Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ 1043

Now you are reading Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ Chapter 1043 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ความท้าทายครั้งใหม่

“คำถาม?” โรแลนด์พูดทวนขึ้นมา คำนี้ฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไรเลย

‘เชิญตามหม่อมฉันมาเลยเพคะ’ พาซาร์หมุนตัวแล้วพาทุกคนเดินเข้าไปในถ้ำๆ หนึ่งที่อยู่ในโถง กำแพงหินภายในโถงนั้นถูกเจาะให้เป็นช่องขนาดเท่าๆ กัน ข้างในนั้นมีหนังสือและม้วนเอกสารต่างๆ นาๆ กองอยู่เต็มไปหมด เผลอๆ ยังจะมากกว่าหนังสือในห้องสมุดของวิหารลับเสียอีก ‘เซลีน ฝ่าบาทมาแล้ว’

“รู้แล้ว” ยังไม่ทันได้เห็นตัว เสียงเซลีนก็ดังมาเข้าหัวทุกคนแล้ว จากนั้นมีหนวดเส้นหนึ่งยื่นออกมาจากก้นถ้ำ หนังสือกองหนึ่งหล่นลงมาบนพื้นดังปึกปักๆ ก่อนที่หนวดเส้นนั้นจะหดกลับเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว

แต่ก่อนหน้าที่หนวดจะหดกลับเข้าไป มันยังโค้งงอมาทางโรแลนด์เหมือนกำลังทำความเคารพเขาอยู่

‘อะแฮ่มๆ ขออภัยด้วยเพคะ เวลานางเจองานวิจัยใหม่เข้า นางก็จะเป็นแบบนี้แหละเพคะ’ พาซาร์พูดอย่างกระอักกระอ่วนนิดหน่อย ‘เพราะว่ามีแม่มดน้อยคนนักที่จะโชคดีเหมือนอย่างไลต์นิ่ง ที่ร่างกายต้องคำสาปแต่กลับไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิต’

“นางจะทำอะไรไลต์นิ่งหรือเปล่า?” เมื่อพูดถึงการวิจัยขึ้นมา โรแลนด์พลันนึกถึงหนูทดลองในห้องทดลองขึ้นมา

“วางพระทัยได้เพคะ ตอนนี้ิวิธีการศึกษาเวทมนตร์หลักๆ แล้วจะเป็นการสังเกตและจดบันทึกเพคะ เพียงแต่เมื่อมีแกนเวทมนตร์คอยช่วยเหลือ ทำให้นางสามารถมองเห็นการไหลของเวทมนตร์ได้ทุกๆ อณู’ พาซาร์พูดพร้อมกับใช้หนวดม้วนเอาหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง ก่อนจะกางมันออกตรงหน้าทุกคน ‘เชิญดูตรงนี้…แล้วก็ตรงนี้เพคะ’

โรแลนด์สังเกตเห็นว่าหน้าหนังสือเหล่านี้ส่วนใหญ่กลายเป็นสีเหลืองจางๆ เห็นได้ชัดว่าเป็นหนังสือที่มาจากยุคสมัยของทาคิลา และตรงตำแหน่งที่อีกฝ่ายชี้ให้ดูนอกจากจะมีตัวหนังสือที่เป็นภาษาแม่มดแล้ว ยังมีกระดาษโน้ตที่เขียนคำแปลเอาไว้แผ่นหนึ่งด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกเธอแปลมันออกมาเพื่อให้เขาอ่านได้สะดวก

เมื่อเขาอ่านมันอย่างละเอียดแล้ว เขาถึงได้พบว่ามันเป็นการบรรยายเกี่ยวกับสงครามสองครั้ง

‘ครั้งหนึ่งนั้นเป็นสงครามล้อมเมืองในดินแดนแห่งรุ่งอรุณ แม่มดที่ได้รับบาดเจ็บหนัก 8 คนถูกกองหนุนช่วยกลับมา ตามหลักแล้วพวกเธอไม่ได้บาดเจ็บร้ายแรงจนถึงชีวิต แต่สุดท้ายพวกเธอก็ตายลงไปทีละคนๆ สาเหตุการตายนั้นเป็นเพราะวิธีการรักษาไม่ได้ผล บาดแผลไม่สามารถสมานตัวได้ ทำให้เลือดไหลออกมามากขึ้นและติดเชื้อ โดยก่อนตายพวกเธอต้องเจอกับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส จนทำให้สุดท้ายมีแม่มด 2 คนที่เลือกจะฆ่าตัวตาย’ พาซาร์ค่อยๆ เล่า ‘เนื่องจากเวลาผ่านมานานมากแล้ว ตัวผู้เขียนเองก็ไม่รู้รายละเอียดในสงครามครั้งนั้นมากนัก นอกจากเหตุการณ์อันน่าเหลือเชื่ออันนี้เพียงเหตุการณ์เดียว คำสาปของปีศาจจึงถูกเริ่มพูดถึงเป็นครั้งแรกจากตรงนี้เพคะ’

‘อีกครั้งหนึ่งนั้นเป็นสงครามที่ใกล้กับยุคสมัยที่พวกเราอยู่ ปีศาจตัวหนึ่งที่ถูกทางสมาพันธ์เรียกว่าผู้คุมวิญญาณนั้นได้ต่อสู้อย่างดุเดือดกับกองทัพแม่มดที่เมืองเธาแซนด์เลคซึ่งตั้งอยู่ตรงชายขอบของที่ราบลุ่มบริบูรณ์ เจ้าปีศาจตัวนั้นมันสามารถใส่พลังเวทมนตร์เข้าไปในหอกหินสีดำของมันได้ ทันทีที่ถูกแทงเข้า ร่างกายจะอ่อนแอลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายกลายเป็นซากศพแห้งเหี่ยว’ พาซาร์หยุดชะงัก ‘โดยในครั้งนั้นมีแม่มดอมนุษย์ 3 คนที่ตายด้วยน้ำมือมัน ซึ่งทางสถาบันค้นคว้าศาสตร์ลึกลับได้พบปฏิกิริยาเวทมนตร์ประหลาดในร่างกายของคนที่ได้รับบาดเจ็บ’

โรแลนด์เดาข้อสรุปได้ทันที “พลังเวทมนตร์นั้นมาจากศัตรู?”

‘ถูกต้องเพคะ’ พาซาร์ผงกหนวดหลัก ‘ดังนั้นพวกหม่อมฉันจึงคาดเดาว่าความสามารถพวกนี้นั้นเป็นประเภทเดียวกัน โดยมันจะอยู่ในร่างกายเป้าหมาย แล้วก็สร้างความเสียหายไปเรื่อยๆ วิธีการรักษาตามปกตินั้นใช้ไม่ได้ผล แล้วก็ยากที่จะใช้พลังจากภายนอกมากำจัดมันออกไปด้วยเพคะ’

“นี่มันเหมือนกับคำสาปจริงๆ เลย” เวนดี้พูดด้วยสีหน้าที่ดูค่อนข้างแย่ “น่ากลัวมาก…”

แต่ไนติงเกลกลับสังเกตเห็นถึงการเลือกใช้คำพูดของอีกฝ่าย ‘ยากที่จะใช้พลังจากภายนอกมากำจัดมัน อย่างนี้ก็แสดงว่า….ยังมีวิธีที่จะกำจัดมันอย่างนั้นเหรอ?”

พาซาร์พลิกไปที่หน้าต่อไป “สิ่งสำคัญคือหากพวกเราวิเคราะห์กันไม่ผิดล่ะก็’

โรแลนด์อ่านบันทึกจบลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เมืองเธาแซนด์เลคอยู่ในช่วงเวลาวิกฤติ แม่มดคนหนึ่งที่ชื่อซาแมนธาได้ก้าวออกมาสู้กับผู้คุมวิญญาณ ก่อนจะกลายเป็นสุดยอดอมนุษย์ในระหว่างต่อสู้ จากนั้นเธอได้ฟันปีศาจระดับสูงนั้นขาดเป็นสองท่อน เดิมเธอคิดว่าเธอคงต้องตายตามเพื่อนคนอื่นๆ ไป แต่ผลปรากฏว่าเธอกลับรอดชีวิต ราวกับว่าไม่เคยมีคำสาปนั่นมาก่อน และเนื่องจากอยู่ใกล้พื้นที่ของหมอกแดงมากเกินไป สุดท้ายเมืองเธาแซนด์เลคก็พังทลายลง แต่ก็ถือว่าเธอได้ซื้อเวลาให้กับผู้คนมานานมากพอแล้ว หลังจากนั้นด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของซาแมนธา เธอก็ได้ทำให้สมาพันธ์เห็นชอบกับระบบสามผู้นำและได้กลายเป็นหนึ่งในสามผู้นำรุ่นแรกของสมาพันธ์

เมื่ออ่านถึงตรงนี้ เขาพลันเข้าใจความหมายของอีกฝ่ายทันที

ถ้าสมมติว่าไลต์นิ่งได้รับผลกระทบจากคำสาปเวทมนตร์จริงๆ อย่างนั้นการสังหารอีกฝ่ายอาจจะเป็นวิธีแก้คำสาปเพียงหนึ่งเดียวในตอนนี้ แต่ว่านี้มันเป็นเรื่องที่ทำได้ ‘ยากมาก’! ศึกตรงค่ายภูเขาหิมะและเนินนอร์ธบาวด์นั้นได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถอันน่าตกใจของปีศาจระดับสูงแล้ว หากพวกมันยังดึงดันที่จะเข้ามาปะทะกับกองทัพที่หนึ่งก็คงจัดการได้ง่ายหน่อย แต่ถ้าพวกมันไม่คิดที่จะสู้ซึ่งๆ หน้า การที่เขาจะไปไล่ตามสังหารพวกมันนั้นมีความเสี่ยงที่สูงมาก

หากเป็นสมัยทาคิลา นี่แทบจะเป็นภารกิจที่ไม่มีทางเป็นไปได้

ปีศาจระดับสูงจะเดินทางพร้อมกับกองทัพขนาดใหญ่ แล้วก็เป็นเหมือนแกนกลางของกองทัพ เพียงแต่คิดจะเอาชนะกองทัพปีศาจให้ได้นั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก แล้วนับประสาอะไรกับการกำจัดพวกศัตรูให้หมดล่ะ?

โรแลนด์นึกถึงแม่มดนิรนามที่เขียนจดหมายให้กับนาตาย่าคนนั้นขึ้นมา

ตอนนี้เมื่อมาคิดๆ ดูแล้ว เกรงว่าเธอเองก็คงได้รับบาดเจ็บจากความสามารถแบบนี้เหมือนกัน เธอถึงได้ทิ้งจดหมายสั่งเสียฉบับนั้นไว้

คนที่สามารถคุยกับสามผู้นำแห่งสมาพันธ์ผ่านทางจดหมายได้นั้นย่อมไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน ทั้งความสามารถและสถานะนั้นน่าจะอยู่ในระดับสูงของสมาพันธ์ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น สุดท้ายเธอก็ยังต้องยอมรับจุดจบแบบนั้นอย่างเงียบๆ

นั่นเป็นเพราะว่าถ้าอยากจะหาปีศาจตัวที่ทำให้เธอบาดเจ็บในหมู่ปีศาจนับหมื่นนับแสนแล้วกำจัดมันทิ้ง ทางสมาพันธ์ก็จำเป็นต้องสละชีวิตแม่มดอีกเป็นจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่าสำหรับสมาพันธ์แล้ว การช่วยเหลือชีวิตแม่มดที่ถูกสาปนั้นไม่คุ้มที่จะให้แม่มดคนอื่นไปเสี่ยงและสละชีวิต

ไนติงเกลน่าจะคิดได้ถึงจุดนี้เหมือนกัน เธอจึงกำหมัดแน่นทั้งสองข้าง

โรแลนด์ครุ่นคิดอยู่ครู่ ก่อนจะพูดออกมา “จริงอยู่ที่เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ข้าไม่มีทางทิ้งความเป็นไปได้นี้เด็ดขาด”

‘…..’ พาซาร์เงียบไปเล็กน้อย ‘หากนี่เป็นพระประสงค์ของพระองค์ล่ะก็’

“แต่ก่อนหน้านั้น ข้าอยากจะทำความเข้าใจเรื่องบางเรื่องหน่อย ถ้าหากเจ้าปีศาจที่ไลต์นิ่งเจอมันมีความสามารถในการปล่อยคำสาปโดยที่ไม่ต้องสัมผัสตัวตรงๆ อย่างนั้นถ้าคนธรรมดาเจอคำสาปเข้าไปจะเป็นยังไง?”

‘ผลที่ออกมาจะแย่กว่าแม่มดมากเพคะ’ จู่ๆ เสียงของเซลีนก็ดังแทรกเข้ามาในหัว ‘พลังเวทมนตร์ทำให้พวกเรามีความสามารถในการฟื้นฟูและภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งกว่าคนธรรมดา ทำให้โรคระบาด หรือก็คือสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่พระองค์เขียนเอาไว้ในหนังสือยากจะทำอะไรพวกเราได้ แต่คนธรรมดานั้นไม่ได้ ขอเพียงปากแผลไม่ยอมสมาน คนพวกมันก็จะมีอันตรายถึงชีวิตได้ทุกเมื่อเพคะ’

“หินอาญาสิทธิ์ป้องกันความสามารถแบบนี้ได้ไหม?”

‘ได้เพคะ ความจริงแล้วในบันทึกก็มีพูดเอาไว้เหมือนกันว่าถ้าไม่เป็นเพราะผู้คุมวิญญาณมันมีความสามารถที่ไม่ด้อยไปกว่าแม่มดอมนุษย์ มันก็คงไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับสมาพันธ์ได้มากขนาดนั้น แต่ว่า…’ เสียงของเซลีนชะงักไปทันที ‘จากที่ไลต์นิ่งเล่ามา พวกเราไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่ว่าปีศาจตัวนั้นอาจจะเป็นผู้พิฆาตเวทมนตร์ เพราะหากเป็นแบบนั้น หินอาญาสิทธิ์ก็จะไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้เพคะ’

ปีศาจยิ่งแข็งแกร่ง รูปร่างของมันก็จะยิ่งคล้ายมนุษย์ นี่คือข้อสรุปที่ทางสมาพันธ์ได้มาจากสงครามแห่งโชคชะตาทั้งสองครั้ง

โรแลนด์รู้สึกตกใจ

คำเตือนของเซลีนนั้นไม่ใช่การขู่ จากคำบรรยายของไลต์นิ่ง ปีศาจระดับสูงที่ปรากฏตัวขึ้นมาใหม่นั้นอาจจะรับมือได้ยากกว่าศัตรูที่ผ่านมาทุกตัวก็ได้

ดังนั้นการจะบุกไปทาคิลาครั้งนี้เขาจำเป็นจะต้องวางแผนให้รัดกุมอย่างมาก ถึงจะทำให้เป้าหมายที่จะสังหารปีศาจระดับสูงกลายเป็นจริงได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด