Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]บทที่ 458 สงครามรอบที่ 3

Now you are reading Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] Chapter บทที่ 458 สงครามรอบที่ 3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 458 สงครามรอบที่ 3

บทที่ 458 สงครามรอบที่ 3

“กางเขนเหล็กจบสิ้นแล้ว…”

“เจ้าแห่งฟากตะวันตกกำลังจะถูกลบออกจากเขตฮัวเซียเหรอเนี่ย… เฮ้ย ๆ เดี๋ยวสิ กิลด์นี้น่ะ ระดับเจ้าผู้ปกครองเลยนะ!”

“พลังของเจ้าแห่งฮีลเลอร์นี่น่ากลัวจริง ๆ!”

“ฉันไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์จะโอ๋น้องสาวตัวเองขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่กางเขนเหล็กเองก็แค่เผอิญพลั้งมือไปด้วยความเข้าใจผิดด้วยซ้ำ แล้วไหนจะการที่เขายอมขอโทษตั้งมากมายขนาดนี้อีกแต่เจ้าแห่งฮีลเลอร์ก็ยังประกาศสงครามติดต่อกันถึงสามครั้งแล้ว! นี่เขาตั้งใจจะกำจัดกิลด์ระดับผู้ปกครองไปจริง ๆ เหรอเนี่ย!?”

ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ในตอนนี้จะทำให้สัมพันธมิตรกิดล์ต่าง ๆ ต้องตั้งกฎเหล็กขึ้นมาในอนาคตแล้วว่า ห้ามมิให้ผู้ใดในกิลด์ของตนไปมีปัญหากับน้องสาวของเจ้าแห่งฮีลเลอร์เป็นอันขาด ไม่งั้นแล้วพวกเขาจะต้องรับผลลัพธ์อันร้ายแรงที่จะตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้และยากที่จะรับมือแน่นอน!

“จู่ ๆ ฉันก็คิดวิธีอะไรขึ้นมาได้ อย่างการยืมมือเจ้าแห่งฮีลเลอร์กำจัดเสี้ยนหนามของเราโดยการแฝงตัวไปอยู่ในกิลด์ศัตรู แล้วฆ่าน้องสาวของเจ้าแห่งฮีลเลอร์ซะ…”

“นี่นายยังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่าเนี่ย?”

“ล้อเล่นน่า ฮ่า ๆๆ เจ้าแห่งฮีลเลอร์น่ะเหมือนระเบิดปรมาณูที่ไม่มีใครในตอนนี้สามารถรับมือเขาได้ หากเป็นแบบนั้น เมื่อไหร่ที่ความจริงถูกเปิดเผย ฉันเองก็คงจะเละเทะไม่ต่างกันหรอก!”

“ฉันรู้สึกว่าเขตฮัวเซียกำลังจะเปลี่ยนไป การที่เจ้าแห่งฮีลเลอร์กลับมาหลังจากหายไปเดือนนึงนั้น เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก ๆ ไม่ต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของเขาเมื่องครั้งอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์รอบล่าสุดเลย เพียงแค่เขากลับมายังเขตฮัวเซียแล้วซัดเจ้าแห่งฟากตะวันตกซะยับขนาดนี้ ถ้านี่เป็นศึกสุดท้ายของกางเขนเหล็กจริง ๆ ละก็ นั่นหมายถึงฟากตะวันตกจะต้องเกิดการแก่งแย่งขึ้นเป็นผู้ปกครองกันวุ่นวายแน่ ๆ!”

“อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้สิ เจ้าแห่งฮีลเลอร์น่ะ แข็งแกร่งก็จริง แต่เมืองหลักระดับ 3 เองก็ไม่ใช่ว่าจะเปราะบางนะ สงครามทั้งสองรอบก่อนน่ะ จบลงด้วยพลังของสกิลระดับตำนานที่สามารถทำลายเมืองได้อย่างง่ายดาย แต่ในตอนนี้ทั้งสองสกิลนั้นก็เข้าสู่ช่วงคูลดาวน์กันแล้วรวมถึงสกิลของสัตว์เลี้ยงของเขาด้วย เพราะงั้นฉันคิดว่ารอบนี้น่ะ เขาไม่น่าจะสามารถถล่มเมืองไอรอนครอสซิตี้ได้ง่าย ๆ แน่”

“เว้นเสียแต่ว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์มีสกิลอื่นที่มีสถานะทำลายล้างเหมือนกัน แต่เท่าที่ฉันรู้มา ต่อให้ตอนนี้เขาจะสวมชุดเกราะอาร์ติแฟกต์ที่ทรงพลัง รวมถึงมีอาวุธอาร์ติแฟกต์อยู่ในกำมือ อาชีพของเขาก็ยังอยู่ในสายของนักบวชอยู่ดี เพราะงั้นเขาไม่น่าจะมีสกิลระดับทำลายล้างเมืองได้เหลือแล้วล่ะ!”

เสียงประกาศสงครามรอบที่ 3 สงบลงแล้ว เซียวเฟิงส่งเสี่ยวเสวียกลับมิติไปและปล่อยให้ตนเองลอยลงมาจากท้องฟ้าโดยมีเป้าหมายเป็นโถงหลักเมืองโดยตรง!

มันเป็นเรื่องจริงที่ตอนนี้หลังจากที่สกิลระดับตำนานทั้งสองสกิลติดคูลดาวน์ มันทำให้เซียวเฟิงไม่มีสกิลหรือวิธีอื่นที่จะสามารถทำลายโถงหลักเมืองได้อย่างรวดเร็ว สงครามรอบนี้เขาต้องพึ่งพลังของตนเองและไม่มีก้าวต่อใด ๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้อีก!

[ท่านได้รับผลของสกิล ‘อวยพรชีวิต’ จากผู้เล่นแด๊ด พลังชีวิตของท่านเพิ่มขึ้น 2,250 หน่วย ในระยะเวลา 60 วินาที!]

[ท่านได้รับผลของสกิล ‘อวยพรอาวุธ’ จากผู้เล่นแด๊ด พลังโจมตีทางกายภาพของท่าน เพิ่มขึ้น 1,406 หน่วย ในระยะเวลา 60 วินาที!]

[ท่านได้รับผลของสกิล ‘อวยพรความกล้า’ จากผู้เล่นแด๊ด พลังโจมตีทางเวทมนตร์ของท่าน เพิ่มขึ้น 1,406 หน่วย ในระยะเวลา 60 วินาที!]

[ท่านได้รับผลของสกิล ‘อวยพรคุ้มครอง’ จากผู้เล่นแด๊ด พลังป้องกันทางกายภาพของท่าน เพิ่มขึ้น 305 หน่วย และพลังป้องกันทางเวทมนตร์ของท่าน เพิ่มขึ้น 305 หน่วย ในระยะเวลา 60 วินาที!]

จากกลางอากาศ แสงสว่างของการร่ายบัฟทั้งสี่ห่อหุ้มร่างของเซียวเฟิงเอาไว้ และทันทีที่ลงมาถึงพื้น ค่าสถานะของเขาก็เพิ่มขึ้นระดับทวีคูณเลย

พลังชีวิตของเขาเกือบ 4,000 หน่วยแล้ว!

ในขณะที่พลังโจมตีทางกายภาพและเวทมนตร์ก็ทะลุ 2,000 ไปเป็นที่เรียบร้อย ทางด้านพลังป้องกันเองก็แตะพันแล้วด้วยเช่นกัน!

ไม่ต้องพูดถึงพลังชีวิตปริมาณมหาศาลของเซียวเฟิงเลย ตอนนี้ทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันของเขา เข้าขั้นบอสระดับเทพเจ้าไปแล้วด้วยซ้ำ!

ดังนั้นคงไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องความน่ากลัวของเขา ณ ตอนนี้ด้วย และถึงแม้ว่าจะไร้ซึ่งบัฟเพิ่มพลังชีวิต ยังไงเสียคลาสของเซียวเฟิงก็เป็นนักบวช ดังนั้นสกิลที่สามารถเพิ่มพลังชีวิตของตนเองหรือสกิลรักษาน่ะ สามารถทำให้เซียวเฟิงมีพลังชีวิตเต็มเปี่ยมอยู่เสมอก็ยังได้!

[ประกาศจากเมือง : เจ้าแห่งฮีลเลอร์! หมดเวลาอวดเบ่งของนายแล้ว! กางเขนเหล็กของพวกเราจะไม่ยอมเป็นฝ่ายโดนกระทำฝ่ายเดียวอีกต่อไปแล้ว! – ชินห่าว]

หลังจากเสียงประกาศของระบบเกี่ยวกับสงครามรอบที่ 3 จบลง ชินห่าวก็เปิดเผยความในใจของเขาออกมาในที่สุด นั่นเพราะตอนนี้เมืองไอรอนครอสซิตี้ของเขานั้นลดระดับลงมาเหลือเพียงเลเวล 10 แล้วหลังจากพ่ายแพ้สงครามไปสองรอบ หากรอบนี้เขาแพ้อีก เลเวลของเมืองก็จะลดต่ำลงไปจนเหลือน้อยกว่า 10 แน่ ๆ

และนั่นหมายความว่า เมืองไอรอนครอสซิตี้จะไม่ใช่เมืองหลักอีกต่อไป มันจะกลายเป็นเพียงเมืองทั่วไปเฉย ๆ และหากเป็นเช่นนั้น การที่พวกเขาเป็นถึงกิลด์ผู้ปกครอง หากไม่ใช่ระดับเมืองหลักแล้ว พวกเขาไม่สามารถรับมือกับการต่อสู้ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ได้แน่ ๆ การพ่ายแพ้เพียงสองครั้งก็เกินพอแล้วสำหรับกิลด์กางเขนเหล็ก!

“โต้กลับซะ! ต่อให้เป็นผู้เล่นอันดับ 1 ของเขตฮัวเซีย ก็ต้องฆ่ามันให้ได้! ไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม! โถมคนเข้าไป โถมเข้าไปเยอะ ๆ!”

ชินห่าวที่อยู่เหนือประตูเมืองสั่งการด้วยใบหน้าที่ไร้ซึ่งความใจเย็น เขามองไปยังเซียวเฟิงที่ดิ่งลงมาจากฟากฟ้าแล้วพูดด้วยความโกรธ

“ลุย! จัดกระบวนทัพกิลด์! สมาชิกกิลด์ทุกคนฟังคำสั่งจากฉัน! ไม่ว่าพวกนายจะเป็นสมาชิกชั้นไหน คลาสที่โจมตีระยะประชิด เคลื่อนเข้าใกล้โถงกลางเมือง! ใช้จำนวนคนที่มากกว่าของพวกเรารุมอีกฝ่ายซะ! ส่วนคลาสที่โจมตีระยะไกล ให้การสนับสนุนจากด้านนอก! โฟกัสเป้าหมายให้ดี! ไม่สิ พวกนายคงจะโฟกัสเป้าหมายไม่ได้ งั้นก็คอยจ่ายสกิลแบบปูพรมไปเรื่อย ๆ คอยคุมพื้นที่เอาไว้!”

“กล้ามากที่มาโจมตีเมืองไอรอนครอสซิตี้ของฉันด้วยตัวคนเดียว! ต่อให้เป็นอันดับ 1 ของทุกเซิร์ฟเวอร์ ฉันก็จะดับตำนานของนายในวันนี้แหละ!”

ภาพของเมืองไอรอนครอสซิตี้เริ่มขยายตัวมากขึ้นเมืองเซียวเฟิงเข้าใกล้พื้นดินมากขึ้น เสียงของลมที่ลู่ผ่านใบหน้ากระทบเข้ามาในหู กระนั้นเซียวเฟิงก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวว่าจะบาดเจ็บหลังจากถึงพื้นแล้วแต่อย่างใด แววตาของเขานิ่งสงบและน่าเกรงขาม

ด้านหลังของเซียวเฟิง เสี่ยวไป๋เองก็ถือดาบสีทองขนาดใหญ่ไว้ในมือด้วย กระโปรงเกราะสีเงินของเธอยามที่ตกกระทบกับแสงก็เปล่งแสงสะท้อนความมันวาวออกมา และบนใบหน้าสวยในตอนนี้ก็ถูกปกคลุมไปด้วยเกราะกระบังหน้าสีเงินที่ดูแข็งแกร่งไปแล้วด้วย ริมฝีปากบางสีชมพูเม้มแน่น ขณะเดียวกันปีกนางฟ้าทั้งหกก็กระพือสยายให้ตนพุ่งตามเซียวเฟิงทันราวกับเป็นอุกกาบาตสีเงินก็มิปาน

ตู้ม!

เซียวเฟิงแลนดิ้งลงตรงกลางเมืองไอรอนครอสซิตี้ได้ตามที่หวังไว้ แต่นั่นก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับโถงกลางที่ซึ่งเป็นจุดหมายที่แท้จริงของเขาเลย นั่นก็เพราะเซียวเฟิงไม่มีความสามารถในการบิน ดังนั้นจึงไม่สามารถควบคุมตนเองขณะดิ่งลงพื้นได้ดีนัก ทำให้สิ่งที่เข้าพุ่งเข้าใส่จริง ๆ กลับไม่ใช่สิ่งปลูกสร้าง หากแต่เป็นกลุ่มฝูงชนผู้เล่นแทน!

มังกรย่ำบาทา!

-402!

-822! คริติคอล!

-410!

-398!

-804! คริติคอล!

ผู้เล่นมากมายที่รวมตัวกันประดุจผืนทะเลเคลื่อนเข้าไปยังจุดที่เซียวเฟิงกำลังดิ่งลงมาราวกับคลื่นมนุษย์ พวกเขาหมายจะกลืนกินเซียวเฟิง ทว่าจังหวะที่ชายหนุ่มกำลังจะถึงพื้นนั้นเอง เขาก็สั่งใช้สกิลของชุดเกราะมังกรและกระทืบพื้นรุนแรงตอนที่เท้าถึงพื้น ทำให้เกิดคลื่นสั่นสะเทือนสามระลอกกระจายไปรอบตัวเซียวเฟิงทันที!

คลื่นแต่ละระลอกนั้นสร้างความเสียหายเวทได้ไม่ต่ำกว่า 400 หน่วยเลยทีเดียว!

คลื่นสั่นสะเทือนเหล่านั้นรุนแรงมากขนาดที่ไม่มีสมาชิกกางเขนเหล็กคนไหนสามารถต้านทานมันได้เกินสามระลอกเลย ไม่ว่าพวกเขาจะมีโล่กันขนาดไหน แต่ท้ายสุดเมื่อคลื่นสั่นสะเทือนเกิดขึ้นครบสามครั้ง รอบ ๆ ตัวเซียวเฟิงก็รายล้อมไปด้วยซากศพของผู้เล่นเต็มไปหมด พวกเขาล้มตายไปตาม ๆ กันจนทับถมสูงเหมือนภูเขาที่น่าสยดสยอง!

มันเป็นภาพที่น่ากลัว ในขณะเดียวกันก็ดูงดงามแบบดิบ ๆ ไปด้วย มีกล้องวีดีโอหลายตัวที่บินอยู่เหนือเมืองไอรอนครอสซิตี้และจับภาพเซียวเฟิงไว้ และพวกเขาก็ได้เห็นสิ่งที่น่าตกใจไปพร้อม ๆ กัน อย่างการที่เซียวเฟิงสามารถฆ่าคนหลายพันคนได้เพียงวินาทีเดียวเท่านั้น!

นี่คือพลังของเจ้าแห่งฮีลเลอร์! บุคคลที่ควรค่าแก่การเป็นอันดับ 1 ของทุกเซิร์ฟเวอร์ที่แท้จริง!

หลังจากที่เซียวเฟิงจัดการผู้คนที่เข้ามาห้อมล้อมเขากลุ่มแรกได้แล้ว เซียวเฟิงก็ไม่ได้หยุดนิ่งเฉย ๆ เขาหันไปทางโถงหลักเมืองและเดินตรงไปยังที่นั่นอย่างระมัดระวัง เพราะสิ่งที่เซียวเฟิงกลัวนั้น หาใช่คนจำนวนมากไม่ เขากลัวกับดักที่ถูกติดตั้งไว้ในเมืองต่างหาก ยังไงเสียเขาก็ยังเป็นคลาสนักบวช ดังนั้นตัวเขาน่ะไม่มีสกิลที่สร้างความเสียหายรุนแรงหลายสกิลนักหรอก แม้เขาจะไม่ได้เกรงกลัวคนหลักล้านคนยามที่ต้องเผชิญหน้า แต่หากเผลอพลาดท่าติดกับดักล่ะก็ จบเห่แน่นอน

“เร็วเข้า! ล้อมเจ้านั่นใหม่อีกรอบหนึ่ง! ล้อมให้เร็วเลยแล้วโถมสกิลลงไป!”

นายกองอาวุโสของกางเขนเหล็กที่ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ก็รีบสั่งการลงมาทันที

ซู่ม!

ขณะที่ผู้เล่นกำลังกระชับวงล้อมเข้ามา ฟากฟ้าเบื้องบนก็ถูกถมเทไปด้วยสกิลจากระยะไกลนับไม่ถ้วนจนราวกับเป็นเมฆฝนสีดำที่กำลังเคลื่อนต่ำลงมาด้วย พวกมันทั้งหมด มีเป้าหมายคือเซียวเฟิงคนเดียว!

“การโจมตีแบบกลยุทธ์ใช้ไม่ได้ผลแน่ ๆ! ชุดอาร์ติแฟกต์ที่เจ้านั่นสวมอยู่น่าจะมีสกิลที่ใช้สำหรับป้องกันแฝงไว้อยู่! เพราะงั้นระหว่างที่สกิลกำลังซื้อเวลาให้ พวกนายก็รีบเตรียมการอัญเชิญสัตว์ผู้พิทักษ์ซะ!!”

สมาชิกกิลด์กางเขนเหล็กวิ่งพล่านกันให้วุ่นวายไปหมด พวกเขารับคำสั่งมาและเริ่มร่ายเวทมนตร์อะไรบางอย่าง และทันใดนั้นเอง วงแหวนเวทขนาดเท่าเมืองก็ปรากฏขึ้นมา นี่คือความน่ากลัวของกิลด์กางเขนเหล็ก ถึงแม้ว่าข่ายมนตรานี้จะเพิ่งถูกสร้างเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่มันก็พร้อมที่จะใช้งานเกือบสมบูรณ์แล้ว!

[ลดความเร็วของศัตรูที่ไม่ใช่สมาชิกกิลด์กางเขนเหล็กลง 10% เมื่ออยู่ในพื้นที่ของเมืองไอรอนครอสซิตี้!]

มันเป็นข่ายมนตราประจำเมืองแบบง่าย ๆ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยความร้ายกาจ ด้วยการเติบใหญ่ของกิลด์กางเขนเหล็ก มันทำให้ข่ายมนตรานี้ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่มันสามารถชะลอความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรูได้เท่านั้น แต่หลังจากที่มันได้รับการอัปเกรด มันก็สามารถลดความเร็วในการโจมตีของศัตรูได้ด้วย!

น่าเสียดายที่มันไม่สามารถใช้ได้กับเซียวเฟิง ต่อให้เขาไม่มีความสามารถในการต้านทานค่าสถานะเชิงลบของชุดเกราะมังกร สกิลกายาศักดิ์สิทธิ์ของเซียวเฟิงก็ทำให้สถานะเชิงลบที่มีผลกับเขาลดประสิทธิ์ภาพลง 10% อยู่แล้ว

ซู่ม!

เสี่ยวไป๋ที่ดิ่งตามเซียวเฟิงลงมาไม่ได้พุ่งเข้าหาฝูงชนดังที่เซียวเฟิงทำไว้ก่อนหน้า ปีกทั้งหกของเธอกระพือแรงเพื่อยันให้ร่างของเธอลอยอยู่เหนือทะเลผู้คนเพียงเล็กน้อย และด้วยการหยุดกะทันหันเช่นนี้ มันเลยทำให้ปีกกระทบกับลมที่ส่งร่างเธอลงมาจนเกิดเสียงดังเหมือนระเบิด ยังไงเสียจะให้เธอดิ่งลงไปปะทะกับผู้เล่นโดยตรงก็คงจะไม่ไหว

ดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มยักษ์ในมือเด็กสาวเปล่งแสงสว่างจ้า จากนั้นแสงสีทองที่เปล่งออกมาจากดาบก็ถูกใช้ฟาดฟันเข้าใส่สมาชิกกิลด์กางเขนเหล็กไปในทันที ด้วยการโจมตีครั้งนั้น มีผู้เล่นมากกว่าสิบคนถูกฆ่าตายไปโดยไม่ทันได้สั่งเสียอะไรทั้งนั้น เพราะด้วยพลังโจมตีเวทมนตร์ของเสี่ยวไป๋ มันส่งผลให้พลังโจมตีของเธอไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นทั่วไปจะสามารถต้านทานไว้ได้!

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เซียวเฟิงเองก็เริ่มตกอยู่ในที่นั่งลำบากแล้ว!

ด้วยปริมาณผู้เล่นของกิลด์กางเขนเหล็กนี้ มันทำให้เซียวเฟิงเริ่มจะขยับตัวลำบากขึ้นมาทุกที ๆ แม้ว่าเขาจะใช้ค้อนแห่งการพิพากษากำจัดอีกฝ่ายได้ทีละกว่ายี่สิบคน แต่เพียงพริบตาเดียว คลื่นมนุษย์เหล่านี้ก็จะถูกเติมเต็มจนเขาไม่มีช่องทางให้ขยับไปทางไหนได้เลย

แต่เดิมสมาชิกของกางเขนเหล็กนั้นต่างก็เป็นคลาสอัศวินกันหมดอยู่แล้ว ยิ่งในการทำสงครามเช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดก็เปลี่ยนไปอยู่ในโหมดตั้งรับด้วยโล่กัน มันทำให้การรบของพวกเขามีประสิทธิภาพดีเมื่ออีกฝ่ายเป็นพวกใช้กำลังหรือการลอบฆ่า และแม้เซียวเฟิงจะไม่ใช่เป้าหมายหลักที่จำเป็นต้องใช้การรบแบบตั้งรับ แต่เพราะเซียวเฟิงเข้ามาสู้ในพื้นที่ของพวกเขา ด้วยจำนวนคนที่มากกว่าระดับมหาศาล เหล่าอัศวินแห่งกางเขนเหล็กจึงตั้งใจจะใช้ยุทธการตั้งรับนี้บีบต้อนเซียวเฟิงจนร่างละเอียดไปแทน!

ไม่เพียงเท่านั้น ตอนนี้เซียวเฟิงเองก็เริ่มเสียพลังชีวิตขึ้นมาบ้างแล้ว สกิลที่ถูกยิงปูพรบลงมานั้นเริ่มแสดงให้เห็นความน่ากลัวของมัน แม้ว่าการเบียดเสียดเข้ามานั้นจะยังไม่ได้มากมายนัก รวมไปถึงที่ส่วนหัวของเขาก็มีการป้องกันแบบสมบูรณ์แบบของเกราะมังกรอยู่ และไม่ว่าค่าพลังป้องกันของเซียวเฟิงจะสูงจนน่าเหลือเชื่อจนไม่มีทางที่คนของกางเขนเหล็กจะโจมตีเข้า แต่ด้วยการที่เขาต้องรับสกิลการโจมตีอย่างต่อเนื่อง มันก็ต้องมีบ้างที่จะมีสกิลหลุดรอดมาทำความเสียหายแก่เขาได้!

ถึงพลังป้องกันและอัตราการหลบหลีกของเซียวเฟิงจะสูงเสียดฟ้า แต่การเผชิญหน้ากับห่าฝนสกิลเช่นนี้ ตัวเลขแสดงความเสียหายก็เริ่มปรากฏขึ้นเหนือหัวเขาให้เห็นเป็นระยะ ๆ

อย่างน้อยที่สุด พวกมันก็สามารถทำให้เซียวเฟิงสามารถเสียพลังชีวิตหลัก 100 หน่วยได้ทุกวินาที!

สิ่งนี้ทำให้เซียวเฟิงต้องขมวดคิ้ว เขาไม่คาดคิดเลยว่าสกิลของทางฝั่งกางเขนเหล็กจะมีประสิทธิภาพถึงเพียงนี้ หากไม่ติดว่าตัวเขามีสกิลดูดเลือดละก็ ลำพังเพียงแค่พลังป้องกัน ชายหนุ่มไม่สามารถยืนหยัดได้นานแน่ ๆ การรบในพื้นที่ของเจ้าผู้ปกครองแห่งฟากตะวันตกนี้ เขาประมาทมากเกินไปจริง ๆ!

ตึง! ตึง! ตึง!

แต่แล้วทันใดนั้น พื้นดินก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นเป็นจังหวะก้าวเท้า พร้อม ๆ กับการที่กลุ่มคลื่นมนุษย์เริ่มแหวกออกจากเซียวเฟิง แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เซียวเฟิงก็ตั้งใจจะใช้จังหวะนี้ปลีกตัวออกไป ทว่ายังไม่ทันไปจากจุดเดิมไกลนัก เขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตในตำนานขนาดมหึมากำลังวิ่งตรงมายังเขา

มันคือ เบฮีมอธ ที่มีรูปร่างเหมือนแมมมอธยักษ์!

ความสูงน่าจะร่วม ๆ สิบเมตรได้ มันสูงกว่าตึกสามชั้นเสียอีก! ขนที่ห่อหุ้มร่างของมันนั้นขาวโพลนไปด้วยหิมะ มาพร้อมกับงาขนาดยักษ์ที่ยาวถึงสองเมตรห้อยโค้งลงมาเกือบจะพื้นดิน แข็งแกร่งประดุจช้างทั้งโขลง! ที่บริเวณอกของมันยังมีแขนที่กำยำสองข้างกำลังถือหอกทั้งสองเล่มอยู่ด้วย เมื่อมันมองไปยังทะเลผู้คนที่แหวกออกและมั่นใจแล้วว่าไม่ใช่ศัตรู เบฮีมอธก็พุ่งเข้าใส่เซียวเฟิงอย่างไม่มีการชะลอใด ๆ เลย!

การต่อสู้ระหว่างคนและสัตว์เทพพิทักษ์แห่งกางเขนเหล็ก เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *