บัลลังก์หมอยาเซียน 230 อาการบาดเจ็บอันตราย

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 230 อาการบาดเจ็บอันตราย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

แม่นมสี่เอ่ยอย่างปลอบใจว่า “องค์ชายแปดต้องไม่เป็นอะไรเพคะ ท่านอย่าคิดมากเลย รีบนอนเถอะ”

หยวนชิงหลิงได้แต่นอนลงอีก ไม่เช่นนั้นแม่นมคงต้องคอยบ่นอยู่อย่างนี้

ความคิดวุ่นวาย คิดอยู่นาน นางค่อยๆหลับไป

เพียงแต่ เพิ่งจะนอนหลับได้ไม่เท่าไหร่ ก็ได้ยินแม่นมสี่เรียกนาง “พระชายา รีบลุกขึ้นเถอะเพคะ ในวังมีคนมา ”

หยวนชิงหลิงลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ ได้ยินว่าในวังส่งคนมา ตกใจจนรีบลุกขึ้นนั่ง คว้ามือของแม่นมสี่เอาไว้

“ใช่องค์ชายแปด ……”

แม่นมสี่ปิดปากของนางเอาไว้ พูดเบาๆว่า “ชู่ อย่าพูดเรื่อยเปื่อยเพคะ เป็นมู่หรงกงกงที่มา บอกว่าฮ่องเต้เรียกท่านเข้าวังเดี๋ยวนี้”

หยวนชิงหลิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “น่าจะเป็นเรื่องอาการขององค์ชายแปดไม่ดีขึ้น”นางลุกขึ้น แม่นมสี่กับลู่หยาช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้า หวีผมจัดทรงธรรมดา อากาศค่อนข้างหนาว ฉะนั้น แม่นมสี่จึงเอาเสื้อคลุมหนึ่งตัวออกมาจากตู้เพื่อคลุมให้หยวนชิงหลิง แล้วก็เดินออกไป

มู่หรงกงกงกำลังรออยู่ข้างนอกอย่างร้อนใจ เห็นหยวนชิงหลิงออกมา ก็รีบพูดว่า “พระชายา ฮ่องเต้มีรับสั่งให้ท่านเข้าวังทันที ”

หยวนชิงหลิงถามว่า “อาการขององค์ชายแปดไม่ดีขึ้นใช่หรือไม่ ”

มู่หรงกงกงพยักหน้าอย่างหนัก “ใช่พ่ะย่ะค่ะ ”

หยวนชิงหลิงก็ไม่เสียเวลาอีก พูดว่า “ไปกันเถอะ”

เมื่อคืนนางเคยดูกล่องยาแล้ว แต่ตนเองไม่มียา ในกล่องยานอกจากยาบำรุงครรภ์ก็จะมียาจำพวกไข้หวัดหรือไม่ก็ยารักษาบาดแผลภายนอกเล็กน้อยเท่านั้น มียาปฏิชีวนะไม่กี่เม็ด แต่ว่า สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส นี่แทบจะไม่ได้ผลอะไรเลย

ฟ้ายังไม่สว่าง ท้องฟ้ายังคงปกคลุมไปด้วยความสลัว ตรงขอบฟ้ามีแสงสีขาวปรากฏขึ้นจางๆ ทั้งเมืองหลวง เงียบสงัดจนน่ากลัว

แม่นมไปกับนางด้วย พูดเสียงเบาๆว่า “พระชายา ถ้าไม่มั่นใจ อย่าได้ลงมือช่วยรักษาเด็ดขาด หากเกิดอะไรขึ้นมา ฮองเฮาคงต้องผลักภาระทั้งหมดมาให้ท่านรับผิดชอบ”

หยวนชิงหลิงพยักหน้าทื่อๆ “ข้ารู้ ”

ในใจนางรู้สึกวุ่นวายชอบกล

ที่จิตใจวุ่นวาย ก็เพราะไม่สามารถมองเบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดได้ชัดเจน

ที่จริงนางรู้สึกว่า เรื่องนี้นั้นพุ่งตรงมาหาเจ้าห้า

เข้าสู่เขตวัง มู่หรงกงกงพานางกับแม่นมสี่ไปที่ตำหนักชิงหัว ที่นี่คือด้านข้างของตำหนักบรรทมของฮองเฮา สร้างขึ้นโดดเดี่ยว เรียกว่า ตำหนักชิงหัว ใช้สำหรับให้องค์ชายแปดพำนัก

ตามมู่หรงกงกงเข้าไป ก็เห็นว่าฮ่องเต้หมิงหยวนกับฮองเฮาก็อยู่ด้านใน กุ้ยเฟย เต๋อเฟยเสียนเฟยก็อยู่พร้อมหน้า

อ๋องฉีและฉู่หมิงชุ่ยก็อยู่ แต่ว่าทั้งสองแบ่งกันนั่งอยู่สองฝั่ง

หยวนชิงหลิงเข้าไปคำนับ ฮ่องเต้หมิงหยวนมองนาง พูดเสียงขรึมว่า “ไม่ต้องมากพิธี เจ้าเข้าไปดูเจ้าแปดเถอะ ”

หยวนชิงหลิงพยักหน้า “เพคะ”

“พระชายาฉู่ ”ฮองเฮาเรียกนางเอาไว้

หยวนชิงหลิงหันไปมอง “เพคะ เสด็จแม่ ”

“เจ้ามีทางช่วยเขาใช่หรือไม่ ”ฮองเฮาจ้องมองนาง มีแสงสว่างวาบผ่านสายตานาง แสงนั้นคล้ายแววระแวง

หยวนชิงหลิงเอ่ยเบาๆว่า “ทุกอย่างต้องดูแล้วจึงรู้เพคะ”

ฮองเฮาลุกขึ้นอย่างกะทันหัน “ตอนนั้นอ๋องฉู่ถือว่าได้ตายไปแล้ว เจ้ายังสามารถช่วยกลับมาได้ ถ้าวันนี้เจ้าช่วยเจ้าแปดไม่ได้ ก็ถือว่าเจ้าเห็นคนจะตายแต่ไม่ช่วย”

ยังไม่ทันได้เข้าไป ก็ได้รับคำกล่าวโทษแล้ว หยวนชิงหลิงพูดว่า “เสด็จแม่ ตอนนี้ข้าไม่รู้ว่าองค์ชายแปดมีอาการเช่นไร รอให้หม่อมฉันไปดูก่อนค่อยว่ากันได้หรือไม่ ”

ฮ่องเต้หมิงหยวนก็เอ่ยเสียงเรียบว่า “ฮองเฮา อย่าใจร้อน ให้นางเข้าไปดูก่อน ”

อ๋องฉีก็ลุกขึ้นมา “ข้าจะเข้าไปกับพี่สะใภ้ห้าด้วย ”

ตำหนักบรรทมกับตำหนักด้านนอกกั้นไว้เพียงกำแพงเดียวเท่านั้น ตำหนักชิงหัวนั้นได้แบ่งสัดส่วนออกมาจากตำหนักบรรทมของฮองเฮา ฉะนั้นจึงไม่ใหญ่นัก

หมอหลวงเฝ้าอยู่ด้านใน บนเตียงมีหนุ่มน้อยที่ไร้สีเลือดนอนอยู่คนหนึ่ง หน้าตาเหมือนกับอ๋องฉีมาก ขนตายาวมาก นอนอยู่ตรงนั้นราวกับไร้ชีวิต

บนพื้นมีกะละมังใบหนึ่งวางอยู่ น้ำในกะละมังถูกย้อมเป็นสีแดง ด้วยเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้น ทำให้น้ำกระเพื่อมไปมา ราวกับคลื่นเลือดนั้นกำลังซัดไปมาไม่หยุด

หนุ่มน้อยคนนั้น ใบหน้าสะอาดสะอ้าน หากไม่เป็นเพราะสีหน้าขาวซีดกับลมหายใจที่แผ่วเบา คงทำให้รู้สึกราวกับว่าแค่นอนหลับไป

ที่ข้างมุมปากของเขามีร่องรอยของเลือดที่ถูกเช็ดออกไป น่าจะเป็นการกระอักเลือด

หมอหลวงเฉาเอ่ยเบาๆว่า “พระชายา องค์ชายแปดถูกคนทำให้ตกใจจนชีพจรหัวใจสลาย จากนั้นก็ใช้ดาบแทงที่หัวใจ แม้จะกินยาจื่อจินแล้ว แต่ว่า อาการก็ยังแย่มาก การหายใจยิ่งอยู่ก็ยิ่งช้าลง ”

มีหมอหลวงหลายคน ต่างก็มารออยู่ที่นี่อย่างอับจนหนทาง เห็นได้ชัดว่าได้ถอดใจไปแล้ว ฮ่องเต้กับฮองเฮาอยู่ด้านนอก เกรงว่าจะหมดลมหายใจ นั่นเท่ากับคนหัวขาวส่งคนหัวดำ(โดยปกติหมายถึงลูกๆ ตายก่อนพ่อแม่)

หยวนชิงหลิงพยักหน้ารับเงียบๆ เดินเข้าไป

ตอนที่อยู่บนรถม้า ได้แอบเอากล่องยาออกมาวางไว้ที่พื้นแล้ว ตอนที่ลงมาก็เอากล่องยาเข้ามาด้วย

ตอนนี้ นางเปิดกล่องยาออก ปรากฏว่ามียาเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่มาก มียาห้ามเลือดกับยากระตุ้นหัวใจ

นางเอาเครื่องฟังเสียงหัวใจออกมา ฟังการเต้นของหัวใจ ด้านในมีเลือดออก บาดเจ็บภายใน ทำให้เกิดเลือดคั่ง นางทำการสูบน้ำออก การหายใจขององค์ชายแปดก็ค่อยๆนิ่งขึ้นมาบ้าง

แต่ว่า อาการยังคงแย่มาก เขานอกจากจะได้รับบาดเจ็บภายนอกยังได้รับบาดเจ็บภายในจนเลือดออก ฉะนั้นสถานการณ์ตอนนี้ที่เป็นปัญหาก็คือเขาเสียเลือดไปมาก ต้องทำการเติมเลือดทันที

แต่ว่าการเติมเลือดจะสามารถทำให้อาการทรงตัวหรือไม่ ก็ไม่รู้ เพราะนางไม่มีทางที่จะรู้ว่าอาการเลือดออกของเขาได้หยุดลงหรือยัง

นางเดินออกไป บอกกับฮ่องเต้หมิงหยวนว่าต้องเติมเลือด

เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ฉะนั้นอ๋องฉีก็เข้าใจ

หยวนชิงหลิงหยิบเอากระดาษทดสอบกรุปเลือดออกมา ของอ๋องฉีนั้นใช้ไม่ได้ อ๋องสี่หยู่เหวินเว่ยที่อยู่ด้วยก็ได้ทำการทดลอง แต่ก็ไม่เข้ากัน

อ๋องจี้ อ๋องซุน ก็ถูกเรียกเข้ามา หลังจากทดลองแล้ว หยวนชิงหลิงยังคงส่ายหน้า

ฮองเฮาหมดความอดทน “ทำไมเจ้าจึงเอาแต่ส่ายหน้า นี่เจ้าจงใจหาเรื่องใช่หรือไม่ พวกเขาเป็นพี่น้องกัน ทำไมจะเข้ากันไม่ได้ เลือดของพวกเขาหากหยดรวมกัน ต้องรวมเข้ากันได้แน่ ”

หยวนชิงหลิงไร้หนทางที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ ได้แต่พูดว่า “เสด็จแม่ ไม่ใช่ข้าหาเรื่อง ถ้าเลือดเข้ากันไม่ได้ เติมเลือดเข้าไปแล้วกลับจะเป็นการทำร้ายองค์ชายแปด”

“เจ้าห้าล่ะ”ฮ่องเต้หมิงหยวนถาม

มู่หรงกงกงตอบว่า “ท่านอ๋องยังคงทำการสอบสวนอยู่ในวัง ข้าน้อยจะไปเชิญมา ”

หยวนชิงหลิงเดิมอยากจะบอกว่าไม่ต้องแล้ว หยู่เหวินเห้านั้นเลือดกรุปเอ องค์ชายแปดนั้นเลือดกรุปบี แต่ว่า ถ้าหากไม่ผ่านการตรวจ ฮองเฮาก็ต้องว่านางอีกเป็นแน่

หยู่เหวินเห้าถูกเรียกตัวกะทันหัน มองเห็นหยวนชิงหลิงก็อยู่ที่นี่ เขานิ่งอึ้งไป แววตาซับซ้อน

เขาไม่อยากให้หยวนชิงหลิงมาที่นี่

หยวนชิงหลิงเจาะเลือดที่ปลายนิ้วของเขา หยดลงบนกระดาษทดลอง

หยู่เหวินเห้าเอ่ยเสียงเบาว่า “หากรู้สึกไม่สบาย เจ้าต้องพักผ่อนนะ”

“ข้ารู้แล้ว”หยวนชิงหลิงตอบเสียงเบาเช่นกัน

ยกกระดาษทดลองขึ้น หยวนชิงหลิงยังคงส่ายหน้า “ไม่เหมาะสม ”

ฮองเฮาแทบคลั่งแล้ว มีคนคนหนึ่งค่อยๆเดินเข้ามา ก้มหน้าพูดเสียงเบาว่า “พี่สะใภ้ห้า แล้วข้าล่ะ”

หยวนชิงหลิงมองเขา รู้สึกอึ้งอยู่บ้าง เขาเรียกนางว่าพี่สะใภ้ห้า แต่นางไม่เคยพบเขามาก่อน

หยวนชิงหลิงมองไปทางหยู่เหวินเห้าทันที หยู่เหวินเห้าพูดว่า “น้องเก้า เจ้าเข้ามาสิ ”

องค์ชายเก้า?

หยวนชิงหลิงนึกขึ้นมาได้ทันที

องค์ชายเก้าหยู่เหวินเทียน ปีนี้น่าจะอายุสิบหกสิบเจ็ดแล้ว มารดาผู้ให้กำเนิดคือหลอกุ้ยผิน เคยเป็นที่รักและเอ็นดูของฮ่องเต้ เคยคิดร้ายต่อฮองเฮาจึงถูกลงโทษประหาร

นางให้กำเนิดหนึ่งชายหนึ่งหญิง และเพราะความผิดของนางทำให้ลูกทั้งสองไม่มีโอกาสได้ออกหน้าเลย

ฮองเฮามองเขาด้วยสายตาเย็นชา “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ออกไป”

ฮองเฮาเกลียดชังหลอกุ้ยผิน เกลียดองค์ชายเก้า เกลียดองค์หญิงสิบเจ็ด ทุกคนต่างก็รู้ดี แม้แต่ฮ่องเต้เองก็รู้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด