Long Live The Hokage 66 : แตกหัก
นิยาย Long Live The Hokage
Chapter 66 : แตกหัก
มาซาฮิโกะและฮาชิรามะเดินไปส่งซึจิคาเงะรุ่น 2 และลูกศิษย์ของเขาโอโนกิที่ประตูหลักของหมู่บ้านหลังจากนั้นมาซาฮิโกะก็กลับบ้านและเขียนหนังสือของเขาต่อ
“ทําไมฉันรู้สึกว่าฉันลืมอะไรไปบางอย่าง?”มาซาฮิโกะอยู่บ้านแล้วแต่เขาก็ไม่สามารถจําได้ว่าเขาลืมอะไร
“อืม…ถ้าฉันจําไม่ผิด ม กับ โอโนกิจะได้พบกับมาดาระ…มาดาระ ที่ไม่เห็นด้วยกับสัญญาพันธมิตรนินจาและเกิดการต่อสู้กันของพวกเขาและพวกเขาทั้ง 2 ก็จะพ่ายแพ้…” มาซาฮิโกะพยายามจดจําล่าดับเหตุการณ์ตามเนื้อเรื่องเดิม
“อ่า…มันน่าจะไม่เป็นปัญหา เรื่องราวยังไม่ถูกเปลี่ยนแปลง..นอกจากนี้เราคิดว่ามาดาระยังน่าจะอยู่ใกล้ๆกับโคโนฮะ”
ไม่นานหลังจากนั้นมาซาฮิโกะก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของจักรขอย่างรุนแรงแต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก มันจะต้องเป็นการต่อสู้ระหว่างมาดาระและซึจิคาเงะ รุ่น 2 อย่างแน่นอนเพราะมันถูกกล่าวไว้ในการ์ตูนแต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีมาซาฮิโกะก็ต้องยืนขึ้นด้วยความตกใจ
“ซูซาโนะโอะร่างสมบูรณ์ เลยเหรอ?บ้าไปแล้วเหรอมาดาระ? ท่านอยากจะฆ่าพวกเขาจริง ๆ เหรอเนี่ย?!”มาซาฮิโกะ ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไปแล้วเขาก็รีบบินไปยังสนามรบในทันที
โชคดีที่ มาดาระ ถูกบังคับให้ใช้พลังได้ไม่เต็มที่เพราะเขาต่อสู้ใกล้กับหมู่บ้านโคโนฮะฝั่งที่เป็นที่ตั้งของตระกูลอุจิฮะไม่เช่นนั้น มาซาฮิโกะก็คงต้องไปร่วมงานศพของซึจิคาเงะทั้ง 2 คน…
ถึงกระนั้นเมื่อเขามาถึงเขาก็พบว่า มู ซึจิคาเงะ รุ่น 2 และ โอโนกิ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและนอนอยู่กับพื้นแล้วโอโนกิตะโกนออกมาว่า “ทําไมท่านถึงทําแบบนี้? ท่านไม่รู้เหรอว่าเราได้ทําสัญญากับฮาชิรามะแล้วท่านควรจะ…”
มาดาระ ไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่โอโนกิพูดเขากําลังจะกําจัดพวกเขาทั้ง 2 คนแต่มาซาฮิโกะก็มาถึงได้ทันเวลา “มาดาระ!หยุดนะ!”
มาดาระ หยุดจริง ๆ ในวินาทีนั้นมาซาฮิโกะรู้สึกเหมือนว่าเขาได้เข้าถึงหัวใจของมาดาระในที่สุดแต่ในวินาทีต่อมาเขาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อดาบของซูซาโนะโอะพุ่งตรงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
ด้วยความเร็วแบบนี้ มาซาฮิโกะ หนีไม่พ้นอย่างแน่นอน เขาจึงพร้อมที่จะโจมตีกลับไปเพื่อป้องกันตัว เขารู้ว่าถ้าเขาทําแบบนั้นการต่อสู้ระหว่างเขากับมาดาระจะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอนแต่เขาก็ไม่มีทางเลือกแต่ก่อนที่มาซาฮิโกะจะได้ใช้วิชาอะไรออกไปโทบิรามะกับฮาชิรามะก็มาถึงและ ฮาชิรามะก็ตะโกนออกไป“มาดาระ!หยุดนะ!”
การมาถึงของ ฮาชิรามะโดยไม่คาดคิดไม่ได้หยุดมาดาระ จากการโบกดาบซูซาโนะโอะไปที่มาซาฮิโกะ
มาซาฮิโกะ ถอยหายใจและเตรียมพร้อมที่จะใช้ผนึก แต่ ฮาชิรามะ ก็ตะโกนอีกว่า
“คาถาไม้ : กําแพงไม้”
คาถาไม้ของฮาชิรามะก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่มาซาฮิโกะจะสามารถทําการประสานอินได้เสร็จ
มาดาระ ขมวดคิ้วและหยุดก่อนที่จะถึงกําแพงไม้ จากนั้นเขาก็คลายซูซาโนะโอะออก
เมื่อ ม ซึจิคาเงะ รุ่น 2 เห็นสิ่งนี้ เขาก็รีบไปดูอาการของ โอโนกิจากนั้นเขาก็ตะโกนถาม ฮาชิรามะ“โฮคาเงะ!มันหมายความหมายยังไงกันแน่?!ฉันคิดว่าเราเป็นพันธมิตรกันแล้วเสียอีก!”
“ฉันเสียใจจริง ๆ โทบิรามะ พา ท่านซึจิคาเงะ กับผู้ติดตามของเขาไปพักก่อนแล้วฉันจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ท่านฟังทีหลังท่านม” ฮาชิรามะพูดด้วยความเคร่งขรึม
ฮาชิรามะ รอให้ โทบิรามะ พาทั้ง 2 คนออกไปก่อนจากนั้นเขาก็ถาม มาดาระว่า “ทําไมนายต้องทําแบบนี้!มาดาระ?!”
“ใช่ มาดาระ ท่านบ้าไปแล้วเหรอ? ท่านยังพยายามตัดครึ่งฉันอีกด้วย!”มาซาฮิโกะดูโกรธเป็นอย่างมาก
มาดาระ แสดงดวงตาที่เย็นชาออกมา จากนั้นเขาก็หยิบหนังสือ 2 เล่มออกมาแล้วขว้างพวกมันไปที่มาซาฮิโกะในขณะที่พูดว่า“นี่ไงล่ะคําตอบไอ่แก่!”
มันคือหนังสือที่เขาเขียน
เมื่อ ฮาชิรามะ เห็นภาพนี้เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไร เขาทําอะไรไม่ได้นอกจากยกมือขึ้นมาปิดหน้าผากพูดตามตรงเขาก็รู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่มาซาฮิโกะทําเหมือนกัน…
“มาดาระ ทําไมนายถึงโจมตีท่านซึจิคาเงะรุ่น 2? ฉันแค่ทําข้อตกลงกับพวกเขาก็เท่านั้นเอง!”หลังจากคิดเกี่ยวกับมันแล้วฮาชิรามะก็อดไม่ได้ที่จะถาม มาดาระออกมา
“ข้อตกลงงั้นเหรอ? พันธมิตรงั้นเหรอ? พักรบไปก็ไม่มีประโยชน์!การต่อสู้จะเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน เพื่อความสงบสุขแกต้องพิชิต!ฉันแค่อยากจะสอนบทเรียนให้
กันแค่อยากจะสอนบทเรียนให้ พวกเขาก็เท่านั้นแต่ฉันก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะใช้วิชาแบบเดียวกับชายแก่คนนี้…” มา ดาระพูดอย่างช้า ๆ
มาซาฮิโกะ ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ดีเขาได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ออกมา
ขณะที่พวกเขากําลังสนทนากันอยู่นั้น ผู้คนก็เริ่มรวมตัวและมุงดูกันอยู่รอบ ๆ พวกเขา
ผู้คนมากแห่เข้ามากันมากขึ้นเรื่อยๆ รอบ ๆ ฮาชิรามะและ มาดาระแม้แต่ผู้นําตระกูลทั้ง 3 ของอิโนะ-ชิกะ-โจและฮิวงะ ก็มาที่นี่ด้วย
มาซาฮิโกะกระพริบตาให้ฮาชิรามะส่งสัญญาณให้เขาไล่ฝูงชนกลับไปในขณะที่เขาพยายามคุยกับมาดาระ
ฮาชิรามะ เข้าใจและพยักหน้ากลับจากนั้นเขาก็อธิบายสถานการณ์ให้ฝูงชนฟังและพยายามทําให้พวกเขาแยกย้ายกลับไป
“ชายแก่…หนังสือ 2 เล่มนี้แกเขียนมันขึ้นมาเหรอ?”มาดาระ ถามจากนั้นก็ตามมาด้วยช่วงเวลาแห่งความเงียบงันมาซาฮิโกะมองเห็นความเกลียดชังของมาดาระได้อย่างชัดเจน
“ใช่! ฉันเป็นคนเขียนมันขึ้นมาเอง!” มาซาฮิโกะพยักหน้าและยิ้ม “ท่านคิดว่ายังไงบ้างล่ะ? มันไม่ดีเหรอ…ฉันเขียนว่าพวกท่านรักกันเหมือนพี่น้อง…บางทีก็ดูจะมากกว่านั้น…ที่สําคัญคือความฝันของพวกท่านและในที่สุดท่านก็ประสบความสําเร็จ!”
หยดน้ำใน เนตรวงแหวน ของ มาดาระเริ่มหมุนวนแต่มาซาฮิโกะก็ขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว“มาดาระ!เราอยู่ใกล้เขตที่อยู่ของอุจิฮะท่านแน่ใจหรือว่าต้องการต่อสู้กับฉันที่นี่จริง ๆ?”
มาดาระ มองกลับไปที่ตระกูลของเขา
หลายคนมองมาที่ มาดาระ ทําให้เขาลังเลซึ่งทําให้ มาซาฮิโกะ รู้สึกโล่งใจเขาคิดในใจว่า “ดูเหมือนว่า มาดาระยังคงใส่ใจคนในตระกูลของเขาอยู่เขาจะไม่ทิ้งพวกเขาในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน”
พายุอารมณ์จางหายไปและ มาซาฮิโกะ ก็ได้รับแต้มการเข้าร่วม 2 แต้มแต่เขาก็ไม่ว่างที่จะตรวจสอบ
แม้ว่าสถานที่ตั้ง ตระกูลอุจิฮะ นั้นค่อนข้างอยู่ห่างไกลและไม่ได้รับอันตรายแต่ก็ยังมีชาวบ้านและนินจาจํานวนมากอยู่ในบริเวณใกล้เคียงพวกเขาได้รับบาดเจ็บจากตึกถล่มเพราะการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้มาซาฮิโกะรู้สึกผิดและเรียกคัตซียออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยเหลือพวกเขา
สําหรับมูและโอโนกิที่พักฟื้นอยู่ที่โคโนฮะมาซาฮิโกะได้ไปเยี่ยมพวกเขาหลายครั้งและทุกครั้งพวกเขาก็จะแสดงความขอบคุณมาซาฮิโกะที่ช่วยพวกเขาเอา
หลังจากไปเยี่ยมและโอโนกิหลายครั้งมาซาฮิโกะก็ค่อย ๆ เห็นด้วยกับมุมมองของมาดาระ
ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งที่จําเป็นในการรักษาสมดุลแม้ว่าวิธีการของ มาดาระจะแสดงให้เห็นแล้วว่ามันไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดก็ตามเขาต้องการแบ่งปันความคิดเหล่านี้กับสภาแต่เขาก็กลัวว่าจะทําให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีกครั้งดังนั้นเขาจึงรักษาตัวเองไว้และไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเลยจนกระทั่งมูและโอโนกิหายจากอาการบาดเจ็บและพร้อมที่จะออกเดินทางจากหมู่บ้านโคโนฮะไป
ขณะที่ ม เดินออกมาจากห้องพัก มาซาฮิโกะ ก็เดินมาหาเขาแล้วพูดกับเขาว่า“ท่านซึจิคาเงะเราทั้งคู่ต่างก็มีสายเลือดคัดสรร คาถาธุลีเหมือนกันฉันหวังว่าฉันคงจะได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นจากท่าน”
เมื่อได้ยินแบบนั้นใบหน้าของก็เปลี่ยนไป“คาถาธลีเป็นวิชาที่ฉันพัฒนาขึ้นมาเอง แล้วท่านไปเรียนมาจากไหน?”
มาซาฮิโกะหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้“อย่างใส่ใจเลย บางที่เราอาจมีต้นตระกูลเดียวกันเมื่อ 500 ปีก่อนก็ได้มั้ง…”
มู “…”
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ใช้คาถาธุลีได้แม้ว่าผู้คนมากมายต้องการเรียนรู้มันเช่นเดียวกับขีดจํากัดสายเลือดอื่น ๆ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทําได้ในขณะที่มาซาฮิโกะอาศัยแค่การเพิ่มแต้มเท่านั้น
ดังนั้น มาซาฮิโกะ จึงรู้สึกได้ว่าตอนนี้พลังและความแข็งแกร่งของมูอยู่ในระดับ เดียวกันกับเขา
มาซาฮิโกะไม่ได้ใช้โหมดเซียนหรือประตูด่านพลังในตอนที่รับมือกับมาดาระแต่เขาก็สามารถรับมือกับมาดาระได้อย่างสูสี
ความแข็งแกร่งของมาซาฮิโกะทําให้มตกตะลึงเป็นอย่างมากหัวใจของเขาตอนนี้รู้สึกหนักอึ้งเมื่อเขารู้ว่าแม้แต่ผู้อาวุโสของโคโนฮะก็แข็งแกร่งกว่าเขาแต่ในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนว่าการที่เขาตัดสินใจเป็นพันธมิตรกับโคโนฮะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องแล้ว
ในตอนบ่ายของวันเดียวกันฮาชิรามะ,มาซาฮิโกะและอีก 2-3 คนเดินพามูและโอโนกิไปที่ประตูโคโนฮะและกล่าวคําว่าลากับพวกเขาเพื่อส่งพวกเขากลับไปยังหมู่บ้านอิวะ
เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ของ มาดาระ ทําให้เกิดความเสียหายต่อชาวบ้านเป็นจาวนมาก ทําให้ภาพลักษณ์ของตระกูลอุจิวะแย่ลงไปอีก
ความขัดแย้งระหว่างอุจิฮะกับตระกูลอื่นๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ทุกคนในโคโนฮะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตระกูลอุจิฮะ มาซาฮิโกะรู้สึกผิดมากขึ้นเรื่อย ๆและเขาก็รู้สึกแย่กับเรื่องนี้มาก
มาซาฮิโกะ คิดว่าเขาต้องรีบเขียนหนังสือเล่มที่ 3 ของเขาให้เสร็จให้เร็วที่สุดเพื่อแก้ไขสถานการณ์และทิ้งอารมณ์ทั้งหมดไว้ในนั้น เขาต้องการให้หมู่บ้านเข้าใจมาดาระจริงๆเขาไม่ต้องการเห็น มาดาระหายไป…
2 วันต่อมา ทุกอย่างเป็นไปตามที่มาซาฮิโกะคิดไว้เขาเขียนหนังสือจนเสร็จเขากําลังเตรียมส่งต้นฉบับให้กับสํานักพิมพ์ แต่เขาก็พบกับฮาชิรามะที่กําลังตามหาเขาอยู่เมื่อพวกเขาพบกันประโยคแรกที่ฮาชิรามะพูดกับมาซาฮิโกะก็ทําให้เขาตกใจ
“ท่านปู่…มาดาระ…ไปแล้ว”
ทันใดนั้นข้อความหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้า มาซาฮิโกะ
“เข้าร่วมและเป็นพยานในเหตุการณ์สําคัญของโลก นารูโตะ : แตกหักกับอุจิฮะมาดาระ!”
“รางวัล : คุณได้รับแต้มการเข้าร่วม 5(X2) แต้ม!”
Comments
Long Live The Hokage 66 : แตกหัก
นิยาย Long Live The Hokage
Chapter 66 : แตกหัก
มาซาฮิโกะและฮาชิรามะเดินไปส่งซึจิคาเงะรุ่น 2 และลูกศิษย์ของเขาโอโนกิที่ประตูหลักของหมู่บ้านหลังจากนั้นมาซาฮิโกะก็กลับบ้านและเขียนหนังสือของเขาต่อ
“ทําไมฉันรู้สึกว่าฉันลืมอะไรไปบางอย่าง?”มาซาฮิโกะอยู่บ้านแล้วแต่เขาก็ไม่สามารถจําได้ว่าเขาลืมอะไร
“อืม…ถ้าฉันจําไม่ผิด ม กับ โอโนกิจะได้พบกับมาดาระ…มาดาระ ที่ไม่เห็นด้วยกับสัญญาพันธมิตรนินจาและเกิดการต่อสู้กันของพวกเขาและพวกเขาทั้ง 2 ก็จะพ่ายแพ้…” มาซาฮิโกะพยายามจดจําล่าดับเหตุการณ์ตามเนื้อเรื่องเดิม
“อ่า…มันน่าจะไม่เป็นปัญหา เรื่องราวยังไม่ถูกเปลี่ยนแปลง..นอกจากนี้เราคิดว่ามาดาระยังน่าจะอยู่ใกล้ๆกับโคโนฮะ”
ไม่นานหลังจากนั้นมาซาฮิโกะก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของจักรขอย่างรุนแรงแต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก มันจะต้องเป็นการต่อสู้ระหว่างมาดาระและซึจิคาเงะ รุ่น 2 อย่างแน่นอนเพราะมันถูกกล่าวไว้ในการ์ตูนแต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีมาซาฮิโกะก็ต้องยืนขึ้นด้วยความตกใจ
“ซูซาโนะโอะร่างสมบูรณ์ เลยเหรอ?บ้าไปแล้วเหรอมาดาระ? ท่านอยากจะฆ่าพวกเขาจริง ๆ เหรอเนี่ย?!”มาซาฮิโกะ ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไปแล้วเขาก็รีบบินไปยังสนามรบในทันที
โชคดีที่ มาดาระ ถูกบังคับให้ใช้พลังได้ไม่เต็มที่เพราะเขาต่อสู้ใกล้กับหมู่บ้านโคโนฮะฝั่งที่เป็นที่ตั้งของตระกูลอุจิฮะไม่เช่นนั้น มาซาฮิโกะก็คงต้องไปร่วมงานศพของซึจิคาเงะทั้ง 2 คน…
ถึงกระนั้นเมื่อเขามาถึงเขาก็พบว่า มู ซึจิคาเงะ รุ่น 2 และ โอโนกิ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและนอนอยู่กับพื้นแล้วโอโนกิตะโกนออกมาว่า “ทําไมท่านถึงทําแบบนี้? ท่านไม่รู้เหรอว่าเราได้ทําสัญญากับฮาชิรามะแล้วท่านควรจะ…”
มาดาระ ไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่โอโนกิพูดเขากําลังจะกําจัดพวกเขาทั้ง 2 คนแต่มาซาฮิโกะก็มาถึงได้ทันเวลา “มาดาระ!หยุดนะ!”
มาดาระ หยุดจริง ๆ ในวินาทีนั้นมาซาฮิโกะรู้สึกเหมือนว่าเขาได้เข้าถึงหัวใจของมาดาระในที่สุดแต่ในวินาทีต่อมาเขาก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อดาบของซูซาโนะโอะพุ่งตรงมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
ด้วยความเร็วแบบนี้ มาซาฮิโกะ หนีไม่พ้นอย่างแน่นอน เขาจึงพร้อมที่จะโจมตีกลับไปเพื่อป้องกันตัว เขารู้ว่าถ้าเขาทําแบบนั้นการต่อสู้ระหว่างเขากับมาดาระจะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอนแต่เขาก็ไม่มีทางเลือกแต่ก่อนที่มาซาฮิโกะจะได้ใช้วิชาอะไรออกไปโทบิรามะกับฮาชิรามะก็มาถึงและ ฮาชิรามะก็ตะโกนออกไป“มาดาระ!หยุดนะ!”
การมาถึงของ ฮาชิรามะโดยไม่คาดคิดไม่ได้หยุดมาดาระ จากการโบกดาบซูซาโนะโอะไปที่มาซาฮิโกะ
มาซาฮิโกะ ถอยหายใจและเตรียมพร้อมที่จะใช้ผนึก แต่ ฮาชิรามะ ก็ตะโกนอีกว่า
“คาถาไม้ : กําแพงไม้”
คาถาไม้ของฮาชิรามะก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่มาซาฮิโกะจะสามารถทําการประสานอินได้เสร็จ
มาดาระ ขมวดคิ้วและหยุดก่อนที่จะถึงกําแพงไม้ จากนั้นเขาก็คลายซูซาโนะโอะออก
เมื่อ ม ซึจิคาเงะ รุ่น 2 เห็นสิ่งนี้ เขาก็รีบไปดูอาการของ โอโนกิจากนั้นเขาก็ตะโกนถาม ฮาชิรามะ“โฮคาเงะ!มันหมายความหมายยังไงกันแน่?!ฉันคิดว่าเราเป็นพันธมิตรกันแล้วเสียอีก!”
“ฉันเสียใจจริง ๆ โทบิรามะ พา ท่านซึจิคาเงะ กับผู้ติดตามของเขาไปพักก่อนแล้วฉันจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้ท่านฟังทีหลังท่านม” ฮาชิรามะพูดด้วยความเคร่งขรึม
ฮาชิรามะ รอให้ โทบิรามะ พาทั้ง 2 คนออกไปก่อนจากนั้นเขาก็ถาม มาดาระว่า “ทําไมนายต้องทําแบบนี้!มาดาระ?!”
“ใช่ มาดาระ ท่านบ้าไปแล้วเหรอ? ท่านยังพยายามตัดครึ่งฉันอีกด้วย!”มาซาฮิโกะดูโกรธเป็นอย่างมาก
มาดาระ แสดงดวงตาที่เย็นชาออกมา จากนั้นเขาก็หยิบหนังสือ 2 เล่มออกมาแล้วขว้างพวกมันไปที่มาซาฮิโกะในขณะที่พูดว่า“นี่ไงล่ะคําตอบไอ่แก่!”
มันคือหนังสือที่เขาเขียน
เมื่อ ฮาชิรามะ เห็นภาพนี้เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไร เขาทําอะไรไม่ได้นอกจากยกมือขึ้นมาปิดหน้าผากพูดตามตรงเขาก็รู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่มาซาฮิโกะทําเหมือนกัน…
“มาดาระ ทําไมนายถึงโจมตีท่านซึจิคาเงะรุ่น 2? ฉันแค่ทําข้อตกลงกับพวกเขาก็เท่านั้นเอง!”หลังจากคิดเกี่ยวกับมันแล้วฮาชิรามะก็อดไม่ได้ที่จะถาม มาดาระออกมา
“ข้อตกลงงั้นเหรอ? พันธมิตรงั้นเหรอ? พักรบไปก็ไม่มีประโยชน์!การต่อสู้จะเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน เพื่อความสงบสุขแกต้องพิชิต!ฉันแค่อยากจะสอนบทเรียนให้
กันแค่อยากจะสอนบทเรียนให้ พวกเขาก็เท่านั้นแต่ฉันก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะใช้วิชาแบบเดียวกับชายแก่คนนี้…” มา ดาระพูดอย่างช้า ๆ
มาซาฮิโกะ ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ดีเขาได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ออกมา
ขณะที่พวกเขากําลังสนทนากันอยู่นั้น ผู้คนก็เริ่มรวมตัวและมุงดูกันอยู่รอบ ๆ พวกเขา
ผู้คนมากแห่เข้ามากันมากขึ้นเรื่อยๆ รอบ ๆ ฮาชิรามะและ มาดาระแม้แต่ผู้นําตระกูลทั้ง 3 ของอิโนะ-ชิกะ-โจและฮิวงะ ก็มาที่นี่ด้วย
มาซาฮิโกะกระพริบตาให้ฮาชิรามะส่งสัญญาณให้เขาไล่ฝูงชนกลับไปในขณะที่เขาพยายามคุยกับมาดาระ
ฮาชิรามะ เข้าใจและพยักหน้ากลับจากนั้นเขาก็อธิบายสถานการณ์ให้ฝูงชนฟังและพยายามทําให้พวกเขาแยกย้ายกลับไป
“ชายแก่…หนังสือ 2 เล่มนี้แกเขียนมันขึ้นมาเหรอ?”มาดาระ ถามจากนั้นก็ตามมาด้วยช่วงเวลาแห่งความเงียบงันมาซาฮิโกะมองเห็นความเกลียดชังของมาดาระได้อย่างชัดเจน
“ใช่! ฉันเป็นคนเขียนมันขึ้นมาเอง!” มาซาฮิโกะพยักหน้าและยิ้ม “ท่านคิดว่ายังไงบ้างล่ะ? มันไม่ดีเหรอ…ฉันเขียนว่าพวกท่านรักกันเหมือนพี่น้อง…บางทีก็ดูจะมากกว่านั้น…ที่สําคัญคือความฝันของพวกท่านและในที่สุดท่านก็ประสบความสําเร็จ!”
หยดน้ำใน เนตรวงแหวน ของ มาดาระเริ่มหมุนวนแต่มาซาฮิโกะก็ขัดจังหวะอย่างรวดเร็ว“มาดาระ!เราอยู่ใกล้เขตที่อยู่ของอุจิฮะท่านแน่ใจหรือว่าต้องการต่อสู้กับฉันที่นี่จริง ๆ?”
มาดาระ มองกลับไปที่ตระกูลของเขา
หลายคนมองมาที่ มาดาระ ทําให้เขาลังเลซึ่งทําให้ มาซาฮิโกะ รู้สึกโล่งใจเขาคิดในใจว่า “ดูเหมือนว่า มาดาระยังคงใส่ใจคนในตระกูลของเขาอยู่เขาจะไม่ทิ้งพวกเขาในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน”
พายุอารมณ์จางหายไปและ มาซาฮิโกะ ก็ได้รับแต้มการเข้าร่วม 2 แต้มแต่เขาก็ไม่ว่างที่จะตรวจสอบ
แม้ว่าสถานที่ตั้ง ตระกูลอุจิฮะ นั้นค่อนข้างอยู่ห่างไกลและไม่ได้รับอันตรายแต่ก็ยังมีชาวบ้านและนินจาจํานวนมากอยู่ในบริเวณใกล้เคียงพวกเขาได้รับบาดเจ็บจากตึกถล่มเพราะการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้มาซาฮิโกะรู้สึกผิดและเรียกคัตซียออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยเหลือพวกเขา
สําหรับมูและโอโนกิที่พักฟื้นอยู่ที่โคโนฮะมาซาฮิโกะได้ไปเยี่ยมพวกเขาหลายครั้งและทุกครั้งพวกเขาก็จะแสดงความขอบคุณมาซาฮิโกะที่ช่วยพวกเขาเอา
หลังจากไปเยี่ยมและโอโนกิหลายครั้งมาซาฮิโกะก็ค่อย ๆ เห็นด้วยกับมุมมองของมาดาระ
ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งที่จําเป็นในการรักษาสมดุลแม้ว่าวิธีการของ มาดาระจะแสดงให้เห็นแล้วว่ามันไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดก็ตามเขาต้องการแบ่งปันความคิดเหล่านี้กับสภาแต่เขาก็กลัวว่าจะทําให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีกครั้งดังนั้นเขาจึงรักษาตัวเองไว้และไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้อีกเลยจนกระทั่งมูและโอโนกิหายจากอาการบาดเจ็บและพร้อมที่จะออกเดินทางจากหมู่บ้านโคโนฮะไป
ขณะที่ ม เดินออกมาจากห้องพัก มาซาฮิโกะ ก็เดินมาหาเขาแล้วพูดกับเขาว่า“ท่านซึจิคาเงะเราทั้งคู่ต่างก็มีสายเลือดคัดสรร คาถาธุลีเหมือนกันฉันหวังว่าฉันคงจะได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นจากท่าน”
เมื่อได้ยินแบบนั้นใบหน้าของก็เปลี่ยนไป“คาถาธลีเป็นวิชาที่ฉันพัฒนาขึ้นมาเอง แล้วท่านไปเรียนมาจากไหน?”
มาซาฮิโกะหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้“อย่างใส่ใจเลย บางที่เราอาจมีต้นตระกูลเดียวกันเมื่อ 500 ปีก่อนก็ได้มั้ง…”
มู “…”
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ใช้คาถาธุลีได้แม้ว่าผู้คนมากมายต้องการเรียนรู้มันเช่นเดียวกับขีดจํากัดสายเลือดอื่น ๆ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทําได้ในขณะที่มาซาฮิโกะอาศัยแค่การเพิ่มแต้มเท่านั้น
ดังนั้น มาซาฮิโกะ จึงรู้สึกได้ว่าตอนนี้พลังและความแข็งแกร่งของมูอยู่ในระดับ เดียวกันกับเขา
มาซาฮิโกะไม่ได้ใช้โหมดเซียนหรือประตูด่านพลังในตอนที่รับมือกับมาดาระแต่เขาก็สามารถรับมือกับมาดาระได้อย่างสูสี
ความแข็งแกร่งของมาซาฮิโกะทําให้มตกตะลึงเป็นอย่างมากหัวใจของเขาตอนนี้รู้สึกหนักอึ้งเมื่อเขารู้ว่าแม้แต่ผู้อาวุโสของโคโนฮะก็แข็งแกร่งกว่าเขาแต่ในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนว่าการที่เขาตัดสินใจเป็นพันธมิตรกับโคโนฮะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องแล้ว
ในตอนบ่ายของวันเดียวกันฮาชิรามะ,มาซาฮิโกะและอีก 2-3 คนเดินพามูและโอโนกิไปที่ประตูโคโนฮะและกล่าวคําว่าลากับพวกเขาเพื่อส่งพวกเขากลับไปยังหมู่บ้านอิวะ
เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ของ มาดาระ ทําให้เกิดความเสียหายต่อชาวบ้านเป็นจาวนมาก ทําให้ภาพลักษณ์ของตระกูลอุจิวะแย่ลงไปอีก
ความขัดแย้งระหว่างอุจิฮะกับตระกูลอื่นๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ทุกคนในโคโนฮะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตระกูลอุจิฮะ มาซาฮิโกะรู้สึกผิดมากขึ้นเรื่อย ๆและเขาก็รู้สึกแย่กับเรื่องนี้มาก
มาซาฮิโกะ คิดว่าเขาต้องรีบเขียนหนังสือเล่มที่ 3 ของเขาให้เสร็จให้เร็วที่สุดเพื่อแก้ไขสถานการณ์และทิ้งอารมณ์ทั้งหมดไว้ในนั้น เขาต้องการให้หมู่บ้านเข้าใจมาดาระจริงๆเขาไม่ต้องการเห็น มาดาระหายไป…
2 วันต่อมา ทุกอย่างเป็นไปตามที่มาซาฮิโกะคิดไว้เขาเขียนหนังสือจนเสร็จเขากําลังเตรียมส่งต้นฉบับให้กับสํานักพิมพ์ แต่เขาก็พบกับฮาชิรามะที่กําลังตามหาเขาอยู่เมื่อพวกเขาพบกันประโยคแรกที่ฮาชิรามะพูดกับมาซาฮิโกะก็ทําให้เขาตกใจ
“ท่านปู่…มาดาระ…ไปแล้ว”
ทันใดนั้นข้อความหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้า มาซาฮิโกะ
“เข้าร่วมและเป็นพยานในเหตุการณ์สําคัญของโลก นารูโตะ : แตกหักกับอุจิฮะมาดาระ!”
“รางวัล : คุณได้รับแต้มการเข้าร่วม 5(X2) แต้ม!”
Comments