องครักษ์เสื้อแพร 993 ป้อมกูซานเป่า

Now you are reading องครักษ์เสื้อแพร Chapter 993 ป้อมกูซานเป่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

รองแม่ทัพซุนโส่วเหลียนประจำเหลียวหนานตอนนี้เสียใจภายหลังมาก เขาต่อสู้ที่ป้อมกูซานเป่านี่มาได้หกวันเต็มๆ ซุนโส่วเหลียนสงสัยว่าตนเองจะได้เสวยสุขตามที่หวังทงรับปากว่าจะมอบให้ได้หรือไม่  สมบัติที่ตนสั่งสมมาหลายปีเกรงว่าคงต้องทิ้งไว้ให้ลูกหลานแล้ว  วาจานี้ไม่ถูกต้องนัก บนแผ่นดินหมิงนี้ แม่หม้ายหรือลูกไร้บิดาพร้อมสมบัติ อย่างไรก็ย่อมถูกพวกหมาป่าจ้องมองตาเป็นมัน

ซุนโส่วเหลียนตั้งแนวป้องกันริมแม่น้ำไท่จื่อเหอก็ถูกตีแตกหมดแล้ว เดิมทีซุนโส่วเหลียนจะพยายามรักษาแนวป้องกันนี้ให้ยาวไปทางตะวันตกให้มากที่สุด สามารถไปถึงเหลียวหยางได้ดีที่สุด

เช่นนี้กำลังที่เหลียวหยางที่มีพอก็จะสามารถมาช่วยได้ แต่รอบๆ เหลียวหยางกลับสถานการณ์รุนแรง ทำให้ซุนโส่วเหลียนโมโหก็คือ เหลียวหยางถึงกับเคลื่อนกำลังทหารจากป้อมทหารที่ใกล้เหลียวหยางไปหมด ทำให้กำลังแม่น้ำไท่จื่อเหอเริ่มอ่อนกำลัง ผลปรากฏถูกกำลังเผ่าหนี่ว์เจินยกลงใต้มาจัดการเสียย่อยยับ

พ่อค้าเผ่าหนี่ว์เจินเดินทางไปเมืองเหลียวโจวแต่ไรไม่เคยถูกจำกัด ยังมีชาวเผ่าหนี่ว์เจินไม่น้อยเป็นทหารอยู่ที่เมืองเหลียวโจว ชำนาญในพื้นที่มาก พวกเขาเดินทางไปมาชำนาญเส้นทางยิ่ง

กำลังเผ่าหนี่ว์เจินภายใต้การนำของซูเอ่อร์ฮาฉีเริ่มปล้นป้อมทหารรายทางเพื่อเอาเสบียง  นำกำลังเดินหน้า กวาดต้อนมาตลอดทาง ชาวฮั่นเหมือนว่ากำลังตกอยู่ในขุมนรก ทำให้ซุนโส่วเหลียนไม่อาจป้องกันได้อีก

ทัพใหญ่เผ่าหนี่ว์เจินเข้ามาใกล้มากที่สุด ก็เคยเข้าตีมาถึงด่านเหลียนซานกวน ที่นั่นห่างจากกองกำลังซุนโส่วเหลียนอันเป็นกองกำลังฝ่ายขวาติ้งเหลียวเมืองหวงเฟิ่งเฉิงไม่ถึงสองวันเดินทาง

แนวป้องกันใช้การไม่ได้ หวังทงยังมีจดหมายมาสั่งการอีก ทำให้ซุนโส่วเหลียนไม่อาจเอาแต่หลบป้องกันแต่ในกำแพง เขาฝากเมืองหวงเฟิ่งเฉิงให้คหบดีใหญ่ในเมืองร่วมกันป้องกัน นำกำลังในเมืองออกไปหมด  เร่งเดินหน้าไปรับศึกซูเอ่อร์ฮาฉีด้วยตนเอง

เมืองเหลียวโจวหักเบี้ยหวัดทหารเป็นปกติ  แต่ซุนโส่วเหลียนที่มีเงินทองมาก  หากก็ยังหักเบี้ยราวสองหรือสามส่วน อย่างไรก็เรียกว่าแล้งน้ำใจ

ออกเดินทางครั้งนี้ กองกำลังซุนโส่วเหลียนไม่ได้เสียเปรียบกำลังอย่างเช่นที่ป้อมเจี้ยฝานไจ้พ่ายศึก แต่ทว่าได้ข่าวมาไม่น้อย  แม่น้ำไท่จื่อเหอกับป้อมทหารรายทางพ่ายแพ้ มีคนหนีตายกันมาก พวกเขานำข่าวมาทำให้หลายคนเป็นกังวล ในใจก็เริ่มหวาดกลัว

ซุนโส่วเหลียนเองก็เทหมดหน้าตัก ไม่เพียงแต่คืนเบี้ยหวัดและเสบียงที่หักไว้ ยังให้เพิ่มอีกสองเดือน และยังรับปากให้รางวัลสองเท่าหลังชนะศึก

เขาเองเข้าใจดี หากทำตามคำสั่งหวังทง อำนาจวาสนาล้วนไม่ต้องกังวล หากให้ชาวเผ่าหนี่ว์เจินตีเข้ามาได้ ไม่เพียงแต่สมบัติตนต้องสูญสิ้นหมด ยังมีอีกหลายเมืองที่ถูกยึด ราชสำนักเอาเรื่องขึ้นมา ตนเองไม่ได้มีฐานบารมีเช่นหลี่เฉิงเหลียง ถึงตอนนั้นตำแหน่งรองแม่ทัพที่ได้มาใหม่ไม่อาจรักษาไว้ ดีไม่ดียังต้องรับโทษอีกด้วย

ซุนโส่วเหลียนนำทัพใหญ่ออกมา ซูเอ่อร์ฮาฉีก็เริ่มถอย การป้องกันอยู่ๆ เปลี่ยนเป็นการโจมตี จริงๆ บีบทัพเผ่าหนี่ว์เจินให้ห่างออกจากพื้นที่ป้องกันของตนก็พอ

แต่ทว่าหวังทงคำสั่งเขาไม่กล้าขัด ได้แต่ไล่โจมตีต่อ ซูเอ่อร์ฮาฉีได้แต่หนี  ซุนโส่วเหลียนตลอดทางยึดป้อมทหารต่างๆ ที่สูญไปคืนมา รายงานความชอบไปยังเหลียวหยางไม่หยุด  ก็รู้สึกดีไม่เบา ขอเพียงซูเอ่อร์ฮาฉีออกไปนอกแนวชายแดน ตนเองก็ถือว่ามีความชอบแล้ว และไม่ต้องใช้กำลังเงินและคนอันใด

เขาไล่ล่าไปถึงริมเส้นแม่น้ำไท่จื่อเหอ กลับไปฟื้นแนวป้องกันของตนเองที่ตั้งไว้ขึ้นใหม่  จากชัยชนะหนึ่งไปสู่อีกชัยชนะหนึ่ง

แต่ทว่าพอไล่ไปถึงแนวตะวันออกของแม่น้ำไท่จื่อเหอแถบป่าต้นสน พวกเผ่าหนี่ว์เจินที่ไม่สู้กองกำลังหมิงก็หันมาบุกกลับอย่างน่ากลัว

ทหารหมื่นกว่าของซุนโส่วเหลียนไม่อาจต้านทานได้ เดิมทีจากการข่าวศัตรูก่อนหน้า ซูเอ่อร์ฮาฉีมีกำลังเจ็ดพันกว่า ในนั้นมีทหารม้าพันกว่า แต่พอปะทะกันก็พบว่า อีกฝ่ายมีกำลังทุ่มลงมามากกว่าซุนโส่วเหลียน มีถึงเรือนหมื่น ทหารม้าก็ไม่น้อยกว่าสามพัน

ทว่ากำลังซุนโส่วเหลียนกล้าหาญเต็มที่ เป็นกำลังพร้อมรบเต็มที่ เช่นนี้สองฝ่ายก็ย่อมรบกันดุเดือด ซุนโส่วเหลียนแม้จะหนีออกมาก็หนีไม่ได้

กองกำลังหมิงเหลียวหนานเห็นชัดว่าไม่ใช่กองกำลังสู้ตาย ซุนโส่วเหลียนไม่คิดสู้ตาย พอปะทะกันเสียเปรียบเล็กน้อย ก็นำกำลังถอยกลับ ทหารซูเอ่อร์ฮาฉีแน่นอนว่ากัดไม่ปล่อย จากนั้นก็ไล่ล่ากลับมาตลอดทาง จากป่าต้นสนลงใต้ผ่านป้อมตามทาง จากนั้นก็มาถึงป้อมเจี่ยนฉั่งเป่า ป้อมที่นี่หลายป้อมล้วนไม่อาจอยู่รอด สุดท้ายก็กลับถึงป้อมกูซานเป่า

ทหารซุนโส่วเหลียนแม้ว่าแตกกระจัดกระจายไม่น้อย แต่ก็ติดตามกลับมาได้มาก เข้ามาใกล้กำแพงเมือง รอบๆ เป็นเทือกเขาเสียมาก ด้านหลังมีทหารไล่ล่ามา หากหลุดจากทัพก็ย่อมยากรักษาชีวิตได้

ป้อมกูซานเป่าไม่ใหญ่มาก แต่ทว่าซุนโส่วเหลียนมาถึงก่อนเผ่าหนี่ว์เจินทหารได้วันหนึ่ง ป้อมกูซานเป่ากับป้อมซาหม่าจี๋เป่าและป้อมอ้ายหยางเป่าทางตะวันตกล้วนคั่นด้วยเทือกเขา ความจริงนั้นป้อมกูซานเป่านั้นเป็นที่ทัพใหญ่ไม่อาจถอยได้อีกแล้ว ซุนโส่วเหลียนได้แต่รักษาที่มั่นนี้ด้วยชีวิตแล้ว

เช้าวันนี้ ทหารซุนโส่วเหลียนทุกคนไม่ว่าสู้ได้หรือไม่ได้ ล้วนถูกเขาเรียกระดมมาหมด ไปขุดคูล้อมนอกเมืองและสร้างสิ่งป้องกันทางการทหาร และยังเริ่มเก็บกวาดรวบรวมเสบียงจากป้อมรอบๆ เข้ามาให้หมด

ทหารอาศัยงานก่อสร้างทางการทหารป้องกันไว้ชั้นหนึ่ง ความกล้าหาญและใจออกศึกมากกว่าเดิมมาก ทหารเผ่าหนี่ว์เจินที่ไล่ตามมาวันแรก็ถูกสกัดไว้

ในการโจมตีสิ่งป้องกันต่างๆ นี้ ชาวเผ่าหนี่ว์เจินไม่ชำนาญ คนข้างนอกถึงกับสามารถเข้ามาในป้อมกูซานเป่าได้จากช่องทางที่พวกเขาไม่อาจป้องกัน ทำให้ซุนโส่วเหลียนได้รับข่าวระดับหนึ่ง เช่นว่า ซูเอ่อร์ฮาฉีได้รับกำลังเสริมจากด่านยาหูกวน จากนั้นจึงตีโต้คืนมาได้

ซุนโส่วเหลียนเข้าใจทหารเมืองเหลียวโจวมาก เป้าหมายเผ่าหนี่ว์เจินตอนนี้คือกวาดล้างแนวกำลังแผ่นดินหมิงตามเส้นทางแม่น้ำไท่จื่อเหอ ด่านฝู่ซุ่นกวนเป็นประตูสู่เมืองเหลียวโจว  มีกองกำลัง ป้อมและค่ายป้องกันตั้งอยู่แน่นหนา แต่ละเมืองมีกำลังเพียงพอ เส้นด่านยาหูกวนเข้าเมืองเหลียวโจว ก็สามารถล่องตามแม่น้ำไท่จื่อเหอเข้าสู่ใจกลางเหลียวตงได้โดยตรง และยังสามารถไปสร้างสัมพันธ์กับพวกเกาหลีที่ริมกำแพงชายแดนได้อีกด้วย

การค้าเผ่าหนี่ว์เจินกับเกาหลีมีมาตลอด เกาหลีเหมือนเป็นพ่อค้าระหว่างแผ่นดินหมิงกับชาวเผ่าหนี่ว์เจิน หากสื่อสัมพันธ์ได้ ชาวเผ่าหนี่ว์เจินไม่เพียงแต่ทำการค้ากับพวกเกาหลีได้ เกาหลียังอ่อนแอ  ปล้นชิงก็อาจทำได้เช่นกัน

จะทำเรื่องเหล่านี้ได้ ชาวเผ่าหนี่ว์เจินจะต้องกวาดล้างสิ่งที่เป็นอุปสรรครายทาง เช่นกองกำลังซุนโส่วเหลียน ต้องทำลายกองกำลังซุนโส่วเหลียนให้ราบคาบ เหลียวหนานก็จะไม่มีกำลังต้านทานอีก

รอบป้อมกูซานเป่าไม่มีพื้นที่รบมากนักที่จะให้กองกำลังนับหมื่นออกปะทะศึก ป้อมกูซานเป่าก็ไม่ได้มีกำแพงหนา แนวป้องกันก็ใช้มาหลายปี มีคูน้ำและกำแพงเตี้ยเท่านั้น ไม่เป็นอุปสรรคของศัตรูมากนัก การต่อสู้วันที่สองลำบากมาก

เป็นทหารราบธรรมดาเช่นกัน แต่ชาวเผ่าหนี่ว์เจินได้เปรียบมากกว่าจริงๆ มีความกล้าหาญในการต่อสู้มากกว่า กำลังซุนโส่วเหลียนไม่แตกกระเจิงก็เป็นเพราะมีสิ่งก่อสร้างทางการทหารป้องกัน  และยามนี้ยังไม่อาจถอยหนีได้อีกแล้ว

ซุนโส่วเหลียนกุมกำลังทหารในสังกัดตนไว้ในมือเพื่อเป็นหน่วยป้องกันเตรียมพร้อม การป้องกันรอบป้อมกูซานเป่าหากรับมือไม่อยู่ ก็จะให้หน่วยป้องกันเตรียมพร้อมนี้ออกไปปิดรูโหว่ไว้

ทหารในสังกัดซุนโส่วเหลียนมีอุปกรณ์รบเกือบครบชุดจากโรงช่างสามธารา ซุนโส่วเหลียนเลี้ยงดูอย่างดีด้วยเบี้ยหวัดและเสบียงให้อิ่มพอ กำลังการต่อสู้แข็งแกร่งมาก ออกไปปิดรูโหว่ไม่ใช่ปัญหา

 สถานการณ์วันแรกก็รักษาสถานการณ์ไว้ได้ แต่ป้อมกูซานเป่าเล็กไป กำลังทหารราบชาวเผ่าหนี่ว์เจินก็ยังเหนือกว่าภาพรวมของกำลังซุนโส่วเหลียน ทำให้พวกเขาสามารถเข้าบุกได้หลายทิศทางพร้อมกัน  ทหารในสังกัดซุนโส่วเหลียนต้องออกรบรอบทิศ

ทุกแห่งถูกทะลวงแนวป้องกันเข้ามา ทหารประจำเริ่มลดลงจนน่าใจหาย ทำให้ทหารในสังกัดซุนโส่วเหลียนเหนื่อยยิ่งมากขึ้น

การต่อสู้ในวันที่สาม ซุนโส่วเหลียนได้รับรายงานจากทหารหลายคนว่าทหารเผ่าหนี่ว์เจินเริ่มไปเก็บไม้จากภูเขารอบๆ เตรียมจะทำเครื่องโจมตีกำแพงเมือง

“มารดามันสิ ปกติก็เลี้ยงดูอย่างดี กลับเป็นพวกลูกหมาขี้ขลาดได้”

ทุกคนล้วนด่าเช่นนี้ ถึงกับล้วนไม่อยากคาดเดา เห็นคนที่บุกกำแพงเมืองราวเครื่องจักรโจมตีในชุดทหารเมืองเหลียวโจวชัดๆ หลังป้อมเจี้ยฝานไจ้พ่ายศึก มีคนถูกพวกนอกด่านจับตัวไป มีคนไปสวามิภักดิ์เผ่าหนี่ว์เจินแห่งเจี้ยนโจวเอง ไปเป็นทหารกินเสบียง ทหารเมืองเหลียวโจวมากมายไม่ใช่พวกมีคุณธรรมอันใด

หลังสร้างเครื่องมือโจมตีได้ การป้องกันป้อมกูซานเป่าก็เริ่มยิ่งยากขึ้น อาศัยโล่บัง ก็สามารถป้องกันธนูจากกองกำลังหมิงได้ ทหารเผ่าหนี่ว์เจินถมคูรอบเมืองเต็ม จากนั้นก็ก็ใช้ไม้ที่มัดเป็นท่อนใหญ่ทะลวงกำแพงเตี้ยรอบนอกที่ทำจากไม้

เมื่อไร้เครื่องป้องกันง่ายๆ เหล่านี้ ทหารเผ่าหนี่ว์เจินก็สามารถบุกเข้ามาปะทะได้โดยตรงอย่างง่ายดาย ธนูยิงสร้างความเสียหายได้ ทหารติดตามซุนโส่วเหลียนเริ่มล้มตายบาดเจ็บกันมาก

ทหารปกติก็ไร้ขวัญกำลังใจ สติแตกกระเจิงมากขึ้น แม้แต่ซุนโส่วเหลียนสังหารตัดหัวทิ้งก็ไม่อาจหยุดยั้งได้ สถานการณ์ค่อยๆ สูญเสียการควบคุมทีละน้อย  การป้องกันได้วันที่สี่ มีทหารเผ่าหนี่ว์เจินนับพันบุกเข้าป้อมกูซานเป่า ซุนโส่วเหลียนนำกำลังขับไล่ออกไปด้วยตนเองได้

แต่ศัตรูบุกเข้ามาทำลายไปมาก โกดังเสบียงถูกเผา ตอนไล่ศัตรูถอยออกไป ป้อมกูซานเป่าใช้กำลังคนทั้งหมดมาดับเพลิง แต่ยามต่อสู้ไม่อาจดับเพลิงได้ เสบียงถูกเผาไปมาก  คนนับหมื่นกินใช้ไม่น้อย ซุนโส่วเหลียนพบว่าสิ้นหวัง  คิดจะยืนหยัดต่อ สองวันก็ได้แต่สังหารม้ากินแล้ว

ทหารเบื้องหน้ากำลังหนี มีคนไปสวามิภักดิ์เผ่าหนี่ว์เจิน แต่ทว่าทหารติดตามซุนโส่วเหลียนยังคงจงรักภักดีเพียงพอ สถานการณ์สิ้นหวังนี้ยังคงอยู่อารักขาพลีชีพ ไม่สู้ทุกคนป้องนายหนี เช่นนี้ยังมีโอกาสรอด

ในขณะที่ทุกคนกำลังสติแตก ซุนเผิงจวี่กับทหารก็เข้ามาในป้อมกูซานเป่า พวกเขามาถึงบริเวณสนามรบ ก็ใช้เส้นทางภูเขา จากเขาที่ติดป้อมกูซานเป่าทางหนึ่งแอบเล็ดรอดเข้ามา เดินทางมายากลำบาก บุตรชายปรากฏตัวทำให้ซุนโส่วเหลียนโมโหแทบคลั่ง เห็นๆ ว่าเป็นที่ตาย ยังลอดเข้ามารนหาที่ตายทำไมกัน

เช้าวันที่สองที่ซุนเผิงจวี่มาถึง ทหารป้อมกูซานเป่าก็ตกใจพบว่า ศัตรูหน้าป้อมกูซานเป่าอยู่ๆ ถอยกำลังกลับตลอดคืนที่ผ่านมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด