บัลลังก์หมอยาเซียน 1049 เข้าวังรับการแต่งตั้ง

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 1049 เข้าวังรับการแต่งตั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หมันเอ๋อยังเดินไปไม่ถึงโถงรับรอง พวกเด็กๆก็วิ่งออกมาร้องตะโกนเสียงดังลั่น ในลานบ้านบรรยากาศคึกคักขึ้นมาทันที หมันเอ๋อมองภาพของพวกเด็กๆที่วิ่งมากันอย่างลิงโลด มองดูรอยยิ้มชอบใจที่อยู่บนใบหน้าพวกเขา ก็รู้สึกจมูกตื้อตันขึ้นมา ดีจริงๆ ดีจริงๆ กลับมาที่นี่ช่างดีจริงๆ อยู่หนานเจียง คิดถึงทุกวัน ความทรงจำทุกอย่างในจวนอ๋องฉู่ได้ซึมเข้าสู่ดวงวิญญาณแล้ว จะให้ตัดใจอย่างไร

หมันเอ๋อกอดพวกเด็กๆอยู่ชั่วครู่ ก็เข้าไปคำนับหยวนชิงหลิง นางอยากจะคุกเข่าลง หยวนชิงหลิงดึงนางเอาไว้ “พอแล้ว เจ้าเข้าเมืองหลวงในครั้งนี้ ด้วยฐานะของอ๋องหนานเจียง ไม่ใช่สาวรับใช้ในจวนอ๋องฉู่ของข้าอีกต่อไปแล้ว”

หมันเอ๋อจมูกตื้อขึ้นมา น้ำตาเอ่อล้นขอบตา พูดด้วยเสียงสะอื้นว่า “อยู่ในจวนอ๋องฉู่ไม่มีอ๋องหนานเจียง ข้าน้อยเป็นหมันเอ๋อของท่านตลอดไป”

หยวนชิงหลิงซาบซึ้งใจมาก กุมมือของนางเอาไว้ “หมันเอ๋อคนดี ลำบากมาตลอดทางใช่หรือไม่ เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วค่อยออกมากินข้าว แม่นมฉีของเจ้าเข้าครัวลงมือทำเอง ทำของที่เจ้าชอบกิน ”

หมันเอ๋อเช็ดที่หางตา เอ่ยอย่างดีใจว่า “ได้ ข้าน้อยจะไปคำนับแม่นม ใช่แล้ว ท่านอ๋องให้ข้าน้อยบอกคำหนึ่ง เขากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่จวนค่อยมาที่นี่ เขาจะมาขอกินข้าวที่จวนอ๋องฉู่ ”

หยวนชิงหลิงยิ้ม “ได้”

หมันเอ๋อจึงย่อตัวคำนับออกไป อะซี่รองนางอยู่ข้างนอก ทั้งสองคนจูงมือเดินไปด้วยกัน ฉี่หลอกับลู่หยาต่างก็ห้อมล้อมเข้ามา สาวๆทั้งหลายต่างก็พูดคุยกันไม่หยุด หยวนชิงหลิงยืนอยู่ด้านล่างระเบียงทางเดิน มองดูลูกๆที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ ในที่สุดจวนอ๋องฉู่ก็มีบรรยากาศดังเช่นวันวานแล้ว

เจ้าห้านั้นเข้ามาพร้อมกันกับอ๋องชุน พบกันที่หน้าประตู เดินเข้ามาด้วยกัน อ๋องชุนก็อดรนทนรอไม่ไหวที่จะรายงานสถานการณ์ของหนานเจียง เล่าได้อย่างตื่นเต้นมาก สีหน้าของหยู่เหวินเห้านั้นชื่นชม รู้สึกน้องเก้าก็มีอนาคตแล้ว

ระหว่างกินข้าว อ๋องชุนก็ยังคงพูดอยู่ตลอด แม้แต่ข้าวก็ไม่มีเวลาสนใจจะกิน หยวนชิงหลิงจึงเอ่ยขึ้นว่า “เจ้ากินข้าวก่อน กินข้าวแล้วค่อยคุยกับพี่ห้าของเจ้าช้าๆ”

“ไม่ได้”อ๋องชุนคุ้ยข้าวเข้าปากอย่างรวดเร็ว “ประเดี๋ยวข้ายังต้องเข้าวัง ถ้าหากเสียเวลา ประตูวังปิดแล้วก็คงต้องไปพรุ่งนี้แล้ว”

“ทำไม เสด็จพ่อเรียกตัวเจ้าเข้าพบหรือ”หยู่เหวินเห้าถาม

“ไม่ใช่ ”อ๋องชุนยิ้มเด๋อด๋า มุมปากยังมีเมล็ดข้าวติดอยู่ “พี่แปดรอข้าอยู่ ข้าได้ส่งจดหมายให้เขาจากหนานเจียง บอกว่าให้รอข้ากลับมา จะเข้าไปพบเข้าในวังก่อน ข้าเกรงว่าเขาจะรอจนร้อนใจ คืนนี้ข้าจะอยู่ในวังเป็นเพื่อนพี่แปด”

หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงสบตากันแวบหนึ่ง ต่างก็ยิ้มบางๆขึ้นมา ความรักระหว่างพี่น้องของน้องแปดกับน้องเก้าช่างน่าซาบซึ้งใจนัก

กินข้าวเสร็จแล้ว สถานการณ์คร่าวๆก็พูดหมดแล้ว อ๋องชุนก็จากไปอย่างรวดเร็ว

หยวนชิงหลิงก็พูดคุยกับหมันเอ๋อเป็นเวลานานมาก หมันเอ๋อบอกว่าได้ยอมรับท่านแม่แล้ว ครั้งนี้มารดาของนางอยู่ที่หนานเจียง ไม่ตามพวกเขากลับมาด้วย

“ล้วนพึ่งแผนการของท่านแม่ทั้งสิ้น เกลี้ยกล่อมคนได้ส่วนหนึ่ง คนเหล่านั้นแต่เดิมเคยเป็นลูกน้องเก่าแก่ของท่านพ่อ แต่ว่าตอนแรกนั้นไม่เชื่อพวกข้า โดยเฉพาะท่านแม่ที่เป็นสาวหมอผีแห่งเจียงเป่ย แต่ที่สุดท่านแม่ก็พูดเกลี้ยกล่อมพวกเขาจนได้ ”

หยวนชิงหลิงชื่นชมแม่นมฉินมาก ที่จริงแม่นมฉินเป็นคนที่มีความกล้าหาญมาก และในใจก็มีความคิดที่แน่วแน่ ถ้าหากนางสามารถขจัดความหวาดกลัวที่มีต่อเจียงเป่ยได้ ลุกขึ้นมาช่วยอ๋องหนานเจียงล้างแค้น เช่นนั้นอำนาจหนานเจียงสายนี้สำหรับเจ้าห้าแล้ว เป็นเหมือนดังเสือติดปีก

หมันเอ๋อแลบลิ้นออกมา “ที่จริงข้าอยู่ที่หนานเจียงก็ช่วยงานอะไรไม่ได้เลย ล้วนเป็นท่านแม่กับคนที่รัชทายาทส่งไปเป็นคนทำ ทุกวันจะมีคนมารายงานข้า น่าเบื่อมาก ยังมีอ๋องชุน อ๋องชุนตอนนี้อยู่ที่หนานเจียงเขามีคนคอยสนับสนุนเยอะมาก ”

ตอนที่หมันเอ๋อเอ่ยถึงอ๋องชุน สีหน้าแดงขึ้นเล็กมาเล็กน้อย

หยวนชิงหลิงสังเกตเห็นแล้ว มองนางอย่างประหลาดใจ เป็นไปได้ว่า หมันเอ๋อมีใจให้กับน้องเก้าแล้ว แม้จะมีใจจริงๆก็ไม่น่าแปลก เพราะว่าตอนที่อยู่จวนอ๋องฉู่แล้วนางกระโดดลงไปในทะเลสาบ เป็นน้องเก้าที่ช่วยชีวิตนางขึ้นมา และนับว่าเป็นผู้มีพระคุณด้วย

และหยวนชิงหลิงรู้สึกว่า ถ้าหากเรื่องนี้เป็นจริง น้องเก้ากับหมันเอ๋อแต่งงานกันละก็ ยิ่งมีประโยชน์ต่อการทำให้สถานการณ์มั่นคงมากขึ้น

คืนนั้นนางกลับไปคุยกับหยู่เหวินเห้า หลังจากหยู่เหวินเห้าได้ยินแล้ว ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “น้องเก้าอายุยังเด็ก ไม่รีบร้อนแต่งงาน”

“เด็กที่ไหน ยี่สิบกว่าแล้ว”

“ค่อยคุยเรื่องแต่งงานตอนอายุยี่สิบสามยี่สิบสี่ก็ยังไม่สาย ”หยู่เหวินเห้าขยี้ตา ช่วงนี้อยู่ดึกบ่อยมาก ขอบตาคล้ำหมดแล้ว “อีกอย่าง ข้าได้ยินท่านพี่บอกว่าที่ที่พวกเจ้าอยู่นั้นน้อยมากที่จะแต่งงานตอนอายุยี่สิบปี ท่านพี่อายุมากขนาดนี้แล้วยังไม่แต่งงานเลย”

“ยุคสมัยไม่เหมือนกัน ท่านไม่ชอบหมันเอ๋อหรือ”หยวนชิงหลิงถาม

หยู่เหวินเห้าเบือนหน้าไป “ไม่ใช่ เพียงแค่รู้สึกว่าถ้าแต่งงานกับหมันเอ๋อจริงๆ ก็ต้องอยู่กับหมันเอ๋อที่หนานเจียง ปีหนึ่งจะกลับครั้งหนึ่งยังไม่ได้”

“อาลัยอาวรณ์หรือ”หยวนชิงหลิงยิ้มขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าเจ้าห้าจะมีด้านที่มีความรู้สึกเช่นนี้ด้วย แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรมีเพียงมารดาที่เกรงว่าลูกสาวจะแต่งงานออกเรือนไปอยู่แดนไกล ไหนเลยจะเคยเห็นพี่ชายที่กลัวน้องชายตัวเองจะแต่งงานไปอยู่แดนไกล

หยู่เหวินเห้านั้นรู้สึกอาลัยอาวรณ์อยู่บ้างจริงๆ ตอนนี้แม้ว่าจะส่งตัวน้องเก้าไปอยู่ที่หนานเจียง แต่รอให้เรื่องราวของหนานเจียงเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ยังคงต้องกลับมา

พี่น้องหลายคน พี่สามนั้นน่าจะไม่กลับมาปักหลักอยู่ในเมืองหลวง พี่สี่ก็ต้องจากไป ยังคงหวังว่าน้องเก้าจะสามารถอยู่ในเมืองหลวงเป็นเพื่อนเขา

เพียงแต่ตอนที่เอนร่างนอนลง เขาเองก็พลิกตัวไปมา แล้วก็เขย่าตัวหยวนชิงหลิงจนตื่น “ที่จริงน้องเก้ากับหมันเอ๋อสามารถแต่งงานกันได้ก็เป็นเรื่องไม่เลว ถ้าเป็นเช่นนี้ น้องเก้าก็สามารถทำงานด้านการปกครองในหนานเจียงได้อย่างมีเหตุผลน่าเชื่อถือ หลังจากผ่านไปอีกประมาณสิบปี พื้นฐานของหนานเจียงก็คงจะมั่นคงแล้ว เขาเองก็สามารถทำประโยชน์ด้านการสร้างพันธมิตรทางด้านการเมืองได้สำเร็จ”

หยวนชิงหลิงสะลึมสะลือ “นอนเถอะ นี่เป็นเพียงการคาดเดาของพวกเรา ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องจริง”

หยู่เหวินเห้าใช้สองมือสอดไว้ที่ท้ายทอยแทนหมอน “เมื่อคิดดูอย่างละเอียดแล้ว ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ในเมื่อเป็นเรื่องไม่แน่นอน ถ้าเช่นนั้นก็จับคู่เสียหน่อย”

หยวนชิงหลิงหัวเราะออกมา ลืมตามองเขา “ทำไมท่านจึงได้น่ารักเช่นนี้ ก่อนนอนยังพูดจาคัดค้านต่างๆนานา ตอนนี้กลับจะช่วยจับคู่ เห็นทีเรื่องการเมืองการปกครองต่างหากจึงจะเป็นเรื่องที่ท่านเป็นห่วงอย่างแท้จริง ถ้าหากข้ามีประโยชน์ต่อการทำให้ประเทศชาติสงบสุข แม้แต่ข้าท่านก็คงจะขายไปแล้วกระมัง ”

หยู่เหวินเห้ายื่นมือออกไปกอดนางเอาไว้ “ทำเช่นนั้นไม่ได้ แม้เจ้าจะมีประโยชน์ในการรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ข้าก็ไม่ขาย ไม่มีเจ้า ใต้หล้าสงบสุขหรือรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งได้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับข้า”

เจ้าห้าสามารถย่อมพูดจาหวานหูให้รู้สึกทึ่งได้เสมอ หยวนชิงหลิงใช้ริมฝีปากค้ำที่ใต้คางของเขาเอาไว้ มองเขาด้วยตาเป็นประกาย

หยู่เหวินเห้าพลิกตัวทับไปบนร่างของนาง “ไม่ว่าอย่างไรก็นอนไม่หลับ ไม่สู้……”

หยวนชิงหลิงถอนหายใจเงียบๆ สามีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชาคนนี้ ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายเลยจริงๆ เขาอดหลับอดนอนจนรอบดวงตาดำคล้ำเป็นวงใหญ่กว่าปากแล้ว ทำไมยังคงขยันหมั่นเพียรได้เช่นนี้

วันรุ่งขึ้นในวังได้มีราชโองการมาถึง ให้เรียกตัวหมันเอ๋อเข้าวัง

เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้มีพระบัญชาแล้ว ให้หมันเอ๋อเข้าเมืองหลวงเพื่อรับการแต่งตั้ง ฉะนั้นวันนี้ส่วนมากก็เข้าวังไปรับการแต่งตั้งทั้งนั้น แม่นมสี่ได้เตรียมชุดไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว แต่งตัวให้กับหมันเอ๋ออย่างประณีต แล้วก็ใช้เครื่องประดับของหยวนชิงหลิงตกแต่งให้นาง เมื่อแต่งตัวออกมาแล้ว แทบจะเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน แม้แต่อะซี่ยังอ้าปากค้าง “สวรรค์ หมันเอ๋อที่แท้เจ้าก็งดงามถึงเพียงนี้เชียว”

หมันเอ๋อมองตัวเองในกระจกทองแดงด้วยความเขินอาย ชุดผ้าไหมสีแดงเข้มปักลายเมฆทั้งตัว ชายเสื้อด้านหน้าที่ทาบทับกลางอกปักด้วยดิ้นเงิน มีดิ้นสีทองที่แซมอยู่ปรากฏเป็นคลื่น บนเสื้อยังปักลายดอกเสาเย่าดอกใหญ่ๆหลายดอก บริเวณขอบของแขนเสื้อก็มีการปักดิ้นเงิน ยังมีการปักรูปไผ่เขียวอีกหลายจุด ฝีมือการปักประณีตงดงาม ดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือของแม่นมฉี

แล้วมองไปที่ดวงหน้า มีการแต่งแต้มด้วยแป้งบางเบา คิ้วเรียวเป็นทรงดวงตาราวกับเมล็ดซิ่ง ริมฝีปากถูกทาไว้ด้วยสีทาปาก แวววาวเป็นประกาย ไม่เหมือนตัวเองในวันวานจริงๆ ลูบที่ใบหน้าของตัวเอง นางพึมพำถามขึ้นว่า “นี่คือข้าจริงๆหรือ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บัลลังก์หมอยาเซียน 1049 เข้าวังรับการแต่งตั้ง

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 1049 เข้าวังรับการแต่งตั้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หมันเอ๋อยังเดินไปไม่ถึงโถงรับรอง พวกเด็กๆก็วิ่งออกมาร้องตะโกนเสียงดังลั่น ในลานบ้านบรรยากาศคึกคักขึ้นมาทันที หมันเอ๋อมองภาพของพวกเด็กๆที่วิ่งมากันอย่างลิงโลด มองดูรอยยิ้มชอบใจที่อยู่บนใบหน้าพวกเขา ก็รู้สึกจมูกตื้อตันขึ้นมา ดีจริงๆ ดีจริงๆ กลับมาที่นี่ช่างดีจริงๆ อยู่หนานเจียง คิดถึงทุกวัน ความทรงจำทุกอย่างในจวนอ๋องฉู่ได้ซึมเข้าสู่ดวงวิญญาณแล้ว จะให้ตัดใจอย่างไร

หมันเอ๋อกอดพวกเด็กๆอยู่ชั่วครู่ ก็เข้าไปคำนับหยวนชิงหลิง นางอยากจะคุกเข่าลง หยวนชิงหลิงดึงนางเอาไว้ “พอแล้ว เจ้าเข้าเมืองหลวงในครั้งนี้ ด้วยฐานะของอ๋องหนานเจียง ไม่ใช่สาวรับใช้ในจวนอ๋องฉู่ของข้าอีกต่อไปแล้ว”

หมันเอ๋อจมูกตื้อขึ้นมา น้ำตาเอ่อล้นขอบตา พูดด้วยเสียงสะอื้นว่า “อยู่ในจวนอ๋องฉู่ไม่มีอ๋องหนานเจียง ข้าน้อยเป็นหมันเอ๋อของท่านตลอดไป”

หยวนชิงหลิงซาบซึ้งใจมาก กุมมือของนางเอาไว้ “หมันเอ๋อคนดี ลำบากมาตลอดทางใช่หรือไม่ เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วค่อยออกมากินข้าว แม่นมฉีของเจ้าเข้าครัวลงมือทำเอง ทำของที่เจ้าชอบกิน ”

หมันเอ๋อเช็ดที่หางตา เอ่ยอย่างดีใจว่า “ได้ ข้าน้อยจะไปคำนับแม่นม ใช่แล้ว ท่านอ๋องให้ข้าน้อยบอกคำหนึ่ง เขากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่จวนค่อยมาที่นี่ เขาจะมาขอกินข้าวที่จวนอ๋องฉู่ ”

หยวนชิงหลิงยิ้ม “ได้”

หมันเอ๋อจึงย่อตัวคำนับออกไป อะซี่รองนางอยู่ข้างนอก ทั้งสองคนจูงมือเดินไปด้วยกัน ฉี่หลอกับลู่หยาต่างก็ห้อมล้อมเข้ามา สาวๆทั้งหลายต่างก็พูดคุยกันไม่หยุด หยวนชิงหลิงยืนอยู่ด้านล่างระเบียงทางเดิน มองดูลูกๆที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่ ในที่สุดจวนอ๋องฉู่ก็มีบรรยากาศดังเช่นวันวานแล้ว

เจ้าห้านั้นเข้ามาพร้อมกันกับอ๋องชุน พบกันที่หน้าประตู เดินเข้ามาด้วยกัน อ๋องชุนก็อดรนทนรอไม่ไหวที่จะรายงานสถานการณ์ของหนานเจียง เล่าได้อย่างตื่นเต้นมาก สีหน้าของหยู่เหวินเห้านั้นชื่นชม รู้สึกน้องเก้าก็มีอนาคตแล้ว

ระหว่างกินข้าว อ๋องชุนก็ยังคงพูดอยู่ตลอด แม้แต่ข้าวก็ไม่มีเวลาสนใจจะกิน หยวนชิงหลิงจึงเอ่ยขึ้นว่า “เจ้ากินข้าวก่อน กินข้าวแล้วค่อยคุยกับพี่ห้าของเจ้าช้าๆ”

“ไม่ได้”อ๋องชุนคุ้ยข้าวเข้าปากอย่างรวดเร็ว “ประเดี๋ยวข้ายังต้องเข้าวัง ถ้าหากเสียเวลา ประตูวังปิดแล้วก็คงต้องไปพรุ่งนี้แล้ว”

“ทำไม เสด็จพ่อเรียกตัวเจ้าเข้าพบหรือ”หยู่เหวินเห้าถาม

“ไม่ใช่ ”อ๋องชุนยิ้มเด๋อด๋า มุมปากยังมีเมล็ดข้าวติดอยู่ “พี่แปดรอข้าอยู่ ข้าได้ส่งจดหมายให้เขาจากหนานเจียง บอกว่าให้รอข้ากลับมา จะเข้าไปพบเข้าในวังก่อน ข้าเกรงว่าเขาจะรอจนร้อนใจ คืนนี้ข้าจะอยู่ในวังเป็นเพื่อนพี่แปด”

หยู่เหวินเห้ากับหยวนชิงหลิงสบตากันแวบหนึ่ง ต่างก็ยิ้มบางๆขึ้นมา ความรักระหว่างพี่น้องของน้องแปดกับน้องเก้าช่างน่าซาบซึ้งใจนัก

กินข้าวเสร็จแล้ว สถานการณ์คร่าวๆก็พูดหมดแล้ว อ๋องชุนก็จากไปอย่างรวดเร็ว

หยวนชิงหลิงก็พูดคุยกับหมันเอ๋อเป็นเวลานานมาก หมันเอ๋อบอกว่าได้ยอมรับท่านแม่แล้ว ครั้งนี้มารดาของนางอยู่ที่หนานเจียง ไม่ตามพวกเขากลับมาด้วย

“ล้วนพึ่งแผนการของท่านแม่ทั้งสิ้น เกลี้ยกล่อมคนได้ส่วนหนึ่ง คนเหล่านั้นแต่เดิมเคยเป็นลูกน้องเก่าแก่ของท่านพ่อ แต่ว่าตอนแรกนั้นไม่เชื่อพวกข้า โดยเฉพาะท่านแม่ที่เป็นสาวหมอผีแห่งเจียงเป่ย แต่ที่สุดท่านแม่ก็พูดเกลี้ยกล่อมพวกเขาจนได้ ”

หยวนชิงหลิงชื่นชมแม่นมฉินมาก ที่จริงแม่นมฉินเป็นคนที่มีความกล้าหาญมาก และในใจก็มีความคิดที่แน่วแน่ ถ้าหากนางสามารถขจัดความหวาดกลัวที่มีต่อเจียงเป่ยได้ ลุกขึ้นมาช่วยอ๋องหนานเจียงล้างแค้น เช่นนั้นอำนาจหนานเจียงสายนี้สำหรับเจ้าห้าแล้ว เป็นเหมือนดังเสือติดปีก

หมันเอ๋อแลบลิ้นออกมา “ที่จริงข้าอยู่ที่หนานเจียงก็ช่วยงานอะไรไม่ได้เลย ล้วนเป็นท่านแม่กับคนที่รัชทายาทส่งไปเป็นคนทำ ทุกวันจะมีคนมารายงานข้า น่าเบื่อมาก ยังมีอ๋องชุน อ๋องชุนตอนนี้อยู่ที่หนานเจียงเขามีคนคอยสนับสนุนเยอะมาก ”

ตอนที่หมันเอ๋อเอ่ยถึงอ๋องชุน สีหน้าแดงขึ้นเล็กมาเล็กน้อย

หยวนชิงหลิงสังเกตเห็นแล้ว มองนางอย่างประหลาดใจ เป็นไปได้ว่า หมันเอ๋อมีใจให้กับน้องเก้าแล้ว แม้จะมีใจจริงๆก็ไม่น่าแปลก เพราะว่าตอนที่อยู่จวนอ๋องฉู่แล้วนางกระโดดลงไปในทะเลสาบ เป็นน้องเก้าที่ช่วยชีวิตนางขึ้นมา และนับว่าเป็นผู้มีพระคุณด้วย

และหยวนชิงหลิงรู้สึกว่า ถ้าหากเรื่องนี้เป็นจริง น้องเก้ากับหมันเอ๋อแต่งงานกันละก็ ยิ่งมีประโยชน์ต่อการทำให้สถานการณ์มั่นคงมากขึ้น

คืนนั้นนางกลับไปคุยกับหยู่เหวินเห้า หลังจากหยู่เหวินเห้าได้ยินแล้ว ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “น้องเก้าอายุยังเด็ก ไม่รีบร้อนแต่งงาน”

“เด็กที่ไหน ยี่สิบกว่าแล้ว”

“ค่อยคุยเรื่องแต่งงานตอนอายุยี่สิบสามยี่สิบสี่ก็ยังไม่สาย ”หยู่เหวินเห้าขยี้ตา ช่วงนี้อยู่ดึกบ่อยมาก ขอบตาคล้ำหมดแล้ว “อีกอย่าง ข้าได้ยินท่านพี่บอกว่าที่ที่พวกเจ้าอยู่นั้นน้อยมากที่จะแต่งงานตอนอายุยี่สิบปี ท่านพี่อายุมากขนาดนี้แล้วยังไม่แต่งงานเลย”

“ยุคสมัยไม่เหมือนกัน ท่านไม่ชอบหมันเอ๋อหรือ”หยวนชิงหลิงถาม

หยู่เหวินเห้าเบือนหน้าไป “ไม่ใช่ เพียงแค่รู้สึกว่าถ้าแต่งงานกับหมันเอ๋อจริงๆ ก็ต้องอยู่กับหมันเอ๋อที่หนานเจียง ปีหนึ่งจะกลับครั้งหนึ่งยังไม่ได้”

“อาลัยอาวรณ์หรือ”หยวนชิงหลิงยิ้มขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าเจ้าห้าจะมีด้านที่มีความรู้สึกเช่นนี้ด้วย แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรมีเพียงมารดาที่เกรงว่าลูกสาวจะแต่งงานออกเรือนไปอยู่แดนไกล ไหนเลยจะเคยเห็นพี่ชายที่กลัวน้องชายตัวเองจะแต่งงานไปอยู่แดนไกล

หยู่เหวินเห้านั้นรู้สึกอาลัยอาวรณ์อยู่บ้างจริงๆ ตอนนี้แม้ว่าจะส่งตัวน้องเก้าไปอยู่ที่หนานเจียง แต่รอให้เรื่องราวของหนานเจียงเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ยังคงต้องกลับมา

พี่น้องหลายคน พี่สามนั้นน่าจะไม่กลับมาปักหลักอยู่ในเมืองหลวง พี่สี่ก็ต้องจากไป ยังคงหวังว่าน้องเก้าจะสามารถอยู่ในเมืองหลวงเป็นเพื่อนเขา

เพียงแต่ตอนที่เอนร่างนอนลง เขาเองก็พลิกตัวไปมา แล้วก็เขย่าตัวหยวนชิงหลิงจนตื่น “ที่จริงน้องเก้ากับหมันเอ๋อสามารถแต่งงานกันได้ก็เป็นเรื่องไม่เลว ถ้าเป็นเช่นนี้ น้องเก้าก็สามารถทำงานด้านการปกครองในหนานเจียงได้อย่างมีเหตุผลน่าเชื่อถือ หลังจากผ่านไปอีกประมาณสิบปี พื้นฐานของหนานเจียงก็คงจะมั่นคงแล้ว เขาเองก็สามารถทำประโยชน์ด้านการสร้างพันธมิตรทางด้านการเมืองได้สำเร็จ”

หยวนชิงหลิงสะลึมสะลือ “นอนเถอะ นี่เป็นเพียงการคาดเดาของพวกเรา ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องจริง”

หยู่เหวินเห้าใช้สองมือสอดไว้ที่ท้ายทอยแทนหมอน “เมื่อคิดดูอย่างละเอียดแล้ว ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ในเมื่อเป็นเรื่องไม่แน่นอน ถ้าเช่นนั้นก็จับคู่เสียหน่อย”

หยวนชิงหลิงหัวเราะออกมา ลืมตามองเขา “ทำไมท่านจึงได้น่ารักเช่นนี้ ก่อนนอนยังพูดจาคัดค้านต่างๆนานา ตอนนี้กลับจะช่วยจับคู่ เห็นทีเรื่องการเมืองการปกครองต่างหากจึงจะเป็นเรื่องที่ท่านเป็นห่วงอย่างแท้จริง ถ้าหากข้ามีประโยชน์ต่อการทำให้ประเทศชาติสงบสุข แม้แต่ข้าท่านก็คงจะขายไปแล้วกระมัง ”

หยู่เหวินเห้ายื่นมือออกไปกอดนางเอาไว้ “ทำเช่นนั้นไม่ได้ แม้เจ้าจะมีประโยชน์ในการรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ข้าก็ไม่ขาย ไม่มีเจ้า ใต้หล้าสงบสุขหรือรวมใต้หล้าเป็นหนึ่งได้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับข้า”

เจ้าห้าสามารถย่อมพูดจาหวานหูให้รู้สึกทึ่งได้เสมอ หยวนชิงหลิงใช้ริมฝีปากค้ำที่ใต้คางของเขาเอาไว้ มองเขาด้วยตาเป็นประกาย

หยู่เหวินเห้าพลิกตัวทับไปบนร่างของนาง “ไม่ว่าอย่างไรก็นอนไม่หลับ ไม่สู้……”

หยวนชิงหลิงถอนหายใจเงียบๆ สามีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชาคนนี้ ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายเลยจริงๆ เขาอดหลับอดนอนจนรอบดวงตาดำคล้ำเป็นวงใหญ่กว่าปากแล้ว ทำไมยังคงขยันหมั่นเพียรได้เช่นนี้

วันรุ่งขึ้นในวังได้มีราชโองการมาถึง ให้เรียกตัวหมันเอ๋อเข้าวัง

เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้มีพระบัญชาแล้ว ให้หมันเอ๋อเข้าเมืองหลวงเพื่อรับการแต่งตั้ง ฉะนั้นวันนี้ส่วนมากก็เข้าวังไปรับการแต่งตั้งทั้งนั้น แม่นมสี่ได้เตรียมชุดไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว แต่งตัวให้กับหมันเอ๋ออย่างประณีต แล้วก็ใช้เครื่องประดับของหยวนชิงหลิงตกแต่งให้นาง เมื่อแต่งตัวออกมาแล้ว แทบจะเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน แม้แต่อะซี่ยังอ้าปากค้าง “สวรรค์ หมันเอ๋อที่แท้เจ้าก็งดงามถึงเพียงนี้เชียว”

หมันเอ๋อมองตัวเองในกระจกทองแดงด้วยความเขินอาย ชุดผ้าไหมสีแดงเข้มปักลายเมฆทั้งตัว ชายเสื้อด้านหน้าที่ทาบทับกลางอกปักด้วยดิ้นเงิน มีดิ้นสีทองที่แซมอยู่ปรากฏเป็นคลื่น บนเสื้อยังปักลายดอกเสาเย่าดอกใหญ่ๆหลายดอก บริเวณขอบของแขนเสื้อก็มีการปักดิ้นเงิน ยังมีการปักรูปไผ่เขียวอีกหลายจุด ฝีมือการปักประณีตงดงาม ดูก็รู้ว่าเป็นฝีมือของแม่นมฉี

แล้วมองไปที่ดวงหน้า มีการแต่งแต้มด้วยแป้งบางเบา คิ้วเรียวเป็นทรงดวงตาราวกับเมล็ดซิ่ง ริมฝีปากถูกทาไว้ด้วยสีทาปาก แวววาวเป็นประกาย ไม่เหมือนตัวเองในวันวานจริงๆ ลูบที่ใบหน้าของตัวเอง นางพึมพำถามขึ้นว่า “นี่คือข้าจริงๆหรือ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+