(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล 83-84

Now you are reading (Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล Chapter 83-84 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 83 แข็งแกร่งขึ้น

 

 

“ท่านหัวหน้าแม่ทัพ ได้สืบที่มาที่ไปของคนที่ลอบบุกเขาเทียนปี้อย่างละเอียดแล้วหรือยัง”

 

 

อวิ๋นหรูเช็ดน้ำตาจนแห้ง แล้วเรียกหัวหน้าแม่ทัพของกองกำลังทหารเข้ามา

 

 

“คนตระกูลเยี่ยกลุ่มนั้นไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่เขาเทียนปี้ แต่เหมือนปรากฏตัวขึ้นมากลางอากาศมากกว่า ตามที่นายทหารเฝ้าประตูเขาเทียนปี้บอก ประตูใหญ่เขาเทียนปี้นั้นมีเพียงขบวนทหารตระกูลหลานผ่านเข้ามาขอรับ

 

 

ตอนนั้นหลังจากที่ขบวนทหารตระกูลหลานเข้ามาท่านประมุขหลานบอกว่าท่านประมุขต้องการให้กำลังทหารทั้งสองฝ่ายประลองฝีมือกัน รอจนทหารเฝ้าประตูเข้ามารายงานก็พบว่าภายในเขาเทียนปี้เริ่มต่อสู้ขึ้นมาแล้ว

 

 

กำลังทหารของตระกูลหลานร่วมต่อสู้กับศัตรูกับทหารเขาเทียนปี้ แต่คนตระกูลเยี่ยกลับวางยาสลบ หลังจากนั้นตระกูลเยี่ยก็วางเพลิงเขาเทียนปี้ มีเพียงท่านประมุขหลานและหลานอีเซ่าจื๋อซือตระกูลหลานเท่านั้นที่หนีออกมาได้ หลังจากนั้นก็เหมือนกับที่ท่านเห็น”

 

 

ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ? อวิ๋นหรูพอจะรู้แล้วว่าคนตระกูลเยี่ยเข้ามาจากทางไหน

 

 

อวิ๋นหรูไปยังอุโมงค์ลับ เป็นไปตามที่คาดไว้ ม่านพลังของอุโมงค์ลับถูกทำลายลง กำแพงที่แต่เดิมไม่มีร่องรอยอะไร ตอนนี้ปรากฏรูโหว่รูหนึ่งให้เห็น

 

 

อวิ๋นหรูเดินเข้าไปก็พบว่าสภาพข้างในยังคงเหมือนที่ท่านพ่อเคยพามาตอนเด็กๆ นางไม่รู้ว่าท่านพ่อพาเข้ามาอย่างไร แต่ตัวหนังสือเหล่านั้น ภาพวาดที่แสดงตอนนี้ปรากฏขึ้นมาในหัวของนางอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

 

 

อวิ๋นซูธิดาศักดิ์สิทธิ์เขาเทียนปี้มีใจรักใครกับองค์ชายเจ็ดแห่งราชวงศ์ ไม่อาจรับได้กับการตัดสินใจเพื่อที่จะรักษาทรัพย์สินและเกียรติยศของนายวังด้วยการส่งนางให้กับชิวจือเว่ยหัวหน้าตระกูลเยี่ย ด้วยความช่วยเหลือจากหลานเซียวประมุขตระกูลหลานได้มีการส่งคนมาก่อสร้างอุโมงค์ลับที่ไม่อาจประเมินราคาได้เพื่อส่งธิดาศักดิ์สิทธิ์อวิ๋นซูไปยังจวนขององค์ชายเจ็ดฉีฮวน ให้ทั้งสองกราบไหว้ฟ้าดิน แต่งงานกัน

 

 

จากนั้นทั้งสองคนหนีออกจากเมืองหลวง หลบซ่อนอยู่ในป่าเขา ไม่มีคนได้เห็นทั้งสองคนอีก ตำนานรักพันปีกลายเป็นตำนานอันสวยงามเป็นต้นมา

 

 

อวิ๋นหรูคิดถึงคำพูดของคนตระกูลเยี่ยที่ยอมตายเพื่อนางก็รู้สึกคล้อยตามไม่ได้ สตรีที่สวยล้ำล่มเมืองเช่นนี้แล้วยังได้พบกับโชคชะตาที่ดีเช่นนี้จะไม่ให้คนอิจฉา อยากเห็นหน้าได้อย่างไร

 

 

แม้ตนเองจะมีส่วนคล้ายอยู่บ้าง แต่ตนเองควรจะพัดลอยไปที่ใด แล้วใครคือคู่ครองของตน

 

 

อวิ๋นหูคิดเช่นนี้ พลันคิดเรื่องม่านพลังขึ้นมา ทางด้านเขาเทียนปี้ต้องใช้ตราคำสั่งของตระกูลเยี่ย ทางฝั่งเมืองหลวงต้องใช้หยกประจำตัวประมุขตระกูลหลาน ทางด้านเขาเทียนปี้สามารถเข้าใจได้ แต่ทางด้านเมืองหลวงพวกเขาเปิดออกได้อย่างไร

 

 

นางจะต้องไปสอบถามหลานเยี่ย

 

 

เมื่อกลับมาถึงเรือนอี้หรง นางเข้าไปในห้องหลานอี แต่พบว่ามีเพียงหลานอีอยู่เพียงลำพัง เหมือนกับเพิ่งตื่นมาเมื่อครู่นี้

 

 

“คุณหนูหลานอี ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านประมุขหลานไปไหน” อวิ๋นหรูสอบถาม

 

 

“ไม่รู้ซิ ท่านประมุขฟื้นแล้วหรือ? ข้าตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเขาแล้ว”

 

 

“เมื่อครู่หลังจากเขาตื่นขึ้นมาก็เข้ามาในห้องท่าน บางทีอาจจะมีเรื่องอะไรกระมัง”

 

 

อวิ๋นหรูออกมาจากห้องหลานอี ท่าทางมืดมน แม้แต่บอกลาก็ยังไม่คู่ควรหรืออย่างไร?

 

 

“ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ เพลิงไหม้ที่เขาเทียนปี้ถูกดับหมดแล้ว ต่อจากนี้ควรทำเช่นไรกับประชาชนทั่วไป?”

 

 

“หลานเยี่ยไม่อยู่ แต่เดิมข้าคิดจะนำเอาประชาชนทั่วไปไปไว้ที่ตระกูลหลานก่อนช่วงเวลาหนึ่ง รอจนเขาเทียนถูกซ่อมแซมสร้างขึ้นใหม่แล้วจึงไปรับพวกเขากลับมา ดูท่าข้าต้องไปที่ตระกูลหลานด้วยตนเองสักครั้งแล้ว ก่อนที่ข้าจะกลับมาปกป้องดูแลพวกเขาให้ดี อย่าให้พวกเขาถูกสัตว์ป่าบนเขาทำร้ายเอา”

 

 

“ขอรับ”

 

 

“เช่นนั้นท่านประมุข?”

 

 

ตอนที่หลานเยี่ยตื่นขึ้นมาได้จัดการปลดม่านพลังรอบหายอวิ๋นอี้ออกหมดแล้ว

 

 

“รอจนข้ากลับมาจากการเจรจากับตระกูลหลานแล้ว ให้ทำพิธีฝังศพตามพิธีกรรมของเขาเทียนปี้เถิด” อวิ๋นหรูไม่อยากเสียน้ำตาอีก แต่น้ำตากลับไหลลงมาอย่างน่าผิดหวัง

 

 

“ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์…”

 

 

“ข้าไม่เป็นอะไร ช่วงเวลาที่ข้าไปตระกูลหลาน เขาเทียนปี้ต้องมอบให้เจ้าแล้ว ข้าไปแล้ว”

 

 

อวิ๋นหรูออกเดินทางไปยังตระกูลหลาน

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 84 ความทรงจำอันสับสนวุ่นวาย

 

 

หลังจากหลานเยี่ยออกจากห้องไป คิดจะเข้าไปดูอาการหลานอี แม้จะกินยาถอนพิษแล้วแต่ก็ยังฟื้นตัวกลับมาไม่หมด กระแสพลังยังคงเคลื่อนที่ได้ช้าอย่างมาก

 

 

หลานเยี่ยมาถึงหน้าประตูห้องหลานอี ได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยในห้อง บางทีนางอาจจะตื่นขึ้นมาแล้ว จากนิสัยของหลานอีแล้วนั้นจะต้องสนิทสนมกับคนเขาเทียนปี้ในทันทีอย่างแน่นอน

 

 

หลานเยี่ยผลักประตูเข้าไป แต่กลับพบว่าหลานอีนอนนิ่งสงบอยู่บนเตียง ยังไม่ฟื้นขึ้นมา แล้วเสียงพูดคุยหัวเราะเมื่อครู่นี้มาจากที่ไหนกัน

 

 

หลานเยี่ยรู้สึกถึงความผิดปกติ เพิ่งจะนึกระวังตัวก็ถูกคนลอบตีจนสลบจากข้างหลัง ก่อนจะสลบไปหลานเยี่ยทำธุระเรื่องสุดท้าย จากนั้นก็เห็นคนชุดดำเดินมายังตนเอง

 

 

……

 

 

กลุ่มควันสีขาวผืนใหญ่นั่นคืออะไร หมอกอย่างนั้นหรือ? หลานเยี่ยเดินอยู่บนพื้นแผ่นดิน แต่ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ใด

 

 

พื้นที่อันสับสนวุ่นวายเละเทะนี่คือที่ไหนกัน?

 

 

ตนเองยังอยู่ที่เขาเทียนปี้หรือไม่? ไม่ใช่ว่าตนเองถูกตีจนสลบหรอกหรือ? แล้วที่นี่คือที่ไหนกัน?

 

 

หลานเยี่ยเดินไปเรื่อยๆ เดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ จู่ๆ ก็สังเกตเห็นเงาคนร่างหนึ่งจึงรีบวิ่งไปหา แต่กลับพบว่าเป็นหลานชิงและอวิ๋นหรง

 

 

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ทำไมพวกท่านมาอยู่ที่นี่” หลานเยี่ยวิ่งเข้าไปด้วยความดีใจ แต่กลับพบว่าตนเองไม่อาจสัมผัสพวกเขาได้ อีกทั้งพวกเขาก็ไม่รู้สึกถึงการดำรงอยู่ของตนเอง แต่เห็นใบหน้าของพวกเขาที่หัวเราะอย่างมีความสุข

 

 

หลานเยี่ยมองอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็มีเด็กชายคนหนึ่งวิ่งมา

 

 

“ท่านพ่อ ท่านแม่ มอบให้พวกท่าน” ในมือของเด็กน้อยถือดอกไม้ช่อหนึ่งเอาไว้

 

 

นี่คือ…ตัวข้าเอง? หรือว่านี่จะเป็นความทรงจำของข้าอย่างนั้นหรือ? หลานเยี่ยรู้สึกว่าเหลือเชื่อ เขาเดินต่อไปข้างหน้า ภาพทุกภาพล้วนคุ้นตา ตอนที่ได้เห็นภาพในอดีตอีกครั้ง หลานเยี่ยก็อดรู้สึกสั่นคลอนไม่ได้

 

 

ท่ามกลางความทรงจำในอดีตปรากฏคนประเภทต่างๆ นานา เขาแอบหนีไปเมืองหลวง ได้พบกับอวี้มั่ว เทียนซี มู่หลี สิ่งที่เขาคิดมาอย่างขึ้นมาอย่างนึกสนุกสร้างกลุ่มที่ถือเป็นของเขาขึ้นมาในเมืองหลวง นั่นคือครองจันทร์ แต่ว่าที่เยอะที่สุดก็คือช่วงเวลาที่เขาอยู่กับหลานเฟิง

 

 

แล้วได้เห็นภาพนั้นอีกครั้ง มู่หลีถูกหลานเฟิงสาดน้ำชาใส่หน้า ทั้งสองคนนี้ช่างเหลือเกินเสียจริง หลานเยี่ยหัวเราะออกมา

 

 

เดินตรงไปข้างหน้าต่อ หลานเยี่ยมองเห็นจุดเริ่มต้นของทุกเรื่อง หลานเยี่ยหันกลับมามองอย่างไม่ตั้งใจครั้งหนึ่ง แต่กลับต้องชะงักฝีเท้า นิ่งอึ้งไป ความทรงจำที่อยู่ด้านหลังนั้นมีคนคนหนึ่งปรากฏขึ้น แล้วหายไป แล้วมองไปข้างหน้าอีกครั้ง ใช่แล้ว นั่นคือมู่หลี นั่นคือหลานเฟิง ไม่มีความขัดแย้งแม้แต่น้อย แต่หลานเฟิงปรากฏตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรกัน?

 

 

หลานเฟิงเป็นองครักษ์ของตน แต่ก่อนหน้านี้หลานเฟิงเป็นอะไรสำหรับตนเอง? หลานเยี่ยไม่กล้าคิดต่อไป เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีอะไรไม่ถูกต้องหรือไม่ เขาวิ่งไปข้างหลังอย่างบ้าคลั่ง สิ่งที่เห็นก็ยังเป็นความทรงจำของตน ไม่มีซึ่งความขัดแย้ง

 

 

การเปลี่ยนแปลงตรงนั้นไม่ได้หยุดลงตามการวิ่งไปข้างหลังของหลานเยี่ย แต่กลับเร่งฝีเท้ามากยิ่งขึ้น จู่ๆ หลานเยี่ยก็หยุดลง เหมือนกับสูญเสียสติสัมปชัญญะไป หลังจากนั้นชั่วครู่ก็เพ่งกำลังเขม็งมองในฉับพลัน

 

 

“นี่คือที่ไหน” หลานเยี่ยแสดงท่าทางเหมือนก่อนหน้านี้อีกครั้ง

 

 

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ทำไมพวกท่านถึงอยู่ที่นี่?”

 

 

หลานเยี่ยวิ่งไป แต่กลับสัมผัสพวกเขาไม่ได้ หลานเยี่ยมองอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินไปข้างหน้าต่อ

 

 

ช่างมีความสุขเสียจริง รู้จักคนมากมายในเมืองหลวง เทียนซี อวี้มั่ว

 

 

แต่ที่เยอะที่สุดก็ยังคงเป็นมู่หลี

 

 

หลานเยี่ยเดินเข้าไป ความทรงจำด้านหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้พวกเขาเป็นใครกัน? ไม่มีใครรู้ แต่ตอนที่หลานเยี่ยหันกลับไปอีกครั้งกลับไม่มีแววตาเลื่อนลอยให้เห็นอีก เหมือนว่านั่นเป็นเหมือนกับชีวิตที่เขาประสบผ่านมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด