เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราชบทที่ 307 ออกจากเมืองจินโจว

Now you are reading เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช Chapter บทที่ 307 ออกจากเมืองจินโจว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 307 ออกจากเมืองจินโจว

บทที่ 307 ออกจากเมืองจินโจว

เป็นเรื่องง่ายที่จะจับตระกูลอวี๋ แต่ในไม่ช้าเรื่องก็ไปถึงหูเจ้าเมืองหลี่

“เซียวเหยาอ๋อง! เขาคิดว่าเจ้าเมืองคนนี้ควบคุมได้ง่ายสินะ!”

เจ้าเมืองหลี่ขบฟัน เวลานี้ถือว่าตนแตกหักกับเซียวเหยาอ๋องแล้ว ดังนั้น… พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับไปอย่างมีชีวิตแน่!

ความอาฆาตพยาบาทเย็นเยียบพุ่งวาบในดวงตาของเจ้าเมืองหลี่ ก่อนจะรีบเรียกให้ใครสักคนมาส่งจดหมายออกไป

ไม่ใช่ว่าเขามีความรู้สึกลึกซึ้งต่อตระกูลอวี๋จริง ๆ ทว่าความสัมพันธ์ของตระกูลอวี๋กับตนไม่ใช่เพียงแต่เป็นบ้านเดิมของภรรยาเท่านั้น หากยังเป็นถุงเงินถุงทองของเขาด้วย ทั้งยังเคยบอกเป็นนัยให้ตระกูลอวี๋ช่วยทำเรื่องสกปรกมากมาย

เมื่อเซียวเหยาอ๋องจับกุมตระกูลอวี๋ อีกฝ่ายคงได้ส่งคนไปตรวจค้นตระกูลอวี๋แล้ว ซึ่งมีบางสิ่งที่เขาไม่มีวันปล่อยให้เซียวเหยาอ๋องเอาออกไปทั้งยังมีชีวิต

วันรุ่งขึ้น เจ้าเมืองหลี่และภรรยาของเขารีบมาขอโทษ

“ท่านอ๋อง พวกเราต้องขอประทานอภัยเป็นอย่างสูง!”

ทันทีที่มาถึง เจ้าเมืองหลี่ก็เริ่มร้องไห้ “ผู้ใดจะคิดว่าบ้านภรรยาของกระหม่อมจะกล้าทำเรื่องหยามเกียรติต่อท่านเช่นนี้ ท่านไม่ต้องกังวลไปพ่ะย่ะค่ะ ครั้งนี้กระหม่อมไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอความเมตตา พวกเขากล้าทำเรื่องเช่นนั้นก็สมควรถูกท่านลงโทษแล้ว”

เขารักษาท่าทางของตนให้ก้มต่ำอย่างมาก พลางแสดงท่าทีน่ายกย่องอย่างการยอมสังหารญาติเพื่อคุณธรรม

หนานกงหลียังคงดูเกียจคร้านและเย่อหยิ่ง ราวกับว่าเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

“เจ้าเมืองหลี่ล้อข้าเล่นแล้ว ข้าจะใจแคบเพียงนั้นได้อย่างไร ข้าแค่โกรธเพราะหมูบางตัวต้องการลักตัวข้ากลับไปเป็นชายบำเรอ และที่ข้าจับกุมประมุขตระกูลอวี๋และภรรยาของเขาก็เป็นเพราะตระกูลอวี๋ทำเรื่องเลวร้ายมากมายเกินไป

เอาจริง ๆ เมื่อวานที่ข้าไม่ได้โต้เถียงกับอวี๋จูจู เพราะนางเองก็ได้ประสบกับความสูญเสียไปแล้ว แต่บังเอิญตอนกลับมา ข้าได้รับจดหมายรายงานฉบับหนึ่ง จิ๊ ๆ ๆ… จดหมายฉบับนั้นบอกว่าตระกูลอวี๋ได้ยักยอกปล้นชิงที่ดินทั้งทางตรงและทางอ้อมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก นายน้อยแห่งตระกูลอวี๋ฉุดคร่าเด็กสาวไร้ความละอาย ทั้งยังฆ่าคนไปมากมาย ทุกคนในเมืองจินโจวคงตาบอดกันหมดจนมองไม่เห็นเลยหรือ ย่อมไม่ เพียงแต่ก่อนนี้ไม่มีใครกล้าออกมาทวงความยุติธรรม ทว่าตอนนี้มีอ๋องอย่างข้าอยู่ที่นี่แล้ว

จริงสิ ในบรรดาชายหนุ่มที่ช่วยกลับมาจากหมูตอนตัวนั้น ได้ยินมาว่ามีหลายคนเป็นบัณฑิตที่เตรียมตัวไปสอบในเมืองหลวงด้วย เจ้าเมืองหลี่ เจ้าคิดว่าความขวัญกล้าของตระกูลอวี๋นั้นเป็นเพราะพวกเขากินดีหมีหัวใจเสือเข้าไปหรือไม่ นางถึงกับกล้าปล้นคนจากราชสำนัก!”

ในบรรดาคนเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาบางคนควรมีอนาคตที่สดใส แต่เนื่องจากรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของพวกเขาจึงถูกสตรีน่ารังเกียจลักพาตัวไป

เจ้าเมืองหลี่คนนี้ไม่เพียงแต่ไม่ได้หยุดอีกฝ่ายเท่านั้น เขายังช่วยปกปิดมันอีกด้วย เยี่ยมมาก!

หนานกงหลีไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ เขาโยนถ้วยชาใส่เจ้าเมืองหลี่ พลางมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา

“เจ้าเมืองหลี่ เจ้ามาเป็นเจ้าเมืองได้อย่างไรกัน”

ใบหน้าของเจ้าเมืองหลี่เปลี่ยนเป็นสีเขียวสลับขาว “เป็นความผิดของกระหม่อมเอง”

เขาแทบจะกัดฟันพูดประโยคนี้

“แน่นอนว่ามันเป็นความผิดของเจ้า เจ้าเมืองหลี่ รักษาตัวด้วย”

หลังจากที่เจ้าเมืองหลี่จากไปแล้ว เจี่ยเจินก็เดินถือขวดเหล้าเข้ามาพร้อมกับเสี่ยวเป่าและชายหนุ่มรูปหล่อที่แต่งตัวเหมือนบัณฑิต

ชายหนุ่มคนนี้คือบัณฑิตผู้กำลังจะไปสอบที่เมืองหลวง แต่ระหว่างทางกลับอวี๋จูจูได้ฉุดเขากลับมา

เมื่อวานเขาหมดสติอยู่ในรถม้า แต่เสือทั้งสองจมูกไว พวกมันจึงพบว่าในรถม้ามีคนจึงพาตัวออกไป

“ฉินเฟิงขอบคุณเซียวเหยาอ๋องสำหรับความช่วยเหลือพ่ะย่ะค่ะ”

ใบหน้าของฉินเฟิงซีดลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้

แม้ตระกูลของเขาจะไม่ได้มาจากครอบครัวที่ยากจน แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวย ระหว่างทางไปเมืองหลวง ตัวเขาแบกความหวังของทั้งตระกูลไว้บ่า เขาจึงพยายามประหยัดเงินอย่างดีที่สุด แต่ไม่คิดว่าขณะกำลังออกจากเมืองจินโจวจะดันเจอกับอวี๋จูจูที่กลับมาพอดีจนถูกจับตัว

หากเขาไม่โชคดีพบกับเซียวเหยาอ๋อง เขาอาจจะ…

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉินเฟิงก็รู้สึกกลัวจนร่างสั่นสะท้าน

เจี่ยเจินตบไหล่เขา “เจ้าโชคดีจริง ๆ ในบรรดาชายบำเรอที่อวี๋จูจูชิงตัวมาก่อนหน้านี้ มีบัณฑิตเหมือนเจ้าสามคน หนึ่งในนั้นฆ่าตัวตายเพราะทนไม่ไหว อีกสองคนถูกฆ่าตาย พวกเขาถูกทรมานจนซูบผอม เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับการกระทบกระเทือนทั้งทางร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก”

พอได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของฉินเฟิงก็ซีดลง… เขาเกือบจะกลายเป็นหนึ่งในนั้นแล้ว

“ตระกูลอวี๋ทำร้ายผู้คนมากมายจริง ๆ พวกบุรุษก็ฉุดคร่าสตรี บีบเด็กสาวนับไม่ถ้วนให้ตาย ทั้งทำลายครอบครัวของพวกนาง ทางฝั่งสตรีก็ปล้นชิงบุรุษอนาคตไกล แต่ละเมืองต่างมีผู้มีความสามารถเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่นางกลับแย่งเอาผู้มีพรสวรรค์ และทำลายอนาคตของพวกเขาลงอย่างน่ารังเกียจ”

เมื่อกล่าวถึงคนตระกูลอวี๋ ทุกคนล้วนมีสีหน้ารังเกียจ

เสี่ยวเป่าโกรธมาก “ท่านอาเจ็ด พวกเราต้องลงโทษคนเลวนะเพคะ!”

หนานกงหลีลูบหัวเล็ก ๆ ของนางแล้วพูดว่า “ไม่ต้องห่วงไป”

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลอวี๋หรือเจ้าเมืองหลี่ เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ใครหนีรอดเป็นอันขาดบราวนี่ออนไลน์

เวลาต่อมาทั่วทั้งเมืองจินโจวตกอยู่ในความเงียบอันน่าแปลกประหลาด ราวกับความสงบก่อนพายุโหม

เจ้าเมืองหลี่ยังไม่เคลื่อนไหวใด ๆ แต่ทุกคนรู้ดีว่าเจ้าเมืองผู้นี้กำลังรอ

และโอกาสก็มาถึงอย่างรวดเร็ว

การทำเตียงเตาไม่ได้ใช้ทักษะอะไรมากมายนัก ซึ่งช่างฝีมือที่มาจากแต่ละอำเภอต่างสามารถศึกษาและเชี่ยวชาญได้ภายในเวลาเพียงสามวัน

หลังจากช่างฝีมือที่มาจากอำเภอต่าง ๆ จากไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะจากไปเช่นกันบราวนี่ออนไลน์

และนี่คือ… โอกาสที่เจ้าเมืองหลี่รอคอย

ท่านอ๋อง องค์ชาย หรือแม้แต่องค์หญิงที่มีสถานะสูงส่งเช่นนี้ ไม่อาจมาตายในเมืองจินโจวของเขาได้

มิฉะนั้น แม้จะไม่พบสิ่งใดในระหว่างการสอบสวน แต่เขาก็ยังคงถูกตำหนิ

ดังนั้น… เขาต้องรอจนกว่าพวกเขาจะออกจากเมืองจินโจวไปสักระยะหนึ่ง

“พวกเจ้าพร้อมหรือไม่”

เจ้าเมืองหลี่ยืนอยู่บนกำแพงเมือง ขณะเฝ้าดูคณะเดินทางของเซียวเหยาอ๋องพลางถามอย่างเย็นชา

“ทุกอย่างพร้อมแล้วขอรับ”

เจ้าเมืองหลี่ยกมุมปากขึ้น ในดวงตาฉายแววบ้าคลั่งที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามีอยู่

“หากคิดต่อต้านข้า แม้ว่าจะเป็นมังกร ข้าก็จะเป็นผู้สังหารมังกรเอง!”

ตอนนี้เขาอยู่ในสภาพบ้าคลั่ง รู้ทั้งรู้ว่าตนกำลังทำสิ่งที่เป็นการกบฏ แต่เขาเองก็หลงใหลไปกับประโยชน์จากอำนาจเช่นกัน ความรู้สึกที่ว่าเขาเป็นผู้เดียวที่มีอำนาจตัดสินใจในทุกสิ่งเป็นเรื่องวิเศษมากจริง ๆ

แต่การดำรงอยู่ของเซียวเหยาอ๋องกำลังทำให้เขาสูญเสียสิ่งเหล่านั้น เขาจะทนได้อย่างไร

อำนาจ เมื่อมีสิ่งนั้นอยู่ในมือ ก็ไม่มีผู้ใดสามารถปล่อยมันไปได้

ดังนั้น เขาจึงคิดเดิมพัน… ด้วยชีวิต!

ตราบใดที่… ตราบเท่าที่คนเหล่านั้นตกตายด้วยน้ำมือของโจร ฝ่าบาทก็จะไม่มีทางรู้ถึงสิ่งที่เขาทำ

เจ้าเมืองหลี่ซึ่งอยู่ในสภาพบ้าคลั่ง จึงไม่ได้สังเกตเห็นคนของตนหลายคนมองหน้ากันด้วยสายตาที่เย็นชาและเต็มไปด้วยจิตสังหาร

ผาภูตผีร่ำไห้…

เป็นสถานที่ที่มีภูมิประเทศสูงชันเหมาะสำหรับการซุ่มโจมตี

อากาศเงียบสงบอย่างน่าขนลุก ยกเว้นเสียงขลุกขลักของล้อรถม้า

ทันใดนั้น ม้าก็ส่งเสียงร้องสองครั้งอย่างไม่สบายใจ ก่อนจะมีลูกศรแหลมคมพุ่งมา

ฟิ่ว…

“ปกป้ององค์หญิง!”

หัวหน้าองครักษ์ชักอาวุธออกมาทันที ก่อนจะทำการตัดหัวลูกธนูคมทิ้งด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด