(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล 89-90

Now you are reading (Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล Chapter 89-90 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 89 ปรึกษาตระกูลหลาน

 

 

อวิ๋นหรูผ่านเขาเทียนปี้ไป ผ่านไปยังเขตม่านพลังตระกูลหลานอย่างราบรื่น แม้เขตม่านพลังของตระกูลหลานคนนอกจะไม่อาจผ่านเข้าไปได้ แต่เพราะตอนเด็กๆ นางมักจะเล่นกับหลานเยี่ยเป็นประจำ ดังนั้นหลานชิงจึงเปิดม่านพลังให้

 

 

หลายปีที่ไม่ได้มาตระกูลหลานยังคงเป็นเหมือนเดิม หอคอยแสนประณีต ภูเขาและแม่น้ำที่สวยงาม

 

 

หลานเม่ยคอยจัดการตระกูลหลาน ทุกวันจะมีขบวนตรวจลาดตระเวนตระกูลหลาน เขายืนอยู่บริเวณสูงที่สุดของเขาหลานวั่ง มองเห็นคนคนหนึ่งเดินเข้ามาในตระกูลหลานตั้งแต่ไกลๆ หลานเม่ยลงมาจากที่สูง

 

 

“ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ มาถึงตระกูลหลานไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรหรือ?” ทันใดนั้นหลานเม่ยก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าอวิ๋นหรู ทำเอาอวิ๋นหรูตกใจไม่เบา

 

 

“ข้า ข้ามาหาท่านพี่”

 

 

อวิ๋นหรูเห็นว่าเป็นหลานเม่ย ก็ค่อยๆ ได้สติกลับมา

 

 

“หากเป็นท่านประมุข เขาไม่อยู่ในตระกูลหลานขอรับ ท่านประมุขไม่ได้นำคนไปที่เขาเทียนปี้หรอกหรือ?”

 

 

“ไม่อยู่ในตระกูลหลานหรือ? แต่หลังจากท่านพี่ฟื้นแล้วก็ออกมาจากเขาเทียนปี้แล้วนี่ ไม่ได้กลับมาตระกูลหลานเช่นนั้นไปที่ไหนกัน?”

 

 

อวิ๋นหรูพูดพึมพำกับตนเอง

 

 

หลานเม่ยยืนฟังนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น

 

 

“เช่นนั้นหลานเฟิงอยู่หรือไม่?”

 

 

“ท่านหัวหน้าแม่ทัพพาคนไปชายแดนซีเชวีย ไม่อยู่เช่นกันขอรับ”

 

 

“เช่นนั้นตอนนี้ใครเป็นคนดูแลจัดการธุระในตระกูลหลาน?”

 

 

“เป็นข้าน้อย”

 

 

หลานเม่ยค้อมเอวลงเล็กน้อย แสดงถึงความเคารพต่ออวิ๋นหรู อย่างไรก็เป็นญาติผู้น้องงของหลานเยี่ย

 

 

ท่านประมุขไม่อยู่ เช่นนั้นก็ต้องเป็นเขาที่คอยจัดการเรื่องนี้แทนหลานเยี่ย

 

 

“ให้ข้าเข้าไปพูดข้างในได้หรือไม่?” ตอนนี้พวกอวิ๋นหรูยังยืนอยู่นอกประตู หลานเม่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเดินนำนางไปยังที่พักของตน

 

 

“ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์มีเรื่องอะไรหรือ” หลานเม่ยถามอีกครั้ง

 

 

“เขาเทียนปี้โดนตระกูลเยี่ยลอบโจมตี บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก อีกทั้งเขาเทียนปี้ก็ถูกเพลิงใหญ่เผามอดทำลายจนเปลี่ยนไปหมด ประชาชนไร้ที่พัก ดังนั้นอวิ๋นหรูจึงขอร้องท่านจู่จื๋อซือให้ประชาชนชาวเขาเทียนปี้ของข้าอพยพย้ายอยู่ที่ตระกูลหลานก่อน รอจนเขาเทียนปี้ซ่อมแซมก่อสร้างใหม่แล้วค่อยกลับไปอีกครั้ง”

 

 

“เพลิงใหญ่ที่เขาเทียนปี้ แล้วนายวังเล่า?” หลานเม่ยถามขึ้นมาประโยคหนึ่ง แต่ดูจากท่าทีของอวิ๋นหรู หลานเม่ยไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

 

ภายในคืนเดียวบ้านแตกคนตาย สามารถใจเย็นจัดการเรื่องราวต่างๆ รอบด้านได้เช่นนี้ถือว่าเป็นการลำบากสตรีนางหนึ่งแล้ว ต่อให้รับปากนางไปก็คงไม่เป็นอะไรกระมัง แม้ท่านประมุขจะไม่อยู่แต่ก็น่าจะไม่พูดอะไรกระมัง

 

 

“แม้ท่านประมุขจะไม่อยู่ แต่ข้าคิดว่าท่านประมุขน่าจะไม่ปฏิเสธคำขอร้องของท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์กระมัง”

 

 

“ขอบคุณท่านจู่จื๋อซือ หลังจากนี้อวิ๋นหรูจะต้องขอบคุณอย่างหนัก” อวิ๋นหรูลุกขึ้นก่อนจะคุกเข่าต่อหน้าหลานเม่ยแสดงการขอบคุณ

 

 

“ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์รีบลุกขึ้นมาเถิด เรียกข้าว่าหลานเม่ยก็พอแล้ว อีกทั้งท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์โปรดละความเศร้า”

 

 

“ระยะเวลาเดินทางระหว่างตระกูลหลานและเขาเทียนปี้ประมาณหนึ่งวัน หากเป็นคนธรรมดาจะต้องใช้เวลาประมาณสองวัน หลานเม่ยจะจัดการเรื่องที่พักของประชาชนชาวเขาเทียนปี้ให้ดีภายในสามวันนี้ ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์โปรดวางใจ”

 

 

“เขาเทียนปี้สิ้นแล้ว ข้าเองก็ไม่ใช่ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์อะไร จู่…คุณชายหลานไม่ต้องเร่งรีบ หลังจากข้ากลับไปแล้วยังต้องท่านพ่อขอข้าลงดินเพื่อความสงบ”

 

 

“เกรงว่าท่านประมุขคงจะมีธุระ พิธีศพของนายวังท่านประมุขไม่มีพลาดเป็นแน่ คุณหนูอวิ๋นอย่าได้เป็นห่วงไป หากยังมีเรื่องอะไรที่ต้องการให้ช่วยเหลือขอให้เอ่ยปากบอก หากหลานเม่ยสามารถช่วยได้จะต้องออกแรงช่วยเหลือเป็นแน่”

 

 

“ขอบคุณคุณชายหลานเม่ย เช่นนั้นอวิ๋นหรูต้องเดินทางกลับในทันทีแล้ว”

 

 

“ขอรับ”

 

 

หลังจากอวิ๋นหรูกลับไปหลานเม่ยสั่งให้คนลอบป้องกันนางระหว่างทางกลับ อีกทั้งยังส่งคนไปติดต่อหลานเฟิง ดูว่าหลานเยี่ยไปที่ใด

 

 

หากเป็นหลานเฟิงน่าจะรู้ว่าท่านประมุขอยู่ที่ใด อย่างไรระหว่างทั้งสองคนก็ไม่เคยมีช่องว่างระหว่างกันมาก่อน

 

 

และเขากลับไปจัดการเรื่องที่อยู่ของประชาชนเขาเทียนปี้ด้วยตนเอง

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 90 พิธีศพ

 

 

ตอนที่อวิ๋นหรูกลับไปถึง แม่ทัพอวิ๋นก็รอนางอยู่ที่เรือนหรงอี้แล้ว

 

 

“ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ ช่วงเวลาที่ท่านไม่อยู่ท่านหัวหน้าแม่ทัพกองทหารตระกูลหลานหลานเฟิงมาหาท่าน”

 

 

“หลานเฟิงหรือ? เขามาทำไม เขาไม่ควรจะนำทหารอยู่ที่ซีเชวียหรือ?”

 

 

“เหมือนจะมาหาท่านประมุขหลานขอรับ ดูท่าทางร้อนใจอย่างมาก”

 

 

“หาท่านพี่ หรือเขาเองก็ไม่รู้ว่าท่านพี่ไปไหน ท่านพี่ไม่ได้กลับตระกูลหลาน หลานเม่ยเองก็ไม่รู้ว่าท่านพี่ไปที่ไหน คงไม่ได้เกิดเรื่องอะไรกับท่านพี่กระมัง พวกเราต้องส่งคนไปหาเขาหรือไม่”

 

 

อวิ๋นหรูแลดูร้อนใจขึ้นมา

 

 

“ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่เร่งรีบที่สุดตอนนี้คือพิธีศพของนายวังและความปลอดภัยของประชาชนเขาเทียนปี้ อีกทั้งเขาเทียนปี้เองก็ไม่มีคนเหลือมากพอที่จะออกไปตามหาคน ข้าเชื่อว่าทางตระกูลหลานจะต้องตามหาท่านประมุขหลานเป็นแน่ ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องเข้าไปยุ่งหรอกขอรับ”

 

 

อวิ๋นหรูคิดถึงบทสนทนาระหว่างนางและอวิ๋นอี้ตอนที่ยังมีชีวิต และคิดถึงเนื้อหาในจดหมายฉบับนั้น ใช่แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ตนเองจะเอาแต่ใจได้แล้ว

 

 

“การเตรียมพร้อมช่วงแรกของพิธีศพเป็นอย่างไรบ้าง” เห็นอวิ๋นหรูไม่ได้พูดอะไรอีก แม่ทัพอวิ๋นถึงได้วางใจลง

 

 

“การเตรียมพร้อมช่วงแรกเสร็จหมดแล้วขอรับ หลังจากนี้ต้องให้ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ท่านออกหน้าจัดพิธีเองแล้ว”

 

 

พูดจบทั้งสองคนก็เดินมาถึงโถงบรรพชนเขาเทียนปี้ ประตูใหญ่ของโถงบรรพชนเปิดออกกว้าง หน้าประตูมีทหารยืนอยู่สองแถว ตรงกลางเหลือเป็นทางเดินเอาไว้เส้นหนึ่ง ด้านข้างเต็มไปด้วยประชาชนที่มายืนรอส่งด้วยความเป็นระเบียบ

 

 

ตั้งแต่ที่อวิ๋นอี้รับช่วงดูแลเขาเทียนปี้ ใช้ศีลธรรมในการจัดการ เขาเทียนปี้ภายใต้การดูแลของเขายิ่งอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ชีวิตของประชาชนก็ยิ่งมีความสุขและแข็งแรงมากขึ้น ประชาชนเขาเทียนปี้เองก็ซาบซึ้งในบุญคุณของอวิ๋นอี้ สำหรับการจากไปของนายวังที่ฉลาดหลักแหลมเช่นนี้พวกเขารู้สึกเสียใจอย่างมาก

 

 

อวิ๋นหรูเดินอยู่ข้างหน้า สี่คนด้านหลังแบกโลงศพของอวิ๋นอี้เดินตามมา อวิ๋นหรูสวมใส่ชุดสีขาวปลอด ในเวลานี้กลับไม่มีน้ำตาหยดลงมาแม้แต่หยดเดียว เพราะร้องไห้จนน้ำตาแห้งไปแล้วอย่างนั้นหรือ?

 

 

โลงศพเข้าไปในโถงบรรพชน อวิ๋นหรูนำดอกบัวขาววางไว้บนมุมซ้ายของโลงศพอวิ๋นอี้ หลังจากกราบสามครั้งแล้วก็ลุกขึ้น จากนั้นอวิ๋นหรูขับกระแสพลังบังคับโลงศพอวิ๋นอี้ไว้กลางอากาศ เปลวเพลิงแสนแสบตาสะเทือนเลื่อนลั่น

 

 

มีผู้คนมากมายร้องไห้ออกมาเพราะทนไม่ไหว สุดท้ายเถ้ากระดูกที่เหลือก็ถูกใส่ไว้ในกล่องไม้ที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ จากนั้นก็ใส่ไว้ในตำแหน่งที่กำหนดเอาไว้

 

 

“อวิ๋นอี้นายวังรุ่นที่สองร้อยเก้าสิบเอ็ดแห่งเขาเทียนปี้ ทั้งชีวิตทำเพื่อเขาเทียนปี้ ไม่เคยมีข้อผิดพลาดมาก่อน และในวันนี้ได้จากไป จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับคนรุ่นหลัง” คนที่ดำเนินพิธีนั้นพูดออกมา

 

 

“ท่านพ่อ ท่านไปดี” อวิ๋นหรูตะโกนออกมาเสียดัง คนด้านหลังก็ตะโกนตามนาง

 

 

“นายวัง ท่านไปดี” ทันใดนั้นเสียงร้องไห้ก็ระงมไปทั่วทุกทิศ เสียงดังสนั่นฟ้า หากคิดจะวิพากษ์วิจารณ์ชีวิตของผู้นำคนหนึ่ง คิดว่าน้ำตาของประชาชนราษฎรที่ร่ำไห้ในพิธีศพคงจะมีกำลังในการพูดที่สุดกระมัง

 

 

อวิ๋นหรูเดินออกไปหน้าประตูโถงบรรพชน มองดูประชาชนด้านนอก

 

 

“แม้นายวังจะจากไปแล้ว เขาเทียนปี้จะถูกเผา แต่ยังมีพวกเจ้า ข้าเชื่อว่า มีพวกเจ้าอยู่เขาเทียนปี้จะต้องมีวันที่สร้างกลับขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป คนชรา หญิงที่แต่งงานและเด็กๆ ให้ตามข้าไปที่ตระกูลหลานเป็นการชั่วคราว บุรุษที่เหลือคนที่ยินยอมอยู่ต่อก็ให้สร้างเขาเทียนปี้ด้วยกัน คนที่ไม่ยินยอมอยู่ต่อก็ให้ตามข้าไปตระกูลหลาน”

 

 

“พวกเรายินยอมอยู่ต่อไปก่อสร้างเขาเทียนปี้” เสียงตะโกนดังรอบด้าน มุ่งมั่นอย่างมาก

 

 

รอจนทุกอย่างสิ้นสุดลงแล้ว อวิ๋นหรูนั่งอยู่ในโถงบรรพชนไม่รู้คิดอะไรอยู่

 

 

“ท่านเทพธิดาศักดิ์สิทธิ์ ไฟอมตะของนายวังจะให้เอาลงมาหรือไม่?”

 

 

แม่ทัพอวิ๋นเดินมาถาม

 

 

สายตาของอวิ๋นหรูมองไปยังกำแพงของโถงบรรพชน

 

 

“ไม่จำเป็น รอจนวันที่เขาเทียนปี้สร้างขึ้นมาใหม่ค่อยเอาลงมา ข้าอยากให้ท่านพ่อได้เห็นเขาเทียนปี้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด