Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]บทที่ 431 ของรางวัลสุดหรูหรา

Now you are reading Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] Chapter บทที่ 431 ของรางวัลสุดหรูหรา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 431 ของรางวัลสุดหรูหรา

บทที่ 431 ของรางวัลสุดหรูหรา

“เป็นแค่ขยะจากอเมริกาใต้ คิดว่ามีค่าพอจะสู้กับเขตฮันกึลของพวกฉันได้หรือไง?”

“คิดว่าเป็นเขตยุโรปแล้วจะเป็นคู่ต่อสู้ให้ฮันกึลได้เหรอวะ?”

“นี่ในเขตตงหยิงมีแต่ขยะแบบแกหรือเปล่าเนี่ย? ถ้าเป็นในเขตฮันกึลของฉันล่ะก็ ต่อให้เป็นที่โหล่ของตารางก็กระทืบแกได้ไม่ยากเลยนะ!”

….

ในส่วนของแปดเกมที่เหลือ เซียวเฟิงสามารถจบเกมได้อย่างรวดเร็ว และทุกเกมเขาก็ไม่ลืมที่จะป่วนประสาทฝ่ายที่แพ้ไปด้วย ทั้งหมดนี่ก็เพราะเขตฮันกึลโดยเฉพาะ

ผลลัพธ์ที่ได้นั้นค่อนข้างเร็วพอ ๆ กับจรวดที่พุ่งสู่ชั้นบรรยากาศในเวลาอันสั้นเลย เพราะการที่เซียวเฟิงจัดการเกมของตนได้อย่างรวดเร็วนั้น มันทำให้เขามีเวลาหันไปดูสนามประลองข้าง ๆ ซึ่งยังคงประลองกันอยู่ หนึ่งในผู้ที่กำลังประลองอยู่ใกล้ ๆ เซียวเฟิงนั้นคือผู้เล่นที่มาจากเขตฮันกึล เขาคือ หานชิวเฟิง ที่เคยมีเรื่องบาดหมางกับเซียวเฟิงมาก่อนหน้า

ชัดเจนเลยว่าหานชิวเฟิงนั้นโชคไม่ดีเอาเสียเลย เพราะคู่ต่อสู้ของเขานั้น คือคนที่ถูกเซียวเฟิงกำจัดไปก่อนหน้า แถมยังโดนเยาะเย้ยใส่อีก ดังนั้นหานชิวเฟิงจึงกลายเป็นเหยื่ออารมณ์ของคน ๆ นี้ทันทีที่การประลองเริ่ม เขาไม่ออมมือหรือเก็บไม้ตายลับไว้ใช้แต่อย่างใด

ตลอดเก้าเกมที่เซียวเฟิงประลอง ไม่มีคู่ต่อสู้รอบไหนที่มาจากเขตเดียวกันเลย เพราะเหตุนี้จึงมีเขตต่าง ๆ มากมายถึงเก้าเขตที่ถูกเซียวเฟิงปั่นหัวไว้ ไม่เว้นแม้แต่เขตที่ถูกยกย่องว่าเป็นอันดับ 1 ของทุกเซิร์ฟเวอร์เองก็ยังโดนไปด้วย เช่นนั้นแล้ว สิ่งที่เซียวเฟิงปลุกปั่นไว้นั้น กำลังทำให้เหล่าผู้เล่นจากเขตฮันกึลเจอกับวันแย่ ๆ กันเสียแล้ว

[ประกาศจากอีเวนต์! แมตช์โปรโมชันของอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ชิงชัยได้จบลงแล้ว! อันดับผู้เล่นจะถูกประกาศตามมาในภายหลัง มีเพียงผู้เล่น 128 อันดับแรกเท่านั้นที่จะได้เข้าสู่แมตช์ไฟนอล!]

[ท่านได้อันดับที่ 2 ในแมตช์โปรโมชัน ดังนั้น ยินดีด้วย! ท่านได้ผ่านไปสู่แมตช์ไฟนอล!]

เสียงของระบบประกาศขึ้นเพื่อเป็นการสิ้นสุดแมตช์โปรโมชัน แต่สิ่งที่ทำให้เซียวเฟิงตกใจนั่นคืออันดับของเขาต่างหาก เขาได้อันดับที่ 2 ทั้ง ๆ ที่คิดว่าตัวเองน่าจะได้อันดับ 1 แล้วแท้ ๆ บางทีอาจจะเป็นเพราะเกมที่สู้กับซือเยี่ยจิ๋ง เพราะเกมนั้นเขาใช้เวลาจนกระทั่งหมดไป ถ้าเป็นแบบนั้นแสดงว่าแมตช์ก่อนหน้านี้มีผู้ที่สามารถชนะรวดสิบเกมได้เป็นจำนวนมาก ไม่เพียงแค่เซียวเฟิง และเป็นไปได้อีกว่าอันดับที่ 1 นั้นจะต้องเป็นคนที่เก็บชัยชนะสิบเกมได้เร็วกว่าเขาอย่างเทพเจ้าสายฟ้า

[ประกาศจากระบบ! สนามแข่งกำลังเริ่มปรับภูมิประเทศใหม่ ผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมแมตช์ไฟนอลจะสามารถพักได้ 30 นาที หลังจากหมดเวลาพักแล้ว ระบบจะทำการประกาศกฎกติของแมตช์ไฟนอล]

แสงสว่างสีขาวปรากฏขึ้นจนผู้ผ่านเข้ารอบทุกคนต้องหลับตา และเมื่อลืมตามาอีกครั้ง เซียวเฟิงกับผู้เข้าแข่งขันอีกกว่าร้อยคนก็ถูกเทเลพอร์ตออกมาที่ด้านนอกสนามประลองเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาอยู่ในเขตปลอดภัย ดังนั้นจึงไม่สามารถก่อเรื่องกันในเขตนี้ได้

ขณะเดียวกันนั้นเอง ทางด้านสนามประลองภายในจุดแข่งขันก็เริ่มทยอยจมลงไปในพื้นดินทีละแห่ง จากนั้นพื้นที่ก็เริ่มสั่นสะเทือนพร้อมกับคลายสนามประลองขนาดใหญ่สี่แห่งกระจายไปอยู่สี่มุมของเกาะชิงชัยช้า ๆ

“โอ้ กะแล้วว่านายต้องผ่านมาได้”

ในตอนนั้น เซียวเฟิงรับรู้ได้ถึงแววตาที่ลุกโชติช่วงไปด้วยเปลวเพลิงกำลังจ้องมองเขาจากด้านหลัง

และเมื่อชายหนุ่มหันกลับไป ก็พบว่าเจ้าของสายตานั้นคือ เทพเจ้าสายฟ้าที่เขาพูดถึงก่อนหน้านั้นเอง ชายหนุ่มร่างสูงผมสีทองอร่ามคนนั้นกำลังจ้องมองมายังเซียวเฟิงจากท่ามกลางหมู่คนมากมายอยู่

“เอ๊ะ?” เซียวเฟิงไม่รอช้าที่จะทักทายอีกฝ่าย

“ครั้งนี้ ฉันไม่แพ้ให้นายอีกแน่”

ทว่าเทพเจ้าสายฟ้ากลับเลือกที่จะไม่โต้ตอบใด ๆ นอกจากทิ้งคำพูดเอาไว้และออฟไลน์ออกไปทันที ซึ่งมันทำให้เซียวเฟิงหน้าเสียไปเลย

พื้นที่สำหรับพักผ่อนนั้นไม่ได้แคบหรือกว้างจนเกินไป มันมีขนาดประมาณสองสนามประลองรวมกันโดยที่ไม่มีเขตกั้น เลยทำให้สามารถเห็นได้ว่า ในบรรดาผู้เข้ารอบทั้ง 128 อันดับ มีผู้เล่นจำนวนมากที่ทำแบบเทพเจ้าสายฟ้า ซึ่งก็คือ ออฟไลน์ไปพักผ่อนนอกเกม ยังไงเสียรอบถัดไปก็เป็นรอบสุดท้ายอยู่แล้ว การทำให้ร่างกายพร้อมสำหรับศึกใหญ่ยังไงก็ย่อมดีกว่า

นอกจากนี้ก็ยังมีผู้เล่นบางส่วนที่อยู่ในเขตเดียวกันกำลังรวมกลุ่มกันเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรกันบางอย่างด้วยเสียงเบา บางทีพวกเขาอาจจะคุยกันถึงประสบการณ์เมื่อครั้นได้ไปเจอกับยอดฝีมือจากเขตอื่น ๆ มาก็ได้

อย่างเช่น คิมจงฮันและหานชิวเฟิงที่เป็นผู้เหลือรอดเพียงสองคนจากเขตฮันกึล พวกเขาพากันเดินไปหลบมุมหนึ่งเพื่อกระซิบกระซาบอะไรกันเงียบ ๆ แต่เดี๋ยวนะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าสองคนนี้จะผ่านแมตช์โปรโมชันมาได้ด้วย

สิ่งนี้ค่อนข้างทำให้เซียวเฟิงประหลาดใจเอาเสียมาก ๆ พูดก็พูดเถอะ ที่เซียวเฟิงแกว่งเท้าหาเสี้ยนด้วยการพูดยั่วยุคนที่แพ้เขาในการประลองน่ะ ก็เพื่อเพิ่มศัตรูให้เขตฮันกึลทางอ้อม สร้างความเกลียดชังให้ทุกคนพร้อมใจกันถล่มเขตฮันกึลจนย่อยยับ

นอกจากกลุ่มคนที่ออฟไลน์ไปพักผ่อนและปลีกตัวไปจับกลุ่มคุยกันแล้ว ก็ยังมียอดฝีมือเลื่องชื่อของบางเขตที่เดินออกจากเขตพักผ่อนไปยังด้านหน้าเหล่าผู้ชมการประลอง เรียกเสียงเชียร์จากเหล่าผู้ชมที่มาจากเขตเดียวกันไปด้วย

ในช่วงเวลาพักนี้ ผู้เล่นทั้ง 128 คนจะมีอิสระในการไปไหนมาไหนก็ได้ ภายในเขตของอีเวนต์ ซึ่งทางฝั่งพิธีการของแต่ละเขตที่ได้ตั๋วทองเองก็รีบวิ่งเข้าไปยังเขตพักผ่อนอย่างรวดเร็ว เพราะเวลาพักครึ่งชั่วโมงนี้ ถือเป็นนาทีทองของพวกเขามาก ๆ

เซียวเฟิงไม่อยากจะมาเหนื่อยวุ่นวายกับปัญหายิบย่อยเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกทำเหมือนที่เทพเจ้าสายฟ้าทำ นั่นคือการหลับตาแล้วล็อกออฟออกไปพักผ่อน ส่วนหนึ่งก็เพราะเขาทานข้าวเย็นไปเพียงนิดหน่อยด้วย เพราะงั้นเลยเอาเวลาพักนี้ไปหาขนมขบเคี้ยวยามดึกมาทดแทน

ทุกสิ่งอย่างเป็นดังที่เขาคาดการณ์ไว้ เหล่านักข่าวและพิธีกรต่างก็กรูเข้ามายังเขตพักผ่อนอย่างรวดเร็ว พวกเขาเหล่านี้ต่างพากันหาดาวเด่นของแต่ละเขตอย่างขะมักเขม้น ซือเยี่ยจิ๋งที่เริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มจะไม่สู้ดีแล้ว เธอเห็นเซียวเฟิงล็อกออฟจากระยะไกล จึงคิดจะล็อกออฟตามเขาด้วย ทว่ามันช้าเกินไปก้าวหนึ่ง เนื่องจากชิวเย่ว่านเฟิงนั้นได้เข้ามาดักหน้าเธอไว้เสียแล้ว

“ทะ…ท่านไนท์คูนเนอร์! ขอฉันสัมภาษณ์คุณได้ไหมคะ?!”

สีหน้าของชิวเย่ว่านเฟิงนั้นไม่ได้ดูจะตื่นเต้นอะไรสักเท่าไหร่ เธอดูเซ็งแต่ก็ยังต้องทำหน้าที่ต่อให้สำเร็จ ดังนั้นแล้วเมื่อเจอซือเยี่ยจิ๋ง เธอจึงสลัดอารมณ์นั้นไปแล้วถามเจ้าตัวด้วยน้ำเสียงอย่างรู้อยากเห็นทันที

แต่เดิมแล้วชิวเย่ว่านเฟิงวางแผนที่จะไปสัมภาษณ์เซียวเฟิง เพราะเขาได้หายไปจากโลกของเกมเป็นเวลานั้นก่อนจะกลับมา ดังนั้นข่าวของเขาจึงมีมูลค่าสูงมาก ๆ ทว่าจากการที่เกิดข้อถกเถียงกันก่อนหน้าภายในการถ่ายทอดสดของเธอ

สุดท้ายโผลก็มาลงที่ตัวเจ้าของถ่ายทอดสดว่าต้องไปสัมภาษณ์ไนท์คูนเนอร์ นักข่าวสาวที่ไม่สามารถเลือกอะไรได้ทำได้เพียงหน้าถอดสีขณะเข้าไปสัมภาษณ์เป้าหมายด้วยเสียงที่สั่นเทา

ฝ่ายซือเยี่ยจิ๋งที่เห็นว่าพิธีกรที่มาพร้อมกล้องบนหัวกำลังหันกล้องมายังเธอ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเธอก็พยักหน้ายินยอม เพราะในใจก็แอบรู้สึกคับคล้ายคับคลานักข่าวสาวคนนี้เหมือนกัน ราวกับเคยเจอหน้ามาก่อน

“เอ่อ ท่านไนท์คูนเนอร์คะ ฉันขอถามคำถามที่ค่อนข้างจะส่วนตัวหน่อยได้ไหมคะ?”

เมื่อเห็นว่าซือเยี่ยจิ๋งพยักหน้า ชิวเย่ว่านเฟิงก็เริ่มเป็นกังวลมากขึ้นไปอีก เธอกลืนน้ำลายและกระแอมไอเพื่อเคลียร์ลำคอ อันที่จริง เธอน่ะอยากให้อีกฝ่ายปฏิเสธให้สัมภาษณ์เสียด้วยซ้ำ อย่างน้อย ๆ มันก็ไม่ต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงเช่นนี้

“?”

ซือเยี่ยจิ๋งไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงพิมพ์เครื่องหมายคำถามลงไปในช่องแชตเท่านั้น

“อืมมมมม เอ่อ….งั้นฉันถามเลยนะคะ…ท่านไนท์คูนเนอร์… จริง ๆ แล้วคุณเป็นผู้หญิงใช่ไหมคะ?” นักข่าวสาวพูดด้วยเสียงอู้อี้ และท่าทางที่ค่อนข้างหนักใจขณะถามออกไปด้วยความกลัว

“…”

จุดที่ซือเยี่ยจิ๋งยืนนั้น เป็นจุดที่เหล่ายอดฝีมือจากเขตฮัวเซียกำลังยืนรวมกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นไทแรนนี่ นักธนูอายุ 17 หรือแม้แต่ซีเหมินชุยเสวียเองก็อยู่บริเวณนี้ด้วย

ในตอนแรกที่เห็นว่านักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์ซือเยี่ยจิ๋งนั้น พวกเขาทั้งหมดไม่ได้ออกอาการอะไรกัน จะมีก็แต่ผู้เล่นหนุ่มไฟแรงบางคนที่รู้สึกไม่พอใจเท่านั้น ทว่าเมื่อคำถามของชิวเย่ว่านเฟิงหลุดออกมา ทั้งหมดก็หันขวับมามองยังซือเยี่ยจิ๋งด้วยความสนใจและอึ้งไปพร้อม ๆ กัน

คนเหล่านี้เป็นยอดฝีมือ แน่นอนว่าประสาทสัมผัสหลาย ๆ อย่างรวมถึง หูเองก็ย่อมไม่ธรรมดาอยู่แล้ว และด้วยระยะที่ไม่ได้อยู่ไกลกันนัก พวกเขาได้ยินกันชัดเจนเลยถึงคำถามดังกล่าว

ไนท์คูนเนอร์เป็นผู้หญิงงั้นเหรอ?

เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ? ทำไมจู่ ๆ ถึงมีคนสงสัยเรื่องนี้?

ช่วงที่ไทแรนนี่ผู้ใจเย็นและซีเหมินชุยเสวียผู้หยิ่งผยองกำลังอึ้ง ซางกวน อาโอเชินและนักธนูอายุ 17 ก็เปิดปากโวยวายออกมา

“นี่ยัยนักข่าว เธอสมองป่วยไปแล้วหรือไงน่ะ? นี่มันบทสัมภาษณ์อะไรกันวะเนี่ย? ไนท์คูนเนอร์จะเป็น…”

ซางกวนอาโอเชินกระโดดออกมายืนด้านหน้าก่อน เพราะเขารู้ว่าเซียวเฟิงกับซือเยี่ยจิ๋งนั้นค่อนข้างจะสนิทกัน ดังนั้นเขาจึงพยายามจะปกป้องคนคนนี้ด้วยการชิงกล่าวว่าอีกฝ่ายก่อน ทว่าพอพูดมาถึงเรื่องคำถาม เจ้าตัวก็ต้องหยุดปากไปและกลืนคำพูดที่เหลือลงคอไปช้า ๆ สายตาที่ดูเกรี้ยวกราดในตอนแรกกลายเป็นความลังเลและเริ่มเบี่ยงไปมองซือเยี่ยจิ๋งโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ

ไทแรนนี่และซีเหมินชุยเสวียกับคนอื่น ๆ เองก็เช่นกัน แม้ในตอนแรกพวกเขาจะพากันอึ้ง แต่พอได้สติทั้งหมดก็หันไปมองซือเยี่ยจิ๋งด้วยความสงสัย

ท่าทีเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เหนือกว่าที่คนธรรมดาจะตระหนักได้ ตั้งแต่ตอนแรกที่ชิวเย่ว่านเฟิงยิงคำถามออกไปนั้น มันทำให้ทุกคนตกใจก็จริง แต่นั่นเพราะพวกเขาคิดว่ากล้าดียังไงมาถามคำถามแบบนี้

แต่เมื่อพวกเขาคิดว่า ไนท์คูนเนอร์จะเป็นผู้หญิงได้อย่างไร มันก็เริ่มทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่า ในที่นี่ไม่มีใครสักคนเลยที่รู้เพศที่แท้จริงของคนคนนี้ ทุกสายตามองไปยังเรือนร่างของไนท์คูนเนอร์และพยายามครุ่นคิดว่า หากปราศจากชุดคลุมสีดำเช่นนี้ ร่างภายในจะเป็นเช่นไร และดูเหมือนพวกเขาจะคิดได้เหมือนกัน ร่างที่อยู่ภายในชุดคลุมนั้นดูจะตัวเล็กกว่าผู้ชายคนอื่น ๆ สิ่งนี้ทำให้ซางกวน อาโอเชินหยุดโวยวายไปกลางคัน ดูเหมือนว่าความเป็นไปได้นี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีมูลเลยเสียทีเดียว

เมื่อตระหนักได้ดังนั้น ไทแรนนี่ นักธนูอายุ 17 ซีเหมินชุยเสวียและเหล่าผู้ที่มาจากกิลด์แอนติควิตี้ก็มองซือเยี่ยจิ๋งด้วยสายตาแปลกไป

แม้ว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นถึงเหล่ายอดฝีมือที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วฮัวเซีย ด้วยสถานะที่อยู่เหนือคนธรรมดาทั่วไปอยู่มาก ดังนั้นมันไม่ควรเลยที่พวกเขาจะมาตกใจกับเรื่องอะไรแบบนี้ แต่กับสถานการณ์เช่นนี้มันไม่ใช่ หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว

เพราะว่ามันหมายถึง ไนท์คูนเนอร์ ผู้ที่เป็นอันดับ 1 ในเขตฮัวเซียปัจจุบัน ผู้ที่อยู่เหนือแม้กระทั่งซีเหมินชุยเสวีย…

เป็นผู้หญิง!

แบบนี้จะให้พวกเขายอมรับได้อย่างไรกัน!

“ไปให้ไกล ๆ เลย!”

ซือเยี่ยจิ๋งไม่ได้พูดอะไร เธอเพียงพิมพ์ข้อความลงไปในแชตด้วยแววตาที่เยือกเย็น พลันเมื่อไทแรนนี่และคนอื่น ๆ เผลอสบตากับดวงตาคู่นั้น มันก็ทำให้พวกเขาทำได้เพียงยิ้มแห้ง ๆ แล้วหลบตามองไปทางอื่นด้วยความรู้สึกผิด

“รับทราบค่า!”

ชิวเย่ว่านเฟิงเหงื่อแตกพลั่กเพราะแรงกดดันที่มาจากแววตาของซือเยี่ยจิ๋งยามที่เห็นว่าอีกฝ่ายไล่ตนออกไป แทนที่เธอจะรู้สึกกลัว แต่มันกลับเหมือนถ้อยคำจากสวรรค์ที่ไล่เธอออกจากนรกขุมนี้แทนเสียได้ หญิงสาวรีบวิ่งออกจากจุดนั้นโดยไม่สนใจเลยว่าภายในถ่ายทอดสดของเธอจะพูดอะไรกันบ้าง

ไม่ว่ายอดคนดูในถ่ายทอดสดจะมากแค่ไหน ยังไงมันก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตของเธอเอง ขืนเธอทำให้ไนท์คูนเนอร์โกรธขึ้นมาจริง ๆ ล่ะก็ นั่นแห่งหมายถึงเธอกำลังหาเรื่องกับกิลด์มิดซัมเมอร์ผู้เป็นหัวเรือใหญ่สัมพันธมิตรกิลด์ฟากใต้ด้วย! หากเป็นเช่นนั้นขึ้นมาจริง ๆ ชีวิตภายในโลกแห่งเกมของเธอได้มีปัญหาตามมาไม่หยุดหย่อนแน่นอน!

“ยัยผีเจาะปากมาพูดนี่! กล้าดียังไงมาเปิดเผยเพศของท่านเทพธิดาของฉันกันฟะ! อย่าให้ฉันเจอเธอเชียว เธอจะโดนฆ่าจนกว่าจะกลับไปเกิดที่หมู่บ้านเริ่มต้นแน่ ๆ !”

หานเฟิงที่ยังอยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้นเขากำลังดูถ่ายทอดสดของชิวเย่ว่านเฟิงอยู่ด้วย เมื่อเขาเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าตัวก็ยัวะขึ้นมาทันที ด้วยความที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนเกรียนแห่งฮัวเซียแล้ว เขาไม่รอช้าที่จะพิมพ์ข้อความด่าทอนับร้อย ๆ ข้อความภายในไม่กี่นาทีลงไปในถ่ายทอดสดนั้นอย่างไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น

เวลาพัก 30 นาทีนั้นไม่ได้ยาวนานนัก เพราะอีกไม่นานมันก็จบลงแล้ว ด้วย 2 นาทีสุดท้ายที่เหลือนี้ เหล่าผู้เล่นที่ออฟไลน์ไปก่อนหน้าเพื่อพักผ่อน ก็เริ่มกลับมาออนไลน์กันใหม่อีกรอบแล้ว เซียวเฟิงและเทพเจ้าสายฟ้าเองก็เช่นกัน ซึ่งมันผนวกเหมาะกับที่ระบบเริ่มประกาศข้อความออกมาพอดี

[ประกาศจากอีเวนต์! ของรางวัลประจำอีเวนต์นี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน นั่นคือ ของรางวัลที่เป็นอุปกรณ์และของรางวัลที่เป็นแต้มเกียรติยศของเขต ผู้เล่นที่ได้เป็นอันดับ 1 ในอีเวนต์นี้ จะได้รับรางวัลเป็นเครื่องประดับอาร์ติแฟกต์พร้อมกับแต้มเกียรติยศให้กับเขตของผู้ชนะ 200 แต้ม!]

[ผู้ที่เป็นอันดับที่ 2 ในอีเวนต์นี้จะได้รับเครื่องประดับอาร์ติแฟกต์ อาวุธอาร์ติแฟกต์พร้อมกับแต้มเกียรติยศให้กับเขตของผู้ชนะ 150 แต้ม!]

[ผู้ที่เป็นอันดับที่ 3 ในอีเวนต์นี้จะได้รับชุดเกราะอาร์ติแฟกต์พร้อมกับแต้มเกียรติยศให้กับเขตของผู้ชนะ 100 แต้ม!]

[ผู้ที่เป็นอันดับตั้งแต่ 4 – 8 ในอีเวนต์นี้จะได้รับอาวุธเทพเจ้าแบบสุ่มและจะไม่ได้รับแต้มเกียรติยศ]

[ขอย้ำเตือน! แต้มเกียรติยศนั้นเป็นของรางวัลที่สามารถทับซ้อนได้ นั่นหมายถึง หากผู้เล่นอันดับ 1 – 3 เป็นผู้เล่นจากเขตเดียวกัน เขตของพวกเขาจะได้รับแต้มเกียรติยศสูงถึง 450 แต้มเลยทีเดียว!]

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *