Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ 1270 การโจมตีเพื่อหยุดยั้ง

Now you are reading Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ Chapter 1270 การโจมตีเพื่อหยุดยั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมืองทัสก์ อาณาจักรวูล์ฟฮาร์ท

เมืองที่ถูกศาสนจักรปล้นไปแห่งนี้ยังไม่ฟื้นคืนสู่สภาพเดิม เมื่อยืนอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของปราสาทจะมองเห็นได้ว่าถนนหลายๆ แห่งที่อยู่นอกเมืองนั้นถูกทิ้งร้าง แต่เมื่อเทียบกับปราสาทโบรคเคนทูธที่ถูกโรคระบาดเล่นงานแล้ว ที่นี่ยังถือว่าโชคดีกว่ามาก อย่างน้อยมันก็ไม่ได้มีซากศพเหม็นเน่าอยู่ตามท่อน้ำหรือบ่อน้ำเหมือนอย่างโบรคเคนทูธ

เมื่อหลายเดือนก่อน ที่นี่ยังเป็นดินแดนของตระกูลทัสก์ซึ่งเป็นตระกูลสาขาของราชวงศ์ เดิมขวานเหล็กคิดจะอพยพชาวบ้านในเมืองเล็กๆ และหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลก่อน สุดท้ายค่อยมาจัดการกับพวกขุนนาง เขาไม่ได้สนใจความขัดแย้งระหว่างตระกูลทุสก์ โทคเคนและเรดสโตนเกต แต่การปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันของหมอกแดงทำให้เขาจำเป็นต้องปรับแผนใหม่ เพราะต่อให้เมืองทัสก์จะตกต่ำแค่ไหน มันก็ยังถือเป็นเมืองศูนย์กลางของวูล์ฟฮาร์ทอยู่ อีกทั้งมันยังเชื่อมต่อกับถนนหลักที่วิ่งจากเหนือลงไปใต้ด้วย ถ้ายึดเมืองนี้ได้ ก็จะทำให้กองทหารที่ถอยร่นลงมาจากอีเทอร์นอลวินเทอร์สามารถเข้ามาในพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างราบรื่น

ในการยึดเมืองนั้นไม่มีอะไรน่าสนใจนัก ต่อให้ไม่มีการสนับสนุนจากปืนใหญ่ป้อม พวกเขาก็ยังสามารถใช้กำลังพลหน่วยละ 500 คนจำนวน 5 กลุ่ม และใช้ปืนครกกับกระสุนระเบิดต่อต้านปีศาจในการโจมตีปราสาททัสก์ที่ได้ชื่อว่าเป็นแนวปราสาทตามธรรมชาติ และเมืองทัสก์ที่มีกำแพงล้อมรอบ ฮิลเบิร์คซึ่งเป็นเจ้าเมืองถูกหน่วยแม่นปืนสังหารในตอนที่ออกมาเดินเยี่ยมทหาร สุดท้ายเมืองก็พังพินาศโดยที่ไม่ทันได้โจมตีกลับ

ในฐานะที่เป็นคนแรกที่ติดตามกองทัพของฝ่าบาททำศึกให้กับเมืองชายแดน ขวานเหล็กถือเป็นคนที่รู้ดีกว่าความแข็งแกร่งของเมืองเนเวอร์วินเทอร์พัฒนาไปเร็วแค่ไหน เมื่อ 5 ปีก่อนพวกเขายังสู้กับดยุคของป้อมปรากการลองซองอย่างสูสีอยู่เลย แต่ตอนนี้ขอเพียงฝ่าบาทต้องการ กองทัพที่หนึ่งก็สามารถบดขยี้ทุกเมืองได้อย่างสบาย

เรียกได้ว่าการแข็งแกร่งของพวกเขาทิ้งห่างเมืองอื่นๆ ไปไกลมาก ขุนนางเหล่านั้นอยู่คนละชั้นกับพวกเขาเลยก็ว่าได้

แต่นี่ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกถึงความพอใจและความผ่อนคลายเลย

ยิ่งแตกต่างกันมาก เขาก็ยิ่งรู้ดีว่าในภาพรวมแล้ว ความต่างชั้นกันระหว่างมนุษย์กับปีศาจนั้นมีความน่ากลัวแค่ไหน

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปีศาจที่มีหมอกแดงคอยสนับสนุน กองทัพที่หนึ่งแทบจะไม่สามารถปักหลักสู้รบอยู่ในอีเทอร์นอลวินเทอร์ได้ ทุกวันจะมีกองทหารถอยร่นกลับมายังวูล์ฟฮาร์ท รายงานการเสียชีวิตและบาดเจ็บก็มีมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่มีแนวป้องกันที่มั่นคง ทำให้เหล่าทหารไม่สามารถรับมือกับการบุกเข้ามาของปีศาจได้ ยิ่งไปกว่านั้นในรายงานยังชี้ให้เห็นด้วยว่ามีอยู่หลายครั้งที่จู่ๆ ศัตรูก็มาปรากฏตัวอยู่บนเส้นทางที่พวกทหารต้องใช้ถอยหนี ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นพวกเขาได้ทำการสอดแนมดูหลายครั้งและยืนยันแล้วว่าเส้นทางนั้นปลอดภัย

สถานการณ์ที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเช่นนี้ส่งผลเสียต่อขวัญและกำลังใจของทหาร วิธีรับมือที่ง่ายที่สุดก็คือเรียกทหารทั้งหมดกลับมาพักที่เขาเคจเมาเธ่น แต่ขวานเหล็กรู้ดีว่าคำสั่งและหน้าที่นั้นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ในเมื่อฝ่าบาททรงต้องการคน เขาก็ไม่อาจถอยกำลังทั้งหมดมาได้

อย่างนั้นวิธีที่เหลืออยู่ก็มีแต่ต้องโจมตีกลับเท่านั้น

ง้างหมัดให้สุดแรง แล้วเหวี่ยงไปที่หน้าของปีศาจ! มีแต่วิธีนี้เท่านั้นถึงจะชะลอการบุกของพวกมันได้ แล้วก็ทำให้กองทหารที่กำลังทำการอพยพได้มีเวลาหายใจหายคอ

จุดโจมตีกลับที่เขาเลือกก็คือเมืองทัสก์

“การป้องกันของปีศาจเหมือนจะอ่อนแอนลง” ไบรอันยกกล้องส่องทางไกลขึ้นมา นับตั้งแต่ที่ฝ่าบาทเริ่มปรับกำลังพล เขาก็ติดตามกองทัพเรือล่องจากดินแดนทางใต้สุดขึ้นมายังอ่าวดีพพูล นอกจากนี้ยังมีทหารชาวโมเกนอีก 1,500 คนที่ติดตามมาด้วย นี่ถือเป็นกองทัพชาวทะเลทรายกลุ่มแรกในประวัติศาสตร์ของเกรย์คาสเซิล

“มันเริ่มอ่อนแอมาตั้งแต่ชายแดนของอีเทอร์นอลวินเทอร์แล้ว” ขวานเหล็กพยักหน้า “เอดิธส์พูดถูก การที่ปีศาจเอาเสาโอบลิสไปตั้งไว้บนสันหลังของทวีปนั้นเหมือนเป็นดาบสองคม ถึงแม้ที่นั้นใช้ซ่อนตัวได้ แต่มันกลับเป็นอุปสรรคต่อการบุกลงมาทางใต้”

เมื่อมองยืนอยู่บนยอดปราสาทแล้วมองไปทางเหนือจะสามารถมองเห็นกลุ่มเมฆทึบๆ สีแดวงเหมือนเลือดอยู่ระหว่างพื้นดินกับท้องฟ้า นั่นคือหมอกแดงที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้มันได้ข้ามชายแดนของอีเทอร์นอลวินเทอร์และวูล์ฟฮาร์ทมา และกำลังขยายเข้ามาหาเมืองทัสก์

ส่วนเมืองที่ตั้งอยู่ด้านล่างหมอกแดงก็คือเมืองโกลเดนริเวอร์ของอาณาจักรวูล์ฟฮาร์ท มันถูกหมอกแดงกลืนกินไปมากกว่าครึ่ง แต่กลับไม่มีวี่แววของ ‘อสูรยักษ์ป้อมปราการ’ ปรากฏให้เห็นเลย อสูรสยองที่บินวนอยู่บนท้องฟ้าก็น้อยจนน่าสงสัย เหมือนกับถูกปีศาจลืมทิ้งเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น

ถ้าเป็นช่วงที่หมอกแดงปรากฏขึ้นมาตอนแรก นี่แทบจะเป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้น

หลังต่อสู้กันมาระยะหนึ่ง ทีมที่ปรึกษาก็พอจะเข้าใจความคิดของปีศาจอย่างคร่าวๆ

ในอีกแง่หนึ่ง พวกมันมีกลยุทธ์ในการรบที่เหมือนกับฝ่าบาทโรแลนด์ นั่นก็คือควบคุมเมืองของมนุษย์ให้เยอะ แล้วก็ใช้ให้มนุษย์มาทำงานให้มัน ด้วยเหตุนี้กองทัพที่หนึ่งคอยอพยพชาวบ้านจึงเป็นศัตรูอันดับแรกที่พวกมันต้องโจมตี

เพื่อที่จะยึดเมืองของมนุษย์ให้เร็วที่สุด พวกมันจึงมักจะลงมือโจมตีก่อน แล้วใช้ประโยชน์จากเขตหมอกแดงขนาดเล็กที่อสูรยักษ์ป้อมปราการสร้างขึ้นมา ทำให้พวกมันสามารถข้ามจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว และเปิดฉากโจมตีได้ก่อนที่หมอกแดงจะขยายมาถึง

แต่หลังจากที่ที่ดินส่วนใหญ่ของอาณาจักรอีเทอร์นอลวินเทอร์ตกอยู่ในมือของปีศาจ ความเร็วในการบุกเข้ามาของพวกมันก็ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด นี่แสดงให้เห็นว่าเมื่อพื้นที่มีขนาดกว้างมากขึ้น พวกปีศาจก็เริ่มที่จะทำงานกันไม่ทัน

เมื่อดูจากสถานการณ์แล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยากอะไร

การบีบบังคับมนุษย์และการสร้างสิ่งก่อสร้างนั้นจำเป็นต้องใช้เวลา ในสถานการณ์ที่มีกำลังไม่พอ พื้นที่ที่ครอบครองยิ่งกว้าง ความคล่องตัวในการปรับกองกำลังก็จะยิ่งน้อยลง ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือพวกปีศาจไม่จำเป็นต้องรวมกองกำลังเป็นกองทัพเมื่อมาสู้กับมนุษย์ เมื่อมีการขนส่งที่เพียบพร้อม พวกมันก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับกองทัพที่หนึ่งที่กำลังทำการอพยพชาวบ้านโดยใช้เพียงกองกำลังเล็กๆ เท่านั้น ดังนั้นการรวบรวมกำลังพลจึงกลับจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับพวกมัน

ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ชายแดนอีเทอร์นอลวินเทอร์ ความถี่ในการบุกโจมตีของศัตรูถึงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด บางทีพวกมันอาจจะไม่ได้ลดจำนวนปีศาจที่ใช้ในการบุกโจมตีลง แต่ในเวลานี้หมอกแดงได้ขยายออกไปไกลหลายร้อยกิโลเมตรแล้ว ถ้าอยากจะดูแลให้ทั่วถึง หากไม่เพิ่มกำลังทหารให้มากขึ้นก็ไม่มีทางที่จะทำได้เลย

ขวานเหล็กสังเกตเห็นในจุดนี้

“ท่านผบ. ‘ของ’ ที่ส่งมาจากเมืองเนเวอร์วินเทอร์ มาถึงเมืองทัสก์ทั้งหมดแล้วขอรับ” ทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามาทำความเคารพพร้อมกล่าวรายงาน

“ในที่สุดก็มาซักที!” เขาสะดุ้งขึ้นมา พร้อมกับหมุนตัวไปพูดกับไบรอัน “พวกเราไปดูกันเถอะ”

…..

ทุกคนเดินมาถึงนอกเมือง บนพื้นหน้าประตูเมืองมีถังเหล็กตั้งอยู่หลายร้อยถัง พวกมันสูงประมาณครึ่งตัวคน กว้างประมาณหนึ่งสอก ผิวนอกโค้งมน รอบๆ มันไม่มีที่เปิดเลยแม้แต่ที่เดียว

“ท่านผบ. นี่มันคือ…อะไรหรือขอรับ?” ไบรอันเดินวนดูรอบๆ ถังอย่างงงๆ ถ้าจะบอกว่ามันเป็นภาชนะสำหรับบรรจุ มันก็ต้องมีที่มือจับสำหรับเปิดหรือเปล่า? ถ้าจะบอกว่ามันเป็นอาวุธ…การทำศึกที่ผ่านๆ มาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าประสิทธิภาพของระเบิดที่ติดตั้งเอาไว้อยู่กับที่นั้นไม่อาจสู้ปืนใหญ่ได้ ถ้าอยากจะอาศัยพวกมันในการเอาชนะปีสาจนั้นดูจะไม่ค่อยได้ผลซักเท่าไร

เขาใช้มือลองผลัก ก่อนจะพบว่าถังเหล็กนั้นไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว เห็นได้ชัดว่าข้างในมันบรรจุของเอาไว้จนเต็ม แถมยังมีน้ำหนักที่มากด้วย การจะขนเอาถังเหล็กหลายร้อยถังมาที่แนวหน้านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ดังนั้นการที่ยอมเสียกำลังการขนส่งอันล้ำค่าเพื่อขนถังเหล็กเหล่านี้มา พวกมันจะต้องเป็นของสำคัญอย่างแน่นอน

“สิ่งประดิษฐ์ใหม่ของฝ่าบาท แต่ว่าตอนที่ทำการทดสอบมัน ตอนนั้นเจ้ายังทำหน้าที่อยู่ที่ดินแดนทางใต้สุด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าจะไม่รู้เรื่อง” ขวานเหล็กยิ้มๆ “ถังเหล็กเหล่านี้จะเป็นอาวุธสำคัญในการหยุดยั้งการโจมตีครั้งนี้ ถ้าหากมันได้ผลดีเหมือนตอนที่ทดสอบจริงๆ อย่างนั้นต่อให้เป็นรบแบบเคลื่อนที่ พวกเราก็ยังสามารถเล่นงานพวกปีศาจจนพวกมันคาดไม่ถึงได้!”

………………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด