ ก็คือ ชุดเกราะเหล่านี้เป็นเพียงอุปกรณ์ขั้นพื้นฐาน คล้ายกับอุปกรณ์ที่เปิดให้แลกได้จากอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ล่าสมบัติ ครั้งนั้น มันมีเพียงค่าสถานะที่สมเป็นอุปกรณ์ในระดับนั้น ๆ แต่ไม่มีสกิลหรือเอฟเฟกต์เฉพาะตัวอะไรเลย!

ซึ่งชุดอุปกรณ์ที่ระบบเปิดให้แลกด้วยแต้มความสำเร็จจากร้านค้าระบบเองก็เช่นกัน มันมีแค่ค่าสถานะที่ดูโดดเด่น แต่ก็แค่นั้น ไม่มีสกิล ไม่มีเอฟเฟกต์เพิ่มเติม

ดังนั้นแล้ว อุปกรณ์เหล่านี้จะเป็น NPC ทหาร ที่จะใช้มันกัน เพราะพวกเขาไม่ต้องคำนึงถึงสกิลหรือเอฟเฟกต์อุปกรณ์อะไร แต่สำหรับผู้เล่นนั้น มันก็ค่อนข้างจะไร้ประโยชน์มากเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าค่าสถานะที่ชุดระดับเทพเจ้ามอบให้นี้จะถือว่าสูงมาก ๆ และสามารถพูดได้ว่ามันน่าเกรงขามสุด ๆ แต่ปัญหาของมันก็ยังมีเรื่องอื่นอีก อย่างการที่มันเป็นชุดเทพเจ้าที่เลเวลสูงถึง 50 เลย!

ต่อให้เซียวเฟิงจะสามารถสวมใส่มันได้เพราะเขามีค่าความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณสูงถึงระดับที่อุปกรณ์ต้องการ ปัญหามันก็ยังอยู่ที่เลเวลของอุปกรณ์อยู่ดี

ในตอนนี้ค่าจิตวิญญาณของเซียวเฟิงที่ไม่ได้สวมอุปกรณ์มันมีมากถึง 190 หน่วย และเมื่อสวมใส่อุปกรณ์ทั่ว ๆ ไปสักชิ้นหรือสองชิ้นแล้ว ค่าความแข็งแกร่งทางจิตของเขาจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 250 หน่วยเลยทีเดียว มันเพียงพอที่จะทำให้เขาสวมชุดนี้ได้ง่าย ๆ

ย้อนกลับมาที่ปัญหาเรื่องเลเวล ชุดสูทอุปกรณ์ระดับเทพเจ้านี้จะยินยอมให้สวมได้ แต่ก็แลกมาด้วยการหักลบกับเลเวลที่ต่ำกว่าเลเวลที่กำหนดไว้ ซึ่งนั่นก็คือ…ต่ำกว่าเลเวล 50

หากผู้สวมใส่เลเวลไม่ถึงตามที่กำหนด ค่าสถานะโบนัสของอุปกรณ์ทุกชิ้นในเซ็ตนี้จะลดลงอีก 10 ดังนั้นถ้าผู้สวมใส่เลเวลต่ำกว่า 10 เลเวลอุปกรณ์เซ็ตนี้ก็จะไม่ช่วยเพิ่มค่าสถานะอะไรเลย…

เลเวลปัจจุบันของเซียวเฟิงนั้นคือ 36 ซึ่งต่ำกว่าเลเวลที่ระบุไว้ถึง 14 เลเวล ดังนั้นแล้วชุดเกราะนึ้จึงไม่ได้ช่วยเพิ่มค่าสถานะอะไรให้เลย การสวมใส่มันไม่ต่างอะไรกับเดินตัวเปล่า ค่าสถานะที่ได้ก็ไม่ได้สูงเทียบเท่าเลเวลอุปกรณ์เลยจริง ๆ

“ช่างมัน ยังไงก็คงต้องใช้ไปก่อน…”

เซียวเฟิงแสดงสีหน้าหนักใจขึ้นมา แต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เขาทำได้แต่เพียงกลั้นหายใจและสวมชุดเซ็ตพรแห่งทวยเทพนี้ลงไป ยังไงเสียระดับมันก็สูงถึงเทพเจ้า เมื่อเลเวลของชายหนุ่มเพิ่มขึ้น เดี๋ยวค่าสถานะมันก็กลับมาดังเดิม และเมื่อเขาถึงเลเวลที่อุปกรณ์ร้องขอ ตัวเองก็จะไร้เทียมทาน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีเทียบเท่ากับชุดเกราะมังกรก็ตาม

อุปกรณ์ที่อยู่ในคลังแสงแห่งนี้ต่างก็มีเลเวล 50 กันหมด และจากการเดินสำรวจวนไปสองรอบแล้ว เซียวเฟิงก็ยังไม่ได้เครื่องประดับหรืออาวุธที่ตัวเองพอจะใช้ได้ เพราะงั้นเขาจึงได้แต่ตัดใจจากสิ่งเหล่านี้ที่นี้

[เพื่อนของท่าน หลีเซียนหยุน โทรเข้ามา รับสายหรือปฏิเสธ?]

เสียงของระบบดังขึ้น ณ ตอนนั้น ซึ่งเซียวเฟิงก็ไม่รอช้าที่จะรับสายเพราะเผื่อว่าตนเองได้ยินข่าวดีอะไรบ้าง

“นายท่าน อยู่ไหนน่ะ?” ทันทีที่รับโทรศัพท์ เสียงของหลีเซียนหยุนที่หวานจ้อยก็ดังสวนมาทันที

“ที่ที่เธอบอกฉันเอาไว้ หุบเขาอาทิตย์ตก มีอะไรหรือเปล่า?” เขาตอบอย่างว่าง่าย

“มีคนของกิลด์พวกเราเจอวิหารแห่งแสงอยู่ในหุบเขาอาทิตย์ตก! นายท่านต้องการหาวิหารแห่งแสงเพื่อสำเร็จภารกิจใช่ม้า? แล้วตอนนี้หาเจอหรือยัง? ถ้ายังเดี๋ยวฉันจะนำทางให้เอง!” หลีเซียนหยุนรีบถาม

“หืม? เธอเจอวิหารแห่งแสงแล้วเหรอ? เจอที่ไหน? ใช่ที่อยู่ด้านในสุดของหุบเขาอาทิตย์ตกหรือเปล่า?”

เซียวเฟิงแข็งทื่อไปทันที เพราะเขาเห็นกับตาตนเองว่าเลเวลของมอนสเตอร์ภายในหุบเขาอาทิตย์ตกนี้ไม่ใช่ต่ำ ๆ เลย ดังนั้นไม่มีทางที่ผู้เล่นทั่วไปจะสามารถเข้ามา ณ ที่แห่งนี้ได้แน่ ๆ

“ไม่ใช่ พวกเราเจอจุดเทเลพอร์ตอยู่ที่ด้านหน้าทางเข้าหุบเขาอาทิตย์ตก หลังจากที่สั่งใช้งานมันแล้ว มันจะสามารถเทเลพอร์ตเราไปที่วิหารแห่งแสงได้เลย รับมาเร็วนายท่าน! ไม่งั้นเดี๋ยวผู้เล่นคนอื่นจะพากันมาก่อนนะ!”

น้ำเสียงของหลีเซียนหยุนเริ่มฟังดูเร่งเร้ามากขึ้น พร้อมกับเสียงของผู้คนจอแจที่ดังมาจากฝั่งของเธอ

“เข้าใจแล้ว ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ”

เซียวเฟิงขมวดคิ้วช้า ๆ และวางสาย เขาหันกลับไปหาบิชอปโจลีฟแล้วกล่าวถาม “ท่านบิชอปโจลีฟ ที่ด้านหน้าทางเข้าหุบเขาอาทิตย์ตกมีจุดสำหรับเคลื่อนย้ายอยู่ด้วยงั้นเหรอ?”

“ไม่มีนะครับ แท่นเคลื่อนย้ายของวิหารพวกเราถูกปิดไปเมื่อนานมาแล้ว มันไม่ได้ถูกสั่งใช้อย่างน้อย ๆ ก็หลักพันปีขึ้นแล้วครับ อีกทั้งด้วยพลังแห่งทวยเทพที่ยังเหลืออยู่ตอนนี้ การใช้พลังเคลื่อนย้าย ไปได้ไกลสุดก็แค่ปากทางเข้าหุบเขาอาทิตย์ตกเท่านั้นเองครับ แถมไปแล้วกลับไม่ได้ด้วย” บิชอปโจลีฟอธิบาย

“จริงเหรอเนี่ย? ถ้างั้นเห็นทีคงจะมีอะไรสนุก ๆ ให้ทำกันแล้ว” เซียวเฟิงผลิยิ้มออกมาในทันทีหลังจากรับรู้ความจริงเรื่องนี้

ที่ด้านนอกทางเข้าหุบเขาอาทิตย์ตกนั้น เป็นพื้นที่โล่งกว้าง และมันก็เป็นอย่างที่หลีเซียนหยุนพูดไว้ ที่แห่งนี้ตอนนี้มีผู้เล่นอยู่เต็มไปหมด กลุ่มคนเหล่านี้เหมือนคนดีและคนเลวปะปนรวม ๆ กันไป เพราะถ้าสังเกตให้ดี จะพบว่าผู้เล่นมากมายที่ดูวุ่นวายไปทั่วภูเขาที่ควรจะกระจายตัวกันไปกลับไม่ได้กระจายตัวกันไปไหนเลย พวกเขาวนไปเวียนมาอยู่ที่เดิม เป็นความวุ่นวายที่เป็นระเบียบ

และสิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นเหล่านี้มีเหมือนกันก็คือ พวกเขาเหล่านี้ไม่มีชื่อกิลด์ หรือควรจะบอกว่า…ชื่อกิลด์ของพวกเขาถูกซ่อนเอาไว้ดี?

“นายท่าน มาถึงแล้วเหรอ? อ้อ ใช่แล้ว มีผู้เล่นมากมายที่มารวมตัวกันเพราะภารกิจลับของวิหารแห่งแสงนั่นแหละ นายท่านเข้ามาไม่ได้เหรอ? ถ้างั้นตอนนี้อยู่ไหนแล้ว เดี๋ยวฉันไปรับมาเดี๋ยวนี้เลย ”

ท่ามกลางความวุ่นวายที่สงบสุขนี้ หลีเซียนหยุนกำลังยืนอยู่ด้านหน้าวงเวทขนาดใหญ่ หลังจากที่วางสายจากเซียวเฟิงแล้ว เธอก็กัดฟันแล้ววิ่งออกจากที่นี่ไป เพื่อตรงไปยังจุดที่เซียวเฟิงส่งที่อยู่ไปให้และรับเขามา

ตอนนี้เซียวเฟิงอยู่ที่ด้านนอกหุบเขาอาทิตย์ตก และภาพผู้คนที่มากมายกันนั้นทำให้เซียวเฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนเหล่านี้ไม่ใช่น้อย ๆ กันเลย อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะมีถึงหมื่นคนแน่ ๆ นั่นเพราะถ้าเทียบจำนวนผู้เล่นระหว่างเขตฮันกึลที่ซึ่งเทียบไม่ติดกับเขตฮัวเซียแล้วนั้น การที่มีผู้เล่นกว่าหมื่นคนมารวมกันได้ มันต้องเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ

“เรียงแถวกันดี ๆ สิวะ!”

“เลิกดันดิ๊!”

“ให้พวกฉันเข้าไปนะโว้ย!”

เสียงผู้คนทะเลาะกันดังขึ้นมาจากด้านหลังของเซียวเฟิง เมื่อเขาหันกลับไปดู ก็พบว่าผู้คนเหล่านั้นต่างเป็นคนที่เขาเคยพบหน้ามาก่อนหน้านี้ พวกเขากำลังยื่นหน้ายื่นตาและมองมายังวงแหวนเวทมนตร์พลางตะโกนด้วยความอยากเข้าไปข้างใน

“หือ? นาย?”

เพราะเซียวเฟิงยืนอยู่หน้าคนเหล่านี้ ยามเมื่อเจ้าตัวหันหลังกลับไปมอง พวกเขาถึงได้เห็นว่าเซียวเฟิงมาถึงที่นี่แล้ว

เซียวเฟิงจำได้เป็นอย่างดีว่าคนพวกนี้คือคนที่มาจากปาร์ตี้ที่ตัวเองเจออยู่ด้านหน้าร้านขายยาภายในเมืองเซียนรี่ ซึ่งคนเหล่านี้เคยชวนเซียวเฟิงเข้าปาร์ตี้สำหรับพิชิตดันเจี้ยนเลเวล 25 อยู่ หลังจากที่โดนเซียวเฟิงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมปาร์ตี้ พวกเขาก็รู้สึกว่าเซียวเฟิงไม่ไว้หน้าพวกเขาเลย

“เฮ้ ทำไมทุกคนถึงมาอยู่ที่นี่ นายรู้บ้างหรือเปล่า?” นักธนูที่อยู่ในปาร์ตี้นั้นถามเซียวเฟิงหลังจากที่เขาจำเซียวเฟิงได้ เช่นเดิม เขายังคงไม่สุภาพเหมือนเคย

“ก็ต้องรู้สิ พวกเขามาที่นี่ก็เพื่อทำภารกิจลับกันยังไงล่ะ” เซียวเฟิงยิ้มแย้มราวกับไม่ได้ไม่พอใจกับน้ำเสียงที่อีกฝ่ายพูดแต่อย่างใด

“หา!? ภารกิจลับงั้นเหรอ! ภารกิจลับอะไรน่ะ!?” ทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘ภารกิจลับ’ ผู้เล่นทุกคนในปาร์ตี้นั้นก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วหันมองเซียวเฟิงอย่างพร้อมเพรียงกันทันที

“เห็นว่าจะเกี่ยวกับคลาสลับนะ” เซียวเฟิงพูดเปรยอีกครั้ง

“เฮ้ย!? คลาสลับด้วยเหรอ! นายรู้หรือเปล่าว่าต้องไปรับภารกิจนั้นจากที่ไหน?” เมื่อรู้แล้วว่าต้นเหตุมาจากอะไร ไม่สนว่าจริงหรือไม่จริง พวกเขาต่างก็ตื่นเต้นและอยากได้ข้อมูลเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

“รับที่โบสถ์เล็ก ๆ ที่อยู่บนทางเดินทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเซียนรี่น่ะ ไปที่นั่นแล้วก็รับเอาจาก NPC แม่ชีที่อยู่ข้างใน คุยกับเธอดี ๆ ล่ะ” รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเฟิงนั้นดูเป็นมิตรสุด ๆ

“จริงเหรอ? นายไม่ได้โกหกพวกเราใช่ไหม?” ใครสักคนหนึ่งเกิดสงสัยขึ้นมา

“เชิญพวกนายไปแล้วดูด้วยตาตัวเอง แต่ฉันจะบอกไว้สักหน่อยก็แล้วกัน…ไม่ใช่ทุกคนจะรับภารกิจลับนี้ทันหรอกนะ นายเองก็น่าจะเห็นแล้วว่ามีผู้คนมากมายขนาดไหนที่มาที่นี่เพื่อให้ตัวเองเสร็จภารกิจ ถ้านายไม่รีบ นายอาจจะพลาดโอกาสไปก็ได้นา” น้ำเสียงที่พูดลอย ๆ นั้นเหมือนกับว่าเซียวเฟิงไม่ได้สนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะเชื่อหรือไม่เชื่อ

“ไป! กลับไปที่เมืองแล้วไปรับภารกิจกันเดี๋ยวนี้เลย!” ผู้เล่นหลายคนกัดฟันแน่นก่อนจะตัดสินใจหยิบคัมภีร์เมืองเพื่อใช้มันเทเลพอร์ตกลับไปยังเมืองต้น และเพียงไม่นาน ผู้เล่นมากมายก็กลายเป็นกลุ่มแสงแล้วหายวับไป

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *