Long Live The Hokage 54 : หมู่บ้านโคโนฮะ

Now you are reading Long Live The Hokage Chapter 54 : หมู่บ้านโคโนฮะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Long Live The Hokage

Chapter 54 : หมู่บ้านโคโนฮะ

ปีแรกของ หมู่บ้านโคโนฮะ

หมู่บ้านโคโนฮะ ที่เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นมานี้มีความคล้ายคลึงกับที่ มาซาฮิโกะเคยเห็นไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ,ถนนและ ทิวทัศน์ที่คุ้นเคยก็เริ่มปรากฏเข้ามาในความทรงจําของเขา

มาซาฮิโกะ เดินไปรอบ ๆ หมู่บ้านที่ส ร้างขึ้นใหม่และนึกถึงความทรงจําเมื่อฮาชิรามะและมาดาระยืนอยู่บนหน้าผาโฮคาเงะและทั้งคู่ก็ผายมือออกแล้วประกาศการก่อตั้งหมู่บ้านโคโนฮะอย่างเป็นทางการและต้องรับการเริ่มต้นของยุคใหม่

มาดาระ เป็นผู้ที่ตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ว่าหมู่บ้านโคโนฮะในขณะที่ฮาชิรามะได้รับเลือกให้เป็นผู้นํา

การก่อตั้งหมู่บ้านโคโนฮะทําให้มาซาฮิโกะได้แต้มการเข้าร่วมมา 100 แต้ม ทําให้ตอนนี้เขามีแต้มการเข้าร่วมทั้งหมด 130 แต้มเขารู้สึกพึงพอใจและก็ไม่รู้สึกว่าอยากได้อะไรมากกว่านี้อีกแล้วเขาวางแผนที่จะกลับไปพักผ่อนเขาไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งใดไปอีกนาน

“คงจะเป็นเรื่องน่าทึ่งที่ได้เห็นมาดาระแบบนั้น..” มาซาฮิโกะ หัวเราะเบา ๆ

ในไม่ช้าห้องประชุมใหม่ของโคโนฮะที่ในอนาคตมันจะกลายเป็น สํานักงานโฮคาเงะจะมีการจัดประชุมเต็มรูปแบบ เพื่อคัดเลือกผู้นําของหมู่บ้านหรือก็คือโฮคาเงะรุ่นแรกนั้นเองมาซาฮิโกะ และคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครเหมาะสมกับตําแหน่งนี้ไปมากกว่า ฮาชิรามะ

ตระกูลขนาดกลางหลายตระกูลมีความ คิดที่ต่างออกไป แต่บางตระกูลอย่างซารุโทบิก็ให้การสนับสนุน ฮาชิรามะ แน่นอนว่า ผู้นําตระกูลอุซึมากิจะให้การสนับสนุนลูกเขยของเขาแต่ไม่ว่าจะ อย่างไรก็ไม่มีใครสนับสนุนอุจิฮะ

“ไม่ ฮาชิรามะ จะสนับสนุนให้ มาดาระเป็นโฮคาเงะอย่างแน่นอน…” มาซาฮิโกะเอามือลูบใบหน้าของเขา

มาซาฮิโกะคิดไปเพลินจนเขาเดินวนร อบหมู่บ้านหลายรอบโดยไม่รู้ตัวอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถหาร้านๆ หนึ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุดนั้นก็คือร้านราเมนชื่อดังร้านอิจิราคราเมง

“ช่วยไม่ได้ ก็คงต้องรอไปก่อนถึงยังไงร้านราเมนในตํานานของ โคโนฮะ ก็ ต้องเปิดประตูให้เราในที่สุด…”

ไม่เจอร้านราเมน แต่ มาซาฮิโกะ ก็เจ อร้านบาร์บีคิวอยู่หลายแห่งตอนนี้ โคโนฮะเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมที่แตก ต่าง ร้านอาหารเต็มไปหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งบาร์บีคิว มาซาฮิโกะ รู้สึกสับสนเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้กับร้านไก่ย่างร้าน หนึ่ง

“ร้านของ ตระกูลอาคิมิจิ…” มาซาฮิ โกะตะลึงในขณะที่เขาจําชายร่างใหญ่ที่เป็นเจ้าของร้านได้เมื่อครั้งที่ชายคนน นกลายเป็นยักษ์สูง 100 ฟุตในสงครามชิงเหมือง

หากไม่ใช่เป็นเพราะพันธุศาสตร์พิเศษ ของ ตระกูลอาคิมิจิ มาซาฮิโกะก็คงอยากจะได้วิชาขยายร่างของพวกเขา เขาจะได้มีโอกาสเป็นเหมือนกับยักษ์ที่ยนอยู่ระหว่างสวรรค์และโลก

“ระหว่างสวรรค์และโลก?” มาซาฮิโกะพูดออกมาเบาๆ“ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!”

หลังจากเดินเล่นรอบหมู่บ้านเขาก็กลับไปที่สํานักงานโฮคาเงะ และเขาก็เห็นคนกําลังเดินออกมาจากที่นั่นทีละคน ๆ

กลุ่มแรกที่ออกมาคือ ผู้นําตระกูลเล็ก ๆ ยกเว้น ซารุโทบิซาสึเกะ ตามมาด้วยผู้นําตระกูลขนาดกลางทั้ง 6 ตระกูลพวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่ มาซาฮิโกะ คุ้นเคย คนที่เขาเคยต่อสู้ด้วยในสงครามชิงเหมือง

มาซาฮิโกะ ถอนหายใจ “ทุกคนแก่ แล้วแต่ก็ยังไม่มีใครสละตําแหน่งดูเหมือนว่าคนรุ่นใหม่จะยังขาดความสามารถและความทะเยอทะยานสินะ”

ในตอนท้ายของยุคสงครามก่อนการก่อตั้งการลดลงของการชิงตําแหน่งและความแข็งแกร่งของนินจาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ในสงครามอีก 3 ครั้งที่จะมาถึงจะสร้างให้นินจามีความทะเยอทะยานมากยิ่งขึ้นซึ่งนั่นพิสูจน์ให้เห็นว่าสงครามเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับการพัฒนาของนินจา

“มีขึ้นแล้วก็ต้องมีลง…” มาซาฮิโกะไม่ได้พูดอะไรกับผู้นําตระกูลทั้ง 6 เขาแค่คิดในใจเท่านั้น

“ตอนนี้ หมู่บ้านโคโนฮะ มีพลังอํานาจเหนือกว่าหมู่บ้านไหน ๆ ที่เราเคยเห็ นมา…เพราะที่นี่มีนินจาระดับคาเงะ ถึง 2 คน แล้วอย่างลืมว่ายังมีเราและนินจาระดับผู้นําตระกูลอีกอย่างน้อย 10 คนไม่ต้องพูดถึงนินจาระดับสูงและนินจาระดับโจนินอีกนับไม่ถ้วน
มาซาฮิโกะยืนห่างจากผู้นําตระกูลทั้ง 6 ไปประมาณ 100 เมตร เขาคอยเฝ้าดู พวกเขาเดินออกไป แต่น่าแปลกที่ไม่มีใครสังเกตเห็น มาซาฮิโกะเลยแม้แต่คนเดียว

“ฮ ฉันไม่มีตัวตนรึไงเนี่ย?” มาซาฮิ โกะเงยหน้าขึ้นและขมวดคิ้ว หลังจากนั้นไม่นานผู้นําตระกูลฮิวงะก็เดินผ่านเขาไปเช่นกัน “แม้แต่ ผู้นําตระกูลฮิวงะ ก็ไม่เห็นฉันเหรอ?”

จากนั้น ฮาชิรามะ และ ผู้นําตระกูลอุ ซึมากิ ก็เดินออกมาและในที่สุดก็มีคนสังเกตเห็นมาซาฮิโกะ

“ทําไมท่านดูโกรธแบบนั้นล่ะ?”

15 นาทีต่อมา….

ที่ร้านบาร์บีคิวของ ตระกูลอาคิมิจิ

“แหม พวกเขาเสนอให้ท่านเป็นโฮคาเงะแล้วท่านยังต้องการความคิดเห็นจากฉันอยู่อีกงั้นเหรอ?” มาซาฮิโกะเคี้ยวอาหารและพูดออกมา

“ท่านคิดว่าท่านจะสามารถปิดเรื่องนี้กับท่านปู่คนนี้ได้ด้วยบาร์บีคิวแบบนี้งั้นเหรอ?” มาซาฮิโกะเคี้ยวแล้วกลืนอา
หาร

ฮาชิรามะ เกาหัวของเขาและพยักหน้าอย่างเขินอาย

“ก็แสดงว่าไม่มีใครสนับสนุน มาดาระสินะ…” มาซาฮิโกะ ถอนหายใจ “เขาไม่สามารถเป็นโฮคาเงะได้หรอกท่านจะต้องหาตําแหน่งที่เหมาะสมอื่นให้กับเขา..”

“ตําแหน่งนี้ดีไหม…ตําแหน่งตัว แทนแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างแคว้นของโคโนฮะดีไหม?”

ฮาชิรามะ ไม่รู้จะพูดอะไร เขาเริ่มคิดแล้วว่าเขากําลังเสียบาร์บีคิวไปโดยเสียเปล่าเพราะแน่นอนว่ามาดาระจะไม่รับตําแหน่งนี้อย่างแน่นอน

“ในการประชุม ผมเห็นการแสดงออกของเขาดูเหมือนเขาจะไม่พอใจกับวิธีการเลือกโดยการเสนอชื่อแบบในครั้งนี้ผมคิดว่าผมน่าจะเปลี่ยนเป็นการลงคะ แนน” “ฮาชิรามะถอนหายใจ”ตอนนี้เมื่อ ผมคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็ดูเหมือนวิธีการแรกจะไม่เหมาะสมจริง ๆ“โอ้…!” มาซาฮิโกะเกือบจะสําลักบาร์บีคิวในปากของ เขาออกมา “ลงคะแนน? แค่การสนับสนุนที่ล้นหลามขนาดนี้ยังไม่พออีกเหรอไอ่หลานชายการลงคะแนนจะมีแต่ทําให้มาดาระขายหน้ามากขึ้นก็เท่านั้น”
ฮาชิรามะดูเศร้าขึ้นมาทันทีทําให้มาซาฮิโกะรู้สึกแย่ที่พูดแบบนั้นออกไปดังนั้นเขาจึงพยายามพูดต่อไปเพื่อป ลอบใจ ฮาชิรามะ “เอาล่ะ ๆ ท่านคือโฮคาเงะแล้วทําไมไม่ให้ มาดาระเป็นผู้อาวุโสละ? แล้วก็เลือกผู้อาวุโสคนอื่นจากเหล่าผู้นําตระกูลถ้าท่านไม่ได้เลือ กน้อยชายของท่านมาดาระก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร”

นี่ไม่ได้เป็นการแก้ไขสถานการณ์ที่ดี เลย มันทําให้ฮาชิรามะรู้สึกหดหูมากขึ้นไปอีกมันทําให้เขาจําได้ถึงความบาดหมางของ มาดาระกับโทบิรามะ

“คนนึงก็เป็นน้องชาย อีกคนก็เป็นเพื่อนชายมันเลือกยากมาก…” ฮาชิรามะพูดด้วยน้ําเสียงเศร้าสร้อย

“ฮะ ท่านเป็นเกย์รึไง?”

“เฮ้ย ไม่ใช่! ผมหมายถึงเพื่อนที่ดี…”

มาซาฮิโกะ กินอาหารอย่างพอใจเขายังหยิบบางอย่างมาจากจานของฮาชิรามะอีกด้วย

“อาคิมิจิ ต้องมีสูตรพิเศษอะไรบางอย่างแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่กินของ แบบนี้เด็ดขาด…” มาซาฮิโกะคิดถึงเรื่องนี้แล้วเขาก็ลืมเรื่องความหดหูของฮาชิรามะไปอย่างสิ้นเชิง

1 สัปดาห์ต่อมาไม่น่าแปลกใจที่ฮาชิรามะได้รับเลือกให้เป็น โฮคาเงะด้วยคะแนนเสียงล้นหลามและการได้เห็นการแสดงออกของมาดาระก็ทําให้มาซาฮิโกะพึงพอใจอย่างเป็นอย่างมาก

มาซาฮิโกะไม่รู้กระบวนการเลือกตั้งเป็นมายังไงนอกจากนี้ในคืนก่อนที่จะมีการประกาศผลมาซาฮิโกะก็ได้ยินบทสนทนาระหว่าง โทบิรามะกับฮาชิรามะโดยบังเอิญ

โทบิรามะต่อต้านความคิดที่จะให้มาดาระมีอํานาจและเล่าความลับของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ให้พี่ชายของเขาฟัง

หลังจากที่ โฮคาเงะได้รับเลือกแล้วพวกเขาก็หารือเรื่องการแต่งตั้งผู้อาวุโสและในที่สุดก็ได้ข้อสรุปมาว่าผู้อาวุโสจะมีจํานวนทั้งหมด 4 คนได้แก่อุจิฮะมาดาระ,ฮิวงะเทนจิน,ผู้นําตระกูลนาราและ อุซึมากิมาซาฮิโกะ…

สําหรับสาเหตุที่ มาซาฮิโกะ ได้รับเลือกแทนที่จะเป็นผู้นําตระกูลอุซึมากินั้นก็เพราะผู้นําตระกูลอุซึมากิต้องอยู่ที่หมู่บ้านอุซึมากิ เพื่อจัดการเรื่องต่างๆอยู่ตลอดเวลาเขาจึงไม่สามารถเป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้านโคโนฮะได้

เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ มาซาฮิโกะได้เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสแต่ในที่ประชุมก็เป็นที่เห็นพ้องต้องกันว่ากลุ่มผู้อาวุโสมีมาดาระซึ่งเป็นถึงนินจาระดับคาเงะอยู่แล้วดังนั้นพวกเขาจึงเลือกมาซาฮิโกะมาเพราะความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมของเขากับตระกูลชิมูระและตระกูลซารุโทบิ

สําหรับ โทบิรามะ เขาไม่ได้ห้ามพี่ชายของเขาอย่างที่คาดไว้และเขาก็ได้สร้างกองกําลังตํารวจแห่งโคโนฮะรุ่นแรกขึ้น
มา

เมื่อทุกอย่างถูกจัดตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้วหมู่บ้านก็เริ่มยุ่งวุ่นวายขึ้นอีกครั้งเพราะ พวกเขาต้องเตรียมงานพิธีสถาปนาขึ้นครองตําแหน่ง โฮคาเงะรุ่นแรก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Long Live The Hokage 54 : หมู่บ้านโคโนฮะ

Now you are reading Long Live The Hokage Chapter 54 : หมู่บ้านโคโนฮะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Long Live The Hokage

Chapter 54 : หมู่บ้านโคโนฮะ

ปีแรกของ หมู่บ้านโคโนฮะ

หมู่บ้านโคโนฮะ ที่เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นมานี้มีความคล้ายคลึงกับที่ มาซาฮิโกะเคยเห็นไม่ว่าจะเป็นโคมไฟ,ถนนและ ทิวทัศน์ที่คุ้นเคยก็เริ่มปรากฏเข้ามาในความทรงจําของเขา

มาซาฮิโกะ เดินไปรอบ ๆ หมู่บ้านที่ส ร้างขึ้นใหม่และนึกถึงความทรงจําเมื่อฮาชิรามะและมาดาระยืนอยู่บนหน้าผาโฮคาเงะและทั้งคู่ก็ผายมือออกแล้วประกาศการก่อตั้งหมู่บ้านโคโนฮะอย่างเป็นทางการและต้องรับการเริ่มต้นของยุคใหม่

มาดาระ เป็นผู้ที่ตั้งชื่อหมู่บ้านนี้ว่าหมู่บ้านโคโนฮะในขณะที่ฮาชิรามะได้รับเลือกให้เป็นผู้นํา

การก่อตั้งหมู่บ้านโคโนฮะทําให้มาซาฮิโกะได้แต้มการเข้าร่วมมา 100 แต้ม ทําให้ตอนนี้เขามีแต้มการเข้าร่วมทั้งหมด 130 แต้มเขารู้สึกพึงพอใจและก็ไม่รู้สึกว่าอยากได้อะไรมากกว่านี้อีกแล้วเขาวางแผนที่จะกลับไปพักผ่อนเขาไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งใดไปอีกนาน

“คงจะเป็นเรื่องน่าทึ่งที่ได้เห็นมาดาระแบบนั้น..” มาซาฮิโกะ หัวเราะเบา ๆ

ในไม่ช้าห้องประชุมใหม่ของโคโนฮะที่ในอนาคตมันจะกลายเป็น สํานักงานโฮคาเงะจะมีการจัดประชุมเต็มรูปแบบ เพื่อคัดเลือกผู้นําของหมู่บ้านหรือก็คือโฮคาเงะรุ่นแรกนั้นเองมาซาฮิโกะ และคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครเหมาะสมกับตําแหน่งนี้ไปมากกว่า ฮาชิรามะ

ตระกูลขนาดกลางหลายตระกูลมีความ คิดที่ต่างออกไป แต่บางตระกูลอย่างซารุโทบิก็ให้การสนับสนุน ฮาชิรามะ แน่นอนว่า ผู้นําตระกูลอุซึมากิจะให้การสนับสนุนลูกเขยของเขาแต่ไม่ว่าจะ อย่างไรก็ไม่มีใครสนับสนุนอุจิฮะ

“ไม่ ฮาชิรามะ จะสนับสนุนให้ มาดาระเป็นโฮคาเงะอย่างแน่นอน…” มาซาฮิโกะเอามือลูบใบหน้าของเขา

มาซาฮิโกะคิดไปเพลินจนเขาเดินวนร อบหมู่บ้านหลายรอบโดยไม่รู้ตัวอย่างไรก็ตามเขาก็ไม่สามารถหาร้านๆ หนึ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุดนั้นก็คือร้านราเมนชื่อดังร้านอิจิราคราเมง

“ช่วยไม่ได้ ก็คงต้องรอไปก่อนถึงยังไงร้านราเมนในตํานานของ โคโนฮะ ก็ ต้องเปิดประตูให้เราในที่สุด…”

ไม่เจอร้านราเมน แต่ มาซาฮิโกะ ก็เจ อร้านบาร์บีคิวอยู่หลายแห่งตอนนี้ โคโนฮะเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมที่แตก ต่าง ร้านอาหารเต็มไปหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งบาร์บีคิว มาซาฮิโกะ รู้สึกสับสนเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้กับร้านไก่ย่างร้าน หนึ่ง

“ร้านของ ตระกูลอาคิมิจิ…” มาซาฮิ โกะตะลึงในขณะที่เขาจําชายร่างใหญ่ที่เป็นเจ้าของร้านได้เมื่อครั้งที่ชายคนน นกลายเป็นยักษ์สูง 100 ฟุตในสงครามชิงเหมือง

หากไม่ใช่เป็นเพราะพันธุศาสตร์พิเศษ ของ ตระกูลอาคิมิจิ มาซาฮิโกะก็คงอยากจะได้วิชาขยายร่างของพวกเขา เขาจะได้มีโอกาสเป็นเหมือนกับยักษ์ที่ยนอยู่ระหว่างสวรรค์และโลก

“ระหว่างสวรรค์และโลก?” มาซาฮิโกะพูดออกมาเบาๆ“ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!”

หลังจากเดินเล่นรอบหมู่บ้านเขาก็กลับไปที่สํานักงานโฮคาเงะ และเขาก็เห็นคนกําลังเดินออกมาจากที่นั่นทีละคน ๆ

กลุ่มแรกที่ออกมาคือ ผู้นําตระกูลเล็ก ๆ ยกเว้น ซารุโทบิซาสึเกะ ตามมาด้วยผู้นําตระกูลขนาดกลางทั้ง 6 ตระกูลพวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่ มาซาฮิโกะ คุ้นเคย คนที่เขาเคยต่อสู้ด้วยในสงครามชิงเหมือง

มาซาฮิโกะ ถอนหายใจ “ทุกคนแก่ แล้วแต่ก็ยังไม่มีใครสละตําแหน่งดูเหมือนว่าคนรุ่นใหม่จะยังขาดความสามารถและความทะเยอทะยานสินะ”

ในตอนท้ายของยุคสงครามก่อนการก่อตั้งการลดลงของการชิงตําแหน่งและความแข็งแกร่งของนินจาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ในสงครามอีก 3 ครั้งที่จะมาถึงจะสร้างให้นินจามีความทะเยอทะยานมากยิ่งขึ้นซึ่งนั่นพิสูจน์ให้เห็นว่าสงครามเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับการพัฒนาของนินจา

“มีขึ้นแล้วก็ต้องมีลง…” มาซาฮิโกะไม่ได้พูดอะไรกับผู้นําตระกูลทั้ง 6 เขาแค่คิดในใจเท่านั้น

“ตอนนี้ หมู่บ้านโคโนฮะ มีพลังอํานาจเหนือกว่าหมู่บ้านไหน ๆ ที่เราเคยเห็ นมา…เพราะที่นี่มีนินจาระดับคาเงะ ถึง 2 คน แล้วอย่างลืมว่ายังมีเราและนินจาระดับผู้นําตระกูลอีกอย่างน้อย 10 คนไม่ต้องพูดถึงนินจาระดับสูงและนินจาระดับโจนินอีกนับไม่ถ้วน
มาซาฮิโกะยืนห่างจากผู้นําตระกูลทั้ง 6 ไปประมาณ 100 เมตร เขาคอยเฝ้าดู พวกเขาเดินออกไป แต่น่าแปลกที่ไม่มีใครสังเกตเห็น มาซาฮิโกะเลยแม้แต่คนเดียว

“ฮ ฉันไม่มีตัวตนรึไงเนี่ย?” มาซาฮิ โกะเงยหน้าขึ้นและขมวดคิ้ว หลังจากนั้นไม่นานผู้นําตระกูลฮิวงะก็เดินผ่านเขาไปเช่นกัน “แม้แต่ ผู้นําตระกูลฮิวงะ ก็ไม่เห็นฉันเหรอ?”

จากนั้น ฮาชิรามะ และ ผู้นําตระกูลอุ ซึมากิ ก็เดินออกมาและในที่สุดก็มีคนสังเกตเห็นมาซาฮิโกะ

“ทําไมท่านดูโกรธแบบนั้นล่ะ?”

15 นาทีต่อมา….

ที่ร้านบาร์บีคิวของ ตระกูลอาคิมิจิ

“แหม พวกเขาเสนอให้ท่านเป็นโฮคาเงะแล้วท่านยังต้องการความคิดเห็นจากฉันอยู่อีกงั้นเหรอ?” มาซาฮิโกะเคี้ยวอาหารและพูดออกมา

“ท่านคิดว่าท่านจะสามารถปิดเรื่องนี้กับท่านปู่คนนี้ได้ด้วยบาร์บีคิวแบบนี้งั้นเหรอ?” มาซาฮิโกะเคี้ยวแล้วกลืนอา
หาร

ฮาชิรามะ เกาหัวของเขาและพยักหน้าอย่างเขินอาย

“ก็แสดงว่าไม่มีใครสนับสนุน มาดาระสินะ…” มาซาฮิโกะ ถอนหายใจ “เขาไม่สามารถเป็นโฮคาเงะได้หรอกท่านจะต้องหาตําแหน่งที่เหมาะสมอื่นให้กับเขา..”

“ตําแหน่งนี้ดีไหม…ตําแหน่งตัว แทนแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างแคว้นของโคโนฮะดีไหม?”

ฮาชิรามะ ไม่รู้จะพูดอะไร เขาเริ่มคิดแล้วว่าเขากําลังเสียบาร์บีคิวไปโดยเสียเปล่าเพราะแน่นอนว่ามาดาระจะไม่รับตําแหน่งนี้อย่างแน่นอน

“ในการประชุม ผมเห็นการแสดงออกของเขาดูเหมือนเขาจะไม่พอใจกับวิธีการเลือกโดยการเสนอชื่อแบบในครั้งนี้ผมคิดว่าผมน่าจะเปลี่ยนเป็นการลงคะ แนน” “ฮาชิรามะถอนหายใจ”ตอนนี้เมื่อ ผมคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็ดูเหมือนวิธีการแรกจะไม่เหมาะสมจริง ๆ“โอ้…!” มาซาฮิโกะเกือบจะสําลักบาร์บีคิวในปากของ เขาออกมา “ลงคะแนน? แค่การสนับสนุนที่ล้นหลามขนาดนี้ยังไม่พออีกเหรอไอ่หลานชายการลงคะแนนจะมีแต่ทําให้มาดาระขายหน้ามากขึ้นก็เท่านั้น”
ฮาชิรามะดูเศร้าขึ้นมาทันทีทําให้มาซาฮิโกะรู้สึกแย่ที่พูดแบบนั้นออกไปดังนั้นเขาจึงพยายามพูดต่อไปเพื่อป ลอบใจ ฮาชิรามะ “เอาล่ะ ๆ ท่านคือโฮคาเงะแล้วทําไมไม่ให้ มาดาระเป็นผู้อาวุโสละ? แล้วก็เลือกผู้อาวุโสคนอื่นจากเหล่าผู้นําตระกูลถ้าท่านไม่ได้เลือ กน้อยชายของท่านมาดาระก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร”

นี่ไม่ได้เป็นการแก้ไขสถานการณ์ที่ดี เลย มันทําให้ฮาชิรามะรู้สึกหดหูมากขึ้นไปอีกมันทําให้เขาจําได้ถึงความบาดหมางของ มาดาระกับโทบิรามะ

“คนนึงก็เป็นน้องชาย อีกคนก็เป็นเพื่อนชายมันเลือกยากมาก…” ฮาชิรามะพูดด้วยน้ําเสียงเศร้าสร้อย

“ฮะ ท่านเป็นเกย์รึไง?”

“เฮ้ย ไม่ใช่! ผมหมายถึงเพื่อนที่ดี…”

มาซาฮิโกะ กินอาหารอย่างพอใจเขายังหยิบบางอย่างมาจากจานของฮาชิรามะอีกด้วย

“อาคิมิจิ ต้องมีสูตรพิเศษอะไรบางอย่างแน่ ๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่กินของ แบบนี้เด็ดขาด…” มาซาฮิโกะคิดถึงเรื่องนี้แล้วเขาก็ลืมเรื่องความหดหูของฮาชิรามะไปอย่างสิ้นเชิง

1 สัปดาห์ต่อมาไม่น่าแปลกใจที่ฮาชิรามะได้รับเลือกให้เป็น โฮคาเงะด้วยคะแนนเสียงล้นหลามและการได้เห็นการแสดงออกของมาดาระก็ทําให้มาซาฮิโกะพึงพอใจอย่างเป็นอย่างมาก

มาซาฮิโกะไม่รู้กระบวนการเลือกตั้งเป็นมายังไงนอกจากนี้ในคืนก่อนที่จะมีการประกาศผลมาซาฮิโกะก็ได้ยินบทสนทนาระหว่าง โทบิรามะกับฮาชิรามะโดยบังเอิญ

โทบิรามะต่อต้านความคิดที่จะให้มาดาระมีอํานาจและเล่าความลับของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผานิรันดร์ให้พี่ชายของเขาฟัง

หลังจากที่ โฮคาเงะได้รับเลือกแล้วพวกเขาก็หารือเรื่องการแต่งตั้งผู้อาวุโสและในที่สุดก็ได้ข้อสรุปมาว่าผู้อาวุโสจะมีจํานวนทั้งหมด 4 คนได้แก่อุจิฮะมาดาระ,ฮิวงะเทนจิน,ผู้นําตระกูลนาราและ อุซึมากิมาซาฮิโกะ…

สําหรับสาเหตุที่ มาซาฮิโกะ ได้รับเลือกแทนที่จะเป็นผู้นําตระกูลอุซึมากินั้นก็เพราะผู้นําตระกูลอุซึมากิต้องอยู่ที่หมู่บ้านอุซึมากิ เพื่อจัดการเรื่องต่างๆอยู่ตลอดเวลาเขาจึงไม่สามารถเป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้านโคโนฮะได้

เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ มาซาฮิโกะได้เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสแต่ในที่ประชุมก็เป็นที่เห็นพ้องต้องกันว่ากลุ่มผู้อาวุโสมีมาดาระซึ่งเป็นถึงนินจาระดับคาเงะอยู่แล้วดังนั้นพวกเขาจึงเลือกมาซาฮิโกะมาเพราะความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมของเขากับตระกูลชิมูระและตระกูลซารุโทบิ

สําหรับ โทบิรามะ เขาไม่ได้ห้ามพี่ชายของเขาอย่างที่คาดไว้และเขาก็ได้สร้างกองกําลังตํารวจแห่งโคโนฮะรุ่นแรกขึ้น
มา

เมื่อทุกอย่างถูกจัดตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้วหมู่บ้านก็เริ่มยุ่งวุ่นวายขึ้นอีกครั้งเพราะ พวกเขาต้องเตรียมงานพิธีสถาปนาขึ้นครองตําแหน่ง โฮคาเงะรุ่นแรก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+