NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง 831 คนเดียวสู้ศัตรูหกคน

Now you are reading NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง Chapter 831 คนเดียวสู้ศัตรูหกคน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“โฮ้ว!”

เมื่อสิ้นเสียงตะโกนของตงฟางจัวแล้ว เงาร่างทั้งห้าคนนั้นก็บุกขึ้นไปทันที ด้วยความเร็วที่ว่องไวอย่างล้นเหลือ ตั้งค่ายวงล้อมรอบจู่โจมไปยังหลี่ฝาง

ขณะที่พวกเขาบุกเข้าไปยังหลี่ฝางนั้น สายตาเต็มเป็นไปด้วยความระแวดระวังภัย

“ฮ่าๆ!”

ภายในพริบตาเดียว พวกเขาก็บุกเข้าไปอยู่ตรงหน้าหลี่ฝางแล้ว จู่โจมอย่างแข็งแกร่งด้วยรูปแบบทั้งห้าที่แตกต่างกัน บุกเข้าไปประชิดโดยทันที

“ฮ่า!”

หลี่ฝางหัวเราะ มือทั้งสองข้างขยับเคลื่อนไหวทันที แม้กระทั่งเงาก็ยังมองไม่ชัดเลย สองในห้าคนนั้นก็ตกใจกลัวจนถอยร่นออกไป

จากนั้นเงาร่างของหลี่ฝาง เคลื่อนไหวด้วยความว่องไวราวกับสายฟ้า ด้วยกระบวนท่าเตะขาหน้าที่น่าสะพรึงกลัว แล้วตามด้วยอีกสองกระบวนท่าเตะตรง เงาร่างทั้งสามคนก็ล้มลงอย่างรวดเร็ว

“แข็งแกร่งมาก! เหมือนกับผู้ชายคนนั้นราวกับแกะเลย!!”

ทั้งห้าคนที่ถูกซัดจนถอยร่นไปนั้นในใจต่างก็รู้สึกช็อกกับความแข็งแกร่งของหลี่ฝาง ร่างกายของพวกเขาทั้งห้าคนที่ถูกหลี่ฝางทำร้ายนั้น ล้วนรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เหมือนกับถูกกระแทกจากพลังแรงหนักขนาดครึ่งตันก็ไม่ปาน

ต้องเข้าใจว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นล้วนเป็นยอดฝีมือที่มีพละกำลังที่ไม่ธรรมดา ร่างกายของแต่ละคนนั้นล้วนผ่านการฝึกฝนอย่างทรหด จากประสบการณ์ในสนามต่อสู้ทุกรูปแบบมาแล้ว พูดง่ายๆก็คือ ต่อให้ใช้กระบองเหล็กกล้าฟาดลงไปบนร่างของพวกเขา สำหรับพวกเขาแล้วมันเป็นแค่การเกาให้หายคันเท่านั้นเอง

ส่วนหลี่ฝางนั้นแลดูเหมือนจู่โจมด้วยท่าทีปกติธรรมดา แต่กลับทำให้พวกเขาเกิดความเจ็บปวดที่รุนแรงขึ้นได้

อาจประมาณได้ว่า พละกำลังของหลี่ฝางแข็งแกร่งมากถึงขั้นไหนกันแน่

หลังจากจู่โจมห้าคนให้ถอยร่นออกไปแล้ว หลี่ฝางไม่มีท่าทีจะทำอะไรต่อไปเลย ไม่มีแม้แต่จะเข้าไปเรียงทำร้ายทีละคนแม้แต่นิดเดียว ได้แต่ยืนมองดูห้าคนนั้นอย่างเรียบเฉย

หลี่ฝางกำลังป่าวประกาศอย่างชัดเจนว่า

พวกเขาทั้งห้าคนถึงจะอยู่ตรงหน้าหลี่ฝางก็ตาม แต่ก็ยังไม่คู่ควรที่จะให้เขาต้องเข้าไปบดขยี้เรียงตัวทีละคนเลย!

“ลุยเข้าไปพร้อมกัน!”

ทั้งห้าคนต่างก็ส่งสายตาอย่างรวดเร็ว แทบจะเป็นเวลาเดียวกันนั่นเอง ด้วยความไวราวกับกระสุนปืนอีกครั้ง เหลือเพียงล่องลอยเงามืดอยู่ที่เดิม พุ่งตรงไปจู่โจมหลี่ฝางด้วยความเร็วที่น่ากลัวมากยิ่งขึ้น

“พั้ง! พั้งพั้ง!!”

ภายใต้การจู่โจมรูปแบบที่ไม่เหมือนกันของคนทั้งห้านั้น หลี่ฝางก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ออกทั้งหมัดต่อยขาเตะครบครัน รับมือกีดขวางการจู่โจมจากหมัดกำปั้นและแข้งขาของคนทั้งห้านั้นไว้

ภายในห้องก็เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เสียงดังปั้งที่ดังขึ้นทุกครั้งเกิดจากการปะทะของหมัดกำปั้นและแข้งขา หรือไม่ก็เป็นหมัดชนหมัด ในระหว่างการต่อสู้นั้น พื้นปูนใต้ขาของหลี่ฝางนั้น ก็ได้เกิดรอยแตกร้าวขึ้น

โต๊ะที่อยู่ข้างหลังพวกนั้น ก็พังยับเยินไปหมดแล้ว กับข้าวกับปลาจานชามขวดแก้วเหล้าทั้งหลายบนโต๊ะก็แตกละเอียดกระจุยกระจายไปทั่ว

บริเวณรอบๆตัวหลี่ฝางนั้น ชั่วแวบเดียวก็ยุ่งเหยิงะเกะระกะไปหมด ด้วยแรงลมโหมกระหน่ำที่เกิดจากการปะทะของหมัดมวยแข่งขา

ส่วนพวกแมงป่องสามคนนั้น ตอนนี้ก็เคลื่อนย้ายไปหลบอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องแล้ว ดวงตาทั้งคู่ก็จ้องไปยังหกคนที่อยู่ท่ากลางสนามต่อสู้อย่างไม่ละสายตา

พวกเราสามคนต่างก็กำมือทั้งสองไว้แน่น เหงื่อก็ไหลออกมาตามหน้าผาก แม้กระทั่งฝ่ามือก็ยังมีเหงื่อออกมาด้วย

จะเห็นได้ว่า ในเวลานี้ ภายในจิตใจของพวกเขาจะรู้สึกตื่นเต้นเพียงใด

พวกเขาไม่เคยเห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดพล่านขนาดนี้มาก่อนเลย เมื่อเปรียบเทียบกับการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเมื่อก่อนแล้ว การตีรันฟันแทงของพวกเขาที่ผ่านมาก็เหมือนกับเป็นการหยอกล้อกับเด็กๆเท่านั้นเอง

ส่วนเรื่องที่พวกเขาตื่นเต้นก็คือ หากว่าหลี่ฝางพ่ายแพ้แล้ว งั้นพวกเขาก็ต้องกลายเป็นปลาติดร่างแหไปด้วยสิ!

“ปั้ง!”

วงล้อมการต่อสู้ของคนทั้งหกนั้นขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ใช้พื้นที่เพียงนิดเดียว ก็ค่อยๆขยายจนถึงครึ่งหนึ่งของพื้นที่ห้องแล้ว

ถึงแม้ว่าหลี่ฝางจะอาศัยพลังเพียงคนเดียวต่อสู้กับพลังมืดทั้งห้าคนที่มาจากแดนตะวันตก ก็ตาม แต่ว่าก็ยังไม่เคยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลย อีกทั้งในระหว่างนั้นยังบีบคั้นให้ชายหนุ่มตาน้ำข้าวคนหนึ่ง ถึงกับยอมสูญเสียมือข้างหนึ่งไป เพื่อหลบการเตะสังหารทีเดียวด้วยกระบวนท่าเตะขาหน้าของหลี่ฝาง

ถึงแม้กระดูกแขนข้างนั้นจะแตกร้าวไปแล้วก็ตาม แต่ว่าชายผมทองตาสีน้ำข้าว ดูเหมือนไม่มีความเจ็บปวดอะไรเลย และยังเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อสู้ต่อไป

ภายในห้องนั้น แสงไฟสลัว อยู่คู่กับการต่อสู้ที่ดุเดือดต่อไป เงาร่างทั้งหกแทบจะปรากฏให้เห็นเป็นเพียงแค่ภาพลวงตาเท่านั้น และยังหลงเหลือภาพลวงตาที่เกิดจากแขนขาอีกมากมายด้วย

พละกำลังอันยิ่งใหญ่นั้นทำให้พื้นห้องแตกร้าวอย่างรวดเร็ว ทั้งโต๊ะเก้าอี้ก็ถูกกระแทกจนแหลกละเอียด หลี่ฝางคนเดียวสู้กับศัตรูห้าคน กลับไม่มีทีท่าจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบแม้แต่นิดเดียว

“เป็นไปได้ยังไง แกเพิ่งจะฝึกวรยุทธ์ได้ไม่กี่วัน พวกเราเคยประมือกับพ่อแกหลอซ่ามาแล้ว ก็ยังไม่ได้ขนาดนี้เลย!” หนึ่งในคนจำนวนนั้นตะโกนด้วยความตื่นผวา

“พวกแกเคยสู้กับพ่อฉันแล้ว ยังมีชีวิตรอดมาได้ด้วยเหรอ?” หลี่ฝางตกใจเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะก้าวหน้าได้เร็วมาก แต่เขารู้ตัวดีว่าพละกำลังของตัวเอง ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของส้าวส้วยเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพ่อของเขาหลอซ่า

อีกทั้งห้าคนนี้ร่วมมือกันโจมตีเขายังแสดงออกว่าเหนื่อยหอบ แล้วทำไมยังสามารถรอดตายมาจากเงื้อมมือของหลอซ่าได้ล่ะ?

“ฉันรู้แล้ว พวกแกคงใช้วิธีหมาหมู่มาลอบทำร้ายพ่อฉันสิใช่มั๊ย?” หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ “พวกแกก็เป็นแค่พวกมดตัวเล็กๆเท่านั้นเอง พ่อฉันคงไม่อยากเสียแรงที่จะไปฆ่าหรอก!”

หลี่ฝางหัวเราะเยาะอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ ทำให้ห้าคนนั้นบันดาลโทสะขึ้นมาทันที

“พวกแกถ่วงเวลาให้ฉันหน่อย!”

ชายหนุ่มผิวดำดวงตาส่องประกายสว่างคนหนึ่ง กระโดดออกนอกวงต่อสู้ ตะโกนเสียงดัง

ที่เหลืออีกสี่คนก็ทยอยจู่โจมอย่างแข็งแกร่ง เพื่อถ่วงเวลาให้กับชายผิวดำคนนั้น

“คริส! สู้ๆนะ จะต้องฆ่าไอ้หมอนี่ให้ได้! มีแต่แกเท่านั้นที่สามารถฆ่าเขาได้ ฉันขอ สาบานกับพวกแก ตระกูลพวกฉันจะต้องตอบแทนตามความต้องการของพวกแกอย่างแน่นอน!”

ตงฟางจัวที่หลบอยู่อีกมุมหนึ่งเหงื่อไหลเต็มหน้า ตื่นเต้นจนกำหมัดไว้แน่น แล้วตะโกนพูดเสียงดังออกมา

เพราะว่าเขาพบว่าหลี่ฝางตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นแข็งกว่าคราวก่อนมากถึงเพียงนี้ เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น! หลี่ฝางก้าวหน้าเร็วเหมือนเสกมนต์ดำเช่นนี้จนตงฟางจัวตกใจกลัว ทำให้เขาเกิดความคิดที่จะต้องกำจัดหลี่ฝางให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดทั้งนั้น

ไม่เช่นนั้นแล้ว หลี่ฝางจะต้องเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของตระกูลตงฟางอย่างแน่นอน! เช่นเดียวกับพ่อของเขาหลอซ่า!

“ดัชนีพิฆาต!กระดูกแหลกเป็นจุณ!”

ชายผิวดำนั่งยองเล็กน้อย หลอดเลือดดำใต้ผิวหน้าผากโป่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้น ก็ส่งเสียงคำรามที่แหบแห้งดังสนั่นขึ้น เงาร่างราวกับกระสุนปืนใหญ่ ดีดตัวพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

ชั่วพริบตาเท่านั้น ก็พุ่งเข้าไปในวงล้อมต่อสู้ของทั้งห้าคน มือขวาประกบนิ้วคู่กันไว้ราวกับกระบี่ แฝงด้วยพลังอันมหาศาลที่น่าสะพรึงกลัว แทงเข้าไปยังหน้าอกของหลี่ฝาง

ภายใต้การปะทะที่รุนแรงนี้ อากาศรอบบริเวณนั้นถูกเหนี่ยวนำขึ้น กระแสลมที่ปั่นป่วนก็คละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง

ที่เหลืออีกสี่คนนั้น ต่างก็มองสบตากัน ทันใดนั้นก็กระโดดออกจากวงการต่อสู้ไป คงเหลือไว้แต่หลี่ฝางเพียงคนเดียว ที่เผชิญหน้ากับการจู่โจมที่แข็งแกร่งน่ากลัวนี้

ชายผิวดำคนนี้มีชื่อว่าคริส เป็นคนมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการอำนาจมืดทางโลกตะวันตก ท่าไม้ตายที่ร่ำลือที่สุดและเป็นที่น่าสะพรึงกลัวก็คือ ดัชนีพิฆาต!

การที่สามารถรวบรวมพลังทั้งหมดหลอมรวมไว้ในนิ้วทั้งสองนั้นได้ สามารถที่จะทุบ ทำลายก้อนหินตัดโลหะได้ แข็งแกร่งอย่างไร้เทียมทาน

ทันใดนั้นชายผิวดำพุ่งเข้ามาตรงหน้าหลี่ฝาง นิ้วทั้งสองนั้นห่างจากหน้าอกของหลี่ฝางไม่ถึงสองนิ้วเท่านั้น ขอเพียงให้นิ้วทั้งสองแทงเข้าไปยังหน้าอกของหลี่ฝางได้ เขาเชื่อมั่น ว่าต่อให้คนที่อยู่ตรงหน้าคือหลอซ่า วันนี้ก็ต้องตายคาที่อย่างแน่นอน!

“ฮ่าๆๆ พวกแกไม่รู้จักความน่ากลัวของกำลังภายในเสียแล้ว!” หลี่ฝางหัวเราะเสียงดังอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ก่อนหน้านั้นเขาหยั่งรู้ถึงกำลังภายในก็จริง เพราะว่ายังนำมาใช้ไม่เป็น ดังนั้นจึงได้แต่ใช้ ความสามารถเพียงอย่างเดียวมาโดยตลอด แต่ว่าหลังจากอยู่ภายใต้การชี้แนะของส้าวส้วยแล้ว เขาก็ค่อยๆเรียนรู้วิธีควบคุมการใช้พลังภายในได้อย่างดีขึ้นแล้ว

หลี่ฝางกำมือขวาไว้หลวมๆ ด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ วางตรงหน้าอกของตัวเอง ต้านทานแรงสังหารทีเดียวที่น่ากลัวนี้เอาไว้ได้พอดี

ชายผิวดำหลังจากที่เห็นฝ่ามือของหลี่ฝางแล้ว ดวงตาทั้งคู่แสดงท่าทีหวาดผวาออกมาทันที ระหว่างที่ร่างกายกำลังสั่นสะท้านอยู่นั้น ก็คิดจะดึงแขนตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด