Long Live The Hokage 70 : งานแต่งงานที่น่าเบื่อ

Now you are reading Long Live The Hokage Chapter 70 : งานแต่งงานที่น่าเบื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Long Live The Hokage Chapter 70 : งานแต่งงานที่น่าเบื่อ

ชาวบ้านไม่รู้ว่า ฮาชิรามะ กําลังตกอยู่ในความเศร้าหมองเมื่อข่าวการแต่งงานแพร่กระจายไปทั่วโคโนฮะ

ที่แผงขายบาร์บีคิวของ ตระกูลอาคิมิจิ ฮาชิรามะ นั่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานเพื่อรอ ให้ มาซาฮิโกะกินเสร็จ

มาซาฮิโกะ มองไปที่ใบหน้าของฮาชิรามะ แล้วยิ้ม “เป็นอะไรไป? ครั้งสุดท้ายที่ท่านเลี้ยงอาหารฉันก็ตอนที่ท่านอยากให้ มาดาระ เป็น โฮคาเงะ…คราวนี้ท่านมีเรื่องกังวลใจอะไรล่ะ?”

เมื่อ มาซาฮิโกะ พูดถึง มาดาระ ฮาชิรามะ ก็ยิ่งเศร้าขึ้นไปอีก เขาถอนหายใจโดยไม่มีคําอธิบายใด ๆ ออกมา

มาซาฮิโกะ ยิ้มและพูดว่า “ครั้งที่แล้วมันเกินกว่าความสามารถของฉัน แต่ท่านต้องเชื่อในท่านคนนี้อีกครั้ง แค่บอกฉันว่ามันเรื่องอะไรฉันจะได้ให้คําแนะนําท่านได้”

ฮาชิรามะ มองไปที่จานเปล่าที่วางอยู่เต็มโต๊ะทําให้ มาซาฮิโกะ รู้สึกอายเล็กน้อยเขานึกอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “มันเกี่ยวกับการแต่งงานของ เคนจิ หรือเปล่า?”

“เมื่อ 6 ปีที่แล้วผมเห็นด้วยกับข้อเสนอของ ไดเมียว ที่จะให้ลูกชายผมกับลูกสาวเขาแต่งงานกัน ตอนนั้นท่านก็เห็นด้วย โทบิรามะ ก็บอกจะช่วยคุยกับ มิโตะ ให้ แต่…”

“หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ผมก็ลืมเรื่องนี้ไปสะสนิท แต่ตอนนี้คือเรื่องการแต่งงานได้แพร่กระจายไปแล้ว…” ฮาชิรามะ ถอนหายใจอีกครั้ง

มาซาฮิโกะ แค่ยิ้มและส่ายหัว “ท่านลืมบอกเรื่องนี้กับ มิโตะ สินะ ท่านลืมเรื่องสําคัญแบบนี้ได้ยังไง?”

“สายไปแล้ว…” ฮาชิรามะ ดูเคร่งขรึม “ท่านรู้ว่าผมจะลืมบอกเธอ…ทําไมท่านไม่เตือนผมล่ะ ท่านปู่?!”

“อ่า ฮ่าฮ่า” มาซาฮิโกะ หัวเราะ “กลายเป็นความผิดฉันสะงั้น?”

ฮาชิรามะส่ายหัวแล้วถอนหายใจยาวอีกครั้ง

มาซาฮิโกะ ตบไหล่เขาเบา ๆ “อย่าเสียใจไปเลย ท่านยังมีฉันอยู่จริงไหม? ฉันจะคุยกับ มิโตะ ให้…”

หลังจากที่ มาซาฮิโกะ พูดเสร็จ เขาก็เดินออกจากร้านไป ฮาชิรามะ ก็รู้สึกโล่งใจที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้น แต่ก็ก่อนที่ใบเสร็จจ่ายเงินค่าอาหารจะมาเท่านั้น…

ไม่ว่ากระเป๋าเงินของ โฮคาเงะ จะอ้วนแค่ไหน ปริมาณที่ มาซาฮิโกะ กินเข้าไปก็เยอะมากและแพงกินไปสําหรับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แผงขายบาร์บีคิวของตระกูลอาคิมิจิ

ในขณะที่ ฮาชิรามะ กาลังงงและช็อคกับค่าอาหารของ มาซาฮิโกะ มาซาฮิโกะ ก็มาถึงหน้าบ้านของ มิโตะ แล้ว

มาซาฮิโกะ เคาะประตูบ้านและ มิโตะ ก็เชิญเขาเข้ามาในบ้าน ตอนนี้เธออายุ 40 ปีแล้ว แต่เธอก็ยังคงมีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์อยู่ สัญลักษณ์รูป 4 เหลี่ยมข้าวหลามตัดบนหน้าผากของเธอมีสีเข้มขึ้นและเธอก็ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเขา

เธอไม่รอให้ มาซาฮิโกะ เริ่มพูดก่อน เธอจึงพูดขึ้นมาทันที่ว่า “ท่านปู่ หนูรู้ว่าท่า นมาที่นี่ทําไมฮาชิรามะ ขอร้องท่านให้มาหาหนูใช่ไหมล่ะ หนูฝากไปบอกเขาด้วยนะคะว่าหมูไม่โกรธท่านปู่กลับบ้านไปเถอะค่ะ”

“หนูรู้ว่ามันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างหมู่บ้านกับ แคว้นแห่งไฟ แต่ในฐานะแม่ หนูควรรู้เรื่องนี้โดยปากของ ฮาชิรามะ เอง แต่เขากลับไม่บอกอะไรหนูเลย…”

มาซาฮิโกะ เกาหัว เขารู้สึกได้ว่า มิโตะ กําลังไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม มาซาฮิโกะ ก็ได้สัญญากับฮาชิรามะ แล้วว่าจะช่วยคุยกับ มิโตะ ให้ ดังนั้นอย่างน้อยเขาก็อยาก จะลองคุยกับเธอดู แต่เมื่อมาซาฮิโกะ กําลังจะเปิดปากพูดอะไรออกมา มิโตะ ก็พู ขัดจังหวะขึ้นมาอีกครั้ง

“โชคดีที่ เคนจิ ไม่มีผู้หญิงที่เขาชอบ ถ้าเขามีคนที่ชอบอยู่แล้วจะยิ่งล่าบาก ท่านปู่ หนูฝากไปบอก ฮาชิรามะ ด้วยนะคะว่าครั้งนี้หนูจะยกโทษให้เขา แต่แค่ครั้งนี้ เท่านั้นนะคะ แล้วก็บอกเขาว่าอย่างทําแบบนี้อีก!” เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว มาซาฮิโกะ ก็พบว่าตัวเองไม่ต้องพูดอะไรอีกต่อไปจากนั้นเขาก็พบว่าตัวเองออกมายืนอยู่หน้าประ ตูที่ถูกปิดเรียบร้อยแล้ว

มาซาฮิโกะ ยืนอยู่หน้าประตูบานนั้นและได้แต่ยิ้มอย่าขมขื่น ทําไม มิโตะ ถึงมีพลังมากขนาดนี้ เธอทําให้ ฮาชิรามะ เทพเจ้าแห่งนินจา สั่นสะท้านไปด้วยความกลัวชีวิต ของ ฮาชิรามะ ต้องอยู่อย่างยากลําบากภายใต้พลังของเธอ…
“ฉันไม่มีโอกาสได้พูดอะไรสักค่า แล้วฉันก็ออกมาแล้วเหรอ?” มาซาฮิโกะ ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่ขมขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ดูมีความสุขอีกครั้ง

“เราจะสนใจทําไมล่ะ? เราก็ได้กินบาร์บีคิวฟรีไปแล้วน…แล้วเราก็ทําตามสัญญาแล้วด้วย…น่าจะนะ”

10 นาทีต่อมา มาซาฮิโกะ ก็ไปหา ฮาชิรามะ ที่ยังคงดูหดหูอยู่เช่นเคย เขายิ้มให้ฮาชิรามะ และพูดว่า “อะไรกัน? ท่านยังคิดเกี่ยวกับกระเป๋าเงินของท่านอยู่อีกเหรอ? ไม่ต้องกังวลไปฉันไม่ต้องการบาร์บีคิวอะไรนั่นอีกแล้วล่ะ! หลังจากที่ฉันใช้ทักษะการโน้มน้าวใจทั้งหมดของฉัน ในที่สุด มิโตะ ก็ยกโทษให้ท่านแล้ว! แต่เธอขอให้ฉันบอกท่านว่าเธอจะยกโทษให้ท่านเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย แต่ว่าท่านห้ามทํานิสัยแบบนี้อีก!”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฮาชิรามะ ก็รู้สึกดีใจมาก เขาขอบคุณ มาซาฮิโกะ ครั้งแล้วครั้ง เล่าเขาดีใจมากจนไม่ทันได้สังเกตเห็นรอยยิ้มที่เบี้ยวของ มาซาฮิโกะ

ในที่สุด โฮคาเงะ ก็แก้ไขเรื่องครอบครัวของเขาได้ และการเตรียมการสําหรับงาน แต่งงานของเคนจิ ก็ได้ถูกวางไว้ในวาระการประชุม

แม้ว่าโลกนี้จะถูกปกครองโดยนินจาเป็นส่วนใหญ่ แต่สถานะของเคนจิ ในฐานะลู กชายคนโตของหัวหน้าหมู่บ้านก็เป็นเหมือนกับเจ้าชาย

ในบางแง่โลกนารูโตะ ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากสังคมในยุคปัจจุบันของโลกมนุษย์ ผู้คนจํานวนมากก็หมายถึงต้องเลี้ยงปากท้องจํานวนมาก เลี้ยงปากท้องจํานวนมากก็หมายถึงต้องหาอาหารจํานวนมาก หาอาหารจํานวนมากก็หมายถึงต้องทําฟาร์มเยอะต้องทําฟาร์มเยอะก็หมายถึงต้องใช้คนเยอะ เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ…โครงสร้างพื้นฐานต้องได้รับการพัฒนา และสิ่งต่าง ๆ ก็ต้องใช้เงิน ดังนั้น โคโนฮะ ในช่วง 7 ปีของการพัฒนาจึงได้ขอความช่วยเหลือทางการเงินจาก แคว้นแห่งไฟเป็นจํานวนมาก

ดังนั้นงานนี้จึงเป็นมากกว่างานแต่งงานของคนใหญ่คนโตใน แคว้นแห่งไฟ มันเป็นเรื่องสําคัญที่ต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยความรอบคอบ ซึ่งทําให้ มาซาฮิโกะ เริ่มสงสัยว่าทําไมเขาถึงไม่ถูกขอให้เป็นหนึ่งในเพื่อนเจ้าบ่าว

“ไม่เป็นไร เราไม่จําเป็นต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังไงพวกเขาก็จะชวนเราในที่สุด” มาซาฮิโกะ พูดกับตัวเอง “ถึงยังไงเราก็ยังเป็นท่านปู่ที่ยอดเยี่ยมสําหรับพวกเขาอยู่…”

อย่างไรก็ตาม มาซาฮิโกะ ก็ไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไป เขารีบวิ่งไปหา โทบิรามะ ที่กําลังยุ่งอยู่กับการเตรียมงานแต่งงาน “รอก่อนครับท่านปู่ ทุกคนยุ่งอยู่กับการจัดงานทั้งวัน…เพราะเราทุกคนคือเจ้าภาพ…”
มาซาฮิโกะ รู้สึกอายไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีใครมาหาเขา และนี่คือเหตุผล…

“20 ปีผ่านไปแล้ว ท่านยังไม่เชื่อใจฉันอีกเหรอ? ตอนนั้นฉันอาจจะยังดื้อรั้น…แต่ ฉันเปลี่ยนไปแล้วเชื่อฉันเถอะ ให้ฉันช่วยเถอะ” เห็นได้ชัดว่ามาซาฮิโกะ ยังซื้อ โทบิรามะอยู่

อย่างไรก็ตามมันไม่สําคัญว่า มาซาฮิโกะ จะพูดอะไร แต่ โทบิรามะ ก็ไม่ยอมให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงานและปล่อยให้เขาลอยเคว้งอยู่ด้วยประโยคที่ว่า “ท่านไม่ได้เปลี่ยนไปเลย..

งานแต่งงานถูกจัดขึ้นตามแผนที่วางไว้ในต้นเดือนมิถุนายนของปีที่ 7 นับตั้งแต่ก่อตั้ง โคโนฮะ

ไดเมียวมาที่ โคโนฮะ อีกครั้งโดยมี นินจาองครักษ์ 18 คนใหม่มาคอยคุ้มกันเขา

มาซาฮิโกะ นั่งลงอย่างไม่เต็มใจในขณะที่เขาทําท่าทางเบื่อ ๆ และดูงานแต่งงานสมัยเก่านี้ ฉากหลังของงานแต่งงานมีต้นซากุระเพียงไม่กี่ต้น แม้แต่ โทบิรามะ ก็ดูจะเบื่อเล็กน้อย…

เคนจิ อายุ 20 ปี เขาดูหล่อเหลามาก และเจ้าสาวของเขาก็อายุ 16 ปี เธอดูสวยมากด้วยผมบลอนด์ที่โบกสะบัดของเธอ

“ผมเป็นสีบลอนด์ เป็นเอกลักษณ์ แต่งานแต่งงานกลับเชยมาก…”

มาซาฮิโกะ รู้สึกผิดหวังกับงานแต่งงานครั้งนี้มาก เขามองไปที่ ฮาชิรามะ และ ไดเมียว ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ หลักจากนั้นเขาก็เดินไป 2 – 3 ก้าวแล้วตบไหล่ ฮาชิรามะ “งานแต่งไม่หน้าเบื่อไปใช่ไหม? ห์ ให้ โทบิรามะ เป็นคนทํา ทําไมไม่ให้ท่านปู่คนนี้ เป็นคนทําถ้าฉันได้ทําล่ะก็ฉันจะทําให้งานแต่งนี้มันระเบิดไปเลย!”

ฮาชิรามะ ยิ้มแหยง ๆ ออกมา เมื่อ ไดเมียว ได้ยินคํานั้น เขาก็หันไปมองที่ มาซาฮิ โกะ แล้วพูดว่า “ท่าน! เราจ่าท่านได้..ท่านคือ…108 นินจาองครักษ์! นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน ท่านไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ท่านทําได้ยังไงกัน?” ไดเมียวอายุ 50 ปี เขาดูแก่กว่า มาซาฮิโกะ และเขาก็คิดว่า มาซาฮิโกะ กาลังใช่วิชาเปลี่ยนร่างบางอย่างอยู่

มาซาฮิโกะ เหลือบมองไปที่ ไดเมียว จากนั้นก็ยิ้มอย่างเชื่องช้ํา “อ๊ะ ฮ่าฮ่า…” จากนั้นเขาก็หันหน้าหนีด้วยสีเข้มและนั่งหันหลังให้

ฮาชิรามะ ขอโทษ ไดเมียว ซ้ําแล้วซ้ําเล่าและอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง…

“108 นินจาองครักษ์…เมื่อไรเขาจะลืมเรื่องนี้ไปสะทีน่ะ? ไอ่เจ้าไดเมียวคนนี้นี่! เขาคิดที่จะทําให้ชีวิตฉันมีมลทินไปตลอดเลยรึเปล่าเนี่ย?” มาซาฮิโกะ บ่นในใจ

ถึงแม้ว่า มาซาฮิโกะ จะรู้สึกว่างานแต่งงานนี้น่าเบื่อมาก แต่ชาวบ้านก็ดูตื่นเต้นและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

แม้แต่นินจาก็ยังต้องการความสงบสุข และโดยธรรมชาติแล้วชาวบ้านก็ยิ่งต้องการมันมากกว่า

“หลังจากการแต่งงานของลูกชาย โฮคาเงะ กับลูกสาวของ ไดเมียว…แคว้นแห่งไฟ กับ โคโนฮะ ก็จะสงบสุขมากขึ้น…” การพูดคุยของชาวบ้านเต็มไปด้วยความหวัง

“เอ้อ…งานแต่งงานที่น่าเบื่อนี้ เมื่อไรจะจบส่ะที่?” มาซาฮิโกะ ถอนหายใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Long Live The Hokage 70 : งานแต่งงานที่น่าเบื่อ

Now you are reading Long Live The Hokage Chapter 70 : งานแต่งงานที่น่าเบื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Long Live The Hokage Chapter 70 : งานแต่งงานที่น่าเบื่อ

ชาวบ้านไม่รู้ว่า ฮาชิรามะ กําลังตกอยู่ในความเศร้าหมองเมื่อข่าวการแต่งงานแพร่กระจายไปทั่วโคโนฮะ

ที่แผงขายบาร์บีคิวของ ตระกูลอาคิมิจิ ฮาชิรามะ นั่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานเพื่อรอ ให้ มาซาฮิโกะกินเสร็จ

มาซาฮิโกะ มองไปที่ใบหน้าของฮาชิรามะ แล้วยิ้ม “เป็นอะไรไป? ครั้งสุดท้ายที่ท่านเลี้ยงอาหารฉันก็ตอนที่ท่านอยากให้ มาดาระ เป็น โฮคาเงะ…คราวนี้ท่านมีเรื่องกังวลใจอะไรล่ะ?”

เมื่อ มาซาฮิโกะ พูดถึง มาดาระ ฮาชิรามะ ก็ยิ่งเศร้าขึ้นไปอีก เขาถอนหายใจโดยไม่มีคําอธิบายใด ๆ ออกมา

มาซาฮิโกะ ยิ้มและพูดว่า “ครั้งที่แล้วมันเกินกว่าความสามารถของฉัน แต่ท่านต้องเชื่อในท่านคนนี้อีกครั้ง แค่บอกฉันว่ามันเรื่องอะไรฉันจะได้ให้คําแนะนําท่านได้”

ฮาชิรามะ มองไปที่จานเปล่าที่วางอยู่เต็มโต๊ะทําให้ มาซาฮิโกะ รู้สึกอายเล็กน้อยเขานึกอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “มันเกี่ยวกับการแต่งงานของ เคนจิ หรือเปล่า?”

“เมื่อ 6 ปีที่แล้วผมเห็นด้วยกับข้อเสนอของ ไดเมียว ที่จะให้ลูกชายผมกับลูกสาวเขาแต่งงานกัน ตอนนั้นท่านก็เห็นด้วย โทบิรามะ ก็บอกจะช่วยคุยกับ มิโตะ ให้ แต่…”

“หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ผมก็ลืมเรื่องนี้ไปสะสนิท แต่ตอนนี้คือเรื่องการแต่งงานได้แพร่กระจายไปแล้ว…” ฮาชิรามะ ถอนหายใจอีกครั้ง

มาซาฮิโกะ แค่ยิ้มและส่ายหัว “ท่านลืมบอกเรื่องนี้กับ มิโตะ สินะ ท่านลืมเรื่องสําคัญแบบนี้ได้ยังไง?”

“สายไปแล้ว…” ฮาชิรามะ ดูเคร่งขรึม “ท่านรู้ว่าผมจะลืมบอกเธอ…ทําไมท่านไม่เตือนผมล่ะ ท่านปู่?!”

“อ่า ฮ่าฮ่า” มาซาฮิโกะ หัวเราะ “กลายเป็นความผิดฉันสะงั้น?”

ฮาชิรามะส่ายหัวแล้วถอนหายใจยาวอีกครั้ง

มาซาฮิโกะ ตบไหล่เขาเบา ๆ “อย่าเสียใจไปเลย ท่านยังมีฉันอยู่จริงไหม? ฉันจะคุยกับ มิโตะ ให้…”

หลังจากที่ มาซาฮิโกะ พูดเสร็จ เขาก็เดินออกจากร้านไป ฮาชิรามะ ก็รู้สึกโล่งใจที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้น แต่ก็ก่อนที่ใบเสร็จจ่ายเงินค่าอาหารจะมาเท่านั้น…

ไม่ว่ากระเป๋าเงินของ โฮคาเงะ จะอ้วนแค่ไหน ปริมาณที่ มาซาฮิโกะ กินเข้าไปก็เยอะมากและแพงกินไปสําหรับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แผงขายบาร์บีคิวของตระกูลอาคิมิจิ

ในขณะที่ ฮาชิรามะ กาลังงงและช็อคกับค่าอาหารของ มาซาฮิโกะ มาซาฮิโกะ ก็มาถึงหน้าบ้านของ มิโตะ แล้ว

มาซาฮิโกะ เคาะประตูบ้านและ มิโตะ ก็เชิญเขาเข้ามาในบ้าน ตอนนี้เธออายุ 40 ปีแล้ว แต่เธอก็ยังคงมีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์อยู่ สัญลักษณ์รูป 4 เหลี่ยมข้าวหลามตัดบนหน้าผากของเธอมีสีเข้มขึ้นและเธอก็ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับเขา

เธอไม่รอให้ มาซาฮิโกะ เริ่มพูดก่อน เธอจึงพูดขึ้นมาทันที่ว่า “ท่านปู่ หนูรู้ว่าท่า นมาที่นี่ทําไมฮาชิรามะ ขอร้องท่านให้มาหาหนูใช่ไหมล่ะ หนูฝากไปบอกเขาด้วยนะคะว่าหมูไม่โกรธท่านปู่กลับบ้านไปเถอะค่ะ”

“หนูรู้ว่ามันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างหมู่บ้านกับ แคว้นแห่งไฟ แต่ในฐานะแม่ หนูควรรู้เรื่องนี้โดยปากของ ฮาชิรามะ เอง แต่เขากลับไม่บอกอะไรหนูเลย…”

มาซาฮิโกะ เกาหัว เขารู้สึกได้ว่า มิโตะ กําลังไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม มาซาฮิโกะ ก็ได้สัญญากับฮาชิรามะ แล้วว่าจะช่วยคุยกับ มิโตะ ให้ ดังนั้นอย่างน้อยเขาก็อยาก จะลองคุยกับเธอดู แต่เมื่อมาซาฮิโกะ กําลังจะเปิดปากพูดอะไรออกมา มิโตะ ก็พู ขัดจังหวะขึ้นมาอีกครั้ง

“โชคดีที่ เคนจิ ไม่มีผู้หญิงที่เขาชอบ ถ้าเขามีคนที่ชอบอยู่แล้วจะยิ่งล่าบาก ท่านปู่ หนูฝากไปบอก ฮาชิรามะ ด้วยนะคะว่าครั้งนี้หนูจะยกโทษให้เขา แต่แค่ครั้งนี้ เท่านั้นนะคะ แล้วก็บอกเขาว่าอย่างทําแบบนี้อีก!” เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว มาซาฮิโกะ ก็พบว่าตัวเองไม่ต้องพูดอะไรอีกต่อไปจากนั้นเขาก็พบว่าตัวเองออกมายืนอยู่หน้าประ ตูที่ถูกปิดเรียบร้อยแล้ว

มาซาฮิโกะ ยืนอยู่หน้าประตูบานนั้นและได้แต่ยิ้มอย่าขมขื่น ทําไม มิโตะ ถึงมีพลังมากขนาดนี้ เธอทําให้ ฮาชิรามะ เทพเจ้าแห่งนินจา สั่นสะท้านไปด้วยความกลัวชีวิต ของ ฮาชิรามะ ต้องอยู่อย่างยากลําบากภายใต้พลังของเธอ…
“ฉันไม่มีโอกาสได้พูดอะไรสักค่า แล้วฉันก็ออกมาแล้วเหรอ?” มาซาฮิโกะ ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่ขมขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ดูมีความสุขอีกครั้ง

“เราจะสนใจทําไมล่ะ? เราก็ได้กินบาร์บีคิวฟรีไปแล้วน…แล้วเราก็ทําตามสัญญาแล้วด้วย…น่าจะนะ”

10 นาทีต่อมา มาซาฮิโกะ ก็ไปหา ฮาชิรามะ ที่ยังคงดูหดหูอยู่เช่นเคย เขายิ้มให้ฮาชิรามะ และพูดว่า “อะไรกัน? ท่านยังคิดเกี่ยวกับกระเป๋าเงินของท่านอยู่อีกเหรอ? ไม่ต้องกังวลไปฉันไม่ต้องการบาร์บีคิวอะไรนั่นอีกแล้วล่ะ! หลังจากที่ฉันใช้ทักษะการโน้มน้าวใจทั้งหมดของฉัน ในที่สุด มิโตะ ก็ยกโทษให้ท่านแล้ว! แต่เธอขอให้ฉันบอกท่านว่าเธอจะยกโทษให้ท่านเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย แต่ว่าท่านห้ามทํานิสัยแบบนี้อีก!”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ฮาชิรามะ ก็รู้สึกดีใจมาก เขาขอบคุณ มาซาฮิโกะ ครั้งแล้วครั้ง เล่าเขาดีใจมากจนไม่ทันได้สังเกตเห็นรอยยิ้มที่เบี้ยวของ มาซาฮิโกะ

ในที่สุด โฮคาเงะ ก็แก้ไขเรื่องครอบครัวของเขาได้ และการเตรียมการสําหรับงาน แต่งงานของเคนจิ ก็ได้ถูกวางไว้ในวาระการประชุม

แม้ว่าโลกนี้จะถูกปกครองโดยนินจาเป็นส่วนใหญ่ แต่สถานะของเคนจิ ในฐานะลู กชายคนโตของหัวหน้าหมู่บ้านก็เป็นเหมือนกับเจ้าชาย

ในบางแง่โลกนารูโตะ ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากสังคมในยุคปัจจุบันของโลกมนุษย์ ผู้คนจํานวนมากก็หมายถึงต้องเลี้ยงปากท้องจํานวนมาก เลี้ยงปากท้องจํานวนมากก็หมายถึงต้องหาอาหารจํานวนมาก หาอาหารจํานวนมากก็หมายถึงต้องทําฟาร์มเยอะต้องทําฟาร์มเยอะก็หมายถึงต้องใช้คนเยอะ เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ…โครงสร้างพื้นฐานต้องได้รับการพัฒนา และสิ่งต่าง ๆ ก็ต้องใช้เงิน ดังนั้น โคโนฮะ ในช่วง 7 ปีของการพัฒนาจึงได้ขอความช่วยเหลือทางการเงินจาก แคว้นแห่งไฟเป็นจํานวนมาก

ดังนั้นงานนี้จึงเป็นมากกว่างานแต่งงานของคนใหญ่คนโตใน แคว้นแห่งไฟ มันเป็นเรื่องสําคัญที่ต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยความรอบคอบ ซึ่งทําให้ มาซาฮิโกะ เริ่มสงสัยว่าทําไมเขาถึงไม่ถูกขอให้เป็นหนึ่งในเพื่อนเจ้าบ่าว

“ไม่เป็นไร เราไม่จําเป็นต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังไงพวกเขาก็จะชวนเราในที่สุด” มาซาฮิโกะ พูดกับตัวเอง “ถึงยังไงเราก็ยังเป็นท่านปู่ที่ยอดเยี่ยมสําหรับพวกเขาอยู่…”

อย่างไรก็ตาม มาซาฮิโกะ ก็ไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไป เขารีบวิ่งไปหา โทบิรามะ ที่กําลังยุ่งอยู่กับการเตรียมงานแต่งงาน “รอก่อนครับท่านปู่ ทุกคนยุ่งอยู่กับการจัดงานทั้งวัน…เพราะเราทุกคนคือเจ้าภาพ…”
มาซาฮิโกะ รู้สึกอายไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีใครมาหาเขา และนี่คือเหตุผล…

“20 ปีผ่านไปแล้ว ท่านยังไม่เชื่อใจฉันอีกเหรอ? ตอนนั้นฉันอาจจะยังดื้อรั้น…แต่ ฉันเปลี่ยนไปแล้วเชื่อฉันเถอะ ให้ฉันช่วยเถอะ” เห็นได้ชัดว่ามาซาฮิโกะ ยังซื้อ โทบิรามะอยู่

อย่างไรก็ตามมันไม่สําคัญว่า มาซาฮิโกะ จะพูดอะไร แต่ โทบิรามะ ก็ไม่ยอมให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดงานและปล่อยให้เขาลอยเคว้งอยู่ด้วยประโยคที่ว่า “ท่านไม่ได้เปลี่ยนไปเลย..

งานแต่งงานถูกจัดขึ้นตามแผนที่วางไว้ในต้นเดือนมิถุนายนของปีที่ 7 นับตั้งแต่ก่อตั้ง โคโนฮะ

ไดเมียวมาที่ โคโนฮะ อีกครั้งโดยมี นินจาองครักษ์ 18 คนใหม่มาคอยคุ้มกันเขา

มาซาฮิโกะ นั่งลงอย่างไม่เต็มใจในขณะที่เขาทําท่าทางเบื่อ ๆ และดูงานแต่งงานสมัยเก่านี้ ฉากหลังของงานแต่งงานมีต้นซากุระเพียงไม่กี่ต้น แม้แต่ โทบิรามะ ก็ดูจะเบื่อเล็กน้อย…

เคนจิ อายุ 20 ปี เขาดูหล่อเหลามาก และเจ้าสาวของเขาก็อายุ 16 ปี เธอดูสวยมากด้วยผมบลอนด์ที่โบกสะบัดของเธอ

“ผมเป็นสีบลอนด์ เป็นเอกลักษณ์ แต่งานแต่งงานกลับเชยมาก…”

มาซาฮิโกะ รู้สึกผิดหวังกับงานแต่งงานครั้งนี้มาก เขามองไปที่ ฮาชิรามะ และ ไดเมียว ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ หลักจากนั้นเขาก็เดินไป 2 – 3 ก้าวแล้วตบไหล่ ฮาชิรามะ “งานแต่งไม่หน้าเบื่อไปใช่ไหม? ห์ ให้ โทบิรามะ เป็นคนทํา ทําไมไม่ให้ท่านปู่คนนี้ เป็นคนทําถ้าฉันได้ทําล่ะก็ฉันจะทําให้งานแต่งนี้มันระเบิดไปเลย!”

ฮาชิรามะ ยิ้มแหยง ๆ ออกมา เมื่อ ไดเมียว ได้ยินคํานั้น เขาก็หันไปมองที่ มาซาฮิ โกะ แล้วพูดว่า “ท่าน! เราจ่าท่านได้..ท่านคือ…108 นินจาองครักษ์! นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกัน ท่านไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ท่านทําได้ยังไงกัน?” ไดเมียวอายุ 50 ปี เขาดูแก่กว่า มาซาฮิโกะ และเขาก็คิดว่า มาซาฮิโกะ กาลังใช่วิชาเปลี่ยนร่างบางอย่างอยู่

มาซาฮิโกะ เหลือบมองไปที่ ไดเมียว จากนั้นก็ยิ้มอย่างเชื่องช้ํา “อ๊ะ ฮ่าฮ่า…” จากนั้นเขาก็หันหน้าหนีด้วยสีเข้มและนั่งหันหลังให้

ฮาชิรามะ ขอโทษ ไดเมียว ซ้ําแล้วซ้ําเล่าและอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง…

“108 นินจาองครักษ์…เมื่อไรเขาจะลืมเรื่องนี้ไปสะทีน่ะ? ไอ่เจ้าไดเมียวคนนี้นี่! เขาคิดที่จะทําให้ชีวิตฉันมีมลทินไปตลอดเลยรึเปล่าเนี่ย?” มาซาฮิโกะ บ่นในใจ

ถึงแม้ว่า มาซาฮิโกะ จะรู้สึกว่างานแต่งงานนี้น่าเบื่อมาก แต่ชาวบ้านก็ดูตื่นเต้นและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

แม้แต่นินจาก็ยังต้องการความสงบสุข และโดยธรรมชาติแล้วชาวบ้านก็ยิ่งต้องการมันมากกว่า

“หลังจากการแต่งงานของลูกชาย โฮคาเงะ กับลูกสาวของ ไดเมียว…แคว้นแห่งไฟ กับ โคโนฮะ ก็จะสงบสุขมากขึ้น…” การพูดคุยของชาวบ้านเต็มไปด้วยความหวัง

“เอ้อ…งานแต่งงานที่น่าเบื่อนี้ เมื่อไรจะจบส่ะที่?” มาซาฮิโกะ ถอนหายใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+