บัลลังก์หมอยาเซียน 766 ค่อยๆฉีกออกเป็นช่องหนึ่ง

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 766 ค่อยๆฉีกออกเป็นช่องหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นั่งอยู่สักพักใหญ่ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะดังขึ้น ห้าทุ่มแล้ว

คืนนี้ชั่งยืดยาวจังเลยนะ!

หยู่เหวินเห้ากลับมาแล้ว เข้ามาพร้อมกับทังหยาง ทังหยางจัดการให้คนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องออกไป แล้วปิดประตู

หยู่เหวินเห้าก็ใช้แก้วของหยวนชิงหลิงดื่มชาร้อนไปทั้งแก้ว ถอดเสื้อคลุมแล้วนั่งลง มองดูพระชายาจี้ “ท่านพี่สะใภ้ใหญ่ ในนี้ไม่มีคนอื่น เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ท่านบอกมา”

พระชายาจี้มองดูหยู่เหวินเห้า กล่าวถามด้วยเสียงแหบพร่า: “ท่านบอกข้าก่อน แผนที่ทางการทหารนั่นค้นออกมาได้จากในห้องลับของเขา จะถูกตัดสินชี้ขาดว่าเป็นการก่อกบฏหรือไม่?”

หยู่เหวินเห้าถอนหายใจ กล่าว: “พร้อมกับวิชามนต์ดำ ทั้งสองอย่างทูลถวายให้เสด็จพ่อ ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะ?”

สีหน้าของพระชายาจี้ซีดขาว “ข้า…..ข้าไม่รู้ว่าทำไมแผนที่ทางการทหารนั่นถึงอยู่ด้านใน”

นางก็ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง เงยหน้ามองหยู่เหวินเห้าแล้วกล่าว: “ท่านก็น่าจะเดาออกคร่าวๆแล้ว คืนนี้จวนอ๋องจี้ไม่ได้มีการถูกขโมยของ เป็นข้าที่บอกให้คนทำ จุดประสงค์ก็คือล่อพวกท่านมาดูสิ่งของด้านในห้องลับนั่น เหล่านี้ก็ไม่ใช่ข้าที่ใส่ร้ายป้ายสี เป็นเขาทำเอง ข้ารู้เรื่องสิ่งของด้านในมาระยะหนึ่งแล้ว แต่วิธีการเช่นนี้ข้าไม่ได้เห็นค่าโดยสิ้นเชิง จึงไม่ได้สนใจ หลังจากนั้นเขาจะคิดหมายปองเมิ่งเยว่ ข้าจึงจำเป็นต้องเปิดโปงเขา จุดประสงค์ของข้าเพียงแค่ต้องการให้เขาถูกลงโทษเท่านั้น”

นางหมุนขยับแก้วน้ำในมือ กล่าวต่อ: “ตอนนั้นข้าพาเมิ่งเยว่มาหาพระชายารัชทายาท ต้องการให้นางไหว้พระชายารัชทายาทเป็นอาจารย์ ป้องกันก็คือมีวันหนึ่งที่ข้าอดไม่ได้ต้องการทำเช่นนี้ ข้าและเขาสามีภรรยาเป็นคนคนเดียวกัน เขาถูกลงโทษ ข้าก็จะถูกลดขั้นเป็นประชาชน ดังนั้นจึงได้ไตร่ตรองจัดการเมิ่งเยว่ให้ดีก่อน สำหรับเมิ่งซิง ข้าก็ได้ฝากฝังกับพี่ชายที่ครอบครัวของตัวเองล่วงหน้าแล้ว ไม่สามารถเอาพวกเขาทั้งสองฝากฝังให้พวกท่านดูแลทั้งหมดได้……จัดการอุบัติเหตุการถูกขโมยครั้งนี้ ข้าก็ได้ครุ่นคิดทบทวนแล้ว เสด็จพ่อจะลงโทษเขาอย่างเฉียบขาด แม้ว่าจะลงโทษเขา ก็จะไม่พัวพันถึงข้าและจวิ้นจู่มากนัก ใครจะรู้ ด้านในห้องลับนั่น จะมีแผนที่ทางการทหารที่ถูกขโมยของกรมการทหารอย่างคาดไม่ถึง ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ หากว่าพิจารณาด้วยโทษของการก่อกบฏจริงๆ กลัวเพียงแค่ทั้งบ้าน……”

เสียงของพระชายาจี้ค่อยๆลดต่ำลง เช่นนั้นผลลัพธ์นางก็สามารถเดาได้

หยวนชิงหลิงได้ฟังนางพูดเช่นนี้ ตกใจเป็นที่สุด “แผนที่ทางการทหารเป็นอ๋องจี้ขโมยหรือ? เขา……ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกเขา เพียงแค่รู้สึกว่าเขาไม่สามารถวางแผนการใหญ่เช่นนี้ได้ ขโมยแผนที่ทางการทหารไปก่อน แล้วค่อยหยิบเอาป้ายเหล็กของเสด็จพ่อไป ต่อจากนั้นก็วางแผนทำให้เจ้าเจ็ดเกือบจะตกเข้าไปในหลุมพรางลึก เขาไม่สามารถทำได้”

หยู่เหวินเห้ากล่าว: “ดูแล้วเขาไม่ได้รู้เรื่อง ยังคิดว่าข้าใส่ร้ายป้ายสีเขาอยู่เลย”

มือสองข้างของพระชายาจี้กำที่เท้าแขนของเก้าอี้แน่น นิ้วมือกดไว้ เล็บมือล้วนขาวเป็นแผ่นใหญ่แล้ว “เช่นนั้นบุคคลเบื้องหลัง ลึกลับขนาดนี้อีกทั้งแข็งแกร่งขนาดนี้ ข้างกายข้าเกรงว่าจะมีคนที่ถูกเขาติดสินบนแล้ว คนผู้นั้นต้องการกำจัดหยู่เหวินจุนอย่างสมบูรณ์”

“กำจัดพระโอรสองค์หัวปี เอื้อประโยชน์อะไรต่อคนผู้นี้ล่ะ?” หยวนชิงหลิงมองไปทางหยู่เหวินเห้า

หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้วแน่น “เจ้าคิดดู ผู้ใดที่เห็นเขาขวางหูขวางตาต้องการจะกำจัดล่ะ? ใครเป็นผู้ได้ประโยชน์มากที่สุด? คนที่สมควรโดนสงสัยที่สุดเกรงว่าก็คือข้าหรือเจ้าเจ็ดแล้ว”

“ดังนั้น จุดประสงค์ของคนผู้นี้คือต้องการตีให้พ่ายแพ้ไปทีละขั้นหรือ?” หยวนชิงหลิงตกตะลึง

หยู่เหวินเห้าคิดไตร่ตรองอย่างละเอียดครู่หนึ่ง “ไม่แน่ว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาต้องการทำให้ความขัดแย้งภายในของพวกเราเลวร้ายขึ้น ก่อนหน้านี้เสด็จพ่อล้มป่วย พวกเราพี่น้องถึงได้ปรองดองสามัคคีกัน ตอนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น จะต้องระแวงกันและกันอีกแน่นอน อย่างน้อย มองวิเคราะห์ไปจากตอนนี้ ถ้าหากคนที่อยู่เบื้องหลังแผนการไม่ใช่พี่สี่ เช่นนั้นพี่สี่จะต้องคิดว่าข้าลงมือต่อพี่ใหญ่แน่ ในเมื่อข้าสามารถขุดรากถอนโคนพี่ใหญ่ได้ ก็จะต้องขุดรากถอนโคนเขา อย่างน้อยเขาก็จะสงสัยเช่นนี้”

ทังหยางพูดต่อ “ในทางกลับกัน ก็เช่นกัน เกรงเพียงแค่ว่ารัชทายาทก็จะสงสัยอ๋องอาน”

“การป้องกันรักษาของจวนอ๋องจี้ละเอียดรอบคอบเป็นที่สุด คนผู้นี้เอาแผนที่ทางการทหารเข้าไปวางไว้ในห้องลับอย่างไร้วี่แวว ก็ไม่ใช่คนธรรมดา” พระชายาจี้กล่าว

“ท่านมีคนที่สงสัยหรือไม่?” หยู่เหวินเห้าถาม

พระชายาจี้ส่ายศีรษะช้าๆ “ไม่มี ในเวลาอันสั้นก็คิดไม่ออกจริงๆว่าเป็นผู้ใดกันแน่ เดิมทีคนที่รู้จักห้องลับก็ไม่มาก อีกทั้งคนข้างกายของเขาโดยปกติข้าล้วนเตรียมการป้องกัน ข้าวางแผนการคืนนี้ก็จะต้องปิดบังพวกเขาอย่างแน่นอน”

ทังหยางเรียบเรียงครู่หนึ่ง กล่าวว่า: “หากคนผู้นี้ต้องการรู้การเคลื่อนไหวในคืนนี้ของท่าน อีกทั้งต้องสามารถเข้าออกห้องลับได้โดยไม่ทำให้คนสนใจ คิดว่าจะต้องเป็นคนที่มีอำนาจพอควรในจวนอ๋องจี้เป็นแน่ อย่างน้องเข้าออกห้องหนังสือกระทั่งเดินเหินข้างกายของท่านก็ล้วนไม่ได้ดึงดูดให้คนสนใจ”

พระชายาจี้คิดแล้วคิดอีก “ไม่มีคนเช่นนี้จริงๆ”

นางชะงักครู่หนึ่ง “แต่ก่อนหน้านี้ฉู่หมิงหยางมีการจัดคนมาข้างกายของข้า หลังจากถูกข้ามองออก ข้าก็ไม่ได้ไล่ไป เพียงแค่ทำแผนซ้อนแผนปล่อยให้นางอยู่ในบ้าน กิจธุระต่างๆใกล้ตัวของข้า ทั้งหมดไม่ใช่นางรับผิดชอบ เพียงแค่มีบางเวลาที่ถ่ายทอดข่าวสารปลอมให้นาง นางก็จะไปรายงานฉู่หมิงหยาง จะเป็นได้หรือไม่?”

ทังหยางไม่ได้รู้จักฉู่หมิงหยางสักเท่าไหร่ เพียงแค่คิดถึงการกระทำทุกอย่างของนาง จึงกล่าว: “กลัวเพียงแค่นางจะสมคบกับใคร อีกทั้ง คนผู้นี้บุ่มบ่ามเป็นอย่างมาก อาจจะไม่ใช่นาง”

หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ไม่ เจ้าบอกว่านางบุ่มบ่าม นั่นคือมองนางผิดไป อันที่จริงฉู่หมิงหยางมีแผนการในใจที่ชั่วร้ายมาก ที่บอกว่าบุ่มบ่ามใช้อำนาจบาตรใหญ่เป็นเพียงภายนอก หากว่าพูดเรื่องแผนการในใจ นางไม่ได้แพ้ฉู่หมิงชุ่ยแม้แต่น้อย พวกท่านสามารถถามหมันเอ๋อได้”

นึกถึงตอนนั้นที่ฉู่หมิงหยางทำเรื่องสกปรก ก็ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งฉู่หมิงหยางดูถูกฉู่หมิงชุ่ยพี่สาวผู้นี้มาจากก้นบึ้งของจิตใจ คิดว่าวิธีการของนางต่ำเกินไป

พระชายาจี้พยักหน้า “ไม่ผิด ในวันปกตินางอยู่ในจวนอ๋องจี้ก็ก่อความวุ่นวายตื้อไม่หยุด เป็นศัตรูกับข้า เป็นเพราะนางรู้ว่าเล่นแผนการในใจเล่นไม่ชนะข้า จึงนอนลงพื้นกลิ้งไปกลิ้งมาทำให้ข้าลำบากใจเสียเลย แตกหักกับข้าเช่นนี้ ข้ากลับจัดการนางอย่างโจ่งแจ้งได้ยาก บอกว่ามีแผนการในใจ ก็เป็นเรื่องจริง”

“ยังมี……” หยู่เหวินเห้าหรี่ดวงตาลง “แม้ว่าจะนางจะเป็นชายารองของจวนอ๋องจี้ แต่นางเป็นคนของตระกูลฉู่ เกิดเรื่องขึ้นจริง ตระกูลฉู่สามารถปกป้องนางไว้ได้”

พระชายาจี้ใบหน้าซีดขาว “วันก่อนนางสร้างความลำบากให้เมิ่งเยว่ เคยถูกข้าขังอยู่ในห้องลับ หลังจากที่ออกมาก็กลับบ้านของนาง ดังนั้นถ้าหากว่าจวนอ๋องฉู่ต้องถูกถามโทษ ยังมีความมั่นใจอย่างมากว่าตระกูลฉู่จะสามารถปกป้องนางได้”

จิตใจของทุกคนล้วนฟื้นฟูขึ้นเล็กน้อย เพราะคนผู้นี้ซ่อนตัวอยู่ลึกมากเกินไปจริงๆ หากว่าฉู่หมิงหยางสมคบกับเขา ก็สามารถยืนยันจุดนี้ได้ เช่นนั้นก็รอฉีกรอยแตกออกทีละนิดพร้อมกัน

หยู่เหวินเห้ากล่าว: “ท่านพี่สะใภ้ใหญ่ เรื่องนี้ข้ากดไว้ก่อน พรุ่งนี้ตอนเที่ยงถึงจะเข้าวังไปรายงานเสด็จพ่อ ท่านกลับไปตรวจสอบหน่อย ดูว่าคนที่ฉู่หมิงหยางสอดแทรกเข้ามาอยู่ข้างกายของท่านได้เคยออกไปหรือไม่ หากว่ามี เช่นนั้นคาดว่าก็คือได้รับข่าวสารไปแจ้งแก่ฉู่หมิงหยางแล้ว โดยพื้นฐานสามารถตัดสินได้ว่าฉู่หมิงหยางสมคบกับคนผู้นั้นแล้ว”

พระชายาจี้ตอบรับคำหนึ่ง มองดูหยู่เหวินเห้า เอ่ยถามอย่างลำบากใจ: “มีวิธีชำระล้างโทษข้อกล่าวหาการขโมยแผนที่ทางการทหารของเขาหรือไม่?”

พระชายาจี้ก็จนปัญญาเป็นอย่างมาก วางแผนลอบทำร้ายสามี เป็นสิ่งที่โลกไม่สามารถปรานีได้ นางล่อคนของกรมการพระนครมา เอาเรื่องชั่วช้าของเขาประกาศต่อโลก จากความรักความเมตตาของฮ่องเต้ที่มีต่อเขา ชีวิตสามารถปกป้องไว้ได้

แต่ว่า ด้านในนี้มีแผนที่ทางการทหาร เช่นนั้นก็ไม่ใช่ศีรษะของเขาง่ายดายขนาดนั้นแล้ว

คิดถึงความประมาทชั่วขณะของตัวเอง มีความเป็นได้ที่จะทำให้จวนอ๋องจี้ทั้งจวนล่มสลายได้ นางก็คับแค้นใจจนทนไม่ได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บัลลังก์หมอยาเซียน 766 ค่อยๆฉีกออกเป็นช่องหนึ่ง

Now you are reading บัลลังก์หมอยาเซียน Chapter 766 ค่อยๆฉีกออกเป็นช่องหนึ่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นั่งอยู่สักพักใหญ่ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะดังขึ้น ห้าทุ่มแล้ว

คืนนี้ชั่งยืดยาวจังเลยนะ!

หยู่เหวินเห้ากลับมาแล้ว เข้ามาพร้อมกับทังหยาง ทังหยางจัดการให้คนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องออกไป แล้วปิดประตู

หยู่เหวินเห้าก็ใช้แก้วของหยวนชิงหลิงดื่มชาร้อนไปทั้งแก้ว ถอดเสื้อคลุมแล้วนั่งลง มองดูพระชายาจี้ “ท่านพี่สะใภ้ใหญ่ ในนี้ไม่มีคนอื่น เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ท่านบอกมา”

พระชายาจี้มองดูหยู่เหวินเห้า กล่าวถามด้วยเสียงแหบพร่า: “ท่านบอกข้าก่อน แผนที่ทางการทหารนั่นค้นออกมาได้จากในห้องลับของเขา จะถูกตัดสินชี้ขาดว่าเป็นการก่อกบฏหรือไม่?”

หยู่เหวินเห้าถอนหายใจ กล่าว: “พร้อมกับวิชามนต์ดำ ทั้งสองอย่างทูลถวายให้เสด็จพ่อ ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะ?”

สีหน้าของพระชายาจี้ซีดขาว “ข้า…..ข้าไม่รู้ว่าทำไมแผนที่ทางการทหารนั่นถึงอยู่ด้านใน”

นางก็ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง เงยหน้ามองหยู่เหวินเห้าแล้วกล่าว: “ท่านก็น่าจะเดาออกคร่าวๆแล้ว คืนนี้จวนอ๋องจี้ไม่ได้มีการถูกขโมยของ เป็นข้าที่บอกให้คนทำ จุดประสงค์ก็คือล่อพวกท่านมาดูสิ่งของด้านในห้องลับนั่น เหล่านี้ก็ไม่ใช่ข้าที่ใส่ร้ายป้ายสี เป็นเขาทำเอง ข้ารู้เรื่องสิ่งของด้านในมาระยะหนึ่งแล้ว แต่วิธีการเช่นนี้ข้าไม่ได้เห็นค่าโดยสิ้นเชิง จึงไม่ได้สนใจ หลังจากนั้นเขาจะคิดหมายปองเมิ่งเยว่ ข้าจึงจำเป็นต้องเปิดโปงเขา จุดประสงค์ของข้าเพียงแค่ต้องการให้เขาถูกลงโทษเท่านั้น”

นางหมุนขยับแก้วน้ำในมือ กล่าวต่อ: “ตอนนั้นข้าพาเมิ่งเยว่มาหาพระชายารัชทายาท ต้องการให้นางไหว้พระชายารัชทายาทเป็นอาจารย์ ป้องกันก็คือมีวันหนึ่งที่ข้าอดไม่ได้ต้องการทำเช่นนี้ ข้าและเขาสามีภรรยาเป็นคนคนเดียวกัน เขาถูกลงโทษ ข้าก็จะถูกลดขั้นเป็นประชาชน ดังนั้นจึงได้ไตร่ตรองจัดการเมิ่งเยว่ให้ดีก่อน สำหรับเมิ่งซิง ข้าก็ได้ฝากฝังกับพี่ชายที่ครอบครัวของตัวเองล่วงหน้าแล้ว ไม่สามารถเอาพวกเขาทั้งสองฝากฝังให้พวกท่านดูแลทั้งหมดได้……จัดการอุบัติเหตุการถูกขโมยครั้งนี้ ข้าก็ได้ครุ่นคิดทบทวนแล้ว เสด็จพ่อจะลงโทษเขาอย่างเฉียบขาด แม้ว่าจะลงโทษเขา ก็จะไม่พัวพันถึงข้าและจวิ้นจู่มากนัก ใครจะรู้ ด้านในห้องลับนั่น จะมีแผนที่ทางการทหารที่ถูกขโมยของกรมการทหารอย่างคาดไม่ถึง ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ หากว่าพิจารณาด้วยโทษของการก่อกบฏจริงๆ กลัวเพียงแค่ทั้งบ้าน……”

เสียงของพระชายาจี้ค่อยๆลดต่ำลง เช่นนั้นผลลัพธ์นางก็สามารถเดาได้

หยวนชิงหลิงได้ฟังนางพูดเช่นนี้ ตกใจเป็นที่สุด “แผนที่ทางการทหารเป็นอ๋องจี้ขโมยหรือ? เขา……ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกเขา เพียงแค่รู้สึกว่าเขาไม่สามารถวางแผนการใหญ่เช่นนี้ได้ ขโมยแผนที่ทางการทหารไปก่อน แล้วค่อยหยิบเอาป้ายเหล็กของเสด็จพ่อไป ต่อจากนั้นก็วางแผนทำให้เจ้าเจ็ดเกือบจะตกเข้าไปในหลุมพรางลึก เขาไม่สามารถทำได้”

หยู่เหวินเห้ากล่าว: “ดูแล้วเขาไม่ได้รู้เรื่อง ยังคิดว่าข้าใส่ร้ายป้ายสีเขาอยู่เลย”

มือสองข้างของพระชายาจี้กำที่เท้าแขนของเก้าอี้แน่น นิ้วมือกดไว้ เล็บมือล้วนขาวเป็นแผ่นใหญ่แล้ว “เช่นนั้นบุคคลเบื้องหลัง ลึกลับขนาดนี้อีกทั้งแข็งแกร่งขนาดนี้ ข้างกายข้าเกรงว่าจะมีคนที่ถูกเขาติดสินบนแล้ว คนผู้นั้นต้องการกำจัดหยู่เหวินจุนอย่างสมบูรณ์”

“กำจัดพระโอรสองค์หัวปี เอื้อประโยชน์อะไรต่อคนผู้นี้ล่ะ?” หยวนชิงหลิงมองไปทางหยู่เหวินเห้า

หยู่เหวินเห้าขมวดคิ้วแน่น “เจ้าคิดดู ผู้ใดที่เห็นเขาขวางหูขวางตาต้องการจะกำจัดล่ะ? ใครเป็นผู้ได้ประโยชน์มากที่สุด? คนที่สมควรโดนสงสัยที่สุดเกรงว่าก็คือข้าหรือเจ้าเจ็ดแล้ว”

“ดังนั้น จุดประสงค์ของคนผู้นี้คือต้องการตีให้พ่ายแพ้ไปทีละขั้นหรือ?” หยวนชิงหลิงตกตะลึง

หยู่เหวินเห้าคิดไตร่ตรองอย่างละเอียดครู่หนึ่ง “ไม่แน่ว่าจะเป็นเช่นนี้ เขาต้องการทำให้ความขัดแย้งภายในของพวกเราเลวร้ายขึ้น ก่อนหน้านี้เสด็จพ่อล้มป่วย พวกเราพี่น้องถึงได้ปรองดองสามัคคีกัน ตอนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น จะต้องระแวงกันและกันอีกแน่นอน อย่างน้อย มองวิเคราะห์ไปจากตอนนี้ ถ้าหากคนที่อยู่เบื้องหลังแผนการไม่ใช่พี่สี่ เช่นนั้นพี่สี่จะต้องคิดว่าข้าลงมือต่อพี่ใหญ่แน่ ในเมื่อข้าสามารถขุดรากถอนโคนพี่ใหญ่ได้ ก็จะต้องขุดรากถอนโคนเขา อย่างน้อยเขาก็จะสงสัยเช่นนี้”

ทังหยางพูดต่อ “ในทางกลับกัน ก็เช่นกัน เกรงเพียงแค่ว่ารัชทายาทก็จะสงสัยอ๋องอาน”

“การป้องกันรักษาของจวนอ๋องจี้ละเอียดรอบคอบเป็นที่สุด คนผู้นี้เอาแผนที่ทางการทหารเข้าไปวางไว้ในห้องลับอย่างไร้วี่แวว ก็ไม่ใช่คนธรรมดา” พระชายาจี้กล่าว

“ท่านมีคนที่สงสัยหรือไม่?” หยู่เหวินเห้าถาม

พระชายาจี้ส่ายศีรษะช้าๆ “ไม่มี ในเวลาอันสั้นก็คิดไม่ออกจริงๆว่าเป็นผู้ใดกันแน่ เดิมทีคนที่รู้จักห้องลับก็ไม่มาก อีกทั้งคนข้างกายของเขาโดยปกติข้าล้วนเตรียมการป้องกัน ข้าวางแผนการคืนนี้ก็จะต้องปิดบังพวกเขาอย่างแน่นอน”

ทังหยางเรียบเรียงครู่หนึ่ง กล่าวว่า: “หากคนผู้นี้ต้องการรู้การเคลื่อนไหวในคืนนี้ของท่าน อีกทั้งต้องสามารถเข้าออกห้องลับได้โดยไม่ทำให้คนสนใจ คิดว่าจะต้องเป็นคนที่มีอำนาจพอควรในจวนอ๋องจี้เป็นแน่ อย่างน้องเข้าออกห้องหนังสือกระทั่งเดินเหินข้างกายของท่านก็ล้วนไม่ได้ดึงดูดให้คนสนใจ”

พระชายาจี้คิดแล้วคิดอีก “ไม่มีคนเช่นนี้จริงๆ”

นางชะงักครู่หนึ่ง “แต่ก่อนหน้านี้ฉู่หมิงหยางมีการจัดคนมาข้างกายของข้า หลังจากถูกข้ามองออก ข้าก็ไม่ได้ไล่ไป เพียงแค่ทำแผนซ้อนแผนปล่อยให้นางอยู่ในบ้าน กิจธุระต่างๆใกล้ตัวของข้า ทั้งหมดไม่ใช่นางรับผิดชอบ เพียงแค่มีบางเวลาที่ถ่ายทอดข่าวสารปลอมให้นาง นางก็จะไปรายงานฉู่หมิงหยาง จะเป็นได้หรือไม่?”

ทังหยางไม่ได้รู้จักฉู่หมิงหยางสักเท่าไหร่ เพียงแค่คิดถึงการกระทำทุกอย่างของนาง จึงกล่าว: “กลัวเพียงแค่นางจะสมคบกับใคร อีกทั้ง คนผู้นี้บุ่มบ่ามเป็นอย่างมาก อาจจะไม่ใช่นาง”

หยวนชิงหลิงส่ายหน้า “ไม่ เจ้าบอกว่านางบุ่มบ่าม นั่นคือมองนางผิดไป อันที่จริงฉู่หมิงหยางมีแผนการในใจที่ชั่วร้ายมาก ที่บอกว่าบุ่มบ่ามใช้อำนาจบาตรใหญ่เป็นเพียงภายนอก หากว่าพูดเรื่องแผนการในใจ นางไม่ได้แพ้ฉู่หมิงชุ่ยแม้แต่น้อย พวกท่านสามารถถามหมันเอ๋อได้”

นึกถึงตอนนั้นที่ฉู่หมิงหยางทำเรื่องสกปรก ก็ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งฉู่หมิงหยางดูถูกฉู่หมิงชุ่ยพี่สาวผู้นี้มาจากก้นบึ้งของจิตใจ คิดว่าวิธีการของนางต่ำเกินไป

พระชายาจี้พยักหน้า “ไม่ผิด ในวันปกตินางอยู่ในจวนอ๋องจี้ก็ก่อความวุ่นวายตื้อไม่หยุด เป็นศัตรูกับข้า เป็นเพราะนางรู้ว่าเล่นแผนการในใจเล่นไม่ชนะข้า จึงนอนลงพื้นกลิ้งไปกลิ้งมาทำให้ข้าลำบากใจเสียเลย แตกหักกับข้าเช่นนี้ ข้ากลับจัดการนางอย่างโจ่งแจ้งได้ยาก บอกว่ามีแผนการในใจ ก็เป็นเรื่องจริง”

“ยังมี……” หยู่เหวินเห้าหรี่ดวงตาลง “แม้ว่าจะนางจะเป็นชายารองของจวนอ๋องจี้ แต่นางเป็นคนของตระกูลฉู่ เกิดเรื่องขึ้นจริง ตระกูลฉู่สามารถปกป้องนางไว้ได้”

พระชายาจี้ใบหน้าซีดขาว “วันก่อนนางสร้างความลำบากให้เมิ่งเยว่ เคยถูกข้าขังอยู่ในห้องลับ หลังจากที่ออกมาก็กลับบ้านของนาง ดังนั้นถ้าหากว่าจวนอ๋องฉู่ต้องถูกถามโทษ ยังมีความมั่นใจอย่างมากว่าตระกูลฉู่จะสามารถปกป้องนางได้”

จิตใจของทุกคนล้วนฟื้นฟูขึ้นเล็กน้อย เพราะคนผู้นี้ซ่อนตัวอยู่ลึกมากเกินไปจริงๆ หากว่าฉู่หมิงหยางสมคบกับเขา ก็สามารถยืนยันจุดนี้ได้ เช่นนั้นก็รอฉีกรอยแตกออกทีละนิดพร้อมกัน

หยู่เหวินเห้ากล่าว: “ท่านพี่สะใภ้ใหญ่ เรื่องนี้ข้ากดไว้ก่อน พรุ่งนี้ตอนเที่ยงถึงจะเข้าวังไปรายงานเสด็จพ่อ ท่านกลับไปตรวจสอบหน่อย ดูว่าคนที่ฉู่หมิงหยางสอดแทรกเข้ามาอยู่ข้างกายของท่านได้เคยออกไปหรือไม่ หากว่ามี เช่นนั้นคาดว่าก็คือได้รับข่าวสารไปแจ้งแก่ฉู่หมิงหยางแล้ว โดยพื้นฐานสามารถตัดสินได้ว่าฉู่หมิงหยางสมคบกับคนผู้นั้นแล้ว”

พระชายาจี้ตอบรับคำหนึ่ง มองดูหยู่เหวินเห้า เอ่ยถามอย่างลำบากใจ: “มีวิธีชำระล้างโทษข้อกล่าวหาการขโมยแผนที่ทางการทหารของเขาหรือไม่?”

พระชายาจี้ก็จนปัญญาเป็นอย่างมาก วางแผนลอบทำร้ายสามี เป็นสิ่งที่โลกไม่สามารถปรานีได้ นางล่อคนของกรมการพระนครมา เอาเรื่องชั่วช้าของเขาประกาศต่อโลก จากความรักความเมตตาของฮ่องเต้ที่มีต่อเขา ชีวิตสามารถปกป้องไว้ได้

แต่ว่า ด้านในนี้มีแผนที่ทางการทหาร เช่นนั้นก็ไม่ใช่ศีรษะของเขาง่ายดายขนาดนั้นแล้ว

คิดถึงความประมาทชั่วขณะของตัวเอง มีความเป็นได้ที่จะทำให้จวนอ๋องจี้ทั้งจวนล่มสลายได้ นางก็คับแค้นใจจนทนไม่ได้

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+