บทที่ 552 คะแนนอีก 200 ล้าน!

บทที่ 552 คะแนนอีก 200 ล้าน!

เซียวเฟิงไม่ใช่คนดี เขาได้ปลิดหลายชีวิตมาแล้วนับไม่ถ้วนด้วยมือของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่คุกคามเซียวเฟิงเช่นนักสืบเอกชนที่หลิวเฉียงเหว่ยส่งมาเพื่อติดตามและตรวจสอบเซียวเฟิง และตำรวจปลอมที่บุกเข้ามาในวิลล่า เขาก็สามารถฆ่าโดยไม่ลังเล

เป็นเพียงว่าเซียวเฟิงสงบลงเล็กน้อยหลังจากกลับมาที่ประเทศฮัวเซีย เพราะตัวเองต้องพิจารณาถึงผลกระทบและผลที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นอดีตรัฐมนตรีตงหรือหัวจวน รวมถึงครูที่กลั่นแกล้งเซียวหลิงที่โรงเรียน เซียวเฟิงจึงอดทนกับมัน ไม่ใช่ความอาฆาตอีกต่อไป

ไม่ว่าเขตอินเดียจะอยู่หรือตายก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเซียวเฟิง โลกของเกมได้กลายเป็นโลกที่สองไปแล้วซึ่งจะส่งผลอย่างมากต่อโลกแห่งความเป็นจริง อีเวนต์สงครามระดับชาตินี้เป็นตัวอย่าง มันเกี่ยวข้องกับอัตราส่วนการจัดสรรทรัพยากรการอยู่รอดในความเป็นจริง ด้วยฐานประชากรของอินเดีย หากไม่ได้รับการจัดอันดับที่ดี ผลที่ตามมาก็เกินจินตนาการ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นตัวเลือกของเขตอินเดียเอง และเป็นราคาที่พวกเขาควรจ่าย

การ์กูลบอกว่าพวกเขาต้องการมีชีวิตอยู่ ซึ่งสัมผัสถึงหัวใจของเซียวเฟิง เพราะมีเพียงผู้ที่อยู่บนเส้นขอบของชีวิตและความตายเท่านั้นที่สามารถเข้าใจความล้ำค่าของชีวิตได้ แต่นี่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เซียวเฟิงกลายเป็นคนเมตตา

สิ่งที่ทำให้เซียวเฟิงลังเลจริง ๆ ก็คือเขาจำสิ่งที่จางจิ่วจิ่วบอกกับเขาเมื่อสองสามวันก่อนได้ว่า ทุกชีวิตมีความหมายของมัน และไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะพรากมันไป

เซียวเฟิงสามารถแสร้งทำเป็นเพิกเฉยว่าเขาไม่รู้ก็ได้ หรือถ้ามันไม่เกี่ยวอะไรกับเขา แต่เห็นได้ชัดว่าคราวน์ปรินซ์มีแผน ไทแรนนี่และซีเหมินชุยเสวียงดออกเสียงซึ่งเป็นการผลักปัญหานี้มาให้เซียวเฟิงอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้เซียวเฟิงยืนอยู่บนยอดพายุนี้

เนื่องจากทัศนคติของกิลด์ใหญ่มีความชัดเจนมาก เสียงส่วนใหญ่คือต่อสู้ และหากพวกเขาได้รับอนุญาตให้ลงคะแนน ผลลัพธ์ก็ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจำนวนโหวตในมือของเซียวเฟิงจึงเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดผล ไม่ว่าจะเลือกงดโหวตหรือโหวตสงครามก็เหมือนกัน มีแค่เลือกปล่อยเขตอินเดียไปเท่านั้นถึงจะเปลี่ยนผลได้

“ปล่อยไป”

ในขณะนี้ ทั้งสถานที่ประชุมเงียบมาก และสายตาของเกือบทุกคนก็จับจ้องไปที่เซียวเฟิง เพราะพวกเขาเข้าใจความหมายของเสียงในมือของเซียวเฟิง และหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเซียวเฟิงก็ตัดสินใจเลือกเช่นกัน

“อะไรนะ! แล้ว?”

“ทำไมล่ะ! เจ้าแห่งฮีลเลอร์! ทำไมนายไม่เลือกต่อสู้!”

“ใช่เลย! นี่คือสิ่งที่พวกเขตสงครามอินเดียขอกันเอง! ถ้านายทำผิด นายก็มีราคาที่ต้องจ่าย!”

…

คำพูดของเซียวเฟิงทำให้สถานที่เงียบสงบส่งเสียงดังอีกครั้ง การ์กูลมองไปที่เซียวเฟิงอย่างซาบซึ้ง มีความโล่งใจในสายตาของคราวน์ปรินซ์ แต่กิลด์ใหญ่ที่เข้าร่วมการประชุม ในหมู่พวกเขามีฝ่ายเลือกต่อสู้เป็นหลัก จึงมีเสียงดัง

“เอาล่ะ มันเป็นสิทธิ์ของเจ้าแห่งฮีลเลอร์ที่จะลงคะแนน ต่อจากนี้ การโหวตจะดำเนินต่อไป โปรดลงคะแนนของคุณเอง” คราวน์ปรินซ์กล่าวอีกครั้งเพื่อเอาใจสถานที่ประชุม

“มิดซัมเมอร์เลือก…สันติ”

“กิลด์แอนติควิตี้เลือก…สันติ”

“กิลด์ดูมส์เดย์ลีกเลือก…สันติ”

“กิลด์วอร์สปิริตฮอลล์เลือก…สันติ”

“สมาพันธ์การค้าแห่งราชวงศ์มรรตัยเลือก…สันติ”

“ไวลด์วูล์ฟแก๊งเลือก…สันติ”

“กิลด์กางเขนเหล็กเลือก…สันติ”

“ตำหนักกุหลาบเลือก…”

…

เสียงถูกระงับและการลงคะแนนยังดำเนินต่อไป แต่ผลลัพธ์ก็ถึงวาระ ทันทีที่เซียวเฟิงพูด กิลด์ครึ่งหนึ่งในเขตฮัวเซียก็เข้าข้างเซียวเฟิงซึ่งรวมถึงกิลด์ระดับเจ้าผู้ครองถึงสามครึ่ง

เนื่องจากกิลด์กางเขนเหล็กนับได้เพียงครึ่งเดียว แต่อิทธิพลของอดีตก็ยังอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการแสดงที่โดดเด่นของทางช่องชายแดนเขตตะวันตก กิลด์ใหญ่หลายแห่งในฝั่งตะวันตกก็มีผู้ปกครองใหม่เช่นกัน และคาดว่าเวลาสำหรับการสร้างอำนาจของตะวันตกขึ้นมาใหม่กำลังจะมาในไม่ช้า

ในทางตรงกันข้าม เซียวเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับท่าทีของกิลด์สงครามเพื่อโลก เพราะกิลด์สงครามเพื่อโลกนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขตอินเดีย รวมถึงเจียงไคเซิน มหาเศรษฐีฮัวเซียที่อยู่เบื้องหลังเขา และเขาไม่มีการติดต่อทางธุรกิจใด ๆ กับอินเดีย พวกเขาเป็นแกนหลักของฝ่ายต่อสู้

แต่ด้วยเหตุนี้ กิลด์เจ้าผู้ครองของทางตะวันตก ตะวันออก และใต้ของเขตฮัวเซียจะยืนเคียงข้างเซียวเฟิงโดยตรง และผลการโหวตนั้นถึงวาระแล้วต่อให้ไม่มี 50 คะแนนของเซียวเฟิง

แน่นอนว่าอาจมีเหตุผลว่าทำไมกองกำลังบางส่วนจึงตกจากฝ่ายต่อสู้หลักไปยังเซียวเฟิงและเป็นเพราะเห็นผลที่สิ้นหวังแล้ว ก็เป็นการดีกว่าที่จะขายหน้า

“ดูเหมือนว่าผลโหวตจะชัดเจนอยู่แล้ว ทุกคน ได้โปรดไปและถอนตัวออกจากเขตอินเดีย”

หลังจากที่กองกำลังมากกว่าครึ่งในที่ประชุมว่าตามเซียวเฟิง คราวน์ปรินซ์ก็เห็นว่าผู้คนที่เหลือหยุดพูดคุย และเลิกดิ้นรนแล้ว ก็ยืนขึ้นและกล่าว

“เดี๋ยว!”

ทว่าเขาก็ถูกขัดจังหวะ คนที่พูดคือหลางฉิงเทียน หัวหน้ากิลด์วูล์ฟที่มีอำนาจระดับเจ้าผู้ครอง แน่นอนว่าอารมณ์ในตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก เขายืนขึ้นโดยตรงและพูดอย่างเคร่งขรึม “เจ้าแห่งฮีลเลอร์ นายรู้ความหมายของการยอมทิ้งสนามรบอินเดียหรือเปล่า?”

“เรายังอยู่ห่างจากอเมริกาเหนือที่เป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 200 ล้านคะแนน และอีเวนต์เหลือเพียงวันสุดท้าย เขตอินเดียสามารถให้เราได้ 150 ล้านคะแนน กับเขตในอเมริกาเหนือในตอนนี้ อาจกล่าวได้ว่าถ้าเราได้คะแนนของเขตอินเดีย เราจะอยู่ในอันดับที่ 1 และหากเรายอมปล่อยเขตอินเดีย เขตฮัวเซียของเราก็ทำได้แค่รักษาอันดับที่ 2 ไว้ได้เท่านั้น!” ก่อนที่เซียวเฟิงจะได้พูด หลางฉิงเทียนก็พูดต่อเสียงเข้ม

“ใช่แล้ว! เราทุกคนรู้ดีว่าการจัดอันดับของอีเวนต์นี้หมายถึงอะไร! ใครจะสามารถสละตำแหน่งอันดับ 1 ที่ควรจะอยู่แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัสได้” และทันทีที่คำพูดของหลางฉิงเทียนสิ้นลง ก็เกิดเสียงเห็นด้วยในที่ประชุม “ฉันคิดว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์เคยเป็นราชาแห่งโลกเกม ดูเหมือนว่าเขาจะลืมไปแล้วว่าโลกของเกมและโลกความจริงนี้แยกจากกันไม่ได้ นายยังคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าอยู่หรือเปล่า?”

หยินไม่เคยขาดหยางผสมจริง ๆ

ชื่อเสียงเจ้าแห่งฮีลเลอร์นั้นดีมาก และพวกเขาไม่กล้าเสียหน้าในวันธรรมดา แต่ความอิจฉาเป็นจุดเด่นของเขตฮัวเซียมาตลอด และเส้นทางการเติบโตของเซียวเฟิงก็ไม่รุ่งโรจน์ จึงมีหลายคนที่ไม่ชอบเขา

เป็นเพียงว่าไม่มีใครกล้าทำให้เขาขุ่นเคืองตามปกติ แต่วันนี้ด้วยหัวหน้ากิลด์วูล์ฟที่ออกหน้า และในด้านความชอบธรรม บางคนที่ไม่ชอบเซียวเฟิงมานานแล้วก็เริ่มมีความกระตือรือร้น

“การละทิ้งสนามรบอินเดียจะไม่ส่งผลต่ออันดับสุดท้ายของอีเวนต์ เขตฮัวเซียยังคงเป็นอันดับ 1” เซียวเฟิงไม่มีปฏิกิริยาไม่พอใจใด ๆ แต่พูดอย่างใจเย็นมาก

“ฉันคิดว่าเจ้าแห่งฮีลเลอร์อยู่ภายใต้รัศมีของบุคคลอันดับหนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดเป็นเวลานานเกินไป เลยหลวมไปหน่อยแล้วล่ะ”

“ใช่ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็เป็นแค่นักบวช ในสถิติส่วนตัวของอีเวนต์สงครามแห่งชาตินี้ ธอร์ได้ฆ่าไปสิบเก้าล้าน และเจ้าแห่งฮีลเลอร์ฆ่าเพียงเก้าล้าน ซึ่งเป็นเพียงเศษเสี้ยวของธอร์เท่านั้น”

“ในความคิดของฉัน การจัดอันดับของรายชื่อพลังต่อสู้มีปัญหาใหญ่ นักบวชจะคำนวณค่าสถานะหลักได้บัฟของมันเอง ดังนั้นพลังการต่อสู้จึงสูงเกินจริง”

“ต่อให้ผู้เล่นระดับพระเจ้าสามารถเอาชนะล้านคนด้วยตัวคนเดียว หรือแม้แต่สิบล้านด้วยตัวคนเดียว แต่ช่องว่างตอนนี้คือ 200 ล้าน!”

มีเสียงกระซิบไม่กี่คน ส่วนใหญ่เป็นความเห็นถากถาง ดูถูก และเสียดสี เสียงที่ไม่ชัดเจน หลบอยู่ทุกมุมของที่ประชุม ไม่กล้าพูดออกมาตรง ๆ

“พอได้แล้ว!”

หลิวเฉียงเหว่ยเป็นคนพูด น้ำเสียงของเธอเย็นชา ในฐานะหัวหน้ากิลด์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของฮัวเซีย เธอมีออร่าของความไม่โกรธเคืองและหยิ่งผยอง

“ฮี่ฮี่ พวกเรากิลด์แอนติควิตี้เชื่อในเจ้าแห่งฮีลเลอร์”

โดยไม่ให้โอกาสหลิวเฉียงเหว่ยพูดอะไร หวงฟู ตงไลก็พูดทันทีและยิ้มอย่างสุภาพให้เซียวเฟิง

กองกำลังระดับเจ้าผู้ครองทั้งสองส่งเสียง และสถานที่ต้องเงียบอีกครั้ง และคราวน์ปรินซ์มองไปรอบ ๆ และก้าวมาข้างหน้า

“ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะชัดเจนมาก ในการโหวตตัดสินเขตอินเดีย ผลโหวตคือปล่อยไป ดังนั้นการประชุมพันธมิตรครั้งที่สองเป็นอันสิ้นสุดลง โปรดอพยพกิลด์ที่ยังคงอยู่ในเขตอินเดียออกมาด้วย”

คราวน์ปรินซ์ประกาศปิดการประชุมพันธมิตรฮัวเซียครั้งที่สอง เห็นได้ชัดว่าหลางฉิงเทียนลังเลที่จะพูดอะไร เขาขมวดคิ้ว และบางคนถึงกับบ่น แต่เมื่อมองไปที่คราวน์ปรินซ์ พวกที่ขำก็เลือกที่จะปิดปากเงียบ และโกรธจัด

เซียวเฟิงมองดูหลางฉิงเทียนและคนอื่น ๆ ออกจากที่ประชุมด้วยหน้าตาที่แย่ แต่เขาไม่ได้รู้สึกไม่พอใจในใจอะไรนัก แม้ว่าบางคนจะโจมตีเขาด้วยวาจา แต่ท้ายที่สุด เขาก็ยืนอยู่ในตำแหน่งตัวแทนของเขตฮัวเซีย หัวหน้ากิลด์ใหญ่ไม่ใช่คนงี่เง่าทุกคน

“เจ้าแห่งฮีลเลอร์ คุณจะทำยังไงต่อไป?” คราวน์ปรินซ์เดินเข้ามาถาม

“ฉันคิดว่านายเตรียมการมาแล้วซะอีก” เซียวเฟิงมองไปที่คราวน์ปรินซ์และหลังจากคิดเล็กน้อยเขาก็เข้าใจว่าผลการลงคะแนนของการประชุมพันธมิตรนี้เป็นที่คาดหวังจากคราวน์ปรินซ์ ในท้ายที่สุด เซียวเฟิงก็แค่ถูกปล่อยเพื่อทำโล่ป้องกันหลัง

“ไม่มีทางอื่นนอกจากต่อสู้” คราวน์ปรินซ์ยิ้มขอโทษแล้วส่ายหัว

200 ล้านคะแนนนั้นใหญ่เกินไป และไม่มีทางลัดเลย

“งั้นก็สู้” น้ำเสียงของเซียวเฟิงสงบ

“เหลือเวลาเพียง 24 ชั่วโมงในอีเวนต์ 200 ล้านแต้มนี้เป็นเหมือนเหล็กไน เราไม่สามารถรักษาความแข็งแกร่งของเราได้อีกต่อไป การคำนวณอันดับพลังของโนอาห์ไม่มีทางมีปัญหา เจ้าแห่งฮีลเลอร์ พลังของคุณเหนือกว่าธอร์ที่เป็นอันดับ 2 มาก มากกว่าสองเท่า ฉันเชื่อว่าคุณไม่ได้ใช้แค่กำลังของคุณ” คราวน์ปรินซ์กล่าง ผู้คนจำนวนมากที่ไม่ได้ออกจากที่ประชุมนั้นก็ได้ยินถ้อยคำนั้นด้วย ต่างก็พากันละสายตาและครุ่นคิด

“แล้วเจอกันที่สนามรบ”

เซียวเฟิงไม่ได้พูดอะไรมาก หลังจากทิ้งประโยคนี้ เขาก็สวมแหวนมิติและเทเลพอร์ตออกไป

การอพยพของเขตฮัวเซียนั้นรวดเร็วมาก ในเวลาน้อยกว่าครึ่งชั่วโมง ทุกทีมของกองกำลังสำรวจที่สองถูกอพยพออกจากเขตอินเดีย แต่พวกเขาไม่ได้หยุดนิ่ง และเข้าร่วมในสนามรบของเขตอเมริกาเหนือ ที่ช่องชายแดนเขตก็สร้างห้าสนามรบขนาดใหญ่!

ตอนนี้พลังต่อสู้เกือบทั้งหมดในเขตฮัวเซียได้เข้าสู่สนามรบในอเมริกาเหนือแล้ว นี่มีจุดประสงค์อยู่ เพราะมีเพียงเขตอเมริกาเหนือเท่านั้นที่มีอันดับสูงกว่าเขตฮัวเซีย การทำให้ศัตรูอ่อนแอ คือการเสริมกำลังตัวเอง นอกจากนี้ กองกำลังสำรวจที่หนึ่งก็รับมือเขตอเมริกาเหนือแล้ว ทั้งการบุกทะลวงทางทหาร การสู้รบกลางเมือง และการรุกรานจากต่างประเทศนั้นเพียงพอแล้วสำหรับเขตในอเมริกาเหนือที่จะรับมือ

โอกาสที่เขตฮัวเซียจะคว้าที่หนึ่งในอีเวนต์ไม่ได้มีน้อยเกินไป!