NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง 1156 เอาทรัพย์สินตระกูลนายออกมาเถอะ

Now you are reading NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง Chapter 1156 เอาทรัพย์สินตระกูลนายออกมาเถอะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้ชมที่อยู่ตรงตีนเขาเห็นภาพนี้ ทันใดนั้นก็เข้าใจ ว่าศึกครั้งนี้ กำลังจะปิดม่านลง

สติสตังของเจิ้งชิงก็เริ่มจะวิตกกังวล

เขาเข้าใจว่า เมื่อผลลัพธ์ของศึกครั้งนี้ปรากฏออกมา ตระกูลเจิ้งของเขาสุดท้ายแล้วจะเป็นยังไง เรื่องราวจะจบลงแล้ว

และในตอนนั้นเอง ซุนเฟยจู่ๆ ก็ร้องลั่นขึ้นมา

“เจิ้งเหวินจุ้น นายจะทำอะไร!”

ซุนเฟยที่ไม่ทันระวังตัว ก็ถูกเจิ้งเหวินจุ้นพุ่งเข้ามาคว้าตัวไว้ ใบหน้าที่โหดเหี้ยมไร้ที่เปรียบ ทำให้เธอกรีดร้องอย่างหวาดกลัว

“นังชั่ว!” สีหน้าของเจิ้งเหวินจุ้นบูดเบี้ยว และตบไปที่หน้าของซุนเฟยอย่างแรง

เขาไม่กล้ามีเรื่องกับหลี่ฝาง จึงทำได้แค่หาโอกาสมาระบายลงที่ซุนเฟย

ส่วนซุนเฟยที่ถูกตบ กลับไม่ได้รับความเห็นใจจากคนรอบข้างเลย แม้กระทั่งไม่มีใครสนใจเลย

เพราะว่าในตอนนั้นทุกคนล้วนต่างตั้งใจมองไปที่บนยอดเขา

หลี่ฝางที่กุมมีดเล่มใหญ่ยาวร้อยเมตร ก็ทำหน้าตื่นเต้นและพูดขึ้น: “นายว่า ถ้าหากฉันทำลายภูเขาจิ่วเจทิ้ง นายยังจะสามารถยืมพลังจากปราณชีพจรมังกรได้อยู่มั้ย?”

คำพูดของหลี่ฝาง ก็ทำให้ถังโจวมีปฏิกิริยาขึ้นมาทันทีทันใด

ทันใดนั้น ถังโจวก็พุ่งเข้าไปหาหลี่ฝางอย่างบ้าคลั่งแบบหาที่เปรียบไม่ได้

แต่แค่มันสายไปแล้ว

มีดเล่มใหญ่ยาวร้อยเมตรในมือของหลี่ฝางได้ถูกชูขึ้นสูง และสับลงมาอย่างแรง

ปัง!

ภูเขาถล่ม!

หินผากระเด็นกระดอน ฝุ่นควันเต็มท้องฟ้า!

พวกผู้ชมด้านล่างก็รีบหลบอย่างหวาดกลัวทันที ดีที่หินผาพวกนั้นไม่ได้กระเด็นมาชนทางพวกเขา ไม่เช่นนั้น คนพวกนี้ก็คงต้องได้รับบาดเจ็บล้มตายแน่ๆ

ส่วนฝุ่นควันที่บดบังท้องฟ้าแสงอาทิตย์ก็ค่อยๆ สลายไป สายตาของทุกคนนั้นตื่นตระหนกอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ในที่สุดก็ได้เห็นภาพหลังที่ฝุ่นควันจางหายไป

และตอนนั้น ทุกคนก็เงียบกริบ

“ภูเขาจิ่วเจ……” หลังจากนั้นสักพัก ในที่สุดเจิ้งชิงถึงจะมีเสียงพูด แต่แค่น้ำเสียงดูเหมือนจะสิ้นหวัง

แบบเดียวกัน ส้งหมิงในตอนนั้นก็ทำสีหน้าเหลือเชื่อ: “ภูเขาจิ่วเจ ถูกสับแยกแล้วเหรอ?”

ตรงกลางของภูเขาจิ่วเจทั้งลูกแยกออกเป็นสองชิ้น ส่วนที่ถูกสับ ก็กลายเป็นพื้นที่ราบระหว่างภูเขาขนาดใหญ่มหึมา

“ศึกครั้งนี้สรุปแล้วใครแพ้ใครชนะ!”

หลังจากช็อกไปก็ดึงสติกลับมา สิ่งที่ผู้ชมสนใจมากที่สุดก็ยังเป็นผลการต่อสู้

ถึงยังไง ผู้แพ้ผู้ชนะในศึกครั้งนี้ นั้นเป็นตัวกำหนดชะตากรรมสุดท้ายของตระกูลชั้นสูง

ทันใดนั้น ในสายตาของผู้ชม ก็มีเงาร่างนึงปรากฏตัวลอยอยู่กลางอากาศ

“ครึ่งเทพ……บินได้ด้วย……” มีคนพูดขึ้นเสียงสั่น

ความจริงแล้ว จากการช็อกกับภาพมีดสับภูเขาแยกที่อยู่ตรงหน้า ครึ่งเทพบินได้เรื่องแบบนี้ไม่ได้ทำให้พวกเขาตกใจจนเกิดไปแล้ว

ราวกับในใจของผู้คน การมีอยู่ของครึ่งเทพ มันอยู่เหนือสามัญสำนึกโดยสิ้นเชิง

ในตอนนั้นหลี่ฝางที่ร่างลอยอยู่กลางอากาศ ก็มองดูภูเขาจิ่วเจที่ตรงกลางถูกแยกออกอย่างเงียบๆ คลื่นที่อยู่ในใจก็ค่อยๆ สงบไป

เขารู้อยู่นานแล้วว่าเป็นครึ่งเทพนั้นมีพลังทำลายล้างที่น่ากลัวเพียงใด และก็รู้ได้ว่าการสับภูเขาแยกออกจากกันแบบนี้ผลลัพธ์มันก็ไม่ได้นอกเหนือความคาดการณ์ของเขา

แม้แต่ในสุสานจูหลง พลังงานที่แข็งแกร่งกว่านี้เป็นร้อยเท่า เขาก็เคยสัมผัสมาแล้ว

“ถังโจว ถือว่านายได้สิ่งที่ต้องการแล้วนะ”

หลี่ฝางคิดแบบนี้ และก็หันหลังบินลงไปด้านล่าง

เมื่อหลี่ฝางเข้ามาใกล้ ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างภูเขาที่เบียดเสียดยัดเหยียด ทันใดนั้นก็เว้นที่ว่างกว้างใหญ่ให้หลี่ฝาง

ด้วยความยิ่งใหญ่ ทำให้คนพวกนี้ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้

ส่วนเจิ้งชิงในตอนนั้น ก็อ่อนแรงไปทั้งร่าง ชะตากรรมของตระกูลตัวเองหลังจากนี้ เขาก็พอจะคาดการณ์ได้บ้างแล้ว

แต่ไม่ทันใดรอให้เขาพูดอะไร จู่ๆ ก็เห็นหลี่ฝางเดินไปทางกลุ่มคน

ทันใดนั้น ผู้ชมที่อยู่ทางนั้นทั้งหมดก็แหวกทางให้ แสดงให้เห็นซุนเฟยที่ใบหน้าแดงเป็นรอยห้านิ้ว น้ำตาไหลติ๋งๆ

“ใครตบ?” หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ราวกับสามารถแช่แข็งวิญญาณคนได้เลย

พลังงานที่น่ากลัวแบบนี้ ทันใดนั้นก็ทำให้เจิ้งเหวินจุ้นที่ซ่อนอยู่ในฝูงคนก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นขึ้นมา

วินาทีแบบนี้ก็ถูกหลี่ฝางสังเกตเห็น สายตาคู่ที่เต็มไปด้วยความอาฆาตและเย็นชาสุดๆมองไป ทำให้เจิ้งเหวินจุ้นถึงกับหวาดกลัวและลงไปคุกเข่ากับพื้น

“ดี ดีมาก” หลี่ฝางยิ้มอย่างโมโหสุดๆ

ในตอนนั้นเจิ้งเหวินจุ้น ถึงแม้จะตกใจจนร่างกายอ่อนปวกเปียก แต่ก็ยังคงเพราะความเย่อหยิ่งที่บ่มเพาะมากว่ายี่สิบปี เขาจึงตะโกนพูดอย่างไม่รู้ตัว: “นายกล้าแตะต้องฉัน ตระกูลเจิ้งไม่ปล่อย……”

เสียงของเขาอยู่ๆ ก็หยุดลง และก็พูดไม่ออกอีกต่อไป

เพราะว่าภายใต้พลังงานของหลี่ฝาง ร่างกายของเขา ได้ถูกบีบเละอย่างกะทันหันแล้ว

หลี่ฝางที่ไม่อยากให้ซุนเฟยเห็นฉากนองเลือดนี้ วินาทีนั้นจึงบังตาของเธอ และยังเอาก้อนเนื้อเละๆ และเลือด เขวี้ยงออกไปไกลร้อยเมตร กระจัดกระจายลงพื้น จะประกอบก็ประกอบไม่ได้

“เหวินจุ้น!”

สายตาที่มองเห็นหลานของตนตายไปต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง เจิ้งชิงปริปากอย่างแทบจะขาดใจหลังความตายนั้น และตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“หลี่ฝาง!ตระกูลเจิ้งกับแกไม่ตายไม่เลิกรา!” เจิ้งชิงตะคอกอย่างบ้าคลั่งและชี้ไปทางหลี่ฝาง

“ไม่ตายไม่เลิกรา?” หลี่ฝางเอียงหัว จู่ๆ บนใบหน้าก็ฉีกยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ตื่นเต้นจนแทบบ้า

“นายแน่ใจเหรอ?”

เมื่อเห็นหลี่ฝางก้าวเท้าเข้ามา ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างเจิ้งชิงก็รีบออกมายืน และพูดเสียงเบา: “คุณหลี่ พอเถอะ ตระกูลเจิ้งไม่สามารถ……”

ผู้ชายคนนี้คือผู้ว่าการเมืองตง สาเหตุที่เขาออกมาห้ามนั้นง่ายมาก เพราะความสัมพันธ์เศรษฐกิจระหว่างตระกูลเจิ้งกับเมืองตงนั้นใหญ่มาก ถ้าหากตระกูลเจิ้งนั้นถูกทำลายล้าง เกรงว่าทั้งเมืองตงจะวุ่นวายกันหมด

“นายก็จะมาห้ามฉัน?” ตาสองข้างของหลี่ฝางหรี่ลง เหลือบมองผู้ชายคนนั้น แค่เหลือบมอง ผู้ว่าการใหญ่เมืองตงที่ธรรมดาดูยิ่งใหญ่ นั้นก็ลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้น เหงื่อตกพลางก้มหน้าลง

วินาทีเมื่อครู่ เขารู้สึกได้ถึงความตาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง 1156 เอาทรัพย์สินตระกูลนายออกมาเถอะ

Now you are reading NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง Chapter 1156 เอาทรัพย์สินตระกูลนายออกมาเถอะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้ชมที่อยู่ตรงตีนเขาเห็นภาพนี้ ทันใดนั้นก็เข้าใจ ว่าศึกครั้งนี้ กำลังจะปิดม่านลง

สติสตังของเจิ้งชิงก็เริ่มจะวิตกกังวล

เขาเข้าใจว่า เมื่อผลลัพธ์ของศึกครั้งนี้ปรากฏออกมา ตระกูลเจิ้งของเขาสุดท้ายแล้วจะเป็นยังไง เรื่องราวจะจบลงแล้ว

และในตอนนั้นเอง ซุนเฟยจู่ๆ ก็ร้องลั่นขึ้นมา

“เจิ้งเหวินจุ้น นายจะทำอะไร!”

ซุนเฟยที่ไม่ทันระวังตัว ก็ถูกเจิ้งเหวินจุ้นพุ่งเข้ามาคว้าตัวไว้ ใบหน้าที่โหดเหี้ยมไร้ที่เปรียบ ทำให้เธอกรีดร้องอย่างหวาดกลัว

“นังชั่ว!” สีหน้าของเจิ้งเหวินจุ้นบูดเบี้ยว และตบไปที่หน้าของซุนเฟยอย่างแรง

เขาไม่กล้ามีเรื่องกับหลี่ฝาง จึงทำได้แค่หาโอกาสมาระบายลงที่ซุนเฟย

ส่วนซุนเฟยที่ถูกตบ กลับไม่ได้รับความเห็นใจจากคนรอบข้างเลย แม้กระทั่งไม่มีใครสนใจเลย

เพราะว่าในตอนนั้นทุกคนล้วนต่างตั้งใจมองไปที่บนยอดเขา

หลี่ฝางที่กุมมีดเล่มใหญ่ยาวร้อยเมตร ก็ทำหน้าตื่นเต้นและพูดขึ้น: “นายว่า ถ้าหากฉันทำลายภูเขาจิ่วเจทิ้ง นายยังจะสามารถยืมพลังจากปราณชีพจรมังกรได้อยู่มั้ย?”

คำพูดของหลี่ฝาง ก็ทำให้ถังโจวมีปฏิกิริยาขึ้นมาทันทีทันใด

ทันใดนั้น ถังโจวก็พุ่งเข้าไปหาหลี่ฝางอย่างบ้าคลั่งแบบหาที่เปรียบไม่ได้

แต่แค่มันสายไปแล้ว

มีดเล่มใหญ่ยาวร้อยเมตรในมือของหลี่ฝางได้ถูกชูขึ้นสูง และสับลงมาอย่างแรง

ปัง!

ภูเขาถล่ม!

หินผากระเด็นกระดอน ฝุ่นควันเต็มท้องฟ้า!

พวกผู้ชมด้านล่างก็รีบหลบอย่างหวาดกลัวทันที ดีที่หินผาพวกนั้นไม่ได้กระเด็นมาชนทางพวกเขา ไม่เช่นนั้น คนพวกนี้ก็คงต้องได้รับบาดเจ็บล้มตายแน่ๆ

ส่วนฝุ่นควันที่บดบังท้องฟ้าแสงอาทิตย์ก็ค่อยๆ สลายไป สายตาของทุกคนนั้นตื่นตระหนกอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ในที่สุดก็ได้เห็นภาพหลังที่ฝุ่นควันจางหายไป

และตอนนั้น ทุกคนก็เงียบกริบ

“ภูเขาจิ่วเจ……” หลังจากนั้นสักพัก ในที่สุดเจิ้งชิงถึงจะมีเสียงพูด แต่แค่น้ำเสียงดูเหมือนจะสิ้นหวัง

แบบเดียวกัน ส้งหมิงในตอนนั้นก็ทำสีหน้าเหลือเชื่อ: “ภูเขาจิ่วเจ ถูกสับแยกแล้วเหรอ?”

ตรงกลางของภูเขาจิ่วเจทั้งลูกแยกออกเป็นสองชิ้น ส่วนที่ถูกสับ ก็กลายเป็นพื้นที่ราบระหว่างภูเขาขนาดใหญ่มหึมา

“ศึกครั้งนี้สรุปแล้วใครแพ้ใครชนะ!”

หลังจากช็อกไปก็ดึงสติกลับมา สิ่งที่ผู้ชมสนใจมากที่สุดก็ยังเป็นผลการต่อสู้

ถึงยังไง ผู้แพ้ผู้ชนะในศึกครั้งนี้ นั้นเป็นตัวกำหนดชะตากรรมสุดท้ายของตระกูลชั้นสูง

ทันใดนั้น ในสายตาของผู้ชม ก็มีเงาร่างนึงปรากฏตัวลอยอยู่กลางอากาศ

“ครึ่งเทพ……บินได้ด้วย……” มีคนพูดขึ้นเสียงสั่น

ความจริงแล้ว จากการช็อกกับภาพมีดสับภูเขาแยกที่อยู่ตรงหน้า ครึ่งเทพบินได้เรื่องแบบนี้ไม่ได้ทำให้พวกเขาตกใจจนเกิดไปแล้ว

ราวกับในใจของผู้คน การมีอยู่ของครึ่งเทพ มันอยู่เหนือสามัญสำนึกโดยสิ้นเชิง

ในตอนนั้นหลี่ฝางที่ร่างลอยอยู่กลางอากาศ ก็มองดูภูเขาจิ่วเจที่ตรงกลางถูกแยกออกอย่างเงียบๆ คลื่นที่อยู่ในใจก็ค่อยๆ สงบไป

เขารู้อยู่นานแล้วว่าเป็นครึ่งเทพนั้นมีพลังทำลายล้างที่น่ากลัวเพียงใด และก็รู้ได้ว่าการสับภูเขาแยกออกจากกันแบบนี้ผลลัพธ์มันก็ไม่ได้นอกเหนือความคาดการณ์ของเขา

แม้แต่ในสุสานจูหลง พลังงานที่แข็งแกร่งกว่านี้เป็นร้อยเท่า เขาก็เคยสัมผัสมาแล้ว

“ถังโจว ถือว่านายได้สิ่งที่ต้องการแล้วนะ”

หลี่ฝางคิดแบบนี้ และก็หันหลังบินลงไปด้านล่าง

เมื่อหลี่ฝางเข้ามาใกล้ ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างภูเขาที่เบียดเสียดยัดเหยียด ทันใดนั้นก็เว้นที่ว่างกว้างใหญ่ให้หลี่ฝาง

ด้วยความยิ่งใหญ่ ทำให้คนพวกนี้ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้

ส่วนเจิ้งชิงในตอนนั้น ก็อ่อนแรงไปทั้งร่าง ชะตากรรมของตระกูลตัวเองหลังจากนี้ เขาก็พอจะคาดการณ์ได้บ้างแล้ว

แต่ไม่ทันใดรอให้เขาพูดอะไร จู่ๆ ก็เห็นหลี่ฝางเดินไปทางกลุ่มคน

ทันใดนั้น ผู้ชมที่อยู่ทางนั้นทั้งหมดก็แหวกทางให้ แสดงให้เห็นซุนเฟยที่ใบหน้าแดงเป็นรอยห้านิ้ว น้ำตาไหลติ๋งๆ

“ใครตบ?” หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ราวกับสามารถแช่แข็งวิญญาณคนได้เลย

พลังงานที่น่ากลัวแบบนี้ ทันใดนั้นก็ทำให้เจิ้งเหวินจุ้นที่ซ่อนอยู่ในฝูงคนก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นขึ้นมา

วินาทีแบบนี้ก็ถูกหลี่ฝางสังเกตเห็น สายตาคู่ที่เต็มไปด้วยความอาฆาตและเย็นชาสุดๆมองไป ทำให้เจิ้งเหวินจุ้นถึงกับหวาดกลัวและลงไปคุกเข่ากับพื้น

“ดี ดีมาก” หลี่ฝางยิ้มอย่างโมโหสุดๆ

ในตอนนั้นเจิ้งเหวินจุ้น ถึงแม้จะตกใจจนร่างกายอ่อนปวกเปียก แต่ก็ยังคงเพราะความเย่อหยิ่งที่บ่มเพาะมากว่ายี่สิบปี เขาจึงตะโกนพูดอย่างไม่รู้ตัว: “นายกล้าแตะต้องฉัน ตระกูลเจิ้งไม่ปล่อย……”

เสียงของเขาอยู่ๆ ก็หยุดลง และก็พูดไม่ออกอีกต่อไป

เพราะว่าภายใต้พลังงานของหลี่ฝาง ร่างกายของเขา ได้ถูกบีบเละอย่างกะทันหันแล้ว

หลี่ฝางที่ไม่อยากให้ซุนเฟยเห็นฉากนองเลือดนี้ วินาทีนั้นจึงบังตาของเธอ และยังเอาก้อนเนื้อเละๆ และเลือด เขวี้ยงออกไปไกลร้อยเมตร กระจัดกระจายลงพื้น จะประกอบก็ประกอบไม่ได้

“เหวินจุ้น!”

สายตาที่มองเห็นหลานของตนตายไปต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง เจิ้งชิงปริปากอย่างแทบจะขาดใจหลังความตายนั้น และตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“หลี่ฝาง!ตระกูลเจิ้งกับแกไม่ตายไม่เลิกรา!” เจิ้งชิงตะคอกอย่างบ้าคลั่งและชี้ไปทางหลี่ฝาง

“ไม่ตายไม่เลิกรา?” หลี่ฝางเอียงหัว จู่ๆ บนใบหน้าก็ฉีกยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ตื่นเต้นจนแทบบ้า

“นายแน่ใจเหรอ?”

เมื่อเห็นหลี่ฝางก้าวเท้าเข้ามา ชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านข้างเจิ้งชิงก็รีบออกมายืน และพูดเสียงเบา: “คุณหลี่ พอเถอะ ตระกูลเจิ้งไม่สามารถ……”

ผู้ชายคนนี้คือผู้ว่าการเมืองตง สาเหตุที่เขาออกมาห้ามนั้นง่ายมาก เพราะความสัมพันธ์เศรษฐกิจระหว่างตระกูลเจิ้งกับเมืองตงนั้นใหญ่มาก ถ้าหากตระกูลเจิ้งนั้นถูกทำลายล้าง เกรงว่าทั้งเมืองตงจะวุ่นวายกันหมด

“นายก็จะมาห้ามฉัน?” ตาสองข้างของหลี่ฝางหรี่ลง เหลือบมองผู้ชายคนนั้น แค่เหลือบมอง ผู้ว่าการใหญ่เมืองตงที่ธรรมดาดูยิ่งใหญ่ นั้นก็ลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้น เหงื่อตกพลางก้มหน้าลง

วินาทีเมื่อครู่ เขารู้สึกได้ถึงความตาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+