Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ 1471 รุ่งอรุณสีเลือด

Now you are reading Release That Witch ปล่อยแม่มดคนนั้นซะ Chapter 1471 รุ่งอรุณสีเลือด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในตอนที่ลำแสงของพลังโชคชะตาหายไป ท้องฟ้าที่ถูกก้อนเมฆปกคลุมกลับมาสว่างอีกครั้ง

ปีศาจนับหลายหมื่นมองดูการต่อสู้ของราชาทั้งสองอย่างเงียบๆ

พื้นที่เป็นทุ่งหญ้าแต่เดิมหายไป สิ่งที่มาแทนที่คือดินที่ถูกเผาไหม้เป็นแถบ พลังแห่งโชคชะตาแต่ละสายราวกับแฝงเอาไว้ด้วยพลังที่ไม่อาจต้านทานได้ ก้อนหินถูกบดขยี้เป็นผุยผง ต้นไม้ถูกเผาจนเกรียม เรียกได้ว่าราบเป็นหน้ากลอง

แต่ร่างกายของบลัดดี้คองเคอเรอร์กลับพุ่งเข้าใส่สายฟ้าสีทองเหมือนกับไม่สามารถอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง มันเองก็สร้างความเสียหายเอาไว้บนพื้นหลายแห่ง หลุมขนาดใหญ่ที่กว้างเท่ากับคนสองสามคนนั้นเกิดจากพละกำลังอันมหาศาลที่มันภาคภูมิใจ

แต่สุดท้ายคนที่ล้มลงไปก่อนก็ยังเป็นมัน

การโจมตีของไซเลนท์ดิสแอสเตอร์ไม่เพียงแต่ะรุนแรงอย่างมาก แต่มันยังมีความรวดเร็วไม่แพ้อันดีเซิร์ฟด้วย การโจมตีแต่ละครั้งจะทิ้งบาดแผลเอาไว้บนตัวบลัดดี้คองเคอเรอร์ สุดท้ายพลังเวทมนตร์ก็ถูกใช้ไปจนถึงขีดจำกัด ต่อให้เป็นผู้นำนรกระดับสูงที่มีความสามารถในการฟื้นฟูอันยอดเยี่ยมก็ยังมีวันที่ถูกผลาญพลังเวทมนตร์ไปจนหมด ในตอนที่ไซเลนท์เคลื่อนตัวเฉียดอีกฝ่ายแล้วใช้ดาบฟันขาหลังขนาดใหญ่จนขาด ผลแพ้ชนะก็ได้ถูกตัดสินออกมาแล้ว

“นี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่เท่าเทียมกันเลย” เดธสการ์พูดออกมาเบาๆ

พลังของบลัดดี้นั้นคล้ายๆ กับอมนุษย์ของพวกมนุษย์ หินเวทมนตร์ของมันส่วนใหญ่ส่งผลต่อร่างกาย ทำให้มันแทบจะไร้ผู้ต่อกรบนสนามรบ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธเหล็กกล้าหรือการโจมตีจากพลังเวทมนตร์ มันก็ล้วนแต่มีความสามารถในการป้องกันอันแข็งแกร่ง ทันทีที่เข้าปะทะกันก็แทบไม่มีอะไรที่จะมาหยุดมันได้

ทว่าไซเลนท์ดิสแอสเตอร์นั้นเป็นผู้ที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในอันดับต้นๆ พรสวรรค์ของผู้พิฆาตเวทมนตร์ช่วยทำให้พลังของมันยิ่งแข็งแกร่งขึ้น การรับรู้อันเฉียบคมและรูปร่างร่างกายทำให้มันสามารถหลบการโจมตีอันรุนแรงเหล่านั้นได้

ผลการต่อสู้ของทั้งสองย่อมไม่อาจเรียกได้ว่าเท่าเทียมกัน

“มันก็ไม่แน่” แต่เฮคซอดกลับพูดว่า “เจ้าดูนั่น”

“แค่กๆ…แค่ก…” ร่างกายของบลัดดี้เต็มไปด้วยบาดแผล เลือกสีน้ำเงินไหลทะลักออกมาเหมือนน้ำพุ เห็นได้ชัดว่าความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายของมันไม่อาจฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเหล่านี้ได้ทัน มันยันขวานไปกับพื้นเพื่อพยุงร่างกายตัวเองเอาไว้ สีหน้าดูมีความสุขอย่างน่าประหลาด “ไม่เลวนี่ สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะที่ได้ชื่อว่าชารีตา! ข้าอยากจะสู้กับเจ้ามานานแล้ว อยากจะรู้นักว่าใครกันแน่…แค่ก…ที่เป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์”

“….” ไซเลนท์เองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ บนเกราะของมันมีรอยยุบอยู่หลายแห่ง แขนข้างหนึ่งถูกฟันขาดจนห้อยตกอยู่ข้างกาย “ถ้าไม่เป็นเพราะเมื่อไม่นานมานี้ข้าเพิ่งผ่านศึกที่เฉียดตายมา การต่อสู้ครั้งนี้ก็คงยากที่จะตัดสินได้”

“นี่สิ…ถึงจะเป็นความสุขจากการฆ่าฟัน ใช่ไหม?” บลัดดี้กระอักเลือดสดๆ ออกมาคำหนึ่ง “เทียบกับการยอมแพ้แล้ว แบบนี้มันเหมาะกับข้ามากกว่า”

ไซเลนท์ถอนใจออกมา ก่อนจะถือดาบเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย

“แค่ก…คำถามสุดท้าย เจ้าเองก็เอาชะตาชีวิตของเผ่าพันธุ์มาเป็นเหตุผลในการคุกเข่ายอมแพ้ต่อมนุษย์เหมือนกับสวะพวกนั้นเหรอ?”

“ไม่ ข้าแค่ทำเพื่อวัลคีรีย์” พูดจบ ไซเลนท์ก็ยกดาบแทงเข้าไปในหน้าอกบลัดดี้

การกระเพื่อมของพลังเวทมนตร์เกิดขึ้นในโลกแห่งจิตสำนึกอีกครั้ง

ไม่มีใครกล้าขวาง แล้วก็ไม่มีใครคิดขวางด้วย เหมือนกับว่าทุกคนต่างรู้อยู่แล้วว่าผลมันต้องออกมาเป็นแบบนี้

“….หลังจากนี้จะเอายังไง?” หลังขมวดคิ้วไม่พูดอะไรอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายเดธสการ์ก็พูดขึ้นมาว่า “มาเธอร์ออฟโซลที่จำเป็นต้องปลูกถ่ายทั้งหมดอยู่บนพระผู้สร้าง ตอนนี้หอคอยแห่งการให้กำเนิดที่สามารถผลิตละอองชีวิตได้เหลือเพียงแค่สามแห่งเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นฐานที่มั่นที่อยู่ทางเหนือซึ่งอยู่ใกล้พวกเราที่สุดก็ถูกอาณาจักรซีสกายยึดไปนานแล้ว หากอาร์เรียตากับเมืองสกายของเจ้าพังทลายลง พวกเราจะไม่มีที่ให้ถอยอีก”

“เรื่องที่ต้องทำมีมากมาย” เฮคซอดถอนใจออกมา “เจ้าจัดการหาที่พักให้กับพวกที่กำลังถอยมาจากด้านหลัง จากนั้นก็สร้างเส้นทางจ่ายหมอกแดงขึ้นมาระหว่างเมืองทั้งสอง ชิ้นส่วนสืบทอดต้องอยู่มือของเผ่าพันธุ์เรา เก็บไว้ให้ห่างจากพวกมนุษย์และอาณาจักรซีสกายยิ่งไกลยิ่งดี นอกจากนี้เผ่าพันธุ์เราต้องการจักรพรรดิองค์ใหม่เพื่อให้เผ่าพันธุ์สืบทอดต่อไปได้…” มันชะงักไปเล็กน้อย “แน่นอน เรื่องแรกสุดที่เราต้องทำก็คือต่อรองกับพวกมนุษย์”

“หวังว่าวัลคีรีย์คงไม่ได้เลือกทางผิดนะ” เดธสการ์หมุนตัวเดินเข้าไปในค่าย ปีศาจตัวอื่นๆ ที่แห่มาแหวกทางให้มัน

สกายลอร์ดมองไปยังท้องฟ้ายามเช้าที่เป็นสีเลือดโดยไม่ได้ตอบอะไร

……

ตอนที่รู้ว่าฝูงบินกำลังจะลงจอด โรแลนด์ก็รีบเดินเข้ามาในลานบิน

ความจริงแล้วไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น ทั้งกองทัพที่หนึ่ง ทีมก่อสร้าง เจ้าหน้าที่ขนส่ง…ทุกคนต่างวิ่งเข้ามารอรับเหล่าอัศวินอากาศที่กำลังกลับมา

ในตอนที่เครื่องบินปีกสองชั้นลำแรกวิ่งลงมาบนรันเวย์ของเกาะลอยฟ้า ทุกคนต่างระเบิดเสียงเฮดังสนั่นขึ้นมา!

หลังรออยู่นาน ในที่สุดโรแลนด์ก็มองเห็นซีกัลป์กับฟินิกส์ เมื่อเทียบกับตอนที่ออกเดินทางไปแล้ว ซีกัลไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเท่านั้น ส่วนฟินิกส์นั้นเป็นรอยเต็มไปหมด แต่สภาพโดยรวมมันยังคงเป็นปกติ ไม่นาน เครื่องบินทั้งสองลำก็ค่อยๆ มาจอดอยู่หน้าเขา

ยังไม่ทันที่บันไดจะตั้งขึ้น เขาก็ก้าวอาดๆ ไปบนรันเวย์แล้ว

“เดี๋ยว เดี๋ยวๆ—” ทิลลีลงมาที่พื้นพร้อมกับห้ามเขาเอาไว้ “อย่าเข้ามา!”

“ทำไมล่ะ?”

“ท่านเคยบอกไม่ช่เหรอว่าหลังระเบิดมันจะมีการปนเปื้อนที่อันตราย? ถึงแม้ฟินิกส์จะอยู่ค่อนข้างไกลจากเป้าหมาย แต่มันก็อาจจะมีการปกเปื้อนได้ แล้วตอนนี้ข้ายังมาจับมันอีก ถ้าท่านเข้ามาล่ะก็—”

ทิลลียังไม่ทันพูดจบก็ถูกโรแลนด์กอดเอาไว้

“ช่างปะไรล่ะ”

เขาพูดยิ้มๆ

คนอื่นๆ สังเกตเห็นภาพเหตุการณ์นี้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีอีกหลายคนแห่กันเข้ามาที่ลานจอดเครื่องบิน พร้อมกับกางมือวิ่งเข้าไปกอดเหล่าอัศวินที่กลับมา ก่อนที่สุดท้ายจะจับพวกเขาโยนขึ้นไปในอากาศ!

บรรยากาศบนลานบินเต็มไปด้วยความสุขทันที

“เอ่อ ไหนพระองค์ตรัวว่าหลังพวกเขากลับมาแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือกำจัดการปนเปื้อนและทำการตรวจสอบไม่ใช่เหรอ?” ไนติงเกลมุ่ยปาก

อันนาส่ายหัวยิ้มๆ “คนอื่นเลยเอาอย่างพระองค์เลย”

“ดูเหมือนจะจริง..” โรแลนด์กุมขมับ

“ยะฮู้ววว” ในเวลานี้ไนติงเกลร่อนลงมาจากฟ้า ก่อนจะโถมเข้าใส่ตัวเขา “พวกเราทำสำเร็จแล้ว!”

“จิีบ! ชนะแล้วจิ๊บ!” จากนั้นก็เป็นเมซี่

ส่วนแม่มดคนอื่นเองก็ตามเข้ามา

“พระองค์ไม่ห้ามพวกนางหน่อยเหรอเพคะ?” ไนตองเกลพูดพร้อมยักไหล่

ทิลลีครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นจึงยิ้มขึ้นมา “ช่างปะไรล่ะ!”

หลังเฮฮากันครู่ใหญ่ ในที่สุดบรรยากาศบนลานบินก็กลับมาเป็นปกติ หน่วยสนับสนุนได้แบ่งเครื่องบินที่บินกลับมาออกเป็นกลุ่มๆ ตามที่อัศวินอากาศรายงานมา เพื่อทำการตรวจสอบระดับการปนเปื้อนจากระยะห่างจากจุดระเบิด ส่วนฟิวรี่ออฟเฮฟเว่นที่กู๊ดและคนอื่นๆ ขับนั้นถูกเอาไปทิ้งเนื่องจากเข้าใกล้พระผู้สร้างมากเกินไป

ไม่นานเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพที่หนึ่งก็ได้รับตัวเลขที่สรุปออกมา เครื่องบินที่กลับมาได้อย่างปลอดภัยมีทั้งหมด 146 ลำ นี่หมายความว่ากองกำลังทางอากาศของเมืองเนเวอร์วินเทอร์เสียหายไปเกือบหนึ่งในสาม และส่วนใหญ่ก็เป็นเฮฟเว่นเฟลมรุ่นแรก เห็นได้ชัดว่าจำนวนปีศาจระดับสูงที่ปกป้องเมืองจักรพรรดินั้นมีมากกว่าแนวรบทางตะวันตก ถ้าหากใช้วิธีรบตามปกติ ศึกครั้งนี้คงยากที่จะจบลงในเวลาสั้นๆ ได้

นอกจากนี้เครื่องบินทิ้งระเบิดอีกสองลำก็มีแค่คุนเผิงที่กลับมาได้อย่างปลอดภัย ในตอนที่ซิวเวียแจ้งคำสั่งเสียของอีเกิลเฟซ ทั้งห้องประชุมพลันตกอยู่ในความเงียบทันที

“เกรย์คาสเซิลจะไม่มีทางลืมพวกเขา” โรแลนด์พูดเสียงเบา “เอาไว้กลับไปถึงเมืองเนเวอร์วินเทอร์เมื่อไร ข้าจะให้ทุกคนจดจำชื่อของพวกเขาไว้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เสียสละชีวิตหรือว่าผู้กล้าที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม แต่ก่อนที่จะเฉลิมฉลองกัน เรื่องแรกที่ต้องทำคือตรวจสอบสภาพร่างกายของอัศวินอากาศก่อน”

“ขอฝ่าบาทได้โปรดวางพระทัย ทางหน่วยสนับสนุนได้เตรียมพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ขวานเหล็กตอบ

สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่แผนการที่ได้เตรียมเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งรวมไปถึงการตรวจสอบติดตาม และการแยกรักษา สำหรับฮีโร่ที่มีความสามารถในการย้ายอาการป่วยและนาน่าที่มีความสามารถในการรักษาที่สมบูรณ์แบบแล้ว การเจ็บปวดจากรังสีก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีรักษา ถึงแม้จะใช้เวลาค่อยจากนั้น อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่โรแลนด์ก็ไม่คิดที่จะทิ้งใครแม้แต่คนเดียว

“แต่ก่อนหน้านั้น ข้าอนุญาตให้คืนนี้ทุกคนจัดงานฉลองเล็กๆ ได้” เขาผ่อนน้ำเสียงลง ก่อนจะพูดยิ้มๆ ออกมาว่า “แด่ชัยชนะที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้”

……………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด