เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราชบทที่ 275 บรรเทาภัยพิบัติ

Now you are reading เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช Chapter บทที่ 275 บรรเทาภัยพิบัติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 275 บรรเทาภัยพิบัติ

บทที่ 275 บรรเทาภัยพิบัติ

หญิงชราและเด็กจำนวนมากที่กำลังโศกเศร้าเพราะสูญเสียบ้านต้องอพยพขึ้นไปบนภูเขาพร้อมกับเหล่าทหาร ทุกคนสวมเพียงเสื้อผ้าบาง ๆ บางคนไม่ได้สวมรองเท้าด้วยซ้ำ พวกเขาต่างเนื้อตัวสั่นเทาเนื่องจากถูกลมหนาวพัดกระทบผิว

ยิ่งเดินไปไกลเท่าไหร่ อากาศก็ยิ่งหนาวเย็นขึ้นเท่านั้น เมื่อเริ่มรู้สึกหนาวเหน็บจนแทบแข็งตาย ก็มาถึงจุดหมายได้ทันเวลา

“นี่… ถ้ำนี้…”

บางคนจำถ้ำแห่งนี้ได้ เพราะเป็นสถานที่ที่พรานประจำหมู่บ้านใช้เป็นที่พักชั่วคราวยามต้องค้างแรม แต่จำได้ว่าภายในไม่ได้กว้างขวาง ซ้ำยังรกไม่น้อย มันเต็มไปด้วยหินและข้าวของวางระเกะระกะ

ทว่าหลังจากเข้าไปด้านใน ทุกคนกลับพบว่าทุกอย่างช่างแตกต่างไปจากที่คิดโดยสิ้นเชิง พื้นที่ภายในได้รับการขยายจนกว้างขวาง แม้จะมีคนเป็นร้อยเข้ามาก็ยังไม่มีปัญหา

ที่พื้นถ้ำยังมีการนำหญ้าแห้งมาวางรองไว้ แน่นอนว่าสบายยิ่งกว่าการเดินเท้าเปล่าท่ามกลางหิมะเป็นไหน ๆ ข้างหญ้าแห้ง ก็มีของบางอย่างวางอยู่

เป็นสิ่งของที่ขาวราวหิมะ ดูเหมือนผ้าแต่ก็ไม่ใช่อีกเช่นกัน

กลางถ้ำที่ไม่ได้ปูหญ้าแห้งมีหม้อเหล็กตั้งไว้เหนือเตาถ่าน ถึงจะเป็นถ่านคุณภาพต่ำ แต่ก็ถือว่าดีจนน่าประหลาดใจในยามประสบภัยเช่นนี้

ทุกคนเดินฝ่าลมหนาวมาเป็นเวลานาน จึงรีบเข้าไปนั่งล้อมรอบเตาไฟ ยื่นมือและเท้าเย็นเยียบจนซีดขาวออกมาผิงไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกาย

“น้ำขิงมาแล้ว ทุกคนมาดื่มน้ำขิงอุ่น ๆ ป้องกันจับไข้ก่อนเถิด”

มีคนนำหม้อที่เต็มไปด้วยน้ำขิงร้อน ๆ เข้ามา มีชามดินเผาหลายใบวางอยู่ข้างกัน บุรุษในชุดขุนนางผู้หนึ่งใช้ช้อนเคาะหม้อแล้วเอ่ยเรียกทุกคนให้มารับน้ำขิง

น้ำขิงอุ่น ๆ ถูกแจกจ่ายไปทั่วทั้งถ้ำ กลิ่นเผ็ดร้อนกระจายไปทั่วทุกซอกทุกมุม

สตรีผู้หนึ่งโอบอุ้มลูกน้อยเดินเข้ามา ประคองถ้วยด้วยมืออันสั่นเทา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจ รีบคำนับให้นายทหารตรงหน้าอย่างจริงใจ

“ขอบคุณใต้เท้ามากเจ้าค่ะ”

หญิงสาวยกถ้วยขึ้นจิบเพื่อทดสอบอุณหภูมิ ก่อนจะส่งให้ลูกน้อยของตนอย่างรวดเร็ว

ทุกคนต่างเร่งรีบลี้ภัยท่ามกลางพายุหิมะ คนชรา คนเจ็บ เด็ก ๆ และสตรีเหล่านี้ต่างอยู่ในอาการเหนื่อยล้า แต่ในขณะนี้พวกเขาทุกคนล้วนรู้สึกขอบคุณเหล่าทหารกล้าที่มาให้ความช่วยเหลือตน บางคนถึงขั้นคุกเข่าอย่างซาบซึ้ง

พวกเขาไม่เคยคิดว่าทางการจะเคลื่อนไหวอย่างทันท่วงทีในยามที่เกิดภัยพิบัติเช่นนี้มาก่อน ซ้ำยังรีบพาทุกคนมาหลบภัยในสถานที่ปลอดได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

แม้ว่าถ้ำแห่งนี้จะไม่ได้อยู่สบายอย่างบ้านเรือนของตน แต่ที่นี่ก็อบอุ่นเพียงพอให้นอนหลับและป้องกันทุกคนจากหิมะที่โหมกระหน่ำอยู่ด้านนอก ทั้งยังมีเตาอุ่น ๆ และน้ำขิงช่วยคลายหนาว ทุกคนรู้สึกราวกับกำลังอยู่ในความฝันหลังพบเจอเรื่องร้าย

ในเวลานั้นเองก็มีทหารนายหนึ่งรีบเข้ามา พร้อมกับหมอตามหลังมาติด ๆ

“หากมีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ รู้สึกตัวร้อนหรือหนาวสั่น โปรดก้าวออกมาให้ท่านหมอช่วยตรวจดูอาการก่อน”

มีหมอมารักษาพวกเขาถึงที่นี่จริง ๆ งั้นหรือ

“นี่ต้อง…จ่ายเงินเท่าไหร่หรือเจ้าคะ”

ตอนอพยพออกมา ทุกคนต่างรีบร้อน พวกเขาไม่มีเงินติดตัวสักแดงเดียว ถึงมีก็คงไม่เพียงพอต่อค่ารักษาเป็นแน่

“ท่านหมอถูกส่งตัวมาจากเมืองหลวง ทุกคนที่นี่จะได้รับการรักษาและได้รับยาโดยไม่ต้องเสียเงิน แต่ถึงกระนั้นก็ห้ามสร้างปัญหาแก่ท่านหมอเด็ดขาด!”

พอได้ยินว่าสามารถให้ท่านหมอรักษาได้โดยไม่ต้องเสียเงิน ทุกคนในถ้ำก็ตกใจและคุกเข่าลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว พากันแซ่ซ้องสรรเสริญซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทหารนายนั้นรีบโบกมือห้ามอย่างรวดเร็ว “ไม่จำเป็นต้องสรรเสริญพวกข้า ทั้งหมดนี้ฮ่องเต้ของเราเป็นผู้พระราชทานความช่วยเหลือมาเพื่อบรรเทาความทุกข์ยาก พระองค์ทรงคาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะมีพายุหิมะตั้งแต่สิบวันก่อน จึงได้รับสั่งให้ท่านเจ้าเมืองเตรียมรับมือเอาไว้ล่วงหน้าเป็นการเร่งด่วน เตรียมทหารและหมอจากเมืองหลวงมารอให้ความช่วยเหลือ พระองค์พระราชทานทั้งยา ฟืน ถ่านไม้ และผ้าห่มขนสัตว์เพื่อป้องกันไข้หวัด ฝ่าบาททรงห่วงใยพวกเราทุกคน”

ได้ยินเช่นนั้นชาวบ้านในถ้ำก็ยิ่งตะลึงมากกว่าเดิม ฝ่าบาท… เป็นฝ่าบาทอย่างนั้นหรือ

ชาวบ้านธรรมดาเฉกเช่นพวกเขา แม้แต่ท่านเจ้าเมืองก็ยังไม่อาจเข้าถึงได้ ไม่ต้องกล่าวถึงฮ่องเต้ที่อยู่ในวังหลวงเลย พระองค์แทบจะเทียบได้กับเทพเซียนที่ประทับอยู่บนสวรรค์ก็มิปาน

แต่คราวนี้พระองค์ผู้เป็นดั่งเทพเซียน ทรงตระเตรียมหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านตาดำ ๆ ทรงมีพวกตนอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์ด้วย

ทุกคนในถ้ำเริ่มพากันสรรเสริญองค์จักรพรรดิ ตะโกนขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนานหมื่นปี

พลทหารรีบเอ่ยขึ้น “มาเถิด เร็วเข้า มาให้ท่านหมอตรวจอาการและรับยาไป ยังมีงานอีกมากมายที่เราต้องทำ สตรีคนใดที่ว่างและยังแข็งแรง มาช่วยกันเตรียมหุงหาอาหาร ส่วนคนชราและเด็ก ๆ หากพบว่าที่ใดขาดหญ้าแห้งก็มารับไปเติมจะได้อุ่นพอสำหรับนอนในคืนนี้”

ครั้นได้ยินว่ามีอาหาร จิตใจที่กระสับกระส่ายของทุกคนก็สงบลงในทันใด

“ฝ่าบาทยังรับสั่งให้องค์ชายใหญ่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องเงินบรรเทาทุกข์แก่ทุกครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนสองตำลึงเงิน และเสบียงอาหารห้าต้านเพื่อช่วยในการสร้างบ้านใหม่หลังจากพายุหิมะจบลงอีกด้วย”

“ทุกคนจะได้รับใช่หรือไม่ แม้แต่เด็ก ๆ ก็ได้รับด้วยอย่างนั้นหรือเจ้าคะ”

หลังจากได้ยินเช่นนั้นชาวบ้านก็รีบถามขึ้น

เมื่อได้รับการยืนยัน ครอบครัวขนาดใหญ่ก็ส่งเสียงพอใจ ในขณะที่ครอบครัวเล็กดูเสียใจเล็กน้อย

แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด เมื่อได้รับความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกอย่างดีเช่นนี้ ทุกคนก็ยังเต็มไปด้วยความหวังและรู้สึกซาบซึ้งในน้ำพระทัยของฮ่องเต้มากยิ่งขึ้น

องค์เหนือหัวของพวกเขาไม่เพียงไม่ย่อท้อต่อพายุหิมะ แต่ยังทรงจัดเตรียมทุกอย่างเสียเสร็จสรรพ

ฝ่าบาทเปี่ยมพระเมตตาถึงเพียงนี้ ผู้ใดครหาว่าพระองค์เป็นฮ่องเต้ทรราชล้วนต้องเป็นคนเลวอย่างมิต้องสงสัย!

โดยเฉพาะผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคยประสบกับภัยพิบัติมาทั้งสองแผ่นดิน พวกเขาสามารถเปรียบเทียบได้ในทันที ยามชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันช่างแตกต่างจากฮ่องเต้พระองค์ก่อนราวฟ้ากับดิน

ผู้คนวุ่นอยู่กับหน้าที่ของตนเอง เมื่อบรรดาบุรุษที่ช่วยกันจัดการกับหิมะหนาทึบบริเวณเชิงเขาเดินขึ้นมาหลบภัยด้วยความเหนื่อยล้า พวกเขาก็ได้กลิ่นหอมของอาหาร ทันใดนั้นท้องที่ว่างเปล่าก็ส่งเสียงคำรามด้วยความหิวโหยราวกับฟ้าร้อง

“ทุกคนมากันแล้ว มากินข้าวก่อนเถิด!”

เหล่าสตรีตระเตรียมอาหารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นบุรุษเข้ามาก็ร้องเรียกเสียงใส ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนร่วมหมู่บ้าน ครั้นเห็นรอยยิ้มของสตรีที่รออยู่ ความกังวลเรื่องภัยพิบัติก็ลดลงแปรเปลี่ยนเป็นความสับสนและงุนงงแทนที่

กระทั่งถึงเวลามื้ออาหาร เมื่อเห็นหมั่นโถวธัญพืชที่ขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือกับโจ๊กชามใหญ่ที่เอาตะเกียบวางพาดขอบจานเเล้วไม่ตกลงไป พวกเขาก็มีสีหน้าเหลือเชื่อ

ทั้งหมดนี่…เตรียมไว้สำหรับพวกเขาหรือ

“รีบกินเถิด ท้องอิ่มแล้วจะได้มีแรงทำงาน นี่เป็นอาหารที่ฝ่าบาทพระราชทานเพื่อบรรเทาทุกข์แก่เรา พระองค์ทรงเปี่ยมพระเมตตา ไม่เพียงพระราชทานยาและน้ำขิงมาเท่านั้น แต่ยังส่งท่านหมอมาตรวจอาการเราอีกด้วย…”

เหล่าบุรุษต่างกินหมั่นโถวธัญพืชและโจ๊กชามใหญ่ระหว่างที่ฟังเรื่องราวที่ฝ่ายหญิงเล่า พวกเขาแทบไม่รู้เลยว่าฮ่องเต้ทรงเป็นเช่นไร ไม่เคยแม้แต่จะจินตนาการถึงด้วยซ้ำ

นี่…พระองค์ทรงห่วงใยพวกตนถึงเพียงนี้ เป็นความฝันหรือไม่

แต่โจ๊กร้อน ๆ ที่ยังอุ่นอยู่ในปาก และหมั่นโถวที่เติมท้องพวกเขาจนเต็มก็เป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ความฝันอย่างแน่นอน!

สวรรค์! เหตุใดฮ่องเต้ถึงมีพระปรีชาสามารถและเปี่ยมด้วยพระเมตตาเพียงนี้ ภายภาคหน้า หากได้ยินใครหน้าไหนกล้าเอ่ยว่าฝ่าบาทเป็นฮ่องเต้ทรราชให้ได้ยินอีก พวกเขาสาบานว่าจะไปจัดการคนผู้นั้นเอง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด