(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล 123 จิ่วหลิว / 124 ชิวลั่ว

Now you are reading (Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล Chapter 123 จิ่วหลิว / 124 ชิวลั่ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 123 จิ่วหลิว

 

 

จิ่วหลิวเป็นพื้นที่ที่ติดมากับอวิ๋นหรงจากเขาเทียนปี้เข้าสู่ตระกูลหลานในฐานะของหมั้นแต่งงาน แม้จะถือว่าเป็นของตระกูลหลาน แต่ตระกูลหลานก็ไม่เคยไปจัดการ

 

 

เพราะจิ่วหลิวมีพื้นที่กว้างใหญ่จนกลายเป็นอาณาเขตอิสระ อีกทั้งยังมีผู้คนมากมายหลากหลายประเภท ที่นี่มีสายตาสอดส่องอยู่ทั่วทุกบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลานก็ดี ตระกูลเยี่ยก็ดี

 

 

ที่นี่เป็นพื้นที่ซ่อนตัวที่ดีที่สุด เมื่อหลบหนีมาถึงที่นี่ก็สามารถเปลี่ยนรูปเปลี่ยนร่างใหม่ ใช้ชีวิตอย่างคนปกติได้ต่อไป ที่นี่ก็เป็นแหล่งการค้าที่เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก เพราะรองรับการเดินทางหมุนเวียนจากทั้งตระกูลหลาน ตระกูลเยี่ย เขาเทียนปี้และเมืองหลวง ทำธุรกิจการค้าไปมาคึกคักเป็นอย่างมาก

 

 

ที่นี่คิดจะหาใครสักคนนั้นลำบากเป็นอย่างมาก จะซ่อนใครสักคนกลับช่างง่ายดาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการซ่อนคนของหนึ่งในองค์กรสืบข่าวที่ใหญ่ที่สุด

 

 

หลานเฟิงมาถึงจิ่วหลิว ก่อนหน้านี้ใช่ว่าเขาจะไม่เคยมาที่นี่มาก่อน และเพราะครั้งนั้นถึงได้บังเอิญรู้จักตัวตนของมู่หลี คิดจะตามหาหลานเยี่ยที่นี่ยังอยากกว่าขึ้นสวรรค์ ไม่ว่าอย่างไร ขอแค่เขาใช้คนอื่นนอกจากตัวเองมู่หลีจะต้องรู้ในทันทีเป็นแน่ อีกทั้งขอแค่เขาอยู่ก็ไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองหาพบ

 

 

ก่อนที่หลานเฟิงจะมานั้นได้ทำการแปลงโฉมหน้าแล้ว การแต่งกายก็เปลี่ยนด้วย กระบี่คู่กายและขลุ่ยไม้ก็ซ่อนเอาไว้ การที่เดินไปมาบนถนนเช่นนี้ต่อให้มีคนสังเกตเห็นว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาก็จะไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะนี่คือเรื่องที่มีให้เห็นเป็นปกติ

 

 

แต่หากเป็นบางคนคงจะต้องเข้ามาอัดให้น่วมเป็นแน่

 

 

“ไอยา คุณชายคนนี้ เพิ่งเคยมาที่นี่ใช่หรือไม่ เข้ามานั่งพักเท้า ดื่มชาสักอึก ฟังเพลงสักบทก่อนดีหรือไม่”

 

 

กลิ่นแป้งคลุ้งกระจายพุ่งปะทะเข้าใบหน้า หลานเฟิงขมวดคิ้วมุ่น เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าหอนางโลมแห่งหนึ่งอยู่ข้างตน หอบุปผาบาน ชื่อที่ไม่มีความเป็นกวีเลยแม้แต่นิด

 

 

ต่อให้เป็นเช่นนี้หลานเฟิงก็ยังเข้าไป ชั้นหนึ่งโหวกเหวกวุ่นวาย มีคนอยู่ทุกประเภท จะเป็นสตรีอย่างไร บุรุษอย่างไรก็มีทั้งนั้น

 

 

“คุณชายท่านนี้ ท่าน?”

 

 

“ห้องชุด” หลานเฟิงโยนของสิ่งหนึ่งให้กับคนที่ปกติแล้วถูกเรียกว่าแม่ แม่คนนั้นดวงตาเป็นประกาย รีบปรี่เข้าไปรับรองในทันใด

 

 

“รีบเตรียมห้องชุดให้คุณชายห้องหนึ่งเร็วเข้า”

 

 

หลานเฟิงเข้ามาในห้องชุด หลังจากนั่งลงแล้วก็มีคนยกเหล้ามาให้กาหนึ่ง พร้อมกับอาหารรสเลิศหลากประเภท หลานเฟิงยกแก้วเหล้าขึ้น แต่ก็วางลงอีกครั้ง เหล้าในที่แบบนี้ไม่สะอาดอย่างที่คิดไว้

 

 

หลานเฟิงคิดถึงหอเมฆาคลายของอวี่มั่วขึ้นมาอีกครั้ง ที่นั่นกลับสะอาดดี

 

 

 “คุณชายท่านนี้ ท่านต้องการหญิงสาวมาอยู่เป็นเพื่อนหรือชายหนุ่ม” แม่คนนั้นขึ้นมาต้อนรับหลานเฟิงด้วยตนเอง หลานเฟิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง

 

 

“ชายหนุ่ม”

 

 

“ได้ ท่านรอเถิด”

 

 

ในเหล้าไม่สะอาด แต่ในอาหารนั้นกลับสะอาดเป็นอย่างมาก หลานเฟิงคีบกินสองสามคำรู้สึกว่าไม่เลว ประตูห้องถูกเคาะดัง หลานเฟิงส่งเสียงตอบรับ คนที่เข้ามาคือชายหนุ่มที่ตบแป้งหนา ท่าทางอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง

 

 

หลานเฟิงดูแล้วรู้สึกไม่สบายใจ แต่หว่างคิ้วนั้นกลับมีความคล้ายหลานเยี่ย ยังไม่ทันรอให้ชายหนุ่มคนนั้นเปิดปาก หลานเฟิงก็ไล่เขาออกไป

 

 

“เปลี่ยนคน” ชายหนุ่มคนนั้นเดินออกไปด้วยท่าทางกระแทกกระทั้น แม่ที่อยู่อีกฝั่งกลับร้อนใจขึ้นมา

 

 

“คุณชายท่านนี้ ท่านต้องการแบบไหน ข้าจะไปเรียกมาให้ท่าน”

 

 

“เป็นวิทยายุทธ์”

 

 

“ได้ ท่านรอหน่อยเถิด ข้าจะออกไปเรียกให้ท่าน รับประกันว่าท่านต้องพอใจ”

 

 

ประตูเถิดเคาะดังอีกครั้ง คนที่เข้านั้นเป็นวิชากำลังภายในจริง ท่าทางแสดงให้เห็นอยู่ ลักษณะก็แสดงให้เห็น หลานเฟิงไม่ได้หันไปมองหน้าก็พอใจเป็นอย่างมาก

 

 

เป็นวิชาวิทยายุทธ์ถึงจะรู้เรื่องมากกว่า หลานเฟิงเงยหน้าขึ้นแต่เพียงแค่คนคนนี้ดูคุ้นตามากนัด

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 124 ชิวลั่ว

 

 

หลานเฟิงตกใจอย่างหนัก เกือบจะหลุดพูดชื่อออกมา คนที่เข้ามานั้นก็คือชิวลั่ว

 

 

“คุณชายท่านนี้ ให้ข้าน้อยนั่งลงได้หรือไม่” หลานเฟิงพยักหน้าอนุญาต ชิวลั่วจึงนั่งลงไป หลานเฟิงยังนึกสงสัยว่าทำไมตอนอยู่ตระกูลเยี่ยถึงไม่พบชิวลั่ว ที่แท้ก็อยู่ที่นี่ แต่ทำไมเขาถึงอยู่ที่นี่

 

 

ไมได้เรียกชื่อตนเองเหมือนชายหนุ่มทั่วไป ชิวลั่วแทนตัวเองว่าข้าน้อย ดูท่าทางคงไม่ได้มารับแขกที่นี่จริงๆ หรือจะบอกว่าเพราะเห็นอีกฝ่ายร้องขอคนที่เป็นวิทยายุทธ์เลยตั้งใจพูดเช่นนี้?

 

 

“คุณชายชื่อสกุลอะไรหรือ? ข้าน้อยสกุลชิว นามพยางค์เดียวว่าลั่ว”

 

 

ชื่อที่ใช้นั้นเป็นชื่อจริง หลานเฟิงไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร

 

 

“สกุลเยี่ย นามพยางค์เดียวว่าลั่ว”

 

 

“คุณชายเยี่ยเหลียง ไม่ทราบว่ามาทำอะไรที่หอบุปผาบานหรือ”

 

 

หลานเฟิงมองเขาทีหนึ่ง

 

 

“เช่นนั้นจากที่คุณชายชิวดูแล้ว คนที่มาหอนางโลมจะมาทำอะไรได้หรือ”

 

 

“จะมีอะไรนอกจากหาความสุขใส่ตัวและลอบฟังข่าว คุณชายถือเป็นประเภทไหนหรือ”

 

 

“เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า”

 

 

“ชิวลั่วไม่กล้าคาดเดาไปเอง”

 

 

ชิวลั่วพูดจาเออออ ตอบรับไปมาไปกับเขา ทำให้เขาอยากหัวเราะออกมาจริงๆ เด็กกำพร้าที่เติบโตมาในตระกูลเยี่ยตั้งแต่เด็กๆ กลายเป็นคนมีอารมณ์ขันขึ้นมาหน่อยแล้ว

 

 

“หอนางโลมยังมาแล้ว ยังจะมีเรื่องอะไรที่เจ้าไม่กล้าอีก” จู่ๆ หลานเฟิงก็บีบปลายคางชิวลั่วไว้

 

 

“ไม่ใช่ว่าคุณชายอยากทำเรื่องบนเตียงกับข้าน้อยอย่างนั้นหรือ เรียกคนที่เป็นวิทยายุทธ์มา คุณชายช่างน่าสนใจเสียจริง”

 

 

“ขอแค่มีคนต้องการ เจ้าก็จะรับแขกอย่างนั้นหรือ”

 

 

จู่ๆ หลานเฟิงก็ถามขึ้น

 

 

“ต้องเป็นคนที่ข้าพอใจ”

 

 

“เช่นนั้นก็หมายความว่าข้าน้อยทำให้คุณชายชิวพอใจมากอย่างนั้นหรือ”

 

 

“พอใช้ได้”

 

 

“เช่นนั้นข้าน้อยสามารถทำเรื่องที่ควรทำได้แล้วกระมัง”

 

 

“หากคุณชายอยาก ชิวลั่วย่อมโอนอ่อน แต่ข้าน้อยชอบอยู่ข้างบนมากกว่า” รู้สึกได้ถึงแรงอาฆาตจากชิวลั่ว หลานเฟิงปล่อยมือที่บีบปลายคางชิวลั่วออก

 

 

“คำพูดเช่นนี้เอาไว้พูดกับมู่หลีเถิด” หลานเฟิงพูดเช่นนี้ออกมา ทำให้ชิวลั่วต้องตกใจไป มองดูหลานเฟิงที่ค่อยๆ ฉีกหน้าฉากออกมาช้าๆ ชิวลั่วก็ไม่อยู่เฉยอีกต่อไป

 

 

“หลานเฟิง? ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่ นายน้อยเล่า”

 

 

“ชิวอวี้มีฉีเย่ว์คอยดูแล เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล กลับเป็นเจ้า ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่”

 

 

ชิวลั่วนั่งลงด้วยความเป็นกังวล แต่กลับหลงอยู่ในภวังค์แห่งความเงียบ

 

 

“เพราะมู่หลี ที่เจ้ามาครั้งนี้ก็เพราะหลานเยี่ยกระมัง เขาอยู่กับมู่หลี อยู่ที่จิ่วหลิว ข้าอยู่ที่นี่จับตาดูพวกเขาอยู่ตลอด แม้มู่หลีจะรู้ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรข้า อาจเป็นเพราะรู้ว่าข้าไม่ลงมือทำอะไรเขากระมัง”

 

 

“เจ้ารู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนหรือ”

 

 

“รู้ มู่หลีไม่เคยปิดบังข้ามาก่อน”

 

 

“พาข้าไป”

 

 

“เจ้าอย่าไปเลยดีกว่า” มู่หลียกแก้วเหล้าบนโต๊ะขึ้นมาดื่มหมดในอึกเดียว หลานเฟิงหวังดีไม่เอ่ยเตือนเขาว่าเหล้าไม่สะอาด แต่ผ่านไปไม่นานเห็นว่าเขาไม่เห็นอะไร จึงไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

 

“ทำไม”

 

 

“เวลาไม่ถูกต้อง ไปแล้วก็ไม่ส่งผลดีอะไรต่อตัวเจ้าและหลานเยี่ย”

 

 

“หากข้ายังจะไปเล่า”

 

 

“เช่นนั้นเจ้าก็ไปเถิด อย่างไรข้าก็คุมเจ้าไม่ได้ แต่อย่าเสียใจภายหลังก็พอ ข้าอยู่ที่นี่คอยดูมู่หลีอย่างเงียบๆ ทุกวัน วันไหนอารมณ์ดีก็ออกมารับแขก ได้พบคนที่คุยด้วยได้ และเคยพบคนที่ข้าเคยทำให้ตาย แต่ข้าก็ไม่เคยคิดจะไปรบกวนพวกเขามาก่อน หากพวกเขาสามารถมีความสุขได้ตลอดไป เช่นนั้นข้าก็จะเป็นแขกที่คอยดูไปตลอด ทำให้พวกเขาสมหวัง”

 

 

“เจ้าเหมือนกับฉีเย่ว์ยิ่งนัก”

 

 

“ข้ารู้ว่าเจ้าอยากพูดอะไร คำที่อยากด่าข้าให้อั้นเอาไว้เถิด เรื่องที่ข้าทำเองข้ารู้ดี ให้มู่หลีไปแย่งหลานเยี่ยของเจ้า ข้าขอโทษเป็นอย่างมาก นี่คือที่อยู่ หากไปก็อย่าได้เสียใจภายหลัง” ชิวลั่วใช้นิ้วจุ่มเหล้าแล้วเขียนลงบนโต๊ะ จากนั้นก็จากไป

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด